ความคิดเห็นที่ 1 วันที่ 12 พฤศจิกายน ตื่นมาแล้วมองออกไปที่หน้าต่าง สังเกตเห็นว่ามีอะไรลอยอยู่ไกลๆ นะ มันคือบอลลูนสำหรับให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมทัศนียภาพบริเวณเมืองลักซอร์นี่เองครับ มีตั้งหลายลำเลยครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:30:44

ความคิดเห็นที่ 2 บอลลูนลำนี้สีสวยสดดีจังเลย ชักอยากจะลองไปขึ้นบอลลูนบ้าง วิวบนนั้นคงสวยงามน่าดู จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:31:32

ความคิดเห็นที่ 3 เมืองลักซอร์ เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญมากแห่งหนึ่งในอียิปต์ ในสมัยยุคอียิปต์โบราณเมืองนี้ชื่อว่าเมือง Thebes เป็นเมืองหลวงของอียิปต์ในสมัยอาณาจักรใหม่ (New Kingdom) ดังนั้นที่นี่จึงมีวิหารโบราณ และสิ่งก่อสร้างต่างๆ มากมาย รวมทั้งสุสานของชาวอียิปต์โบราณก็ตั้งอยู่ที่นี่ด้วยครับ อย่างในภาพที่เห็นแนวเทือกเขา คือเทือกเขาธีบันครับ เป็นบริเวณที่มีการขุดค้นพบสุสานมากมาย และวิหารประกอบพิธีศพของฟาโรห์ เป็นที่เที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของเมืองลักซอร์ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:32:51

ความคิดเห็นที่ 4 ภาพเทือกเขาธีบันอีกภาพแบบพานอรอม่าครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:33:28

ความคิดเห็นที่ 5 หลังจัดการอาหารเช้าบนเรือเรียบร้อยก็ได้เวลาออกไปเที่ยวกันแล้ว โดยที่เที่ยวที่แรกจะอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ครับ ต้องนั่งเรือเล็กข้ามแม่น้ำไปแบบนี้ครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:34:06

ความคิดเห็นที่ 6 พอไปถึงฝั่งจะมีรถบัสมารับไปยังจุดท่องเที่ยวต่างๆ ครับ ซึ่งที่แรกที่เขาจะพาไปคือหุบเขากษัตริย์ (Valley of the Kings) พอไปถึงไกด์บอกว่ากล้องถ่ายรูปห้ามเอาลงไปครับ เพราะบริเวณนี้เขาห้ามถ่ายภาพทั้งหมด ผมเลยเอากล้องเก็บไว้บนรถแทน ดังนั้นเลยไม่มีภาพที่ผมถ่ายเองมาให้ชมนะครับ แต่ก็จะหาภาพจากที่อื่นมาประกอบแทนแล้วกันครับ หุบเขากษัตริย์ (Valley of the Kings) คือบริเวณที่ฝังพระศพของฟาโรห์ที่ปกครองอียิปต์ในสมัยอาณาจักรใหม่ (ราชวงศ์ที่ 18-20) โดยจะขุดเป็นอุโมงค์เข้าไปในภูเขาหินปูน ซึ่งจะขุดทำเป็นทางเดิน ห้องต่างๆ ที่เก็บสมบัติของฟาโรห์ และห้องฝังพระศพครับ ภาพประกอบจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Valley_of_the_Kings แสดงให้เห็นถึงบริเวณของหุบเขากษัตริย์ (Valley of the Kings) ช่องปล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่เห็นตามทางเดินนั้นก็คือหลุมฝังพระศพแต่ละหลุมครับ ซึ่งบริเวณนี้มีการขุดค้นพบแล้วทั้งหมด 65 หลุม จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:35:43

ความคิดเห็นที่ 7 โดยแต่ละหลุมจะตั้งชื่อนำหน้าว่า KV (ซึ่งก็มาจากคำว่า King’s Valley นั่นเอง) และตามด้วยหมายเลขครับ ซึ่งที่นี่มีตั้งแต่ KV1 – KV65 ครับ แต่ไม่ได้เปิดให้เข้าชมทั้งหมดนะครับ เพราะหลายหลุมยังอยู่ในขั้นตอนการบูรณะอยู่บ้างและบางหลุมก็อันตรายเกินกว่าที่จะเปิดให้ชมกัน ภาพประกอบจาก httpblog.hotelclub.comluxor-egypt แต่ตอนผมไปเที่ยวคนไม่น้อยเหมือนกับในภาพนะครับ อย่างบางหลุมนี่ต้องต่อแถวกันยาวเลยครับกว่าจะได้ลง จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:36:20

ความคิดเห็นที่ 8 พอไปถึงทางเข้าแล้วไกด์จะแจกตั๋วให้เข้าชมคนละใบ ซึ่งแต่ละคนจะสามารถเลือกชมหลุมฝังพระศพได้ 3 หลุมครับ ยกเว้น หลุม KV62 ที่เป็นสุสานของฟาโรห์ตุตันคาเมน ต้องซื้อตั๋วเพิ่มต่างหากครับ ภาพประกอบจาก http://www.planetware.com/map/valley-of-kings-map-egy-theb_n.htm แสดงถึงแผนผังของหุบเขากษัตริย์ครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:37:07

ความคิดเห็นที่ 9 สุสานแรกที่ผมได้เข้าไปชมคือสุสานของฟาโรห์รามเสสที่ 4 (KV2) ครับ มีคนต่อแถวมากเหมือนกันครับ ภาพประกอบจาก http://picasaweb.google.com/lh/photo/C3m6BGEaOW7kdyLoa12bGQ เป็นภาพจำลองทางเดินในสุสานนี้ครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:39:25

ความคิดเห็นที่ 10 ภาพประกอบจาก http://egyptianexcursions.blogspot.com/2009/12/day-4-valley-of-kings-day-2.html ทางเดินภายในสุสานเป็นแบบนี้ครับ พื้นจะปูด้วยไม้และมีระเบียงทางเดินที่สร้างขึ้นมาใหม่ เพื่อกันไม่ให้เกิดความเสียหายจากนักท่องเที่ยวครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:40:44

ความคิดเห็นที่ 11 ภาพประกอบจาก http://egyptianexcursions.blogspot.com/2009/12/day-4-valley-of-kings-day-2.html ห้องเก็บพระศพในสุสานครับ มีโลงศพตั้งไว้อยู่กลางห้อง จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:41:11

ความคิดเห็นที่ 12 ออกจากที่นี่ไกด์พาไปชมสุสานต่อไปครับ เดินเข้ามาอีกหน่อยก็มาถึงสุสานของฟาโรห์รามเสสที่ 9 (KV6) สุสานนี้แถวยาวกว่าสุสานแรกที่เข้ามาอีกครับ ภาพประกอบจาก http://egyptianexcursions.blogspot.com/2009/12/day-4-valley-of-kings-day-2.html เป็นภาพจำลองทางเดินในสุสานนี้ครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:41:52

ความคิดเห็นที่ 13 ภาพประกอบจาก http://www.thebanmappingproject.com/database/image.asp?ID=13663 หน้าทางเข้าสุสาน KV6 ครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:42:15

ความคิดเห็นที่ 14 ภาพประกอบจาก http://www.thebanmappingproject.com/database/image.asp?ID=10927 บริเวณห้องฝังพระศพครับ จะมีแต่หลุม ไม่มีโลงศพตั้งอยู่ไม่รู้ว่าโลงศพอยู่ที่พิพิธภัณฑ์หรือเปล่านะ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:42:36

ความคิดเห็นที่ 15 ภาพประกอบจาก http://www.thebanmappingproject.com/database/image.asp?ID=15585 ตอนเข้าไปชมภายในสุสานคนจะแน่นแบบนี้ครับ เดินเรียงกันแบบหายใจรดต้นคอเลยแหละครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:43:01

ความคิดเห็นที่ 16 พอออกมาข้างนอกไกด์บอกว่ามีเวลาไม่มากแล้วให้รีบเลือกชมอีกสุสานแล้วกลับไปที่รถ ผมเลยเลือกที่จะชมสุสานของฟาโรห์ตุตันคาเมนซึ่งต้องจ่ายค่าเข้าชมเพิ่มต่างหากอีก 100 ปอนด์อียิปต์ครับ ฟาโรห์พระองค์นี้มีชื่อเสียงมากเพราะว่าเป็นสุสานเดียวของสุสานทั้งหมดในหุบเขากษัตริย์ที่อยู่รอดจากโจรปล้นสุสานมาได้ถึงปัจจุบันครับ จึงพบสมบัติต่างๆ มากมาย ไหนๆ มาถึงแล้วก็ต้องลองเข้าไปชมหน่อยละครับ ทั้งๆ ที่สมบัติต่างๆ ย้ายไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์หมดแล้ว ภาพประกอบจาก http://egyptianexcursions.blogspot.com/2009/12/day-4-valley-of-kings-day-2.html สุสานนี้มีขนาดไม่ใหญ่โต ซับซ้อนเหมือนกับสุสานที่ได้ชมมาก่อนหน้านี้ครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:43:32

ความคิดเห็นที่ 17 ภาพประกอบจาก http://egyptianexcursions.blogspot.com/2009/12/day-4-valley-of-kings-day-2.html พอเดินลงไปแล้วเลี้ยวไปทางขวาก็เจอกับห้องฝังพระศพครับ มองเห็นโลงศพของฟาโรห์ตั้งอยู่ด้วยครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:44:47

ความคิดเห็นที่ 18 ภาพประกอบจาก http://www.nationalgeographic.com/guides/history/ancient/enlarge/king-tut-mummy.html ในนี้มีมัมมี่ของฟาโรห์ตุตันคาเมนแสดงอยู่ด้วยครับ ถือเป็นไฮไลต์ของสุสานนี้เลยครับ เพราะสุสานอื่นไม่มีมัมมี่แล้วครับ ย้ายไปเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์หมด จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:47:23

ความคิดเห็นที่ 19 ภาพประกอบจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Valley_of_the_Kings บริเวณหุบเขากษัตริย์แบบพานอรามาครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:48:48

ความคิดเห็นที่ 20 ออกจากที่นี่แล้วกลับไปขึ้นรถ ไกด์พาไปชมโรงงานแกะสลักหิน เป็นงาน hand made ครับ ราคาก็แพงใช้ได้เลยหล่ะครับ หน้าโรงงานมีการแสดงแกะสลักหินกันแบบสดๆ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:49:38

ความคิดเห็นที่ 21 โถใส่ภาชนะแบบโบราณจำลองมาจากของจริงครับ ของจริงเรียกว่าโถคาโนปิค เอาไว้ใส่อวัยวะภายในต่างๆ ของมัมมี่ครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:50:07

ความคิดเห็นที่ 22 งานแกะสลักหินและลงสีที่นี่สวยงามมากครับ ดีกว่าที่ขายตามตลาดทั่วไปเยอะ แต่ราคาก็แพงมากครับ ผมได้แต่ window-shopping อย่างเดียว จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:50:34

ความคิดเห็นที่ 23 เสร็จแล้วก็ไปเที่ยวกันต่อครับ ที่ต่อไปที่พาไปเที่ยวคือวิหาร Deir el-Bahari เป็นวิหารประกอบพิธีศพและสุสานของฟาโรห์หญิงฮัตเซฟซุส (Hatshepsut)  พอรถบัสมาถึงต้องลงไปต่อรถพ่วงเล็กๆ เพื่อเข้าไปที่วิหารครับ ที่นี่แดดแรงมาก และร้อนสุดๆ ผมว่าที่นี่เป็นที่ๆ ร้อนที่สุดในอียิปต์ของผมเลยครับ มาดูประวัติของฟาโรห์หญิงฮัตเซฟซุสนี้กันหน่อยนะครับ ฟาโรห์หญิงฮัตเซฟซุสเป็นฟาโรห์ลำดับที่ 5 ของราชวงศ์ที่ 18 เป็นพระธิดาองค์โตของฟาโรห์ธุตโมซิสที่ 1 พระองค์ได้อภิเสกสมรสกับพระอนุชาต่างมารดาคือฟาโรห์ธุตโมซิสที่ 2 จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:51:48

ความคิดเห็นที่ 24 หลังจากพระสวามีฟาโรห์ธุตโมซิสที่ 2 ครองราชได้เพียง 13 ปี พระองค์ได้สิ้นพระชนม์ แต่ราชินีฮัตเซฟซุสไม่มีพระโอรส ทำให้พระโอรสของฟาโรห์ธุตโมซิสที่ 2 กับนางสนมคนหนึ่งขึ้นครองราชแทนคือฟาโรห์ธุตโมซิสที่ 3 แต่ว่าตอนนั้นฟาโรห์ธุตโมซิสที่ 3 ยังพระเยาว์มาก ราชินีฮัตเซฟซุสจึงเป็นผู้สำเร็จราชการไปก่อน จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:52:30

ความคิดเห็นที่ 25 พระนางฮัตเซฟซุสทรงมีพระปรีชาสามารถมาก เป็นที่ยอมรับของข้าราชบริพาร และประชาชนทั้งปวง พระนางจึงทรงสถาปนาพระองค์เองเป็นฟาโรห์หญิงและครองราชแทนฟาโรห์ธุตโมซิสที่ 3 ไปก่อนจนกว่าฟาโรห์ธุตโมซิสที่ 3 จะมีพระชนมายุที่เหมาะสมถึงจะคืนบัลลังก์ให้ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:53:08

ความคิดเห็นที่ 26 แต่ทว่าในรัชสมัยของฟาโรห์หญิงฮัตเซฟซุส อียิปต์เจริญรุ่งเรืองมากมีการเจริญสัมพันธไมตรี และการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านมากมาย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อียิปต์มีความสงบสุข และความมั่งคั่งมากช่วงหนึ่งเลยทีเดียว ทำให้ฟาโรห์หญิงฮัตเซฟซุสทรงครองราชต่อไปอีกถึง 22 ปี (สงสัยว่าตอนนั้นฟาโรห์ธุตโมซิสที่ 3 คงรอการขึ้นครองราชจนเซ็งเลยหล่ะครับ) จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:54:20

ความคิดเห็นที่ 27 หลังจากฟาโรห์หญิงฮัตเซฟซุสสิ้นพระชนม์ ฟาโรห์ธุตโมซิสที่ 3 จึงได้ขึ้นครองราช และจากการที่ฟาโรห์ธุตโมซิสที่ 3 อยู่ใต้เงาของฟาโรห์หญิงฮัตเซฟซุสมานาน ทำให้พระองค์ทรงไม่พอพระทัย และทรงมีความแค้นอยู่มาก หลังขึ้นครองราชพระองค์จึงทรงทำลายสิ่งก่อสร้างของฟาโรห์หญิงฮัตเซฟซุสไปมากมาย และพยายามลบพระนามของฟาโรห์หญิงฮัตเซฟซุสไปจากประวัติศาสตร์อีกด้วยครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:55:24

ความคิดเห็นที่ 28 ประวัติศาสตร์อียิปต์ในช่วงนี้น่าเอาไปสร้างเป็นหนังได้เลยนะครับน่าจะสนุก เพราะเคยอ่านเจอเรื่องราวความรักของฟาโรห์หญิงฮัตเซฟซุส กับสถาปนิกผู้ออกแบบวิหารนี้ด้วยครับจำได้ว่าสถาปนิกผู้นี้ตอนหลังโดนฟาโรห์หญิงฮัตเซฟซุสสั่งประหารชีวิตด้วยจำไม่ได้เหมือนกันว่าเพราะอะไรครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:55:50

ความคิดเห็นที่ 29 ภาพประกอบจาก http://news.nationalgeographic.com/news/2007/06/photogalleries/queen-mummy/index.html มัมมี่ของฟาโรห์หญิงฮัตเซฟซุสครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:56:20

ความคิดเห็นที่ 30 เสร็จแล้วนั่งรถบัสกลับออกมาไปที่เที่ยวสุดท้ายก่อนพักทานมื้อเที่ยงคือ Colossi of Memnon ครับ คือรูปแกะสลักหินขนาดใหญ่ของฟาโรห์อเมนโฮเตปที่ 3 ซึ่งมีอยู่สองรูปครับ สูง 18 เมตร จากภาพจะเห็นว่ารูปแกะสลักมีความเสียหายมากเพราะเกิดจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในสมัยก่อน จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:57:13

ความคิดเห็นที่ 31 สงสัยมั้ยครับว่าทำไมชื่อรูปแกะสลักถึงมีชื่อไม่เหมือนชื่อแบบอียิปต์เลย เป็นเพราะว่าจากแผ่นดินไหวครั้งนั้นทำให้รูปสลักรูปหนึ่งพังทลายลงมา เหลือแต่เฉพาะส่วนตั้งแต่เอวลงมาเท่านั้นที่มีรอยแตกร้าว ซึ่งรอยร้าวตรงนี้เองเมื่อเจอความร้อนจากแสงอาทิตย์ตอนเช้าทำให้เกิดเสียงคล้ายเสียงร้องออกมา นักเดินทางในสมัยก่อนที่มาเที่ยวที่นี่พอได้ยินเสียงนี้จึงเรียกว่าเสียงร้องของเมมนอน ซึ่งเป็นตำนานเรื่องหนึ่งของกรีกครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:57:42

ความคิดเห็นที่ 32 พอออกจากที่นี่ก็กลับไปขึ้นเรือเพื่อกินมื้อเที่ยงครับ จากนั้นก็ค่อยนัดเจอกันอีกทีที่ล็อบบี้ตอนเย็น ผมเลยไปแอบงีบก่อน พอได้เวลาก็ลงมาเจอกับไกด์และพาไปเที่ยวต่อในช่วงเย็นครับ เย็นนี้ไปเที่ยววิหารคาร์นัค (Karnak) ก่อนเป็นที่แรก วิหารคาร์นัคถือว่าเป็นมหาวิหารได้เลยครับ เพราะเริ่มสร้างตั้งแต่สมัยอาณาจักรกลางจนถึงสมัยปโตเลมิก นับดูแล้วมีฟาโรห์ที่มีส่วนในการสร้างขยายต่อเติมวิหารนี้ถึง 30 องค์ ดังนั้นวิหารนี้จึงมีขนาดที่ใหญ่โตมาก ทางเข้าวิหารคาร์นัคครับ มองเห็น Pylon ซึ่งสร้างโดยกษัตริย์เอธิโอเปีย ในช่วงที่เอธิโอเปียปกครองอียิปต์ (656 ปีก่อน ค.ศ.) จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:58:18

ความคิดเห็นที่ 33 วิหารคาร์นัคสร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าสามองค์ คือ เทพ Amun-Ra เป็นเทพเจ้าประจำเมือง Thebes , เทพี Mut เป็นภรรยาของเทพ Amun-Ra และ เทพ Montu ซึ่งเป็นลูกของเทพ Amun-Ra และ เทพี Mut ครับ แถวของสฟิงค์ที่มีหัวเป็นแกะตั้งเรียงรายอยูที่ทางเข้าวิหารคาร์นัค แกะเป็นตัวแทนของเทพ Amun-Ra ครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:58:53

ความคิดเห็นที่ 34 หลังจากเดินผ่าน Pylon ด้านหน้าเข้าไปแล้วก็จะเจอห้องโถงใหญ่ครับเรียกว่า Great Hypostyle Hall เป็นห้องที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพ Amun-Ra ห้องนี้มีขนาดใหญ่มาก มีพื้นที่ 5,000 ตารางเมตร มีเสาขนาดใหญ่ 134 ต้น เสาแต่ละต้นสูงตั้งแต่ 10 เมตรจนถึง 24 เมตรครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 16:59:54

ความคิดเห็นที่ 35 Great Hypostyle Hall เริ่มสร้างตั้งแต่ราชวงศ์ที่ 18 โดยมีฟาโรห์สองพระองค์ที่มีส่วนในการสร้างมากที่สุดคือฟาโรห์เซติที่ 1 และฟาโรห์รามเสสที่ 2 ครับ จากภาพจะเห็นว่าส่วนของหลังคาไม่มีอยู่แล้วครับ เหลือแค่คานตั้งอยู่บนยอดเสาเท่านั้น จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:00:28

ความคิดเห็นที่ 36 จากห้องโถงนี้ถ้าเดินต่อไปก็จะมองเห็นเสาโอเบลิกส์อยู่ข้างหน้าที่มียอดเป็นสามเหลี่ยมครับ เสาโอเบลิกส์ต้นนี้สร้างโดยฟาโรห์ธุตโมซิสที่ 1 ครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:01:05

ความคิดเห็นที่ 37 พอเดินพ้นห้องโถงออกมาก็จะเห็นเสาโอเบลิกส์ทั้งสองต้น โอเบลิกส์ต้นซ้ายเป็นของฟาโรห์หญิงฮัตเซฟซุส ส่วนต้นขวาก็เป็นของฟาโรห์ธุตโมซิสที่ 1 ที่อยู่ในภาพก่อนหน้านี้ครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:01:35

ความคิดเห็นที่ 38 พอมาถึงตรงนี้ไกด์พาเลี้ยวออกมาทางขวาครับ เจอสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ซึ่งสร้างโดยฟาโรห์ธุตโมซิสที่ 3 สระนี้มีไว้เพื่อใช้ในพิธีทางศาสนา และให้นักบวชชำระล้างร่างกายก่อนเข้าไปทำพิธีกรรมทางศาสนาครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:02:03

ความคิดเห็นที่ 39 หันไปหันมาตรงบริเวณนี้เจอเสาโอเบลิกส์อีกต้นครับ แต่ต้นนี้ล้มลงมานอนกองอยู่ที่พื้นแล้วเป็นเสาโอเบลิกส์ของของฟาโรห์หญิงฮัตเซฟซุสเช่นกันครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:02:35

ความคิดเห็นที่ 40 ภาพแกะสลักตามกำแพงวิหารแสดงถึงฟาโรห์กำลังบูชาเทพเจ้าครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:03:04

ความคิดเห็นที่ 41 ภาพนี้แสดงให้เห็นว่าฟาโรห์มีความเก่งกาจสามารถมาก โดยเล่าเรื่องราวของการทำสงคราม และสามารถปราบปรามศัตรูลงได้ โดยฟาโรห์กำลังเอากระบองฟาดลงไปครับ โดยมีเทพ Amun-Ra ยืนมองอยู่ด้านหน้า จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:03:32

ความคิดเห็นที่ 42 ตามมาชมความอลังการค่ะ จากคุณ : wachu เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:03:55

ความคิดเห็นที่ 43 ภาพแกะสลักภาพนี้แสดงให้เห็นว่าฟาโรห์กำลังสักการะบูชาเทพเจ้า ซึ่งเทพเจ้าประทับอยู่บนเรือที่มีนักบวชหลายคนช่วยกันหามอยู่ครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:04:04

ความคิดเห็นที่ 44 wachu - สวัสดีครับ มาเป็นลูกทัวร์คนแรกเลยนะครับ ^^ ....................................................................................... มุมมองอีกมุมของเสาโอเบลิกส์ทั้งสองต้นครับ ขอเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเสาโอเบลิกส์อีกรอบแล้วกันครับ เสาโอเบลิกส์ (Obelisk) ถือว่าเป็นงานทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นอีกชิ้นหนึ่งของอียิปต์โบราณ พบว่าเริ่มมีการสร้างครั้งแรกตั้งแต่ราชวงศ์ที่ 12 เสาโอเบลิกส์คือสัญลักษณ์แห่งการบูชาเทพเจ้าดวงอาทิตย์คือเทพ Ra ซึ่งเป็นเทพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอียิปต์มาตั้งแต่ราชวงศ์แรกๆ เลยทีเดียว จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:05:51

ความคิดเห็นที่ 45 โดยธรรมเนียมปฏิบัตินั้นจะสร้างเป็นคู่ๆ ครับไม่สร้างเดี่ยวๆ และจะมีตำแหน่งที่แน่นอนคือจะอยู่ตรงหน้าทางเข้าของ Pylon เสมอ แต่ปัจจุบันพบว่าหลายวิหารก็ไม่มีเป็นคู่เสมอไปเพราะพังทลายลงไปบ้าง หรือไปตั้งอยู่ที่ประเทศอื่นบ้าง เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี อเมริกา ครับ ซูมไปที่ยอดเสาจะเห็นว่าเสาแต่ละต้นจะมีการแกะสลักอักษรภาพทุกด้านเลยครับ และยอดเสาจะแกะสลักเป็นทรงปิรามิดด้วย จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:07:02

ความคิดเห็นที่ 46 อยู่เที่ยวที่นี่จนเย็นแล้ว อากาศเริ่มเย็นสบายลงบ้างครับ หลังจากวันนี้เที่ยวแบบตากแดดตัวดำ หน้าแดงกันเลยทีเดียว ใกล้ได้เวลานัดเจอไกด์ที่ทางออกแล้วครับ ก่อนกลับหันไปเจอรูปสลักฟาโรห์รามเสสที่ 2 ในท่ายืน เลยขอมาภาพนึงแล้วกันครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:07:38

ความคิดเห็นที่ 47 แสงสวยๆ ตอนพระอาทิตย์ใกล้ตกที่ลักซอร์ ถ่ายภาพขณะกำลังเดินไปที่ลานจอดรถบัสครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:08:06

ความคิดเห็นที่ 48 ออกจากวิหารคาร์นัคไกด์พาไปแวะช้อปปิ้งอีกแล้ว ผมก็ได้แต่เดินชมอย่างเดียวครับ อย่างที่นี่เป็นร้านที่ผลิตกระดาษปาปิรุสของแท้ และวาดภาพลงบนกระดาษกันเห็นๆ เลยครับ ราคาจึงแพงมาก ซึ่งผมก็ยอมรับเลยครับว่างานปราณีตมาก ใครกระเป๋าหนักก็น่าซื้อไปใส่กรอบแขวนประดับบ้านก็น่าจะดีไม่น้อย จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:08:38

ความคิดเห็นที่ 49 จากนั้นไปทานมื้อเย็นกันก่อน ก่อนที่จะไปเที่ยวที่สุดท้ายมนอียิปต์ทริปนี้ครับ คือวิหารลักซอร์นั่นเอง เป็นการเดินชมวิหารยามค่ำคืนก็สวยไปอีกแบบครับ ดูขลัง และหลอนๆ อยู่เหมือนกัน วิหารลักซอร์ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของวิหารคาร์นัคครับ วิหารนี้สร้างเพื่อบูชาเทพเจ้าทั้งสามองค์เหมือนกัน เป็นวิหารที่สร้างในสมัยอาณาจักรใหม่โดยฟาโรห์อาเมนโฮเตปที่ 3 และฟาโรห์รามเสสที่ 2 ได้สร้างขยายออกมาจนมีขาดที่ใหญ่โตกว่าเดิม หน้าทางเข้าวิหารลักซอร์จะเห็นรูปแกะสลักของฟาโรห์รามเสสที่ 2 รูปตั้งอยู่หน้า Pylon และมีเสาโอเบลิกส์ของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ตั้งอยู่หนึ่งต้น ส่วนอีกต้นที่สร้างคู่กันตอนนี้ไปตั้งอยู่ที่ฝรั่งเศสแล้วครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:10:06

ความคิดเห็นที่ 50 ตอนกลางคืนคนก็ยังมาเที่ยวเยอะครับ เดินกันแน่นไปหมด นี่ก็เป็นรูปสลักของฟาโรห์รามเสสที่ 2 เช่นกัน วิหารนี้มีผลงานของรามเสสที่ 2 มากมาย ราวกับเป็นวิหารประจำพระองค์เลยทีเดียว จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:11:21

ความคิดเห็นที่ 51 เสาแต่ละต้นในวิหารครับสลักเสาเป็นทรงดอกบัวที่ยอดเสาครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:11:54

ความคิดเห็นที่ 52 ตรงนี้ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าเป็นรูปสลักของฟาโรห์ตุตันคามุนกับพระมเหสีอังเคเซนามุนครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:13:47

ความคิดเห็นที่ 53 เดินมาถึงตรงนี้กำลังถ่ายภาพเพลินๆ รู้สึกตัวอีกทีผมกำลังยืนอยู่คนเดียว รู้สึกหลอนๆ นิดหน่อยเพราะตอนนั้นมีความรู้สึกว่ารูปสลักแต่ละรูปมองตามผมเดินตลอดเลยครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:15:25

ความคิดเห็นที่ 54 นี่ก็ฟาโรห์รามเสสที่ 2 เช่นกันครับ ฟาโรห์องค์นี้จะเรียกได้ว่าเป็นฟาโรห์ที่เก่งกาจในหลายๆ เรื่องเลยนะครับ ทั้งเรื่องการสงคราม , ความรัก และเป็นฟาโรห์นักสร้างวิหารอีกด้วยครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:16:01

ความคิดเห็นที่ 55 ตามมาชมตอนจบครับ หินแกะสลัก สวยดีนะครับ  แต่คงซื้อไม่ลง อิอิ จากคุณ : One Light One Shadow เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:16:27

ความคิดเห็นที่ 56 One Light One Shadow - ตามมาเที่ยวทันพอดีเลยครับ ใกล้จะจบรีวิวพอดีเลยครับ อิอิ ...................................................................................................... ภาพอีกมุมของวิหารลักซอร์ครับ รูปสลักของฟาโรห์รามเสสที่ 2 เช่นเคยและเสาโอเบลิกส์ครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:18:34

ความคิดเห็นที่ 57 มุมนี้จะเห็นรูปสลักของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ทั้ง 3 รูปเลยครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:19:10

ความคิดเห็นที่ 58 ลูกทัวร์ตามมาสมทบอีกคนแล้วค่ะ ภาพสวยมากๆๆค่ะ จากคุณ : cascar เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:19:30

ความคิดเห็นที่ 59 ก่อนกลับไปนอนก็มาถ่ายภาพหมู่ในทริปนี้หน้าวิหารลักซอร์กันซะหน่อยครับ พรุ่งนี้ก็เดินทางกลับบ้านแล้วซินะ ความรู้สึกตอนนั้นยังไม่อยากกลับเลยครับ รู้สึกว่าอียิปต์ยังมีอะไรๆ อีกหลายอย่างให้ค้นหา ให้เที่ยวชมอีกมากเลยครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:19:45

ความคิดเห็นที่ 60 cascar - มาทันตอนจบพอดีเลยนะครับ .................................................................. วันที่ 13 พฤศจิกายน วันนี้ตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพื่อที่จะเดินทางไปเมืองโซฮักเพื่อขึ้นเครื่องกลับบ้าน สงสัยมั้ยครับว่าทำไมไม่กลับจากลักซอร์ได้เลย เพราะว่าสายการบินคูเวตไม่มีเที่ยวบินมาที่นี่ครับ แต่มีจุดบินอยู่ที่เมืองโซฮักแทนซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมครับ เมืองโซฮักอยู่ทางทิศเหนือของเมืองลักซอร์ ระยะทางประมาณ 200 กม. นั่งอยู่ในรถประมาณสามชั่วโมงกว่าก็มาถึงเมืองโซฮักครับ สนามบินที่นี่เพิ่งเปิดใช้ไม่นานยังมีความใหม่อยู่มาก และตั้งอยู่ในเขตทหารด้วยดังนั้นบริเวณนี้เขาห้ามถ่ายภาพเด็ดขาดครับ รอไม่นานเครื่องบินสายการบินคูเวตก็พาผมกลับบ้านโดยแวะรับผู้โดยสารที่เมือง Sharm el-Sheikh ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงของอียิปต์ตรงทะเลแดง จากนั้นก็บินตรงสู่คูเวตเพื่อแวะเปลี่ยนเครื่องบินกลับไทยต่อครับ วันนี้เป็นวันแห่งการเดินทางโดยแท้เลยหล่ะครับ และวันที่ 14 พฤศจิกายน เครื่องบินสายการบินคูเวตก็พาผมมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ รีวิวอียิปต์ชุดนี้ก็จบลงตามความตั้งใจของผมแล้วในที่สุด เรื่องราวการเดินทาง โรงแรมที่พัก อาหารการกิน ก็คงไม่มีเหมือนในรีวิวอื่นๆ นะครับ เพราะงานนี้ผมไปกับทัวร์ ดังนั้นเข้ามาอ่านเอาเรื่องราวสนุกๆ เชิงประวัติศาสตร์ก็คงพอได้อยู่ครับ ขอบคุณที่ติดตามมาตั้งแต่ต้นจนจบครับ ไว้ไปเที่ยวไหนอีกก็จะเข้ามารีวิวให้ชมเรื่อยๆ ครับ สวัสดีครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:21:38

ความคิดเห็นที่ 61 อยากไปแบบนี้บ้างจังค่ะ  ขอบคุณสำหรับภาพและเรื่องราวนะคะ จากคุณ : Red-Rose-14Feb เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:25:14

ความคิดเห็นที่ 62 มาตอนคุณ Juone กลับเมืองไทยพอดีเลย ขอบคุณสำหรับรีวิวอียิปต์ชุดนี้ด้วยนะคะ เป็นทริปที่น่าอิจฉาตั้งแต่ออกเดินทางกันเลยทีเดียว ภาพสวยมาก ๆ เลยค่ะ ฝีมือระดับคุณ Juone ซะอย่างไม่ผิดหวังเลย ถึงภาพจะไม่เยอะมาก แต่ก็ได้ชมเต็มอิ่มเลยค่ะ มีโครงการจะไปทริปไหนต่อบ้างคะ จะรอชมรีวิวสวย ๆ ต่อไปอย่างเหนียวแน่นค่าาา จากคุณ : Yai Klong_Tour Rai เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:28:53

ความคิดเห็นที่ 63 สวยทุกใบค่ะ โดยเฉพาะรูป คห 47 ขอบคุณที่พาเที่ยวตลอดทริปนี้นะคะ   จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:42:27

ความคิดเห็นที่ 64 Red-Rose-14Feb - สนุกมั้ยครับรีวิวนี้ ไว้มาเที่ยวด้วยกันอีกนะครับ ^^ Yai Klong_Tour Rai - ขอบคุณนะครับ เล่นชมซะผมตัวลอยเลย ต้นเดือนหน้าก็มีทริปอยู่เหมือนกันนะครับ แต่ขออุบเอาไว้ก่อนนะครับ ^^ สาวหน้าใส - บรรยากาศโรแมนติกมากเลยนะครับรูปนั้น ต้องมาเห็นเองครับแล้วจะรู้ว่าที่นี่ไม่ควรมาเที่ยวโดยลำพังครับ เพราะจะรู้สึกเหงาขึ้นมาทีเดียวครับ ^^ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 17:51:21

ความคิดเห็นที่ 65 ดินแดนในฝันเลย ขอบคุณที่พาชมครับ จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 19:00:40

ความคิดเห็นที่ 66 อ่าว!! จบแล้วหรือคะ ขอบคุณมากนะคะที่พาเที่ยว จะคอยติดตามทริปต่อไปค่ะ จากคุณ : wachu เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 19:05:23

ความคิดเห็นที่ 67 ทริปนี้สนุกมากๆนะคะ ได้ความรู้ใหม่ๆมากมายเลย ได้เปิดโลกแบบนี้ต้องขอบคุณจขกท.มากๆเลยจ้า ประเทศนี้เป็นประเทศในฝันของเราเลย ตอนเด็กๆเราชอบอ่านหนังสือเรื่องราวต่างๆของอียิปต์ สนุกมากๆค่ะ อยากไปแต่ยังไม่สามารถสักทีค่ะ จากคุณ : โอลีพ แม่น้องเซ้นต์ (olives) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 19:22:48

ความคิดเห็นที่ 68 ตามมาชมตอนจบครับ สวยงามอลังการ จากคุณ : ฟองสบู่ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 19:46:22

ความคิดเห็นที่ 69 แวะมาชมและมาตามเที่ยวต่อครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : กัปตันลูกชุบ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 20:31:32

ความคิดเห็นที่ 70 สุดยอดเลยครับ ประวัติฟาโรห์หญิงน่าสนใจมากๆ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ แล้วจะรอชมทริปต่อๆไปครับ จากคุณ : tataweb เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 21:07:17

ความคิดเห็นที่ 71 สนุกมากค่ะ   ตามไปเที่ยวด้วยกลางแดดอย่างไม่ย่อท้อ.. จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 21:48:57

ความคิดเห็นที่ 72 ขอบคุณครับ เพิ่งรู้ว่าทริปคลื่นที่คุณ Juone ไป มีคนที่ผมรู้จักไปด้วยแฮะ อิอิ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ อิยิปต์นี่สมควรแล้วที่ได้เป็น1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 54 22:37:40

ความคิดเห็นที่ 73 ดูแล้วคิดถึงความหลังจังเลยค่ะ จากคุณ : จันทร์จริงใจ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 54 13:49:43

ความคิดเห็นที่ 74 ยิ่งใหญ่อลังมากๆครับ ต้องไปให้ได้ในชีวิตนี้ จากคุณ : inint&anant เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 54 10:40:10

ความคิดเห็นที่ 75 มาชมตอนจบแบบล่าช้า^^ เพราะรีวิวของคุณ Juone ทำให้ต้องไปดูทัวร์อียิปต์ไว้ล่วงหน้าเลยค่ะ ถ้าไม่ติดว่ามีแพลนไปที่อื่นแล้ว คงได้ตามรอยไปเร็วๆนี้แน่ๆ ขอบคุณรีวิวสวยๆ ที่สนุกทุกตอนนะคะ จากคุณ : แม่หญิงพิมาลา เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 16:21:19

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ ที่เข้ามาพูดคุยด้วยกัน และดีใจที่รีวิวนี้ ทำให้หลายๆ คนอยากไปเที่ยวที่นี่ครับ คุณ Coffee Blended ใครเหรอครับ โลกมันแคบจังเลยเนอะ อิอิ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 17:10:06