ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อปี ๕๓ ตอนปีใหม่ผมกับเพื่อนเลือกเดินทางขึ้นเหนือในช่วงเทศกาล ครั้งนั้นเรา ต้องฝ่าฝูงชนแย่งกันเที่ยวแย่งกันเดินทางอย่างมาก แม้ความงดงามของสถานที่ ท่องเที่ยวแต่ละแห่งที่เราไปจะทำให้เราประทับใจเป็นอย่างมาก แต่การที่ต้องเที่ยว ในเวลาที่มีคนเยอะๆก็ทำให้ความสนุกลดลงไปไม่น้อยเลยทีเดียว ปีใหม่ครั้งนี้เราเลย เลือกที่จะไปเที่ยวกันก่อนจะถึงวันหยุดยาวครับ ทริปนี้เพื่อนผมเสนอวันเวลาและสถานที่หลักมานานแล้ว หลังจากปรึกษาหารือกัน ในส่วนของรายละเอียดกันเรียบร้อยแล้ว เช้าของวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๓ เราจึง เริ่มต้นออกเดินทาง ผมไปพบเพื่อนที่ตลาดอ้อมใหญ่ตอนหกโมงเช้า ก่อนจะเดินทาง ไปเจอเพื่อนอีกกลุ่มที่หน้า ม.เกตรฯ กำแพงแสน แล้วจึงจะเดินทางไปยังจุดหมายแรก ของเราในวันนี้ จากกรุงเทพฯเราใช้ถนนเพชรเกษมจนถึงนครปฐมแล้วจึงเลี้ยวขวาใช้ทางหลวงหมายเลข ๓๒๑ มุ่งหน้าไปสุพรรณบุรี เลี้ยวขวาอีกครั้งเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข ๓๒๔ มุ่งหน้าไปทาง อำเภออู่ทอง ไม่ไกลนักก็เลี้ยวซ้ายใช้ทางหลวงหมายเลข ๓๓๔๒ มุ่งหน้าไปทางอำเภอบ่อพลอย กาญจนบุรี ถึงอำเภอบ่อพลอยแล้วจึงเลี้ยวขวาใช้ทางหลวงหมายเลข ๓๐๘๖ มุ่งหน้าไปทาง อำเภอหนองปรือ ก่อนจะแวะทานข้าวเช้ากันแถวๆตัวอำเภอ แล้วจึงเดินทางต่อโดยเลี้ยวซ้าย เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข ๓๔๘๐ และ ๔๐๔๑ มุ่งหน้าไปตามป้ายบอกทาง แล้วไม่นานนัก เราก็เริ่มเข้าสู่แนวป่าจนมาถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติ เราเสียค่าธรรมเนียม คนละ๔๐ บาท และอีก ๓๐ บาทสำหรับรถ ราวๆ ๑๐ โมงเราก็มาถึงที่หมายแรกของเราครับ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสิรทร์(ถ้ำธารลอด) เราจอดรถไว้ที่ลานจอดรถภายใต้ร่มไม้ ด้านข้างลานจอดรถฝั่งนึงเป็นเนินเขา ซึ่งเป็นที่ตั้ง ของร้านขายของและร้านอาหารหลายๆร้าน ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นที่ทำการของอุทยานฯ บรรยากาศโดยรอบร่มรื่นทีเดียว จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 22:50:47

ความคิดเห็นที่ 2 ผมมาเที่ยวที่นี่เป็นครั้งที่สามแล้ว ครั้งแรกเมื่อตอนเรียนมหาวิทยาลัย ครั้งที่สองเมื่อต้นปีที่แล้ว และครั้งนี้ซึ่งเป็นครั้งที่สาม เหตุที่ผมเลือกมาที่นี่อีกครั้งเพราะอยากลองใช้เส้นทางใหม่ไปยัง สถานที่อีกแห่ง และผมยังไม่ได้ถ่ายภาพถ้ำธารลอดใหญ่ให้ครบถ้วนด้วยนั่นเอง ทันทีที่ลงจากรถเราสัมผัสได้ถึงอากาศที่เย็นมากจนพวกเรารู้สึกหนาวกันเลยทีเดียว จนท. บอกว่า เมื่อคืนพื้นที่แถวนี้มีอุณหภูมิราวๆ ๑๕ องศาเท่านั้นเอง ไม่รอช้าผมพาเพื่อนมุ่งหน้าสู่ถ้ำธารลอดน้อย กันก่อนเลยครับ จากลานจอดรถถ้าเราไม่ได้มาพักที่นี่ต้องเดินเข้าไปอีกราวๆ ๓๐๐ เมตรจึงจะถึง ทางเข้าถ้ำครับ ก่อนเข้าถ้ำจะมีมีป้อมซึ่งเราต้องลงชื่อเข้าชมโดยระบุจำนวนคนที่เข้าไปด้วย และ ที่นี่ห้ามนำอาหารและน้ำขวดติดตัวเข้าไป เพื่อป้องกันการนำขยะไปทิ้งระหว่างทางนั่นเองครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 22:51:29

ความคิดเห็นที่ 3 ด้านซ้ายของทางเข้าถ้ำเป็นลำธาร โดยลำธารเล็กๆนี้ไหลจากปากถ้ำอีกฝั่งมาทะลุยังฝั่งนี้ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 22:52:37

ความคิดเห็นที่ 4 ผนังถ้ำช่วงแรกเตี้ยมาก ลอดเข้ามาระวังศรีษะด้วยนะครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 22:53:04

ความคิดเห็นที่ 5 ภายในถ้ำมีการประดับไฟเอาไว้เพื่อให้เหมาะกับการเดินเที่ยว จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 22:53:23

ความคิดเห็นที่ 6 ลำธารในถ้ำไม่ได้ไหลเป็นเส้นตรง แต่จะคดเคี้ยวไปมา ภายในถ้ำเลยมีสะพานข้ามลำธารหลายจุด จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 22:53:45

ความคิดเห็นที่ 7 หินงอกหินย้อยในถ้ำยังมีความสมบูรณ์อยู่มากเลยครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 22:54:00

ความคิดเห็นที่ 8 ปรกติแล้วอากาศส่วนใหญ่ภายในถ้ำจะอับชื้นและอบอ้าว ทำให้หลายๆคนไม่ชื่นชอบการ เที่ยวถ้ำสักเท่าไหร่ แต่สำหรับถ้ำแห่งนี้อากาศภายในสดชื่นและเย็นสบาย เนื่องเพราะเป็น ถ้ำทะลุมีทางเข้าออกสองด้าน ลมจึงพัดผ่านอยู่ตลอดเวลา ทำให้อากาศภายในถ้ำสดชื่นครับ ปิดท้ายกับถ้ำธารลอดน้อยแบบกว้างๆภาพนี้ครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 22:54:43

ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อเดินทะลุมายังอีกฝั่งหนึ่งของถ้ำจะเป็นหุบลึกที่สภาพป่ายังมีความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก จากนี้ไปจะเป็นการเดินทางผ่านป่าไปจนถึงขึ้นภูเขา จากป้ายหน้าปากถ้ำบอกว่าจากจุดนี้ ไปยัง "น้ำตกไตรตรึงษ์" ระยะทาง ๑,๕๐๐ เมตร และจากจุดนี้ไปยัง "ถ้ำธารลอดใหญ่" มีระยะทางอีก ๒,๕๐๐ เมตร ดูๆแล้วก็ไม่ไกลเท่าไหร่เลยนะครับ ในสองครั้งแรกที่ผมมาผมเลือกเดินไปเรื่อยๆจนสุดเส้นทาง โดยที่ปลายทางของเส้นทาง สายนี้เป็นสำนักสงฆ์ แต่ครั้งนี้หลังจากบอกเพื่อนถึงรายละเอียดเส้นทางข้างหน้าแล้วเราจึง ตัดสินใจให้ผมพาเพื่อนขับรถตรงไปจอดที่สำนักสงฆ์เพื่อย่นระยะเวลาในการเดินครับ ทำให้ในครั้งนี้เพื่อนๆผมไม่ได้ชมน้ำตกชั้นที่ ๑ และ ๒ แต่เพื่อให้รีวิวนี้สมบูรณ์ผมจึงขอ ขียนถึงการเดินทางจากปากถ้ำธารลอดน้อยไปยังถ้ำธารลอดใหญ่ก่อนนะครับ เส้นทางในช่วงแรกๆเป็นทางเดินที่ลัดเลาะไปตามแนวป่าริมลำธาร โดยบางจุดก็ ต้องข้ามลำธารด้วยสะพานไม้ ทางเดินในช่วงนี้ร่มรื่นพอสมควรเลยครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 22:55:02

ความคิดเห็นที่ 10 ผ่านป่ามาได้สักพักใหญ่ๆจึงเริ่มมีทางขึ้นเขา ขึ้นเขาระยะทางสั้นๆเราก็มาถึงที่หมายแรก ของเราครับ น้ำตกไตรตรึงษ์ ชั้น ๑ น้ำตกชั้นนี้เป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากโขดหินขนาดใหญ่ และไหลลงสู่แอ่งน้ำตื้นๆหน้าโขดหิน ก่อนที่จะไหลลงไปยังโตรกผาระหว่างแนวหินด้านล่าง น้ำตกนี้ผมว่าถ้ามาเที่ยวในช่วงต้นฤดูหนาวที่น้ำยังเยอะอยู่น่าจะสวยงามกว่านี้ไม่น้อยเลย ทีเดียวครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 22:55:27

ความคิดเห็นที่ 11 หลังจากผ่านน้ำตกชั้นที่ ๑ มาแล้วเส้นทางจากนี้เป็นทางขึ้นเขาที่ชันพอสมควรไปโดยตลอดครับ หลายๆจุดไม่มีแนวต้นไม้ที่คอยให้ร่มเงา การเดินทางหลังจากนี้จึงทำให้เราเหงื่อออกพอสมควร เลยทีเดียว ระหว่างทางมองเห็นหน้าผาที่มีน้ำไหลลงมา คาดว่าน่าจะเป็นน้ำตกไตรตรึงษ์ชั้น ๒ เสียดายที่ไม่มีจุดให้ถ่ายรูป เลยเก็บภาพมาได้เพียงเท่านี้ครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 22:55:49

ความคิดเห็นที่ 12 เส้นทางช่วงหลังๆเริ่มชันมากขึ้น แต่โชคดีที่ทาง อช. ทำทางเดินและบันไดไม้เอาไว้ให้ เลย เดินทางได้ไม่ลำบาก จากชั้นที่ ๑ ใช้เวลาเดินอีกราวๆ ๒๐ นาทีเราก็มาถึงตัวน้ำตกไตรตรึงษ์ ชั้นที่ ๓ ครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 22:56:09

ความคิดเห็นที่ 13 เดินมาตั้งไกลมีน้ำตกเท่านี้เองเหรอ? ซะที่ไหนล่ะ ตัวน้ำตกจริงๆแล้วอยู่ถัดไปทางด้านหลังต่างหาก จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 22:56:26

ความคิดเห็นที่ 14 ดูๆแล้วผมคิดว่าน้ำตกนี้ก็มีความสวยงามไม่น้อยเลยทีเดียว ยิ่งถ้ามาในช่วงที่น้ำเยอะ คงยิ่งสวย ติดอยู่ตรงที่กว่าจะเดินมาถึงนั้นต้องใช้แรงพอสมควร และไม่มีจุดที่เหมาะ ให้เล่นน้ำนอกจากที่ชั้น ๑ แต่โดยส่วนตัวแล้วผมชอบน้ำตกนี้นะ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 22:56:46

ความคิดเห็นที่ 15 จากน้ำตกชั้นนี้เราเหลือระยะทางอีกราวๆ ๕๐๐ เมตรก็จะถึงที่หมายสุดท้าย ถ้ำธารลอดใหญ่ แต่เส้นทางจากนี้ไปนั้นเป็นทางขึ้นเขาสูงชันด้วยบันไดไม้ ถ้าใครหมดแรงที่น้ำตกชั้น ๓ บันไดไม้นี้ก็คงทำให้ท้อกันพอสมควรเลย จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 22:57:08

ความคิดเห็นที่ 16 แต่ถ้าขึ้นบันไดมาแล้วจะพบจุดพักที่สามารถมองเห็นวิวกว้างไกลแบบนี้ครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 22:57:23

ความคิดเห็นที่ 17 และถ้าเดินไปอีกไม่ไกลก็จะถึงถ้ำธารลอดใหญ่ แต่ผมจะยังไม่พาไปถ้ำธารลอดใหญ่หรอกนะครับ ย้อนกลับไปตรงที่ผมบอกว่ามีถนนพาไปยังถ้ำธารลอดใหญ่ได้ ผมจะพาไปถ้ำธารลอดใหญ่จาก เส้นทางที่ว่านี้ครับ จากถ้ำธารลอดน้อยผมพาเพื่อนกลับขึ้นรถเพื่อออกเดินทางต่อ เรากลับไปที่ ถนนใหญ่แล้วจึงเลี้ยวซ้ายใช้ทางหลวงหมายเลข ๔๐๔๑ เช่นเดิม โดยมุ่งหน้าไปทางอำเภอ ศรีสวัสดิ์จังหวัดกาญจนบุรีนั่นเองครับ ถนนสายนี้เป็นถนนลาดยางที่สภาพยังดีอยู่ จากอุทยานฯ เราขับรถมุ่งหน้าไปเรื่อยราวๆ ๓๐ กิโลเมตรก็พบทางแยกซ้ายมือที่จะพาเราไปยังที่หมาย จากนี้ไป ราวๆ ๕ กิโลเมตรเป็นถนนลูกรังสลับกับทางลาดยางเป็นช่วงๆ ส่วนเส้นทางที่เหลืออีกราวๆ ๗ กิโลเมตรเป็นถนนดินแคบๆสลับกับถนนคอนกรีตตัดเข้าไปในภูเขาผ่านป่าไผ่ ระหว่างทาง จะผ่านหมู่บ้านกะเหรี่ยง, หน่วยพิทักษ์ฯเขาเหล็ก และสุดทางที่สำนักสงฆ์ครับ แผนที่คร่าวๆของเส้นทางที่เราใช้ http://www.dnp.go.th/parkreserve/pictures/npext/NP110S1T1P4N2E.JPG จากอุทยานฯมาจนถึงสำนักสงฆ์นี้เราใช้เวลากันไปร่วมชั่วโมงเลยทีเดียว เส้นทางที่ผมพาเพื่อนมา ก็คือเส้นทางที่ช่วยให้เรามาถึงถ้ำธารลอดใหญ่ได้โดยที่ไม่ต้องเดินขึ้นมาจากถ้ำธารลอดน้อย เป็น ทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ไม่อยากเหนื่อยจากการเดิน(แต่เหนื่อยกับการขับรถแทน)ได้ดีมากๆ แต่ นั่นไม่ใช่เหตุผลหลักที่ผมพาเพื่อนมาทางนี้หรอกครับ เหตุผลหลักนั้นผมจะเอาไว้พูดถึงทีหลังนะครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 22:57:58

ความคิดเห็นที่ 18 หลังจากยืดแข้งยืดขากันสักพักเราก็ออกเดินทางต่อ นอกจากเราแล้วยังมีนักท่องเที่ยว อีก ๒ - ๓ กลุ่ม จากลานจอดรถเราเดินข้ามลำธารผ่านป่าดึกดำบรรพ์เลาะไปตามแนวหิน เดินไปได้ไม่ไกลเพื่อนผมที่เดินนำไปก่อนก็ต้องหยุดแล้วแหงนมองอะไรบางอย่างที่อยู่ ตรงหน้า จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 22:58:16

ความคิดเห็นที่ 19 และนี่คือปลายทางของอุทยานฯแห่งนี้นั่นเองครับ ส่วนหนึ่งของ "ถ้ำธารลอดใหญ่" มีแสงส่องลงมาเป็นลำด้วย ไม่ทราบเหมือนกันว่าถ้ามาในเวลาที่เหมาะสมแสงจะ ส่องเป็นลำลงมายังพื้นด้านล่างรึเปล่า จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 22:58:37

ความคิดเห็นที่ 20 เรายังคงเห็นลำธารที่เป็นต้นน้ำของตัวน้ำตกอยู่ โดยลำธารไหลผ่านสำนักสงฆ์ และผ่านไปที่กลางภูเขาหินลูกใหญ่ โดยที่มีช่องขนาดใหญ่อยู่ด้านล่างของ ภูเขาหิน ทำให้ดูเหมือนเป็นถ้ำขนาดใหญ่นั่นเองครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 22:59:00

ความคิดเห็นที่ 21 และสะพานตรงจุดนี้ผมเชื่อว่าทุกคนที่มาถึงตรงนี้ต้องหยุดมองความยิ่งใหญ่ของถ้ำ แห่งนี้แน่ๆครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 22:59:18

ความคิดเห็นที่ 22 ความอลังการของถ้ำเมื่ออยู่ที่นั่นช่างยิ่งใหญ่และงดงามมากครับ เสียดาย ที่ผมเองไม่สามารถถ่ายทอดความอลังการนั้นลงมาเป็นภาพถ่ายได้ แล้วเรา ก็เดินทางถึงลานกว้างภายใต้ถ้ำธารลอดใหญ่จนได้ครับ ด้านข้างนี้เหมือน จะมีเส้นทางที่เป็นทางขึ้นไปยังจุดชมวิวบนปล่องถ้ำด้านบนด้วย แต่เส้นทาง รกเกินไปผมเลยไม่ได้ขึ้นไป จนท. บอกว่ามีอีกเส้นทางนึงอยู่ที่สำนักสงฆ์ แต่ผม ก็หาเส้นทางนั้นไม่เจอครับ ที่ผนังถ้ำด้านหนึ่งมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ ส่วนด้านข้างทางเดินไปยังเส้นทางถัดไปมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์และรอยพระพุทธบาท จำลองอยู่ด้วย จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 22:59:44

ความคิดเห็นที่ 23 เราใช้เวลาชื่นชมความงามกันสักพักจึงเดินทางกลับไปที่รถ เราพักกันสักพักก่อนจะออก เดินทางต่อเมื่อเวลาราวๆ ๑๓.๓๐ น. แผนที่การเดินทางในช่วงนี้ครับ ==> Google Maps หลังเดินออกมาจากถ้ำธารลอดใหญ่ เราก็นั่งพักกันสักพัก พวกเราเริ่มรู้สึกหิวเพราะตอนนี้เวลา ก็ล่วงเลยมาจะบ่ายโมงครึ่งแล้ว ทีนี่ไม่มีร้านขายอาหารเลยแต่ก็ไม่น่ากังวลเพราะระหว่างทาง ที่เข้ามาเรามองเห็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวหมูอยู่ร้านหนึ่งที่หมู่บ้านกะเหรี่ยงเลยตั้งใจจะไปฝากท้อง ที่นั่น เราขับรถกลับทางเดิมไม่นานนักก็ถึงร้านที่ว่า ร้านนี้เป็นทั้งร้านก๋วยเตี๋ยวและร้านขายของชำ ที่ขายของหลากหลายเรียกได้ว่าน้องๆมินิมาร์ทในตัวเมืองกันเลยทีเดียว ร้านตั้งอยู่ริมทางตรง สามแยกที่เป็นทางเลี้ยวเข้าหมู่บ้านพอดี ถึงแม้จะเป็นก๋วยเตี๋ยวหมูกลางป่าเขาแต่รสชาติก็ไม่เลว เลยทีเดียวครับ จากที่ผมได้บอกไว้แล้วว่าผมมีเหตุผลหลักที่เลือกมาเที่ยวที่นี่เพราะอยากลองเดินทางในเส้นทาง ที่ยังไม่เคยไปดู จุดหมายแห่งถัดไปของเราอยู่ที่อำเภอศรีสวัสดิ์ ถ้าหากไม่ทราบเส้นทางเราจะต้อง เดินทางย้อนกลับไปทางอำเภอบ่อพลอยเพื่อเข้าสู่ตัวเมืองกาญจนบุรี แล้วจึงเดินทางต่อไปยังอำเภอ ศรีสวัสดิ์ แต่ในแผนที่ที่ผมมีมีถนนที่ตัดผ่านระหว่างที่นี่กับอำเภอศรีสวัสดิ์ด้วย เพื่อความแน่ใจ ผมได้สอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ที่อุทยานฯตั้งแต่ก่อนเดินทางแล้วจึงได้ทราบว่าถนนที่ว่านี้เป็น ถนนลาดยางสภาพดี เราจึงไม่ลังเลที่จะเลือกมายังเส้นทางนี้กันครับ เราขับรถกลับมายังถนนใหญ่แล้วเลี้ยวซ้ายใช้ทางหลวงหมายเลข ๔๐๔๑ มุ่งหน้าไปยัง อำเภอศรีสวัสดิ์ เส้นทางจากนี้เป็นถนนลาดยางที่สภาพดีตัดผ่านเทือกเขาหลากลูก เส้นทาง จะคล้ายๆกับถนนหลายๆแห่งในภาคเหนือที่เลี้ยวลดคดเคี้ยวไปตามไหล่เขา แต่จะไม่ลาดชัน เท่าไหร่รถเก๋งวิ่งได้สบายๆครับ ระหว่างทางจุดที่ตัดผ่านหน้าผามีกองหินกองดินถล่มกองค้าง เอาไว้เป็นระยะๆ คาดว่าน่าจะถล่มลงมาตั้งแต่ตอนฤดูฝนทำให้เหลือช่องทางวิ่งเพียงช่องทางเดียว คิดว่าช่วงฤดูฝนเส้นทางนี้คงไม่น่าใช้เท่าไหร่ครับ เราลัดเลาะไปตามเส้นทางอันแสนคดเคี้ยวกัน อย่างไม่รู้ว่าจะไปสิ้นสุดเมื่อไหร่ ตลอดเส้นทางมีรถกระบะและรถจักรยานยนต์วิ่งสวนไปไม่กี่คัน เท่านั้น ใช้เวลาราวๆหนึ่งชั่วโมงกับระยะทางราวๆ ๔๐ กิโลเมตรจึงลงจากเขา จากนั้นวิ่งตรงไป อีกไม่ไกลเท่าไหร่ก็จะมองเห็นป้ายบอกทางไปยัง "แพขนานยนต์" ทางขวามือเราจึงเลี้ยวเข้าซอยไป และไม่กี่กิโลเมตรกับถนนดินลูกรังสลับกับถนนคอนกรีตเราก็มาถึง หลายๆท่านคงพอจะทราบ จุดหมายของเราแล้ว ใช่แล้วครับ เรากำลังมุ่งหน้าไปยัง "น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น" นั่นเอง และนี่คือ แพที่จะพารถเราข้ามฝั่งในวันนี้ครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:00:30

ความคิดเห็นที่ 24 ห้วยแม่ขมิ้นผมเคยมาเป็นครั้งแรกเมื่อ ๔๙ ผมยังจำได้ดีตอนที่พวกเรามานั่งรอแพ กันริมฝั่ง ครั้งนั้นผมพาหัวใจอีกดวงหนึ่งมาด้วย แต่ครั้งนี้มีหัวใจผมเพียงดวงเดียว ที่จะก้าวผ่านเส้นทางเดิมไปยังจุดหมายเดียวกันอีกครั้ง.... ชายฝั่งที่เห็นอยู่ไกลๆนั่นคือจุดหมายของแพ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:00:55

ความคิดเห็นที่ 25 ตามมาเปิดบันทึกความทรงจำด้วยคนค่ะ วันเวลาผ่านไป แต่อย่างน้อยก็ยังเหลือความทรงจำดีๆที่มีให้กัน และภาพความงดงามในวันวานให้ได้นึกถึง พรุ่งนี้ยังมีเส้นทางและเวลาให้ก้าวไปเรียนรู้สิ่งใหม่ๆนะคะ ยิ้มไว้ค่ะ ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆ ที่พาเราไปเที่ยวนะคะ จากคุณ : คนช่างฝัน สาวข้างบ้าน เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:01:07

ความคิดเห็นที่ 26 ตอนเรามาถึงมีรถของพวกเราแค่สองคันเท่านั้น แพแรกที่เราแวะไปเป็นแพใหญ่ไม่มีคนอยู่ เลยแวะมายังแพเล็กนี้จึงได้เดินทางกัน ค่าบริการคันละ ๑๘๐ บาทครับ ถ้าข้ามคันเดียวก็ ๒๕๐ บาท รถตู้คันละ ๒๐๐ บาท รถจักรยานยนต์คันละ ๕๐ บาทครับ ใกล้ถึงฝั่งแล้วมองเห็นแพที่ข้ามมาจากฝั่งน้ำตกด้วย คนข้ามกลับมาเยอะทีเดียวครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:01:16

ความคิดเห็นที่ 27 ใช้เวลาประมาณ ๔๐ นาทีก็ถึงฝั่ง จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:01:47

ความคิดเห็นที่ 28 จากฝั่งต้องขับรถไปต่อจนเจอสามแยกแล้วเลี้ยวซ้าย ประมาณ ๗ กิโลเมตรก็ถึงที่ทำการ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นด้วยครับ เพราะ เราเสียค่าธรรมเนียมที่ถ้ำธารลอดมาแล้วเมื่อเข้าอุทยานฯแห่งอื่นภายในวันเดียวกัน เราจึงไม่ต้องเสียเงินเพิ่มครับ ครั้งที่แล้วผมลงเดินจากด้านล่างขึ้นไปยังชั้นบนสุด แต่ครั้งนี้เรามาค้างจึงน้ำรถขึ้นไปจอดที่ลานจอดรถตรงน้ำตกชั้น ๔ กันเลยครับ แผนที่การเดินทางในช่วงนี้ครับ ถ้ำธารลอด - แพ  ==> Google Maps แพ - น้ำตก  ==> Google Maps สำหรับคนที่ค้างต้องจ่ายค่าธรรมเนียมค้างแรมโดยส่งบัตรประชาชนให้กับเจ้าหน้าที่ แล้วขากลับจึงมารับคืนพร้อมกับชำระเงินคนละ ๓๐ บาท สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในความทรงจำสุดท้าย "ระหว่างเรา" ของผม ครั้งที่แล้วผมนั่งอยู่ที่จุดชมวิวนี้กับใครคนหนึ่งข้างๆกาย เราเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่เพื่อนผมจะถ่ายภาพคู่ภาพแรกและภาพสุดท้ายของเราให้... จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:02:42

ความคิดเห็นที่ 29 แม้กาลเวลาจะผ่านไป อะไรหลายๆอย่างในชีวิตจะเปลี่ยนแปลงไป แต่อดีตกลับชัดเจน อยู่ในความทรงจำเสมอ โชคยังดีที่ในวันนี้ผมเข้มแข็งมากเกินกว่าที่ความทรงจำเหล่านั้น จะทำให้ผมเป็นทุกข์ คงเป็นเพราะความสวยงามของธรรมชาติช่วยเยียวยาจิตใจของผม กระมัง... ด้านหลังของจุดชมวิวเป็นลานกางเต็นท์กว้างขวางทีเดียวครับ ถัดไปด้านหลังเป็นลานจอดรถ และบ้านพัก ด้านซ้ายเป็นศาลาและร้านอาหาร ส่วนด้านขวาคือน้ำตกชั้น ๔ ทางเดินไปยังน้ำตก ชั้น ๕ - ๗ และทางลงไปยังน้ำตกชั้น ๓ - ๑ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:03:02

ความคิดเห็นที่ 30 เรามาถึงราวๆ ๑๗.๓๐ น. อากาศจึงเริ่มเย็นลงจนต้องหาเสื้อมาใส่เพื่อเพิ่มความอบอุ่นกันเลย ทีเดียว เราเลือกกางเต็นท์ลึกเข้าไปด้านในใกล้ๆกับบ้านพักซึ่งมีก๊อกน้ำและโต๊ะด้วย หลังจาก เดินสำรวจกันสักพักเราจึงกางเต็นท์และเตรียมตัวทำอาหารมื้อเย็นกันครับ แม้ผมจะมาคนเดียวแต่เต็นท์ผม(ซ้ายสุด)ดันใหญ่กว่าเต็นท์ของเพื่อนที่มาเป็นคู่ซะอีก :p จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:03:30

ความคิดเห็นที่ 31 วันนี้นักท่องเที่ยวไม่เยอะครับ เท่าที่ประมาณดูคร่าวๆบนชั้นนี้มีรถจอดอยู่ ไม่น่าจะเกิน ๑๕ คันนะครับ หลังจากอิ่มหนำกับสุกี้ชุดใหญ่, ไก่ทอด, หมูทอด ที่เพื่อนผมเตรียมมา เราก็แยกย้ายไปอาบน้ำกัน ห้องน้ำที่นี่มีหลายจุดและสะอาดสะอ้านดี อาบน้ำกันเสร็จผมก็พาเพื่อนไปดูดาว ท้องฟ้าที่นี่กระจ่างใสมาก วันนี้ ผมได้เห็นดาวเพิ่มอีกกลุ่มต่อจากกลุ่มดาวค้างคาวก็คือกลุ่มดาวนายพราน ครับ จริงๆมีดาวกลุ่มอื่นๆด้วยแต่ผมยังดูไม่ค่อยออกเลยบอกไม่ได้ครับ ดูดาวเสร็จก็เข้านอนกันราวๆสามทุ่มได้ ผมตื่นเช้ามาตั้งแต่ตีห้าครึ่งล้างหน้าแปรงฟันแล้วจึงชวนเพื่อนไปดู พระอาทิตย์ขึ้นกัน เสียดายที่พระอาทิตย์จะขึ้นด้านซ้ายของจุดชมวิว และไปตกด้านขวาเยื้องไปทางด้านหลังจึงไม่มีโอกาสได้เห็นพระอาทิตย์ ดวงโตๆเลย แต่ก็ได้ท้องฟ้าสีชมพูมาแทน จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:03:54

ความคิดเห็นที่ 32 ด้านขวาเป็นเรือนโล่งๆที่ใช้เป็นที่ประชุม และเป็นจุดชมวิวทะเลสาบที่สวยที่สุดด้วย จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:04:20

ความคิดเห็นที่ 33 จากนั้นเราก็รองท้องกันด้วยข้าวต้ม สุกี้ที่เหลือจากเมื่อคืนและขนมเป็นมื้อเช้า แล้วเราจึง ไปเล่นน้ำตกกันครับ ผมจะลงภาพเสมือนกับว่ากำลังเดินจากน้ำตกชั้นที่ ๑ ไปยังชั้นที่ ๗ นะครับ เสียดายที่ผมไม่สามารถถ่ายทอดความงดงามของน้ำตกออกมาทางภาพถ่ายได้ อย่างครบถ้วน น้ำตกในสถานที่จริงๆสวยงามกว่าในภาพมากมายทีเดียวครับ ถ้าเราเข้ามาจากที่ทำการด้านล่าง หลังจากผ่านประตูเข้ามาแล้วเดินอีกราวๆ ๒๐๐ เมตร ก็จะถึงป้ายน้ำตกนี้ครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:04:42

ความคิดเห็นที่ 34 เดินข้ามสะพานผ่านโรงปั่นไฟเล็กๆก็จะเจอสะพานเล็กๆริมลำธารสีเขียวมรกตนี้ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:05:08

ความคิดเห็นที่ 35 หลังจากผ่าน ๓๐๐ เมตรแรกเราก็จะมองเห็นน้ำตกชั้นที่ ๑ ครับ "ดงว่าน" จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:05:48

ความคิดเห็นที่ 36 น้ำตกนี้สายน้ำเป็นสีเขียวมรกตทั้งหมด และหินที่น้ำไหลผ่านก็ไม่ลื่นด้วยนะครับ จากชั้น ๑ ผมเดินทางต่อระหว่างทางมีน้ำตกเล็กๆและแอ่งทั้งตื้นและลึกที่สามารถ ลงเล่นน้ำได้ไปตลอดทางเลย และที่ ๔๐๐ เมตรเราก็มาถึงน้ำตกชั้น ๒ "ม่านขมิ้น" จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:06:08

ความคิดเห็นที่ 37 เส้นทางเดินสบายครับ มีต้องเดินขึ้นเดินลงนิดหน่อยแต่ไม่ลำบากเลย ชั้นน้ำตกที่อยู่เหนือ ชั้นสองขึ้นมาหน่อย จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:06:29

ความคิดเห็นที่ 38 และที่ ๖๖๐ เมตรผมก็มาถึงน้ำตกชั้น ๓ "วังหน้าผา" สวยทีเดียว จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:07:10

ความคิดเห็นที่ 39 เส้นทางเดินของน้ำตกแห่งนี้สำหรับผมจุดที่ผมคิดว่าน่าจะลำบากที่สุดสำหรับ ผู้สูงอายุก็คือบันไดขึ้นจากน้ำตกชั้น ๓ ไปยังน้ำตกชั้น ๔ นี่ละครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:07:37

ความคิดเห็นที่ 40 และที่ ๗๕๐ เมตรก็คือน้ำตกชั้นที่ ๔ ซึ่งอยู่ติดกับลานกางเต็นท์ด้วยนั่นเอง น้ำตกชั้นที่๔ "ฉัตรแก้ว" งดงามมากๆครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:08:04

ความคิดเห็นที่ 41 เราสามารถลงเล่นน้ำในน้ำตกทุกชั้นได้ ยกเว้นที่ชั้น ๔ ในบริเวณนี้และที่ชั้น ๕ ที่ห้ามลงเล่นน้ำเพื่อความปลอดภัยครับ แต่เลยจากนี้ไปก็มีลำธารและน้ำตกเล็กๆ ให้เล่นน้ำได้ จากชั้น ๔ เดินข้ามสะพานไปทางซ้ายผ่านทางเดินกว้างๆท่ามกลางป่าไผ่ไปเรื่อยๆ จนถึงระยะทางที่ ๑,๑๔๐ เมตร ก็จะถึงน้ำตกชั้นที่ ๕ "ไหลจนหลง" หลงจริงๆเพราะไหลไปลงรูครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:08:31

ความคิดเห็นที่ 42 ครั้งก่อนนั้นผมจำได้ว่าระหว่างทางก่อนถึงน้ำตกชั้นที่ ๖ มีต้นไม้พาดระหว่าง สองฝั่งของลำธารอยู่แต่ครั้งนี้ผมหาไม่เจอ ผมยังจำได้ว่าเธอขอให้ผมถ่ายภาพ ตอนที่เธอนั่งอยู่บนต้นไม้นั้น รอยยิ้มของเธอยังคงอยู่ในความทรงจำของผม... และที่ ๒,๐๗๐ เมตรผมก็มาถึงน้ำตกชั้นที่สวยที่สุดอีกชั้นนึงครับ น้ำตกชั้นที่ ๖ "ดงผีเสื้อ" งดงามไม่แพ้ชั้นที่ ๔ เลยทีเดียวครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:08:59

ความคิดเห็นที่ 43 และสุดท้ายที่ ๒,๒๗๐ เมตรก็คือชั้นสุดท้ายของน้ำตกแห่งนี้ น้ำตกชั้นที่ ๗ "ร่มเกล้า" ผมหวนนึกไปถึงภาพของเธอที่ลงแช่เท้าในน้ำตกชั้นนี้กับผม ในเวลานั้น ผมมีความสุขมากจนไม่ทันเฉลียวใจว่าความสุขนี้จะอยู่กับผมได้เพียง ไม่นาน... จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:09:23

ความคิดเห็นที่ 44 สวยทุกภาพเลยค่ะ จากคุณ : แป้งสีฝุ่น เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:09:28

ความคิดเห็นที่ 45 หลังจากเล่นน้ำและดูน้ำตกจนครบทุกชั้นเรากลับมาทานอาหารกลางวันกันที่เต็นท์ มื้อกลางวันก็เป็นของที่เหลือนิดหน่อยจากเมื่อเช้ากับขนมปังทั้งหลาย และข้าวผัด กะเพราจากร้านของอุทยานฯ ก่อนจะเก็บของแล้วเตรียมตัวเดินทางกันต่อ ตอนแรก เรากะว่าจะออกจากที่นี่ไม่เกิน ๑๐ โมงเช้า แต่เพราะเพลิดเพลินกันนานไปหน่อย กว่าจะได้เดินทางก็บ่ายโมงกว่าแล้ว เราออกเดินทางพร้อมกับความอิ่มเอมใจจากความสวยงามที่รังสรรค์อย่างวิจิตรบรรจง โดยธรรมชาติ แม้ครั้งนี้ผมไม่มีใครคนนั้นมาด้วย แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความสุขที่ผม ได้รับจากธรรมชาติของที่นี่ลดลงไปแม้แต่น้อย ห้วยแม่ขมิ้นยังสวยงามไม่เปลี่ยนแปลง และสวยซึ้งขึ้นกว่าเดิมในความรู้สึกของผมเสียด้วยซ้ำ ถ้าจะมีอะไรสักอย่างที่ทำให้ ผมมีความสุขได้ ก็คงเป็นธรรมชาติแบบนี้กระมัง... เช่นเดียวกับครั้งที่แล้ว ขามาเราข้ามแพ แต่ขากลับเราจะกลับทางถนนครับ เราใช้ เส้นทางที่มาจากเมื่อวานโดยมุ่งหน้าไปต่อ จากที่นี่ไปน้ำตกเอราวัณมีระยะทาง ประมาณ ๔๒ กิโลเมตร ถนนช่วงที่ออกจากอุทยานฯไปประมาณเกือบสิบกิโลเมตรแรก เป็นถนนลาดยางอย่างดีเลยครับ ต่างจากที่ผมมาเมื่อครั้งก่อนโดยสิ้นเชิง แต่นั่น ก็เป็นเหมือนภาพลวงตา เพราะระยะทางที่เหลือจากนั้นไปเป็นถนนดินลูกรังที่ เต็มไปด้วยหลุมน้อยใหญ่อย่างนับไม่ถ้วนไปตลอดเส้นทาง แม้เราจะใช้รถกระบะ เป็นพาหนะแต่สภาพถนนแบบนี้ก็ยังทำความลำบากให้เราไม่น้อย เราต้องค่อยๆ ขับไปอย่างช้าๆและระมัดระวังกันทีเดียว ระหว่างทางจะผ่านสวน, ไร่ และ หมู่บ้านเป็นช่วงๆ บางช่วงก็เป็นป่าและทางขึ้นลงเขา บางช่วงก็มีถนนคอนกรีต ระยะทางสั้นๆในตอนขึ้นหรือลงเขาชันๆ แม้เส้นทางจะเป็นแบบนี้ก็ยังมีรถสองแถว วิ่งประจำทางด้วยนะครับ คาดว่ารถสองแถวนี้จะวิ่งไปจนถึงที่ทำการอุทยานฯด้วย เราใช้เวลาๆราวๆชั่วโมงเศษจึงพ้นถนนโลกพระจันทร์นั้นมาได้ ถนนช่วงที่เหลือ ไม่กี่กิโลเมตรเป็นถนนที่กำลังทำใหม่เตรียมจะลาดยาง แต่ด็ต้องระวังเพราะช่วง ก่อนสุดถนนเป็นทางลงเขาและสุดทางจะเป็นสามแยก ก่อนถึงสามแยกมีเนินเล็กๆ ซึ่งถ้าคนไม่ชำนาญพื้นที่ลงเขามาด้วยความเร็วอาจจะกระโดดที่เนินนี้แล้วพุ่ง เลยแยกออกไปได้ ยังไงใครที่ใช้เส้นทางนี้ต้องระมัดระวังกันด้วยนะครับ เราเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไปทางเอราวัณ ก่อนจะใช้ทางหลวงหมายเลข ๓๑๙๙ มุ่งหน้าไปยังตัวเมืองกาญจนบุรี ระหว่างทางเรามองเห็นเขื่อนเล็กๆแห่งหนึ่ง อยู่ไม่ไกลเลยเลี้ยวขวาแวะเข้าไปชมกันครับ เขื่อนที่ว่านี้ก็คือ "เขื่อนท่าทุ่งนา" นั่นเองครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:09:54

ความคิดเห็นที่ 46 เขื่อนท่าทุ่งนาเป็นเขื่อนที่รับน้ำต่อจากเขื่อนศรีนครินทร์อีกทอดนึง สามารถ ผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังน้ำได้ และยังสามารถสูบน้ำจากเขื่อนท่าทุ่งนากลับไป ผลิตกระแสไฟฟ้าที่เขื่อนศรีนครินทร์ได้อีกด้วยครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:10:19

ความคิดเห็นที่ 47 ดูๆไปคล้ายกับทุ่งหญ้าหน้าเขื่อนเลย แต่จริงๆแล้วด้านล่างของทุ่งหญ้านี้คือน้ำทั้งหมดนะครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:10:51

ความคิดเห็นที่ 48 เราพักรถและพักผ่อนกันสักพักจึงเดินทางต่อ ความจริงแล้วเราวางแผนคร่าวๆ เอาไว้ว่าจะไปเที่ยวที่อื่นกันต่ออีก แต่เพราะเราใช้เวลาที่น้ำตกมากเกินไปจึงไม่ได้ เที่ยวที่อื่นๆ เราจึงมุ่งหน้ากลับบ้านกันเลย เราใช้ทางหลวงหมายเลข ๓๑๙๙ มุ่งหน้าไปยังกาญจนบุรี ใช้ถนนเลี่ยงเมือง และทางหลวงหมายเลข ๓๒๓ แวะซื้อของฝากกันที่ร้านแก้ว, ร้านโรงงานวุ้นเส้น ผ่านนครปฐม เข้าสู่ถนนเพชรเกษมจนถึงบ้านเมื่อเวลาประมาณ ๑๙.๔๐ น. สรุป ทริปนี้ได้ดังนี้ครับ ๒๙ - ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๓ กรุงเทพฯ - กาญจนบุรี ระยะทางประมาณ ๕๐๐ กิโลเมตร ๒๙/๑๒/๕๓        อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสิรทร์(ถ้ำธารลอด) ๒๙ - ๓๐/๑๒/๕๓    อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์(น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น) ๓๐/๑๒/๕๓        เขื่อนท่าทุ่งนา ค่าใช้จ่าย ค่าอาหารส่วนกลาง    ๑,๔๐๐ บาท ค่าธรรมเนียมอุทยานฯ    ๔๘๐ บาท ค่าแพขนานยนต์    ๓๖๐ บาท รวม        ๒,๒๔๐ บาท ไป ๖ คน จ่ายคนละ    ๓๗๓ บาท ค่าน้ำมันประมาณ     ๑,๕๐๐ บาท โดยสาร ๓ คน จ่ายคนละ     ๕๐๐ บาท รวมค่าใช้จ่ายสำหรับ ๑ คน = ๘๗๓ บาท แผนที่การเดินทางจาก น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น - เขือนท่าทุ่งนา - กรุงเทพฯ  ==> Google Maps ข้อมูลเพิ่มเติม อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ http://www.dnp.go.th/parkreserve/asp/style1/default.asp?npid=110&lg=1 อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ http://www.dnp.go.th/parkreserve/asp/style1/default.asp?npid=114&lg=1 เขื่อนท่าทุ่งนา กฟผ. http://www.stjohn.ac.th/Department/school/www.egat.or.th/thai/dam_powerplant/tatungna/tatungna1.html แผนที่จาก Google Maps http://maps.google.com แม้ทริปนี้จะได้เที่ยวสถานที่หลักๆกันเพียงแค่สองแห่ง แต่ทั้งสองแห่งก็เต็มไปด้วย ความงดงามอันสุดจะบรรยายของธรรมชาติที่แสนจะประทับใจ ถึงสถานที่แห่งหนึ่ง จะเป็นความทรงจำอันหวานชื่นในอดีต และแม้ในครั้งนี้ผมจะกลับมาด้วยสถานะที่ แตกต่าง แต่ความงดงามตรงหน้าก็ทำให้ผมมีความสุขจนลืมเรื่องเก่าๆได้ ต้องขอบคุณ เพื่อนผมที่ชวนกันมาเที่ยวยังที่แห่งนี้ และขอบคุณธรรมชาติที่ช่วยเยียวยาจิตใจของผม เป็นทริปปิดท้ายปี ๕๓ อย่างมีความสุขจริงๆครับ ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามา แล้วพบกันใหม่ทริปหน้า สวัสดีครับ แก้ไขเมื่อ 01 พ.ค. 54 23:13:08 จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:11:55

ความคิดเห็นที่ 49 คุณคนช่างฝัน สาวข้างบ้าน - ขอบคุณครับ ความทรงจำสร้างได้ทั้งรอยยิ้ม และรอยน้ำตาเลยนะครับ สุดท้ายก็อยู่ที่ตัวเราเองว่าจะเลือกยิ้มหรือร้องให้ คุณแป้งสีฝุ่น - ขอบคุณครับ ขอบคุณทุกท่านที่ให้กิ๊ฟด้วยนะครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:18:03

ความคิดเห็นที่ 50 ตามมาชมวิวสวยๆด้วยค่ะ จากคุณ : แผนลวงสำเร็จแล้ว เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:19:25

ความคิดเห็นที่ 51 ชื่อรีวิวโดนใจดีจังเลยคะ ภาพก็สวยด้วย ^_^ จากคุณ : ใสบัว เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:24:07

ความคิดเห็นที่ 52 ...ตามมาอ่านบันทึกความทรงจำดีๆ ที่น่าติดตามด้วยคนนะคะ   อ่านไปก็รู้สึกดีๆ ไปด้วยเลยนะคะ เพราะชอบตรงที่เรื่องราวดีๆ มีไว้ให้เราจดจำไว้เสมอ มันอยู่ที่ว่าเราจะเลือกจดจำเรื่องราวแบบไหน ขอเป็นกำลังใจให้ และรออ่านบันทึกความทรงจำดีๆ ต่อนะคะ  ^-^ จากคุณ : ปลายฟ้าที่ภูตะวัน เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 00:05:04

ความคิดเห็นที่ 53 แวะมาชมครับ อ่านเพลินเลย ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : กัปตันลูกชุบ เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 00:22:34

ความคิดเห็นที่ 54 สวดยวดดดดดดดด คนเรา มักจะเรียนรู้ที่จะอยู่โดยเจ็บปวดน้อยที่สุดได้เองค่ะ สู้ ๆ ภาพสวยจังเลย  ขอบคุณค่ะ ปล. ชอบจังหวะการเว้นวรรคคำพูดของคุณมาก ๆ แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 54 00:27:50 จากคุณ : รัก_ประจำทาง เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 00:24:45

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณสำหรับรูปสวยๆและเรื่องราวค่ะ   การท่องเที่ยวทำให้เรามีความสุขนะคะ จากคุณ : Red-Rose-14Feb เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 00:25:15

ความคิดเห็นที่ 56 เรื่องราวการเดินทางกับภาพสวยๆลงตัวดีครับ ^^ จากคุณ : ไผ่พริ้ว (PyDE) เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 00:35:08

ความคิดเห็นที่ 57 ธรรมชาติช่างสรรสร้างจริงๆครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : lovin's sea เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 01:32:19

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 01:45:19

ความคิดเห็นที่ 59 สวยมากค่ะ จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 02:41:24

ความคิดเห็นที่ 60 เคยไปพร้อมหัวใจสองดวงเหมือนกันครับ ตอนนั้นไปหน้าฝน นอนเต็นท์ 2 คืน ทางบนน้ำตกและทางขากลับเละมากๆ แต่ก็สนุกไปอีกแบบ พอหลังจากนั้นไม่นานก็เหมือน จขกทเป๊ะเลย แต่ก็ยังกลับไปเที่ยวกะเพื่อนอีก 4 ครั้งสวยจริงๆครับห้วยขมิ้น จากคุณ : คืนสู่รัง เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 06:16:23

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณสำหรับความทรงจำสวยๆ นะค่ะ จากคุณ : ชิชะบาจี๋ เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 07:23:06

ความคิดเห็นที่ 62 ภาพสวยมากครับ เห็นแล้วอยากไปบ้าง จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 08:05:49

ความคิดเห็นที่ 63 ขอบคุณสำหรับเรื่องราวและภาพสวย ๆ ที่นำมาให้ชมกันนะครับ จากคุณ : P.S. i love you เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 08:09:10

ความคิดเห็นที่ 64 คุณแผนลวงสำเร็จแล้ว - ขอบคุณครับ คุณใสบัว - ขอบคุณครับ คุณปลายฟ้าที่ภูตะวัน - ขอบคุณครับ ถ้าเลือกได้ใครๆก็คงอยากจำแต่สิ่งดีๆนะครับ คุณกัปตันลูกชุบ - ขอบคุณครับ คุณรัก_ประจำทาง - ขอบคุณครับ ถ้าเราได้เรียนรู้อย่างถูกต้อง เราก็จะเติบโตไปอย่างเหมาะสมนะครับ คุณ Red-Rose-14Feb - ขอบคุณครับ สำหรับผมแล้วความสุขจากการได้ออกเดินทางมีความหมายกับผมมากจริงๆ คุณไผ่พริ้ว (PyDE) - ขอบคุณครับ คุณ lovin's sea - ขอบคุณครับ คุณสาวหน้าใส - ขอบคุณที่แวะเข้ามานะครับ คุณป้าฟู - ขอบคุณครับ คุณคืนสู่รัง - อาจมีอีกหลายคนที่มีความทรงจำแบบนี้ ที่นี่ผมไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อเหมือนกันครับ คุณชิชะบาจี๋ - ขอบคุณครับ คุณ tiger's nest - ขอบคุณครับ ลองหาโอกาสไปดูสักครั้งนะครับ คุณ P.S. i love you - ขอบคุณครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 09:56:30

ความคิดเห็นที่ 65 ขอบคุณสำหรับรีวิวค่า ความทรงจำดีดีมันจะอยู่กับเราเสมอ :)) จากคุณ : Soleindee เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 10:04:20

ความคิดเห็นที่ 66 ขอบคุณมากครับกับรีวิวสวยๆ  เป็นกำลังใจให้ครับ  ชีวิตต้องเดินต่อไป จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 12:25:55

ความคิดเห็นที่ 67 ขอบคุณมากๆครับผม จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 13:11:38

ความคิดเห็นที่ 68 งดงาม ยิ่งนัก จากคุณ : umi_chan_2 เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 14:41:55

ความคิดเห็นที่ 69 "ความทรงจำงดงามเสมอ"   ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆ และความทรงจำของจขกท.ที่นำมาถ่ายทอดให้ฟังค่ะ จากคุณ : ถึงอ้วนก็รัก เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 14:43:07

ความคิดเห็นที่ 70 คุณ Soleindee - ขอบคุณครับ คุณเล็กทาโร่ - ขอบคุณครับ คุณ digimontamer - ขอบคุณที่แวะเข้ามาครับ คุณ umi_chan_2 - ขอบคุณครับ คุณถึงอ้วนก็รัก - ขอบคุณที่แวะเข้ามาครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 19:26:48

ความคิดเห็นที่ 71 น้ำตกห้วยขมิ้น ก็เป็นอีกแห่งที่เป็นความทรงจำที่งดงามของเราเหมือนกัน เพราะครั้งหนึ่งเราเคยพาหัวใจอีกดวงหนึ่งไปพร้อมกับใจเรา แต่เดี๋ยวนี้หัวใจดวงนั้นลอยไปไกลจากใจเราแล้ว  แต่สถานที่ยังคงอยู่ในใจของเราตลอดมา จากคุณ : เพียงไพร (เพียงไพร) เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 21:30:27

ความคิดเห็นที่ 72 คุณเพียงไพร - ความสัมพันธ์อาจเปลี่ยน แต่ความทรงจำไม่มีวันเปลี่ยนนะครับ จากคุณ : ST.Exsodus เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 11:54:43