|
ตอนที่ 2 เจริญทองนิ่มวิทยา
สิบเอ็ดโมงตรง ผมก็มาถึงหน้าโรงเรียนอนุบาลเขาค้อ ผมมองไปภายในโรงเรียน บอกตรงๆว่าผมชักไม่แน่ใจแล้วว่า โรงเรียนนี้จะยากจนจริงหรือเปล่า ทำไมป้ายและอาคารเรียนมันดูดีขนาดนี้ ไม่เห็นเหมือนโรงเรียนยากจนในฝันของผม ไม่เหมือนที่เคยดูหนังไทยสมัยก่อนตอนเด็กๆ ประมาณหนังเรื่องครูบ้านนอก ที่เป็นโรงเรียนเล็กๆ หลังคามุงด้วยสังกะสีเก่าๆขึ้นสนิมแถมมีรูอีกต่างหาก มีเด็กตัวเล็กๆ วิ่งไปวิ่งมา มีครูสามสี่คน คอยวิ่งไล่ แต่ยังไงก็รับปากคุณครูที่นี่แล้วว่าจะมา ก็ต้องทำให้ได้
มองไปทางซ้ายของโรงเรียน เป็นที่ทำการอบต.เขาค้อ ก็เลยมีความคิดที่ว่า จะลองเข้าไปถามดู เผื่อถ้ามีโรงเรียนไหนที่ยากจนเพิ่มเติม ผมจะได้แบ่งของบางส่วนไปให้ เข้าไปถึงก็เจอเจ้าหน้าที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในที่ทำการ ผมก็ยกมือสวัสดีและแนะนำตัวพร้อมกับถามเรื่องโรงเรียนยากจนในฝันของผมทันที ผู้ชายคนนั้นก็หัวเราะออกมาบอกว่าสมัยนี้มันไม่มีแล้วโรงเรียนแบบนั้น ถ้าจะมีคงต้องขึ้นไปบนเขา อยู่ห่างตัวเมืองซักหน่อย แต่ไม่ต้องห่วงเห็นโรงเรียนเป็นแบบนี้ เด็กๆข้างในน่าสงสารมาก พ่อแม่ยากจนทั้งนั้น พูดจบผู้ชายคนนี้บอกจะพาผมไปพบ ผอ.โรงเรียนเอง ผมบอกไม่เป็นไร เกรงใจ เดี๋ยวผมเข้าไปเองได้ ถามไปถามมา ผู้ชายคนนี้ก็คือนายก อบต.เขาค้อ นี่เอง
พอไปถึงโรงเรียน นายก อบต.เขาค้อ หรือ พี่แดง ก็พาผมเข้าไปพบ ผอ.โรงเรียน คุณเรวัตน์ โมจรินทร์ ท่านก็แนะนำตัวพร้อมกับเล่าประวัติของโรงเรียนเท่าที่ผมจำได้ก็คือ โรงเรียนอนุบาลเขาค้อ ชื่อเดิมคือ โรงเรียนเจริญทองนิ่มวิทยา เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนจำนวนเจ็ดร้อยกว่าคน มีชาวไทยพื้นราบ และชาวเขาเผ่าต่างๆ หลายเผ่า คือ เผ่าม้ง, ลีซอ, เย้า และ มูเซอ สภาพทั่วไปค่อนข้างยากจน ยังมีความเป็นอยู่แบบชาวเขาดั้งเดิม นั่งคุยได้ซักพัก ผอ.เรวัฒน์ ก็ให้เด็กๆช่วยกันขนขอลงจากรถ เมื่อมอบสิ่งของเสร็จ เลยขออนุญาตถ่ายภาพ ผอ.เรวัฒน์ และ นายก อบต. เป็นที่ระลึก และผอ.ยังให้ผมลงสมุดเยี่ยมชมของโรงเรียนพร้อมกับกล่าวขอบคุณที่ยังเห็นความสำคัญของเด็กๆที่นี่ ผมถามว่ายังขาดอะไรอีกหรือเปล่าถ้าคราวหน้ามีโอกาสผมจะแวะมาอีกครั้ง ท่านก็บอกอยากได้อุปกรณ์จำพวกพัฒนาสมองของเด็กๆ เช่น ของเล่นที่ส่งเสริมการเรียน ตัวต่อไม้ แผ่นกระดาน และอีกหลายอย่างโดยเฉพาะที่นี่ยังขาด โต๊ะทานอาหารของเด็กๆ เพราะทุกวันนี้เด็กๆยังต้องนั่งทานอาหารกับพื้น อยากให้นักเรียนได้ทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ
เที่ยงตรงเสียงกริ่งของโรงเรียนก็ดังขึ้น เด็กๆคงได้เวลาพักเที่ยงกันแล้ว ผมเลยถือโอกาสขอตัวลา ผอ.เรวัฒน์ กับ นายก อบต.พี่แดง ไม่งั้นคงได้คุยกันยาวกว่านี้แน่ๆ แต่ก็ขออนุญาตเดินเล่นภายในโรงเรียนเก็บภาพเด็กนักเรียนของที่นี่ เด็กๆก็วิ่งออกมาจากห้องเรียนไปโรงอาหาร ผมก็เลยเดินตามเด็กๆไป ถึงโรงอาหารก็จะมีคุณครูยืนตักอาหารให้ เด็กๆยืนเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบ คุณครูยังแอบกระซิบดังๆ ให้ผมฟังว่า จริงๆแล้วทางโรงเรียนได้งบประมาณมา 300 คน แต่ที่โรงเรียนมีนักเรียนกว่าเจ็ดร้อยคน ก็เลยต้องนำเงินมาเฉลี่ยเพื่อทำอาหารให้เด็กๆทานได้ทุกคน นึกแล้วก็สงสารผู้บริหารงานของที่นี่เหมือนกันคงจะลำบากน่าดู ที่ต้องบริหารงบมีรัฐบาลให้มาเพื่อที่จะเพียงพอต่อเด็กๆทุกคน
คุยกับคุณครูเสร็จ ผมก็เดินมาที่ข้างๆโรงอาหาร ที่นี่จะมีร้านค้าขายของ ขายขนม จะมีเด็กไปมุงกันเต็มไปหมด บางคนมีสตางค์ก็ยืนซื้อขนม แต่บางคนไม่มีก็ได้แต่ยืนมอง ผมก็เลยไปเหมาขนมขาไก่ กับโอโจ้ มาได้หนึ่งตะกร้า ให้เด็กๆมายืนหยิบขนมคนละถุง เด็กก็มายืนเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบ ส่วนใหญ่จะยกมือไหว้ขอบคุณ แต่บางคนคงเขินๆไม่กล้าเข้ามา ผมก็เลยต้องเดินเอาไปให้แทน ผมเดินเล่นเก็บภาพเด็กๆได้ซักพัก เสียงกริ่งก็ดังอีกครั้งคงจะได้เวลาที่เด็กจะต้องเข้าเรียน และผมใช้เวลาอยู่ที่นี่เกือบสองชั่วโมง ได้เวลาที่จะออกเดินทางต่อแล้ว
..
ลาก่อน เจริญทองนิ่มวิทยา แล้วผมจะกลับมาใหม่
จากคุณ |
:
ชัตเตอร์ โอลี่
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ส.ค. 54 19:21:59
|
|
|
|
|