ความคิดเห็นที่ 1 ผมนั่งรถไฟระยะยาวเลยจาก ฟลอเรนซ์ ปลายทางอยู่ที่เมือง ริมินี่ เมืองท่าฝั่งตะวันออกของ อิตาลี โดยต้องแวะไปเปลี่ยนขบวนที่ โบโลญญ่า ก่อน ระหว่างทางรถก็โล่งเหมือนกับทุกๆเส้นที่ผ่านมา ยังสงสัยอยู่ว่าการรถไฟที่นี่ ขาดทุนป่นปี้ไหมเนี่ย จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 00:24:29

ความคิดเห็นที่ 2 ผ่านเมือง เชเซน่า ครับ อากาศกำลังดีเลย 21 องศา เริ่มอุ่นขึ้นหน่อยแล้ว จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 00:25:54

ความคิดเห็นที่ 3 ใช้เวลาทั้งหมดเกือบ 3 ชั่วโมง ประมาณบ่าย 3 ผมก็มาถึง ริมินี่ ครับ แบบว่าเมื่อยสุดๆ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 00:28:21

ความคิดเห็นที่ 4 วิวจากที่พักใน ริมินี่ ครับ เมืองนี้ติดทะเล อาเดรียติก เลย เปลี่ยนบรรยากาศสูดกลิ่นทะเลหน่อย จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 00:29:00

ความคิดเห็นที่ 5 ฝั่งตรงข้ามเป็นผับใหญ่เสียด้วย ดึกๆแอบย่องมาดีไหมนะ เหอๆ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 00:29:24

ความคิดเห็นที่ 6 แม้เป็นช่วงเย็นๆแล้ว แต่ผมไม่อยากปล่อยเวลาทิ้ง ดังนั้นเลยชวนภรรยา เดินเที่ยวในเมือง ริมินี่ เลย จากภาพนี้คือ Arco di Augusto ประตูเข้าสู่ใจกลางเมืองครับ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 00:29:56

ความคิดเห็นที่ 7 ยามเย็นที่ Piazza Tre Martiri จะมีครอบครัวพ่อแม่ลูก หรือผู้สูงอายุ มาเดินเล่นชมเมืองกัน จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 00:30:31

ความคิดเห็นที่ 8 ด้านหน้าของ Teatro Galli ที่ Piazza Cavour จัตุรัสใจกลางเมือง ริมินี่ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 00:31:02

ความคิดเห็นที่ 9 ปิดท้ายด้วย Ponte di Tiberio สะพานสมัยโรมันโบราณ อายุมากกว่า 2,000 ปี เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองเช่นกัน ไม่น่าเชื่อว่าใช้เวลาไม่นานก็เที่ยวในตัวเมืองเก่าได้ครบ พรุ่งนี้จะวางโปรแกรมออกนอก อิตาลี ชั่วคราวล่ะครับ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 00:32:07

ความคิดเห็นที่ 10 จะออกนอก อิตาลี ชั่วคราวยังไง ในเมื่อ ริมินี่ ก็อยู่กลางประเทศ .... ที่ผมจะไปคือ ประเทศ ซาน มาริโน่ ครับ เป็นประเทศเอกราชเล็กๆ ตั้งอยู่ห่างจาก ริมินี่ ราวๆ 15 กิโลเมตร การเดินทางที่ง่ายและสะดวกที่สุดคือนั่งรถบัส แต่ปัญหาคือหาป้ายรถยากครับ เพราะเป็นของบริษัทเอกชน และเคานเตอร์ของรถบัสท้องถิ่น รวมถึงร้านค้าย่านนั้นแทบจะไม่ให้ความร่วมมือเลย ติดแต่ป้ายว่า “ไม่มีตั๋วไป ซาน มาริโน่” อย่างเดียว หลังจากเดินควานหาหน้าสถานีรถไฟอยู่สักพัก ก็เจอป้ายรถจนได้ ที่เห็นในภาพ คนขายตั๋วคือคุณป้าผมขาว หิ้วกระเป๋าเล็กๆมาใบนึง คนซื้อก็คอยมุงกัน ส่วนผมได้ตั๋วเรียบร้อยแล้ว อิอิ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 00:44:18

ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อนึกถึง ซาน มาริโน่ คุณนึกถึงอะไร ........ บางคนนึกถึง ทีมฟุตบอลสมันน้อยแห่งยุโรป ที่มักจะโดนคู่แข่งต้อนตืออยู่ประจำ ขณะที่บางคนนึกถึง ฟอร์มูล่าวัน ซาน มาริโน่ กรังปรีซ์ โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจริงๆมันก็แข่งที่ อิตาลี นั่นแหล่ะ ไม่ได้แข่งใน ซาน มาริโน่ เสียหน่อย และปัจจุบันก็หลุดไปจากผังปฏิทินแข่ง F1 มาหลายปีแล้ว เอาล่ะ ผมกำลังจะเข้าสู่ดินแดนนี้เป็นครั้งแรก มองจากรถบัส สะพานคล้ายๆเสากระโดงเรือนั่นเองครับ ถึงแล้ว พรหมแดน อิตาลี – ซาน มาริโน่ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 00:45:11

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่มีด่านอะไรกั้นทั้งสิ้นครับ เห็นธงชาติ ซาน มาริโน่ ปลิวไสว บอกเอกลักษณ์ความเป็นชาติเอกราช จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 00:45:47

ความคิดเห็นที่ 13 ป้ายทะเบียนรถของ ซาน มาริโน่ ครับ เห็นมีวิ่งกันประปรายใน ริมินี่ เหมือนกัน จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 00:46:24

ความคิดเห็นที่ 14 ไปตะลุยยุโรปด้วยคนนะครับ ^^ จากคุณ : แมลงภู่บนหูกระต่าย เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 00:47:16

ความคิดเห็นที่ 15 บางคนอาจจะสงสัยว่าทำไม ใน อิตาลี ถึงได้มีประเทศเล็กๆอย่าง ซาน มาริโน่ ฝังตัวอยู่ตรงนี้ได้ เหตุผลก็เพราะในอดีตที่ อิตาลี มีการรวบรวมชาติจากแต่ละแคว้น ซึ่งต่างก็มีฐานะเป็นรัฐเอกราช ให้มารวมเป็นดินแดนเดียวกัน มีเพียง ซาน มาริโน่ ที่ไม่ขอรวมด้วย เพราะยึดมั่นในอธิปไตยของตนที่มีมายาวนาน และทาง อิตาลี เอง ก็ไม่ได้คิดรุกราน เพราะในอดีต ซาน มาริโน่ ที่มีภูมิประเทศเป็นที่สูง เคยช่วยเหลือดินแดนต่างๆไว้ให้หลบภัยยามสงครามนั่นเอง รถบัสกำลังวิ่งไต่ระดับความสูงไปเรื่อยๆ มีเคเบิ้ลคาร์ บริการนักท่องเที่ยวด้วยครับ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 00:48:36

ความคิดเห็นที่ 16 เอาล่ะ รถบัสจอดส่งเราแค่ตรงนี้ นอกกำแพงเมือง ที่เหลือต้องเดินเอาแล้ว จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 00:49:52

ความคิดเห็นที่ 17 หากไม่ใช้ลิฟท์ จะเดินขึ้นไปด้านบน ต้องมาขึ้นที่บันไดนี้ อาร์ตมากๆ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 00:50:57

ความคิดเห็นที่ 18 ป้ายบอกทางไปยังจุดสำคัญ ประเทศนี้ใช้ภาษาอิตาเลียน และเงินยูโร เหมือนกับ อิตาลี เลยครับ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 00:51:49

ความคิดเห็นที่ 19 ด้านหน้าประตู San Francesco ซึ่งเป็นประตูเข้าเมือง จะมีเจ้าหน้าที่ (น่าจะตำรวจ) คอยบอกทางเข้า จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 00:53:16

ความคิดเห็นที่ 20 ตามรายทางที่ลาดชันสูงขึ้น จะมีร้านอาหาร และร้านค้าปลอดภาษี อยู่ตลอดครับ ราคาถูกกว่าใน อิตาลี พอสมควร จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 00:54:12

ความคิดเห็นที่ 21 ร้านอาหารนี้ใช้หุ่นสวมชุดฟุตบอลทีมชาติ ซาน มาริโน่ เรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยว แต่เห็นราคาแล้วหนาวเลย เหอๆ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 00:55:04

ความคิดเห็นที่ 22 พิพิธภัณฑ์แห่งรัฐของ ซาน มาริโน่ ครับ ด้านในจัดแสดงถึงเรื่องราว ประวัติศาสตร์การก่อตั้งชาติที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เปิดให้เข้าชมฟรีครับ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 00:57:07

ความคิดเห็นที่ 23 เดินต่อมาอีกไม่ไกลก็ถึงจัตุรัสใจกลางเมือง Piazza della Liberta มีอาคารชื่อ Palazzo Pubblico ซึ่งถือเป็นอาคารสำคัญที่สุดของประเทศเลย เพราะนอกจากจะเป็นศาลาว่าการเมืองแล้ว ยังเป็นที่ทำการรัฐบาล และเป็นรัฐสภาด้วย ด้านหน้าจะมีรูปปั้น เทพีเสรีภาพ แห่ง ซาน มาริโน่ เป็นสัญลักษณ์คู่กันกับตัวอาคาร จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 00:58:10

ความคิดเห็นที่ 24 ไปเที่ยวด้วยคนครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 00:58:20

ความคิดเห็นที่ 25 หนึ่งในของที่ระลึกครับ สินค้าที่วางเยอะ ที่ผมไม่ได้ถ่ายภาพมา จะเป็นพวกเหรียญยูโร ที่ผลิตใน ซาน มาริโน่ ถือเป็นของหายากมากๆ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 00:58:57

ความคิดเห็นที่ 26 ภาพนี้ได้เห็นบ่อยๆในโปสการ์ดของ ซาน มาริโน่ ครับ เป็นปราสาทหอคอยชื่อ Guaita หรือ "หอคอยแรก" เป็นหอคอยที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุด ในบรรดา "หอคอยทั้งสาม" แห่ง ซาน มาริโน่ ส่วนอีก 2 หอคอยชื่อ Cesta หรือหอคอยที่สอง และ Montale หรือหอคอยที่สาม แต่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวชมแค่ 2 หอแรกเท่านั้นครับ สามารถซื้อตั๋วได้พร้อมกัน แต่ร่างกายต้องฟิตพอสมควรเลยครับ กว่าผมจะขึ้นไปพิชิตได้ทั้ง 2 หอก็แทบหมดแรงทีเดียว แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 54 01:03:09 จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:01:45

ความคิดเห็นที่ 27 ระหว่างทางเดินไปยังตัวปราสาทหอคอย ก็มีจุดชมวิวเป็นระยะๆ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:03:44

ความคิดเห็นที่ 28 มีคนมาเช่าที่เปิดร้านขายของบนนี้ด้วย ร้านนี้เน้นลูกค้าคอกีฬาครับ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:04:12

ความคิดเห็นที่ 29 โห... มีเสื้อป๋าด้วย ... แหงล่ะ คนเค้าดัง อิอิ เสื้อพวกนี้ไม่ใช่ของแท้นะครับ เป็นพวก Replica หรือเสื้อเชียร์ ที่อิตาลี มีขายเยอะมากๆ ทั่วประเทศ คือทำมาให้ดูออกเลยว่าไม่ใช่ของแท้ ตั้งใจมั่วโลโก้ ต่างจากบ้านเรา ก็อปเกรด A เนียนสุดๆ เรื่องนี้พี่ไทย อันดับ 1 ครับ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:04:56

ความคิดเห็นที่ 30 ศิลปินวาดภาพคนเป็นการ์ตูนครับ ทีแรกเค้าไม่มีลูกค้าเลย ผมกับภรรยาเดินผ่าน เห็นซุ้มผลงานแล้วสนใจ ไปเรียกตามถึงในบ้านให้มาช่วยวาด ค่าบริการ ถ้าจำไม่ผิด 5 ยูโร หลังจากนั้นมีแต่นักท่องเที่ยวมายืนมอง และเค้าก็ได้ลูกค้าต่อจากผมเป็นกอบเป็นกำเลยครับ กลายเป็นตัวนำโชคไปเลย จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:06:53

ความคิดเห็นที่ 31 หลังจากเที่ยวปราสาทหอคอย ก็เดินกลับลงมาเที่ยวด้านล่างบ้าง ที่ ซาน มาริโน่ จะมีพิพิธภัณฑ์เยอะมากๆ ทั้งเรื่องตำนานลึกลับน่ากลัว หรือพวกเครื่องทรมานนักโทษก็ยังมี ภาพนี้เป็นภายในพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง หรือ Museo delle Cere ครับ สองผู้นำอื้อฉาว ฮิตเลอร์ และ มุสโสลินี จริงๆมันไม่ควรจะน่ากลัว แต่ทำไมผมกลัวไม่รู้ บอกไม่ถูกว่ากลัวเพราะบรรยากาศ หรือเพราะหุ่นหน้าไม่เหมือนของจริง อันไหนมากกว่ากัน จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:07:41

ความคิดเห็นที่ 32 ที่ผมสนใจคือหุ่นกลุ่มนี้ครับ เรียกว่า Capitani Reggenti พอจะแปลคร่าวๆได้ว่า เป็นผู้นำสูงสุดของประเทศ มาจากการเลือกตั้งนะครับ น่าจะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ซาน มาริโน่ ที่ไม่เหมือนชาติใด จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:08:57

ความคิดเห็นที่ 33 แอบตามมาเที่ยวจากตอนแรกครับ อยากไปเวนิซมากๆ ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ไปกับเค้าบ้างไหมน้อออ จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:10:45

ความคิดเห็นที่ 34 อีกพิพิธภัณฑ์หนึ่ง อันนี้ดูจะน่าสนใจกว่าครับ Museo delle Curiosita จะมาแนว Ripley’s Believe It or Not! ที่ พัทยา บ้านเรา มีการรวบรวมของแปลกทั้งบุคคลและสิ่งของ เห็นทางเข้าแคบๆแบบนี้ ข้างในกว้างมากครับ มีหลายชั้น จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:12:08

ความคิดเห็นที่ 35 ใกล้จะหมดวันแล้วครับ ผมก็เดินเล่นไปเรื่อยๆ ก่อนปิดท้ายที่ มหาวิหารแห่ง ซาน มาริโน่ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:13:32

ความคิดเห็นที่ 36 ได้เวลานั่งรถบัสกลับล่ะครับ ไม่รู้เมื่อไหร่จะมีโอกาสกลับมาเยือนดินแดนนี้อีก แม้มีเวลาเที่ยวแค่วันเดียว แต่ก็เป็น 1 วันที่ประทับใจมาก จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:14:23

ความคิดเห็นที่ 37 กลับถึงหน้าสถานีรถไฟ ริมินี่ แล้วครับ จากภาพนี่เป็นรถบัสคันที่ผมกับภรรยานั่งมา ยังต้องรอต่อรถเมล์อีก กว่าจะถึงที่พักแทบสลบทีเดียว จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:16:04

ความคิดเห็นที่ 38 รุ่งเช้า ได้เวลาเปลี่ยนเมืองอีกครั้ง ค่ำนี้ผมต้องเข้า เวนิซ ดังนั้นมีอีกเมืองที่สามารถแวะเที่ยวได้สะดวกคือ โบโลญญ่า นั่นเอง มาถึงสถานีราว 10 โมงกว่าๆ พอมีเวลาเที่ยวได้พอสมควรล่ะ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:16:54

ความคิดเห็นที่ 39 ออกมาจากสถานีรถไฟ ก็ต้องหาทางเข้าเมือง (แบบมั่วๆ) ก่อนเลย ตรงนี้คือประตู Galliera ครับ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:17:31

ความคิดเห็นที่ 40 เดินไปตามถนน dell’Indipendenza ถนนสายหลักจากสถานีรถไฟ มุ่งเข้าตัวเมือง ..... จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:18:17

ความคิดเห็นที่ 41 อนุสาวรีย์ จูเซ็ปเป้ การิบัลดี้ เห็นกันได้ทั่ว อิตาลี ครับ คนนี้เค้าฮีโร่ตัวจริงของพี่เลี่ยน จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:20:20

ความคิดเห็นที่ 42 วันนี้เป็นวันอาทิตย์ครับ เดินมาตลอดทางเงียบมากๆ มาเจอกลุ่มคนกระจุกกันอยู่ตรงตลาดนัดนี่เอง จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:20:48

ความคิดเห็นที่ 43 มาถึงใจกลางเมืองแล้วครับ Piazza Maggiore ตึกที่เห็นนี้คือ Palazzo d'Accursio เคยเป็นศาลาว่าการเก่าของเมือง เพิ่งเลิกใช้ไปเมื่อปลายปี 2008 นี้เอง จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:21:33

ความคิดเห็นที่ 44 ใกล้ๆกันยังมีจัตุรัสอีกแห่งชื่อ Piazza Nettuno มีน้ำพุ Nettuno หรือ น้ำพุเทพเจ้าเนปจูน เทพองค์เดียวกับที่อยู่กลาง น้ำพุเทรวี่ ที่ โรม ครับ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:22:15

ความคิดเห็นที่ 45 ด้านหน้าของพระราชวัง Podesta ในอดีตเคยใช้เป็นที่ทำการของเทศบาลเมือง และเคยใช้เป็นโรงภาพยนตร์ด้วย ตึกนี้มีอายุมากกว่า 800 ปีแล้วครับ เก่าแก่มากๆ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:22:43

ความคิดเห็นที่ 46 หลังมื้อเที่ยง ยังมีเวลาเหลืออีกพอสมควร ผมก็นึกอะไรบางอย่างออก ว่าแล้วก็ทำเป็นเนียน กางแผนที่ ชวนภรรยาเดินเล่นสำรวจเมือง ลัดเลาะไปตามถนน แต่จริงๆแล้วเป็นทางไปยังสนาม Renato Dall’Ara ของทีม โบโลญญ่า ครับ แห่ะๆ ทีแรกภรรยาไม่รู้ พอเดินไปเรื่อยๆจนเห็นแฟนบอล โบโลญญ่า เดินจับกลุ่มไปมา ถึงได้รู้แกว ก็วันนี้เป็นวันอาทิตย์ และ โบโลญญ่า เอง ก็มีโปรแกรมแข่งในบ้านพอดี ผมเลยอยากไปสัมผัสบรรยากาศแฟนบอลที่หน้าสนามสักหน่อย ที่นี่แหล่ะครับ ร้านประจำของแฟนบอล โบโลญญ่า เค้า .... จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:24:22

ความคิดเห็นที่ 47 เดินๆอยู่ เห็นรถบัสทีม โบโลญญ่า วิ่งผ่านหน้าไปด้วยครับ มัวแต่มองนักเตะ เลยถ่ายภาพไม่ทัน แฟนบอลก็ร้องทัก ปรบมือให้กับขวัญใจของพวกเค้าด้วย เอาล่ะ ถึงสนามแล้ว จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:25:19

ความคิดเห็นที่ 48 ที่นี่เหมือนกับ โรม เลย ถ้ามีเกมแข่งขัน จะปิดถนนด้านหน้าทั้งสาย เพื่อให้แฟนบอลได้เดินเข้าสนามได้สะดวก ตำรวจก็ทำงานกันง่ายขึ้นด้วย เกมวันนี้ โบโลญญ่า จะเปิดบ้านเจอ เจนัว ครับ ผมก็เพิ่งรู้ชื่อทีมเยือนจากหนังสือโปรแกรมที่แจกฟรีหน้าสนามนี่เอง จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:26:06

ความคิดเห็นที่ 49 คู่หนุ่มสาว สาวก โบโลญญ่า พันธุ์แท้ ...... จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:26:44

ความคิดเห็นที่ 50 ตู้ขายตั๋วครับ เอ่อ ... บอกตรงๆว่าเหมือนซุ้มมือปืนเลย คลาสสิคจริงๆ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:27:23

ความคิดเห็นที่ 51 เดินผ่านด้านหน้าสนามแข่งครับ ..... จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:28:10

ความคิดเห็นที่ 52 แฟนบอลที่มีตั๋วแล้ว เริ่มทยอยเข้าสนาม ตอนนี้เพิ่งบ่ายสองนิดๆ อีกเกือบชั่วโมงก่อนแข่ง ผมเริ่มดูนาฬิกาไปมา เอาไงดี จะชวนภรรยาดู กัลโช่ อีกสักเกมดีไหม ทั้งที่รู้ว่ายังไงก็ดูไม่จบเกมแน่ เพราะต้องไปขึ้นรถไฟก่อน 5 โมง เอาแค่ครึ่งแรกก็พอแล้วกลับ .... แต่คิดไปคิดมา ก็เปลี่ยนใจ มาฮันนีมูนกัน ให้เวลาเค้าดีกว่า เพราะผมก็ได้ดู โรมดาร์บี้ ไปแล้ว ไม่อยากเห็นเค้าเจอควันบุหรี่ด้วย จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:30:15

ความคิดเห็นที่ 53 คิดได้แบบนั้น ก็เลยเดินเก็บภาพบรรยากาศรอบๆสนาม ระหว่างนั้นมีเรื่องหนึ่งที่ประทับใจแฟนๆที่นี่ คือผมกับภรรยาถือกล้องถ่ายกันเอง แฟนบอล โบโลญญ่า คนนึงเห็นเข้า นอกจากเสนอตัวมาช่วยถ่ายภาพให้ ยังเอาหมวกมาให้ยืมใส่ด้วย ใจดีจริงๆ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:31:17

ความคิดเห็นที่ 54 เอาล่ะ เดินกลับเข้าตัวเมืองอีกครั้ง อืมม์ .... ตัดเรื่องฟุตบอลไป ..... วันอาทิตย์ นี่มันเงียบสงบดีจริงๆแฮะ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:31:51

ความคิดเห็นที่ 55 ยังดีที่ร้านค้าบางแห่งเปิด เลยแวะช็อปปิ้งนิดหน่อย ผมชอบป้ายนี้ของ Benetton นะ ไอเดียเก๋ดี แต่ทำเอาเข้าใจผิดนึกว่า Benetton มาจาก โบโลญญ่า ถามที่ร้านเค้าเลยรู้ว่าจริงๆมันมาจากเมือง เตรวิโซ่ ต่างหาก จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:33:00

ความคิดเห็นที่ 56 เดินออกมาเจอ หอคอยคู่แห่ง โบโลญญ่า สัญลักษณ์ อันดับ 1 ของเมือง หอคอยด้านซ้ายที่เตี้ยกว่า ชื่อ Garisenda ส่วนอีกหอทางขวาชื่อ Asinelli ทั้งสองหอคอย ดูมุมนี้ เหมือนไม่มีอะไรแปลก แต่ความจริงแล้ว ทั้งสองหอ มีลักษณะเอียงทั้งคู่ครับ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:33:54

ความคิดเห็นที่ 57 เรื่อยเปื่อยด้วยคนค่ะ จากคุณ : bscza เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:34:33

ความคิดเห็นที่ 58 มีเวลาเหลืออีกราวๆชั่วโมง ก่อนไปสถานีรถไฟ ไม่มีไอเดียจะไปไหนแล้ว อยู่ๆความคิดก็แวบมาในหัวครับ เมืองนี้ยังมีสถานที่ที่มีชื่อเสียงระดับโลกอีกแห่ง นั่นคือ มหาวิทยาลัยโบโลญญ่า นั่นเอง ได้ชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1088 หรือราวๆ 923 ปีมาแล้ว และยังคงเปิดทำการสอนถึงปัจจุบัน ไหนๆผมมาถึงถิ่นแล้ว เลยขอไปสัมผัสบรรยากาศหน่อย เดินอย่างเดียวครับ ลัดเลาะไปตามถนน Zamboni ทีแรกนึกว่าจะมีคนเยอะ แต่กลับเงียบเชียบมากๆ คงเพราะเป็นวันอาทิตย์ด้วยมั้ง นักศึกษาไม่มา อยู่บ้านกันหมด จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:34:49

ความคิดเห็นที่ 59 เดินผ่านเขตมหาวิทยาลัยไปจนถึงสุดถนน Zamboni จนเห็นประตู San Donato ก็ถือว่าพอแล้วสำหรับวันนี้ ผมหารถเมล์แถวๆนั้นนั่งไปสถานีรถไฟ ที่จริงๆก็อยู่ไม่ไกลมาก แต่มันเดินไม่ไหวแล้ว อำลา โบโลญญ่า แล้วครับ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:35:46

ความคิดเห็นที่ 60 การเดินทางอันยาวนาน นำไปสู่การงีบหลับเอาแรง ผมตื่นขึ้นมาฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว รถไฟกำลังวิ่งข้ามสะพาน Liberta เข้าสู่เกาะ เวนิซ ครับ ..... จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:37:34

ความคิดเห็นที่ 61 มองออกไปทางขวา เลนของรถยนต์จะถูกแยกออกจากรางรถไฟไปที่ Piazzale Roma ท่าจอดรถของเกาะ รถจะจอดได้ถึงแค่นี้ เพราะมันไม่มีถนนให้วิ่งแล้ว มีแต่คลอง .... จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:38:28

ความคิดเห็นที่ 62 ส่วนผม พอลงจากรถไฟ ก็เข้าที่พัก แล้วออกมาหาอะไรกิน มื้อนี้ขอโซ้ย สปาเก็ตตี้ซีฟู้ด อีกครั้ง กำลังดูเมนูมึนๆอยู่ เห็นโต๊ะข้างๆเค้าสั่ง แล้วยั่วน้ำลายมาก เลยขอตาม และคงเป็นเพราะหิวจัดจนตาลายด้วย รสชาติจึงอร่อยสุดยอดเลยครับ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:40:13

ความคิดเห็นที่ 63 ตื่นเช้าขึ้นมา ก็เริ่มเดินสำรวจ เวนิซ ก่อน เริ่มจากร้านขายพิซซ่า ใกล้ๆที่พัก .... จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:40:51

ความคิดเห็นที่ 64 ตลาดขายผลไม้ครับ ผู้คนแห่มาซื้อกันเยอะทีเดียว จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:41:26

ความคิดเห็นที่ 65 สีสันที่ขาดไม่ได้เลยของ เวนิซ คือหน้ากากหลากหลายรูปแบบ หน้ากากพวกนี้จะใช้กันในงาน คาร์นิวัล ของเมือง ที่จัดกันทุกปี อย่างปี 2011 นี้ ก็เพิ่งจัดไปช่วงปลายเดือน กุมภาฯ ถึงต้น มีนาฯ ที่ผ่านมา จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:42:11

ความคิดเห็นที่ 66 เห็นคลองแล้วครับ ต้องนั่งเรือเล่นเสียหน่อย ....... เวนิซ หรือภาษาท้องถิ่นคือ เวเนเซีย (Venezia) เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่า โรแมนติก ที่สุดในโลกเมืองหนึ่ง เป็นขาประจำสำหรับคู่ฮันนีมูนเลยครับ มันคลาสสิคตรงการใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนเมืองไหนในโลก จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:43:29

ความคิดเห็นที่ 67 เรือกอนโดล่า สัญลักษณ์ของ เวนิซ จอดเรียงรายตามท่าเรือ ..... จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:43:57

ความคิดเห็นที่ 68 เอาล่ะ ได้เวลาขึ้นฝั่ง พิชิตหอคอยอีกครั้งแล้ว ที่เห็นหอสูงๆนี้คือ หอระฆัง San Marco ภรรยาผมไม่บ่นสักคำ เพราะมันมี ลิฟท์ ข้างในนั่นเอง จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:45:24

ความคิดเห็นที่ 69 ขึ้นมาดูวิวจากด้านบน มองลงไปที่ Piazza San Marco เห็นคนตัวเท่ามด จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:46:15

ความคิดเห็นที่ 70 อีกมุมครับ อยู่ข้างบนได้ไม่นานก็ต้องรีบลง เพราะลมแรงมากๆ อากาศบนนี้เวลาลมพัดมา ผมว่าติดลบได้เลยนะ เวลาลงลิฟท์ คนจะแน่นมากๆ คือแย่งกันลงเพื่อหนีความหนาวบนนั้นครับ ผมกับภรรยามารอก่อนคิวแรก เลยไม่มีปัญหา เห็นวัยรุ่นสาวคนนึงที่โดนเจ้าหน้าที่กั้นไว้ตอนลิฟท์เต็มพอดี ถึงกับต้องเอ่ย Please... กันเลยทีเดียว ประมาณว่า ขอไปอีกคนได้ไหม จะแข็งตายอยู่แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ยอมครับ เค้าเน้นเรื่องความปลอดภัยที่เข้มงวดมาก จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:51:24

ความคิดเห็นที่ 71 ลงมาเดินเล่นด้านล่าง เจอช็อป Ferrari ด้วย มีคนให้ความสนใจกันเยอะ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:52:02

ความคิดเห็นที่ 72 ส่วนใหญ่ทุกสายตาจับจ้องไปที่ รถแข่งฟอร์มูล่าวัน ตัวเป็นๆที่นำมาโชว์ ...... มีป้ายติดว่าถ่ายภาพได้ แต่ห้ามถ่ายวิดีโอครับ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:52:53

ความคิดเห็นที่ 73 หลังจากช็อปกันพอหอมปากหอมคอ ได้เวลาเที่ยวจุดสำคัญแล้ว เริ่มจากมหาวิหาร San Marco หนึ่งในสัญลักษณ์ของ เวนิซ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:54:07

ความคิดเห็นที่ 74 Palazzo Ducale หรือ พระราชวังดอจ วังของเจ้าผู้ครองนคร เวนิซ ในอดีต ภายในอลังการมากๆ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:54:38

ความคิดเห็นที่ 75 ปิดท้ายวันนี้ ผมเซอร์ไพรซ์ภรรยา ด้วยการแอบไปติดต่อกะลาสี เรือกอนโดล่า ..... จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:55:08

ความคิดเห็นที่ 76 มารู้ตัวอีกที ผมก็พาลงเรือเรียบร้อยแล้ว อิอิ ..... ผมเองก็เพิ่งเคยนั่งครั้งแรกนี่แหล่ะ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:55:35

ความคิดเห็นที่ 77 เรือกอนโดล่า ออกจากท่าที่ Piazza San Marco แล้วครับ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:56:01

ความคิดเห็นที่ 78 ก่อนที่กะลาสีจะพายลัดเลาะไปตามลำคลองแคบๆ ช่วงนี้อากาศยังหนาวอยู่ ถ้าเป็นหน้าร้อน จะได้เห็นกะลาสีใส่ชุดลายขาว-ดำ มาดหนุ่มเวเนเชี่ยน มาตอน มีนาฯ ก็จะเห็นแต่เสื้อกันหนาวล่ะครับ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:57:04

ความคิดเห็นที่ 79 เอาล่ะ เรือออกจากคลองเล็กๆ มาสู่คลองใหญ่ หรือ Canal Grande แล้ว วิวในฝันเลยครับ ...... จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:58:16

ความคิดเห็นที่ 80 ที่เห็นนี้คือสะพาน Rialto สะพานที่มีชื่อเสียงที่สุดใน เวนิซ ........ ด้านในจะมีร้านค้าต่างๆเหมือนกับ Ponte Vecchio ที่ ฟลอเรนซ์ ครับ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:58:52

ความคิดเห็นที่ 81 ช่วงที่เรือกำลังจะลอดผ่านสะพาน เรือกอนโดล่าลำไหนผ่านมา จะถูกนักท่องเที่ยวถ่ายภาพกันไม่อั้นเลย เพราะไม่ได้ผ่านกันถี่ๆ เจอแบบนี้ ผมกับภรรยาก็เขินเหมือนกันนะ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 02:00:07

ความคิดเห็นที่ 82 ภาพอีกฝั่งครับ สวยงามไม่แพ้กัน จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 02:00:46

ความคิดเห็นที่ 83 ล่องเรือกอนโดล่า ชมบรรยากาศ เวนิซ มาเกือบๆชั่วโมง ก็จบทริปที่ผมตกลงกับกะลาสีไว้ กลับมาที่จุดเดิมตรง Piazza San Marco ครับ จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 02:01:37

ความคิดเห็นที่ 84 เดินเล่นแถวๆนั้นปิดท้าย แม้เป็นช่วงเย็นแล้ว ก็ยังสวยงามอยู่เสมอ ..... จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 02:02:06