ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนไปวัดสระเกศ ขอพาไปดูหอไตรของเทพธิดารามที่ได้รับรางวัล "UNESCO Asia-Pacific Heritage Awards" สำหรับโครงการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมประจำปี 2554 จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 13:48:21

ความคิดเห็นที่ 2 ทางยูเนสโกแยกเป็น 4 ประเภท 4 รางวัล โดยรางวัลที่ประเทศไทยได้มาคือ Award of Merit จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 13:49:09

ความคิดเห็นที่ 3 สมาคมสถาปนิกสยามฯและกรมศิลปากรใช้เวลา 3 ปีเต็ม ในการบูรณะหอไตรนี้ ทำงานอย่างลงลึกรายละเอียดจริง ๆ เพื่ออนุรักษ์งานศิลปกรรม ไม่ว่าจะเป็นลายรดน้ำที่บานประตู หน้าต่าง ลายปูนปั้นซุ้มประตูหน้าต่าง การรื้อฟื้นลวดลายปิดทองอย่างโบราณของเพดานทั้งภายนอกและภายใน การใช้ปูนขาวหมักและปูนตำอย่างโบราณแท้ ๆ โดยกำหนดใช้ปูนขาวหมักเป็นปูนสอ ปูนฉาบ และขัดผิวนอกด้วยปูนตำตามเทคนิคช่างแบบโบราณ เป็นต้น ขอขอบคุณคุณ Cherokee1 ที่ช่วยให้ผมได้เติมเต็มข้อมูลที่น่าภาคภูมิใจของวัดเทพธิดารามและคนไทย จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 13:50:45

ความคิดเห็นที่ 4 วัดสระเกศราชวรมหาวิหารหรือที่เรียกกันสั้นๆว่าวัดสระเกศ อยู่ริมคลองมหานาคและคลองรอบกรุง ใกล้สะพานผ่านฟ้าลีลาศ เป็นวัดโบราณในสมัยอยุธยา เดิมเรียกว่า วัดสะแก จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 13:52:09

ความคิดเห็นที่ 5 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์และขุดคลองรอบพระอาราม แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า วัดสระเกศ ซึ่งแปลว่า ชำระพระเกศา เนื่องจากเคยประทับทำพิธีพระกระยาสนาน (อาบน้ำ) เมื่อเสด็จกรีธาทัพกลับจากกัมพูชามาปราบจลาจลในกรุงธนบุรี และเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติใน พ.ศ. 2325 ................................. พระอุโบสถ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 โดยโปรดให้พวกเขมรจำนวนเป็นหมื่นคนช่วยกันขุดวางฐานรากเมื่อคราวขุดคลองมหานาค จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 13:53:15

ความคิดเห็นที่ 6 มีหลังคาเป็นมุขลด 3ชั้น มุงด้วยกระเบื้องเคลือบและประดับด้วยช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ มุมนี้ของพระอุโบสถจะมองเห็นภูเขาทองได้ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 13:54:14

ความคิดเห็นที่ 8 ใกล้เข้าไปอีกหน่อยจะเห็นใบเสมาคู่ในซุ้มเสมาเพราะเป็นวัดหลวง จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 13:57:55

ความคิดเห็นที่ 9 ซุ้มเสมาที่วัดสระเกศเป็นทรงกูบช้างหรือซุ้มหน้านางประดับกระเบื้องงดงามอลังการมาก ซุ้มเสมาวัดสระเกศนี้มีชื่อเสียงมาก ซึ่งสมเด็จพระมหาสมาณเจ้า กรมพระยาวิชรญาณวโรรส ทรงสรรเสริญไว้ว่า “ซุ้มพัทธสีมาวัดสระเกศวิจิตรสวยงามมาก ควรถือเป็นแบบอย่างได้” จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 13:59:11

ความคิดเห็นที่ 10 บริเวณลานพระระเบียงของวัดสระเกศใช้กระเบื้องสีเหลืองนวล สะอาดสะอ้านจนทำให้อยากนั่งเล่นนอนเล่น จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 14:00:33

ความคิดเห็นที่ 11 ประตูพระอุโบสถประดับด้วยซุ้มวอเป็นช่อชั้นลายรูปปั้นปิดทอง จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 14:01:24

ความคิดเห็นที่ 12 หน้าบันทำจากไม้แกะสลักประดับกระจกสีเป็นภาพนารายณ์ทรงครุฑอยู่ตรงกลาง จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 14:02:03

ความคิดเห็นที่ 13 เหลียวกลับไปมองภูเขาทองอีกครั้ง จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 14:02:51

ความคิดเห็นที่ 14 ควันจากปล่องเมรุเตือนให้นึกถึงความอนิจจังของสังขาร จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 14:04:51

ความคิดเห็นที่ 15 พระอุโบสถซึ่งสร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 ภายในมีจิตรกรรมฝาผนัง ซึ่งเขียนในสมัยรัชกาลที่ 3 แต่ชำรุดจึงมีการลบเขียนใหม่ใน รัชกาลที่ 7 เป็นภาพทศชาติ ภาพมารผจญและภาพไตรภูมิ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 14:06:27

ความคิดเห็นที่ 16 ตามขึ้นบรมบรรพตด้วยคนนะครับ...........ขอบคุณครับที่พาเข้าวัดเข้าวาเป็นประจำ จากคุณ : low batt. เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 14:11:54 A:223.204.241.111 X: TicketID:329936

ความคิดเห็นที่ 17 เชิญตามมาด้วยกันเลยครับคุณlow batt. .............................................. พระประธานเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทอง ปางสมาธิซึ่งไม่ค่อยพบมากนักในงานช่างไทย ลักษณะโดยรวมแล้วใกล้เคียงกับพระพุทธรูปในสมัยอยุธยา เมื่อสร้างพระอุโบสถใหม่ฐานซุกซีสูงกว่าเดิมมาก ทำให้ดูเหมือนว่าพระประธานเดิมที่สร้างด้วยศิลาสลักเป็นปางสมาธินั้นดูเล็กลงไม่สมกับขนาดของพระอุโบสถที่สร้างขึ้นใหม่ รัชกาลที่ 1 จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระประธานใหม่ด้วยการเอาปูนปั้นพอกองค์พระประธานเดิม แล้วลงรักปิดทอง จึงเหมือนว่ามีองค์พระประธานซ้อนกันอยู่สององค์ องค์ใหม่อยู่นอกองค์เก่า ด้วยเหตุนี้จึงไม่พระราชทานชื่อพระประธานประจำพระอุโบสถเพราะเป็นพระที่มีมาแต่เดิมซ้อนอยู่ คนทั่วไปจึงเรียกพระประธานประจำพระอุโบสถว่า พระประธาน จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 14:14:42

ความคิดเห็นที่ 18 ภาพบนผนังสองด้านในพระอุโบสถแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนตอนบนเขียนภาพเทพชุมนุมโดยแบ่งออกเป็น 3 ชั้น จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 14:15:35

ความคิดเห็นที่ 19 ภาพเขียน 2 ชั้นแรกเป็นเทวดา ชั้นที่ 3 เป็นเทวดาสลับยักษ์ ผนังระหว่างช่องหน้าต่างเป็นรูปทศชาติ ตอนล่างเป็นภาพพุทธประวัติ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 14:31:49

ความคิดเห็นที่ 20 ที่ผนังสกัดด้านหน้าเขียนภาพมารวิชัยมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงกลาง พญามาราธิราชผู้มีพระนามว่า วัสวดีมารนฤมิต ที่มีพันแขน ถืออาวุธครบมือกำลังขี่ช้างครีเมขล์ พร้อมด้วยเสนามาร ผจญพระพุทธองค์เพื่อแย่งชิงรัตนโพธิบัลลังค์ด้านหนึ่ง จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 14:33:51

ความคิดเห็นที่ 21 อีกด้านหนึ่งเป็นรูปพญามารกำลังพ่ายแพ้แก่พระพุทธเจ้า มีภาพพระนางธรณีนามว่าพสุนธรีกำลังบีบมวยผมอยู่ใต้พระพุทธบัลลังก์ เหล่าเสนามารกำลังแหวกว่ายไปตามกระแสธาราที่หลั่งออกจากมวยผมพระนางธรณี เหนือกรอบประตูเขียนเป็นรูปพระราหูสีเขียว จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 14:37:04

ความคิดเห็นที่ 22 พระวิหารสูงใหญ่ หลังคามุงด้วยกระเบื้องเคลือบ มีช่อฟ้าใบระกา พระวิหารหลังนี้สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 14:38:08

ความคิดเห็นที่ 23 พระวิหารหลังนี้บ่ายหน้าไปสู่ทิศเหนือ ในรูปนี้เป็นด้านหลังพระวิหาร ถ้าเดินเข้ามาทางภูเขาทองจะเข้าทางด้านหลังนี้ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 14:39:30

ความคิดเห็นที่ 24 เหตุที่สร้างพระวิหารบ่ายหน้าสู่ทิศเหนือนี้มีเรื่องเล่าว่า เมื่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทอดพระกฐินนี่วัดสระเกศนี้ เสด็จมาโดยทางชลมารคผ่านคลองมหานาค เสด็จขึ้นวัดสระเกศทางทิศเหนือ เดิมมีศาลาอยู่ริมคลองมหานาคด้วย ทรงจุดธูปเทียนถวายสักการะพระอัฏฐารสในพระวิหารก่อนแล้วจึงเสด็จเข้าพระอุโบสถ รูปนี้เป็นด้านหน้าพระวิหาร จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 14:45:10

ความคิดเห็นที่ 25 หน้าบันทั้งสองด้านประดับกระจกสี จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 14:45:43

ความคิดเห็นที่ 26 ในพระวิหารแบ่งเป็น 2 ห้อง ห้องทางด้านหน้าเป็นที่ประดิษฐาน พระอัฏฐารสศรีสุคตทศพลญาณบพิตร จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 14:47:49

ความคิดเห็นที่ 27 พระอัฏฐารสศรีสุคตทศพลญาณบพิตร ศิลปะสกุลช่างสมัยสุโขทัยตอนต้น อายุ 700 ปี เป็นประพุทธรูปยืนที่มีความสูงถึง 5 วา 1 ศอก 10 นิ้ว หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ทั้งองค์โดยไม่มีการเชื่อมต่อ เดิมประดิษฐานอยู่วัดวิหารทอง พิษณุโลก วัดประจำพระราชวังจันทน์ ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 14:48:57

ความคิดเห็นที่ 28 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่พระวิหารวัด ธรรมเนียมการสร้างพระอัฏฐารส พระพุทธรูปยืนไว้ประจำพระนคร ของพระมหากษัตริย์ไทยในอดีตเพื่อให้บ้านเมืองสงบสุขปราศจากสงคราม ป้องกันความแตกแยกของคนในชาติ ให้คนในชาติเกิดความรักความสามัคคีและให้ประเทศชาติสถิตสถาพรมั่นคงยั่งยืนนาน ช่วงนี้ท่านคงจะต้องทำหน้าที่หนักหน่อยนะครับ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 14:55:06

ความคิดเห็นที่ 29 นอกจากนั้น พระวิหารพระอัฏฐารสยังใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ บทมหาสมัยสูตร เพื่อทำน้ำพระพุทธมนต์ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชน สืบเนื่องมาแต่สมัยรัชกาลที่ 3 จนถึงปัจจุบัน นับเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 170 ปี ในรูปเป็นช้างโลหะในพระวิหารหน้าองค์พระ ให้ใช้นิ้วเดียวยกเพื่อเสี่ยงทาย จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 14:56:53

ความคิดเห็นที่ 30 ประตูสู่ห้องด้านหลังพระประธาน จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 14:57:50

ความคิดเห็นที่ 31 หลวงพ่อดุสิต มีประวัติว่าเป็นพระประธานประจำพระอุโบสถวัดดุสิตมาก่อน วัดดุสิตนั้นเดิมตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานพระราชวังสวนดุสิต อยู่ใกล้กันกับวัดแหลม ที่มีชื่อเรียกว่าวัดเบญจมบพิตร จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 14:58:54

ความคิดเห็นที่ 32 เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้างพระราชวังดุสิต และสวนดุสิตจำต้องขยายบริเวณเกินเนื้อที่วัดเบญจมบพิตรและวัดดุสิตทั้ง 2 วัด จึงทรงพระราชปรารภสร้างวัดชดใช้วัดทั้งสองขึ้นวัดหนึ่ง คือ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม แล้วจึงได้โปรดให้อัญเชิญพระประธานในพระอุโบสถวัดดุสิตไปประดิษฐานอยู่ใน ห้องด้านหลังพระวิหารพระอัฏฐารสซึ่งว่างอยู่ ภายหลังเรียกกันว่า หลวงพ่อดุสิต ประดิษฐานอยู่ตลอดมาจนทุกวันนี้ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:00:03

ความคิดเห็นที่ 33 ประตูด้านข้างองค์พระไปสู่ห้องด้านหน้า จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:01:39

ความคิดเห็นที่ 34 ออกจากพระวิหารเพื่อเดินไปยังภูเขาทอง ผ่านวิหารหลวงพ่อดำ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:03:16

ความคิดเห็นที่ 35 พระพุทธรูปองค์นี้เป็นพระปั้นปิดทอง ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 4 ศอก ฝีมือปั้นสันนิษฐานว่าเป็นยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นพระพุทธรูปที่คู่กับบรมบรรพต (ภูเขาทอง) มาแต่ต้น เล่ากันว่า สร้างไว้ให้เพื่อเจ้านายและพุทธบริษัททั่วไปที่ไม่สามารถขึ้นไปบูชาบนองค์บรมบรรพตได้บูชาที่พระพุทธรูปองค์นี้ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:05:26

ความคิดเห็นที่ 36 วันที่เราเดินขึ้นภูเขาทอง ตรงภูเขาทองจำลองมีห่านยืนเฝ้าอยู่ ดุด้วย น่ารักดีครับ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:06:07

ความคิดเห็นที่ 37 ระหว่างทางมีระฆังแขวนไว้เป็นราวให้ตีด้วย จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:07:05

ความคิดเห็นที่ 38 ทัศนียภาพด้านหนึ่งจากภูเขาทอง เห็นส่วนสังฆาวาสของวัดสระเกศ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:08:05

ความคิดเห็นที่ 39 สถานที่สำคัญและมีชื่อเสียงมากที่สุดของวัดสระเกศก็คือ พระบรมบรรพต หรือที่เรียกกันติดปากว่า ภูเขาทอง เริ่มสร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 แต่การก่อสร้างพระเจดีย์มีอุปสรรคมากเนื่องจากบริเวณวัดสระเกศนี้อยู่ใกล้ คลอง เป็นที่ลุ่มและดินอ่อนตัวมาก ไม่สามารถทานน้ำหนักของเจดีย์ไหว จึงทรุดตัวลงแม้จะพยายามสร้างใหม่ก็กลับทรุดลงเช่นเดิม จึงได้เลิกราแต่เพียงเท่านั้น จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:09:30

ความคิดเห็นที่ 40 ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้โปรดให้ก่อสร้างภูเขาทองขึ้นใหม่ โดยแปลงพระเจดีย์องค์เดิมให้เป็นภูเขา ก่อพระเจดียไว้บนยอดเขาและพระราชทานนามว่า “ บรมบรรพต ” ภายในพระเจดีย์ของภูเขาทองมีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุอยู่ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:10:54

ความคิดเห็นที่ 41 การก่อสร้างพระบรมบรรพตนี้สำเร็จลงในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งพระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำพระทันตธาตุจำลองมาตั้งในพระคูหาพระเจดีย์บนยอดบรมบรรพตแห่งนี้ ต่อมาเมื่อพระองค์ได้รับพระบรมธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ขุดพบ ที่เมืองกบิลพัสดุ์ ประเทศอินเดีย โดยรัฐบาลอังกฤษ ซึ่งปกครองอินเดียอยู่ในขณะนั้นได้ทูลเกล้าถวาย โปรดให้แห่มาประดิษฐานไว้ในซุ้มพระเจดีย์ยอดบรมบรรพต และโปรดให้สร้างพระเจดีย์น้อยตั้งไว้ในที่บรรจุพระบรมธาตุดังปรากฏอยู่จนทุกวันนี้ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:14:14

ความคิดเห็นที่ 42 บันไดขึ้นไปบูชาพระบรมสารีริกธาตุ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:14:55

ความคิดเห็นที่ 43 พระเจดีย์น้อยที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:15:46

ความคิดเห็นที่ 44 มีคนปิดทองที่พระพุทธรูปหน้าพระเจดีย์น้อยอยู่เกือบตลอดเวลา จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:17:10

ความคิดเห็นที่ 45 เดินขึ้นบันไดไปชั้นบนสุดทีมีพระเจดีย์สีทองที่เห็นเด่นเป็นสง่าอยู่บนยอดภูเขาทอง จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:18:00

ความคิดเห็นที่ 46 ที่แต่ละมุมก็มีพระเจดีย์องค์เล็กให้ผู้คนได้บูชากัน จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:19:23

ความคิดเห็นที่ 47 ด้านหนึ่งขององค์พระเจดีย์มีกระดิ่งให้คนเขียนชื่อไปแขวน คงเป็นความเชื่อที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:20:06

ความคิดเห็นที่ 48 มีการเขียนชื่อลงบนผ้าแดงที่ใช้ห่มองค์พระเจดีย์ และติดธนบัตรบนราว เป็นอุบายแยบยลล่อใจให้คนทำบุญ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:20:56

ความคิดเห็นที่ 49 ตอนขาลง มีฆ้องใบใหญ่ให้ตีด้วย จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:21:28

ความคิดเห็นที่ 50 แวะไหว้พระระหว่างทางลง เข้าใจว่าเป็นวิหารหลวงพ่อโต พระพุทธรูปองค์นี้เป็นพระพุทธรูปหล่อ ปิดทองในสมัยรัชกาลที่ 3 หน้าตักกว้าง 7 ศอก 1 คืบ สูง 10 ศอก นับว่าเป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะที่ใหญ่มากองค์หนึ่ง จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:23:51

ความคิดเห็นที่ 51 หอไตรในวัดสระเกศ นับเป็นหนึ่งความงามของสถาปัตยกรรมในพระพุทธศาสนา ที่สะท้อนสภาพของสังคมช่วงสมัยรัชกาลที่ 1 ได้เป็นอย่างดี จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:24:36

ความคิดเห็นที่ 52 หอไตรวัดสระเกศแต่เดิม ปลูกเป็นเรือนไม้กลางสระน้ำ เพื่อป้องกันปลวกและหนู ตามความนิยมการก่อสร้างหอไตร แต่บัดนี้สระนั้นถูกถมเสียแล้ว จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:26:10

ความคิดเห็นที่ 53 ลักษณะศิลปกรรม มีเฉลียงรอบ หลังคามีช่อฟ้าใบระกา ฝาผนังด้านนอกมีลักษณะเป็นภาพนูนต่ำ เครื่องมงคลแบบจีนสีสันสวยงาม จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:28:48

ความคิดเห็นที่ 54 ฝาผนังภายใน ด้านหน้า จิตรกรรมฝาผนังเป็นภาพปราสาท วิมานและเทพยดา จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:29:34

ความคิดเห็นที่ 55 จิตรกรรมฝาผนังด้านหลังเป็นภาพเขียนแบบจีน จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:30:05

ความคิดเห็นที่ 56 พื้นเป็นไม้แผ่นใหญ่ มีตู้พระธรรมเก่าแก่ที่มีลวดลายทั้งแบบไทยและจีนอยู่หลายใบ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:31:21

ความคิดเห็นที่ 57 ลายรดน้ำที่เขียนบนบานหน้าต่างเป็นรูปฝรั่งสองชาติประจันหน้ากัน ไว้ผมยาวสยายเต็มบ่า ใส่เสื้อเอวกิ่วพร้อมเครื่องประดับอลังการ สวมถุงน่องรองเท้า และหมวกตามยุคสมัย จิตรกรรมฝาผนังเป็นภาพเขียนแบบจีน จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:33:33

ความคิดเห็นที่ 58 ประตูห้องเก็บพระไตรปิฎก จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:34:07

ความคิดเห็นที่ 59 พระไตรปิฎกที่เห็นอยู่นี้เป็นของเก่าที่อยู่คู่มากับวัดสระเกศ ตั้งแต่สมัยพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก กรมศิลปากรมาจัดระเบียบใหม่ เรียงเล่ม เรียงเลข และเรียงเรื่องให้ใหม่หมด จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:35:24

ความคิดเห็นที่ 60 ลาวัดสระเกศออกมาด้วยภาพภูเขาทองหรือพระบรมบรรพตอีกภาพครับ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:36:08

ความคิดเห็นที่ 61 เราไปที่นี่กันต่อครับ ชุมชนบ้านบาตร จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:36:47

ความคิดเห็นที่ 62 เราไปกันสองครั้ง ครั้งแรกเป็นวันอาทิตย์ตอนเย็นเลยผิดหวังกลับมา ครั้งนี้เป็นวันเสาร์ตอนเย็น ฝนกำลังจะตก ก็เลยเก็บภาพมาได้ไม่มาก จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:38:18

ความคิดเห็นที่ 63 วัสดุอุปกรณ์ในการทำบาตรด้วยมือ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:39:21

ความคิดเห็นที่ 64 ตู้แสดงบาตรที่ทำเสร็จแล้ว และบาตรเก่า จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:40:04

ความคิดเห็นที่ 65 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติสนใจเข้ามาดูและซื้อบาตรกลับไปเป็นของที่ระลึก จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:40:40

ความคิดเห็นที่ 66 เราเข้าไปกันเย็นวันเสาร์ก็ยังได้ยินเสียงตีบาตรดังอยู่เป็นระยะๆ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:41:17

ความคิดเห็นที่ 67 มีเด็กๆในชุมชนมาฝึกซ้อมดนตรีกันอย่างสนุกสนาน จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:41:55

ความคิดเห็นที่ 68 หนูน้อยน่ารักคนนี้ ทำท่าสนใจคนหน้าแปลก อิ อิ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:42:49

ความคิดเห็นที่ 69 อีกมุมหนึ่งที่เป็นทั้งที่ทำงานและแสดงสินค้า จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:43:20

ความคิดเห็นที่ 70 ไม่ทันออกจากซอยบ้านบาตร ฝนก็เทลงมาหนักมาก เราเลยแวะร้านอาหารเก่าแก่แถวนั้น ร้านนี้น่าจะอายุหลายสิบปีแล้ว มีโต๊ะเก้าอี้เก่าแก่หลายชุด การตกแต่งกลับมาร่วมสมัยอีกครั้ง จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:44:34

ความคิดเห็นที่ 71 นั่งคอยจนฝนซาลงแล้วจึงออกจากร้าน ถนนหนทางยังเปียกอยู่ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:45:10

ความคิดเห็นที่ 72 เดินทะลุออกมาที่นี่ครับ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:46:07

ความคิดเห็นที่ 73 เสาชิงช้าวัดสุทัศน์ วันฟ้าฉ่ำ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:46:53

ความคิดเห็นที่ 74 เดินต่อไปที่คลองหลอดหน้าวัดราชบพิธ ต้นสายรถ ปอ. 33 กลับปากเกร็ด ลากันด้วยภาพในรถเมล์สาย 33 ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาดู แสดงความเห็นและช่วยกดเก็บเข้าคลังกระทู้ ขอบคุณเว็บไซต์ที่เข้าไปหาข้อมูล phuttha.com, watsrakesa.com, dhammathai.org และ kammatan.com จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 15:48:00

ความคิดเห็นที่ 75 รูปสวย + ความรู้ทางศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์แน่นเชียวค่ะ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ จากคุณ : ZoSha เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 16:03:24

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : tonhok เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 16:11:09

ความคิดเห็นที่ 77 สวยครับ  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 16:42:19

ความคิดเห็นที่ 78 ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ ได้ความรู้มากมายเลยค่ะ จากคุณ : nifedipine เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 17:43:01

ความคิดเห็นที่ 79 เคยแวะไปแต่วัดสระเกศแต่ยังไม่เคยเข้าไปในชุมชนบ้านบาตรเลย คราวหน้าคงต้องแวะไปดูบ้างครับ จากคุณ : Destiny-Boy เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 18:28:00

ความคิดเห็นที่ 81 ตามมาเที่ยววัดสระเกศด้วยคนครับ ผมไม่ได้เข้าวัดนี้นานมากแล้ว ไปทีไรก็ช่วงงานวัดทุกที ต้องหาโอกาสแวะไปตอนช่วงธรรมดาคนน้อย ๆ อยากไปชมหอไตรวัดนี้ที่ดูสวยไม่แพ้ที่อื่นเลย ขอบคุณที่พาไปชมหอไตรวัดเทพธิดารามด้วยนะครับ งดงามจริง ๆ ต้องไปชมด้วยตาตนเองบ้างแล้ว ขอให้รอดปลอดภัยจากน้ำท่วมด้วยนะครับ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 19:33:35

ความคิดเห็นที่ 82 ไม่เคยไปบ้านบาตรเลยค่ะ  ยังนึกๆว่าเค้าทำกันอยู่ตรงไหน ร้านอาหารเก่าแก่นั่นน่านั่งดีนะคะ  ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ จากคุณ : Red-Rose-14Feb เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 19:59:37

ความคิดเห็นที่ 83 แวะมาชมครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : กัปตันลูกชุบ เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 20:23:13

ความคิดเห็นที่ 84 คุณZoSha - ขอขอบคุณสำหรับคำชมครับ คุณtonhok - ด้วยความยินดีครับ คุณเล็กทาโร่ - ขอบคุณครับ คุณnifedipine - ด้วยความยินดีครับ ดีใจที่เป็นความรู้บ้าง คุณDestiny-Boy - ถ้าเป็นไปได้ ควรไปชุมชนบ้านบาตรในวันธรรมดาครับ จะมีการทำบาตรมากกว่า คุณCherokee1 - เสียดายที่่หอไตรวัดเทพธิดารามไม่ได้เปิดวันที่ผมไปก็เลยไม่มีรูปภายใน                         ขอบคุณสำหรับความปรารถนาดีครับ ถ้าพนังกั้นน้ำไม่แตกผมคงจะรอดครับ คุณRed-Rose-14Feb - ถ้าเดินไปใกล้ๆจะได้ยินเสียงตีบาตรชัดเจนไม่พลาดแน่ๆครับ                                วันนั้นสั่งก๋วยเตี๋ยวผัดไก่ อร่อยด้วยครับ คุณกัปตันลูกชุบ - ยินดีที่แวะมาครับ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 21:00:05

ความคิดเห็นที่ 85 ชอบกระทู้ทุกๆกระทู้ของคุณจขกท ค่ะ เริ่มตั้งแต่หลายเดือนก่อนที่จขกท ไปเที่ยวปักกิ่ง แล้วพอไปเที่ยวพิพิทธภัณฑ์(สะกดยังไง)ที่ปักกิ่ง ชอบมากกกกก สองคนนนี่เที่ยวเก่งจังเลย วัดสะเกดสวยมากกก ไม่เคยไปเลยแต่คราวหน้าปิ๊กบางกอกจะต้องไปเที่ยวแน่ๆค่ะ กดเก็บเข้าคลังกระทู้แล้วค่ะ จากคุณ : flymom เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 21:16:51

ความคิดเห็นที่ 86 สวัสดีครับคุณflymom จำได้ครับว่าคุณflymom เป็นคนหนึ่งที่ขอให้ผมเอารูปพิพิธภัณฑ์ Capital Museum ในปักกิ่งมารีวิว เราเที่ยวไม่เก่งหรอกครับ เทียบกับเซียนๆในห้องบลูฯนี่แล้ว เดะๆมากครับ อิ อิ เพียงแต่ตอนนี้ยังมีกำลังพอและเราชอบเดินถือว่าออกกำลังไปในตัว ภาระอะไรก็ไม่มี ก็เลยเที่ยวเสียก่อนจะเที่ยวไม่ไหวครับ จะปิ๊กบางกอกแสดงว่าเป็นสาวเหนือ ผมหลงเสน่ห์แดนล้านนาไปเที่ยวยาวๆสองปีติดกันแล้วครับ เสียดายที่รีวิวปีแรกหายไปแล้ว เหลือแต่ปีที่สอง ปีนี้ทีแรกตั้งใจว่าถ้าไม่ไปบาหลีจะไปตระเวนเหนืออีกแต่น้ำคราวนี้อาจจะต้องวืดเสียแล้วเพราะวันหยุดหวานใจเป็นช่วงนี้ไม่กล้าทิ้งบ้านไปเที่ยว ลองเข้าไปอ่านดูเล่นๆที่กระทู้นี้ มีอะไรจะกรุณาแนะนำเผื่อไปคราวหน้าจะขอบคุณมากเลยครับ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9865540/E9865540.html จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 23:39:46

ความคิดเห็นที่ 87 ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 14:36:31

ความคิดเห็นที่ 88 ภูเขาทองเคยไปมาแล้ว ส่วนชุมชนบ้านบาตรยังไม่เคยไป ขอบคุณที่พาเที่ยวนะคะ ปล ขอให้น้ำไม่ท่วมบ้านคุณ splendour นะคะ บ้านเราก็ใกล้แล้วเหมือนกัน สู้ๆนะคะ จากคุณ : Someone In This World เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 18:32:45

ความคิดเห็นที่ 89 คุณสาวหน้าใส - ด้วยความยินดีครับ คุณSomeone In This World - ชุมชนบ้านบาตรน่าเข้าไปดู คนในชุมชนอัธยาศัยดีมากครับ ยินดีตอบคำถามอย่างภาคภูมิใจในอาชีพของตน                                           ขอบคุณสำหรับความปรารถนาดีครับ ขอให้บ้านคุณ Someone In This World แคล้วคลาดจากน้ำท่วมเช่นกัน จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 21:16:01

ความคิดเห็นที่ 90 ลอยคอหนีน้ำมาเที่ยววัดด้วยคนครับ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 19 ต.ค. 54 19:03:11

ความคิดเห็นที่ 91 หวังว่าบ้านคุณลุงแบกเป้ จะแคล้วคลาดจากน้ำท่วมนะครับ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 54 11:51:12

ความคิดเห็นที่ 92 ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^ จากคุณ : สามแซ่ เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 18:23:47

ความคิดเห็นที่ 93 ด้วยความยินดีครับคุณสามแซ่ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 20:21:23