|
พอฉันได้ฟังเจ้าหน้าที่ สนามบินพูดจบ ในใจก็คิดถึง ตากับยายของฉัน ถ้าท่านยังไม่เสีย ก็จะอายุรุ่นๆนี้สินะ งานมิตติ้งคราวที่แล้ว ที่ห้องบลูจัด ฉันยังนอนเฝ้าตา อยู่โรงพยาบาล ( นอนใต้เตียงโรงพยาบาล) แต่เนื่องจาก
มันอยากไปงานมิตติ้งมาก เพราะเครียด กล้วตาจะเสีย เหมือนอยากปลด ปล่อย ให้ตัวเองสบายใจ และคงหาโอกาสไปยาก เหมือนคราวนี้ ที่ฉันก็ อยากจะไปอีก แต่ก็ไปไม่ได้ เพราะว่าฉันอยู่ไกล
........................................................................................
พอหลังจากที่เจ้าหน้าที่เดินเข้ามาถาม เวลาล่วงเลยผ่านไปกว่าสิบนาที เจ้าหน้าที่ท่านเดิม ก็ได้พาคุณยายมาหาคุณตา ( ในทีสุด ก็หากันเจอ ) คุณยายมาถึง ใส่ชุดใหญ่เลย ฉันฟังออกบ้า ไม่ออกบ้าง ( คุณยายพูดเยอรมัน ) แต่คุณยายไม่ได้พูดใส่อารมณ์ พูดเหมือนตัดพ้อ น่าสงสารคุณยาย ที่หลงทาง กับคุณตา และ ฉันก็ดูออกว่า คุณตาห่วงแค่ไหน ฉันก็เลย เข้าไปสอเสือใส่เกือก เรื่อง ของชาวบ้านหน่อย
" ฉันเห็น คุณตา เดินไปหาคุณหลายครั้งเลย เขาเป็นห่วงคุณมาก "
คุณยายหันมายิ้มให้ฉัน แกพูดไปเหนื่อยไป หัวสั่น มือสั่น เวลาแกพูด คุณยายจะเอียงหัวตลอดเวลา
บังเอิญ ฉันมีหมอน ที่เอามาจากเมืองดึสเซลดอฟอยู่สองใบ วางอยู่บนรถเข็ญ ที่ใช้เข็ญของในสนามบิน ฉันก็เลยลุกให้คุณยายนั่ง
" นุ่มจังเลยนะ " ... อิท ทิส เวรี่ ซอฟ คุณยาย พูดกับฉันเป็นภาษาอังกฤษ และชวนคุยหลายอย่าง แกเล่าว่าแกไปทั่วเที่ยวโลกเลย
" เคยไปเมืองไทย หรือยัง " ฉันถาม คุณยายบอกว่า เคยไปภูเก็ต ไม่มีคำพูด ที่ทำให้ฉันระคายเคืองหู ที่ฉันกลัวลึกๆ ในใจ ถึงแม้ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องจริงที่ ประเทศไทยเป็นอยู่มานาน แต่คุณยาย เล่าไป หน้าตามีความสุข
ฉันพูดอังกฤษบ้างกับคนยาย ( ดูเหมือนคุณยาย ชอบพูดภาษาอังกฤษ ) แต่ฉัน ก็อยากฝึกพูดเยอรมันมากกว่า ก็เลยเปลี่ยนเป็นเยอรมันบ้าง อังกฤษบ้าง
คุณยาย บ่นว่าเหนื่อยหลายครั้ง วันนั้น เป็นวันทีฉันรอรถนานมากที่สุดในชีวิต ( ในประเทศเยอรมัน ) เป็นเวลาเกือบสองขั่วโมง
ทั้งๆที่ จริงๆแล้ว เวลาตามกำหนดเดินทาง รอไม่กี่นาทีรถก็ต้องมา แต่มันติดงาน ที่จัดประจำสองปีทีหนึ่ง ( คล้ายงาน เอ๊กโปร ที่เมืองไทย ) รถติดมาก เพราะงานเปิด วันแรก ฉันยังคิดในใจอยู่เลยว่า ถ้าคุณยายไม่ได้นั่งนะ คงแย่เลย เพราะฉันก็ยัง เหนื่อยเลย
คุณยายนั่งสักพัก ก็เหนื่อย แล้วก็ยืน พอยืนสักพักก็เหนื่อย เราสองคนคุยกันสนุกมาก บางทีคุณยายจำไม่ได้ว่าไปไหน ก็เรียกถามสามี
และจู่ๆ คุณยายก็เรียกสามี และพูดว่า
" กางเกง คุณหลุด ลงมากองที่พื้นแหนะ " ฉันเกือบจะหัวเราะออกมาก แต่ก็ทำหน้าตา เหมือนกันฉันไม่ได้ยิน บางทีแกอาจแก่มาก แต่ก็รักในการท่องเที่ยว
สามี ได้ยินคุณยายบอก หันมาดูหน้านิดนึง ก้มดูกางเกงตัวเอง แล้วก็ชะโงกหน้ามอง ดูรถว่ามาหรือยังต่อไป
สองสามีภรรยา มาจากประเทศออสเตรีย เมืองเวียนนา เขียนชื่อที่อยู่ให้ฉันพร้อมเบอร์โทร และกำชับว่า หากไปเวียนนา ให้โทรหาเขา
เราถ่ายรูปคู่กัน ฉันจะไม่ลืมคู่รักคุ่นี้เลย ที่ทั้งสองรักกันจนแก่เฒ่า ฉันอยากจะมีรักที่นิรันดร์ แบบนี้บ้าง ฉันดูสายตาทั้งคู่แล้ว รับรู้ถึงความรักของทั้งสองคนที่มีต่อกันได้จริงๆ
คุณยายทาปาก สีแดงแป๊ด ท่านบอกกับฉันว่าท่านชอบแต่งตัวสวยๆ ของในกระเป๋าใบใหญ่ ทังสองใบนั้นเกือบทั้งหมด เป็นของคุณยายเอง ไปเที่ยวล่องเรือสองอาทิตย์ คุณยายจะะแต่งตัว สวยๆ ทุกวัน และเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่ซ้ำกันเลย
ระหว่างเดินทาง ทั้งไปและกลับ ฉันได้พูดคุยกับกับผู้คน จากอินโดนีเซีย คนหนึ่ง จากเมืองคีล เหมือนกันกับฉันอีกคนนึง รวมทั้งคุณยายและคุณตาสองท่านนี้ เป็นการเดินทางอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งฉันประทับใจ
ประทับใจในความเป็นห่วงเป็นใย ของคู่รัก ที่ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพรช มีช่วงหนึ่ง คุณยายพูดว่า ห่วงตา ที่ยังไม่กินอะไรเลย ฉันสะสมสะเบียงไว้เยอะ ปกติก็เป็นโรคบ้าหอบฟาง อยู่แล้ว ฉันส่งขนมให้คุณยาย บอกว่า เอาไปให้คุณตากินสิ
คุณยายเรียกคุณตามา แล้วยื่นขนมให้ แล้วคุณตายังอุตส่าห์ เอาช๊อกโกแลต ที่ได้รับแจกจาก สายการบิน แอร์เบอร์ลิน เป็นรูปหัวใจหล่อนใส่กระเป๋าให้ฉันเลย อิอิ ฉันก็ได้ แต่แกกินตั้งแต่ ลงเครื่องตอนแรกแล้ว
จากที่ตอนแรกมีคนรอรถอยู่ แค่สามคน ฉันมาเป็นคนที่สี่ เวลาผ่านไปกว่าชั่วโมง รถก้ไม่มาเสียที จนคุณยายบอกว่า ถ้าอีก ห้านาที รถไม่มา จะเรียกแท๊กซี่ และจะให้ฉันติดรถไปด้วย ( ค่ารถเมล์ ประมาณ 18,50 ยูโร ) ถ้าไปแท๊กซี่ ไม่เป็นร้อยยูโร เลยเหรอ ฉันคิดในใจ ฉันมองดูคนรอบๆตัวอีกที คนเยอะ จนจนกลัวว่า รถจะจุคนทั้งหมดไม่ครบ จนถามพ่อหนุ่มคนหนึ่ง ที่คอยรายงานสถานการณ์ น้ำท่วม ไม่ใช่ เขาคอยรางานสถานการณ์ ว่าทำไม รถไม่มาเสียที เพราะเขาโทรไปถามที่ศูนย์
เขาบอกว่า อย่างนี้ สงสัย รถจะมาพร้อมกันสองคนเลย ที่คนมารพมาก เพราะว่า พวกเขาจะเดินทาง ไปที่เมืองคีล เหมือนกัน กับฉัน เพราะว่า มีเรือลำใหญ่ นำเที่ยวหลายลำ เพราะเป็นท่าเรือ ฉันยังอยาก จะล่องเรือ แบบนั้นเหมือนกันเลย
และนี่ก็คือ เรื่องราว ที่ฉันจะเอามาฝากทุกคน และฝรั่งสองคนที่ฉันจะเอามาฝากป้าเกษ ก็คือ รูป ฝรั่งสองคนตายาย และ ฉันเอง ที่ถ่ายที่สนามบิน ฮัมบวร์ก
แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 54 17:03:27
แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 54 01:15:36
จากคุณ |
:
นิรันดร ศรสวรรค์ (enduresexy)
|
เขียนเมื่อ |
:
18 ต.ค. 54 00:57:28
|
|
|
|
|