ความคิดเห็นที่ 1 วัดใหญ่ชัยมงคลสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้นคือในรัชสมัยของสมเด็จพระรามาธิปดีที่ 1 หรืออีกพระนามหนึ่งคือ สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง พระมหากษัตริย์ผู้สถาปนากรุงศรีอยุธยา จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 21:41:12

ความคิดเห็นที่ 2 เจดีย์ชัยมงคล อนุสรณ์แห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ ่ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงรบชนะ มังกะยอชวาพระมหาอุปราชของหงสาวดี ที่ตำบลหนองสาหร่าย จังหวัดสุพรรณบุรี จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 21:46:10

ความคิดเห็นที่ 3 ในครั้งนั้นพม่าได้ยกทัพเข้ามาในขอบขันฑสีมา สมเด็จพระนเรศวรฯ และสมเด็จพระเอกาทศรถผู้เป็นพระอนุชาจึงได้นำทัพไปรับศึก และได้ขับช้างเข้าไปอยู่ในวงล้อมของข้าศึกทีคอยระดมยิงปืนเข้าใส่พระองค์และพระคชาธาร โดยที่เหล่าแม่ทัพนายกองวิ่งตามพระองค์มาไม่ทันพระองค์จึงประกาศด้วยพระสุรเสียงอันดังว่า พระเจ้าพี่เราจะยืนอยู่ไยในร่มไม้เล่าเชิญออกมาทำยุทธหัตถีด้วยกัน ให้เป็นเกียรติยศไว้ในแผ่นดินเถิด ภายหน้าไปไม่มีกษัตริย์ที่จะได้ยุทธหัตถีแล้ว พระอุปราชของพม่าจึงไสช้างออกมาทำยุทธหัตถี สมเด็จพระนเรศวรได้ทรงใช้พระแสงพลพ่ายฟาดฟันพระอุปราชขาดตะพายแล่ง จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 21:54:10

ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อกลับมาสู่พระนครแล้ว พระองค์ก็จะลงโทษเหล่าทหารที่ตามพระไปไม่ทันตอนกระทำศึกยุทธหัตถี ซึ่งตามกฏระะเบียบแล้วต้องโทษถึงขึ้นประหารชีวิต ช่วงเวลาที่รออาญาสมเด็จพระพันรัตน์ พระสังฆราชพร้อมด้วยพระสงฆ์ 25 รูปได้ขอให้พระนเรศวรพระราชทานอภัยยกเว้นโทษให้กับทหารเหล่านั้น โดยให้เหตุผลว่าพระองค์เปรียบดังพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่แวดล้อมด้วยหมู่มารก่อนที่จะตรัสรู้ เป็นการประกาศเกียรติและบารมีความกล้าหาญและเก่งกาจของพระองค์ให้ขจรกระจายไปทั่วแคว้นทั่วแผ่นดิน สมเด็จพระนเรศวรจึงโปรดให้สร้างเจดีย์องค์ใหญ่ขึ้น เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะและความมีน้ำพระทัยของพระองค์ ที่มีต่อเหล่าทหารเหล่านั้น และพระะราชทานนามว่า “เจดีย์ชัยมงคล” จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 21:55:58

ความคิดเห็นที่ 5 เรื่องราวสำคัญในประวัติศาสตร์ของวัดใหญ่ชัยมงคลหรือชื่อเดิมคือวัดป่าแก้วมีอยู่ว่า พระอุโบสถของวัดเคยเป็นที่ซึ่งคณะคิดกำจัดขุนวรวงศาธิราชกับท้าวศรีสุดาจันทร์มาประชุมเสี่ยงเทียนอธิษฐาน ได้รับผลสำเร็จจึงอัญเชิญพระเฑียรราชาลาผนวช ขึ้นครองราชสมบัติทรงพระนามว่า สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 21:57:05

ความคิดเห็นที่ 6 พ.ศ. 2104 ในรัชกาลของสมเด็จพระมหาจักรพรรดินั้นเอง ได้มีพระบรมราชโองการให้เอาสังฆราชวัดป่าแก้วไปสำเร็จโทษ ฐานฝักใฝ่ให้ฤกษ์ยามแก่ฝ่ายกบฎพระศรีศิลป์ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 21:58:29

ความคิดเห็นที่ 7 ขอเอารูปพระเจดีย์ให้ดูกันหลายๆมุมให้คลายความคิดถึงลงบ้าง จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 21:59:12

ความคิดเห็นที่ 8 หลังน้ำลดไปเที่ยวอยุธยาเพื่อเป็นกำลังใจและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจกันนะครับ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:00:25

ความคิดเห็นที่ 9 ด้านหลังของพระอุโบสถ ด้านที่อยู่ติดกับพระเจดีย์ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:00:57

ความคิดเห็นที่ 10 ในพระอุโบสถมีผู้คนมาทำบุญไหว้พระกันมากมายไม่ขาดสายเนื่องจากเป็นวันหยุด จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:01:28

ความคิดเห็นที่ 11 ด้านหน้าของพระอุโบสถและพระเจดีย์ชัยมงคลที่อยู่ด้านหลัง จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:02:44

ความคิดเห็นที่ 12 วัดที่เราไปอีกวัดหนึ่งในวันนั้น จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:03:22

ความคิดเห็นที่ 13 วัดราชบูรณะ มีฐานะเป็นพระอารามหลวงในสมัยอยุธยา จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:03:52

ความคิดเห็นที่ 14 ภายในวัดประกอบด้วยองค์ปรางค์ประธาน ซึ่งล้อมรอบด้วยระเบียงคต มีพระวิหารตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก ส่วนพระอุโบสถตั้งอยู่ทางด้านหลังของวัดทางทิศตะวันตกในแนวเดียวกัน จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:05:24

ความคิดเห็นที่ 15 วัดราชบูรณะปรากฏอยู่ในพระราชพงศาวดารว่า สร้างขึ้นในแผ่นดินสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือ เจ้าสามพระยา ในปี พ.ศ. 1967 จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:05:57

ความคิดเห็นที่ 16 ภายหลังจากสมเด็จพระนครินทราธิราชาสวรรคตพระราชโอรสองค์ใหญ่สองพระองค์ คือเจ้าอ้ายพระยาทรงครองเมืองสุพรรณบุรีและเจ้ายี่พระยาทรงครองเมืองสรรค์บุรี สองพระองค์เสด็จลงมาชิงพระราชสมบัติกันเองต่างทรงช้างเคลื่อนพลมาปะทะกัน ทรงพระแสงของ้าวต้องพระศอขาดพร้อมกัน เจ้าสามพระยาทรงเป็นโอรสองค์ที่สาม เสด็จลงมาจากชัยนาทมาถึงภายหลัง จึงได้เสวยราชสมบัติ ทรงพระนามว่าสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:07:39

ความคิดเห็นที่ 17 เมื่อเจ้าสามพระยาทรงขึ้นครองราชย์แล้ว จึงจัดการถวายเพลิงพระศพพระเชษฐาธิราชทั้งสองพระองค์พร้อมกัน สถานที่ที่ถวายพระเพลิงนั้น ก็ทรงอุทิศสร้างพระปรางค์และพระวิหารมีนามว่า เจดีย์เจ้าอ้ายพระยาเจ้ายี่พระยา จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:08:50

ความคิดเห็นที่ 18 ปรางค์ประธาน มีขนาดสูงใหญ่ ก่อด้วยศิลาแลงบนฐานสี่เหลี่ยม มีเจดีย์อยู่ทั้งสี่ทิศ มีบันไดขึ้นสู่องค์ปรางค์ทางทิศตะวันออกถือเป็นปรางค์แบบไทยที่นิยมทำฐานสูง ต่างจากปรางค์แบบขอมที่มักมีฐานเตี้ย จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:10:13

ความคิดเห็นที่ 19 นอกจากนี้หน้าปรางค์เป็นมุขใหญ่ยื่นออกมาเป็นห้องคูหา ส่วนยอดเรียวแหลมสูง คล้ายฝักข้าวโพด ยอดมีฝักเพกาในขณะที่ขอมไม่มี จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:10:53

ความคิดเห็นที่ 20 วัดราชบูรณะ โด่งดังมากในเรื่องการขุดพบเครื่องทองมากมายในกรุพระปรางค์ใหญ่ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:13:04

ความคิดเห็นที่ 21 เมื่อ พ.ศ. 2500 คนร้ายได้ลักลอบขุดโบราณวัตถุที่ฝังไว้ในกรุปรางค์ประธานวัดราชบูรณะ โดยขุดเจาะจากพื้นคูหาเรือนธาตุลงไปพบห้องที่ฝังโบราณวัตถุไว้ 2 ห้อง ต่อมาทางราชการติดตามจับคนร้ายและยึดโบราณวัตถุได้เพียงบางส่วน จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:14:08

ความคิดเห็นที่ 22 โบราณวัตถุในกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะทำด้วยทองคำ สำริด หิน ดินเผาและอัญมณี เมื่อกรมศิลปากรขุดแต่งพระปรางค์วัดราชบูรณะต่อ ได้นำโบราณวัตถุที่มีค่าไปเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:15:28

ความคิดเห็นที่ 23 รูปสมบัติล้ำค่าเหล่านี้เป็นรูปจากเวบไซต์ oknation.net สุวรรณมาลา จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:17:10

ความคิดเห็นที่ 24 พระคชาธารทองคำประดับอัญมณี จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:17:43

ความคิดเห็นที่ 25 ชิ้นส่วนยอดพระปรางค์จำลองทองคำ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:18:08

ความคิดเห็นที่ 26 แผ่นทองคำดุนลายประดับทับทิมพระพุทธรูปปางมารวิชัยประทับในซุ้มเรือนแก้วใต้ร่มโพธิ์ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:18:38

ความคิดเห็นที่ 27 เจดีย์จำลองทองคำประดับอัญมณี  ภายในบรรจุพระพุทธรูปทองคำ  เจดีย์จำลองแก้วผลึกและจารึกลานทอง จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:20:09

ความคิดเห็นที่ 28 วัดสุดท้ายที่ไปในวันนั้นคือวัดมหาธาตุ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:21:07

ความคิดเห็นที่ 29 วัดมหาธาตุเป็นพระอารามหลวง ตั้งอยู่ใกล้วัดราชบูรณะ ในบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:21:43

ความคิดเห็นที่ 30 สร้างในสมัย สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 (ขุนหลวงพะงั่ว) เมื่อปี พ.ศ. 1917 แต่ไม่แล้วเสร็จ ทรงเสด็จสวรรคตเสียก่อน และได้สร้างเพิ่มเติมจนเสร็จในสมัยสมเด็จพระราเมศวร จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:23:01

ความคิดเห็นที่ 31 สมเด็จพระราเมศวร ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระปรางค์ประธาน และอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้ใต้ฐานพระปรางค์ประธานของวัดมหาธาตุ เมื่อปี พ.ศ. 1927 จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:24:14

ความคิดเห็นที่ 32 วัดมหาธาตุ หมายถึงวัดอันเป็นที่สถิตของพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า การสร้างพระเจดีย์ขนาดใหญ่เอาไว้ในเมือง ซึ่งถือสมมุติว่าพระเจดีย์นั้นเป็นที่สถิตของพระบรมสารีริกธาตุ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:25:10

ความคิดเห็นที่ 33 วัดที่ถือว่าเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์มักจะมีชื่อว่า วัดมหาธาตุ หรือวัดพระศรีมหาธาตุ หรือวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ปรากฏโดยทั่วไปในทุกภูมิภาค จารีตดังกล่าวนี้จะเริ่มในสมัยใดนั้นไม่ทราบได้ แต่หากจะพิจารณาเฉพาะอาณาจักรอยุธยาจะเห็นได้ว่าธรรมเนียม ดังกล่าวเริ่มตั้งแต่สมัยแรกๆ ทีเดียว จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:26:37

ความคิดเห็นที่ 34 วัดมหาธาตุจึงเป็นวัดที่สำคัญที่สุดวัดหนึ่งของอาณาจักร ในฐานะที่เป็นตัวแทน ของพระพุทธเจ้า หากจะพิจารณาดูสถานที่ตั้งก็จะเห็นว่าอยู่ใกล้ชิดกับพระบรมมหาราชวัง เป็นอย่างยิ่ง จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:27:17

ความคิดเห็นที่ 35 ดังนั้นวัดนี้จึงเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายคามวาสีมาตลอดจนสิ้นกรุงศรีอยุธยา ส่วนพระสังฆราชฝ่ายอรัญวาสีนั้น ประทับอยู่ที่วัดใหญ่ชัยมงคลหรือสำนักวัดป่าแก้ว จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:28:19

ความคิดเห็นที่ 36 ความสำคัญของวัดมหาธาตุนั้น นอกจากจะเป็นที่ประดิษฐานองค์พระบรมสารีริกธาตุแล้ว ยังถือเป็นวัดที่เป็นศูนย์กลางเมืองและเป็นสถานที่จัดพระราชพิธีต่างๆ ของกรุงศรีอยุธยาอีกด้วย จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:29:07

ความคิดเห็นที่ 37 อีกทั้งยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ตามพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา คือได้เคยเป็นสถานที่ที่พระศรีสิน (สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม) และจมื่นศรีเสาวรักษ์พร้อมคณะ ได้ซุ่มพลที่ปรางค์วัดมหาธาตุ ก่อนยกพลเข้าพระราชวังทางประตูมงคลสุนทร เพื่อจับกุมพระศรีเสาวภาคย์ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:30:36

ความคิดเห็นที่ 38 มาเข้าวัดเข้าวาด้วยคนนะครับ...................ขอบคุณครับสำหรัยรีวิว จากคุณ : low batt. เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:31:25 A:223.204.0.20 X: TicketID:329936

ความคิดเห็นที่ 39 พระปรางค์วัดมหาธาตุถือเป็นปรางค์ที่สร้างในระยะแรกของสมัยอยุธยา ได้รับอิทธิพลจากปรางค์ขอม ชั้นล่างก่อสร้างด้วยศิลาแลง แต่ที่เสริมใหม่ตอนบนเป็นอิฐถือปูน จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:31:54

ความคิดเห็นที่ 40 สวัสดีครับคุณlow batt. เชิญเลยครับ ........................................... สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ได้ทรงปฏิสังขรณ์พระปรางค์ใหม่ โดยเสริมให้สูงกว่าเดิม แต่ขณะนี้ยอดพังลงมาเหลือเพียงชั้นมุขเท่านั้น จึงเป็นที่น่าเสียดายเพราะมีหลักฐานว่าเป็นปรางค์ที่มีขนาดใหญ่ และก่อสร้างอย่างวิจิตรสวยงามมาก จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:34:32

ความคิดเห็นที่ 41 เมื่อ พ.ศ. 2499 กรมศิลปากรได้ขุดแต่งพระปรางค์แห่งนี้ พบของโบราณหลายชิ้นที่สำคัญคือ ผอบศิลา ภายในมีสถูปซ้อนกัน 7 ชั้น แบ่งออกเป็น ชิน เงิน นาก ไม้ดำ ไม้จันทร์แดง แก้วโกเมน และทองคำ ชั้นในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและเครื่องประดับอันมีค่า ปัจจุบันพระบรมสารีริกธาตุนำไปประดิษฐานไว้ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:36:42

ความคิดเห็นที่ 42 พระปรางค์ประธาน เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมยกสูง โดยมีระเบียงคดล้อมรอบทั้งสี่ด้าน โดยมีปรางค์บริวารประจำอยู่ทั้งสี่ทิศ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:39:28

ความคิดเห็นที่ 43 พระอุโบสถ ตั้งอยู่ด้านหลังปรางค์ประธาน ผนังก่ออิฐเหลืออยู่บางส่วน ภายในปรากฏเสาแปดเหลี่ยม ด้านหลังเป็นที่ตั้งของฐานชุกชี จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:40:21

ความคิดเห็นที่ 44 มองจากพระอุโบสถไปยังพระปรางค์ประธาน จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:40:52

ความคิดเห็นที่ 45 พระปรางค์ประธานในมุมที่ไกลออกไปอีกหน่อย จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:41:38

ความคิดเห็นที่ 46 เวลาเดินชมวัดในอยุธยา จะรู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่งดงาม จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:42:12

ความคิดเห็นที่ 47 วิหารนี้อยู่ริมด้านหนึ่งของวัด ลืมถ่ายรูปป้ายมาเลยไม่ทราบว่าเป็นวิหารอะไรครับ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:43:28

ความคิดเห็นที่ 48 สิ่งที่น่าสนใจในวัดมหาธาตุอีกอย่างคือ เศียรพระพุทธรูปหินทราย ซึ่งมีรากไม้ต้นโพธิ์ปกคลุมอยู่ โดยเศียรพระพุทธรูปนี้ เป็นพระพุทธรูปหินทรายเหลือแค่ส่วนเศียร สำหรับองค์พระนั้นหายไป เข้าใจว่าเศียรพระพุทธรูปนี้จะหล่นลงมาอยู่ที่โคนต้นไม้ ในสมัยเสียกรุง จนรากไม้ขึ้นปกคลุมทำให้มีความงดงามแปลกตา ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาดู แสดงความเห็นและช่วยกดเก็บเข้าคลังกระทู้ ขอบคุณเว็บไซต์ที่เข้าไปหาข้อมูล watboran.wordpress.com, holidaythai.com, oknation.net และ kapook.com จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 22:47:12

ความคิดเห็นที่ 49 ถ่ายรูปมาสวยจังเลยค่ะ  วัดและพราะปรางค์งามมากจริงๆ  ตอนนี้คงจะถูกสายน้ำมาเยี่ยมเยือนแต่ก็หวังว่าโบราณสถานเหล่านี้จะยังคงอยู่ให้ลูกหลานได้ชื่นชมและภูมิใจต่อไปตราบนานเท่านานค่ะ ขอบคุณสำหรับรีวิวและหวังว่าคุณ splendour คงสบายดี ไม่ต้องหนีน้ำนะคะ จากคุณ : Red-Rose-14Feb เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 54 00:54:10

ความคิดเห็นที่ 50 กดเข้าคลังกระทู้ให้แล้วค่ะ จากคุณ : flymom เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 54 03:43:59

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณมากๆครับผม จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 54 07:48:14

ความคิดเห็นที่ 52 คิดถึงอยุธยาเช่นกันครับ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 54 08:23:11

ความคิดเห็นที่ 53 อยากให้น้ำลดไวๆจะได้ไปเที่ยวอยุธยาสักทีครับ เล็งไว้นานแระ จากคุณ : Destiny-Boy เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 54 08:43:10

ความคิดเห็นที่ 54 คุณRed-Rose-14Feb - ผมก็หวังว่าน้ำจะไม่ท่วมอยู่นานจนทำให้โบราณสถานที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เสียหายมากจนพังทะลายลงมา                                ขอบคุณสำหรับความปรารถนาดีครับ ถึงจะเครียดกับการ"เฝ้าระวัง" แต่คงเทียบไม่ได้เลยการคนที่บ้านถูกน้ำท่วมไปแล้ว คุณflymom - ขอบคุณมากครับที่ช่วยกดเก็บเข้าคลังกระทู้และติดตามอ่านกระทู้ คุณdigimontamer - ด้วยความยินดีครับ คุณลุงแบกเป้ - หวังว่ากระทู้นี้จะช่วยให้คลายความคิดถึงได้บ้างนะครับ คุณDestiny-Boy - น้ำแห้งเมื่อไร เราจะไปกันอีกทันทีเลยครับ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 54 09:16:18

ความคิดเห็นที่ 55 งดงามมากๆเลยครับ  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 54 11:58:18

ความคิดเห็นที่ 56 รูปสวยมากค่ะ ขอบคุณที่พาเที่ยวนะคะ^^ จากคุณ : สามแซ่ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 54 12:55:23

ความคิดเห็นที่ 57 ภาพสวยมากครับ ท้องฟ้าดูน่ากลัวจัง จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 54 14:36:16

ความคิดเห็นที่ 58 ประวัติศาสตร์เรียนจบหนูส่งคืนหมดค่ะครูดูเอ่อ ได้อ่านข้อความพร้อมนึกภาพตาม ก็พอจำที่เรียนได้บ้างค่ะ เขียนอะไรผิดบ้างหรือป่าวเนี่ย><" จากคุณ : เบรานิ่ง เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 54 15:21:49

ความคิดเห็นที่ 59 คุณเล็กทาโร่ - รูปถ่ายทอดความยิ่งใหญ่อลังการได้ไม่ถึงครึ่งเลยครับ คุณสามแซ่ - ด้วยความยินดีครับ แต่โบราณสถานห้ามปีนป่ายนะครับ อิ อิ คุณม่วงมหากาฬ  - วันนั้นตอนขับรถไปฝนตกหนักตลอดทางเลยครับ โชคดีที่ฝนหยุดตอนที่ไปถึง คุณเบรานิ่ง - ผมก็ลอกมาจากเว็บไซต์ที่เข้าไปหาข้อมูลเหมือนกันครับ ฮี่ ฮี่                  ดีใจที่คุณอ้อยเข้ามาทักทายกัน สบายดีนะครับ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 54 16:01:41

ความคิดเห็นที่ 60 สวยมากๆ  ขอบคุณที่พาเที่ยวชมนะคะ จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 09:34:32

ความคิดเห็นที่ 61 ได้ความรู้ดีจัง ขอบคุณที่พาเที่ยวเมืองเก่านะคะ ป.ล. ตอนนี้เราย้ายมาอยู่หัวหินแล้วค่ะ ที่บ้านน้ำท่วมไปแล้ว ขอให้บ้านคุณ splendour น้ำไม่ท่วมนะคะ จากคุณ : Someone In This World เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 10:50:53

ความคิดเห็นที่ 62 คุณสาวหน้าใส - ด้วยความยินดีครับ คุณSomeone In This World - เสียใจด้วยนะครับหวังว่าคุณSomeone In This World ได้เตรียมตัวเก็บของหนีน้ำทันก่อนท่วมและเสียหายไม่มากนักนะครับ                                          ขอบคุณสำหรับความปรารถนาดีครับ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 12:17:48

ความคิดเห็นที่ 63 เก็บเข้าคลังกระทู้ให้แล้วค่ะ ขอบคุณสำหรับพาเที่ยวนะคะ ชอบจังเลยมีคนรีวิววัดให้ จะได้เที่ยวตามรอยค่ะ จากคุณ : น้ำตาลกะข้าวตัง เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 13:48:31

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณมากครับคุณน้ำตาลกะข้าวตัง ที่ช่วยกดเก็บเข้าคลังกระทู้ให้ จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 20:51:11

ความคิดเห็นที่ 65 ติดตามตอนที่ 14 วัดโสมนัสราชวรวิหาร ที่กระทู้นี้ครับ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11372753/E11372753.html จากคุณ : splendour เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 08:44:44