ความคิดเห็นที่ 1 อ้าว รูปไม่มา อีกที จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 17:37:06

ความคิดเห็นที่ 2 ส่วนมากบินแต่ low cost ไม่มีอะไรให้กิน คราวนี้บิน LH ไฟลท์สั้นๆ ก็มี เสริฟขนมปัง ขนมเค้ก ให้กิน เราอิ่มจากกินใน King power lounge ไปแล้ว บนเครื่องเลยกินไม่ลง (แต่เก็บมากินข้างล่าง อิอิ) ได้กินแต่น้ำแร่จากเยอรมัน ขวดเล็กๆแช่เย็น รู้สึกมันอร่อย สดชื่นจัง บอกไม่ถูก 555 จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 17:39:13

ความคิดเห็นที่ 3 มีจอส่วนตัวให้ดูหนังด้วย ดูหนังได้เรื่องนึงพอดี หรือจะฟังเพลงก็มีให้เลือก จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 17:40:32

ความคิดเห็นที่ 4 ไฟลท์ไปถึง KLIA ตอนค่ำๆ ฝนก็ตก จะนอน Tune hotel แถวนั้น ราคาก็คืนละ พันแปด เข้าไปแล้ว เลยหาเรื่องขับรถเข้าไปนอนในเมืองที่ Cititel Mid valley  ตอนแรกกะจะไปช๊อปปิ้ง แต่ฝนตก รถติด เลยไม่ไปไหนไกลแล้ว กินข้าว ในห้างที่อยู่ตึกเดียวกับโรงแรมซะเลย   พอดีเราไปช่วงที่ใกล้วัน Deepavali หรือ Festival of Lights เทศกาลการประดับไฟ เป็น วันปีใหม่ของชาวฮินดู  ส่วนมากให้ห้างสรรพสินค้า โรงแรม จะมีตกแต่งตรงพื้นด้วยเม็ดข้าวสารย้อมสี หรือที่เรียกว่า Kolam มาเรียง เป็นรูปต่างๆ  เรารวบรวมมาให้ดู จากที่เห็นใน KL และ ปีนัง จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 17:43:03

ความคิดเห็นที่ 5 http://en.wikipedia.org/wiki/Diwali เทศกาล Deepavali หรือเรียกย่อๆ ว่า Devali จัดขึ้นในช่วง กลางเดือน ตค ถึง กลางเดือน พย ซึ่งเทศกาลนี้เป็นเทศกาลสำคัญของชาวฮินดู ที่สมาชิกในครอบครัวจะได้มาอยู่ ร่วมกัน ทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยกัน  ทุกคนจะสวมใส่เสื้อผ้าใหม่ และแบ่งปันขนมกัน โดยมีความเชื่อว่าแสงไฟที่จุดจะช่วยขับไล่วิญญาณชั่วร้าย Diwali is an official holiday in India,[4] Nepal, Sri Lanka, Myanmar, Mauritius, Guyana, Trinidad & Tobago, Suriname, Malaysia, Singapore,[5] and Fiji.[6] จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 17:45:33

ความคิดเห็นที่ 6 ตัดมาตอนเช้าวันต่อมา รีบเช็คเอาท์ ตั้งแต่ตีห้า (แต่ยังไม่ลืมอาหารเช้า บอกเค้าไว้ตั้งแต่เมื่อคืน โรงแรมก็จัดใส่กล่องให้เป็นขนมปังต่างๆ กับน้ำ 2 ชุด) บึ่งรถไป LCCT  เผื่อเวลาขับไปหาที่จอดอีก ไปจอดที่ Tune hotel (ถูกกว่าจอดในลานจอดของสนามบิน วันละ 20 ริงกิต)  ยังมีเวลา ซื้อมาม่ามาเลย์ มากิน ส่วนขนมปังที่ได้มา ไม่อร่อยเลย เก็บใส่กล่อง แบกไปแบกกลับ สรุปเราไม่ได้กิน คุณแฟนกินไปนิดหน่อย  -_-” เดินไปสนามบิน ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ถือว่าออกกำลังกายยามเช้า แบกเป้คนละใบ ชิวๆ เครื่องออกประมาณแปดโมง เลยมีเวลานั่งเล่น เดินเล่นอีกนาน แต่ก็ไม่ค่อยมีไรให้ดูเท่าไหร่  อ้อ ตอนแรกก็ไม่กล้าเอาของเหลวไซส์ใหญ่ขึ้นเครื่อง  แต่ที่ไหนได้ ไฟลท์บินในประเทศไม่เห็นเข้มงวดเลย เราลองเอาขวดน้ำใส่เป้ ก็สแกนผ่านเฉยเลย เดินเล่นร้านขนม รอเวลา จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 17:50:27

ความคิดเห็นที่ 7 ตามไปเที่ยวปีนังด้วยคนครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 17:52:11

ความคิดเห็นที่ 8 อ้อ ที่นี่มี wifi ให้ใช้ฟรีด้วยนะ บินไม่ถึงชั่วโมง ก็มาถึงปีนังแล้ว ก่อนออก อย่าลืมหยิบแผนที่เมืองปีนังมาด้วยนะ มีประโยชน์มาก เราเดินออกมาด้านหน้า เราเสนอว่า ถ้ามีรถเมล์เข้าเมือง เราขึ้นกันมั๊ย แต่คุณแฟน จัดการไปเรียกใช้บริการแท็กซี่ทันที เหอะๆ เข้าเมืองไม่เกินครึ่งชั่วโมง จ่ายไป สี่สิบกว่าริงกิต เหอะๆ (ไม่อยากพูดมาก) จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 17:52:49

ความคิดเห็นที่ 9 สวัสดีคุณเล็กทาโร่ ตามมาเที่ยวกัน   ถึงโรงแรม Royal penang ตั้งแต่ ก่อนสิบโมง ยังเช็คอินไม่ได้ ห้องไม่ว่าง เลยได้แต่ฝากของไว้   คุณแฟนให้โรงแรมเรียกแท็กซี่ให้อีก พาไปวัดไทย (ในความรู้สึกเราไม่ไกล ประมาณ 15 นาที ประมาณ 20 ริงกิต หรือ สองร้อยบาท แอบเปรียบเทียบในใจ ถ้าวิ่งในกรุงเทพ ก็คงประมาณ 80 บาท) เป้ใบน้อย ฝากไว้ก่อน จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 17:55:43

ความคิดเห็นที่ 10 สถานที่เที่ยวแรกที่เราไป คือวัดไทยในปีนัง วัดไชยมังคลาราม  เป็นศิลปะแบบไทย จีน พม่า ผสมกัน ที่นี่มีพระนอนองค์ใหญ่ (นึกถึงตอนไปพม่าเลย) ที่นี่มีคนไทยด้วย เค้าเห็นเราเขียนชื่อเป็นภาษาไทยตอนทำบุญ เลยรู้  มีทำบุญเหมือนไทยเลย ทอดกฐิน มีกระทงด้วย จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 18:02:46

ความคิดเห็นที่ 11 มีพระนอนองค์ใหญ่มาก เป็นพระนอนหุ้มทองยาว 33 เมตร จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 18:04:35

ความคิดเห็นที่ 12 เที่ยววัดนี้เสร็จ หิวข้าว เพราะจะเที่ยงแล้ว เลยเดินไปตามซอย มีร้านอาหารหลายร้านเลย จัดการสั่งข้าวหมูแดงมากิน อร่อยกว่าเมืองไทยอ่ะ อีกจานเป็น Rojak ถ้าให้บรรยาย ก็เหมือนเอาหลายๆ อย่าง ผัก ผลไม้ แป้งทอดกรอบ ปลาหมึก มายำรวมกัน แต่ไม่เปรี้ยวเผ็ดเท่าแบบไทย ออกแนวหวานๆ มากกว่า จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 18:06:00

ความคิดเห็นที่ 13 ## ตามมาด้วยคนครับ มาอัพเดทข้อมูล จะไปลุยเดี่ยวเที่ยวปีใหม่ครับ ## จากคุณ : MRBIG173 เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 18:07:05

ความคิดเห็นที่ 14 ร้านที่กิน ดูเก่าๆ แต่อร่อยนะ มีขายหลายอย่าง ก๋วยเตี่ยวก็มี ราคาไม่ต่างจากเมืองไทยเท่าไหร่ 30-50 บาท ด้านหน้าคือรถเข็นขาย Rojak จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 18:09:15

ความคิดเห็นที่ 15 ขอเก็บข้อมูลไปปีนังด้วยนะคะ ^^ จากคุณ : MoMMaMjAnG เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 18:23:04

ความคิดเห็นที่ 16 กินเสร็จเดินย้อนกลับไป เที่ยววัดธรรมิการาม อยู่ฝั่งตรงข้ามวัดไทยเมื่อกี้ วัดนี้ก็เป็นศิลปะแบบพม่า ผสมจีน ภาพวาดพุทธประวัติตามทางเดิน ก็จะวาดออกแนวพม่า ทั้งหน้าตาและเครื่องแต่งกาย ก็สวยแปลกดี จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 19:09:25

ความคิดเห็นที่ 18 ไหว้พระด้านใน พระพุทธรูปหน้าตาไม่เหมือนที่วัดบ้านเราเนอะ จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 19:14:46

ความคิดเห็นที่ 20 หน้าวัดมีแม็กเน็ตขาย สามอันสิบ จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 19:16:52

ความคิดเห็นที่ 21 เอาแผนที่มากาง ไปไหนต่อดี จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 19:18:10

ความคิดเห็นที่ 22 ภารกิจสำเร็จไปสองแห่ง คราวนี้เดินหาป้ายรถเมล์ กะว่าคิดไรไม่ออกไปตึก Komtar ศูนย์รวมรถเมล์ก่อน  ที่รอรถเมล์ แต่ละเส้นทางก็ต่างช่องกัน แต่ว่าเรามายืนรอรถบัสนำเที่ยวด้านนอก จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 19:21:53

ความคิดเห็นที่ 23 รอจนได้ขึ้นรถบัสท่องเที่ยว พาวนรอบเมือง ไม่เสียเงิน ดูแผนที่ประกอบไปด้วย ก็พอจะรู้ว่าที่เที่ยวอยู่ตรงไหน ก็ลงได้เลย นี่ไงหน้าตารถ Tourist shutter bus ยืนรอตรงไหน เราก็ถามคนแถวๆ นั้นเอา ไม่ยาก ที่เรารอตรงป้าย Station 9 จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 19:26:47

ความคิดเห็นที่ 24 รถพามาวนตรงวงเวียนนี้จ้า ในรถก็จะเห็นนักท่องเที่ยว ถือแผนที่กันทั้งนั้น คนท้องถิ่นก็มีบ้าง จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 19:29:44

ความคิดเห็นที่ 25 เรานั่งชมเมืองจนวนครบรอบ เลยมาเที่ยวที่ คฤหาสน์ เฉิง ฟัต ซี Cheong Fatt Tze Mansionเป็นตีกสีน้ำเงินเข้ม ที่นี่ให้เข้าชมเป็นรอบ เราไปช้าไปหน่อย เลยต้องรอรอบบ่ายสาม http://www.cheongfatttzemansion.com/ **Daily guided heritage tours of the house ( in English ) :  11am / 1.30pm / 3pm      Admission fee RM 12.00 per person จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 19:31:20

ความคิดเห็นที่ 26 เดินเล่น ชมเมือง บ้านหลังนี้สีเขียวตองอ่อน สวยดี จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 19:34:42

ความคิดเห็นที่ 27 ไปมาเหมือนกันเลยค่ะ เจ้าแมนชั่น นี้พอเสียตังเข้าไปแล้ว ให้ความรู้สึกว่า ตรูไม่น่ามาเลย = = จากคุณ : fishokung เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 19:34:45

ความคิดเห็นที่ 28 เจอร้านอาหาร เข้าไปนั่งซะเลย สั่ง Roti canai มากิน ชอบๆ ชุดละสิบกว่าบาทเอง มีแป้งพร้อมแกงมาให้ สั่งชามะนาวมากินแก้เลี่ยน ต่อด้วยน้ำแข็งไส Ice kachang อิ่ม อืด กินเสร็จฝนตกพอดี จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 19:39:19

ความคิดเห็นที่ 29 ใกล้เวลา ฝนก็ตกพรำๆ แล้ว เลยเข้าไปนั่งรอด้านใน  ข้างในห้ามถ่ายภาพ ได้เวลาไกด์ก็พาชมบ้านทีละส่วน บรรยายเป็นภาษาอังกฤษ ไกด์พูดฟังเข้าใจง่าย และน่าสนใจมาก การทราบประวัติความเป็นมาทำให้เราสนใจสังเกต ในแต่ละมุมของบ้าน ถ้าไม่มีคนบรรยายเลย ก็คงจะเดินชมแค่นั้น  โดยรวมก็บ้านนี้เป็นของเศรษฐีพ่อค้าชาวปีนัง มีภรรยาถึง 8 คน สร้างถูกหลักฮวงจุ้ยทุกประการ ทั้งรั้ว หน้าต่าง และพื้นที่ลาดขึ้นเป็นขั้นๆ จากยุครุ่งเรือง จนถึงตอนที่บ้านนี้ถูกทิ้งร้างและขายทอด จนได้มาปรับปรุงใหม่ จนอยู่ภายใต้การดูแลของ Unesco ปัจจุบัน เปิดรับเป็นสถานที่จัด งานเลี้ยงด้วย จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 19:42:47

ความคิดเห็นที่ 30 คุณ fishokung ไม่สนุกเหรอ เราว่าน่าสนใจดีนะ รั้วเป็นรูปเหรียญ แสดงความมั่งคั่ง จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 19:44:46

ความคิดเห็นที่ 31 ด้านนอก สีฟ้า น้ำเงินมากๆ ไกด์บอกว่าสีที่ทาเนี่ย ทำมาจากธรรมชาติ (สกัดมาจากดอกอัญชัญป่าวหว่า)  เค้าบอกว่าตอนปรับปรุงใหม่ หมดค่าทาสีไปเยอะมาก จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 19:51:51

ความคิดเห็นที่ 32 ใช้เวลาอยู่ที่นี่ชั่วโมงกว่า ออกมาฝนหยุดตกพอดี เราถามทางคนแถวนั้นเดินคลำทางไปจนถึง City hall ที่ที่คิดไว้ว่าต้องมาถ่ายรูปให้ได้ ท้องฟ้าครึ้มๆ ไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่ แต่วิวยามเย็นริมทะเล นี่ก็ชิวๆ ดี จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 19:54:08

ความคิดเห็นที่ 33 อาคารสีเหลืองข้างๆ กัน ก็สวย จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 19:54:59

ความคิดเห็นที่ 34 เอาขาตั้งที่แบกมาทั้งวัน ได้ใช้ซะที แช๊ะ รูปอาตี๋ กะอาหมวยหน่อย จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 20:00:05

ความคิดเห็นที่ 35 แต่ชิวๆได้ไม่นาน ฝนก็ตกอีกแล้ว หาแท็กซี่จะไปหาของกินแถว Gurney drive ก็ไม่มี เห็นรถเมล์มาเลยโดดขึ้นไป komtar ก่อน ค่อยไปต่อรถเอา นั่งรอรถเมล์อยู่นานมาก สายที่รอ ก็ไม่มาซะที ที่นี่เค้ามีป้ายบอก ว่ารถจะมาถึงในอีกกี่นาที คุณแฟนรอนานจนหมดความอดทน เลยไปเรียกแท็กซี่ ซะเลย จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 20:04:02

ความคิดเห็นที่ 36 นั่งไปแป๊บเดียว ถึง Gurney drive ย่านของกินอันเลื่องชื่อของปีนัง แต่วันนี้ฝนตก ร้านเลยเปิดไม่ครบ ผู้คนก็น้อย แต่ไหนๆ มาแล้ว ยังไงก็ต้องกินให้ได้ หาโต๊ะมีร่ม นั่งกินท่ามกลางสายฝนพรำๆ สั่งมา 3 อย่าง มี หอยทอด Char Kouy toey คล้ายเส้นใหญ่ผัดซีอิ้ว แต่ที่นี่เส้นบางกว่าแล้วก็ใส่กุ้ง อร่อยดี อีกจานเป็น Rojak หรือยำมั่วนั่นเอง จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 20:04:27

ความคิดเห็นที่ 37 ที่นี่เป็นสวรรค์ของนักกินเลย ใครอยากลองอาหารท้องถิ่นต้องมาให้ได้ ถ้าฝนไม่ตกคงจะเดินกินกันมันกว่านี้ กินเสร็จไปเดินเล่นห้าง Gurney plaza ที่อยู่ข้างๆ เป็นห้างใหญ่มีของเยอะทีเดียว นั่งแท็กซี่กลับโรงแรม วันนี้ใช้พลังงานไปเยอะ (กินก็เยอะเช่นกัน) หมดแรงเลย ไว้พรุ่งนี้พาไปเที่ยววัด Keg Lok Si ต่อจ้า จากคุณ : luckyclover เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 20:09:14

ความคิดเห็นที่ 38 ตามมาทานน้ำแข็งไสครับ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 20:27:48

ความคิดเห็นที่ 39 ตามมาเที่ยวปีนังด้วยคับ ชอบเมืองนี่้สุดๆ สงบ เมืองสวย อาหารอร่อย โอยย เพอร์เฟ็กต์ 5555 จากคุณ : Himalaya เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 01:07:54

ความคิดเห็นที่ 40 เพิ่งรู้ว่าที่ปีนังมีวัดไทยด้วย ขอไหว้พระด้วยคนค่ะ มีคนที่สนิทกันมากรู้จักกันมาเป็นสิบปีอยู่ที่ปีนังเขาไม่เคยบอกเราเล้ย อ่อ หรือว่าอีกอย่างนึงเขานับถือศาสนาคริสต์ด้วยล่ะ ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆพร้อมกับข้อมูลรายละเอียดดีๆนะคะ คุณเจ้าของกระทู้กับแฟนน่ารักมากเลย  แวะมารีวิวพาเที่ยวบ่อยๆนะคะอย่าลืมส่งลิ้งค์ตามเราที่กล่องข้อความก็ได้ ยินดีเป็นอย่างยิ่ง   จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 10:40:38

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^ จากคุณ : สามแซ่ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 15:05:16

ความคิดเห็นที่ 42 แวะเก็บข้อมูลค่ะ จะไปปีนังสิ้นเดือนนี้...ขอบคุณสำหรับรีวิว ^^ จากคุณ : dear galileo (dear galileo) เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 55 14:48:09