ยืนโบกอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง ยังไม่มีวี่แววเลยครับ ไอ้คนแถวนั้นก้อมองเราด้วยสายตาแปลกๆ คงอาจเป็นเพราะว่า ยุคนี้ สมัยนี้ ไม่มีใครเดินทางกันแบบนี้แล้วรึป่าวก้อไม่รู้ เมื่อสิบกว่าปีมานี่เองเราเองยังโบกรถเที่ยวกับเพื่อนอยู่เลย HA HA HA บางคันที่มีน้ำใจเค้าก้อจอดถามครับ แต่พอบอกปลายทางที่เราจะลง มีแต่คนร้อง โอ้โฮ ไม่ก้อ อือฮือ เค้าว่ามันไกลจากจุดที่เค้าจะไปมาก แต่ส่วนใหญที่จอดก้อบอกให้เราจะไปด้วยก้อได้นะแล้วไปต่อเอา แต่จากทำเลที่เราโบกตรงแยกนั้นถือว่าเป็น ทำเลทองของการโบกรถเลยครับ เป็น สี่แยกไฟแดงใหญ่ มี7-11สุดท้าย จะเจออีกที่ก้อปลายทางโน่นแล้ว เลยตัดสินใจขอยึดทำเลไว้ก่อนดีกว่า เลยได้แต่ยกมือไหว้ขอบคุณเค้าครับ แค่จอดถามเราว่าจะไปไหน ก้อดีใจจนน้ำตาจะไหลแล้ว โชคดีครับยังมีรถสามแถว (เพิ่มเบาะแถวกลาง ไว้รองรับผู้โดยสาร ) ซึ่งนานๆมากๆ จะมาซักคันนึง วิ่งไปไกลสุดก้อแค่เกือบครึ่งทางครับ เลยตัดสินใจ ไปก่อนดีกว่า ดาบหน้าไม่ตายก้อคงได้ไปต่อจนถึง ที่รอมาชั่วโมงครึ่งนี้ ทำเอาทำเลซึ่งเคยเป็นทองของเรา กลายเป็นทำเลกรวด ไปซะแล้ว นั่งรถสามแถวมาจนถึง บ้านน้ำพุ ซึ่งอยู่ระหว่างทางที่จะไปสวนผึ้ง ถือว่ามาได้ไกลไม่น้อยเลยครับ ลงจากรถมาเดินไปยืนรอโบกที่หน้า ที่ทำการ อบต.บ้านน้ำพุ น่าจะดีกว่า เพราะเห็นคนผ่านไปผ่านมา มองเรากันด้วยสายตาแปลกๆ บางคันถึงกับชะลอดู พอจะวิ่งเข้าไปถาม ก้อกระชากรถออกจะตรงนั้นโดยเร็ว แปลกเหมือนกันครับ สมัยหัดโบกใหม่ๆเมื่อสิบกว่าปีก่อน ก็ไม่เคยเจออาการแปลกๆแบบนี้เหมือนกัน เลยยืนเก้ๆกังๆ พยายามทำท่าแบบนักโบกหัดใหม่ จนมีรถกระบะ คันนึง จอดเลยไปได้ซัก 300ม. เราเองก้อมองอย่างลังเล กลัววิ่งเข้าไปถามแล้วจะ ออกตัวล้อฟรี หนีไปอีก เหนื่อยครับ วิ่งไปถามแล้วก้อต้องเดินกลับมายืนรอที่เดิม แต่ก้อเป็นงัยเป็นกัน วิ่งหน้าตั้งอีกหน ไถ่ถามกันได้ความว่าพี่เค้าจะเข้าไปสวนผึ้ง กระบะขนของมาเต็ม ขึ้นได้ก้อขึ้นนะ เราเองดีใจหายเลย ปีนขึ้นไปนั่งหอบ อย่างสบายใจ มีโอกาสถึงที่หมายซักที
แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 54 10:25:12
จากคุณ |
:
OXY Poa-thai
|
เขียนเมื่อ |
:
29 พ.ย. 54 09:36:20
|
|
|
|