แต่ความสวยงามและน่ารัก บางครั้งก็เป็นภัยกับตัวเอง เรื่องเศร้ามันมีอยู่ว่า...
เอื้องน้ำต้นที่เห็นในภาพนี้ น่าจะเป็นภาพสุดท้ายของเค้าที่ได้ยืนหยัด เผยความน่ารักสดใสในแผ่นดินเกิดของตัวเอง พวกเราแวะถ่ายภาพในขณะ ที่ไม่มีนักท่องเที่ยวเดินผ่าน คนที่จะมองเห็นเจ้าเอื้องช่อน้อยจะต้องเป็นคน ที่สายตาสอดส่ายพอสมควร
ถ่ายภาพนี้เสร็จแล้วทิ้งไปประมาณ 1 ชั่วโมงเดินย้อนกลับมาทางเดิม เราไม่เจอเค้าแล้ว... เหลือเพียงร่องรอยการแซะกอเอื้องน้ำต้นออกไป ทั้งกอในภาพและบริเวณข้างเคียงที่ไม่ได้ออกดอก ความรู้สึกเสียใจ มันปรี่ออกมาด้วยน้ำตาคลอเบ้า . . . เสียใจเหลือเกิน
มันช็อคความรู้สึกตรงที่เขาอยู่ของเขาตรงนั้นมาตั้งหลายวัน อยู่ริมทางเดินก็จริงแต่ถ้าไม่สังเกตุก็จะไม่เห็น วันที่หายไประยะห่างแค่ชั่วโมงกว่า ๆ เท่านั้น ในช่วงเวลาที่ผู้คนน่าจะพลุกพล่าน เพราะเป็นทางลงน้ำตกถ้ำใหญ่ ใบเมเปิ้ลกำลังแดง คนหลั่งไหลไปเก็บภาพเมเปิ้ลแทบไม่ขาดสาย มันชิงจังหวะแซะออกไปได้ยังไง คงไม่ใช่พวกที่เห็นแล้วอยากได้ธรรมดา น่าจะเป็นคนที่รู้จักกล้วยไม้ และสายตาสอดส่องพอสมควร...
อดเสียใจไม่ได้ ...ว่าเป็นเพราะเราที่แวะถ่ายภาพหรือเปล่า ถึงจะมั่นใจว่าไม่มีคนเดินผ่านในตอนนั้น แต่ที่จริงแล้ว...อาจจะมี อาจจะมีคนกลุ่มนี้เฝ้าอยู่ก็เป็นได้
เล่าให้เจ้าหน้าที่ฟัง ก็ได้แต่ทำใจ เพราะคนล้านแปดจะไปหาตัวใครจับมือดมก็ยาก แถมถ้าจับได้ ค่าปรับบทเรียนของความเห็นแก่ได้ก็คงไม่เกิน 2000 บาท...
โถ...อนาถ ทรัพยากรธรรมชาติไทย มีค่าแค่ 2000 บาท
ถ้าประกาศออกไมค์ได้คงจะขอจัดหนักก่อนจะเข้าถึงตัว
"นักท่องเที่ยวเฮีย ๆ โปรดทราบ ตัวไหนที่ขุดเอาเอื้องน้ำต้นไป อย่าให้กรูรู้ว่าพวกมรึงอยู่เต็นท์ไหน จะตามไปจัดให้หนักและแช่งไม่ให้ได้ผุดได้เกิด....สัxxx..."
ไม่ต้องรักษ์ธรรมชาติ ขอแค่ "รัก" อย่างจริงใจต่อสรรพสิ่งรอบ ๆ ตัว เพียงเท่านี้ก็มากพอที่จะมีสิ่งดี ๆ เก็บเอาไว้ให้ลูกหลานดูได้อีกนานเท่านาน
ขออภัย มือใหม่หัดโพสท์ค่ะ
จากคุณ |
:
Kaper
|
เขียนเมื่อ |
:
6 ธ.ค. 54 11:15:32
|
|
|
|