ความคิดเห็นที่ 1 ทริปยุโรปครั้งนี้ พวกเราเที่ยวเยอรมันประเทศเดียวครับ โดยตั้งใจไปชมใบไม้เปลี่ยนสีซึ่งเป็นฤดูที่ผมชื่นชอบมากที่สุด หลังจากที่ได้ไปชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่น และจิ่วจ้ายโกวที่เมืองจีนมาแล้ว เลยอยากไปลองดูว่าใบไม้เปลี่ยนสีที่ยุโรปบรรยากาศจะเหมือนหรือต่างกับทางเอเซียหรือไม่อย่างไร จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 23:51:26

ความคิดเห็นที่ 2 ผมใช้บริการทัวร์คนไทยเจ้าเดิมที่ใช้ชีวิตอยู่ที่ยุโรป เป็นไกด์และคนขับรถพาเที่ยวครับ ช่วงเวลา 10 วันระหว่างวันที่ 22 - 31 ตุลาคม 2011 เมืองที่ไปเที่ยวมา เริ่มตั้งแต่ Frankfurt, Heidelberg, Freiburg, Colmar, Riquewihr, Fussen, Bavaria, Munich ครับ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 23:52:21

ความคิดเห็นที่ 3 ก่อนบินไปเที่ยวได้ซื้อหนังสือ เที่ยวไม่ง้อทัวร์ตีตั๋วลุยเยอรมัน มาอ่านครับ หนังสือเล่มนี้ให้ข้อมูลการท่องเที่ยวเกี่ยวกับเยอรมัน(แม้จะไม่ครบทุกเมืองที่เราวางแผนไว้)อย่างละเอียดดีเชียวครับ ประกอบกับได้อ่านข้อมูลของเพื่อนๆสมาชิกที่กรุณาทำรีวิวไว้ในเวปบอร์ด BP แห่งนี้ ทำให้ทริปเยอรมันของพวกเราในครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่น ขอถือโอกาสนี้ขอบคุณเพื่อนๆชาว BP ไว้ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ข้อมูลอ้างอิงประกอบคำบรรยายใต้รูปภาพ ส่วนใหญ่นำมาจากหนังสือ เที่ยวไม่ง้อทัวร์ตีตั๋วลุยเยอรมัน และบางส่วนนำมาจาก Wikipedia ครับ ถ้างั้นผมขอเริ่มรีวิวพร้อมนำเสนอรูปภาพความประทับใจที่นำกลับมาให้เพื่อนๆชมครับ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 23:53:29

ความคิดเห็นที่ 4 ทริปนี้ผมค่อนข้างกังวลใจอยู่ไม่น้อยว่าจะเห็นใบไม้เปลี่ยนสีหรือไม่ เนื่องจากเป็นการเที่ยวยุโรปในฤดูนี้เป็นครั้งแรก ข้อมูลการเปลี่ยนสีของใบไม้ของสถานที่ที่จะไปเที่ยวก็รู้น้อยมาก ทำได้เพียงแต่สอบถามจากเพื่อนๆที่ไปมาแล้วหรือหาอ่านจากหนังสือ ซึ่งต่างกับการเที่ยวประเทศที่คุ้นเคยอย่างญี่ปุ่น แต่อย่างไรก็ตามพวกเรายังพอมีโชคอยู่บ้าง ที่ใบไม้เปลี่ยนสียังมีหลงเหลือให้ชม ยังไม่ร่วงหล่นโกรนเหลือแต่กิ่ง ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงปลายแล้ว เพราะถ้ามาช้ากว่านี้เพียงอาทิตย์เดียว ต้นไม้คงทิ้งใบจนหมดเหลือแต่กิ่งเพื่อต้อนรับฤดูหิมะ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 23:55:16

ความคิดเห็นที่ 5 คุ้นเคยกับสีฉูดฉาดของป่าเปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่น แต่บรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีที่เยอรมันต่างกันอย่างสิ้นเชิง ที่ญี่ปุ่นโทนสีจะออกไปทางแดง โดยเฉพาะใบไม้ทางแถบคันไซ นั่นเป็นเพราะว่าญี่ปุ่นมีต้นเมเปิ้ลอยู่มากมาย ใบเมเปิ้ลจึงเปลี่ยนสีเป็นสีแดงสด แต่ที่เยอรมัน(ไม่เห็นมีเมเปิ้ลสักต้น) โทนสีจะออกไปทางเหลืองอมส้ม + น้ำตาล ให้ความรู้สึกหวานเย็นตาดีครับ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 23:56:27

ความคิดเห็นที่ 6 กล่าวกันว่าใครมาเยอรมันแล้วไม่ได้ไปชมปราสาทนอยชวานสไตน์ ถือว่ามาไม่ถึงเยอรมัน ....... คำกล่าวนี้จริงหรือไม่ แล้วปราสาทที่ว่านี้มีดีอะไร ทำให้ผู้คนมักกล่าวขานกันเสมอเมื่อไปเที่ยวประเทศเยอรมันว่าได้ไปชมปราสาทเทพนิยายมาหรือเปล่า วันนี้เราจะไปพิสูจน์กันครับ ปราสาทนอยชวานสไตน์ เป็นปราสาทแสนสวยโด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งในโลกและยังเป็นต้นแบบของปราสาทในดิสนีย์แลนด์ ปราสาทนี้ตั้งอยู่ในประเทศเยอรมนี ในแคว้นบาวาเรียทางตอนใต้ของประเทศ ติดเทือกเขาแอลป์ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 23:57:18

ความคิดเห็นที่ 7 ปราสาทนอยชวานสไตน์สร้างขึ้นบนยอดเขา ที่รายล้อมด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์และทะเลสาบด้านล่าง จุดประสงค์ของการสร้างปราสาทนี้เพื่อให้ผสานกลมกลืนไปกับธรรมชาติอันงดงามรอบด้าน ปกติการสร้างปราสาทจะต้องมีสวนที่สวยงามเป็นบริเวณกว้าง มีการสร้างบ่อน้ำพุในสวน แต่นอยชวานสไตน์ไม่จำเป็นต้องมีสวน เพราะมีธรรมชาติอันน่าอัศจรรย์รายล้อมอยู่แล้ว ไม่ต้องมีน้ำพุเพราะมีน้ำตกทางธรรมชาติอยู่ใกล้ ๆ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 23:58:15

ความคิดเห็นที่ 8 กล่าวกันว่าการมาเที่ยวปราสาทเทพนิยายแห่งนี้ควรมาให้ครบ 4 ฤดู เพราะแต่ละฤดูจะมีความงดงามแตกต่างกันไป แต่คนส่วนใหญ่มักลงความเห็นว่าฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเป็นช่วงที่สวยที่สุดของปราสาทนอยชวานสไตน์ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 23:58:51

ความคิดเห็นที่ 9 ส่วนตัวผมที่ชื่นชอบฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเอามากๆ จึงเลือกมาชมปราสาทในช่วงนี้ตอนเดือนตุลาคม ซึ่งก็ไม่ผิดหวังที่ได้ชมทั้งความงามของตัวปราสาทและป่าเปลี่ยนสีอันสวยงามไปพร้อมๆกัน ส่วนฤดูอื่นยังไม่เคยไปครับ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 54 23:59:29

ความคิดเห็นที่ 10 ปราสาทนี้สร้างขึ้นโดยพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งรัฐบาวาเรีย ในสมัยนั้นเยอรมันยังไม่ได้รวมกันเป็นประเทศอย่างในปัจจุบัน แคว้นเล็กๆต่างปกครองกันเอง มีกษัตริย์ของตัวเอง กษัตริย์ลุดวิกทรงขึ้นครองราชย์ตั้งแต่พระชนมายุเพียง 18 ชันษา เป็นกษัตริย์อารมณ์ศิลป์ สนใจศิลปะ ดนตรี และวรรณกรรม มากกว่าจะสนใจปกครองบ้านเมือง   ทรงนิยมสร้างปราสาท หลงไหลในตำนานพื้นบ้านเกี่ยวกับเทพของเยอรมันและพวกไวกิ้ง และชื่นชอบอุปรากรของริชาร์ด วากเนอร์ (Richard Wagner) เป็นชีวิตจิตใจ จนพวกขุนนางทนไม่ไหว ตั้งข้อหาสติวิปลาส  แล้วปลดพระองค์ลงจากตำแหน่ง หลังจากนั้นไม่กี่วันก็มีคนพบพระศพจมน้ำตายอย่างปริศนา จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 00:00:53

ความคิดเห็นที่ 11 นับตั้งแต่วันที่เริ่มสร้างจนถึงปัจจุบัน ปราสาทแห่งนี้มีอายุราว 140 ปี ผู้ที่ออกแบบปราสาทแห่งนี้ไม่ใช่สถาปนิก แต่กลับเป็นคนออกแบบฉากละคร ทำให้ปราสาทแห่งนี้เหมือนปราสาทในจินตนาการมากกว่าปราสาทแห่งอื่น ภายนอกสร้างให้ดูเหมือนปราสาทในยุคกลาง แต่ภายในเต็มไปด้วยศิลปะในยุคต่างๆ ไบแซนไทน์ โรมันเนสก์ โกธิก แถมพระองค์ยังมีหัวก้าวหน้าในการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สุดมาใช้ในปราสาทแห่งนี้ ทั้งระบบไฟฟ้า ประปา แถมยังมีโทรศัพท์ในปราสาทอีกด้วย มีระบบทำน้ำร้อนน้ำเย็นพร้อมเสร็จ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 00:01:52

ความคิดเห็นที่ 12 #6 เม.ย.ไปถึงเยอรมันแล้วได้เที่ยวแค่มิวนิค เสียดายไม่ได้ไปนอยฯ เพราะไปใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ออสเตรีย แต่ก็รู้สึกว่าถึงเยอรมันเหมือนกันนะคะ อิอิ ต่อเลยค่ะ อยากดูรูปอีก จัดหนักมาค่ะ ชอบๆๆ เหมือนเทพนิยายเลย จากคุณ : ตัวกลมแก้มป่อง เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 00:02:29

ความคิดเห็นที่ 13 ปราสาทนอยชวานสไตน์เป็นปราสาทที่ยังสร้างไม่เสร็จ เมื่อพระเจ้าลุดวิกที่ 2 สิ้นพระชนม์ปราสาทนี้ได้ถูกสร้างไปเพียง 1 ใน 3 ของแผนที่วางไว้แล้ว พระเจ้าลุดวิกที่ 2 เองก็เสด็จมาประทับที่ปราสาทแห่งนี้เพียง 170 วันเท่านั้น หลังจากสิ้นพระชนม์เชื้อสายของพระองค์ได้เปิดให้ประชาชนได้ชื่นชมภายในบางส่วน โดยเก็บค่าเข้าชมเป็นค่าทะนุบำรุงซ่อมแซม จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 00:03:22

ความคิดเห็นที่ 14 มาทันถ่ายทอดสดด้วย เย้ๆ จากคุณ : aeewil เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 00:05:44

ความคิดเห็นที่ 15 คุณ ตัวกลมแก้มป่อง สวัสดีและขอบคุณครับ ผมมีเพื่อนเที่ยวปราสาทยามดึกแล้ว นึกว่าจะต้องเดินเที่ยวคนเดียวซ๊ะอีก ไปเยอรมันครั้งเดียวไม่พอแน่ๆครับ ประเทศนี้เป็นประเทศที่น่าเที่ยวที่สุดมากกว่าประเทศอื่นๆในยุโรป ตามความคิดเห็นส่วนตัวผมน่ะครับ ไม่เป็นไรครับ เอาไว้คราวหน้า คุณ ตัวกลมแก้มป่อง ค่อยวางแผนไปเที่ยวปราสาทเทพนิยายใหม่ก็ได้ครับ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 00:09:31

ความคิดเห็นที่ 16 นับว่าเป็นความโขคดีของชาวเยอรมัน ที่พระเจ้าลุดวิกที่ 2 ได้ทรงสร้างปราสาทเทพนิยายแห่งนี้ขึ้นมา เพราะปัจจุบันสามารถทำรายได้มหาศาลให้กับรัฐ ถ้าเป็นช่วงหน้าร้อนของยุโรปนักท่องเที่ยวจะแน่นขนัด มีทั้งคนเยอรมันเองและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่ต้องการมาชมปราสาทในเทพนิยายแห่งนี้ซักครั้งเป็นบุญตา จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 00:11:02

ความคิดเห็นที่ 17 หน้าตาของเจ้าของปราสาทเทพนิยายแห่งนี้ พระเจ้าลุดวิกที่ 2 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 00:11:41

ความคิดเห็นที่ 18 ชื่อของปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein) มีความหมาย ปราสาทหินหงส์ใหม่ ( neu = new, schwan = swan, stein = stone) จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 00:14:19

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่ไกลจากปราสาทนอยชวานสไตน์ เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงจะมองเห็นปราสาทแรกก่อน มีสีเหลือง ตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ย ๆ มีชื่อว่าปราสาทโฮนชวานเกา (Hohenschwangau) ซึ่งโปรดให้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อนโดยพระเจ้าแม็กซิมิเลียนที่สอง (Maximilian II) พระบิดาของพระเจ้าลุดวิกนั่นเอง  เจ้าชายลุดวิกในวัยเยาว์ทรงประทับอยู่ที่ปราสาทนี้อย่างมีความสุข และเป็นแรงบันดาลใจที่จะสร้างปราสาทของพระองค์เองขึ้นบ้าง พูดง่าย ๆ คือโฮนชวานเกาคือปราสาทของผู้พ่อ ส่วนนอยชวานสไตน์คือปราสาทของผู้ลูก ปราสาทโฮนชวานเกาอยู่ไม่ห่างกันนักจากปราสาทนอยชวานสไตน์ สามารถเดินถึงกันได้ใน 20 นาที และสามารถซื้อทัวร์เข้าไปชมทั้งสองปราสาทได้ในวันเดียวกัน จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 00:15:24

ความคิดเห็นที่ 20 บริเวณลานกว้างเป็นจุดศูนย์รวม ทั้งที่จอดรถ ที่จำหน่ายบัตรเข้าชมปราสาท ร้านอาหาร โรงแรมและศูนย์บริการนักท่องเที่ยว จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 00:16:03

ความคิดเห็นที่ 21 การเดินทางขึ้นไปชมปราสาท สามารถเลือกได้ 3 วิธีคือ เดิน นั่งรถม้า นั่งรถบัส การเดินขึ้นใช้เวลาประมาณ 30 นาที (เดินขึ้นเขา ไม่รวมเวลาที่เสียไปในการถ่ายภาพระหว่างทาง) เหมาะสำหรับคนที่ชอบ Trekking เพราะการเดินขึ้นค่อนข้างเหนื่อย แต่ได้ชมวิวสวยๆสองฟากทาง การใช้บริการรถม้า เหมาะสำหรับคนที่ไม่เร่งรีบ เนื่องจากรถม้าค่อนข้างช้าต้องรอนาน และที่สำคัญเวลานั่งจะได้กลิ่นขี้ม้าโชยอ่อนๆเป็นระยะด้วย วิธีนี้ใช้เวลาประมาณ 10 นาที วิธีสุดท้ายคือการนั่งรถบัส พวกเราเลือกวิธีนี้เพราะค่อนข้างสะดวก เนื่องจากการเดินขึ้นใช้เวลาค่อนข้างมาก รถม้าก็ต้องรอนานเกินไป ส่วนขาลงพวกเราเลือกวิธีเดินลงครับเนื่องจากต้องการเดินชมป่าเปลี่ยนสี จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 00:16:39

ความคิดเห็นที่ 22 ก่อนขึ้นรถบัสยังมีเวลาเหลือนิดหน่อย พวกเราเลยแวะไปทานไส้กรอกซอสแกง หรือที่เรียกว่าเคอรี่ววร์ซท์ (Curry Wurst) ครับ รูปนี้ยืนถ่ายที่ที่หน้าร้านมองเห็นปราสาทได้ในระยะไกล จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 00:17:18

ความคิดเห็นที่ 23 จุดถ่ายภาพความประทับใจของตัวปราสาท ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด คือจุดชมวิวจากสะพาน Marienbrucke (Mary's Bridge) ที่ทอดข้ามหน้าผาสูง 90 เมตร มีน้ำตกสูง 45 เมตร ไหลผ่านด้านล่าง นักท่องเที่ยวต้องมาถ่ายรูปปราสาทกันที่จุดนี้ ซึ่งเป็นจุดเดียวที่สามารถเห็นตัวปราสาทในแนวยาวด้านข้างได้สวยงามที่สุด แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 54 09:45:14 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 00:18:15

ความคิดเห็นที่ 24 ภาพนี้เป็นบริเวณลานกว้างที่จอดรถบัส นักท่องเที่ยวที่นั่งรถบัสมาจะถูกนำมาส่งที่นี่ เดินตามป้ายไปทางด้านขวามือสักครู่จะพบสะพาน Marienbrücke (Mary's Bridge) ซึ่งเป็นจุดชมวิวสามารถเห็นตัวปราสาทได้ชัดเจนที่สุด จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 00:18:45

ความคิดเห็นที่ 25 สะพาน Marienbrucke (Mary's Bridge) แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 54 09:44:45 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 00:19:27

ความคิดเห็นที่ 26 แต่ทว่าสะพาน Marienbrucke (Mary's Bridge) จะเป็นบริเวณที่มีนักท่องเที่ยวค่อนข้างหนาแน่นถึงแน่นมากๆโดยเฉพาะเมื่อเวลารถบัสนำนักท่องเที่ยวมาส่ง ขนาดจะถ่ายภาพไม่ให้ติดคนอื่นยากมากๆ ต้องอดทนรอจังหวะสักหน่อย แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 54 09:45:38 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 00:19:59

ความคิดเห็นที่ 27 มุมมหาชนที่สะพาน Marienbrucke (Mary's Bridge) แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 54 09:46:19 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 00:20:30

ความคิดเห็นที่ 28 เนื่องจากผมไม่ได้เข้าชมปราสาทเลยมีเวลาอยู่บนสะพานมากพอสมควร (ปล่อยให้เพื่อนๆเดินล่วงหน้าไปชมภายในปราสาทก่อน) บนสะพาน Marienbrucke ผู้คนค่อนข้างแน่นมากๆ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่รถบัสพาผู้โดยสารมาส่ง ส่วนใหญ่หลังจากลงจากรถบัสนักท่องเที่ยวจะเดินไปชมวิวที่สะพานก่อนเพราะสะพานอยู่ใกล้กับที่จอดรถบัส และหลังจากชมวิวที่สะพานแล้วก็จะเดินไปชมปราสาทครับ ช่วงนี้แหละครับเป็นช่วงที่บนสะพานคนจะน้อยลง ทำให้สามารถเลือกมุมถ่ายภาพได้ตามสะดวกครับ เพื่อนๆถ้ามีเวลามากพอและไม่เร่งรีบ ผมแนะนำให้รอสักพักจนกว่าคนบนสะพานแยกย้ายเดินไปชมปราสาทกันก่อน ทำให้บนสะพานคนน้อยลงจนกว่ารถบัสคันถัดไปจะขึ้นมาครับ แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 54 09:46:01 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 00:21:37

ความคิดเห็นที่ 29 ที่จริงตอนแรกตั้งใจไว้ว่าจะเดิน Trekking โดยนั่งกระเช้าขึ้นไปบนเขา Tegelberg ก่อนแล้วค่อยเดินจากบนเขาลงมาที่สะพาน Marienbrucke เนื่องจากระหว่างทางเดินลงเขาจะสามารถเห็นตัวปราสาทจากด้านบน เมื่อถ่ายรูปออกมาแล้วจะได้ภาพปราสาทที่สวยงามเหมือนภาพในโปสการ์ด แต่ผมกลัวเพื่อนๆในกลุ่มจะรอนานเกินไปก็เลยไม่ได้เดินลงเขาครับ ยังรู้สึกเสียดายอยู่เหมือนกัน ตอนยืนชมวิวอยู่ที่สะพาน Marienbrucke เห็นคนเดินลงมาจากยอดเขา Tegelberg เลยลองถามดูว่า ถ้าอยากจะเดินย้อนขึ้นไปข้างบน ต้องใช้เวลาอีกเท่าไหร่กว่าจะถึงจุดชมวิวที่สวยที่สุด ผู้ชายที่เดินลงมาบอกว่าน่าจะประมาณ 30 นาที ผมคิดแล้วว่าคงเหนื่อยเอาเรื่องเพราะเป็นการเดินขึ้นเขา ก็เลยเปลี่ยนใจไม่เดินขึ้นไปครับ แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 54 09:44:20 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 00:22:56

ความคิดเห็นที่ 30 ได้เวลาเดินไปชมปราสาทแล้วครับ จากสะพาน Marienbrucke (Mary's Bridge) ต้องเดินอีกประมาณ 15 - 30 นาทีโดยประมาณ แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วยครับ คนที่มีเวลาเหลือมากพอก็สามารถเดินละเลียดชมวิวข้างทางได้อย่างไม่ต้องเร่งรีบ เพราะตลอดระยะทางจะเต็มไปด้วยป่่าเปลี่ยนสีที่สวยงามเป็นด่านปราการกั้นไม่ให้เราเดินไปถึงตัวปราสาทได้ง่ายๆ แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 54 09:46:39 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 00:23:59

ความคิดเห็นที่ 31 ส่วนใครที่มีเวลาไม่มาก หรือคนที่ต้องรีบเดินไปปราสาทเพื่อให้ทันรอบเวลาที่กำหนดให้เข้าชมปราสาท ก็อาจพลาดโอกาสชมวิวช่วงนี้ไป หรืออาจจะเดินย้อนกลับมาใหม่(หลังจากชมภายในตัวปราสาทเสร็จแล้ว) ตอนขาลงที่จะมาขึ้นรถบัสก็ได้ครับ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 00:24:52

ความคิดเห็นที่ 32 ผมไม่ได้เข้าชมข้างในปราสาท เพราะเขาห้ามถ่ายภาพภายใน เลยมีเวลาเดินชมวิวป่าเปลี่ยนสีได้อย่างไม่เร่งรีบ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 00:25:28

ความคิดเห็นที่ 33 แหมก็วิวป่่าเปลี่ยนสีมันสวยงามมากเกินคำบรรยายนี่นา จะให้เดินแบบจ้ำอ้าวก็ดูจะเป็นการทำร้ายธรรมชาติมากจนเกินไป จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 00:26:07

ความคิดเห็นที่ 34 ใครที่ชื่นชอบเดินชมธรรมชาติเป็นพิเศษ ตอนซื้อตั๋วเข้าชมปราสาทควรเผื่อเวลาเดินชมธรรมชาติระหว่างทางเดินนี้ไว้ด้วย ส่วนคนที่มีเวลาไม่มาก ควรคำนวณเวลาเดินให้ดีเพราะถ้ามัวแต่เดินอ้อยอิ่งท่านอาจพลาดการเข้าชมภายในปราสาทตามเวลาที่กำหนดไว้ในตั๋วก็เป็นได้ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 00:27:44

ความคิดเห็นที่ 35 บริเวณทางเดินจุดนี้ สามารถมองเห็นวิวมุมกว้างเบิ้องล่างได้อย่างชัดเจน ป่าไม้กำลังสลัดทิ้งใบเปลี่ยนสีสวยงามเชียวครับ จะสังเกตุเห็นปราสาทโฮนชวานเกาอยู่เบื้องล่างทางมุมซ้ายมือด้วยครับ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 00:28:24

ความคิดเห็นที่ 36 คุณ aeewil ขอบคุณมากครับที่อยู่เป็นเพื่อนชมถ่ายทอดสด แต่ว่าคืนนี้คนโพสรู้สึกง่วงแล้ว ขอมาต่อพรุ่งนี้น่ะครับ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 00:31:01

ความคิดเห็นที่ 37 ใบไม้เปลี่ยนสี ปราสาทสวย บวกฝีมือตากล้อง เราจึงโชคดีที่ได้เห็นภาพสวยๆจากทริปนี้ ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ จากคุณ : Naddh เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 02:03:29

ความคิดเห็นที่ 38 สวยน่าไปมากๆ เลยค่ะ ปกติอยากไปที่นี่อยู่แล้ว ยิ่งเห็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ยิ่งทำให้อยากไปเยือนมากกว่าเดิมอีก ^^ ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆ และรีวิวนะคะ แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 54 02:12:58 จากคุณ : Blue Whale เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 02:12:08

ความคิดเห็นที่ 39 ป่าเยอรมันหน้า Fall นี่สวยงามจริง ๆ ครับ ยิ่งผ่านการถ่ายทอดจากมุมกล้องของ จขกท แล้วยิ่งงามเข้าไปใหญ่ ความคิดเห็นที่ 29 เพิ่งทราบว่ามีมุมที่ถ่ายรูปมุมโปสการ์ดได้ด้วย ตอนที่ผมไปก็พยายามถามคนขายโปสการ์ดทุกร้านว่ามุมนี้ถ่ายจากจุดไหน ทุกคนพร้อมใจกันตอบว่าต้องนั่งเฮลิคอปเตอร์ไป ไม่อย่างนั้นผมจะเผื่อเวลาเดิน trekking ไปจุดนั้นซะหน่อย ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 02:54:36

ความคิดเห็นที่ 40 ภาพสวยมากๆ ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามจริงๆ แวะไปดูกระทู้ก่อนหน้านี้แล้ว ต้องบอกว่าเห็นแล้วอยากจะตามรอยทริปนี้ในเร็ววันค่ะ ภาพสวยมากๆค่ะ :)) ขอถามนิดนึงนะคะว่าเจ้าของกระทู้ใช้เลนส์ตัวใหนค่ะเก็บภาพ สวยงามมากๆค่ะ ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยค่ะ จากคุณ : LoveParadise เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 03:00:03

ความคิดเห็นที่ 41 งดงามจริงๆครับใบไม้เปลี่ยนสี ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ในฝันที่อยากจะไปให้ได้เลยครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวด้วยครับ จากคุณ : Koon Shy_Tour Dee เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 08:56:37

ความคิดเห็นที่ 42 สวยมากๆเลยค่ะ จากคุณ : bremstrahlung เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 09:02:32

ความคิดเห็นที่ 43 ภาพสวยมากๆ ค่ะ อากาศก็เป็นใจจริงๆ ทั้งฟ้าใสๆ กับใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ เพิ่งทราบว่าแถวนั้นมี Tegelberg cablecar ด้วย ไม่งั้นคงได้ขึ้นไปเก็บภาพมุมสูงบ้าง ^^ จากคุณ : กาแฟขม เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 09:09:11

ความคิดเห็นที่ 44 เก็บภาพมาได้งดงามมากๆครับ ขอบคุณที่แชร์ให้ชมครับ จากคุณ : ฟองสบู่ เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 09:27:17

ความคิดเห็นที่ 45 สวยมากครับ จากคุณ : Rachkhun เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 10:06:48

ความคิดเห็นที่ 46 สวัสดีครับคุณ Cherokee1 แรงบันดาลใจทริปนี้เกิดจากการได้ชม รีวิวโปสการ์ด ของคุณ Cherokee1 น่ะครับ ไม่ว่าจะเป็นมิวนิค หรือปราสาทเทพนิยาย ที่พอได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีกับปราสาท ทำให้มือไม้สั่น เพราะว่ามันสวยมากๆ ทำให้ผมใส่ไว้ในโปรแกรมเที่ยวทันทีเลยครับ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เคเบิ้ลคาร์ขึ้นเขา tegelberg ครับ เวปไซท์ ภาษาเยอรมัน http://www.tegelbergbahn.de/ ภาษาอังกฤษ http://www.schwangau.de/tegelberg-cablecar-626.html สถานีเคเบิ้ลคาร์ tegelbergbahn ก็อยู่ไม่ไกลจากบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวครับ เมื่อนั่งเคเบิ้ลคาร์ไปถึงบนยอดเขา tegelberg แล้ว จะมีเส้นทางTrekking จากยอดเขาลงมาที่สะพาน Marienbrucke ครับ ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง หรือถ้าถ้าไม่อยากขึ้นเคเบิ้ลคาร์ไปบนยอดเขา tegelberg เราจะเดินย้อนทางจากสะพาน Marienbrucke ขึ้นไปยังจุดชมวิวก็ได้ครับ แต่คงเหนื่อหน่อยเพราะต้องเดินขึ้นเขา จากเส้นทาง Trekking เมื่อมองลงมายังตัวปราสาทก็น่าจะเห็นวิวปราสาทจากมุมสูงออกมาประมาณนี้อ่ะครับ คราวหน้าถ้าได้มีโอกาสไปเที่ยวปราสาทนี้อีกผมคงไม่พลาดนั่งเคเบิ้ลคาร์แน่นอนครับ ขอบคุณคุณ Cherokee1 น่ะครับที่แวะเข้ามาชมปราสาทเทพนิยายด้วยกัน จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 10:25:45

ความคิดเห็นที่ 47 งดงามจริง ๆ ครับ จากคุณ : Civict2003 เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 10:28:58

ความคิดเห็นที่ 48 สวัสดีครับคุณ กาแฟขม ข้อมูลเคเบิ้ลคาร์เพิ่มเติมอยู่ที่คำตอบด้านบนน่ะครับ ^^^ ผมเป็นแฟนคลับ คุณ กาแฟขม เช่นกันครับ ขอบคุณมากๆสำหรับข้อมูลพร้อมภาพสวยๆในการขับรถเที่ยวครับ ไม่ว่าจะเป็นรีวิวเส้นทาง ออสเตรีย ปราก เยอรมัน ที่ทำรีวิวไว้ดีมากๆ เป็นประโยชน์ให้กับผมในการตามรอยครับ ขอบคุณมากครับที่เข้ามาเที่ยว และยินดีที่ได้รู้จักครับ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 10:31:19

ความคิดเห็นที่ 49 ปราสาทนอยในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เป็นอะไรที่ใฝ่ฝันมานานแล้วค่ะ คงต้องหาโอกาสไปให้ได้สักครั้งหนึ่ง ขอบคุณคุณ Chris Evert  มากค่ะที่นำภาพสวยๆมาให้ชมกัน จากคุณ : NuL+ เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 10:35:43

ความคิดเห็นที่ 50 ฟ้าใส รูปสวยสุดๆไปเลยครับ เคยแว้บๆผ่านเยอรมัน แต่ที่ที่อยากไปสุดก็ปราสาทนี่ละครับ แต่พลาดไป ยิ่งเห็นรีวิวนี้แล้ว ยิ่งรู้สึกคราวโน้นนน.. พลาดมากๆ ขอบคุณรีวิวสวยๆนะครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 10:36:34

ความคิดเห็นที่ 51 คุณ Naddh .......... ขอบคุณเช่นกันครับที่เข้ามาให้กำลังใจ คุณ Blue Whale.......... เขาบอกกันว่าปราสาทเทพนิยายสวยทุกฤดูเลยครับ แต่ฤดูที่สวยที่สุดน่าจะเป็นฤดูใบไม้เปลี่ยนสีครับ คุณ LoveParadise ..........ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวครับ เรื่องกล้องและเลนส์ที่ใช้ ผมเป็นสาวกหนอนน่ะครับ ใช้เลนส์ Canon 24-105L กับ 16-35 ครับ คุณ Koon Shy_Tour Dee.......... ขอบคุณเช่นกันครับ ผมไปมาแล้วก็ยังอยากไปอีกครั คราวหน้าถ้ามีโอกาส อยากไปเห็นตอนหิมะลงน่ะครับ คุณ bremstrahlung .........ยินดีครับ คุณ กาแฟขม .........ตอนแรกที่ยืนอยู่ที่สะพานมาเรียน ก็ใจเสียเหมือนกันครับ เพราะท้องฟ้ามีแต่เมฆสีขาวเต็มไปหมดเลยครับ แต่พอยืนรอได้สักพักท้องฟ้าก็เริ่มเปิดครับ ถือว่ายังโชคดีครับ คุณ ฟองสบู่ ..........ขอบคุณเช่นกันครับ ที่แวะเข้ามาเที่ยวด้วยกัน คุณ Rachkhun ..........ขอบคุณครับ คุณ Civict2003 ..........ยินดีและดีใจที่ชอบครับ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 10:44:16

ความคิดเห็นที่ 52 ขออนุญาตรีวิวต่อจากเมื่อคืนครับ เนื่องจากป่าส่วนใหญ่ไม่มีต้นเมเปิ้ลเหมือนที่ญี่ปุ่น ใบไม้เลยไม่เปลี่ยนเป็นสีแดง จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 10:48:47

ความคิดเห็นที่ 53 แต่สีจะออกไปทางโทนเหลืองอมส้ม และน้ำตาลครับ ให้ความรู้สึกแบบเย็นตา จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 10:49:35

ความคิดเห็นที่ 54 เงยหน้ามองขึ้นไปข้างบนจะเจอแบบนี้ครับ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 10:50:10

ความคิดเห็นที่ 55 ที่นั่งพักระหว่างทาง จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 10:50:43

ความคิดเห็นที่ 56 ป้ายบอกทางเดินไปปราสาท จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 10:51:14

ความคิดเห็นที่ 57 มากันเป็นกลุ่ม จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 10:51:41

ความคิดเห็นที่ 58 โค้งนี้งามเชียวครับ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 10:52:11

ความคิดเห็นที่ 59 ใกล้จะถึงปราสาทแล้วครับ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 10:52:38

ความคิดเห็นที่ 60 เมื่อเดินมาถึงด้านหน้าปราสาท ซึ่งตรงนี้จะเห็นวิวมุมกว้างของปราสาท แต่อาจถ่ายภาพลำบากสักหน่อยในการที่จะเก็บตัวปราสาทให้ได้ทั้งหมดในหนึ่งเฟรม จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 10:53:05

ความคิดเห็นที่ 61 มุมด้านนี้ใบไม้เปลี่ยนสีด้านหน้าตัวปราสาทยังเปลี่ยนสีไม่เต็มที่ถ้าเที่ยบกับป่าเปลี่ยนสีที่เดินผ่านมา จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 10:53:34

ความคิดเห็นที่ 62 เดินตรงไปแล้วเลี้ยวอ้อมไปทางขวาก็จะพบประตูทางเข้าปราสาท จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 10:54:21

ความคิดเห็นที่ 63 เดินตามขึ้นมาเลยครับ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 10:54:57

ความคิดเห็นที่ 64 พากันมาเป็นครอบครัว จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 10:55:28

ความคิดเห็นที่ 65 ด้านหน้าประตูทางเข้า เป็นประตูไม้โค้งแบบยุคกลาง ซึ่งจะมีตราประจำตระกูล (Coat of Arms) อยู่ด้านบน จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 10:56:00

ความคิดเห็นที่ 66 การเข้าชมภายในปราสาทต้องซื้อทัวร์เพื่อเข้าชมเท่านั้น โดยมีไกด์พาเดินชมเป็นเวลาประมาณ 35 นาที และเปิดให้เข้าชมทั้งหมด 14 ห้อง ห้องส่วนใหญ่จะประดับประดาด้วยภาพวาดเกี่ยวกับตำนานและนิทานพื้นบ้าน โดยเฉพาะเรื่องที่มาจากอุปรากรของวากเนอร์ ข้างในห้ามถ่ายรูปอย่างเด็ดขาดครับ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 10:57:14

ความคิดเห็นที่ 67 ตามมาเที่ยว ปราสาทเทพนิยาย ด้วยคนค่ะ เมื่อวาน ดูรีวิว เมืองโกลท่าร์ ประทับใจมากๆ เมืองอะไร๊ น่ารักสุดๆ จากคุณ : SuPerHyPerOverUltraGLUE เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 11:01:53

ความคิดเห็นที่ 68 คุณ NuL+ .......... ขอบคุณเช่นกันครับ ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีกับปราสาท เขาบอกกันว่าเป็นฤดูที่สวยที่สุดในการชมปราสาทครับ คุณ cold river ......... งั้นคราวหน้าต้องไปแก้มือแล้วละครับ การไม่ได้ชมปราสาทนี้เขาบอกว่ายังไปไม่ถึงเยอรมันน่ะครับ ขอบคุณมากครับที่แวะมาเที่ยว จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 11:03:20

ความคิดเห็นที่ 69 วิวสวยสุดๆ เลยครับ จากคุณ : One Light One Shadow เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 11:04:14

ความคิดเห็นที่ 70 คุณ SuPerHyPerOverUltraGLUE ......... ขอบคุณมากครับ ถ้าชอบเมืองโกลม่าร์ อย่าลืมคลิ๊กเข้าไปชมเมือง ริคเวีย ด้วยน่ะครับ สวยไม่แพ้กัน กินกันไม่ลงเลยครับ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 11:05:49

ความคิดเห็นที่ 71 คุณ One Light One Shadow .......... ขอบคุณมากครับ ที่เข้ามาให้กำลังใจ ภาพรีวิวนิวซีแลนด์ ยังติดตาตรึงใจผมอยู่เลยครับ เป็นอีกหนึ่งปรเทศที่อยากไปขับรถเที่ยวน่ะครับ ขอบคุณมากๆสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และภาพสวยๆ (เห็นแล้วตาลุกวาวเลย) จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 11:08:33

ความคิดเห็นที่ 72 ... แหมตอนนี้กำลังเจ็บตา พอดูสีส้มๆ ยิ่งทำให้หาปวดตาเข้าไปใหญ่ ว่าแต่ ไปช่วงวันที่เท่าไหร่ถึงจะสวยค่ะ คุณจิโร่ ^_^ จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 13:03:15

ความคิดเห็นที่ 73 สวยสุดยอดจริงๆครับ...ขอบคุณนะครับ จากคุณ : mordek1 เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 13:16:23

ความคิดเห็นที่ 74 สวยมากเลยค่ะ กระทู้นี้ทำให้อยากไปยุโรปในฤดูใบไม้ร่วงบ้าง จากคุณ : adenium เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 14:08:19

ความคิดเห็นที่ 75 ราวกับภาพวาด ถ่ายทอดได้หมดจด จากคุณ : น้าโต๋ เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 14:42:27

ความคิดเห็นที่ 76 เห็น file ภาพของคุณจิโร่ แล้วอยากย้ายค่ายมาเล่นหนอนเลยครับ ff : 5d mark II น่าสนมากครับ จากคุณ : ฟองสบู่ เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 15:37:46

ความคิดเห็นที่ 77 สวยมากเลยครับ  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 15:50:30

ความคิดเห็นที่ 78 สวรรค์รึเปล่าหนะ???? จากคุณ : NUT_SURViVOR '_< เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 16:48:44

ความคิดเห็นที่ 79 สวยครับ อยากไปบ้าง จากคุณ : SC25_KU50 เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 20:25:58

ความคิดเห็นที่ 80 สวยเว่อร์ ยังกะในเทพนิยายแน่ะค่ะ จากคุณ : นางมารชุดส้ม เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 20:37:11

ความคิดเห็นที่ 81 คุณกุ้ง .............. ไม่แน่ใจซักเท่าไหร่อะครับ ผมเข้าไปวันที่ 27 ตค สภาพใบไม้เปลี่ยนสียังสวยอยู่ แต่ก็เป็นช่วงสุดท้ายแล้วครับ ถ้าช้ากว่านี้หนึ่งอาทิตย์คงเหลือแต่กิ่ง แต่เห็นน้องยุ เข้าไปก่อนหน้าผม น้องยุบอกว่าใบไม้ยังไม่ พีค น่ะครับ แต่ผมว่าไปช่วงประมาณกลางเดือน ถึง ปลายเดือน ตค ไม่น่าพลาดน่ะครับ คุณ mordek1 ขอบคุณเช่นกันครับ คุณ adenium ยินดีครับ ผมเองเคยเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีแบบฉูดฉาดแดงแปร๋นที่ญี่ปุ่นมาแล้วสองสามครั้ง คราวนี้เลยอยากเปลี่ยนบรรยากาสมาชมแบบเย็นตาที่ยุโรปบ้างอ่ะครับ คุณ น้าโต๋ ขอบคุณมากครับที่เข้ามาให้กำลังใจ คณ ฟองสบู่ ถ้าจะให้เดาท่าทางน่าจะใช้ นิคอน ใช่ไหมครับ แต่ว่าย้ายค่ายเนี่ยคงต้องคิดหนัก ทั้งกล้อง เลนส์ อุุปกรณ์เสริมต่างๆ โอ้ยจิปาถะ ไม่สบายกระเป๋าแน่นอน แต่ว่า ff : 5d mark II ราคาก็ลดลงมากแล้วน่ะครับ ผมก็ใช้อยู่เหมือนกัน คุณ  เล็กทาโร่ ยินดีครับ คุณ NUT_SURViVOR '_< สวรรค์บนดินน่ะครับ อย่าลืมแวะไปเที่ยวปราสาทนี้ให้ได้น๊ะครับ คุณ SC25_KU50 ขอบคุณครับ ที่แวะมาเที่ยว  KU50 เหรอครับ ผมก็ KU เหมือนกัน อิอิ คุณ นางมารชุดส้ม  ขอบคุณครับที่แวะเข้ามาเที่ยวด้วยกัน จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 21:21:55

ความคิดเห็นที่ 82 ห้องที่เห็นเรียกว่า Throne Hall หรือห้องราชบังลังก์ ดูยิ่งใหญ่อลังการ สีเหลืองทองอร่ามในศิลปะแบบไบแซนไทน์ แต่ห้องนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์เพราะขาดสิ่งสำคัญที่สุดของห้อง ก็คือบัลลังก์นั่นเอง โคมระย้าที่ตั้งอยู่กลางห้องมีน้ำหนักถึง 900 กิโลกรัม สามารถชักรอกลงมาได้เพื่อทำความสะอาดหรือเปลี่ยนเทียนเล่มใหม่ (ภาพจากวิกิพีเดียครับ) แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 54 21:25:46 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 21:23:35

ความคิดเห็นที่ 83 ลืมใส่ภาพครับ ห้องที่เห็นเรียกว่า Throne Hall หรือห้องราชบังลังก์ ดูยิ่งใหญ่อลังการ สีเหลืองทองอร่ามในศิลปะแบบไบแซนไทน์ แต่ห้องนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์เพราะขาดสิ่งสำคัญที่สุดของห้อง ก็คือบัลลังก์นั่นเอง โคมระย้าที่ตั้งอยู่กลางห้องมีน้ำหนักถึง 900 กิโลกรัม สามารถชักรอกลงมาได้เพื่อทำความสะอาดหรือเปลี่ยนเทียนเล่มใหม่ (ภาพจากวิกิพีเดียครับ) จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 21:26:38

ความคิดเห็นที่ 84 ห้องบรรทมของพระเจ้าลุดวิก ได้สร้างขึ้นในศิลปะแบบโกธิก มีงานแกะสลักไม้อย่างวิจิตรบรรจง ภาพวาดในห้องนี้มาจากอุปรากรเรื่อง Tristan and Isolde ของวากเนอร์ ข้างๆพระเก้าอี้สีน้ำเงินเป็นโต๊ะสำหรับล้างพระพักตร์ ใช้เทคโนโลยีน้ำประปายุคปัจจุบันให้น้ำไหลผ่านคอหงส์เงิน (ภาพจากวิกิพีเดียครับ) จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 21:27:14

ความคิดเห็นที่ 85 Study Room (ภาพจากวิกิพีเดียครับ) จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 21:27:42

ความคิดเห็นที่ 86 Drawing Room (ภาพจากวิกิพีเดียครับ) จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 21:28:10

ความคิดเห็นที่ 87 Dining Room (ภาพจากวิกิพีเดียครับ) จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 21:28:34

ความคิดเห็นที่ 88 ห้องชั้นบนสุดของปราสาท เรียกว่า Singers Hall เป็นห้องที่ใช้สำหรับจัดแสดงอุปรากรของวากเนอร์โดยเฉพาะ มีการออกแบบระบบอคูสติกของห้องเป็นอย่างดี และแน่นอน ภาพวาดที่ประดับห้องนี้มาจากอุปรากรเรื่อง Parsifal ของวากเนอร์ กษัตริย์ลุดวิกไม่มีโอกาสได้ทอดพระเนตรการแสดงในห้องนี้ขณะที่ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่ (ภาพจากวิกิพีเดียครับ) จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 21:29:08

ความคิดเห็นที่ 89 จุดชมวิว(นอกจากที่สะพาน Marienbrücke) ยังมีอีกที่ที่ทางปราสาทจัดไว้ให้ โดยทำเป็นแท่นยื่นออกจากหน้าผา จุดนี้สามารถมองเห็นตัวปราสาทด้านหน้า แต่ไม่สวยเท่ามองจากสะพาน Marienbrücke จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 21:29:34

ความคิดเห็นที่ 90 แท่นดังกล่าวเขาทำเป็นพื้นกระจกยื่นออกไปจากหน้าผา ใครที่เป็นโรคกลัวความสูงเวลาเดินออกไปถ่ายรูปต้องพยายามอย่ามองลงไปข้างล่าง จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 21:29:58

ความคิดเห็นที่ 91 จากลานกว้างหน้าปราสาทอีกด้านหนึ่ง สามารถมองเห็นวิวตัวเมืองและทะเลสาบสวยๆด้านล่าง จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 21:30:21

ความคิดเห็นที่ 92 ใบไม้เปลี่ยนสีบริเวณลานกว้างหน้าปราสาท กำลังเปลี่ยนสีสวยงามเชียวครับ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 21:30:44

ความคิดเห็นที่ 93 ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองอมส้ม ให้ความรู้สึกที่อบอุ่น จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 21:31:10

ความคิดเห็นที่ 94 ได้เวลาเดินลงข้างล่างแล้วครับ มีป้ายกำกับบอกทิศทางเป็นระยะๆ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 54 21:31:35