ความคิดเห็นที่ 1 เข้ามาลงชื่อไว้ก่อนครับ รักษาสุขภาพนะครับ จากคุณ : กุ้งบก เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 23:42:41

ความคิดเห็นที่ 2 สวัสดีค่ะ คุณกุ้งบก ขอบคุณมากนะคะ จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 09:37:39

ความคิดเห็นที่ 3 เรามาเริ่มกันเลยนะคะ หลังอาหารเช้าแล้ว เราก็ออกเดินทาง รถแวะเติมน้ำมัน จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 09:40:21

ความคิดเห็นที่ 4 ยังเช้าอยู่เลยลูกค้าเยอะพอสมควร จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 09:42:08

ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อพระพุทธองค์เสด็จมาโดยลำดับจนถึงสาลวโนทยาน (ป่าต้นสาละ) แห่งเมืองกุสินารา ได้เสด็จเข้าไปยังควงสาละทั้งคู่  รับสั่งให้พระอานนท์จัดตั้งเตียง ระหว่างควงไม้สาละทั้งคู่นั้น หันพระเศียรไปทางทิศเหนือ  แล้วประทับสีหไสยาสน์       สุดท้ายได้ตรัสปัจฉิมวาจาแก่ภิกษุทั้งหลายว่า  "ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราขอเตือนเธอทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นของธรรมดา  เธอทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด"  จากนั้นก็ไม่ตรัสอะไรอีกเลย  ต่อมาพระเจ้าอโศก โปรดให้สร้างสถูปคร่อมพระแท่นปรินิพพานพร้อมทั้งต้นสาละนั้นมีลักษณะทรงบาตรคว่ำ สูงประมาณ 70 ฟุต บนยอดมีฉัตร 3 ชั้น จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 10:04:37

ความคิดเห็นที่ 6 หน้าพระสถูป ปรินิพพานมีวิหารปรินิพพาน จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 10:10:19

ความคิดเห็นที่ 7 ภายในวิหาร เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ปางปรินิพพาน แกะสลักจากหินจุณศิลาก้อนเดียว   แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 55 10:38:00 จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 10:19:21

ความคิดเห็นที่ 8 แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 55 10:38:31 แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 55 10:35:42 จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 10:20:52

ความคิดเห็นที่ 9 ที่ฐานเป็นรูปปั้นของปัจฉิมสาวก พระอรหันต์องค์สุดท้ายที่ทันเห็นพระพุทธองค์ ถัดไปเป็นพระอนุรุทธะผู้เข้าสมาบัติ ตามดูพระพุทธองค์จนเข้าสู่ปรินิพพาน ถัดมาเป็นรูปพระอานนท์กำลังโศกเศร้า จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 10:43:29

ความคิดเห็นที่ 10 . จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 10:44:40

ความคิดเห็นที่ 11 ซากอาคารรอบ ๆสถูป จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 10:46:45

ความคิดเห็นที่ 12 . จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 10:49:59

ความคิดเห็นที่ 14 . จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 10:50:59

ความคิดเห็นที่ 15 มกุฏพันธนเจดีย์คือที่ถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้า เดืมเป็นที่ประกอบพิธีอภิเษกในการเข้ารับตำแหน่งเป็นรัฐบาล มัลลกษัตริย์ได้ยกให้เป็นที่ถวายพระเพลิงโดยอัญเชิญพระพุทธสรีระขึ้นสู่เชิงตะกอนไม้แก่นจันท์สูง 120 ศอก แล้วก็จุดเพลิงปรากฎว่าจุดไม่ติด จนเมื่อพระมหากัสสปะสาวกผู้ใหญ่มาถึงกระทำประทักษิณาวัตรพระพุทธสรีระ 3 รอบแล้วเข้าไปกราบพระบาทขอประทานอภัยโทษในทุกสิ่งทุกอย่างที่อาจล่วงเกินไว้ ทันทีนั้นไฟก็ลุกขึ้นที่เชิงตะกอน สถูปนี้อยู่ท่ามกลางทาง สี่แพร่งปัจจุบันชาวบ้านเรียกว่า รามาภาร์ จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 11:18:07

ความคิดเห็นที่ 16 เจดีย์นี้อยู่นอกพื้นที่เห็นไกล ๆสวยดี จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 11:27:00

ความคิดเห็นที่ 17 ตามมาเที่ยวอินเดียต่อครับ จากคุณ : Nat_NM เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 12:27:32

ความคิดเห็นที่ 18 มะขามป้อมอินเดียลูกใหญ่มาก จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 12:47:04

ความคิดเห็นที่ 19 สวัสดีค่ะ คุณNat_NM          อินเดียก็มีต้นตาลเยอะเหมือนกัน จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 12:53:19

ความคิดเห็นที่ 20 โทนพราหมณ์เจดีย์ สถานที่นี้เราไม่ได้ไปเพราะปัจจุบันเหลือเพียงกองดินกลาง ๆมีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่อยู่ข้าง ๆ แต่จะขอเล่าประวัติว่าโทนพราหมณ์ผู้นี้เป็นผู้ระงับศึกแย่งชิงพระบรมสารีริกธาตุ โดยเข้ามาจัดการแบ่งออกเป็น 8 ส่วนเท่า ๆกัน และโทนพราหมณ์ขอทะนานที่ตวงแบ่งพระธาตุ นำไปสร้างสถูปยังเมืองของตน         ที่วัดพระประโทนนครปฐมมีเจดีย์ที่เชื่อกันว่ามีทะนานดังกล่าวอยู่ด้านใน จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 13:21:57

ความคิดเห็นที่ 21 เจดีย์ในวัดพระประโทน จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 13:23:02

ความคิดเห็นที่ 22 ขออภัยค่ะขอลาไปต่างจังหวัด ซัก 2 - 3 วันนะคะจะมาต่อวันอังคารค่ะ จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 13:26:07

ความคิดเห็นที่ 23 มาลงชื่อค่ะ จากคุณ : แม่น้องฝัน เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 13:34:53

ความคิดเห็นที่ 24 รอนะคะ จากคุณ : +G@To+ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 16:21:12

ความคิดเห็นที่ 25 มารอชมต่ออยู่นะครับ จากคุณ : Destiny-Boy เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 19:36:43

ความคิดเห็นที่ 26 รอชมรีวิวต่อด้วยคนนะคะ ^^ จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 55 14:46:20

ความคิดเห็นที่ 27 กลับมาแล้วจ้าต้องขออภัยทุกท่านด้วย ที่บอกว่าจะไป ซัก 2 - 3 วัน แต่กลายเป็น สิบกว่าวัน เพราะต่อด้วยเทศกาลตรุษจีน อย่าเพิ่งเบื่อนะคะ    สวัสดีค่ะ        - คุณแม่น้องฝัน        - คุณ +G@To+        - คุณ Destiny - Boy        - น้องลิลลี่     มาชมต่อนะคะ จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 11:41:04

ความคิดเห็นที่ 28 จากเมืองกุสินารา เราเดินทางมาถึงเมืองเวสาลี สถานที่แรกเรามาที่ ปาวาลเจดีย์ จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 11:45:01

ความคิดเห็นที่ 29 ปาวาลเจดีย์ คือสถานที่พระพุทธองค์ ทรงปลงอายุสังขาร จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 11:47:34

ความคิดเห็นที่ 30 ในวันที่ทรงปลงสังขาร พระพุทธองค์ทรงย้ำเตือนพุทธบริษัทในที่นั้นว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ขอท่านทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด ไม่ช้าตถาคตจักปรินิพพาน จากนี้ล่วงไปสามเดือน จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 12:02:55

ความคิดเห็นที่ 31 บริเวณใกล้กันนั้นมีสระน้ำขนาดใหญ่ จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 12:34:08

ความคิดเห็นที่ 32 และในบริเวณรอบสระน้ำนี้เคยเป็นพระราชวังมาก่อน จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 12:36:28

ความคิดเห็นที่ 33 รอบสระมีคนขายของ  มีอย่างนึง ที่น่าสนใจ  เป็นอาหารสีสวยไปดูใกล้ ๆ ปรากฏว่าเป็นดอกกะหล่ำชุบแป้งทอด เป็นของกินเล่น เรียก ปะกอร่า แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 55 15:13:25 จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 12:45:42

ความคิดเห็นที่ 34 ต่อจากนั้นเราไปที่วัดไทยไวสาลี(ไวสาลีกับเวสาลี คือเมืองเดียวกัน) จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 12:51:39

ความคิดเห็นที่ 35 พระพุทธรูปในวัด จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 12:52:40

ความคิดเห็นที่ 36 แม่ไก่ตัวนี้ดุมาก ใครเดินเฉียดไปไม่ได้เลย จะทำขนพองและส่งเสียงขู่ คิดว่าคงกำลังกกไข่อยู่ แต่ที่กกไข่ทำไมไปอยู่บนโต๊ะที่วางสมุดเซ็นต์เยี่ยม? จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 13:01:26

ความคิดเห็นที่ 37 บริเวณวัด จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 13:02:46

ความคิดเห็นที่ 38 จากเวสาลี เรามาถึงพุทธคยา เข้าที่พักมืดพอดี จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 15:17:19

ความคิดเห็นที่ 39 ห้องพักทำเป็นเหมือนถ้ำ จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 15:19:01

ความคิดเห็นที่ 40 บริเวณรอบ ๆที่พัก จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 15:20:36

ความคิดเห็นที่ 41 ที่พักส่วนที่เป็นอาคาร จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 15:22:55

ความคิดเห็นที่ 42 มีสระว่ายน้ำ จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 15:23:50

ความคิดเห็นที่ 43 อาหารมื้อเย็น จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 15:25:26

ความคิดเห็นที่ 44 ทานอาหารเย็นเสร็จแล้วก็เข้านอน จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 15:26:41

ความคิดเห็นที่ 45 รับประทานอาหารเช้าแล้วสถานที่แรกที่เราไปคือ  สถานที่ที่นางสุชาดา ถวายข้าวมธุปายาสแด่พระโพธิสัตว์ ที่ใต้ต้นไทร ก่อนที่พระโพธิสัตว์จะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตามพุทธประวัติเล่าว่า นางสุชาดาเป็นลูกสาวเศรษฐี เมื่อครั้งยังเป็นสาวได้บนบานต่อเทพารักษ์ ขอให้ได้สามีที่มีตระกูลเสมอกัน และมีบุตรคนแรกเป็นชาย เมื่อได้ทุกอย่างสมใจนึกแล้วจึงคิดจะหุงข้าวมธุปายาสไปแก้บนแก่เทพารักษ์  ดังนั้นในวันขึ้น 14 ค่ำเดือน 6 ได้ให้บ่าวไพร่เตรียมทำข้าวมธุปายาสกว่าจะเสร็จเป็นเวลาเที่ยงคืน นางสุชาดาได้ให้สาวใช้ไปปัดกวาดทำความสะอาดโคนต้นไทรเพื่อจัดเป็นที่ตั้งเครื่องสังเวยเทพารักษ์ เวลาเช้าสาวใช้ไปที่ใต้ต้นไทรเห็นพระมหาบุรุษประทับอยู่มีรัศมีพระวรกายแผ่ซ่านงดงามยิ่งนัก ก็คิดทึกทักว่าเทพยดาลงมารับเครื่องสังเวยด้วยมือเองรีบกลับบ้านบอกนางสุชาดาว่า เทพารักษ์มานั่งรอที่โคนต้นไทรแล้ว นางสุชาดาดีใจมากใช้ถาดทองใบหนึ่งใส่ข้าวมธุปายาสเต็มถาดปิดด้วยถาดทองอีกใบหนึ่งแล้วห่อหุ้มด้วยผ้าทอง ยกถาดขึ้นทูนหัวของนาง ไปถึงต้นไทรเห็นพระมหาบุรุษงามด้วยรัศมีจึงถวายถาดข้าว ด้วยความเคารพยิ่งพระมหาบุรุษทรงเหยียดพระหัตถ์ออกรับแสดงให้นางรู้ว่าพระองค์ไม่มีบาตรจะถ่ายข้าวปายาสไว้ นางสุชาดาก็กราบทูลว่าหม่อมฉันขอถวายทั้งหมด พระองค์มีพระประสงค์ประการใด โปรดนำไปตามพระหฤทัยทั้งหมดเถิด ความปรารถนาของหม่อมฉันสำเร็จฉันใด ขอสิ่งซึ่งพระหฤทัยของพระองค์ประสงค์ จงสำเร็จฉันนั้นเถิด แล้วนางก็ถวายบังคมลากลับเรือน  ปัจจุบันสถานที่ดังกล่าวมีต้นโพธิ์ขึ้นแทนต้นไทร แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 55 19:49:18 จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 17:41:41

ความคิดเห็นที่ 46 ท่าสุปปติฏฐะ แห่งแม่น้ำเนรัญชรา คือสถานที่พระพุทธองค์ทรงอธิษฐานลอยถาด  ตามพุทธประวัติเล่าว่า เมื่อพระมหาบุรุษเสด็จลุกจากที่ประทับทรงถือถาดข้าวมธุปายาสเสด็จไปยังริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา เสวยข้าวจนหมดแล้วทรงถือถาดลงไปที่แม่น้ำ ทรงอธิษฐานเสี่ยงทายพระบารมีว่า ถ้าจะได้ตรัสรู้พระปรมาภิเษกสัมโพธิญาณแล้ว ขอให้ถาดนี้จงลอยทวนน้ำขึ้นไป แล้วทรงลอยถาดทองนั้นลงในแม่น้ำเนรัญชรา ด้วยอานุภาพพระบารมีของพระองค์ซึ่งทรงบำเพ็ญมาบริบูรณ์ดีแล้ว ได้แสดงให้เห็นเป็นอัศจรรย์ ถาดทองนั้นได้ลอยทวนกระแสน้ำขึ้นไปประมาณ 1 เส้นแล้วจึงจมลงสู่นาคภพพิมานแห่งพญากาฬนาคราช ท่าน้ำนี้จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับมหาเจดีย์พุทธคยา จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 20:12:54

ความคิดเห็นที่ 47 แม่น้ำเนรัญชราจะมีน้ำใสไหลสะอาดก็เฉพาะฤดูฝนคือช่วงเวลาเข้าพรรษาจนถึงประมาณทอดกฐินเสร็จเท่านั้น นอกนั้นน้ำจะแห้งขอดมีแต่ทรายเหลือร่องน้ำตรงกลางตื้น ๆเท่านั้น จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 20:21:17

ความคิดเห็นที่ 48 จากริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา เราไปที่บ้านนางสุชาดา ผู้ที่ถวายอาหารมื้อสุดท้ายก่อนที่ พระโพธิสัตว์จะได้ตรัสรู้เป็นสัมมาสัมพุทธเจ้า ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชทรงสร้างสถูปเพื่อเป็นเกียรติแก่นางสุชาดาด้วย แต่สถูปนั้นได้พังทลายไปหมดแล้ว และทางการได้ทำการขุดค้นบูรณะขึ้นมาใหม่ จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 20:29:47

ความคิดเห็นที่ 49 ภูมิทัศน์รอบบ้านนางสุชาดา จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 20:31:09

ความคิดเห็นที่ 50 กองฟาง จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 20:32:14

ความคิดเห็นที่ 51 ออกจากบ้านนางสุชาดาเราก็มาที่พระมหาเจดีย์พุทธคยา จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 20:39:59

ความคิดเห็นที่ 52 พระมหาเจดีย์พุทธคยานี้สร้างด้วยหินทราย เป็นทรงสี่เหลี่ยมสูงประมาณ 170 ฟุต ยอดแหลมคล้ายยอดพระเจดีย์ทั่วไป และมีเจดีย์องค์เล็ก ๆลดหลั่นกันไปอยู่โดยรอบพระเจดีย์องค์ใหญ่ จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 20:48:05

ความคิดเห็นที่ 53 ภายในพระมหาเจดีย์ ชั้นล่างประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ สูง 1.66 เมตร หน้าตักกว้าง 1.47 เมตร แกะสลักด้วยหินศิลปะสมัยปาละ องค์พระพุทธรูปทาด้วยสีทองสวยงาม มีอายุประมาณ 1,400 ปี ที่เรียกกันว่า พระพุทธเมตตา จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 20:55:48

ความคิดเห็นที่ 54 ถัดจากพระมหาเจดีย์ฯ เข้ามาเป็นเสาหินพระเจ้าอโศก อยู่บริเวณหน้าวิหารสระมุจจลินทร์ ส่วนยอดของเสาชำรุดแล้วเหลือแต่ตัวเสาสูงประมาณ 4 เมตร เป็นเสาที่มีขนาดเล็กกว่าเสาหินพระเจ้าอโศกอื่น ๆ ทรงสร้างเสานี้เพื่อเป็นที่ระลึกว่าบริเวณนี้เป็นสถานที่พระพุทธองค์ทรงรับหญ้ากุสะ (หญ้าคา) จากโสตถิยะพราหมณ์ จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 21:47:02

ความคิดเห็นที่ 55 ต้นพระศรีมหาโพธิ์ สังเวชนียสถานที่ตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ของชาวพุทธทั่วโลก ถือเป็นต้นไม้สัญลักษณ์ของชาวพุทธไปโดยปริยาย พระศรีมหาโพธิ์ต้นปัจจุบันเป็นต้นที่ 4 ปลูกเมื่อพ.ศ. 2443 มีอายุได้ 112 ปีต้นสูงประมาณ 80 เมตร ลำต้นขนาด 3 คนโอบ จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 21:58:14

ความคิดเห็นที่ 56 ผู้จาริกแสวงบุญ นอกจากสวดมนต์เจริญจิตภาวนา น้อมจิตตามธรรมคำสอนเหมือนได้เข้าเฝ้าพระพุทธองค์แล้ว ยังนิยมรดน้ำต้นโพธิ์ ปิดทอง ถวายผ้าห่มต้นโพธิ์อีกด้วย จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 22:06:07

ความคิดเห็นที่ 57 การตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณ   เมื่อพระมหาบุรุษเสด็จขึ้นประทับบัลลังก์ซึ่งปูลาดด้วยหญ้ากุสะ 8 กำมือ ที่ โสตถิยะพราหมณ์ถวายให้ แล้วขัดสมาธิหันพระปฤษฎางค์ ไปทางต้นพระศรีมหาโพธิ์ ก่อนที่จะทรง เริ่มบำเพ็ญเพียร  ได้ทรงตั้งสัตยาธิษฐานในพระทัยว่า ตราบใดที่ยังไม่ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ จะไม่เลิกละความเพียรโดยลุกไปจากที่นี้โดยเด็ดขาด แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 55 13:09:05 แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 55 22:22:31 จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 55 22:21:47

ความคิดเห็นที่ 58 เมื่อพระพุทธองค์ได้ตรัสรู้ธรรมวิเศษแล้ว ได้เสด็จประทับเสวยวิมุตติสุข   ณ สถานที่ ต่าง ๆ 7 แห่ง แห่งละ 7 วัน เพื่อพิจารณาพระโพธิญาณที่ได้ตรัสรู้นั้นให้แน่พระทัย เรียกสถานที่ทั้ง 7 แห่งนั้นว่า  สัตตมหาสถาน เรียงตามลำดับที่เสด็จ ดังนี้     สัปดาห์ที่ 1 พระแท่นวัชรอาสน์ คือพระแท่นที่ประทับตรัสรู้ จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 13:23:50

ความคิดเห็นที่ 59 สัปดาห์ที่ 2 เสด็จประทับเสวยวิมุตติสุข ณ อนิมิสเจดีย์ โดยที่ประทับยืนทอดพระเนตรต้นพระศรีมหาโพธิ์ ตลอด 7 วันโดยมิได้กระพริบพระเนตร จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 13:36:01

ความคิดเห็นที่ 60 สัปดาห์ที่ 3 เสด็จประทับเสวยวิมุตติสุข ณ รัตนจงกรมเจดีย์ พระพุทธองค์ทรงนิรมิตที่สำหรับจงกรม เพื่อเสด็จจงกรมจากทิศตวันออกจรดทิศตวันตก ทรงปฏิบัติเช่นนี้ตลอด 7 วัน  ปัจจุบันมีหินแกะสลักเป็นดอกบัวบานรับแสงอาทิตย์ 19 ดอก บนแท่นหินสูง 1 เมตร ยาว 6 เมตร แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 55 13:50:53 จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 13:49:25

ความคิดเห็นที่ 61 สัปดาห์ที่ 4 เสด็จประทับเสวยวิมุตติสุข ณ รัตนฆรเจดีย์  อรรถกถาเล่าว่า เทวดาทั้งหลาย เนรมิตเรือนแก้ว ทางทิศตวันตกเฉียงเหนือของต้นพระศรีมหาโพธิ์ ถวายพระพุทธองค์ทรงนั่งขัดสมาธิในเรือนแก้วนั้นทรงพิจารณาพระอภิธรรมปิฎก และ พระสมันปัฏฐานอนันตนัยในพระอภิธรรมปิฎกโดยพิเศษทรงยับยั้งอยู่ตลอดสัปดาห์  (รูปนี้ได้มาจากหนังสือ) แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 55 15:01:37 จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 14:32:20

ความคิดเห็นที่ 62 สัปดาห์ที่ 5 เสด็จประทับเสวยวิมุตติสุข ณ ใต้ร่มไม้ไทร ที่มีชื่อ อชปาลนิโครธ ซึ่งเป็นที่พักของคนเลี้ยงแกะอยู่ไม่ไกลจากบ้านนางสุชาดา  ทรงตรึกถึงบุคคลที่สมควรรับฟังคำสอน จนเกิดคำอุปมาแห่งบุคคล เหมือนอุบล 4 เหล่า (รูปจากหนังสือ) แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 55 15:04:46 จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 14:59:22

ความคิดเห็นที่ 63 สัปดาห์ที่ 6 เสด็จประทับเสวยวิมุตติสุข ณ บริเวณ สระมุจลินทร์ประทับที่โคนไม้มุจลินทร์(จิก) ในช่วงนั้นมีฝนตกพรำตลอด 7 วัน พญามุจลินทร์นาคราชได้เข้าถวายอารักขาด้วยการแผ่พังพานพร้อมด้วยขนด 7 รอบ เพื่อป้องกัน ลม ฝน แดด เหลือบ ยุง สระนี้อยู่ไกลจากพระศรีมหาโพธิ์ ประมาณ 2 กม. ปัจจุบันทางการได้จำลองสระมุจลินทร์ไว้ที่บริเวณเจดีย์พุทธคยา  สระมุจลินทร์จำลอง จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 15:21:19

ความคิดเห็นที่ 64 แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 55 15:24:09 จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 15:23:00

ความคิดเห็นที่ 65 สระมุจลินทร์สถานที่จริง(รูปจากหนังสือ) จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 15:23:41

ความคิดเห็นที่ 66 สัปดาห์ที่ 7 เสด็จประทับเสวยวิมุตติสุข ณ ใต้ร่มไม้เกด มีชื่อว่า ราชายตนะ ทรงยับยั้งอยู่ด้วยสุขในฌาน และสุขในผล ในระหว่างนั้นมีพ่อค้าชาวพม่า สองคนคือ ตปุสสะ และภัลลิกะได้ถวายข้าวสัตตุผง และสัตตุกก้อนพระพุทธองค์ทรงอธิษฐานบาตรทั้งสี่ ที่ท้าวเทวราชทั้ง สี่นำมาถวายให้เป็นบาตรเดียวรับข้าวจากสองพี่น้องมาเสวย อันเป็นพระกระยาหารมื้อแรกหลังจากตรัสรู้  ครั้งนั้นพ่อค้า สองพี่น้องก็เปล่งวาจา ขอถึงพระพุทธเจ้า และพระธรรมเป็นสรณะ(เวลานั้นยังไม่มีพระสงฆ์) พระพุทธองค์ได้ประทานพระเกศธาตุ แก่สองพี่น้อง เขาได้บรรจุพระเกศธาตุไว้ในผอบทองคำ นำกลับไปยังบ้านเกิดของตน สร้างเจดีย์บรรจุพระเกศธาตุนั้นไว้ ซึ่งว่ากันว่าก็คือพระมหาเจดีย์ชเวดากองนั่นเอง ปัจจุบันมีต้นโพธิ์ขึ้นแทนต้นเกด จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 15:48:16

ความคิดเห็นที่ 67 บรรยากาศทั่วไปในบริเวณมหาเจดีย์พุทธคยา จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 16:15:34

ความคิดเห็นที่ 68 พระจีนสวดมนต์ จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 16:17:25

ความคิดเห็นที่ 69 พระธิเบตไหว้แบบอัษฎางคประดิษฐ์ จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 16:19:53

ความคิดเห็นที่ 70 เจดีย์เล็ก จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 16:21:36

ความคิดเห็นที่ 71 พระพุทธรูปที่อยู่รอบ ๆเจดีย์ จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 16:33:07

ความคิดเห็นที่ 72 สองพี่น้องนี้ชื่ออะไร มีความสำคัญอย่างไร ก็จำไม่ได้ซะแล้ว ผู้รู้ช่วยบอกเอาบุญด้วยนะคะ จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 16:37:45

ความคิดเห็นที่ 73 รอยพระพุทธบาทที่ขุดได้ จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 16:40:35

ความคิดเห็นที่ 74 ระฆังนี่ก็ขุดได้ จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 16:41:42

ความคิดเห็นที่ 75 จากเจดีย์พุทธคยาเราไปที่วัดไทยพุทธคยา จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 16:43:12

ความคิดเห็นที่ 76 จากวัดไทยพุทธคยาเราไปขึ้นเขาคิชกูฎ ระหว่างทางเห็นแม่น้ำนี้กับชาวบ้าน จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 16:49:52

ความคิดเห็นที่ 77 นี่คือต้นรัม ที่ชาวบ้านเจาะที่คอต้นแล้วรองด้วยหม้อเอาน้ำไปทำเมรัย (น้ำตาลเมา) ทำให้ชาวบ้านมัวเมากับเมรัยนี้มาก ซึ่งเป็นที่มาของศีลข้อที่ห้า จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 16:54:36

ความคิดเห็นที่ 78 ร้านขายของ จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 16:55:48

ความคิดเห็นที่ 79 เราเดินขึ้นเขาคิชกูฎ สองข้างทางมีของวางขายนี่เป็นสมุนไพร จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 16:57:50

ความคิดเห็นที่ 80 มองขึ้นไปบนยอดเขา จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 16:59:22

ความคิดเห็นที่ 81 ถ้ำสุกรชาตา คือถ้ำที่พระสารีบุตรได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 17:13:09

ความคิดเห็นที่ 82 ถ้ำพระโมคคัลลานะ จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 17:24:32

ความคิดเห็นที่ 83 กุฏิพระอานนท์ จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 17:25:43

ความคิดเห็นที่ 84 มูลคันธกุฎี ที่ประทับของพระพุทธเจ้า จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 17:28:34

ความคิดเห็นที่ 85 รอยพระพุทธบาท จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 17:29:39

ความคิดเห็นที่ 86 ช่องทางที่พระพุทธเจ้าเสด็จบิณฑบาตร จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 17:32:22

ความคิดเห็นที่ 87 บริเวณนี้คือที่พระพุทธเจ้าถูกพระเทวทัตกลิ้งหินลงมาถูกพระองค์จนห้อพระโลหิต จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 17:35:28

ความคิดเห็นที่ 88 เมื่อลงจากเขาคิชกูฏแล้วเราก็แวะที่ วัดชีวกัมพวัน เป็นสถานที่หมอชีวกโกมารภัจจ์แพทย์หลวงของพระเจ้าพิมพิสารถวายป่ามะม่วงให้เป็นสังฆาราม และเคยเป็นที่ถวายการพยาบาลพระบรมศาสดาคราวถูกพระเทวทัตกลิ้งก้อนหินหมายปลงพระชนม์ที่เขาคิชกูฎ นับเป็นโรงพยาบาลสงฆ์แห่งแรกในโลก จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 17:44:34

ความคิดเห็นที่ 89 นี่เป็นทางเกวียนโบราณ ว่ากันว่ามีมาแต่ครั้งพุทธกาล ปัจจุบันกลายเป็นหิน จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 18:10:36

ความคิดเห็นที่ 90 จากนั้นเราไปดูที่เก็บสมบัติ ของกษัตริย์องค์ไหนก็ไม่รู้ ฟังไม่ทัน ใช้วิธีเจาะภูเขาไปเป็นห้อง นี่เป็นทางเข้า แก้ไขเมื่อ 29 ก.พ. 55 10:12:13 จากคุณ : เถาไอวี่ เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 18:14:29