จากกระทู้ก่อน E11619731 ได้มีโอกาสฉลองคริสต์มาสอย่างโดดเดี่ยวใน Warsaw คราวนี้ก็จะได้เดินทางขึ้นเหนือต่อไปยังรัฐบอลติค
ประเดิมด้วย Vilnius เมืองหลวงของลิตธัวเนีย
.....................................................................................
สำหรับผู้ร่วมเดินทางใหม่ ที่หลงเข้ามา ก็ย้อนไปดู จากที่ได้พรีวิวหลักในกระทู้ E11457136 นะครับ
หรือสามารถติดตามเพิ่มเติมได้จาก เฟสบุค facebook.com/lonelysurvey สำหรับบางรูปและบางเรื่องซึ่งไม่เหมาะสำหรับกระทู้สาธารณะครั
...........................................................................
เมื่อเสร็จสิ้นการฉลองคริสต์มาสอย่างโดดเดี่ยวในวอร์ซอว เมืองหลวงของโปแลนด์แล้ว ผมก็จับรถบัสข้ามคืน เพื่อเดินทางต่อไปยัง Vilnius เมืองหลวงของลิตธัวเนีย
จ่ายค่ารถไปพันกว่าบาท รถค่อนข้างจะดี แต่ก็ไม่ได้ทำให้หลับสบายเพราะยังไงเบาะมันก็ทำให้ราบไม่ได้ ยังดีที่เบาะข้างๆมันว่า เลยพอทำเสมือนว่านอนได้
...........................................................
รัฐบอลติค จริงๆเอาไว้เรียกประเทศที่ติดทะเลบอลติคอย่างลิธัวเนีย ลัตเวีย เอสโทเนีย ประเทศเหล่านี้มีความหลังคล้ายกับโปแลนด์ที่โดนเข่นโดยมหาอำนาจหลายฝ่าย
ว่ากันสั้นๆคือ หลังสงครามโลกครั้งที่๑ ประเทศเหล่านี้ประกาศตัวเป็นประเทศเกิดใหม่ (หลังสงคราม ถ้าแทงหวยถูก ก็จะได้สิทธิ์ต่างๆ ไทยเราเช่นกัน)
แต่หลังจากนั้น เมื่อจะย่างเข้าสงครามโลกครั้งที่ ๒ ก็ถูกโซเวียตหึ่มๆจะครอบครองเอา จนยาวมาถึงสงครามจบ รัสเซียก็ตู่เอาจริงๆ
จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ให้เป็นอิสระแต่นั้นมา จนม่านเหล็กโซเวียตเริ่มผุพัง ถึงได้เริ่มเกิดใหม่อีกครั้ง แต่ก็ดูเหมือนจะช้ากว่าประเทศยุโรปอื่นๆไปซะหน่อย
.............................
ปัจจุบัน ประเทศเหล่านี้จึงทำหน้าที่เสมือนแหล่งแรงงาน แหล่งผลิตให้กับยุโรปอื่นๆ และได้เข้าร่วมเป็นประเทศเชงเกน ฉะนั้น เดินทางเที่ยวได้ฉลุยถ้ามีเชงเกนครับ
ที่ำสำคัญ ด้วยความเป็นประเทศที่มาช้ากว่ายุโรปอื่นๆ คนไทยอย่างเราก็สามารถเที่ยวได้อย่างสบายกระเป๋า เพราะไม่แพงมากสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ
..............................
ไปดูกันที่ Vilnius ของลิตธัวเนียกันก่อนครับ
The next voyage:จากกำแพงเบอลิน ถึงประตูไซยเวียงจันทน์ มอสโคและสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง
