ความคิดเห็นที่ 1 ที่มาของการได้ไปวูฟของผมมันมาจากตอนที่ผมตัดสินใจจะไปเที่ยวญี่ปุ่นน่ะครับ(ซึ่งแน่นอนว่าไปกับทัวร์) ขณะที่หาข้อมูลไปเรื่อยๆนั้นผมก็ได้พบเข้ากับสิ่งหนึ่งที่ทำให้บริษัททัวร์ที่ไหนซักแห่งอดได้เงิน(สองหมื่นปลายๆ-สามหมื่นต้นๆ-กะเอาที่ถูกที่สุดอะครับ 55)ของผม หนังสือชื่อ"ปฏิบัติการบุกญี่ปุ่น"ของคุณดนัย วิทยานทีกระทืบๆๆๆๆแผนเที่ยวญี่ปุ่น(กับทัวร์)ของผมพังลงไม่มีชิ้นดี จากที่ผมวางแผนคร่าวๆไว้ว่าจะไปญี่ปุ่นด้วยงบตามที่บอก ซึ่งด้วยงบขนาดนี้ก็จะไปได้ไม่เกิน5-7วัน(นับรวมการค้างในสนามบิน2วันแบบของทัวร์ 55) แต่คุณดนัยนั้นเค้าเที่ยวญี่ปุ่น3เดือนด้วยเงินหนึ่งหมื่นสามพันบาท(ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน) - เช็ดโด้!!! ที่สำคัญกว่านั้นการได้ไปกิน-อยู่-หลับนอนในบ้านของคนญี่ปุ่นเนี่ยเป็นสุดยอดความปรารถนาของคนที่อ่านการ์ตูนมาตั้งแต่เท้าเท่าฝาหอยแบบผมเลยล่ะครับ อิอิ นอกจากนี้ผมยังเป็นพวกชอบลอง ชอบสัมผัสประสบการณ์จริงมากกว่าแค่ไปเที่ยว ไปฟังข้อมูล ไปถ่ายรูปอยู่แล้ว ดังนั้นการได้ไปอยู่กับครอบครัวชาวญี่ปุ่นอย่างนี้จึงโดนมาก ...ที่สำคัญไปท่องเที่ยวแบบวูฟมีกิจกรรมมากมายที่การไปกับทัวร์ไม่มีทางได้สัมผัส อิอิ จากคุณ : kirofsky เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 09:09:35

ความคิดเห็นที่ 2 แผนการเดินทางถูกกำหนดไว้ที่ 21 กันยายน 2552 (ผมเลือกช่วงนี้เพราะอากาศไม่ร้อนและไม่หนาวจนเกินไป) โดยผมกะว่าจะไปวูฟซักเดือนเศษ... ...แต่ระหว่างนั้นก็มีส่งฝาโออิชิไปชิงโชคด้วย เผื่อฟลุก 555+ อ้อ การจะไปวูฟนั้นต้องมีการสมัครสมาชิกก่อน จากนั้นจึงจะสามารถติดต่อกับโฮสได้ ผมสมัครเสร็จเมื่อวันที่ 3 สิงหา จากนั้นวันที่ 5 เดือนเดียวกันนั้นเองผมก็ไปขอวีซ่า... หลังยื่นเอกสารแล้วก็ได้รับใบแจ้งให้มาฟังผลในอีก2วันให้หลัง ถึงตรงนี้ทุกอย่างยังราบรื่น... จากคุณ : kirofsky เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 09:12:35

ความคิดเห็นที่ 3 พอเสร็จเรื่องการยื่นขอวีซ่า(ตอนนั้นยังต้องไปขอตรงสวนลุมอยู่ครับ) ผมก็ไปที่ธนิยะพลาซ่าเพื่อเก็บข้อมูลราคาตั๋วเครื่องบินจากบริษัททัวร์ในนั้น และก็มีโทรศัพท์มาจากสถานทูตโทรมาถามชื่อโรงแรมที่ผมจะไปพัก ก็บอกชื่อ Khaosan Hostel ไป จนท.บอกไม่รู้จัก ขอที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของโรงแรมได้มั้ย ผมก็บอกว่าไม่ได้จดไว้ เดี๋ยวกลับบ้านเข้าเนทได้แล้วจะโทรไปแจ้ง คุณ จนท. ก็วางสายไป ...ซึ่งผมมาคิดเอาทีหลังว่าถ้าผมให้ข้อมูลตรงนี้ได้ทุกอย่างหลังจากนี้คงสะดวกโยธิน ซักพักก็มีสายจากสถานทูตโทรมาถามข้อมูลอีก ถามว่าไปกี่วัน ไปทำอะไร ฯลฯ ไอ้คนรักษาศีล5อย่างผมก็ตอบไปตรงๆว่าไปวูฟ (คือไปทำงานแลกที่กินที่พักนั่นแหละ) เท่านั้นแหละครับ โดนขอเอกสารเพิ่มทันที ว่าวูฟคืออะไร แผนการเดินทางเป็นยังไง รวมถึงรายละเอียดโรงแรมที่จะไปพักด้วย (ซึ่งจริงๆในเวบของ WWOOFjapan ก็มีบอกไว้ว่า การแจ้งว่าไปวูฟในขั้นตอนขอวีซ่าไม่ได้ช่วยให้ขอวีซ่าง่ายขึ้น ซึ่งผมก็เห็นและได้อ่าน ...แต่ผมไม่คิดว่ามันจะทำให้ขอวีซ่ายากขึ้นด้วยอะดิ - -" จากการวิเคราะห์เอาเองผมคิดว่ามันยุ่งยากเพราะมีการทำงานเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนี่แหละ) จากคุณ : kirofsky เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 09:20:34

ความคิดเห็นที่ 4 @ @ มาติดตามชมครับ @ @ จากคุณ : พ่อน้องปู (ปูเป็น) เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 09:21:30

ความคิดเห็นที่ 5 สองวันให้หลังผมไปสถานทูตอีกครั้งพร้อมเอกสารที่ถูกขอ พอยื่นเอกสารเสร็จ จนท. ก็ให้นั่งรอ รอไปซักพัก จนท. บอกว่าท่านกงสุลอยากทราบว่าทำไมถึงจะไปวูฟ ให้เขียนอธิบายที ก็ต้องงัดภาษาอังกฤษงูๆปลาๆเขียนอธิบายไป ยื่นเสร็จก็กลับบ้านเพื่อรอการติดต่อกลับ... ระหว่างนั้นผมก็ติดต่อกับโฮสชาวญี่ปุ่นไปด้วย ซึ่งการติดต่อก็ไม่ได้ราบรื่นนักเพราะระเบียบของวูฟนั้นให้ติดต่อกับโฮสทีละคน ดีที่ผมมีที่ปรึกษาที่ดีอย่างน้องมิ้ง(เป็นน้องทางอายุแต่เป็นรุ่นพี่ทางการวูฟ 55)ผู้มีประสบการณ์วูฟมาแล้ว น้องมิ้งแนะนำว่าถ้าเวลาเหลือน้อยก็สามารถชี้แจงไปในเมลแล้วจะสามารถติดต่อกับโฮสทีละ2-3คนได้ ทำให้ผมสามารถติดต่อกับโฮสได้จนครบก่อนกำหนดการเดินทาง ตัดมาที่การขอวีซ่าอีกที ช่วงนั้นผมโดนเรียกไปยื่นเอกสารเพิ่มติดๆกัน แล้วก็ต้องไปเขียนอธิบายในส่วนที่ท่านกงสุลสงสัยที่สถานทูตอีก2รอบ ตอนนั้นผมก็เริ่มคิดได้ว่า ถ้ายังใช้วิธีปรกติโอกาสวีซ่าไม่ผ่านสูงแน่ๆ ดังนั้นผมจึงคิดจะใช้วิธีพิเศษเผื่อจะทำให้ท่านกงสุลผ่านวีซ่าให้ผมได้ง่ายขึ้น ถูกครับ ผมทำอย่างที่ท่านคิดนั่นแหละ...ติดสินบน จากคุณ : kirofsky เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 09:25:59

ความคิดเห็นที่ 6 ตอนนั่งรถเมล์กลับบ้านหลังการไปยื่นเอกสารเพิ่มครั้งที่3 ตอนที่นั่งรถผ่านแยกราชประสงค์ผมก็ได้ตั้งจิตอธิษฐานกับพระพรหมว่าถ้าวีซ่าผมผ่าน ผมจะเอาพวงมาลัยดอกไม้สด9พวงมาถวาย ใจนึงผมก็แอบคิดว่าท่านจะคิดกับผมแบบนี้รึเปล่า? ...เมิงมาบนอะไรเอาตอนนี้ ถ้าเมิงบนตั้งแต่แรกป่านนี้ได้วีซ่าไปแล้วอ้ายฟายยย ถึงจะมีการติดสินบนเพิ่มมาแล้วก็ตามแต่ตอนนั้นผมก็เริ่มทำใจแล้วว่าคงจะแห้ว แต่ก็มีหลายๆคนให้ข้อคิดว่าถ้าเค้าจะปฏิเสธน่ะ เค้าไม่เรียกเอกสารเพิ่มหรอก แต่นี่ยังขอเพิ่ม เท่ากับเปิดโอกาสให้ชี้แจงในส่วนที่เค้าสงสัย ยังมีลุ้น ก็เลยมีกำลังใจขึ้นมาหน่อย... พระพรหมท่านคงช่วยผมอย่างเต็มที่ หลังจากที่บนไปครั้งนั้น ทางสถานทูตเงียบไปเป็นอาทิตย์ ไม่โดนเรียกเอกสารหรือซักถามเพิ่มเหมือนก่อน ...ซึ่งก็คือเวลาเดินทางก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆด้วยเช่นกัน พอเงียบไปนับได้6วันทำการ ผมก็ทนร้อนใจไม่ไหวจึงโทรไปถามความคืบหน้าที่สถานทูต คุณ จนท. ตอบกลับมาว่า "ส่งเรื่องไปให้ทางญี่ปุ่นพิจารณาอยู่ ถ้าอยากรู้-อยากเร่งให้โทรไปที่ญี่ปุ่นนะจ๊ะ" เจอไม้นี้เข้าทำเอาผมถึงกับอึ้ง... นี่กูต้องโทรไปญี่ปุ่นเลยเหรอวะเนี่ย (อึ้งแต่สู้เว้ย 555) จากคุณ : kirofsky เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 09:32:14

ความคิดเห็นที่ 7 ท่าจะสนุก ขอตามมาอ่านด้วยคนนะครับ อยากไปวูฟบ้างจังครับ ท่าทางจะได้ ปสก. เยอะดี จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 09:32:47

ความคิดเห็นที่ 8 พอขี่จักรยานไล่หาร้านสะดวกซื้อแถวบ้านที่มีบัตรโทร ตปท. ถูกๆจนเจ็บตูด-ปวดน่องพอเป็นกระษัย ผมก็ได้บัตรที่สามารถโทรไปญี่ปุ่นนาทีละบาทมาอยู่ในมือ จากนั้นก็โทรไปญี่ปุ่นด้วยใจฮึกเหิมเต็มที่ แต่พอต้องคุยเป็นภาษาอังกฤษว่าโทรมาทำไม เพื่ออะไร ไอ้ที่ฮึกเหิมนั่นก็กลายเป็น ตะ...กุก...ตะ...กัก จากบทสนทนาที่มีเนื้อหาไม่มากแต่ใช้เวลาคุยนาน  ผมก็จับใจความได้ว่า "ให้โทรไปถามสถานทูตญี่ปุ่นในประเทศของท่านนะ" - -" เมื่อทางญี่ปุ่นบอกให้ถามทางสถานทูต เราก็ต้องทำตามนั้น และเมื่อไปถามกับทางสถานทูตอีกที คำตอบที่ได้ก็คือ... ...รอสถานทูตติดต่อกลับ... รอไม่นานนัก ประมาณวันที่7หรือ8กันยานี่แหละ(ยื่นเอกสารวันแรก5สิงหา กำหนดเดินทาง21กันยา)สถานทูตก็ติดต่อมา "ขอเชิญไปรับฟังผลวีซ่าในวันที่9กันยายน ช่วงบ่ายที่สถานทูต" หลังรู้ผลวีซ่าแล้ว ผมถาม จนท. ว่าจะมายื่นขออีกครั้งได้เมื่อไหร่ เมื่อได้คำตอบผมก็เมมลงมือถือทันทีเพื่อกันลืมว่าอีก6เดือนมาลองกันใหม่ ...ใช่ครับวีซ่าผมไม่ผ่าน TT_TT จากคุณ : kirofsky เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 09:37:56

ความคิดเห็นที่ 9 6เดือนผ่านไปอย่างเชื่องช้า แต่ในที่สุดมือถือก็เตือนว่า "พ้นโทษแบนแล้ว ไปยื่นวีซ่าอีกรอบซะ" ณ วันที่ 9 เมษายน 2553 ...สะดุดอะไรมั้ยครับ ผมเองก็ไม่รู้ตัวเลยจนมาเขียนนี่แหละ 9 ก.ย. 52 - 9 เม.ย. 53 มัน7เดือนเฟ้ยยยยยยยยย - -" และเพราะนับเดือนผิดเลยต้องมาติดช่วงสงกรานต์ วันศุกร์ที่9ได้โทรไปถาม จนท. ไว้แล้วว่าวันที่12(วันจันทร์)สถานทูตเปิดมั้ย...จนท.บอกว่าเปิด แต่พอใกล้ถึงวันที่12ดันมีประกาศว่าวันที่12ราชการหยุด (ซึ่งจริงๆผมก็ไม่รู้หรอกว่าสถานทูตหยุดด้วยมั้ย แหะๆ) เลยได้ไปจริงๆเอาวันศุกร์ที่16นู่นแน่ะ การไปขอวีซ่างวดนี้ผมไปแบบคนเคยเจ็บ เอ้ย มีประสบการณ์ ตรงไหนที่จะทำให้เกิดปัญหายุ่งยากผมป้องกันไว้หมด เช่น - คราวที่แล้วยื่นครั้งแรกแต่เปรี้ยว ยื่นไปด้ายยย31วัน คราวนี้เลยแจ้งว่าไป3วัน ...ซึ่งผมเปลี่ยนใจเป็น15วันเมื่อวีซ่าผ่าน 555 - คราวที่แล้วบอกโรงแรมโนเนมไป คราวนี้เลยบอกชื่อโรงแรมที่คนญี่ปุ่นได้ยินชื่อแล้วร้องอ๋อแทน ...ซึ่งผมก็เปลี่ยนโรงแรมในภายหลังเช่นกัน อิอิ - คราวที่แล้วยื่นบัญชีเงินฝากไปอันเดียว คราวนี้ยื่นไปเลยสอง ให้มันรู้กันไปเลยว่าหน้าตาดีและมีฐานะ อิอิ ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดีจน จนท. เรียกไปรับใบแจ้งผลที่เคาท์เตอร์ แล้วปัญหาก็เกิดขึ้น... จากคุณ : kirofsky เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 09:46:11

ความคิดเห็นที่ 10 มานั่งฟังเรื่อง การไปญี่ปุ่นแบบ วูฟ ที่เจ้าตัวเล็กตั้งใจจะไปหลายรอบ แต่สุดท้ายแพ้เงิน 555 (เงินเดือนเยอะ) เลยติดค้างไว้แค่ไปเที่ยวทีละ 10-15 วันพอ ขอบคุณนะคะ เดี๋ยวส่งให้เจ้าตัวเล็กอ่าน จากคุณ : คุณแม่ติดเน็ต เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 09:49:57

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าคนเคยไปขอวีซ่าที่เก่าจะรู้ว่าถ้าใบนัดไม่มีปัญหา จนท.จะเรียกไปรับใบนัดฟังผลที่เคาท์เตอร์ด้านหน้า (ช่อง9หรือ10ประมาณนี้) แต่เพราะคราวที่แล้ววีซ่าของผมไม่ผ่าน ดังนั้นผมจึงต้องไปรับใบนัดที่ด้านหลัง... "คุณอุ๊ท...ฒิ...ชัย...ใช่มั้ยคะ" จนท.สาวชาวญี่ปุ่นถามแบบตะกุกตะกัก "ครับ วุฒิชัยครับ" "รอสถานทูตติดต่อให้มาฟังผลนะคะ" ออกจากสถานทูตแล้วผมก็ไปเช็คราคาตั๋วเครื่องบินที่ธนิยะเหมือนเดิม คราวนี้ตั๋วถูกที่สุดที่หาได้คือ 17500 เป็นสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ออกจากไทย 06.50 ถึงญี่ปุ่น 15.00 เที่ยวกลับออกจากญี่ปุ่น 18.35 ถึงไทย 23.10 เวลาไป-เวลากลับลำบากไม่ใช่เล่นนะเนี่ย ...แต่ในเมื่อมันถูกก็ต้องยอม 555 เพียง3วันทำการสถานทูตก็โทรมาให้ผมไปฟังผลวีซ่าในวันรุ่งขึ้น(22 เม.ย.) ...ก็อย่างที่ทราบ ถ้าวีซ่าไม่ผ่านคงไม่มีกระทู้ไดอารี่นี้เกิดขึ้น แต่ผมก็ดีใจได้ไม่สุดนะเพราะกงสุลท่านผ่านวีซ่าให้แค่15วันเอง TT_TT แผนเดินทางที่วางไว้ก็วางไว้สำหรับทริป1เดือน พอกลับถึงบ้านอย่างแรกที่ทำเลยก็คือติดต่อโฮสเพื่อขอลดจำนวนวันที่จะอยู่ด้วย (โฮสรายนี้ทำฟาร์มแพะเพื่อผลิตนมและชีส) ...สุดท้ายโฮสรายนั้นก็ต้องปฏิเสธผมเพราะเวลามันน้อยเกินกว่าจะสอนงานให้เป็นทัน แถมด้วยเวลาแค่15วันทำให้ผมต้องขอยกเลิกเองอีก1โฮสที่เลี้ยงวัวเนื้อ ...กะจะไปขโมยกินวัวซักตัวสองตัวซะหน่อย อดเลย TT_TT จากคุณ : kirofsky เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 09:56:42

ความคิดเห็นที่ 12 นอกจากเรื่องวุ่นๆของเรื่องการขอวีซ่าแล้ว ช่วงนั้นสถานการณ์บ้านเมืองก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผมยังลังเลไม่แลกเงินซะทีเพราะกลัวเที่ยวบินจะยกเลิก (มานึกดูตอนนี้ผมว่าเหตุผลมันปัญญาอ่อนจัง) ซึ่งพอใกล้วันเดินทาง(23พ.ค.)เที่ยวบินน่ะไม่ยกเลิกแต่แบงค์น่ะมันปิด จะเข้าเมืองหลวงไปแลกกะร้านรับแลกเงินก็เกรงจะไม่ปลอดภัยและไม่คุ้มค่าน้ำมัน (แลกไม่มากอะครับ) ...ก็ได้แต่หวังว่าแบงค์ในห้างจะเปิดตามปรกติ ศุกร์ที่21พ.ค.ผมไปฟิวเจอร์รังสิตเพื่อไปวัดดวงกับแบงค์ในห้าง ...ปิดเรียบไม่มีเหลือ แถมสถานการณ์ในกรุงเทพก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนผมตัดสินใจไม่ให้พี่ไปส่งที่สนามบินเพราะไม่อยากให้ออกจากบ้านในเวลาเคอร์ฟิว พอหมดหวังเรื่องแลกเงินที่ฟิวเจอร์แล้วผมจึงไปถามวินรถตู้เรื่องรถไปสนามบินต่อ ก็ได้ความว่ารถเที่ยวสุดท้ายจะออกจากฟิวเจอร์ตอนทุ่มนึง... จากคุณ : kirofsky เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 10:00:33

ความคิดเห็นที่ 13 กำหนดการคร่าวๆของวันนี้(22 พ.ค. 53)คือ - ไปขึ้นรถตู้ไปสนามบินที่ฟิวเจอร์ รังสิต โดยรถเที่ยวสุดท้ายจะออก19.10น. - นอนที่สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ท โฮเต็ลแล้วไปออกตั๋วตั้งแต่พรุ่งนี้เช้าตรู่ 18นาฬิกาเศษ... ผมที่ออกเดินทางจากบ้านพร้อมกับเป้หนึ่งใบก็ขึ้นรถตู้ไปฟิวเจอร์รังสิต ลงจากรถเวลา18.45ซึ่งมันน่าจะชิลๆถ้าหากไม่ได้ลงรถที่เมเจอร์รังสิต ระยะทางเกือบโลกับเวลา25นาทีก็เรียกเหงื่อได้โขอยู่ ผมในสภาพเหงื่อซึมๆมาถึงคิวรถตู้ก่อน19.00เล็กน้อย "มาก่อนรถออกหยั่งงี้คงไม่พลาดที่นั่งข้างหน้าแน่ๆ" ผมคิด (ไม่ชอบนั่งด้านหลังครับเข่ามันชนเบาะ) ...แต่ก็พลาด ...พลาดทุกที่นั่งเลยด้วย เนื่องด้วยสถานการณ์ไม่สงบห้างฟิวเจอร์จึงปิดให้บริการเวลา18.00น. (ซึ่งอันนี้ผมรู้มาก่อนแล้ว) แต่ผมไม่รู้ว่าลานจอดรถก็ปิดไม่ให้รถตู้เข้ามาจอดรับคนด้วย (ซึ่งเจ๊ที่คุมวินที่ผมมาคุยด้วยเมื่อวานน่าจะรู้นะ แต่ทำไมยังบอกผมว่ารถเที่ยวสุดท้ายออก19.10ก็ไม่รู้ - -" ) พี่คิวรถตู้ข้างๆบอกให้ลองไปดักรถที่ถนนด้านหน้าดู ถึงเค้าจะเข้ามาไม่ได้แต่ก็ต้องมารับคนอยู่ดีจริงมั้ย ผมเลยออกไปรอด้านหน้าห้างตามที่พี่คนคุมวินแนะนำ รอจนประมาณ19.30น. ก็หมดหวัง ไร้วี่แววรถตู้สายรังสิต-สุวรรณภูมิใดๆทั้งสิ้น ทางเลือกดีๆตอนนั้นมีอยู่2ทาง 1 วัดดวงไปรอรถ ปอ.554หน้าเมเจอร์ ...ซึ่งไม่รู้ว่าเที่ยวสุดท้ายจะผ่านไปรึยัง (ขอย้ำว่าตอนนั้นมีเคอร์ฟิว) 2 กลับไปนอนบ้านแล้วให้พี่ชายไปส่งที่สนามบินตอนตี3 จริงๆทางเลือก2นั้นนับว่าดีมากเพราะตอนนั้นเหงื่อออกจนเสื้อชื้นไปหมดแล้ว ข้าวเย็นก็ยังไม่ได้กิน(ไม่อยากไปกินที่สนามบิน กลัวแพง 555) ถ้ากลับบ้านไป ไหนจะได้กินข้าว อาบน้ำ แถมตอนดึกยังได้ดูบอลแชมเปี้ยนลีกนัดชิงแน่ๆอีก สบายไปทุกอย่างว่างั้น แต่มันติดเรื่องเคอร์ฟิวไง ไม่งั้นก็ไม่ต้องลำบากนั่งรถไปเองตั้งแต่หัวค่ำหยั่งงี้หรอก สุดท้ายผมก็ตัดสินใจไปเสี่ยงดวงรอ ปอ.ที่หน้าเมเจอร์รังสิต เลยแวะเข้า7-11ซื้อเสบียงมื้อเย็นวันนี้กะมื้อเช้าวันพรุ่งนี้ไว้ด้วยเลย ออกจาก7-11รอรถจนเริ่มกระวนกระวายได้1รอบรถปอ.สายสุวรรณภูมิก็มา ฟู่ จากคุณ : kirofsky เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 10:12:00

ความคิดเห็นที่ 14 ครั้งนี้นับว่าเป็นการมาสนามบินสุวรรณภูมิครั้งแรกของผม เมื่อรถปอ.จอดเทียบท่ารถผมแทบอยากจะเล่นโยคะท่าพลาทูนไปกับพื้นที่ท่ารถซะเดี๋ยวนั้นเมื่อเห็นร้าน108ช็อป ...กรูลำบากแบกเสบียงถุงใหญ่มาทำไมเนี่ยยยยย - -" พอมาถึงตัวสนามเพื่อแลกเงินบาทเป็นเงินเยนก็อยากจะทำท่าพลาทูนอีกซักรอบ อัตราแลกเงินที่นี่อยู่ที่0.3642 ส่วนที่เคยดูไว้ที่ฟิวเจอร์อยู่ที่ประมาณ0.34เศษๆ TT_TT จากคุณ : kirofsky เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 10:14:55

ความคิดเห็นที่ 15 มันส์ๆๆ มาต่ออีกนะคะ อยากรู้ อยากไป ฮุฮุ แต่ภาษาไม่ได้เลย จากคุณ : keipuJt เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 10:21:03

ความคิดเห็นที่ 16 ตามมาอ่านด้วยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ จากคุณ : Miss_Behaving เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 10:22:05

ความคิดเห็นที่ 17 จากนั้นผมก็ไปเช็คอินเพื่อหาที่หลับนอน ห้องนอนของผมอยู่ที่ชั้น3 ซึ่งเป็นทำเลที่ดีมากเพราะไม่ไกลจากห้องน้ำและร้านอาหาร(ที่ไม่คิดจะกิน 555) ผมขอเรียกทำเลนี้ว่าฮวงจุ้ยท้องมังกรเพราะสะดวกทั้งการเอาของเข้าและออกจากท้อง 555+ สงสัยว่าฮวงจุ้ยท้องมังกรของผมจะส่งผลดีเฉพาะเรื่องท้องเท่านั้นแต่ไม่ได้ส่งผลดีในเรื่องการนอนเลย เพราะผมรีบเข้านอนตั้งแต่ห้าทุ่มเศษเพื่อที่จะตื่นขึ้นมาดูฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกนัดชิงระหว่างอินเตอร์ มิลานและบาเยิร์น มิวนิคที่จะมาตอน01.15น. จะด้วยเพราะนอนผิดที่หรือระแวงว่าใครจะมาลักหลับก็ไม่ทราบ ผมหลับไปได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแล้วก็ไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้อีก ไอ้ภาวะที่อยากให้เกิด(หลับ)กลับไม่เกิด แต่ไอ้ที่ไม่อยากให้เกิดมันกลับเกิดขึ้นมา... ราวเที่ยงคืนเศษอาการหิวก็มาเยือน ผมจำต้องต้อนรับมันอย่างไม่เต็มใจด้วยขนมปังครึ่งแพเล็กและไมโลหนึ่งกล่องที่ตั้งใจจะเอาไว้กินเป็นมื้อเช้า TT_TT หลังจากบ้วนปากเสร็จเรียบร้อยผมก็พยายามนอนให้หลับอีกทีเพราะยังเหลือเวลาอีกเกือบชั่วโมงกว่าฟุตบอลจะมา แต่ถึงตาจะหลับแต่ตัวผมนั้นไม่ได้หลับด้วย และมันก็เป็นเช่นนี้จนโทรศัพท์ที่ตั้งปลุกไว้ดังขึ้น ม้านั่งบริเวณหน้าร้านอาหารบนชั้นสามที่มีทีวีจอใหญ่หน้าร้านเต็มไปด้วยแฟนบอลทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ถ้าผมมาช้าอีกนิดเดียวไม่แคล้วผมคงต้องตีตั๋วยืน อิอิ ...แต่ความจริงตั๋วยืนอาจจะเหมาะกับผมมากกว่าก็ได้เพราะเมื่อบอลเริ่มเตะได้ไม่นานนักไอ้ความง่วงที่ผมถวิลหามาตั้งแต่ห้าทุ่มก็มาหาผมซะที (- -“) ผมทนง่วงถ่างตาดูเต็มที่ให้สมกับการรอคอยและให้สมกับศักดิ์ศรีนัดชิงฟุตบอลถ้วยที่ใหญ่ที่สุดของสโมสรยุโรป แต่ทั้งหมดที่ว่ามาก็แพ้พ่ายให้กับสิ่งเล็กๆที่เรียกว่าง่วง ไม่รู้ว่าฝรั่งข้างๆผมจะแอบสงสัยรึเปล่าว่าไอ้หน้าหล่อนี่มันจะมาหลับหรือมาดูบอลกันแน่ 55 จากคุณ : kirofsky เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 10:25:02

ความคิดเห็นที่ 18 กระทู้หน้าได้เหยียบญี่ปุ่นแล้วนะครับ ^ ^ ป.ล. จะพยามให้จบไดอารี่นี้ก่อนเดินทางวันที่15มีนาให้ได้ครับ แหะๆ จากคุณ : kirofsky เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 10:27:56

ความคิดเห็นที่ 19 ปักหมุด มันส์ ได้ใจ เดี่ยวกลับมาตามต่อครับ จากคุณ : บารอนก๊อง เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 10:34:08

ความคิดเห็นที่ 20 น่าติดตามมากๆ จากคุณ : ^_^Ohng^_^ เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 11:09:59

ความคิดเห็นที่ 21 อยากไปแบบนี้บ้างจัง จากคุณ : สะพายเป้...ชวนหลง เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 12:15:46

ความคิดเห็นที่ 22 อ่านเพลินเลย จากคุณ : เขียนบน iPhone (บุษบารำไพ) เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 12:22:05

ความคิดเห็นที่ 23 สนุก จากคุณ : janto เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 13:05:19

ความคิดเห็นที่ 24 สนุกมากค่ะ จากคุณ : ryjarja เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 13:50:39

ความคิดเห็นที่ 25 ไปอีกแล้วหรือค่ะ กรี๊ดๆๆ อยากหาเวลาไปจังเลย ดูจากของคุณฮารุมิ ติดตามจากบล็อคของคุณ ศึกษาข้อมูลมานานแต่ตอนนี้หลายๆอย่างยังไม่ลงตัวเลย กำลังจะลาออกจากงานเพื่อไปวูฟแต่ก็แอบกลัวขอวีซ่าไม่ผ่าน ถ้ามาอัพ รบกวนหลังไมค์บอกได้น่ะค้าา ....จะตามไปเป็นกำลังใจทุกๆรีวิวเลยคร่าาา ^^ จากคุณ : zapawow เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 15:47:21

ความคิดเห็นที่ 26  ว้าวๆ คราวนี้ไปนานมั้ยเอ่ย?   มาคราวนี้สงสัยได้เห็นซากุระสวยๆ และกินสตรอเบอรี่อร่อยๆ แน่ๆเลย จากคุณ : harumi เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 19:03:03

ความคิดเห็นที่ 27 รอติดตามน่ะค่ะ อยากไปแบบนี้บ้างจัง แต่เวลาไม่มี T^T จากคุณ : AXiMO_TaRO (AXiMO_TaRO) เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 19:59:25

ความคิดเห็นที่ 28 คุณพ่อน้องปู (ปูเป็น)- ยินดีครับ ^ ^ คุณCoffee Blended - ไปวูฟเนี่ยเที่ยวอาจจะน้อยแต่ประสบการณ์เยอะมากครับ ^ ^ คุณคุณแม่ติดเน็ต - โฮสบางที่ไปนอนคืนเดียวเค้ายังยินดีต้อนรับเลยครับ คุณkeipuJt - ที่ผมไปผมก็พูดได้แค่อังกฤษงูๆปลาๆครับ แหะๆ คุณMiss_Behaving - มิเป็นไรมิได้ครับ ^ ^ คุณบารอนก๊อง - ขอบคุณครับ ^ ^ คุณ^_^Ohng^_^ - ถ้าติดตามไปวูฟผมจะดีใจมากเลยครับ ^ ^ คุณสะพายเป้...ชวนหลง - ไปเลยครับ การไปวูฟเหมาะกับการไปตอนยังมีแรงครับ คุณบุษบารำไพ - ขอบคุณที่ชมครับ ^ ^ คุณjanto - ขอบคุณที่ชมครับ ^ ^ คุณ - ขอบคุณที่ชมครับ ^ ^ คุณryjarja - ขอบคุณที่ชมครับ ^ ^ คุณzapawow - หวังว่าข้อความในคห.9คงใช้เป็นแนวทางในการขอวีซ่าได้นะครับ คุณharumi - ไป15วันตามเดิมครับ ท่านฯเค้าให้มาแค่นี้อะครับ TT_TT คุณAXiMO_TaRO - ไปแค่2-3วันยังไปวูฟได้เลยครับ ^ ^ จากคุณ : kirofsky เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 22:10:11

ความคิดเห็นที่ 29 เก่งจริง ๆ ค่ะ จากคุณ : สวยด้วยแสง-แรงด้วยสี เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 08:27:00

ความคิดเห็นที่ 30 เล่าเรื่อง สนุกตื่นเต้นดีจัึง... จากคุณ : ^^เปว่าเปว๋า@o@ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 11:14:32

ความคิดเห็นที่ 31 คุณสวยด้วยแสง-แรงด้วยสี - เรียกว่าทนต่ออุปสรรคตรงกว่านะครับ 55 คุณ^^เปว่าเปว๋า@o@ - ตอนเจอจริงๆผมก็ตื่นเต้นเหมือนกันครับ แหะๆ จากคุณ : kirofsky เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 12:01:18

ความคิดเห็นที่ 32 สนุกดีครับ จากคุณ : Destiny-Boy เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 23:58:58

ความคิดเห็นที่ 33 เข้ามาอ่านครั้งแรก มาจากการไล่กระทู้หลังสุด  ย้อนมาหากระทู้แรกสุด คือกระทู้นี้ ด้วยความสงสัยว่า wwoof  คืออะไร จากคุณ : Stuff_shirt เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 11:31:50