ความทรงจำ กับการเดินทาง ^^
|
|
แค่ได้นึกถึงก้อเป็นสุขใจ
เฮ้อ ...ช่วงนี้มีเรื่องเครียดมากมาย อยากเดินทาง อยากหายตัวไปจากตรงนี้ ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไปเลย แต่ด้วยภาระที่ต้องรับผิดชอบ มันทำให้เราไปไหนยังไม่ได้ ยังต้องอยู่ที่เดิม
เหลือแต่สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุด คือทำใจ และฝันจินตนาการ ถึงวันที่เราจะได้ออกเดินทางอีกครั้ง
เพราะความเครียดในตอนนี้ มันคล้ายๆๆกับตอนนั้น ต่างกันแค่ตอนนั้น เราได้เดินทางตามความต้องการของตัวเองจริงๆๆ ความรุ้สึกตอนนั้น ของเรายังไม่ลืม^^
ขอย้อนไปประมาณ ห้าปีก่อนนะคะ< แอบแก่เบาๆๆ >
ช่วงเรียนภาคปฏิบัติ เหนื่อยมากถึงมากที่สุด วันๆอยู่แต่ในตึก บ้านก็ไม่ได้กลับทั้งที่ บ้านกับที่ทำงานห่างกันเพียงนั่งรถประจำทางครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
แล้วช่วงนั้นฝนก็ตกตลอด ตกทั้งวันทั้งคืน สามวันติด ฟ้าไม่เปิด ไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันเลย
งานที่ทำก็เครียดอยู่แล้ว บรรยากาศยิ่งมาทำให้หดหู่
เอาละวะ ทนไม่ไหวแล้วเป็นไงเป็นกัน สามเดือนมานี่ ไม่ได้ออกจาก รพ เลย
วันนึงตัดสินใจ ทำสิ่งที่คิดว่าหาญกล้าที่สุดในชีวิตของตัวเอง ณ ตอนนั้น
คือ ขออณุญาติ อาจารย์บอกว่า เสาร์ อาทิตย์หนูขอลากลับบ้านนะคะ <ทั้งที่ ตรูจะหนีเที่ยว และนั้นหมายความว่า วันเสาร์อาทิตย์นั้น อ. ต้องมาราวน์เอง อ.ขา หนูขอโทษน้าส์สสส>
ทันที ที่ลา อ.ได้ เหมือนยกภูเขาอกจากอก เหมือนนกที่ได้บินออกจากกรง
ตรูจะไปแล้วเฟร้ย ตรูจะบินแล้ว ตรูจะไปเห็นแสงตะวันสักที ขอไปที่ไหนก้อได้ณ. ตอนนี้ ขอแค่ได้ออกเดินทางเป็นอันพอ
แล้ว ณ. ขณะนี้ วันศุกร์ เวลาสี่โมงเย็น ฉันจะไปไหน คิดๆๆๆๆๆๆ ....... ปิ้งป๋อง!!!!!!!!! ไปไหนไม่รู้ รู้แต่ ต้องโดดขึ้นรถทัวร์ไป ตั้งหลัก กทม ก่อน ไปหาเพื่อนเอาดาบหน้า
คิดได้ กลับหอ ยัดเสื้อผ้าใส่เป้ รีบวานรุ่นน้องสุดหล่อ ช่วยไปส่งพี่ที่บขส. หน่อย เพราะตอนนั้น ฝนตกหนักมากกก ถ้าไปกับรถประจำทาง เปียกปอนแน่นอน
ถึงรถทัวร์ แอบดีใจเบาๆๆ ตรูจะได้เดินทางแล้ว แสงแดด สายลม รอเค้าก่อนนะจ้ะ
หลังจากหลับมาบนรถทัวร์ 12ชม ตีห้าเราก็ถึง กทม
โทรหาเพื่อน ที่เรานัดไว้< ตอนอยู่บนรถทัวร์> ฟ้ายังเข้าข้างเรา เพื่อนเราว่างหนึงคน เลยยังมีคนไปเที่ยวเป็นเพื่อนได้
เช้าวันเสาร์ ณ บขส สายใต้ สาวไม่น้อยสองคน กำลังนั่งถกเถียงกันอยู่ ว่าเราจะไปไหนดี
สุดท้ายคำตอบคือ ไปกาญกันมั้ย เพื่อนเราคนนึง เป็น อาจารย์.ที่ทองผาภูมิ
โอเค ตามนั้น ซื้อตั๋วรถทัวร์ไปกาญทันที ระหว่างนั่งรถ ไปกาญ ก้อโทรหาเพื่อนผู้โชคร้ายที่อยู่กาญผู้นั้น ว่าพวกเราจะไปหา แกต้องว่างนะ เพราะพวกเราจะไปเที่ยว
โฮะๆๆ แผนการเราราบรื่นๆๆ แอบคิดเบาๆ นี่แหละฉันได้เดินทาง
สี่ถึงห้าชั่วโมงผ่านไป เราถึงตัวเมืองกาญ แอบเมื่อยก้นเบาๆๆ ทำไมนานแบบนี้ หรือเพราะรถที่เรานั่งมา มันหวานเย็น
ถึงบขส กาญ ช่วงบ่ายๆ โทรถามเพื่อนว่าไปยังไงต่อ มันบอกว่า ให้นั่งรถสองแถวต่อเข้ามา รู้สึกว่า รถสองแถวที่เราได้ จะเป็นคันสุดท้ายซะด้วย
นั่งรถสองแถวไปถึง อ.ทองผาภูมิ หลายชั่วโมง กว่าจะถึงเพื่อน ก้อบ่ายสามเห็นจะได้
นั่งยังก้นไม่ทันหายร้อน บังคับให้เพื่อนพาไปเที่ยว มันบอกว่างั้นไป สังขละกัน โอเค letgo เราพร้อม
กว่าจะรู้ว่าสังขละมันไกลและนานแค่ไหน เกือบทุ่มเราก้อมาถึง สังขละ ก้นระบมมาตลอดทาง เพราะนั่งรถเมล์เส้นประจำทางที่มีอยู่สายเดียว พี่คนขับ ขับได้เทพมาก ขับไปเสียวไป จะตกเหวข้างทาง
ถึงสังขละเกือบทุ่ม ที่พักก้อไม่มี ไปหา รีสอร์ท ได้ที่หนึ่ง พออยู่ได้ เช็คอินเข้าไปพัก หาอะไรทานแล้วเดินไปเที่ยวสะพานมอญกันทันที
ไปถึงสะพานมอญ ก้อค่ำแล้ว แต่เราไปเดินกันสามคน ได้ความรู้สึกไปอีกแบบ ไปนอนดูดาวกันบนสะพานมอญ เคยมั้ยๆ แอบกรี้ดในใจเบาๆคนอื่นเดินเที่ยวบนสะพานมอญ แต่เรานอนเที่ยวบนสะพาน เก๋ใช่หยอกนะเนี่ย
คุยจิปาถะเรื่อยเปื่อยกันไปทุกอย่าง สายลมเย็นๆๆ ดาวเต็มท้องฟ้า เสียงหริ่งหรีดเรไร สายน้ำเอื่อยๆๆ เบื้องล่างสะพาน เรารู้สึกว่า เหมือนเวลา ณ ขณะนี้มันหยุดนิ่ง นี่สินะ อะไรบางอย่างที่ใจเรามันเรียกร้องหา อะไรสักอย่างที่มันบอกให้เราต้องเดินทาง อะไรสักอย่าง ถ้าเราอยู่กับที่ ถ้าเราไม่ได้มา เราจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร
ช่วงเวลา ที่แบกเป้ ขึ้นรถมาจากนครศรี มาถึงกาญ เดินทางติดกัน เกือบ 24ชม โคตรคุ้ม แค่ได้มานอนเสพบรรยากาศแบบนี้แค่ชั่วโมงเดียว ความเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวันทั้งคืน ทำมาเกือบปีไม่ได้หยุดพัก มันหายไปหมดเลย
กลับจากสะพานมอญ มานอนเอาแรง ที่บ้านพัก ตื่นเช้าเกือบเจ็ดโมง มาเดินสะพานมอญอีกครั้ง อ้อยอิ่งกับอากาศตอนเช้า กับภาพวิถีชีวิตที่แปลกตาไปจากถิ่นเรา เพื่อนพาเราตักบาตร รู้สึกอิ่มๆในหัวใจแฮะ
หลังจากนั้น เราเดินไปยังฝั่งมอญ เดินไปเพื่อทานโจ๊ก กาแฟ ปาท่องโก๋ ในมือเช้า ทำไมมื้อนี้ เราอร่อยจัง^^
หลังจากนั้นเราเดินชมวิวแถวนั้นไม่นานนัก แล้วเดินทางกลับบ้านพัก เพื่อเตรียมตัวกลับ
เราออกจากสังขละ เช้า ประมาณก่อนบ่ายถึงทองผาภูมิ ต่อรถจากทองผาภูมิ ประมาณ บ่ายโมงถึงตัวเมืองกาญ < ถ้าจำไม่ผิดนะ>
เดินทางต่อจากกาญ มาถึง บขส สายใต้ เมื่อประมาณ หกโมงเย็น
หลังจากนั้น เราซื้อตั๋วทุ่มตรง กลับนครศรี <โชคดีนะ ที่มีตั๋วเหลือ > เราแยกย้ายกับเพื่อนตรง บขส
ตอนอยู่บนรถทัวร์เพื่อเดินทางกลับ เรารู้ รู้ว่าเราลืมตาตื่นมาอีกครั้ง รถทัวร์คันนี้จะพาเราไปสู่ ที่เดิมที่เราจากมา ที่ที่เรามีภาระรออยู่มากมาย แต่เรารู้สึกได้ว่า ครั้งนี้ มันเป็นการเดินทางกลับ แบบใจที่สงบนิ่ง ใจที่ได้รับการปลดปล่อย ใจที่ชาร์ตแบตมาเต็มที่ พร้อมแล้วกับภาระมากมาย ที่รออยู่ข้างหน้า
คืนนั้น เรานอนหลับฝันดี หลับฝันบนรถทัวร์ พร้อมความรู้สึกดีๆๆที่พกกลับมาเต็มกระเป๋า
หกโมงเช้า รถทัวร์พาเรามาถึง บขส นครศรี เราเรียกรถวินมอเตอร์ไซค์ แว้นมาส่งเราที่ รพ
หลังจากนั้นเจ็ดโมงครึ่งเราก้ออาบน้ำแต่งตัวและกลับมาเป็นผู้ใหญ่อยู่ในโลกเดิมของเราอีกครั้ง ต่างกันเพียงแต่คราวนี้ ผู้ใหญ่คนนี้ ที่ได้แอบเกเร แวบไปทำสิ่งที่ใจตัวเองฝันมาแล้ว หัวใจความเป็นเด็กของเราได้ถูกปลดปล่อย ได้ออกเดินทาง ได้ถูกเติมเต็ม ในวันนี้ ผู้ใหญ่คนนี้ จึงกลับมาทำงานแบบหัวใจที่ได้รับการชาร์ตแบตเต็มที่
หากมองย้อนกลับไป ในวันนั้น ถ้าเราไม่กล้าพอที่จะทำตามความรู้สึกในใจเราที่เรียกร้อง ไม่กล้าพอที่จะออกเดินทาง แต่เลือกที่จะจับเจ่าอยู่กับที่เดิมต่อไป เราก้อไม่รู้ว่า ในวันนี้เราจะมีความทรงจำดีๆแบบนี้เก็บไว้มั้ย หรือชีวิตเราตอนนั้นจะเป็นอย่างไร
ในวันนี้ เรารู้แค่ว่า หากย้อนเวลากลับไปได้ ให้เรานั่งรถทัวร์เกือบ24ชมเพื่อไปนอนดูดาวบนสะพานมอญ แค่ไม่กี่ ชม แล้วเดินทางกลับ เรายังจะทำแบบนั้นอีกมั้ย
ถ้าเป็นเรา ในตอนนี้ เราก้อยังเลือกที่จะทำแบบเดิมนะ
เพราะตอนนี้ เรารู้สึกว่ามันโคตรคุ้มเลยละ ที่เราได้ออกเดินทาง^^
จากคุณ |
:
The Prince OF JoY
|
เขียนเมื่อ |
:
1 มี.ค. 55 19:43:27
|
|
|
|