ความคิดเห็นที่ 1 เดินทางกลับเมืองย่างกุ้ง พี่คนขับรถของเราแวะวัดพระหินอ่อน วัดนี้เป็นวัดใหม่สร้างโดยรัฐบาลทหารพม่า จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 12:53:42

ความคิดเห็นที่ 2 เค้าว่าเป็นพระหินอ่อน (ที่สร้างจากหินก้อนเดียว) ที่ใหญ่ที่สุดในโลกค่ะ ใหญ่โตอลังการ ตัววัดก็ดูหรูหราไฮโซมาก จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 12:55:01

ความคิดเห็นที่ 3 หลังจากไหว้พระที่นี่เสร็จ เราก็เดินทางเข้าไปเช็คอินที่โรงแรม Yuzana โดยมีลูกชายลุงไข่มาคอยให้บริการช่วยพวกเราเช็คอินค่ะ เช็คอินเสร็จก็ 5 โมงกว่า 6 โมงแล้ว เลยรีบออกไปแลกเงิน (หมดเกลี้ยง) ที่ร้านแลกเงินแถว China Town แล้วรีบบึ่งไปเจดีย์ชเวดากองกัน รูป - ซื้อพวงมาลัยดอก "สเลเต" ไปไหว้พระ กลิ่นหอมชื่นใจ ดอกสเลเตที่พม่าต่างจากที่ไทยตรงที่ ของพม่าจะมีสีเหลืองตรงกลางและเกสร ในขณะที่สเลเตไทยจะขาวทั้งดอก แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 55 13:01:09 จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 12:57:29

ความคิดเห็นที่ 4 ตามชมนะคะ จากคุณ : armearn เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 13:03:24

ความคิดเห็นที่ 5 ทุ่มกว่า กว่าจะถึงเจดีย์ชเวดากอง พวกเราโชคดีที่ไปในช่วงที่พม่ากำลังฉลองครบรอบ 2,600 ปี การก่อตั้งเจดีย์ชเวดากองพอดี จัดเป็นงานยิ่งใหญ่ มีทั้งงานวัดและมหรสพ ผู้คนเดินทางไปนมัสการกันมากมาย รูป - บันไดเลื่อนขึ้นเจดีย์ชเวดากองค่ะ ส่วนฝั่งอื่นเป็นลิฟต์ หรูเนอะ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 13:04:00

ความคิดเห็นที่ 6 คุณ armearn - ตามมาเลยค่ะ ---------------------------------------------------------------- ที่นี่ ลุงไข่และลูกชายรับอาสาพาคณะเรานมัสการเจดีย์ พร้อมเป็นไกด์นำเที่ยว ลุงใจดีมาก ทำให้เราได้ความรู้มาอีกเพียบ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 13:06:31

ความคิดเห็นที่ 7 ลุงไข่ได้เล่าให้ฟังถึงตำนานการต่อสร้างเจดีย์ชเวดากองให้พวกเราเอาไว้ประดับความรู้อีกด้วย ตำนานว่าไว้ว่า เมื่อครั้งสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าสมณโคดมประทานเส้นพระเกษาให้ฤาษีตนหนึ่ง และสั่งให้นำไปไว้รวมกับ เส้นพระเกษาธาตุของพระพุทธเจ้าอีก 3 องค์ที่ภูเขาแห่งหนึ่งในบริเวณที่เป็นเมืองย่างกุ้งในปัจจุบัน รูป - ผู้คนสักการะพระพุทธรูปในบริเวณเจดีย์ชเวดากอง จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 13:11:40

ความคิดเห็นที่ 8 ฤาษีตนนั้นเดินทางมาถึงเมืองย่างกุ้ง แต่ไม่รู้ว่าภูเขาที่ว่าประดิษฐานพระเกษาธาตุนั้นอยู่ที่ไหน จึงสร้างเจดีย์โบตะทาวน์ Botataung Paya ขึ้น เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระเกษาของพระพุทธเจ้าสมณโคดมเป็นการชั่วคราว และบนบานขอเทพทันใจให้ชี้ทาง เทพทันใจที่นี่ชี้ไปทิศหนึ่ง แต่ก็ยังไม่รู้จุดแน่ชัด จึงไปบนบานต่อเทพทันใจที่เจดีย์สุเหร่ Sule Paya ซึ่งชี้มาอีกทางหนึ่ง เมื่อลากเส้นที่เทพทันใจทั้งสองชี้มา จึงมาบรรจบที่เจดีย์ชเวดากองนั่นเอง จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 13:14:30

ความคิดเห็นที่ 9 ตรงส่วนยอดของเจดีย์ชเวดากองทำจากแผ่นทองคำ ประดับด้วยเพชรมากกว่า 5000 เม็ดและอัญมณีอื่นๆ จำนวนมาก โดยเพชรเม็ดที่ใหญ่ที่สุดอยู่บนยอด หนักถึง 75 กะรัต ซึ่งจากบางมุมจะมองเห็นเพชรสะท้อนกับแสงไฟเป็นสีต่างๆ เจ็ดสี ลุงไข่พาพวกเราไปจุดที่มองเห็นเพชรสะท้อนแสงเห็นเป็นสีต่างๆ เจ็ดสีด้วยค่ะ อเมซซิ่งมากๆ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 13:16:33

ความคิดเห็นที่ 10 ถ่ายจากรูปถ่าย ส่วนยอดของเจดีย์ที่มีเพชรพลอยประดับสวยงาม จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 13:17:51

ความคิดเห็นที่ 11 ที่พม่ามีธรรมเนียมที่แปลกไปจากไทยนิดหน่อย คือ เขานิยมสรงน้ำพระและสัตว์ประจำวันเกิด โดยนับจำนวนครั้งที่สรงน้ำ เท่ากับอายุ และบวกไปอีก 1 ปี คณะเรามีสว.หลายคน เลยสรงกันน้านนาน สรงกันจนปวดแขน จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 13:22:18

ความคิดเห็นที่ 12 ยิ่งใหญ่ งดงาม ให้อยู่เป็นวันๆ ก็คงยังเที่ยวได้ไม่ครบ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 13:27:34

ความคิดเห็นที่ 13 เทวดาองค์นี้เป็นองค์เดียวในเจดีย์ชเวดากองที่อุ้มเด็กอยู่ ว่ากันว่าถ้ามาขอพรให้มีลูกที่เทวดาองค์นี้แล้วจะสมหวังค่ะ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 13:32:24

ความคิดเห็นที่ 14 สมควรแก่เวลา ได้เวลาแก๊งค์เราไปหาอาหารค่ำมื้อดึกทานกันซักที คราวนี้มีไกด์ไปด้วย อุ่นใจไม่มีหลงสั่งผิดๆ ถูกๆ แน่ รูป - ลวดลายแกะสลักที่ชเวดากอง งดงาม ปราณีตมาก จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 13:35:45

ความคิดเห็นที่ 15 เจดีย์ชเวดากองสวยงามมากๆครับ เคยได้มีโอกาสไปกราบไหว้มาแล้ว ไว้มีโอกาจะไปอีกหลายๆครั้งครับ จากคุณ : TeeChoco เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 13:43:03

ความคิดเห็นที่ 16 . แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 55 13:55:55 จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 13:55:39

ความคิดเห็นที่ 17 คุณ TeeChoco - ประทับใจมากเหมือนกันค่ะ จริงๆ อยากไปนมัสการอีกซักรอบก่อนกลับ แต่ติดที่ไปกันกลุ่มใหญ่ แล้วที่เหลือก็ไม่อยากไปอีกรอบแล้ว ^^' --------------------------------------------------------------- มื้อเย็นง่ายๆ ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวพม่า คล้ายๆ เฝอของเวียดนามค่ะ อร่อยใช้ได้ แต่เส้นเยอะไปหน่อย ทริปแน่นมากๆ ในสองวันนี้ เพราะน้องสาวเราอยู่ได้แค่นี้ค่ะ อีกวันต้องรีบบินกลับกรุงเทพฯ แต่เช้า เพื่อไปงานแต่งงานเพื่อนสนิท ทำเอาเหนื่อยกันทั้งเด็กทั้งแก่เลย วันรุ่งขึ้นเลยจะเป็นทริปหลวมๆ ออกเดินทางสายหน่อย เที่ยวในตัวเมืองย่างกุ้งค่ะ แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 55 13:58:29 จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 13:56:17

ความคิดเห็นที่ 18 วันที่ 3 หลังจากส่งน้องกลับตั้งแต่เช้ามืด พอสาย แก๊งค์เราที่เหลือ 6 คนก็ไปเที่ยวแบบเบาๆ ในตัวเมืองย่างกุ้งกันค่ะ เริ่มต้นทัวร์วันนี้ที่ทะเลสาบกันดอจี (Kandaygyi Lake) และภัตตาคารการเวก (Karaweik Restaurant) ไม่ได้ไปกิน เพราะค่าบุฟเฟต์+การแสดงโหดมาก หัวละ 20,000 จ๊าต แค่ขอไปชมเป็นขวัญตาซักหน่อย มันจะแพงอะไรได้ขนาดนั้น แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 55 14:23:42 จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 14:08:38

ความคิดเห็นที่ 19 ภัตตาคารการะเวกสร้างขึ้นโดยรัฐบาลพม่า โดยจำลองจากแบบเรือพระที่นั่งสำหรับกษัตริย์พม่าในสมัยโบราณมาทำเป็นภัตตาคารหรูกลางน้ำ และจัดให้มีการแสดงพื้นบ้านของพม่าให้ได้ดูได้ชมกัน เป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมของพม่าให้คนต่างชาติได้เรียนรู้ด้วย จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 14:18:09

ความคิดเห็นที่ 20 ส่วนทะเลสาบกันดอจี ก็เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวพม่า ภายในทะเลสาบก็มีร้านอาหาร ร้านกาแฟไว้คอยบริการ จากบางมุมจะได้เห็นทั้งภัตตาคารการะเวก พร้อมฉากหลังเป็นเจดีย์ชเวดากองอย่างนี้ด้วยค่ะ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 14:19:44

ความคิดเห็นที่ 21 ภัตตาคารการะเวก หัวและท้ายเป็นรูปนกการะเวก (ใน LP บอกว่าเป็นครุฑ แต่เราไม่แน่ใจว่าใช่จริงหรือเปล่า) จำลองจากเรือพระที่นั่งในสมัยโบราณ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 14:21:00

ความคิดเห็นที่ 22 มีการออกร้านในบริเวณทะเลสาบกันดอจีแบบนี้ พอสมควรแล้วก็ล้อหมุน ไปต่อวัดต่างๆ ค่ะ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 14:23:19

ความคิดเห็นที่ 23 สถานที่ต่อไปสำหรับทัวร์นี้คือเจดีย์กาบะเอ (Kaba Aye Paya) สร้างโดยอูนุ นายกรัฐมนตรีคนแรกของพม่า ซึ่งเป็นชาวพุทธที่เคร่งครัดมาก จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 14:31:31

ความคิดเห็นที่ 24 แม้แต่ประวัติศาสตร์ร่วมสมัย เพียงแค่ 50-60 ปีก่อน วัดนี้ก็ยังมีตำนานในการสร้าง โดยมีพระภิกษุเก็บจารึกได้ริมแม่น้ำอิระวดีและนำไปมอบให้อูนุ และกำชับให้อูนุทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา จึงเป็นที่มาของการสร้างเจดีย์กาบะเอขึ้น ส่วนในประวัติศาสตร์ (ของจริง) เจดีย์นี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่สังคายนาพระไตรปิฎกในปี 1954 ซึ่งตรงกับครบรอบ 2500 ปีพระพุทธเจ้าตรัสรู้พอดี จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 14:38:25

ความคิดเห็นที่ 25 ดอกบัวนำไปไหว้พระ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 14:43:40

ความคิดเห็นที่ 26 ดอกสาละ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 14:44:10

ความคิดเห็นที่ 27 ... รูปสวยจังค่ะ ... จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 14:45:09

ความคิดเห็นที่ 28 สวย  ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 14:45:15

ความคิดเห็นที่ 29 ร้านขายของภายในบริเวณวัด/เจดีย์กาบะเอ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 14:45:53

ความคิดเห็นที่ 30 คุณ kungtalay - ขอบคุณค่ะ ถ่ายรูปงูๆ ปลาๆ ไม่ค่อยสวยหรอกค่ะ เขิน คุณเล็กทาโร่ - ขอบคุณที่ให้กำลังใจเราทุกรีวิวเลยนะคะ ตามมาเที่ยวกันต่อเลยค่ะ ------------------------------------------------------------- ภายในเจดีย์กาบะเอ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 14:50:51

ความคิดเห็นที่ 31 วัดต่อไป วัดพระเขี้ยวแก้ว หรือ Shwe Daw Paya เป็นที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้ว (พระทนต์ธาตุ) ของพระพุทธเจ้า ที่รัฐบาลอินเดียมอบให้พม่า (และถวายให้กับรัชกาลที่ 5 ด้วย ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดสระเกศค่ะ) จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 14:53:24

ความคิดเห็นที่ 32 แอบแซวลุงไข่ ตอนลุงอธิบายวัดนี้ให้พวกเราฟัง แกออกเสียงคำว่า "เขี้ยว" ได้ลำบากมาก จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 15:00:49

ความคิดเห็นที่ 33 วันนี้เที่ยวแบบไม่มีไกด์ เราเลยต้องรับหน้าที่เป็นทั้งไกด์จำเป็น เปิดไกด์บุคออกมาอ่านให้พ่อแม่พี่น้องฟัง เป็นทั้งตากล้องประจำทีม เพราะตากล้องหลักคือน้องสาวเรากลับบ้านไปแล้ว ไปแต่ละที่เลยอยู่แค่แป๊บเดียวค่ะ ไกด์ไม่มีข้อมูล จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 15:03:46

ความคิดเห็นที่ 34 เจดีย์พระเขี้ยวแก้วอีกรูป ก่อนเดินทางต่อค่ะ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 15:04:42

ความคิดเห็นที่ 35 ถัดไป พวกเราไปศูนย์ช้างเผือกของเมืองย่างกุ้งค่ะ  จริงๆ อยู่ใกล้ๆ กับวัดพระหินอ่อนที่เราไปกันเมื่อวันก่อน แต่ไปถึงเย็นเกินไป ศูนย์ปิด เลยต้องไปวันนี้แทน พม่าเองก็มีความเชื่อเรื่องช้างเผือกเหมือนคนไทยเรา คือ ถ้ามีการพบช้างเผือกไม่ว่าเชือกใด ให้ถือเป็นสมบัติของพระมหากษัตริย์ และในรัชสมัยใดที่มีช้างเผือกคู่บ้านคู่เมือง จะถือเป็นรัชสมัยที่เจริญรุ่งเรืองมาก จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 15:08:47

ความคิดเห็นที่ 36 พม่าโชคดี พบช้างเผือกคราวเดียวถึง 3 เชือกเลยค่ะ แต่ที่ศูนย์นี้ตอนนี้เหลืออยู่ 2 เชือก อีกเชือกเค้าส่งไปอยู่เมืองหลวงใหม่เนปิดอว์แล้ว จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 15:10:38

ความคิดเห็นที่ 37 ศิลปะของพม่า แปลกตาดีครับ ชอบ คห. ๘ กับ ๒๔ จากคุณ : TOSHy เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 15:11:59

ความคิดเห็นที่ 38 อาหารเที่ยงมื้อนี้เป็นอาหารพม่าที่ร้าน Feel ค่ะ อร่อยโฮก กว่าจะนึกได้ว่าลืมถ่ายรูปก็พร่องไปหลายจานแล้ว ร้านนี้ดังค่ะ คนขับรถเล่าให้ฟังว่าเจ้าของร้านนี้อายุแค่ 40 ต้นๆ เปิดร้านอาหาร 20 กว่าแห่งทั่วพม่า แต่มีแค่ร้านนี้ที่เอาไว้ค้าขายทำกำไร ส่วนร้านอื่นที่เหลือได้มาเท่าไหร่ก็เอาไปทำบุญให้คนยากคนจนทั้งหมดเลย น่าสรรเสริญน้ำใจจริงๆ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 15:16:52

ความคิดเห็นที่ 39 คุณ TOSHy - ศิลปะแปลกตาและสวยงามจริงๆ ค่ะ และแต่ละวัดที่ไปมา มีการทำนุบำรุงรักษาดีมากๆ เห็นแล้วทึ่งกับศรัทธาของชาวพม่า ----------------------------------------------------------------- อิ่มอร่อยกับร้าน Feel ก็ไปต่อที่วัดพระนอนตาหวาน หรือ Kohtatgyi Paya พระพุทธรูปองค์นี้หน้าสวยมากกก จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 15:21:44

ความคิดเห็นที่ 40 พระพุทธรูปองค์นี้ยังค่อนข้างใหม่ค่ะ สร้างในศตวรรษที่ 19 นี้เอง และมีการบูรณะเรื่อยมา องค์ปัจจุบันที่มีการบูรณะ พระเนตรทำจากแก้วสั่งทำพิเศษจากญี่ปุ่น คิ้วโก่งสวย ขนพระเนตรยาวงอน เปลือกพระเนตรทาสีฟ้า (อายแชโดว์? ) พระโอษฐ์แดง รูป - ภาพพระพุทธรูปก่อนการบูรณะ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 15:26:59

ความคิดเห็นที่ 41 น้องแมวหน้าองค์พระ น่ารักอะ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 15:27:40

ความคิดเห็นที่ 42 พระบาทเป็นรูปมงคล 108 ประการ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 15:29:03

ความคิดเห็นที่ 43 รูปสุดท้าย ก่อนกลับโรงแรมไปพักผ่อนเพราะอากาศร้อนมากก แล้วค่อยออกไปเก็บอีก 2 วัดหลัง 4 โมงเย็นค่ะ ปล. หลังจากวัดนี้ เราก็ป่วยเป็นหวัดไปซะได้ -*- จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 15:34:57

ความคิดเห็นที่ 44 รูปสวยจังเลยค่ะ ชอบรูปดอกสาละ สวยดีค่ะ :) จากคุณ : Salmon Lover เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 15:55:00

ความคิดเห็นที่ 45 พักยกจากวัด มาเล่าเรื่องการเมืองพม่ากันบ้าง นานๆ ทีจะได้ทำตัวสมกับจบจากคณะรัฐศาสตร์ซักที อย่างที่ทุกท่านน่าจะเคยได้ยินได้ฟังจากข่าวว่า ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลทหารพม่าเปลี่ยนท่าทีแบบที่ทุกฝ่ายตามแทบจะไม่ทัน ทั้งกรณีปล่อยตัวอองซานซูจี หันมาเจรจากับชนกลุ่มน้อย เปิดรับต่างชาติมากขึ้น รวมทั้งกำหนดวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ โดยที่นางอองซานซูจีก็ลงสมัครรับเลือกตั้งด้วย ที่เราไปพม่าครั้งนี้ก็ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงนั้นเหมือนกันค่ะ เดินไปตามงานวัด จะเห็นร้านค้าที่เอาเสื้อยืด ของใช้ ของที่ระลึก ที่สกรีนรูปนางอองซานซูจี นายพลอองซาน และสัญลักษณ์ของพรรค NLD วางขายไปทั่ว แล้วขายดีซะด้วย เห็นกี่ร้านๆ ก็มีคนแน่นทุกร้าน ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กๆ และวัยรุ่นที่ไปหาซื้อมาใช้กัน เห็นเด็กประมาณม.ต้นโพกผ้าที่เขียนสัญลักษณ์ NLD บ้าง เด็กวัยรุ่นใสเสื้อยืดสกรีนรูปนางอองซานซูจีบ้าง พอเราถามลุงไข่ ไกด์ของเราว่าสินค้าสกรีนรูปอองซานมีขายมานานหรือยัง ลุงไข่ก็ตอบว่า เพิ่งจะมีขายกันอย่างเปิดเผยช่วง 2-3 เดือนนี้เอง ก่อนหน้านั้นถ้าใครทำอย่างนี้มีหวังได้ติดคุกหัวโต จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 16:18:41

ความคิดเห็นที่ 46 สิ่งที่เห็น เราว่ามันเป็นปรากฎการณ์ เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงประเทศพม่าไปสู่ความทันสมัย และมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ตอนนี้ เหมือนคนก็ยังกล้าๆ กลัวๆ ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นทางการเมืองสักเท่าไหร่ อาจจะยังไม่มั่นใจกับท่าทีรัฐบาลทหารที่อยู่ๆ ก็ เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือแบบนี้ (เราเองก็เกรงใจลุงไข่กับพี่คนขับรถ เพราะรู้ว่าที่ผ่านมารัฐบาลคงเข้มงวดกับการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองมาก ก็เลยไม่ค่อยกล้าซักอะไรมากมาย) หวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของพม่าสมัยใหม่นะคะ ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ถ้ารัฐบาลทหารพม่าไม่กลับคำ เราคงได้เห็นอองซานซูจีเป็นนายกหญิงของพม่าแน่นอน รูปนี้คือรูปบ้านอองซานซูจี ที่เธอถูกกักบริเวณอยู่ในบ้านเป็นสิบปีค่ะ (ซึ่งยังคงต้องแอบถ่ายจากบนรถ จอดรถลงไปถ่ายไม่ได้ โดนตำรวจซิวอยู่ดี) จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 16:25:24

ความคิดเห็นที่ 47 คุณ Salmon Lover - ตามมาเลยค่ะ เราก็เพิ่งเคยเห็นดอกสาละเป็นครั้งแรก สวยแปลกดีค่ะ ----------------------------------------------------------------- กลับมาทัวร์วัดกันต่อนะคะ วันนี้เริ่มมีคำพูดติดปากออกมาจากครอบครัวเราแล้ว คือ "อะไรนะ วัดอีกแล้วเหรอ" หลังจากพักผ่อนหนึ่งชั่วโมงให้หายร้อน ก็ออกเดินทางไปเจดีย์สุเหร่ Sule Paya กันค่ะ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 16:33:08

ความคิดเห็นที่ 48 ประวัติการสร้างเจดีย์นี้ ขึ้นไปอ่านคคห. 7-8 เรื่องการสร้างเจดีย์ชเวดากองนะคะ เจดีย์นี้แปลกตรงที่ตัวเจดีย์เป็นวงเวียนค่ะ ^^ รอบข้างมีอาคารแบบยุโรปรายล้อม จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 16:37:34

ความคิดเห็นที่ 49 อันนี้เป็นที่ใส่เงินทำบุญ แล้วชักไปให้ถึงตัวเจดีย์ เป็นนัยว่าผลบุญจะส่งผลให้ขึ้นสวรรค์ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 16:40:36

ความคิดเห็นที่ 50 City Hall อยู่ใกล้ๆเจดีย์สุเหร่ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 16:41:42

ความคิดเห็นที่ 51 บรรยากาศรอบเจดีย์สุเหร่ ก่อนเคลื่อนขบวนไปวัดสุดท้ายของวันนี้ค่ะ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 16:42:38

ความคิดเห็นที่ 52 นั่นคือเจดีย์โบตะทาวน์ หรือ Botataung Paya นั่นเอง จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 16:43:53

ความคิดเห็นที่ 53 ที่จริง ลำดับการสักการะพระธาตุควรจะเป็นโบตะทาวน์/สุเหร่ก่อน แล้วจึงไปชเวดากอง เนื่องจากตามตำนานก่อสร้างเจดีย์ชเวดากอง จะมีการสร้างเจดีย์โบตะทาวน์ก่อน เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุ ถามหลวงพ่อทันใจที่นี่ แล้วจึงไปเจดีย์สุเหร่เพื่อถามหลวงพ่อทันใจ องค์ต่อไป จึงจะชี้จุดที่เป็นเจดีย์ชเวดากอง รูป - พระเกศาธาตุในเจดีย์โบตะทาวน์ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 16:47:51

ความคิดเห็นที่ 54 ศรัทธา จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 16:48:58

ความคิดเห็นที่ 55 เจดีย์โบตะทาวน์ เสียหายอย่างหนักเพราะถูกเครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรทิ้งระเบิดใส่เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่สอง ตัวเจดีย์เสียหาย แต่ทำให้มีการค้นพบกรุโบราณวัตถุ รวมไปถึงพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า จึงนำมาประดิษฐานและวางโชว์เช่นนี้ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 16:54:29

ความคิดเห็นที่ 56 โชคดีแล้วค่ะที่ไม่ไปทานบุฟเฟต์การะเวก  ไม่อร่อยที่สุด สงสัยว่า เงินที่จ่ายไป เป็นค่าบุฟเฟต์ รึ ค่าบรรยากาศ กันแน่? 555 จากคุณ : คุณแม่ติดเน็ต เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 16:55:11

ความคิดเห็นที่ 57 เจดีย์ได้รับการบูรณะใหม่ค่ะ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 16:56:07

ความคิดเห็นที่ 58 เทพทันใจองค์ที่ดังที่สุด (แล้วมั้ง) ชี้ไปทางเจดีย์ชเวดากอง แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 55 16:57:59 จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 16:57:38

ความคิดเห็นที่ 59 คุณแม่ติดเน็ต - ไกด์เราก็ไม่แนะนำค่ะ บอกว่าไม่อร่อยและแพง พอดีเราเป็นทัวร์ซำเหมา งบไม่ถึงด้วย -------------------------------------------------------------- ศรัทธาชาวพม่า แม้แต่หนุ่มๆ สาวๆ ก็เข้าวัดกันเป็นปกติ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 17:00:07

ความคิดเห็นที่ 60 ฝั่งตรงข้ามเจดีย์โบตะทาวน์ มีศาลเจ้าแม่อะไรซักอย่างกำลังทำพิธีกันอยู่ด้วย คนขับรถพาเข้าไป แต่อธิบายอะไรไม่ได้ซ้ากกะอย่าง จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 17:03:40

ความคิดเห็นที่ 61 จบวันที่ 3 ด้วยมื้อค่ำสุดอร่อยที่ภัตตาคาร Golden Duck ค่ะ คนขับรถเราขู่ไว้ว่าแพง เลยไม่กล้าสั่งเยอะ ที่ไหนได้ พอคิดตังค์ออกมากลายเป็นถูกเกือบจะที่สุดเท่าที่กินมาในพม่าแล้ว ร้านนี้เป็ดย่างอร่อยมากกกก เหมือนเป็ดปักกิ่งเลยค่ะ หนังกรอบ เนื้อนุ่ม จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 17:05:45

ความคิดเห็นที่ 62 ร้านก็ไฮโซ บรรยากาศดี๊ดี เห็นวิวทะเลสาบและเจดีย์ชเวดากองด้วย จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 17:06:26

ความคิดเห็นที่ 63 คห.60  ไม่ทราบว่าเรียกอะไร  แต่ให้อธิษฐานขอ 1 อย่าง แล้วไปกระซิบขอที่หูข้างซ้ายค่ะ จขกท.อาหารที่ภัตตาคารการเวกไม่อร่อยค่ะ   ที่พอทานได้คือวุ้นเส้น แครอทคลุกน้ำมันงา ของหวานหน้าตาประหลาด   ทานแต่ไอศครีมกับผลไม้ ถึงไม่ได้จ่ายเองก็เสียดาย  ตกหัวละแปดร้อยบาทค่ะ แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 55 13:37:13 แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 55 19:11:13 จากคุณ : tintila เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 17:52:57

ความคิดเห็นที่ 64 แวะมาชมครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : กัปตันลูกชุบ เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 18:42:17

ความคิดเห็นที่ 65 พระมหาเจดีย์ชเวดากองตอนยามค่ำสวยมากเลยครับ จากคุณ : Destiny-Boy เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 21:35:58

ความคิดเห็นที่ 66 เข้ามาเก็บข้อมูลค่ะ รูปสวยค่ะ ทำให้อยากไปเห็นของจริงไวๆ ดิฉันเดินทางพฤษภาคมนี้ค่ะ ตอนนี้อยู่ระหว่างเก็บข้อมูลกับจองโรงแรม ได้ข้อมูลจากรีวิว จขกท เยอะเลยค่ะ ขอบคุณนะค่ะ ^^ จากคุณ : ระระรัน @ หัวใจท่องเที่ยว เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 21:59:20

ความคิดเห็นที่ 67 ...ตามมาเที่ยวพม่าต่อนะคะ   คห.60 เรียกว่า เทพกระซิบ นะคะ ให้ไปกระซิบขออะไรก็ได้ที่ข้างๆ หูค่ะ คนไทยนิยมไปขอพรมากพอๆ กับเทพทันใจเลยนะคะ   เจดีย์ชเวดากองสวยมากเลยค่ะ เห็นอาหารที่ร้าน Golden Duck แล้วอยากหม่ำอีกจังเลยค่ะ ชอบมาก อร่อยดีนะคะ  ^-^ จากคุณ : ปลายฟ้าที่ภูตะวัน เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:28:43

ความคิดเห็นที่ 68 ตามมาเที่ยวพม่า ชิมรางด้วยค่ะ พลังแห่งศรัทธามากมายจริง ๆค่ะ จากคุณ : beaulek เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:53:12

ความคิดเห็นที่ 69 คุณ tintila - ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ ถามคนขับรถที่เป็นคนพาไปเองก็ไม่รู้ ถามลุงไข่ ลุงไข่ก็บอกเป็นเจ้าแม่ชื่ออะไรแปลกๆ ^^' คุณกัปตันลูกชุบ - ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมค่ะ คุณระระรัน @ หัวใจท่องเที่ยว - ยินดีที่ข้อมูลเราเป็นประโยชน์กับคุณบ้างนะคะ คุณปลายฟ้าที่ภูตะวัน - ขอบคุณค่า ตามมาเยี่ยมทั้งสองกระทู้เลย และขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ คุณ beaulek - เชิญตามมาชมต่อเลยค่ะ อีกนิดเดียวจะรีวิวจบแล้วล่ะ ^^ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 23:16:23

ความคิดเห็นที่ 70 ขอโทษที่รีวิวอยู่ก็หายไปนะคะ มีนัดกินข้าวกับเพื่อน กว่าจะกลับก็ดึกเลย มาต่อกันวันที่ 4 สิเรียม หรือ Thanlyin วันนี้ลุงไข่รับอาสาเป็นไกด์พาพวกเราเที่ยวอีกวันค่ะ แวะตลาดแบบบ้านๆ ระหว่างทางไปสิเรียม จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 23:21:23

ความคิดเห็นที่ 71 บรรยากาศในตลาด ลุงไข่อยากให้เราสัมผัสวิถีชาวบ้าน แต่พวกเราดันไปติดกับที่ร้านรองเท้าแตะ เห็นหนุ่มสาวพม่าใส่รองเท้าแตะคีบทำจากกำมะหยี่กันทุกคน พอบอกว่าอยากได้ ลุงไข่ก็พาไปซื้อ ถูกดีค่ะ แบบเบสิคแค่ 2000 จ๊าต ได้ติดมือกันคนละคู่สองคู่ แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 55 23:23:32 จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 23:23:22

ความคิดเห็นที่ 72 แม่ค้าสาวๆ ยิ้มสวยกันทุกคน จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 23:24:59

ความคิดเห็นที่ 73 หนูน้อยจะขายของหรือจะเล่นเนี่ย ^^' จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 23:26:17

ความคิดเห็นที่ 74 นอกจากแวะชมวิถึชาวบ้านแล้ว ลุงไข่ยังชวนเราไปซื้อดอกไม้ไปไหว้พระที่สิเรียมด้วย จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 23:27:38

ความคิดเห็นที่ 75 ดอกไม้สวยๆ หลากสี จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 23:28:42

ความคิดเห็นที่ 76 จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 23:29:23

ความคิดเห็นที่ 77 ดอกไม้ตกช่อละ 500 จ๊าตค่ะ ไม่ต่างจากที่ซื้อหน้าวัด แต่สวยสด มีดอกให้เลือกเยอะ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 23:30:18

ความคิดเห็นที่ 78 ช่อนี้ของเราค่ะ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 23:31:32

ความคิดเห็นที่ 79 ส่วนนี่เป็นวัตถุดิบหลักในการทำอาหารพม่า คือ พริกแห้ง พริกป่น และที่เห็นสีดินๆ เหมือนโคลนนั่นคือ "ปลาร้า" ค่าาา ไปพม่าคราวนี้ โดนหลอกกินปลาร้าไปไม่รู้กี่มื้อแล้ว จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 23:33:20

ความคิดเห็นที่ 80 ถึงเมืองสิเรียม ต้องข้ามเรือไปไหว้พระที่เจดีย์กลางน้ำค่ะ เรืออย่างนี้จำกัดเฉพาะคนพม่าเท่านั้น ราคา 100-200 จ๊าต ส่วนคนต่างชาติ รัฐเค้าห่วงความปลอดภัย เลยต้องเหมาเรือใหญ่ 5,000 จ๊าตต่อลำต่อกรุ๊ป นั่งได้ไปกลับ แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 55 23:42:37 จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 23:39:12

ความคิดเห็นที่ 81 เจดีย์กลางน้ำ หรือ Yele Paya แห่งเมืองสิเรียม น้ำค่อนข้างเชี่ยวค่ะ ปล. แสงจ้ามาก ปรับ white balance พลาด เลยได้มาแต่รูปขาวๆ แบบนี้ ขอโทษนะคะ แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 55 23:44:12 จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 23:42:25

ความคิดเห็นที่ 82 เจดีย์แห่งนี้สร้างโดยพระอรหันต์องค์หนึ่ง อยู่บนเกาะกลางน้ำ และมีความศักดิ์สิทธิ์มาก เมื่อครั้งที่เกิดน้ำท่วมเมืองสิเรียม ตัวเมืองน้ำท่วมทั้งหมด แต่บนเกาะและเจดีย์นี้ น้ำท่วมไม่ถึงเลย จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 23:46:32

ความคิดเห็นที่ 83 พระประธานที่นี่สวยงามมาก พระพักตร์กับพระกรทำด้วยหยกขาว ส่วนองค์และเครื่องประดับจะทำด้วยไม้ค่ะ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 23:48:17

ความคิดเห็นที่ 84 เจดีย์เยเล จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 23:49:37

ความคิดเห็นที่ 85 จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 23:50:17

ความคิดเห็นที่ 86 พระอรหันต์องค์ที่ว่า เกิดมาเพิ่งเคยเห็นพระพุทธรูปทำท่านี้ ลุงไข่ ไกด์ของเราบอกว่า เป็นท่าที่พระมองดวงอาทิตย์ เพื่อดูว่าเที่ยงหรือยัง (จะได้หยุดฉันข้าว) จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 23:52:23

ความคิดเห็นที่ 87 หันมองกลับไปที่ฝั่ง ได้เวลากลับแล้วค่ะ เที่ยงนี้มีของอร่อยให้ทาน จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 23:53:41

ความคิดเห็นที่ 88 ลุงไข่พาไปทานอาหารทะเลริมทะเลสาบอินยา สั่งมาเน้นๆ มีแต่กุ้งๆ ปูๆ ปลาๆ อร่อยมาก (ยกเว้นน้ำจิ้มทะเล ไม่แซ่บเท่าไหร่) มื้อนี้กินกันแก๊งเรา 6 คน + ไกด์และคนขับ (กินไม่เท่าไหร่) หมดไปพันนิดๆ เองค่ะ ถูกเว่อร์ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 23:58:59

ความคิดเห็นที่ 89 ป้ายชื่อร้าน อยู่ริมทะเลสาบอินยา แนะนำค่ะ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 00:00:00