ความคิดเห็นที่ 1 การเดินทางเริ่มต้นได้ตามแผนที่เลยนะคะ เมื่อมาถึงตัวเมืองอยุธยาแน่นอนต้องผ่านวงเวียนนักเลงก่อนนะคะ (วงเวียนเจดีย์วัดสามปลื้ม) แล้วจึงจะข้ามสะพานข้ามแม่น้ำมา ตรงมาซัก 2 แยกไฟแดง จนสุดถนนที่ ททท.แล้วเลี้ยวซ้ายเลยนะคะ สุดถนนอีกรอบเลี้ยวขวาตรงโรงพยาบาลเลยค่ะ ทีนี้ตรงยาวมาตามถนนจะเลียบแม่น้ำแล้วนะคะ ถ้ามองให้ดีตรงฝั่งตรงข้ามสวนสมเด็จจะเห็นโบสถ์สวยแล้วค่ะ ตรงไปเรื่อยๆ จนถึงแยกข้ามแม่น้ำตรงวัดกษัตราเลี้ยวซ้ายมาเลยค่ะ ข้ามแม่น้ำมาแล้วเลี้ยวซ้ายอีกทีนะคะ ที่ทางบอกว่าไปวัดไชยวัฒนารามผ่านหน้าวัดมาเลย ตรงมาอีกนิดจะเห็นป้ายบอกว่าโรงเรียนยอแซฟ เลี้ยวมาทางโบสถ์เลยค่ะ ถึงแน่นอน แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 55 19:21:32 จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 21:28:17

ความคิดเห็นที่ 2 ประวัติวัดนักบุญยอแซฟ พระสังฆราชลังแบรต์ เดอลาม็อต หนึ่งในเจ็ดประมุขมิสซัง     ที่พระสันตะปาปาทรงแต่งตั้งให้มาเผยแพร่ศาสนาในประเทศต่างๆ ทางตะวันออกไกล ได้เดินทางมากรุงศรีอยุธยาในปี 1662    โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะไปแพร่ธรรมในประเทศจีน   แต่เนื่องจากเรือถูกพายุ  อัปปาง และในเวลานั้นเกิดการเบียดเบียนศาสนาอย่างรุนแรงในประเทศจีน ท่านจึงได้พักอยู่ที่กรุงศรีอยุธยาในค่ายของชาวญวณก่อน จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 21:30:18

ความคิดเห็นที่ 3 ปี 1665 พระสังฆราชลังแบรต์ทูลขอพระบรมราชานุญาตจากพระเจ้าแผ่นดิน สร้างโรงเรียนขึ้นแห่งหนึ่ง สมเด็จพระนารายณ์ทรงพระ ราชทานที่ดินแปลงหนึ่งและวัสดุต่างสำหรับสร้างวัด ท่านลังแบรต์ได้สร้างโรงเรียนและสามเณราลัยเป็นอิฐ สร้างวัดชั่วคราว  และบ้านพักพระสงฆ์เป็นไม้ในปี 1666 สิ่งก่อสร้างทั้งหมดนี้เรียกว่าค่ายนักบุญยอแซฟ  ในปี 1669 ได้สร้างโรงพยาบาลหลังเล็กๆโดยมีคุณพ่อลาโนเป็นแพทย์ ประจำ โรงพยาบาล จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 21:30:57

ความคิดเห็นที่ 4 วันที่ 4 กรกฎาคม 1669  ทางกรุงโรมได้แต่งตั้งให้เป็นเทียบสังฆมณฑลสยาม   และขอให้ท่านลังแบรต์กับท่านปัลลือแต่งตั้งประมุขมิส ซังองค์หนึ่งสำหรับปกครอง ดังนั้นในปี 1673 คุณพ่อลาโนจึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระสังฆราชประมุขมิสซังสยาม ตั้งแต่ปี 1679 วัดอยุธยาได้เป็นศูนย์กลางของมิสซังต่างๆ          ทั่วตะวันออกไกล   ต่อมาท่านลาโนได้ก่อสร้างวัดอยุธยาใหม่เป็นอิฐอย่างถาวร ทำการเสกในวันที่ 25 มีนาคม 1685 และให้อยู่ในความอุปถัมภ์ของนักบุญยอแซฟ จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 21:31:37

ความคิดเห็นที่ 5 หลังจากสมเด็จพระนารายณ์สวรรคตในปี 1688 ก็เกิดการเบียดเบียนศาสนาขึ้น และนับตั้งแต่นั้นมาพระศาสนจักรในประเทศสยามก็ต้ องพบกับมรสุมมากมายหลายประการ แต่งานเผยแพร่พระวรสารก็ยังคงดำเนินต่อไปถึงแม้จะไม่ค่อยได้ผลดีนัก จนกระทั่งทหารพม่าบุกเข้าทำลายกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สองในปี   1767  วัดนักบุญยอแซฟ   บ้านพักพระสงฆ์ สามเณราลัยทั้งเล็กและใหญ่  โรงเรียนครูสอนคำสอนโรงพยาบาล หมู่บ้านคริสตัง  ถูกเผาทำลายจนหมดสิ้น บรรดาคริสตังที่ มิได้ถูกฆ่าหรือนำไปเป็นเชลยต่างก็พากันหลบหนีกระจัดกระ จายไปอาศัยอยู่ตามที่ต่างๆ  คุณพ่อกอร์สามารถหนีจากเงื้อมมือของพม่าได้และพาสามเณรจำนวนหนึ่งหนีถึงจันทบุรี โดยมีคริสตังจำนวนหนึ่งติดตามไปด้วย พระสังฆราช และมิชชันนารี พร้อมด้วยนักบวชโปรตุเกส กับคริสตังที่อยู่ในความปกครองของท่านถูกจับเป็นเชลย และถูกนำตัวไถึงประเทศพม่า  คริสตังไทยเชื้อสายโปรตุเกสที่หนีรอดจากการถูกจับได้หนีลงมาอยู่ที่บางกอก คริสตังญวนก็กระจัดกร ะจายไปตามหมู่บ้านบริเวณ กรุงศรีอยุธยา เพราะหมู่บ้านคริสตังถูกเผาหมด และมีบางคนเข้ายึดเอาที่ดินของพวกคริสตังเหล่านี้มาเป็นกรรมสิทธิ์ จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 21:32:41

ความคิดเห็นที่ 6 ปี  1830 คุณพ่อปัลเลอกัวได้ไปดูสถานการณ์ที่อยุธยา ซึ่งไม่มีพระสงฆ์องค์ใดไปอยู่เลยนับตั้งแต่เมืองถูกพม่าเผาทำลาย ท่านได้ซื้อที่ดินบริเวณรอบๆวัดเก่า กลับคืนมา และรวบรวมบรรดาคริสตังญวณที่กระจัดกระจายอยู่ให้กลับมาอยู่ที่เดิมเป็นหมู่บ้านคริสตัง ปี 1835คุณ พ่อปัลเลอกัวได้มอบหมายให้คุณพ่ออัลแบร์ตสร้างวัดขึ้นใหม่เป็นอิฐ บนส่วนหนึ่งของที่ตั้งวัดนักบุญยอแซฟหลังเดิม และบนอุโมงค์ที่บรรจุศพของประมุขมิสซังสยาม 8 องค์แรก    ในเวลานั้นมีคริสตังประมาณ 200 คน  คุณพ่ออัลแบร์ตปกครอง  คริสตังเหล่านี้จนถึงปี  1851  คุณพ่อลาร์โนดี เป็นเจ้าอาวาสในปี 1851 ท่านได้สร้างโรงงานทำน้ำตาลขึ้นหลังหนึ่งเพื่อช่วย    ยกระดับการครองชีพให้แก่สัตบุรุษ  บัญ ชีวัดของวัดอยุธยาได้เริ่มเปิดในปี 1951 ในสมัยของคุณพ่อลาร์โนดีนี้เอง แต่มิใช่ต้นฉบับ เชื่อว่าบัญชีแรกๆของวัดอยุธยาในสมัยของคุณพ่อปัลเลอกัวและคุณพ่ออัลแบร์ต คงอ่านไม่ออก เพราะใช้กระดาษและน้ำหมึกไม่ดี จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 21:33:50

ความคิดเห็นที่ 7 ปี 1872 คุณพ่อแปร์โรซ์ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส เมื่อท่านไปเห็นซากของวัดเดิมและวัดเล็กๆของคุณพ่อปัลเลอกัวตั้งอยู่อย่างน่าสมเพช  ท่านรู้สึกสะเทือนใจ จึงตัดสินใจที่จะสร้างวัดใหม่บนซากวัดเก่าซึ่งมิชชันนารีรุ่นแรกๆได้สร้างไว้ และจัดการซื้อที่ดินอีกหลายแปลงซึ่งเคยเป็นของมิสซังกลับคืนมา  คุณพ่อ ได้เริ่มสร้างวัดชั่วคราวเป็นไม้ขึ้นก่อน เพื่อจะได้รื้อวัดของคุณพ่อัลเลอกัว และสร้างวัดใหม่ตรงฐานเดิมของวัดหลังแรก คุณพ่อแร์โรซ์วาดแผนผังของวัดใหม่  ด้วยตนเอง โดยมีสถาปนิกผู้หนึ่งตรวจรับรอง และเป็นน ายช่างควบคุมการก่อสร้างเองด้วย งานก่อสร้างดำเนินไปอย่างช้า ๆ เพราะขาดเงิน ขณะที่ทำการขุดพื้นที่เพื่อสร้างรากฐานของวัด ได้ขุดพบโครงกระดูกของมิชชันนารี 13 ท่านที่ถูกฝังไว้ที่นี่กว่า 1 ศตวรรษแล้ว โครงกระดูกบางโครงยังอยู่ในสภาพดี  พระสังฆราชหลุยส์ เวย์ ได้เดินทางมาทำพิธีเสกศิลาฤกษ์วัดใหม่พร้อมกับพระสงฆ์มิชชันนารีอีก 16 ท่าน ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 1883 ในขณะที่วัดหลังใหม่ยังสร้างไม่เสร็จ ในปี 1888 วัดชั่วคราวก็ได้ถูกไฟไหม้ ในวันที่ 19 มีนาคม 1891 ได้มีพิธีเสกวัดนักบุญยอแซฟหลังใหม่ และพระแท่น โดยพระสังฆราชหลุยส์ เวย์ นอกจากนี้ในปี 1884 คุณพ่อแร์โรซ์ยังได้เปิดโรงเรียนของวัดนักบุญยอแซฟขึ้น เพื่อให้การศึกษาแก่บุตรหลานคริสตัง โดยใช้อักษรโรมันมาผสมอ่านเป็นคำไทย หรือที่เรียกว่าภาษา วัด จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 21:35:27

ความคิดเห็นที่ 8 รูปแบบของวัดเป็นแบบโรมัน สมัยศตวรรษที่ 12 ใช้เวลาก่อสร้างถึง 8 ปี จึงจะแล้วเสร็จ จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 21:40:15

ความคิดเห็นที่ 9 พอดีว่าไปในวันอาทิตย์ ซึ่งวันอาทิตย์ ของทุกสัปดาห์ - วันสะบาโต (Sabbath) - วันบริสุทธิ์ หยุดเพื่อพักผ่อนและร่วมทำกิกรรมที่โบสถ์ จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 21:43:56

ความคิดเห็นที่ 10 L'amour เลยไม่สามารถถ่ายรายละเอียดมาได้หมดค่ะ เนื่องจากเกรงจะรบกวนน่ะค่ะ เลยถ่ายได้เท่าที่จะสามารถนะคะ จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 21:45:36

ความคิดเห็นที่ 11 ในโบสถ์มีการทำกิจกรรม ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้ามีเปียโนคลอด้วย เพราะมากเลยค่ะ จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 21:47:08

ความคิดเห็นที่ 12 ในโบสถ์สวยมาก จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 21:49:56

ความคิดเห็นที่ 13 ลองดูบรรยากาศนะคะ ของที่นี่คิดว่าน่าจะเป็นของเก่าที่นำเข้ามาค่ะ จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 21:50:59

ความคิดเห็นที่ 14 แต่ละชิ้นสวยงามมาก จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 21:51:36

ความคิดเห็นที่ 15 ที่นี่มีบันไดวนขึ้นชั้นบนด้วย แต่ว่า....ไม่ได้ขึ้นค่ะ อย่างที่บอกเกรงว่าจะรบกวนเลยขอสังเกตุการณ์อยู่อย่างนี้ดีกว่าค่ะ จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 21:52:39

ความคิดเห็นที่ 16 อันนี้ไม่รู้ว่าคืออะไรนะคะ ทางศาสนาใช้ทำอะไรไม่รู้เหมือนกัน จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 21:53:36

ความคิดเห็นที่ 17 ที่เข้ามาแล้วรู้สึกสบายค่ะ ร่มเย็นอีกแบบหนึ่ง จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 21:55:20

ความคิดเห็นที่ 18 ทุกคนดูตั้งใจมากๆ เลย เห็นแล้วอยากให้ศาสนาพุทธของเรามีคนเข้าวัดเยอะเหมือนกันค่ะ จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 21:57:54

ความคิดเห็นที่ 19 เป็นที่นึงในอยุธยาที่อยากไปมาก ตอนนี้ท่วมไม่เสียหายเลยหรือดีใจจัง ถ้าเริ่มจากสถานีรถไฟอยุธยาไปรถสาธารณะยังไงต่อใครรู้ช่วยที และวันเสาร์เปิดให้ชมโบสถ์ไหม จากคุณ : travel alone2010 เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:01:25

ความคิดเห็นที่ 20 สถาปัตยกรรมที่นี่ดูโดเด่นมากมองจากฝั่งตรงข้ามแม่น้ำสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนสวยงามมากเลยนะคะ ทำให้รู้สึกว่าอยากมาอีกครั้ง แต่คงต้องไม่ใช่วันอาทิตย์นะคะ เพื่อที่จะได้เห็นภายในโบสถ์ได้อย่างทั่วถึง จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:01:36

ความคิดเห็นที่ 21 บรรยากาศรอบโบสถ์ค่ะ จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:02:05

ความคิดเห็นที่ 22 แอบถ่ายน้องหมาหน้าวัด จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:03:24

ความคิดเห็นที่ 23 แบบนี้ดูแล้วไท๊ย ไทย นะคะ จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:04:26

ความคิดเห็นที่ 24 คุณtravel alone2010 ลงรถที่ตลาดเจ้าพรหม แล้วเหมารถสามล้อหน้ากบเลยค่ะ หรือถ้าแรงดีปั่นจักรยานก็ได้เหมือนกันค่ะ ที่วัดดูแล้วเหมือนน้ำไม่ท่วมเลยค่ะ สภาพดีมากๆ เลย จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:07:12

ความคิดเห็นที่ 25 ดูบรรยากาศภายนอกวัดต่อนะคะ จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:08:17

ความคิดเห็นที่ 26 พอดีเลยค่ะ เลยขออนุญาตถ่ายไว้น่ะค่ะ จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:09:35

ความคิดเห็นที่ 27 รอบๆ วัดค่ะ จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:11:05

ความคิดเห็นที่ 28 ดูแล้วอบอุ่นดีนะคะ จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:13:09

ความคิดเห็นที่ 29 กล้วยไม้ออกดอกสวยดีค่ะเลยถ่ายมาฝาก จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:13:59

ความคิดเห็นที่ 30 เทวดา นางฟ้า ในวัด จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:14:41

ความคิดเห็นที่ 34 รูปใน คคห 16 ใช้สำหรับยื่นรับเงินบริจาคระหว่างพิธีมิซซาห์ ครับ ที่ทำเป็นรุปร่างทรงนั้น เพราะจะมีคนเดินยื่นให้ผู้มาร่วมพิธีหยอดเงิน ให้ได้ทั่วถึง เพราะแถวนั่งเป็นแถวยาวครับ บางวัดบางโบสถ์ ใช้เป็น ภาชนะคล้ายๆ กล่อง แล้วผู้บริจาคก็หยอดเงินแล้วส่งต่อๆ กันไปเรื่อยๆ ก็มีครับ :-) จากคุณ : Indy Lamphun เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:16:59

ความคิดเห็นที่ 36 @Indy Lamphun ขอบคุณนะคะ ความรู้ใหม่ค่ะ จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:20:58

ความคิดเห็นที่ 37 ก่อนเข้าสุสานนะคะ จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:21:40

ความคิดเห็นที่ 38 ที่นี่มีสุสานด้วยค่ะ จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:22:13

ความคิดเห็นที่ 39 ไปต่อนะคะ มาด้วยความเคารพสถานที่ค่ะ จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:25:04

ความคิดเห็นที่ 40 แบบว่ากลัวหน่อยๆ น่ะ จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:26:11

ความคิดเห็นที่ 41 ชมกันต่อ จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:26:42

ความคิดเห็นที่ 42 มาถึงนี่แล้วอุ่นใจค่ะ จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:28:34

ความคิดเห็นที่ 43 พระเยซู จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:29:47

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณค่ะที่เข้ามาชม บายค่ะ จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:30:21

ความคิดเห็นที่ 45 สวยจังเลยค่ะ จากคุณ : อ้วนน้อยศิษย์เจ้าแม่ เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:46:15

ความคิดเห็นที่ 46 @ อ้วนน้อยศิษย์เจ้าแม่ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:49:30

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณมากๆครับ เห็นโบสถ์นี้แทบทุกวัน แต่ไม่เคยเข้าไปข้างในเลย จากคุณ : m_stay22 เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 55 22:50:27

ความคิดเห็นที่ 48 - กิจกรรมในวันอาทิตย์ เรียกว่า พิธีมิสซา ครับ สำหรับท่านใดที่สนใจ สามารถเข้าร่วมในพิธีมิสซาได้นะครับ ไม่ผิดกฏกติกา แต่อย่างใด     แต่!!!ไปรับศีลมหาสนิท ที่เปรียบเป็น พระกายของพระเยซูคริสต์เจ้า ไม่ได้ อันนี้ผิดกฏ     แต่...( อีกแล้ว ) สามารถออกไปร่วมรับพระพร จากพระสงฆ์ ( บาทหลวง ) ได้ โดยให้ปฏิบัติดังนี้ เดินออกไปพร้อมผู้อื่นในช่วงรับศีล เมื่อใกล้จะถึงคิว ให้ยกมือทาบบริเวณหน้าอกตนเอง เป็นลักษณะกากบาท คือ ฝ่ามือซ้ายแตะบ่าขวา ฝ่ามือขวา แตะบ่าซ้าย ของตนเอง เมื่อพระสงฆ์เห็น ท่านจะทราบว่าเรารับ ศีลมหาสนิท ไม่ได้ ท่านก็จะทำการอวยพรเล็กๆน้อยๆในนามพระเจ้าให้กับเราเท่านั้น - รูปใน คคห. # 16 ก็ตาม คคห. #.34 คุณ @ Indy Lamphun ได้อธิบายไว้ครับ หรือจะเรียกง่ายๆว่า ถุงทาน ก็ได้ ใช้สำหรับไว้ยื่นรับเงินบริจาค จากผู้มีจิตศรัทธา โบสถ์ ทาสีใหม่แล้วดูสดใสขึ้นมาก ขอบคุณครับสำหรับรีวิว จากคุณ : Low Batt เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 00:21:32

ความคิดเห็นที่ 49 เคยไปลองเรือแล้วผ่านโบสนี้ ไม่ค่อยทราบรายละเอียดเท่าไร ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่ทำให้ทราบรายละเอียด จากคุณ : Pusapiepay เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 10:46:52

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 12:25:58

ความคิดเห็นที่ 51 ข้อมูลแน่นจริง ๆ ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ ดูจนจบ ว่าง ๆ ต้องไปเที่ยวบ้างแ้ล้วครับ ปล วัดคริสต์ สวย ๆ ในเมืองไทยมีเยอะครับ จากคุณ : ckbu เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 12:30:32

ความคิดเห็นที่ 52 @คุณm_stay22 ลองเข้าไปดูสิคะแล้วจะรู้ว่าสวยงามจริงๆ @คุณLow Batt ขอบคุณค่ะได้ความรู้จริงๆ L'amour ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้เท่าไหร่นักค่ะ @คุณPusapiepay ขอบคุณเช่นกันค่ะ @คุณเล็กทาโร่ ขอบคุณที่ติดตามผลงานค่ะ @คุณckbu ใช่ค่ะโบสถ์คริสต์ในเมืองไทยมีที่สวยๆ เยอะมากอยากไปเหมือนกันค่ะ เพราะส่วนใหญ่เป็นโบสถ์ที่มีความเก่าแก่ทั้งนั้นค่ะ จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 21:02:56

ความคิดเห็นที่ 53 นึกถึงสมัยเรียนประถมที่โรงเรียนคาทอลิกเลยอ่ะ จากคุณ : Into the Groove เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 17:32:04

ความคิดเห็นที่ 54 เคยไปครั้งหนึ่งแต่ปิดก็เลยอดเข้าไปชมด้านใน ขอบคุณที่พาไปเที่ยวนะครับ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 55 22:57:54

ความคิดเห็นที่ 55 @คุณInto the Groove ดีใจค่ะที่ทำให้รู้สึกถึงตอนเด็กๆ @คุณnoiwanwannoi  ลองไปดูใหม่นะคะ อาจจะมีโอกาสได้เข้าไปดูข้างใน จากคุณ : Am_lamour เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 21:21:43

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^ จากคุณ : สามแซ่ เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 11:10:23