ความคิดเห็นที่ 1 ตามมาเดินเล่นด้วยค่ะ   จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 21:55:31

ความคิดเห็นที่ 2 เห็นแค่รูป แต่สวยจริงครับ จากคุณ : หนุ่ม ณ วันวาน เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 21:59:24

ความคิดเห็นที่ 3 ลองดูรูปจากที่นี่นะคะ และได้ข้อมูลมาจากเวปนี้ค่ะ http://www.osanbashi.com/en/index.html จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 22:01:41

ความคิดเห็นที่ 4 คุณแม่ซากานะ ขอบคุณมากเลยค่า ช่วยเป็นแรงใจขึ้นเยอะ คุณหนุ่ม ณ วันวาน ของเค้าสวยจริงๆเลยค่ะ ----------------------------------------------------------------------------- Yokohama แต่เดิมนั้นเป็นแค่หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ แต่เนื่องจากปลายสมัยเอโดะ ระบบโชกุนเริ่มเสื่อมอำนาจลง ชาวตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาเริ่มแผ่อำนาจไปทั่วโลก ส่ง Commodore Matthew Perry มาญี่ปุ่น นายพลผู้นี้ช่ำชองเชี่ยวชาญเรื่องการเจรจาแกมบังคับขู่เข็ญ ให้ประเทศอื่นยอมตกลงเปิดประเทศ เจรจาค้าขายกัน ประวัติท่านนายพลเพอร์รี่ http://en.wikipedia.org/wiki/Matthew_Perry_(naval_officer) ----------------------------------------------------------------------------- เราเดินทางมาจากสถานีโยโกฮามา (Yokohama Station) ลงที่ สถานีคันไน (Kannai Station) ออกจากสถานีเดินผ่าน Yokahama Stadium ที่ใช้เป็นสนามแข่งเบสบอลนัดสำคัญ จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 22:07:41

ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อโชกุนตระกูลโตกุกาวา ตกลงทำสนธิสัญญาสันติภาพและมิตรภาพ  (Treaty of Peace and Amity) ชื่อว่าKanagawa Treaty ในปี ค.ศ. 1854 หลังจากนั้นโยโกฮามา ก็เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นเมืองท่าสำคัญของประเทศญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบัน ----------------------------------------------------------------------------- จากYokahama Stadium เดินมุ่งหน้าไปทะเลไปจนสุดทางจะถึง "Osanbashi Pier" เลยค่ะ แต่เราจะแวะดูโน่นดูนี่รายทางก่อนนะคะ บริเวณนี้เป็นอนุสรณ์การทำสนธิสัญญาคะนะกะวา (Kanagawa Treaty) ที่คนอเมริกันเข้ามาพบคนญี่ปุ่นและ(บังคับให้)ตกลงเปิดประเทศ จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 22:14:21

ความคิดเห็นที่ 6 มาเดินเล่นด้วยครับ ^^ ชอบเรื่องญี่ปุ่นด้วย จากคุณ : ไผ่พริ้ว (PyDE) เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 22:17:26

ความคิดเห็นที่ 7 มาเดินรับลมเย็นๆริมอ่าวด้วยค่ะพี่เต้ จากคุณ : ลอร่า อิงกัลส์ ~* เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 22:17:48

ความคิดเห็นที่ 8 ในตอนแรกตามสนธิสัญญานี้ ทางญี่ปุ่นกำหนดเขตให้ชาวต่างชาติอยู่เฉพาะพื้นที่เฉพาะเมืองคะนะกะวา Kanagawa โดยมีคูน้ำเป็นกำแพงล้อมรอบ เรียกว่า Kannai   ----------------------------------------------------------------------------- ข้อความบนแผ่นป้ายตรงอนุสรณ์สถาน จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 22:20:08

ความคิดเห็นที่ 9 คุณไผ่พริ้ว (PyDE) ไปเดินตากแดด ตา กลม กันค่ะ คุณลอร่า อิงกัลส์ ~*  แถมวิชาประวัติศาสตร์โยโกฮามาด้วยนะคะ แบบติวเข้ม ----------------------------------------------------------------------------- และบริเวณนี้จะอยู่ใกล้กับเส้นทางTokaido ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญที่เชื่อมระหว่างเอโดะ (โตเกียว) กับเกียวโตและโอซาก้า สมัยก่อนคนญี่ปุ่นไม่ได้เดินทางไปโน่นมานี่ได้ง่ายๆนะคะ ลำบากทั้งการเดินทาง ซึ่งมักจะต้องเดินเท้าหรือม้าลากรถแถมจะต้องผ่านจุดตรวจหนังสือเดินทางเป็นระยะอีกด้วย ใครที่เคยเที่ยวแถวทะเลสาปอะชิที่ฮาโกเน่ Ashi no Ko, Hakone คงอาจเคยเข้าไปดูที่ Check Point บ้างนะคะ เมื่อมีสถานที่แล้วก็เริ่มก่อสร้างและเปิดท่าเรือโยโกฮามา วันที่ 2 มิถุนายน ค.ศ.1859 ----------------------------------------------------------------------------- แวะเข้าชมและศึกษาประวัติเมืองโยโกฮามา ที่Yokohama Archives of History http://www.welcome.city.yokohama.jp/eng/travel/things_to_do/art_culture/yokohama_archives_of_history.html จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 22:27:43

ความคิดเห็นที่ 10 ตามไปด้วยค่ะ... จากคุณ : Miss_Behaving เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 22:29:34

ความคิดเห็นที่ 11 สิ่งใหม่ๆในญี่ปุ่นเริ่มเกิดขึ้นที่นี่เป็นครั้งแรก อย่างเช่น Japan Herald หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษฉบับแรก ในปีค.ศ.1861 ปีค.ศ.1865 มีไอศครีมและเริ่มมีโรงงานผลิตเบียร์ขึ้นเอง คนจีนเริ่มอพยพเข้ามาแล้วขยายใหญ่ขึ้นจนเป็นไชน่าทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นและเอเชีย ----------------------------------------------------------------------------- ข้างใน จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 22:31:23

ความคิดเห็นที่ 12 คุณMiss_Behaving ไปด้วยกันเลยค่า ----------------------------------------------------------------------------- หลังสมัยปฏิวัติเมจิ ค.ศ.1868 ความเจริญหลั่งไหลมาที่โยโกฮามา ไม่หยุดยั้ง เริ่มเปิดตลาดค้าผ้าไหม จนกลายเป็นสินค้าสำคัญ ค.ศ. 1872 สร้างเสาตะเกียงแก๊สติดตั้งตามถนน ที่สำคัญที่สุดคือเริ่มการรถไฟขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศ เมื่อเทียบกับเมืองไทยเราเริ่มในเวลาใกล้เคียงกันเลยนะคะ แต่ด้วยเหตุปัจจัยต่างๆที่ทำให้ความเจริญแตกต่างกันอย่างเทียบกันไม่ติด ----------------------------------------------------------------------------- มีตึกพิพิธภัณฑ์ผ้าไหมเปิดให้เข้าชม จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 22:36:09

ความคิดเห็นที่ 13 ทางเมืองโยโกฮามายังคงเก็บรักษาของบางอย่างไว้ให้ดูนะคะ อย่างเช่นระบบท่อน้ำทิ้ง ก่อสร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยทิ้งลงทะเล มองทะลุกระจกลงไปใต้พื้นดิน ยังเห็นท่อเก่าคงไว้อยู่ค่ะ ส่วนSticker BNE WAS HERE คิดว่าไม่เกี่ยวกับระบบท่อน้ำทิ้งนี้นะคะ พยายามหาข้อมูล ได้ความเห็นหลากหลายจากที่นี่ค่ะ http://www.thaivisa.com/forum/topic/259987-who-or-what-is-bne/ แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 55 00:38:56 จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 22:40:53

ความคิดเห็นที่ 14 กลับมาเรื่องท่าเรือกันนะคะ ตอนเปิดท่าเรือโยโกฮามา ในตอนแรกมีท่าเทียบเรือแค่ 2 ท่าซึ่งไม่พอเพียงกับความต้องการ เลยมีการสร้างท่าเทียบเรือใหม่ขึ้นมาบริเวณใกล้ๆกัน โดยให้ชื่อว่า Osanbashi ขึ้นในปีค.ศ. 1894 แต่ยังไม่ได้มีหน้าตาแบบปัจจุบันนะคะ ----------------------------------------------------------------------------- ภาพวาดที่เรือสมัยก่อน จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 22:51:03

ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อใช้งานมาได้ไม่นาน แค่ประมาณเกือบร้อยปีเท่านั้นเอง ค.ศ. 1989 จึงริเริ่มโครงการปรับปรุงแปลงโฉม Osanbashi ขึ้นมาใหม่ โดยคราวนี้จัดให้มีการประกวดการออกแบบขึ้นช่วง ค.ศ. 1994-1995 ----------------------------------------------------------------------------- บริเวณท่าเรือมีตึกแบบตะวันตก ยังคงใช้อยู่จนปัจจุบัน จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 22:54:10

ความคิดเห็นที่ 16 มีงานออกแบบส่งเข้าประกวดทั้งหมด 660 โดรงการจาก 41 ประเทศทั่วโลก ถือว่าเป็นการประกวดออกแบบก่อสร้างโครงการครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจัดมาในญี่ปุ่นทีเดียว ผู้ชนะการประกวดคือMr. Alejandro Zaera-Polo and Ms. Farshid Moussavi จากสหราชอาณาจักร (United Kingdom) ----------------------------------------------------------------------------- เดินมาถึงด้านหน้า Osanbashi จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 22:57:49

ความคิดเห็นที่ 17 มีวิศวกรที่เชี่ยวชาญในแต่ละสาขามาควบคุมระหว่างการก่อสร้าง ถือกันว่าครั้งนี้เป็นการคิดค้นนวัตกรรมในการก่อสร้างครั้งใหญ่ที่สุด ตามมาด้วยการได้รับรางวัลชนะเลิศด้านออกแบบสถาปัตยกรรมยอดเยี่ยมในปี ค.ศ.2004 The Worldwide Award in 2004 for architectural designs excellence. ----------------------------------------------------------------------------- มองเข้าฝั่งทางขวามือ เห็น The Landmark Tower ตึกสูงทางซ้ายมือ ส่วนขวามืออาคารเตี้ยๆ คือAkarenga และที่เห็นด้านหลังเป็นตึกทรงใบเรือ The Pan Pacific Hotel and the Pacifico Convention Center แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 55 23:09:31 จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 23:08:56

ความคิดเห็นที่ 18 ที่นี่เน้นวัสดุในการออกแบบ 3 อย่างคือ ไม้ เหล็กและกระจก เลือกใช้ไม้อีเปย์ ไม่ใช่อีเบย์ที่ซื้อขายสินค้ากันนะคะ Ipe เป็นไม้เนื้อแข็งสำหรับการตกแต่งภายนอกอาคาร ที่ Osanbashi เลิศหรู จึงเลือกใช้อีเปย์จากบราซิลเพื่อความแข็งแรง ทนทาน จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 23:13:32

ความคิดเห็นที่ 19 เราเดินเล่นที่ดาดฟ้าชั้นบนสุดก่อนนะคะ ดาดฟ้าที่นี่ จะโค้ง เอียง เวลาเดินอาจทำให้งงนึกว่าตัวเองยังเมาค้างจากเมื่อคืนได้ แต่มันมีเหตุผลค่ะ ประการแรกคือ คนออกแบบเค้าใช้แทนความหมายของเกลียวคลื่น ประการต่อไปคือ ที่นี่เค้าแทบไม่ค่อยใช้ขั้นบันได จึงใช้วิธีทำแนวทางเดินเป็นทางลาดชันแทน แถมยังมีประโยชน์ที่ช่วยระบายไม่ให้น้ำขังอยู่ตามพื้นด้วยค่ะ จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 23:17:28

ความคิดเห็นที่ 20 มาทันถ่ายทอดสดล่ะค่ะ เดินตามไปชมด้วย เห็นทางเดินแล้วชักท้อหน่อย ๆ ล่ะ จะไปไหวไหมเนี่ย? 555 จากคุณ : คุณแม่ติดเน็ต เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 23:20:41

ความคิดเห็นที่ 21 เดินเล่นที่นี่ ไม่มีกำหนดเส้นทางนะคะเราสามารถเดินขึ้นลง เบี่ยงเบนไปทางซ้ายหรือขวาก็ได้ เพลินดีจังค่ะ จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 23:27:12

ความคิดเห็นที่ 22 คุณ คุณแม่ติดเน็ต จากสถานีรถไฟมาถึงท่าเรือประมาณกิโลกว่าๆ รวมทั้งเดินเล่นที่ท่าเรือ Osanbashi อีกเกือบๆ 500 เมตร เดินเฉพาะที่นี่ไปกลับเกือบ 3 กิโลแล้วนะคะ มีเวลา ให้ซอยเท้าฝึกฝนก่อนปฏิบัติจริงเดือนเมษานี้ค่ะ ----------------------------------------------------------------------------- ตอนที่เห็นสนามหญ้าบนดาดฟ้าครั้งแรก ยังนึกว่าเค้าจะใช้ประโยชน์เป็นสนามกอล์ฟเล็กๆหรือเปล่านะ แต่ไม่ใช่ค่ะ คนออกแบบเค้าอยากให้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับคนเมืองใหญ่ ได้มาสัมผัสหญ้าจริงๆซะบ้าง จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 23:33:45

ความคิดเห็นที่ 23 มีป้ายขอความร่วมมือไม่ให้เดินลัดสนามหญ้า แล้วคนที่นี่ก็ให้ความร่วมมือกันดี หญ้าจึงเขียวตลอดเสมอกันทั้งสนาม จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 23:35:09

ความคิดเห็นที่ 24 อร๊ายยย ทันถ่ายทอดสด..อิอิ สถานที่สุดโปรดด้วยค่ะ Osanbashi Pier ทุกครั้งที่ไป Yokohama ต้องแวะไป^^ จากคุณ : kizuna_Ai เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 23:38:30

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้าลงไปชั้นสอง ส่วนปลายสุดของท่าเรือจะเป็น Osanbashi Hall สำหรับจัดงานเลี้ยง จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 23:39:33

ความคิดเห็นที่ 26 คุณkizuna_Ai ชอบมากเหมือนกันค่ะ มาเที่ยวด้วยกันอีกรอบค่ะ ----------------------------------------------------------------------------- ดาดฟ้าตรงส่วนที่เป็นหลังคาของ Osanbashi Hall เมื่อมองเข้าฝั่ง จะเห็นวิวแบบนี้ค่ะ จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 23:43:28

ความคิดเห็นที่ 27 ตรงพื้นมีลายเส้นพร้อมคำว่า King Queen Jack ทั้งสามชื่อนี้เป็นชื่อเล่นของอาคารเก่าในโยโกฮามาค่ะ King     The Tower of the Prefectural Government Building จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 23:46:36

ความคิดเห็นที่ 28 Queen  The Customs Building รูปตึกสีเหลืองซ้ายมือที่มีโดมเขียว จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 23:48:35

ความคิดเห็นที่ 29 Jack The Port Opening Memorial Hall รูปจากเวป http://ja.wikipedia.org/wiki/%E3%83%95%E3%82%A1%E3%82%A4%E3%83%AB:Yokohama_Port_Opening_Memorial_Hall_2009.jpg จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 23:49:32

ความคิดเห็นที่ 30 ที่พามายืนตรงนี้ ตามตำแหน่งที่เค้ากำหนดให้แล้วมองออกไป ใช้สายค้นหาเจ้าตึกทั้งสาม หากได้เห็นพร้อมกันแล้ว จงตั้งจิตอธิษฐาน แล้วจะได้ตามที่ต้องการ (เฉพาะคำอธิษฐานแต่สิ่งที่ดีนะคะ) นี่เป็นความเชื่อตามตำนานของเมืองโยโกฮามานี้ค่ะ จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 23:52:22

ความคิดเห็นที่ 31 มองเข้าฝั่งไปทางขวามือ เห็นตึก Akarenga ที่พาเที่ยวเมื่อวานพร้อมทั้งสกายไลน์เมืองโยโกฮามานะคะ จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 55 23:55:01

ความคิดเห็นที่ 32 ลงมาชั้นที่สองของOsanbashi กันค่ะ ริมสุดเป็น Osanbashi Hall อย่างที่บอกไปแล้ว อีกส่วนหนึ่งเป็นอาคารผู้โดยสารเข้า-ออก มี 2 ฝั่งทั้งหมด 8 ประตู จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 55 00:01:00

ความคิดเห็นที่ 33 ที่นี่น่าจะนิยมเป็นจัดงานแต่งงานนะคะ เห็นมีเคาน์เตอร์สำหรับติดต่อเป็นเรื่องเป็นราว จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 55 00:02:42

ความคิดเห็นที่ 34 #30 .....เดือน 4 จะไปยืนมองหาบ้างเผื่อจะเห็นทั้งสามตึก แล้ว....ขอให้ได้กลับไป Yokohama ทุกปี^^ อิอิ จากคุณ : kizuna_Ai เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 55 00:03:59

ความคิดเห็นที่ 35 และที่ขายตั๋วสำหรับรับประทานอาหารบนเรือลำใหญ่ แล่นรอบอ่าว จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 55 00:04:37

ความคิดเห็นที่ 36 ท่าเรือสวยจริงๆค่ะ ...ลวดลายโค้ง เอียง เหมือนเกลียวคลื่นนี่ เดินนานๆจะเมาคลื่นรึปล่าวคะเนี่ย จากคุณ : Sergeant Keroro เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 55 00:06:36

ความคิดเห็นที่ 37 คุณkizuna_Ai เลือกวันอากาศดีๆนะคะเพราะเจ้าแจ๊คหายากซักหน่อย ----------------------------------------------------------------------------- ร้านค้าเล็กๆ ไม่มาก จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 55 00:08:16

ความคิดเห็นที่ 38 คุณSergeant Keroro สวยนะคะ เดินตอนแรกนึกว่าตัวเองเมาค้าง ----------------------------------------------------------------------------- จบตอนพาเที่ยวช่วงหน้าร้อนค่ะ ขอให้ทุกคนมีสติ คิดและใช้ชีวิตให้คุ้มค่าอย่างมีความสุขนะคะ จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 55 00:11:27

ความคิดเห็นที่ 40 คนญี่ปุ่นถูกฝึกให้เป็นคนของกลุ่มสังคมมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย เด็กๆที่โรงเรียนแถวบ้าน ถูกฝึกให้ทุกคนมีกิจกรรมร่วมกัน เพราะเชื่อว่าจะสร้างเสริมความสามัคคีกัน จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 55 00:18:32

ความคิดเห็นที่ 41 วันนี้มาหัดแบกสมมตว่าเป็นเกี้ยวเวลาจัดงานแห่ต่างๆ เจ้าหนูคนนี้ แปลกแยกออกไป ไม่ยอมเข้ากลุ่ม ครูผู้หญิงไปตามก็ดื้อ จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 55 00:21:50

ความคิดเห็นที่ 42 ร้อนถึงครูผู้ชายมาหิ้วแขนพร้อมทั้งอบรมสั่งสอน จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 55 00:23:35

ความคิดเห็นที่ 43 ในที่สุด เจ้าหนูตัวดื้อก็ยอมสยบ จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 55 00:24:13

ความคิดเห็นที่ 44 แวะมาปาดดดก่อนครับพี่เต้ เดี๋ยวย้อนขึ้นไปชมก่อนนะ จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 55 00:31:42

ความคิดเห็นที่ 45 โดนลบความคิดเห็น 39 ไปนะคะ ก่อนจบจริงมาเล่าเรื่องสัพเพเหระกันค่ะ มีวันหนึ่ง ขณะนั่งรถเพลินๆ เด็กผู้ชายตัวจ้อยอายุซัก 5-6 ขวบ เดินมายืนที่ขอบถนนตรงทางม้าลาย แล้วก็ยกมือขวาขึ้นมา รถคันหน้าจอด รถที่ขับมาอีกเลนก็จอด รถฝั่งตรงข้ามอีกสองเลนก็จอดสนิท เพื่อให้เจ้าหนูคนนี้ข้ามถนนคนเดียวอย่างปลอดภัย เป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ ว่าเจ้าหนูน้อยจะกล้ามาข้ามถนนเพียงคนเดียว แถมยังสามารถห้ามรถที่วิ่งอยู่ทั้งถนนให้จอดได้ เชื่อพลังของความฝึกฝนและเคารพกฎกติกาสังคมของคนญี่ปุ่นจริงๆค่ะ น่าเสียดายที่ถ่ายรูปไม่ทันเอารูปอื่นมาใส่แทนละกันนะคะ จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 55 00:35:22

ความคิดเห็นที่ 46 วินัยสร้างชาติได้จริงๆ เหตุผลหนึ่งของเจแปนเลิฟเวอร์อย่างเราที่ถอนตัวไม่ขึ้นจากประเทศนี้ คือ "คน" คนญี่ปุ่นทำให้เราประทับใจ ไม่ใช่ที่เค้าแสดงต่อนักท่องเที่ยว แต่เป็นสิ่งที่เค้าแสดงต่อตนเองและประเทศของเค้า ขอบคุณที่พาเที่ยวโยโกฮามาน่ะคะ ^__^ จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 55 07:46:15

ความคิดเห็นที่ 47 คนญี่ปุ่นนี่ช่างคิดจริงๆครับ ท่าเรือยังทำได้สวยงาม แถมมีความหมายอีกด้วย ไม้ที่เค้าใช้ดีมากๆเลยนะครับ อยากเอามาทำบ้านบ้างจัง ปลวกจะได้กินไม่ได้ ขอบคุณครับ จากคุณ : Koon Shy_Tour Dee เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 55 09:03:22

ความคิดเห็นที่ 48 ชอบวินัยของเค้าจริงๆ  ขอบคุณครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 55 12:46:44

ความคิดเห็นที่ 49 คุณCoffee Blended  ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันทุกครั้งนะคะกาแฟ คุณเจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย คนส่วนใหญ่เป็นอย่างเจ้าแก้วว่าไว้จริงๆ แต่มีคนส่วนน้อย ที่ผิดแผกไป โชคดีที่ยังไม่มีผลกระทบต่อชาติบ้านเมืองเค้ามากนัก คุณKoon Shy_Tour Dee  อยากได้เหมือนกันเลยค่า ปัญหาสำคัญที่สุดคือ อีเปย์เป็นไม้เนื้อแข็งมาก จะให้ช่างตอกตะปูเหมือนบ้านเราไม่ได้นะคะ เค้ามีวิธี เทคนิคของเค้า ลองดูที่หัวตะปูนะคะ เหมือนเป็นตะปูเกลียวที่ต้องใช้สว่านช่วยน่ะค่ะ อีกอย่างคือสู้ราคาไม่ไหวค่ะ ^-^ จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 55 13:02:00

ความคิดเห็นที่ 50 สวัสดีค่ะคุณเล็กทาโร่ เค้ามีวินัยเข้ม จนบางคนมาเจอเมืองไทยเรา เค้ากลับชอบเพราะผ่อนคลายกว่ากันเย๊อะ ----------------------------------------------------------------------------- ที่เห็นเป็นแท่งเล็กสองแท่ง เป็นม้านั่งนะคะ ใช้นั่งได้จริงๆ จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 55 13:07:52

ความคิดเห็นที่ 51 เพลิน.......... จากคุณ : SuperTee (itCrazy) เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 55 15:17:31

ความคิดเห็นที่ 52 มาอ่านประวัติศาสตร์หนุกๆ จากพี่เต้จ้า.... น่าไปเดินเล่นแถวนั้นจัง... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 00:24:38

ความคิดเห็นที่ 53 ตามไปเที่ยวท่าเรือที่แสนจะเมาคลื่นด้วยคน ^_^ จากคุณ : SkyBox เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:22:24

ความคิดเห็นที่ 54 คุณSuperTee (itCrazy) เดินกันเพลินจริงค่ะ คุณป้าฟู คราวหน้ากลับเมืองไทยอย่าลืมแวะด้วยนะคะคุณแจง มาเที่ยวสบายๆบ้าง อย่าผจญภัยนัก คุณSkyBox  พี่ฟ้าคะ เห็นรูปเปรียบเทียบความคมชัดแล้วอาย ดูรูปแล้วยังรู้สึกเมาๆ ที่นี่เอียงไปซะทุกอย่าง แก้ไขเมื่อ 12 มี.ค. 55 12:12:09 จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 12:11:37

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณ คุณแม่ซากานะ, คุณหนุ่ม ณ วันวาน, คุณลอร่า อิงกัลส์ ~*, คุณmulangotchi, คุณMiss_Behaving, คุณคุณแม่ติดเน็ต, คุณkizuna_Ai, คุณSergeant Keroro, คุณCoffee Blended, คุณเจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย, คุณSkyBox, คุณKoon Shy_Tour Dee, คุณCEOTHAI42, คุณjanto, คุณป้าฟู, คุณhollaneung ----------------------------------------------------------------------------- ที่นั่งหลบแดด ยังเอียง จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 12:14:41

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^ จากคุณ : สามแซ่ เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 12:31:25

ความคิดเห็นที่ 57 รูปถ่ายตอนหน้าหนาวอะครับ รูปมันถึงใสได้แบบนี้ ถ้าถ่ายตอนหน้าร้อนก็ขมุกขมัวพอๆ กันนั่นละครับ ^_^ จากคุณ : SkyBox เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 13:12:27

ความคิดเห็นที่ 58 เอาภาพรวมตึกนี้มาให้ดูกันนะครับ ว่าที่เดินเล่นกันอยู่นะคือ "เดินบนหลังคา" อะครับ ^_^ จากคุณ : SkyBox เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 13:19:56

ความคิดเห็นที่ 59 ^_^ จากคุณ : SkyBox เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 13:24:16

ความคิดเห็นที่ 60 คุณสามแซ่ ขอบคุณมากเช่นกันค่า ขอบคุณพี่ฟ้าอีกครั้งค่า มีรูปไรอีก ช่วยเอามาให้ดูอีกนะคะ ชอบ King Queen Jack จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 14:40:52

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณค่าคุณหมีที่พาเที่ยว ได้ไปเดินท่าเรือมาเหมือนกันค่ะ แต่เป็นช่วงค่ำแล้ว มองอะไรไม่ค่อยเห็น แถมไม่ได้หาข้อมุลอะไรก่อนไปด้วย เดินดุ่ยๆออกจากรถไฟก็มุ่งจะไปดูท่าเรือชื่อดังอย่างเดียวเลย (ท่าเรือนี่นับเป็น A Must ที่นศ สถาปัตย์จะต้องรู้จักนะคะตอนนั้น) ไม่ได้แวะชมตึกสวยๆกับรายละเอียดตามทางเลย อ่านกระทู้นี้แ้ล้วเสียดายจริงๆ ^^" (แถมเมื่อยขามากกกก เพราะเดินคามาคุระมาทั้งวัน เดินจากสถานีรถไฟมาก็ไม่ใช่ใกล้อีก ยิ่งพาลไม่อยากดูอะไรใหญ่เลย 55) จากคุณ : pititee เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 55 07:40:54