ความคิดเห็นที่ 1 และแล้วก็ถึงเวลาชาวคณะโบกมือลา Cusco เพื่อลงใต้ไปยังเมือง Puno ซึ่งอยู่บนชายฝั่ง Lake Titicaca แล้วค่ะ นอกจาก Lake Titicaca จะเป็นทะเลสาปที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ กินพรมแดนตั้ง 2 ประเทศ (เปรู-โบลิเวีย) แล้ว มันยังเป็นหนึ่งในทะเลสาปที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 3,800 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เรียกว่าอยู่สูงกว่า Cusco ตั้ง 400 เมตรเลยนะโยม >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:38:44

ความคิดเห็นที่ 2 หนทางไป Lake Titicaca จาก Cusco นั้นมีหลายวิธีค่ะ ไม่ว่าจะเป็น 1.) นั่งสายการบิน LAN ไปลงที่ Juliaca แล้วนั่งบัส/แท็กซี่ต่อไปยัง Puno ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 45 นาที ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง ค่าตั๋วเที่ยวเดียวประมาณ $230 2.) นั่งรถไฟ Perurail ไปสุดสายที่ Puno ใช้เวลา 10 ชั่วโมง ค่ารถไฟเที่ยวเดียว $220 (แพงพอๆกับเครื่องบินเลยวุ้ย) แต่ข้อดีของรถไฟคือสามารถลุกยืดเส้นยืดสายได้ และโบกี้สุดท้ายไม่มีหน้าต่าง น่าจะเหมาะแก่การถ่ายรูปวิวทิวทัศน์ 3.) นั่งรถบัสไป Puno ออปชั่นนี้ต้องนั่งกันตรูดแฉะหน่อย 9 ชั่วโมง แต่ค่าตั๋ว $50 เท่าน้ัน แถมยังมีโปรแกรมให้แวะชะโงกทัวร์ตามจุดต่างๆระหว่างทางอีกด้วย คงไม่ต้องบอกใช่ไหมฮะ ว่าซำเหมาทัวร์อย่างเราต้องเลือกออปชั่นที่ถูกที่สุดอยู่แล้ว โดยเราเลือกใช้บริการของบริษัท Inka Express ค่ะ เพราะเห็นมีคนแนะนำเจ้านี้กันเยอะอยู่ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:40:07

ความคิดเห็นที่ 3 วันนี้เราต้องตื่นแต่เช้าตรู่ เพราะฉิ่งฉับทัวร์เราล้อหมุนตั้งกะ 7 โมงครึ่งแหน่ะ รถทัวร์เขาก็สภาพดีนะคะ แอร์เย็น เบาะนั่งสบาย มีไกด์ด้วย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:40:36

ความคิดเห็นที่ 4 แถมยังมีขนมปังก้อนยักษ์นี่เป็น snack ร่วมสาบานให้แก่บรรดาลูกทัวร์อีกตะหาก ไกด์บอกว่าเผอิญเราผ่านหมู่บ้านนึงซึ่งขึ้นชื่อเรื่องขนมปังมาก เลยแวะซื้อให้ลูกทัวร์ได้ชิมนิดโหน่ย ขนมปังก็หวานๆดีค่ะ แต่อย่าเอามาเทียบกับหนมปัง Yamazaki, Sun Moulin บ้านเฮานะฮะ กระดูกคนละเบอร์ T^T ส่วนเจ๊ที่เดินแจกขนมปังในภาพนี้ ก็คือโฮสเตสประจำรถเรานั่นเอง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:41:06

ความคิดเห็นที่ 5 ระหว่างทางก็มีวิวให้ชมพอเพลินๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:41:25

ความคิดเห็นที่ 6 ซักพักเราก็มาถึงสต็อปแรกที่เมือง Andahuaylillas จุดขายของเมืองนี้อยู่ที่โบสถ์ San Pedro ซึ่งได้ฉายาว่าเป็น Sistine Chapel ของทวีปอเมริกาเลยนะเอ้อ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:41:46

ความคิดเห็นที่ 7 แค่ด้านหน้าโบสถ์ ก็พอเห็นภาพจิตรกรรมฝาผนังเลาๆแล้ว จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:42:11

ความคิดเห็นที่ 8 **** เนื่องจากเขาห้ามถ่ายรูปในโบสถ์ จขกท.เลยต้องจิ๊กรูปจากในเน็ตมานะขอรับ **** เข้าไปแล้วก็แอบผิดหวังหน่อยๆ เพราะนึกว่าจะโบสถ์อุดมไปด้วยเฟรสโก้ตั้งกะผนังยันเพดาน ไรว๊า แต่ถ้าไม่คิดมาก จขกท.ก็ว่าโบสถ์นี่มันก็อลังการงานสร้างแบบบ้านๆดีไม่หยอก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:42:40

ความคิดเห็นที่ 9 โดยเฉพาะเพดานที่ลวดลายอย่างพรึม แถมสีสันฉูดฉาดบาดจิตมากๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:42:57

ความคิดเห็นที่ 10 ตรงทางเข้ามีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันใหญ่บึ้มขนาบอยู่ระหว่างประตู เฮียไกด์อธิบายว่าภาพทั้งสอง แสดงหนทางไปสู่สวรรค์และนรก จะเห็นว่าทางไปนรกนั้น กว้างขวาง เดินสบาย และโรยไปด้วยกลีบกุหลาบ ในขณะที่ทางไปสู่สวรรค์ทั้งคับแคบและเต็มไปด้วยขวากหนาม แถมยังมีสิ่งยั่วยุมาคอยปั่นหัวให้ไขว้เขวตลอดเวลา เหมือนเฮียในภาพขวาที่จะไปสวรรค์อยู่รอมร่อแล้ว แต่ก็ไม่วายเจอมารผจญกวักมือเหยงๆให้มาร่วมวงเฮฮาปาร์ตี้อีก (ว่าแต่ทำไมเพื่อนคนนั้นไม่ชูหนูตะเภาย่างคะ แบบนี้เสียยี่ห้อศิลปะเปรูหมด กร๊ากกกก) คงเป็นการอุปมาว่า การทำดีนั้นลำบากยากเย็นกว่าการทำบาปนักแล จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:43:24

ความคิดเห็นที่ 11 ถัดจากโบสถ์ San Pedro เราก็มานั่งรถมายังเมือง Raqchi โบสถ์น่ารักซะไม่มี จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:44:02

ความคิดเห็นที่ 12 หน้าโบสถ์มีตลาดนัดเล็กๆขำๆด้วย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:44:28

ความคิดเห็นที่ 13 แม่ค้าบางคนขายของไปเลี้ยงลูกไปด้วยอีก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:44:47

ความคิดเห็นที่ 14 แต่เราไม่ได้แวะมา Raqchi เพื่อช็อปปิ้ง แต่เรามาชมซากของ Temple of Viracocha นี่ตะหาก แต่ก่อนนี่เป็นวิหารบูชาเทพ Viracocha ซึ่งชาวอินคานับถือว่าเป็นเทพเจ้าผู้สร้างสรรค์ทุกสรรพสิ่งในโลกใบนี้ มาบัดนี้เหลือแต่กำแพงให้ดูต่างหน้าเท่านั้น -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:45:11

ความคิดเห็นที่ 15 จบชะโงกทัวร์ที่ Raqchi แล้วเราก็ออกเดินทางต่อ วัวเยอะแยะเลย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:45:32

ความคิดเห็นที่ 16 อร๊ายยยย กองทัพน้องแกะตัวอ้วนพี น่าฟัดมากอ่าาาาา จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:45:49

ความคิดเห็นที่ 17 ซักพักก็มาถึงโปรแกรมที่ชาวคณะรอคอย นั่นคือมื้อกลางวันที่เมือง Sicuani นั่นเอง (บุฟเฟต์มื้อกลางวันนี่ รวมอยู่ในค่าตั๋วรถบัสเรียบร้อยแล้วจ้า) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:46:12

ความคิดเห็นที่ 18 หน้าตาร้านก็ดูไม่เลวทีเดียว จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:46:27

ความคิดเห็นที่ 19 อาหารดูดีกว่าที่คิดแฮะ มีทั้งสลัดมันฝรั่ง, ไก่อบซอส, เนื้ออบชีส และน้องอัลปาค่าาาาาาา จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:46:59

ความคิดเห็นที่ 20 ยิ่งเอาน้องอัลปาค่ามาโปะพาสต้านี่ ออกมาอร่อยสุดๆขอโบก สลัดมันฝรั่งเขาก็อร่อย ไม่เสียชื่อดินแดนต้นกำเนิดโปเตโต้ มันเนื้อหนึบนิดๆ ไม่แข็งโป๊ก แต่คุณแม่น้องปอติดใจแครอทและมะเขือเทศของร้านนี้ค่ะ เพราะผักเค้าทั้งหวานทั้งสดมากๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:47:32

ความคิดเห็นที่ 21 ตบท้ายด้วยชาโคคา ซึ่งถ้าเอาใบโคคาไปสกัดเพียวๆมันจะได้เป็นโคเคนค่ะพี่น้อง! >_< แต่ถ้าดื่มแค่ชาเฉยๆ มันจะมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการหน้ามืดวิงเวียนจาก Altitude Sickness ได้ฮ่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:47:55

ความคิดเห็นที่ 22 นอกจากดื่มชาโคคาแล้ว สาวๆยังสามารถทำ Retail Therapy ควบคู่กันไปด้วยก็ได้นะฮะ หุหุ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:48:22

ความคิดเห็นที่ 23 อืม พรมลายลาม่ายังพอทำเนา แต่ลายหลินปิงนี่มาได้ไงคะเพ่! อย่าบอกนะว่าของที่ระลึกที่นี่ก็ Made in China กะเขาด้วย -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:49:04

ความคิดเห็นที่ 24 กิน ช็อปเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาล้อหมุนต่อ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:49:32

ความคิดเห็นที่ 25 ช่วงที่ออกมาจากร้านบุฟเฟต์ใหม่ๆนี่ วิวสวยมากค่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:49:54

ความคิดเห็นที่ 26 เห็นเทือกเขาแอนดีสเป็นเทือกๆเลย เขาลูกนี้นี่ยังกะสไลเดอร์จริงๆ ดูแล้วอยากจะวิ่งไปยอดเขา แล้วกลิ้งโค่โร่ลงมาจัง กร๊ากกกกก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:50:27

ความคิดเห็นที่ 27 สักพักเราก็มาถึง La Raya ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดบนเส้นทาง Cusco-Puno ดูป้ายก่อนเถอะค่ะพ่อแม่พี่น้อง บร๊ะเจ้า! 4,338 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล แค่ลงไปยืนเฉยๆก็มึนตึ๊บแร๊ววววว T^T จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:51:09

ความคิดเห็นที่ 28 แน่นอนว่าที่ไหนมีทัวร์ริสต์ ที่นั่นต้องมีแผงขายของที่ระลึก แต่แผงนี้วิวสวยน่าดู มี Snow capped mountain เป็นฉากหลังด้วย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:51:32

ความคิดเห็นที่ 29 อ๊ะ เจอ Perurail วิ่งปู๊นปู๊นผ่านมาพอดี จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:51:48

ความคิดเห็นที่ 30 ไกด์ให้เวลาลูกทัวร์ลงไปถ่ายรูปกับป้าย La Raya แค่ 5 นาที ก่อนจะต้อนซำเหมาทัวร์ทั้งหลายกลับขึ้นรถบัส จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:52:28

ความคิดเห็นที่ 31 แต่พอรถจะออก คุณแม่น้องปอก็สถาปนาตัวเองเป็นเด็กรถกิตติมศักดิ์ ด้วยการไปนั่งข้างคนขับซะงั้น >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:53:34

ความคิดเห็นที่ 32 "ก็แม่อยากดูวิวแบบเต็มๆ ไม่มีฉากกั้น หรือไกด์มาบดบังทัศนียภาพนี่นา" จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:53:52

ความคิดเห็นที่ 33 ออกจาก La Raya มา วิวทิวทัศน์ก็เริ่มเปลี่ยนค่ะ จากเทือกเขาสุดลูกหูลูกตา ก็กลายสภาพเป็นท้องทุ่งแทน และจากฝูงน้องวัวน้องแกะ ก็จะเริ่มมีคณะน้องลาม่าแซมขึ้นมาเป็นระยะๆอีกด้วย จขกท.อ่านมาว่า ในสมัยอินคา ตรงแถวๆ Lake Titicaca มีน้องลาม่าอาศัยอยู่มากมาย ขนาดที่ว่า กษัตริย์อินคายกทัพลงมาตีเผ่าที่ปกครอง Lake Titicaca อยู่ เพียงเพื่อจะกวาดต้อนน้องลาม่ากลับไปใช้งาน จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:54:41

ความคิดเห็นที่ 34 จากนั้นเราก็แวะมิวเซียมที่เมือง Pukara อย่างด่วนๆ แต่ไม่ค่อยมีอะไร จขกท.ขอข้ามโลดนะขอรับ ก่อนถึง Puno เราก็ต้องผ่าน Juliaca เมืองนี้หน้าตาโทรมๆนี่ไปเสียก่อน ซึ่งคุณไกด์ก็เล่าว่า "อุตสาหกรรมอันดับหนึ่งของเมือง Juliaca คือ ตลาดมืด(!) ครับท่านผู้ชม เพราะเมืองนี้อยู่เกือบติดประเทศโบลิเวีย เลยมีของหนีภาษีขายกันให้เกร่อมากมาย" "และท่านอาจสงสัยว่า ทำไมตึกรามบ้านช่องเมืองนี้ถึงได้ดูโทร๊มโทรม เหมือนสร้างไม่เสร็จ นั่นก็เพราะ ตึกที่สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะเสียภาษีแพงกว่าน่ะสิครับ!" กร๊ากกกก คิดได้ไงวะค่ะ! ศรีธนญชัยมากๆอ่ะมุขนี้ >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:55:40

ความคิดเห็นที่ 35 หลังจากนั่งรถมา 9 ชั่วโมง ในที่สุดเราก็มาถึง Puno ซะที \o/ เห็น Lake Titicaca แย๊วววววว คุณไกด์บอกว่า Lake Titicaca นี้อยู่ในเปรู 60% อีก 40% อยู่ในโบลิเวีย แต่ถ้าคุณไปถามคนโบลิเวีย เค้าจะบอกว่า 60% อยู่ในโบลิเวีย 40% อยู่ในเปรูตะหาก กร๊ากกกก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:56:41

ความคิดเห็นที่ 36 ข่าวดีคือ 1.) เมือง Puno สภาพดูดีกว่า Juliaca หน่อยนึง 2.) ตึกของโรงแรม Qelqatani ที่เราพักในคืนนี้ สร้างเสร็จสมบูรณ์ดี ไม่มีเหล็กเส้นงอกอยู่บนหลังคาแต่อย่างใด ฮา จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:57:18

ความคิดเห็นที่ 37 ห้องน้ำก็กว้างขวางสะอาดสะอ้านใช้ได้ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:57:34

ความคิดเห็นที่ 38 ก่อนลงจากรถทัวร์ เราถามไถ่เฮียไกด์ให้ช่วยแนะนำร้านอาหารใน Puno ให้หน่อย คุณไกด์ก็เชียร์ให้เรามาที่ร้าน Balcones de Puno เจ้าค่ะ เหมือนร้านนี้จะเป็นที่นิยมของกรุ๊ปทัวร์ เพราะมีโชว์ระบำพื้นเมืองด้วย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:57:56

ความคิดเห็นที่ 39 คนเต้นนี่เปลี่ยนชุดหลายรอบมาก แต่ทำไมท่าเต้นมันดันเหมือนๆกันหมดทุกเพลงเลยฟะ -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:58:27

ความคิดเห็นที่ 40 โชว์ระบำก็โอเคอยู่ แต่ดนตรีประกอบนี่ดิ เหมือนเล่นมั่วๆแถมเสียงดังโคดๆอีก ฟังแล้วปวดเฮดเป็นบ้า ไม่เหมือนวงที่ร้านที่เราหม่ำบุฟเฟต์มื้อกลางวัน วงโน้นเล่นเพราะมาก ขนาดแฟนน้องปอยังขอซื้อ CD กลับมาฟังต่อที่บ้านเลย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 07:59:21

ความคิดเห็นที่ 41 บรรยากาศไม่ผ่าน ไหนดูซิว่าอาหารจะออกมาโอเคไหม นี่ก็ Trout & King Fish Ceviche ค่ะ รสชาติเฉยๆอ่ะ ไม่แซ่บ แถมปลายังมีกลิ่นแถมเนื้อเป็นเอ็นๆได้อีก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:00:00

ความคิดเห็นที่ 42 ต่อด้วย Galician Octopus ซึ่งก็รสชาติงั้นๆอีกแระ -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:00:14

ความคิดเห็นที่ 43 Spiral Trout & King Fish จานนี้ก็ไม่มีอะไรน่าจดจำ ตกลงร้านนี้มีอะไรอร่อยบ้างวะเนี่ย >_< จริงๆพวกเราน่าจะเอะใจ ตั้งแต่ตอนถามเฮียไกด์ว่าร้านนี้อะไรอร่อย แล้วเฮียตอบว่าพิซซ่าแล้ว เง้ออออ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:00:39

ความคิดเห็นที่ 44 ยังดีที่มื้อนี้ไม่เฟลสุดกู่ซะทีเดียว เมื่อเราได้น้องหนูตะเภาทอดมากู้สถานการณ์ค่ะ เอร๊ยยยยย >___< ชาวคณะมั่นใจว่าเราไม่ได้อุปาทานไปเองแน่นอน ว่าหนูตะเภารสชาติเหมือนเป็ดจริงๆนะเธอว์ แถมหนังยังมันๆเหมือนกันอีก เอาไปทอดกรอบนี่อย่างอร่อยเหาะเรย แต่หัวนี่ขอละกัน ไม่กล้ากิน T^T ปล. โต๊ะข้างๆเราเป็นสาวฝรั่งหน้าตาสะสวย ชีฉายเดี่ยวพร้อม Lonely Planet 1 เล่ม และกล้อง DSLR คู่ใจ มาถึงเจ๊ไม่พูดพร่ำทำเพลง สั่งหนูตะเภาทอดมา 1 จาน ก่อนจะจัดการแทะน้องหนูคนเดียวจนหมดจาน แมนมากเลยเจ๊ขราาาา T^T จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:01:17

ความคิดเห็นที่ 45 กินข้าวเสร็จเราก็ไปเดินย่อยน้องหนูตรงถนน Lima ซึ่งอยู่แถวๆโรงแรมเรา เดินๆอยู่ก็มีเสียงตุ้งแช่ ตุ้งแช่มาแต่ไกล จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:01:37

ความคิดเห็นที่ 46 ดึกดื่นแล้ว มีขบวนพาเหรดวงดุริยางค์โผล่มาได้ไงวะเนี่ย O_o แต่นี่ยังเด็กๆไปเลยฮ่ะ เมื่อเทียบกับความบ้าพลังของ Arequipa ที่เราจะพาไปชมในตอนหน้านะเคอะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:02:25

ความคิดเห็นที่ 47 เอ้กอี๊เอ้กเอ้กกกก เช้าแล้วเจ้าข้าเอ๊ยยยยย วันนี้เราจะไปทัวร์ครึ่งวันที่หมู่บ้าน Uros ซึ่งอยู่กลาง Lake Titicaca กันค่ะ ตอนแรกเราก็กะจะไปทัวร์ทะเลสาปแบบเต็มวัน แต่เนื่องจากเวลาไม่พอ เลยต้องตัดใจไปทัวร์ครึ่งวันแทน T^T โดยงานนี้เราไปกับทัวร์ของบริษัท All Ways Travel ค่ะ (http://www.titicacaperu.com) ที่เราตัดสินใจไปกับทัวร์ เพราะบ่ายนี้เพื่อนตอต้องชิ่งไปขึ้นเครื่องบินกลับเมกาก่อน เราเลยไม่อยากเสี่ยงไปกันเอง ตอนเช้ารถบัสของบริษัทก็มารับพวกเราถึงที่โรงแรมเลย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:03:12

ความคิดเห็นที่ 48 อิอิิ คนแรกเหรอเนี่ยะ แวะจองที่นั่งก่อนนะฮะ เด๋วคืนนี้เจอกัน ต้องรีบอาบน้ำไปทำงานละครับ แก้ไขเมื่อ 12 มี.ค. 55 08:05:14 จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:04:18

ความคิดเห็นที่ 49 จากนั้นคุณไกด์ก็พาลูกทัวร์มาขึ้นเรือที่ตรงท่าน้ำ แต่ขอบอกว่าแว่บแรกที่เห็น Lake พวกเราก็เริ่มสยองขึ้นมาหน่อยๆ เพราะน้ำนี่อย่างเน่าเลยอ่ะ >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:04:35

ความคิดเห็นที่ 50 #ได้เลยน้องกาแฟ อรุณสวัสดิ์ด้วยจ้า --------------------------------------------------------------- ไกด์เล่าว่า แต่ก่อนน้ำในทะเลสาปสะอาดมากนะ ตอนเด็กๆไกด์ยังลงไปว่ายน้ำเล่นในทะเลสาปได้อยู่เลย เพิ่งมาเน่าตอนหลังๆนี่เอง เมื่อเมือง Puno ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และชาวเมือง Puno ก็พร้อมใจ ทิ้งสิ่งปฎิกูลทั้งหลายลง Lake กันดื้อๆเนี่ยแหล่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:05:47

ความคิดเห็นที่ 51 ขนาดเกาะกลางน้ำยังอุตส่าห์มีโรงแรม หะแรกเกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิคเล็กน้อย เพราะออกเรือมาได้ไม่เท่าไหร่ เรือก็ดันมาเครื่องดับกลางทะเลสาปซะงั้น! เดชะบุญที่พนักงานขับเรือก็สามารถซ่อมเครื่องยนต์ได้สำเร็จภายในเวลาไม่นาน ส่วนคุณไกด์ของเรานี่ หน้าตาพี่ท่านไม่ได้มีความตื่นตระหนกแม้แต่น้อย แถมยังเล่าโน่นนี่ปล่อยมุขต่ออย่างไม่สะทกสะท้านมากๆ จขกท.ก็ไม่ทราบว่าเพราะคุณไกด์แกโปร หรือโอ(กรู)ชิน(แล้ว)กันแน่นะเคอะ >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:06:39

ความคิดเห็นที่ 52 ผ่านพ้นความระทึกแบบขำๆไปแล้ว เรือก็พาเราเข้าสู่วังวนต้นกก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:07:38

ความคิดเห็นที่ 53 ส่วนคุณพี่คนนี้ เค้าเก็บต้นกกไปทำไม เดี๋ยวได้รู้กันค่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:08:01

ความคิดเห็นที่ 54 ผืนน้ำสะท้อนภูเขา จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:08:18

ความคิดเห็นที่ 55 และสะท้อนผืนฟ้าได้ราวกับเป็นกระจกเงาบานยักษ์จริงๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:08:45

ความคิดเห็นที่ 56 น้ำตรงนี้ท่าจะสะอาดหน่อย เลยได้เห็นน้องเป็ดน้องนกด้วย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:09:27

ความคิดเห็นที่ 57 มองไปทางชายฝั่งดีๆ ว๊ากกกก มีน้องหมูตัวน้อยด้วยอ่า จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:10:07

ความคิดเห็นที่ 58 ถึงแล้วจ้าหมู่เกาะ Uros จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:10:53

ความคิดเห็นที่ 59 บ้านริมทะเลเสาปตามโฆษณาหมู่บ้านจัดสรรเมืองไทยนี่ชิดซ้ายไปเลย เมื่อมาเจอหมู่บ้าน/หมู่เกาะ Uros วิลล่าเข้าให้ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:11:25

ความคิดเห็นที่ 60 แต่ที่อึ้งปนทึ่งที่สุดคือ เกาะต่างๆในหมู่บ้าน Uros นี้ เป็นเกาะทำมือ (Man Made) ล้วนๆเลยนะครับ!! ตามตำนานเล่าว่า ชาวเมืองส่วนหนึ่งที่อาศัยอยู่บนชายฝั่ง Lake Titicaca ได้ตัดสินใจหนีการรุกรานของอินคาด้วยการมาสร้างเกาะกลางทะเสสาป แม่เจ้า ทำไปได้กว่านี้มีอีกมั๊ย! >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:13:15

ความคิดเห็นที่ 61 และจนบัดนี้ พวกเขาก็ยังไม่ไปไหน ยังอาศัยอยู่บนหมู่บ้านลอยน้ำนี่ต่อไป วันนี้เราจะมาเยือนเกาะที่ชื่อ Apu Inti ค่ะ เรือจะจอดเทียบท่าแล้วล่ะน๊าาาาา จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:14:56

ความคิดเห็นที่ 62 แถมเกาะเค้าก็ไม่เล็กหรือแออัดด้วยนา จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:15:55

ความคิดเห็นที่ 63 วันนี้เรามีลุงผู้ใหญ่บ้านของเกาะมาเป็นวิทยากรรับเชิญด้วยฮ่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:16:28

ความคิดเห็นที่ 64 โดยลุงจะสาธิตให้ชมว่า เกาะทำมือเหล่านี้ท่านได้แต่ใดมา เริ่มจากสร้างฐานของเกาะด้วยรากของต้นกก แล้วเอาเชือกมัดไว้ด้วยกัน แล้วต้องมีการทอดสมอลงไปด้วย ไม่งั้นวันดีคืนดี ท่านอาจลอยเท้งเต้งไปอยู่ในโบลิเวียได้ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:17:10

ความคิดเห็นที่ 65 ตามไปด้วยครับ มาแต่เช้าเลย จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:17:45

ความคิดเห็นที่ 66 จากนั้นก็โปะใบต้นกกทับลงไป และต้องมีการเอาผลัดเวียนเอาใบต้นกกใหม่ๆมาโปะเมื่อใบเก่าเริ่มเน่าแล้ว จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:17:55

ความคิดเห็นที่ 67 #สวัสดีค่า คุณม่วงมหากาฬก็มาแต่เช้าเช่นกันเลยนะฮะ ^_^ ------------------------------------------------------------------ จากนั้นปลูกบ้านที่ทำจากต้นกก(อีกแล้ว)ลงไป เป็นอันเสร็จพิธี พร้อมเข้าอยู่ได้ทันที ไม่ต้องมีมัดจำ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:19:53

ความคิดเห็นที่ 68 อันนี้ต้องนับถือคนสร้างจริงๆค่ะ เพราะแม้เวลาเดินบนเกาะ จะรู้สึกเหมือนพื้นไม่นิ่งเหมือนพื้นดินก็จริง แต่มันก็ค่อนข้าง Stable พอตัวเลยล่ะค่ะ มีแค่บางจุดเท่านั้นที่พอเหยียบแล้วพื้นเกาะยวบลงไป จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:21:01

ความคิดเห็นที่ 69 แถมต้นกกนี่ก็สารพัดประโยชน์เหลือหลาย ทั้งใช้สร้างเกาะ สร้างบ้าน แถมยังกินได้อีกตะหาก!! จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:21:27

ความคิดเห็นที่ 70 หลังจากชมเบื้องหลังการถ่ายทำแล้ว ชาวบ้านก็พาเราไปเยี่ยมบ้านเค้าบ้างค่ะ เราไปบ้านของแม่หนูเสื้อชมพูคนนี้ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:22:25

ความคิดเห็นที่ 71 บ้านเค้าก็ง่ายๆ มีแค่เตียงเท่านั้น อันนี้ จขกท.ดันลืมถามคำถามสำคัญซะด้วยสิว่า น้องจ๋า แล้วส้วมล่ะอยู่ไหน >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:23:12

ความคิดเห็นที่ 72 เที่ยวบ้านเสร็จ ก็เป็นรายการขายของตามสูตร จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:23:36

ความคิดเห็นที่ 73 คนบนเกาะนี้พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ค่ะ เวลาต่อราคาเลยต้องใช้เขียนเอา แต่ทำแบบนี้บ่อยๆ ไม่กลัวแขนเป็นรอยแย่เหรอแม่เจ้าประคุณ -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:25:14

ความคิดเห็นที่ 74 แต่ผ้าปูโต๊ะลายเป็ดน้อยมัลติคัลเลอร์นี่อย่างน่ารักโฮกอ่ะ แถมเย็บมือล้วนๆด้วย แม่ค้ายืนยันอีกแรงว่าที่เอามาขายนี่ เค้าเย็บเอง จขกท.เลยสอยกลับบ้านเป็นที่ระลึกซะให้ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:25:48

ความคิดเห็นที่ 75 ช็อปปิ้งเสร็จเราก็ไปเดินเล่นบนเกาะต่อ นี่อะไรเนี่ย ประตูเมืองเหรอ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:26:43

ความคิดเห็นที่ 76 ส่วนเพื่อนตอก็แอบสวมรอยเป็นผู้ใหญ่บ้าน จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:27:21

ความคิดเห็นที่ 77 เหนื่อยนักก็นั่งพักทอดหุ่ยริมเกาะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:27:42

ความคิดเห็นที่ 78 หรือไม่ก็ทอดสายตาไปยังเปียสุดจ๊าบของแม่นางคนนี้ >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:28:54

ความคิดเห็นที่ 79 แต่ที่เด็ดดวงไม่แพ้กัน ก็คือเรือที่ทำจากใบต้นกกนี่แหล่ะค่ะ กอนโดล่าที่เวนิสเห็นแล้วยังต้องหนาวเลยนะนั่น จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:29:41

ความคิดเห็นที่ 80 เรือที่ชาวบ้านใช้เองจะลำเล็กๆหน่อย ส่วนลำใหญ่ๆที่มีระบบขับเคลื่อนสองฝีพายนี่มีไว้บริการนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ คุณไกด์เลยปล่อยมุขว่า เรือลำเล็กเรียกแท็กซี่ ส่วนลำใหญ่นี่เขาเรียก Mercedes (เบนซ์) กร๊ากกกก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:30:25

ความคิดเห็นที่ 81 แน่นอนฮ่ะ ว่าทัวร์เกาะ Uros ก็ต้องมีโปรแกรมนั่งกอนโดล่าข้ามเกาะเข้าไปด้วย แต่ถ้าจะนั่งกอนโดล่าก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มเน้อ ใครไม่อยากเสียตังค์ก็นั่งเรือยนต์ของบริษัททัวร์แทนได้ฮ่ะ ก่อนจะออกเดินทาง สาวๆก็มาร้องเพลงไล่ เอ้ย ส่งนักท่องเที่ยว จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:31:26

ความคิดเห็นที่ 82 แถมบนเรือยังมีหนูน้อย 2 หน่อ ที่ทำหน้าที่ร้องเพลงขับกล่อมผู้โดยสารอีกตะหาก เอ่อ...แล้วหนุ่มๆบนเกาะหายไปไหนหมดคะเนี่ย ถึงต้องให้สาวๆมาพายเรืออ่ะ >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:33:44

ความคิดเห็นที่ 83 จขกท.ชอบหมวกคุณน้องสองคนนั้นจังค่ะ กิ๊บเก๋ซะไม่มี จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:34:24

ความคิดเห็นที่ 84 เนื่องจากใช้แรงงานสาวๆ เรือของเราเลยแล่นไปด้วยความเร็วเท่าเต่าคลาน -_- แถมพายๆอยู่ เจ๊ฝีพายคนนึงก็ลุกขึ้นมาเก็บตังค์นักท่องเที่ยวอีก เชียร์ลีดเดอร์ทั้งสองเลยต้องรับบทหนักแทนพี่ใหญ่ด้วยเลย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:35:12

ความคิดเห็นที่ 85 แม้จะทุลักทุเลนิดหน่อย แต่เราก็ข้ามฝั่งมาถึงอีกเกาะโดยสวัสดิภาพ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 08:35:47