ความคิดเห็นที่ 1 รีแค็ปตอนที่แล้วนิดโหน่ย หลังจากจบมหกรรมชะโงกทัวร์ครึ่งวันที่ Lake Titicaca แล้ว เพื่อนตอก็ตัดช่องน้อยแต่พอตัว หนีกลับเมกาไปก่อน ส่วนชาวคณะที่เหลือมุ่งหน้าไปยังเมือง Arequipa (อะเรกิป้า) กันต่อ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:18:19

ความคิดเห็นที่ 2 เส้นทาง Puno - Arequipa นี่มีบริษัทรถบัสให้บริการหลายเจ้าเลยค่ะ แต่เห็นคนนิยมใช้บริการของ Cruz del Sur กัน แค่ตอนซื้อตั๋วก็รู้สึกได้ถึงความไม่ธรรมดาแล้วค่ะ เพราะเค้าขอดูพาสปอร์ตด้วย แถมยังต้องมีการเช็คกระเป๋าที่จะโหลดใต้ท้องรถ ด้วยการเอากระเป๋าผ่านเครื่องสแกนอีกตะหาก! นี่เค้าเข้าใจอะไรผิดป่าวเนี่ย นี่รถบัสนะเหวย ไม่ใช่สายการบิน! >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:19:01

ความคิดเห็นที่ 3 ความฮาร์ดคอร์ของ Cruz del Sur ยังไม่หยุดแค่นี้ฮ่ะพี่น้อง เพราะก่อนขึ้นรถ จะต้องมีการตรวจกระเป๋า พร้อมถ่ายวิดีโอด้วย แถมพอรถใกล้ออก พนักงานก็จะเดินถือกล้องวิดีโอ ไล่ถ่ายหน้าผู้โดยสารทีละคนๆ O_o เอ่อ ถ้านี่คือความต้องการให้ผู้โดยสารอุ่นใจในความปลอดภัยแล้วล่ะก็ ขอบอกว่าคิดผิดถนัด เพราะ จขกท.กลับคิดแต่ว่า "ชิหายแล้ว วันนี้ตรูจะโดนเพื่อนร่วมทางปล้นป่าวเนี่ย" กร๊ากกกกก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:19:52

ความคิดเห็นที่ 4 เนื่องจากเราจองตั๋วรถบัสไว้ตั้งแต่เย็นวันก่อน เราเลยได้นั่งแถวหน้าสุดของชั้นสองเลยค่ะ เยสสสสส จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:20:09

ความคิดเห็นที่ 5 เลยได้เห็นวิวเมฆฝนอย่างจะๆเต็มจอ อร๊าย นี่มันฝนไล่ช้างชัดๆ T^T โชคดีจริงๆนะนี่ ที่ตอนเราไปเที่ยวทะเลสาป ฟ้าอย่างใส แดดอย่างเปรี้ยงเลย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:20:37

ความคิดเห็นที่ 6 แต่สีท้องฟ้าหลังฝนผสมพระอาทิตย์ตกดิน ก็สวยงามไม่หยอกนะฮะ จาก Puno ไป Arequipa ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงค่ะ เพราะถนนสุดจะขึ้นเขาลงห้วย และยังคดไปเคี้ยวมาอีกตะหาก ยิ่งนั่งชั้นสองแถวหน้าสุดนี่ ความมันส์ยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณค่ะขอบอก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:21:21

ความคิดเห็นที่ 7 จากท่ารถเมือง Arequipa เราก็โบกแท็กซี่มายังโรงแรม Los Tambos ซึ่งอยู่ตรง Plaza de Armas จตุรัสใจกลางเมือง ตอนเราโผล่เข้าไปเช็คอิน คุณโทมัส ผู้จัดการโรงแรม (ตอนหลังคุยๆ เหมือนแกจะเป็นหุ้นส่วนด้วยเน้อ) ก็ทำหน้าประหลาดใจ "ทำไมถึงแล้วไม่บอกล่ะครับ ค่าแท็กซี่รวมอยู่ในเรตห้องพักของเราแล้วนะครับ!" "อ้าวจริงดิ มัวแต่เที่ยว นี่จะจบทริปแล้วยังไม่ได้เช็คอีเมล์เลยอ่ะค่ะ แหะแหะ" "งั้นก็ขอแสดงยินดีด้วยครับ ที่พวกคุณ Save The Best For Last ด้วยการเก็บ Arequipa ไว้ท้ายสุดแบบนี้" สาธุ สมพรปากเถอะค่ะเฮียขา จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:21:58

ความคิดเห็นที่ 8 ห้องพักโรงแรมนี้ก็ใช้ได้ค่ะ ตกแต่งได้ไม่เลว แต่ห้องแอบเล็ก ใครลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาอาจจะลำบากเล็กน้อย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:22:27

ความคิดเห็นที่ 9 แต่ห้องน้ำกว้างขวาง และดูดีมากเลยนา จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:23:19

ความคิดเห็นที่ 10 เก็บของเสร็จ เราก็ออกมาหามื้อดึกหม่ำๆตรงแถว Plaza de Armas กัน จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:24:11

ความคิดเห็นที่ 11 โฮกกกกกก วิหารใหญ่โตมโหระทึกมากอ่ะ >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:24:29

ความคิดเห็นที่ 12 เดินต่อจากวิหารไปหน่อย เราก็ผ่านร้าน Cappricio ที่ตกแต่งได้น่ารักกุ๊กกิ๊กเหลือกำลัง แถมหน้าร้านยังมีตู้เค้กที่หน้าตาน่ากินโฮกๆตั้งอยู่ด้วยอีก แบบนี้ต้องเข้าไปท้าพิสูจน์โลด จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:25:01

ความคิดเห็นที่ 13 แต่ก่อนจะเขมือบน้องเค้ก ชาวคณะก็สั่งดินเนอร์มารองท้องเสียก่อน จานแรกเป็นไก่ยัดไส้แฮมชีสฮ่ะ รสชาติไม่เลวเลยเน้อ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:25:24

ความคิดเห็นที่ 14 ต่อด้วยริซ็อตโต้เป็ด จานนี้ก็โอเคค่ะพี่น้อง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:25:39

ความคิดเห็นที่ 15 ปิดท้ายของคาวด้วย Beef Stroganoff Crepe ที่ดันออกมาเหมือน Beef Au Gratin มากกว่า -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:26:36

ความคิดเห็นที่ 16 จบรายการของคาวแล้ว จขกท.กับน้องปอก็จูงมือไปเลือกเค้กในตู้ต่อ น้องปอเลือก Apple Crumble Cake ค่ะ ไส้แอปเปิ้ลอย่างเยอะเลย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:27:09

ความคิดเห็นที่ 17 ส่วนจขกท.เลือก Chocolate Tres Leche Cake Tres Leche แปลว่านมสามอย่าง ได้แก่ นมสด นมผง นมข้นหวาน ส่วนเจ้าเค้กนี่ เนื้อเค้กอย่างนิ่ม อย่างนุ่ม อย่างชุ่มช็อคโกแล็ต อร่อยตายไปเยย เมี๊ยวววววว จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:27:27

ความคิดเห็นที่ 18 หม่ำมื้อดึกเสร็จแล้ว เราก็มาเดินย่อยน้องเค้กตรง Plaza de Armas มั่ง ช่างเป็น Plaza ที่หน้าตาเก๋ไก๋ไฮโซเสียจริง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:29:06

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นแล้วอยากให้ถึงพรุ่งนี้เช้าไวๆ Arequipa จ๋าาาา เด๋วเจอกันนะจ๊ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:29:40

ความคิดเห็นที่ 20 เช้าแล้วจ้า แน่นอนว่าเราต้องเริ่มเช้าวันใหม่ด้วยอาหารเช้าที่โรงแรม จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:30:00

ความคิดเห็นที่ 21 นอกจากขนมปังและฟรุตสลัดแล้ว ทางโรงแรมยังให้เลือกข้าวเช้าได้อีก 1 รายการจากเมนู จขกท.เลยสั่งแซนวิชไส้กรอกซะให้ ไส้กรอกอร่อยมั่กๆ ไม่เค็มปี๋หรือมันเยิ้มเหมือนไส้กรอกเมกา -_- แต่ถ้าใครไม่อยากกินเป็นแซนวัช สั่งเป็นออมเล็ตไส้กรอกแทนก็ได้นะขอรับ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:30:39

ความคิดเห็นที่ 22 ห้องใช้ได้ พนักงานอัทธยาศรัยดี อาหารเช้าอร่อยไม่พอ วิวจากดาดฟ้าโรงแรมยังแจ่มไม่เบานะเอ้อ กรี๊ดดดดด ภูเขาไฟเป็นเทือกๆเรย >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:31:02

ความคิดเห็นที่ 23 เอ๋ เหมือนกับตรง Plaza de Armas จะมีพาเหรดด้วยแฮะ "น้องขา วันนี้เป็นวันอะไรเหรอคะ ถึงได้มีพาเหรด" น้องปอถามพนักงาน Front Desk "ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ เพราะเมืองเรามีพาเหรดกันทุกวันอาทิตย์อยู่แล้ว!!" จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:31:24

ความคิดเห็นที่ 24 ว๊ากกกก จริงดิ เมืองบร้าอะไร ทำไมมีพาเหรดทุกวันอาทิตย์ด้วย! >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:31:44

ความคิดเห็นที่ 25 แถมขนมาทั้งรุ่นใหญ่ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:31:59

ความคิดเห็นที่ 26 รุ่นเล็ก (โรงเรียนนี้ยูนิฟอร์มกิ๊บเก๋สุดๆ) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:32:21

ความคิดเห็นที่ 27 และรุ่นเล็กกว่า แก็งค์นี้จะเดินที ยังต้องมีคุณครูมาคอยกำกับอยู่เลย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:32:38

ความคิดเห็นที่ 28 บางโรงเรียนก็ไม่ได้มามือเปล่า นำวงโยธวาทิตมาสมทบด้วย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:33:16

ความคิดเห็นที่ 29 เอ่อ คุณน้องขา จะเตะขาสูงไปไหน หรือจะเป็นการบอกเตือนกลายๆว่า ถ้าพี่ขวางทางขบวนหนู โดนเตะก้านคอแน่ค่ะ!! จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:33:39

ความคิดเห็นที่ 30 บรรยากาศรื่นเริงหรรษาบางกะปิแฮปปี้แลนด์มากๆ แถมยังมีแบ็คกราวด์เป็นวิหารอันบึ้มอีก อย่างนี้จะไม่ให้ฉันตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบได้ไง Arequipa จ๋าาาาา จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:34:06

ความคิดเห็นที่ 31 ...แต่แล้ว พาเหรดก็มาปิดท้ายด้วยขบวนนี้ฮ่ะ อะจ๊ากกกก พี่เชมาโผล่ที่เปรูได้ไงวะเนี่ย >_< เห็นไกด์บุคว่า คน Arequipa จะไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านเท่าไหร่ค่ะ เพราะคนเปรูส่วนมากจะอนุรักษ์นิยม ในขณะที่คน Arequipa จะเป็นแนวหัวก้าวหน้า แถมเอียงซ้ายอีกตะหาก ทำให้ที่นี่เป็นบ้านเกิดของศิลปิน นักคิด นักเขียนชื่อดังของเปรูหลายท่าน รวมทั้ง Mario Vargas Llosa เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมปี 2010 ก็มาจาก Arequipa นะเคอะ นี่ยังไม่นับความเป็นยูโรเปี้ยนแบบสุดลิ่มทิ่มประตู ที่ทำให้ Arequipa โดดเด้งกว่าเมืองอื่นๆในเปรู เพราะว่าเมืองนี้มีอัตราส่วนคนเชื้อสายยุโรปมากกว่าชาวพื้่นเมืองมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เนื่องจากสเปนเป็นคนสถาปนาเมือง Arequipa ขึ้นมา เพื่อเป็นหน้าด่านไปยังเหมืองแร่เงินในโบลิเวีย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:34:38

ความคิดเห็นที่ 32 นอกจากจะขึ้นชื่อในความแนวของชาวเมืองแล้ว Arequipa ยังมีชื่อเล่นว่า White City เพราะตึกรามบ้านช่องจำนวนมากของเมือง รวมทั้ง Arequipa Cathedral สร้างจากหิน Sillar ซึ่งเป็นหินสีขาวจากภูเขาไฟแถวนั้นนั่นเอง มาชมความขาวแบบไม่ต้องพึ่งนีเวียไวท์เทนนิ่งกันจะๆ ได้ที่โบสถ์ La Compania ตรงหัวมุมจตุรัสกันเลยฮ่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:35:18

ความคิดเห็นที่ 33 ไม่ใช่แค่ขาว ด้านหน้าของโบสถ์ยังแกะสลักลวดลายได้วิจิตรเหลือหลาย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:35:49

ความคิดเห็นที่ 34 งามแต๊ๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:36:10

ความคิดเห็นที่ 35 ขนาดประตูทางเข้าก็ยังเท่ซะ >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:36:29

ความคิดเห็นที่ 36 ด้านในโบสถ์ก็สวยงามแบบเรียบๆ แต่เพียบไปด้วยรายละเอียดเก๋ๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:36:58

ความคิดเห็นที่ 37 แต่ความเรียบของโบสถ์ก็ทำให้ Altarpiece อันทองอร่ามนี้ เด่นขึ้นมาโดยอัตโนมัติ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:37:29

ความคิดเห็นที่ 38 ขืนลาย Altarpiece ก็พร้อย ตัวโบสถ์ก็ดอกดวงยุ่บยั่บอีก คนมาโบสถ์คงมึนตึ้บพิลึกอ่ะ -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:37:57

ความคิดเห็นที่ 39 แม้แต่ภาพที่แขวนอยู่ในโบสถ์ก็ยังอลังการงานสร้างมั่กๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:38:28

ความคิดเห็นที่ 40 ปิดท้ายทัวร์โบสถ์ La Compania ด้วยภาพสวยๆของน้องปอ เจ้าแม่ภาพ Life ประจำทริปของเรานะเคอะ สุดยอดมากค่ะคุณน้องภาพนี้ จะหาว่าพี่ชออวยก็ยอม กร๊ากกกก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:38:59

ความคิดเห็นที่ 41 ตอนออกจากโบสถ์ La Compania บรรยากาศตรงแถวๆ Plaza de Armas ก็กลับมาสู่ความปกติสุขอีกหน จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:39:30

ความคิดเห็นที่ 42 เดินเล่นชมเมืองซะหน่อยดีกว่า จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:40:02

ความคิดเห็นที่ 43 ขนาดตึกธนาคารสุดเท่ในภาพ ก็ยังสร้างมาจากหินภูเขาไฟ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:40:21

ความคิดเห็นที่ 44 จากนั้นเราก็มายัง Museo Santuarios Andinos นี่ แหม่ สีเจ็บเจงๆ แดงเข้มมาแต่ไกลเชียว ใครจะมาที่นี่ ต้องไปร่วมทัวร์ที่ทางมิวเซียมจัดนะขอรับ (มีทัวร์ภาษาอังกฤษค่ะ) แต่เวลารอบไม่ค่อยแน่นอน อาจต้องรอ 30-45 นาทีกันเลยทีเดียว แม้จะเรื่องมากเล็กน้อย แต่ขอบอกว่าห้ามพลาดที่นี่เด็ดๆ โดยเฉพาะผู้นิยมของแปลก เพราะนี่เป็นมิวเซียมเกี่ยวกับ High Altitude Archaeology เจ้าค่ะ! จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:41:28

ความคิดเห็นที่ 45 เมื่อเอ่ยถึงระดับตัวพ่อของ field นี้ ชื่อแรกๆที่คนจะนึกถึงก็คือ Dr. Johan Reinhard ในภาพนี้แล ดร.โยฮานเป็นชาวอเมริกัน แต่จบปริญญาเอกด้านมานุษยวิทยาจากออสเตรีย แต่แกลุยมาหมดแล้วฮ่ะ ทั้งเทือกเขาหิมาลัย, ทิเบต, ภูฐาน ยอดเขา Everest แกก็พิชิตมาแล้ว ไม่ใช่แค่นั้น แกยังเคยไปดำน้ำหาโบราณวัตถุใน Lake Titicaca ด้วยนะเคอะ! โหย สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกแบบนี้ Indiana Jones ก็เหอะ มาเจอ Indiana Johan เข้าไปเป็นได้หนาวแน่ๆ   จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:42:43

ความคิดเห็นที่ 46 อ่าว จริงดิ มีพาเรตบ่อยขนาดนี้เลยหรือคะ -_-" ตอนไอซ์ไปก็มีพาเรต นึกว่าตัวเองช่างโชคดีที่ได้มาเจออะไรพิเศษ 5555 เคยรีวิวเมืองนี้กับเค้าด้วยอะ รีวิวเป็นกระทู้สุดท้ายแล้วหนีหายไปเลยค่ะ ฮา http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2008/08/E6913841/E6913841.html ปล. จากกระทู้ที่แล้ว ผมสั้นถักเปียไม่พอค่ะ ถึงทั่นป้า หนูว่าก็สีเจ็บแล้วนา 555 แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 55 08:45:10 จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:43:37

ความคิดเห็นที่ 47 หลังจากปี 1980 ดร.โยฮานก็ย้ายวิกมาประจำที่เทือกเขาแอนดีส แกออกสำรวจยอดเขาต่างๆในอเมริกาใต้มาก็มาก เจอหลุมฝังศพอินคาโบราณก็เยอะ แต่แกก็ยังไม่เคยเจอซากมัมมี่อินคาในสภาพดีๆเจ๋งๆอย่างที่หวังไว้สักครา และแล้วเทพีแห่งโชคก็เข้าข้าง ดร.โยฮาน เมื่อภูเขาไฟ Sabancaya ระเบิดในปี 1986 (และระเบิดต่อเนื่องไปเรื่อยๆอีกเป็น 10 ปี >_<) เถ้าของมันก็ลอยมากองอยู่บนยอดภูเขาไฟ Ampato ทำให้หิมะที่ปกคลุมยอดของ Ampato ละลาย เป็นการแบไต๋ปริศนามัมมี่อินคาที่ถูกฝังอยู่ใต้หิมะมานานถึง 500 ปี! ในปี 1989 นักปีนเขาชาวเปรูชื่อ Miguel Zarate ไปพบซากเซรามิคอินคา โครงกระดูก และกระไดไม้ ที่ระดับความสูง 5800 เมตรของภูเขาไฟ Ampato เข้าให้ คุณมิเกลเลยแล่นไปปรึกษา ดร.โยฮาน สองคนนี้เลยแท็คทีมออกปฎิบัติการตามล่าหามัมมี่ด้วยกันซะเลย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:43:50

ความคิดเห็นที่ 48 เข้ามาติดตามต่อครับ ทันถ่ายทอดสด 5555 จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:45:23

ความคิดเห็นที่ 49 ฟังดูเหมือนกล้วยๆใช่ไหมฮะ แต่แค่ดูรูปในเว็บของ ดร.โยฮาน จขกท.ก็เครียดแทนแล้วฮ่ะพี่น้อง เทือกเขาช่างกว้างใหญ่ไพศาลแถมหิมะปกคลุมแบบนี้ จะไปหามัมมี่เจอได้ไงเนี่ยยยยย ปล. ภาพการสำรวจเหล่านี้ จขกท.ไปเอามาจากเว็บของ ดร.โยฮานนะขอรับ ใครอยากชมรูปสวยๆเจ๋งๆแบบเต็มๆเหนี่ยว เชิญได้ที่ http://www.johanreinhard.net/ เลยจ้า (คลิกตรง Photo Archives) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:46:14

ความคิดเห็นที่ 50 แฟนขับตามมาชมจ่ะ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:47:29

ความคิดเห็นที่ 51 #คุณ Clear Ice แปลว่าที่มีพาเหรดทุกวันอาทิตย์นี้ เค้าไม่ได้โกหกพวกเราจริงๆชิมิ >__< #ได้เลยฮ่ะ คุณอาตี๋อินเทอร์เน็ต/คุณม่วงมหากาฬ นี่เพิ่งเริ่มฉายหนัง Indiana Johan & the lost mummy พอดี อย่าเพิ่งเปลี่ยนช่องนะฮะ กร๊ากกก --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- และก็เป็นคุณมิเกลที่ตาดี ไปเห็นพัดขนนกอันเล็กๆโผล่เหนือหิมะขึ้นมา ปรากฎมันเป็นหลุมฝังศพของมัมมี่จริงๆด้วย แต่งานนี้เจอแต่หลุมค่ะ มัมมี่หายไปแร๊ววววว ในภาพนี่ก็คือคุณมิเกลฮ่ะ เหมือนว่ารูปพวกนี้ ดร.โยฮาน แกถ่ายเอง เพราะทริปนั้นเขาไปตามหามัมมี่กันสองต่อสอง >_< แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 55 08:49:55 จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:49:10

ความคิดเห็นที่ 52 คาดว่าตอนแรกหลุมฝังศพอยู่บนยอดภูเขาไฟ แต่พอหิมะละลาย หลุมเลยไถลลงมาตรงแอ่งภูเขาไฟแทน แล้วมัมมี่ก็คงกลิ้งออกมาจากหลุม -_- ตอนนี้น้องมัมมี่คงจะนอนแอ้งแม้งอยู่ที่ไหนซักแห่งแถวๆนี้แหล่ะ ว่าแล้วท่านทั้งสองก็เลยลองกลิ้งหินลงมาจากตรงที่เจอหลุมศพดู เพื่อเป็นไกด์ไลน์ว่าน้องมัมมี่น่าจะอยู่ตรงไหน จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:50:34

ความคิดเห็นที่ 53 จ..จ..เจอน้องมัมมี่แล้วจ้าาาาาา ณ วินาทีนี้ เดี๊ยนจิ้นเอาเองว่า คุณมิเกลคงเอื้อมมืออันสั่นสะท้านไปแตะน้องมัมมี่เบาๆ พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า "My Preciousssssss" (ไม่ใช่โว้ย ) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:50:59

ความคิดเห็นที่ 54  ~*~ โฉมเอย โฉมงาม อร่ามแท้ แลตะลึง ~*~   งานนี้แจ็คพ็อตแตกสมใจ ดร.โยฮาน มัมมี่ที่ค้นพบนั้นอยู่ในสภาพสมบูรณ์มาก เนื่องจากถูกฝังอยู่ใต้หิมะนานถึง 500 กว่าปี ทำให้น้องมัมมี่นางนี้ เป็นที่รู้จักในนาม Juanita aka The Ice Maiden of Ampato ส่วนชื่อ Juanita (ฮวนนิต้า) นั่น เขาตั้งตามชื่อ ดร.โยฮาน ฮ่ะ กรุณาอย่าถามว่าทำไมไม่ตั้งชื่อว่า มิเกล่า เพราะ จขกท.ก็อยากรู้เหมือนกัน -_- แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 55 08:52:35 จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:51:35

ความคิดเห็นที่ 55 สมบูรณ์ไม่สมบูรณ์ก็ดูมือของน้องฮวนนิต้าซะก่อน ผิวหนังยังอยู่ครบเลย >_< มาถึงตรงนี้ ผู้อ่านคงจะสงสัยว่า น้องฮวนนิต้าเป็นใคร แล้วน้องเขาขึ้นไปอยู่บนยอดเขาสูง 6000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลได้ยังไง อันนี้ไปหาคำตอบได้ในมิวเซียมค่ะ เค้าเชื่อว่าเมื่อไหร่ที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ อย่างเช่นแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ชาวอินคาจะจับเด็กไปบูชายันเทพภูเขา เพื่อให้ท่านเทพสงบลง และเนื่องจากภูเขาไฟแถว Arequipa มันค่อนข้างแอคทิฟ ทำให้บนภูเขาเหล่านี้มีมัมมี่หนูน้อยชาวอินคาฝังอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว แล้วเด็กที่ถูกนำขึ้นไปบูชายันเนี่ย ทางอินคาเขาคัดมาอย่างดีแล้วค่ะ ว่าต้องเป็นเด็กที่เพอร์เฟ็คต์ที่สุด ต้องทั้งสุขภาพดี หน้าตาดี ฉลาด ยิ่งมีเชื้อเจ้ายิ่งเข้าทาง แล้วเค้าจะพาเด็กที่ผ่านการคัดเลือกไปที่ Cusco แล้วเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี เพื่อรอวันถูกนำไปบูชายัญ! จ๊ากกกก แบบนี้ขอหนูเกิดเป็นเด็กโง่ๆแทนดีกว่ามั๊ย T^T จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:53:55

ความคิดเห็นที่ 56 แต่ในสมัยอินคาโน้น ลูกบ้านไหนถูกลากไปเข้าแคมป์ที่ Cusco เขาจะถือเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลมาก เพราะการที่เด็กเหล่านั้นถูกบูชายัญเพื่อเทพเจ้า และพวกเขาจะเป็นตัวเชื่อมระหว่างโลกของชาวอินคาและโลกของเหล่าทวยเทพ ..And in turn they will become God themselves.. นักวิทยาศาสตร์ประมาณการว่า ตอนน้อง Juanita ถูกบูชายัญ เธออายุแค่ 12-13 ปีเท่านั้น ก่อนตาย พระชาวอินคาให้เธอเคี้ยวใบโคคา เพื่อให้น้องมึนๆชาๆ แล้วเฉาะกระโหลกคุณน้องหนึ่งที (ในมิวเซียมเค้าจะโชว์ผ้าคลุมไหล่ของน้อง Juanita ด้วยค่ะ เห็นรอยเลือดเป็นทางเลย ) ก่อนจะทิ้งคุณน้องไว้บนยอดเขา แต่ไกด์ว่า ท่าทางน้อง Juanita จะไม่ได้ตายคาที่อย่างที่พระตั้งใจไว้นะ >_< ถ้าใครอยากเจอตัวจริงน้อง Juanita รู้สึกว่ามิวเซียมเขาจะนำออกมาโชว์แค่ปีละ 6 เดือนเท่านั้นนะขอรับ ถ้าจำไม่ผิด เป็นช่วงเดือน พ.ค. - ธ.ค. เท่านั้นจ้า แต่ถึงไม่ได้เจอน้องฮวนนิต้า ด้านในมิวเซียมก็ยังจัดแสดงสมบัติที่เจอในหลุมศพมัมมี่ ซึ่งน่าสนใจไม่เลวเลยนะขอรับ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:54:43

ความคิดเห็นที่ 57 หลังจากที่ ดร.โยฮาน ค้นพบน้อง Juanita แล้ว แกก็นำทีมสำรวจยอดเขา Ampato อีก 2-3 ครั้ง และพบมัมมี่เด็กน้อยอีก 3 คน แต่ไม่มีใครสภาพดีเท่าน้องฮวนนิต้าเลย คงเพราะถูกฝังอยู่ที่ระดับต่ำกว่า อากาศเลยไม่หนาวเท่า และในมิวเซียมก็มีฉายวิด๊โอ ปฎิบัติการตามล่าหามัมมี่ภาค 2 ของ ดร.โยฮาน ให้ชมกันค่ะ สภาพภูเขานี่ทั้งชันทั้งกันดารสุดๆ ดร.โยฮานยังพูดในวิดีโอเลยว่า คุณคิดดูสิครับว่าชาวอินคาปีนขึ้นยอดเขา ที่ระดับความสูง 6000 เมตร ด้วยเสื้อคลุมธรรมดากับรองเท้าแตะ พวกเขาทำได้ยังไง มันไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ นั่นสินะ มีสิ่งไหนภายใต้ดวงอาทิตย์ที่ชาวอินคาทำไม่ได้บ้างมั๊ย ยกเว้นรบชนะสเปน จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 08:56:46

ความคิดเห็นที่ 58 ว้าว วันนี้มาทันถ่ายทอดสด ไม่ต้องให้คุณ ha-meow ไปเคาะเรียกด้วยล่ะ จากคุณ : ยูจินคุง เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:00:04

ความคิดเห็นที่ 59 ถัดจากโปรแกรมทัศนศึกษาช่วงเช้าแล้ว ก็ได้เวลาหม่ำๆของชาวคณะซะที เมือง Arequipa นี่ถือเป็น Food Capital ของเปรูเลยนะฮะ ขนาดเพื่อนชาวเปรูของ จขกท.มาจาก Lima ชียังกัดฟันยอมรับว่าอาหารที่ Arequipa อร่อยสุดๆจริงๆ แล้วที่ Arequipa จะมีร้านที่เรียกว่า Picanteria อยู่มากมาย ซึ่งจะเป็นร้านบ้านๆ ไม่เน้นหรู ส่วนมากจะเปิดเฉพาะตอนกลางวัน แถมอยู่ออกนอกเมืองไปหน่อย โชคดีที่ไม่ไกลจาก Plaza de Armas (ถ้าเดินคงซัก 20 นาที) มีร้าน La Nueva Palomino ร้าน Picanteria เจ้าดังอยู่พอดี ปล. ตรงข้ามฝั่งถนนของปากซอยร้านนี้ มี La Nueva Palomino อีกสาขาที่ดูเล็กกว่าตั้งอยู่ด้วย แต่เราว่าเรามาร้าน Original ค่ะ ฉะนั้นถ้าใครแวะไปก็เข้าให้ถูกร้านล่ะเน้อ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:00:26

ความคิดเห็นที่ 60 #กร๊ากกกก ติดตามชมได้เลยฮ่ะคุณยูจินคุง รับรองทู้นี้ มีฮากระจาย ---------------------------------------------------------------------------------- บรรยากาศในร้านให้อารมณ์สวนอาหารบ้านเฮาดีไหมฮะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:02:07

ความคิดเห็นที่ 61 ยูนิฟอร์มเด็กในร้านก็น่ารักกุ๊กกิ๊กซะไม่มี จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:02:31

ความคิดเห็นที่ 62 แน่นอนว่าอาหารกินเล่นก็ต้องเป็นข้าวโพดคั่วเกลือกรุบๆอีกเช่นเคย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:02:49

ความคิดเห็นที่ 63 อันนี้เป็นเหล้าองุ่นค่ะ จำบ่ได้แล้วว่าชื่ออะไรแต่รสชาติคล้ายๆซานเกรีย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:03:20

ความคิดเห็นที่ 64 ก่อนมา เพื่อนชาวเปรูเจ้าเก่าของ จขกท.ได้ทำการลิสต์รายชื่อเมนูที่ต้องสั่งเมื่อมา Arequipa ให้ด้วย น้องขาาา *เปิดโพย* ขอ Rocoto Relleno ที่นึงด้วยค่าาาาา Rocoto Relleno ก็คือ Pepper ยัดไส้หมูสับ/เนื้อวัวบด จานนี้เผ็ดไม่ใช่เล่นเหมือนกัน แต่อร่อยมากกกก แซ่บสุดยอด กินแล้วหยุดไม่ได้ T^T จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:03:56

ความคิดเห็นที่ 65 อีกรายการที่คุณเพื่อนลิสต์ไว้ก็คือ Ocapa ซึ่งเป็น spicy peanut sauce ราดบนมันอบ มันอบนี่เฉยๆค่ะ แต่ซอสอร่อยดี ส่วนอีกก้อนที่อยู่ข้างๆนั่นคือชีสทอดค่ะพี่น้อง!! ขอบอกว่าจานนี้น้องมันอบ เจอชีสทอดขโมยซีนซะงั้น เอร๊ยยยย >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:04:18

ความคิดเห็นที่ 66 ส่วนกุ้งทอดจานนี้ไม่มีในโพยค่ะ แต่หน้าตาน่าเจี่ยะเหลือกำลัง เลยเสร็จพวกเรา กุ้งทอดก็อร่อยดี ได้อารมณ์กุ้งทอดไทยแลนด์ยิ่งนัก ที่พวกเราติดใจอีกอย่างคือมันทอดที่มาด้วยกัน เพราะ texture ไม่เหมือน french fries ทั่วไป กัดแล้วไม่ยวบ เนื้อจะหนึบๆเล็กน้อย อร่อยโพดๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:05:21

ความคิดเห็นที่ 67 ปิดท้ายรายการด้วย Chupe de Camarones หรือซุปกุ้ง อีกหนึ่งจานดังของเมือง ดังไม่ดัง ก่อนหน้านี้ถ้าเราบอกคนท้องถิ่นว่าจะมา Arequipa ทุกคนจะพูดว่า อย่าลืมกิน Chupe de Camarones ด้วยน๊า ของเขาเด็ดจริงๆ ...แต่ไม่อยากจะบอกว่านี่เป็นจานเดียวของมื้อ ที่เรากินแล้วผิดหวังค่ะท่านผู้ชม เพราะซุปมันครีมๆ เค็มๆ เลี่ยนมันกุ้งยังไงชอบกล ขนาดพยายามบีบมะนาวเข้าไปตั้งเยอะแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น เง้อออออ คิดถึงซุป Picante Maricos ที่ Cusco ที่สุด T^T จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:06:24

ความคิดเห็นที่ 68 แถมเจ้าซุปนี่ จะกินทียังลำบากลำบน สู้รบปรบมือกับน้องกุ้ง น้องข้าวโพดในจานอีก ฉะนั้นถ้าโต๊ะไหนสั่งจานนี้ เค้าจะแถมผ้ากันเปื้อนมาให้ด้วยค่ะ กร๊ากกกก กว่าเราจะหม่ำข้าวเสร็จ หน้าร้านก็มีแถวคนต่อคิวรอโต๊ะอย่างยาวเหยียดเรย ฉะนั้นถ้าใครจะมาร้านนี้วันเสาร์-อาทิตย์ ควรจะมาก่อนเที่ยงนะขอรับ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:07:28

ความคิดเห็นที่ 69 โผล่หัวออกมาทักทายพี่ภูเขาไฟเขาสักหน่อย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:07:51

ความคิดเห็นที่ 70 จากนั้นเราก็โบกแท็กซี่มายัง Santa Catalina Monastery ซึ่งเป็นคอนแวนต์เก่าแก่ ก่อตั้งมาตั้งกะปีคศ. 1579 โน่น ด้านนอกคอนแวนต์ก็เป็นสีขาวอีกเช่นเคย เพราะสร้างจากหิน Sillar ตามพิมพ์นิยม จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:09:43

ความคิดเห็นที่ 71 แต่ขอโทษค่ะ ด้านในนี่เทคนิคคัลเลอร์มากๆ >_< ส่วนในภาพก็คือเจ๊ไกด์ ที่พวกเราจ้างให้พาเที่ยวชมคอนแวนต์ค่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:10:21

ความคิดเห็นที่ 72 แดงเป็นแดง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:10:41

ความคิดเห็นที่ 73 ฟ้าเป็นฟ้า จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:10:57

ความคิดเห็นที่ 74 ไม่สะใจใช่มั๊ย เอาฟ้าตัดแดงไปเลยเป็นไง! จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:11:46

ความคิดเห็นที่ 75 แต่ใช่ว่าจะมีแต่มุมแรงๆ มุมน่ารักๆ จิตรกรรมฝาผนังสวยๆ ที่นี่ก็มีให้ชมเช่นกัน จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:12:51

ความคิดเห็นที่ 76 เจ๊ไกด์พาเราไปชมห้องนอนแม่ชี ก็ดูง่ายๆ สมถะ เหมาะสำหรับผู้ละกิเลสทางโลก มุ่งหน้าแต่ทางธรรมดีนะฮะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:13:39

ความคิดเห็นที่ 77 แต่ขอโทษค่ะ สมัยก่อต้ังแรกๆ คอนแวนต์นี้ไฮโซมาก ดูชุดน้ำชาที่บรรดาแม่ชีใช้ซะก่อน >_< เห็นเจ๊ไกด์ว่าเพราะสมัยก่อน ลูกสาวบ้านไหน ผัวตายหรือขายไม่ออก เค้าจะส่งเข้าคอนแวนต์ค่ะ แล้วเนื่องจากที่นี่เป็นคอนแวนต์เก่าแก่ พวกผู้ลากมากดีเลยมักจะส่งลูกสาวมาเข้าคอนแวนต์นี้กันค่ะ ทำให้บรรดาแม่ชีในคอนแวนต์ใช้ชีวิตกันอย่างสบายสุดๆ ว่ากันว่าแม่ชีหนึ่งนาง จะมีเด็กรับใช้พ่วงมาด้วยอีก 2 คน! จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:14:23

ความคิดเห็นที่ 78 ต่อมาทางวาติกันสั่งให้มีการปฎิรูปศาสนาโรมันคาธอลิค นักบวชและแม่ชีต้องใช้ชีวิตอย่างสมถะ ห้ามทำตัวหรู ห้ามมีเด็กรับใช้ ฉะนั้นพวกห้องหับ หรือห้องครัวที่เราเห็นในภาพ เลยดู spartan มากมายเพราะเป็นสภาพหลังคอนแวนต์ถูกปฎิรูปค่ะ ส่วนที่เห็นในภาพขวามือเนี่ย ไม่ใช่ครกยักษ์หรือที่เอาไว้ให้แม่ชีคลุกซีซาร์สลัดนะขอรับ แต่เป็นเครื่องกรองน้ำดื่มสมัยพระเจ้าเหาตะหาก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:16:11

ความคิดเห็นที่ 79 อันนี้ก็เก๋ไม่แพ้กันค่ะ เพราะมันคือที่ซักผ้า อยากให้น้ำไหลลงกะลังมังไหน ก็ใช้มือกั้นไว้ ไอเดียแจ่มไม่เลวเลยนะเนี่ย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:16:38

ความคิดเห็นที่ 80 มาเดินเล่นชมความน่ารักของ Santa Catalina กันต่อนะฮะ มันจะกุ๊กกิ๊กไปไหนเนี่ย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:17:02

ความคิดเห็นที่ 81 ... แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 55 09:18:33 จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:18:03

ความคิดเห็นที่ 82 เห็นมุมนี้แล้วเห็นภาพเมืองเซบีญ่าที่สเปนลอยมาแต่ไกลเลย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:18:55

ความคิดเห็นที่ 83 ตัวคอนแวนต์ Santa Catalina เองก็ใหญ่ไม่ใช่เล่น ราวกับหมู่บ้านย่อยๆหมู่บ้านนึงเลยเชียว แต่หมู่บ้านนี้ไม่มีวิวทะเลสาปฮ่ะ มีแต่วิวภูเขาไฟแทน จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:19:18

ความคิดเห็นที่ 84 ใครชอบถ่ายรูป มาที่นี่คงได้กระหน่ำกดชัตเตอร์จนลืมเวลาแน่ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:19:36

ความคิดเห็นที่ 85 แต่พวกเราต้องจำใจโบกมือลา Santa Catalina Monastery แต่เพียงเท่านี้ค่ะ เพราะหัวหน้าทัวร์เริ่มหิวขนมอีกแล้ว >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 09:19:57