ความคิดเห็นที่ 1 ไปทริปนี้เจอฝนตลอดจากเดินทาง ดีที่เชื่อคำพยากรณ์จึงพกร่มได้ใช้เกือบทุกวันเลย ดังนั้นถ้าเพื่อนๆอ่านพยากรณ์อากาศแล้วว่ามีโอกาสเกิดฝนเกิน 40% แนะนำพกร่มไปเองเลยค่ะ วันแรก ไปฟูจิฝนตกตลอด  ยิ่งดึกยิ่งตก ตื่นมาตี 3 ก้อยังตก แค่ตืนเขาฟูจิก้อยังไม่ได้เห็นเลย แต่พอ 7 โมงเช้า อากาศเปลี่ยนไปยังกลับหน้ามือเป็นหลังมือ ฟ้าใสได้เห็นเป็นแบบนี้ ฟูจิซังจ๋า ขอบคุณที่ไม่ขี้อาย ทำให้เรามีโอกาสเจอกัน จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 10:32:14

ความคิดเห็นที่ 2 เราไปพักที่ New Century Hotel: ออนเซ็น:  มี 2 ห้อง เปิด 15.00-03.00 น. และ ปิดทำความสะอาดและย้ายห้องชาย-หญิงกัน เปิดอีกที 04.00-10.00 น. ห้องด้านบน เราไปตั้งแต่เปิดห้องตอน 15.00 น. คนแรกไม่มีใครเลย ห้องนี้จะเห็นวิวพาโนรามา วิวฟูจิดูนุ่มนวลอ่อนหวาน มี 2 บ่อ โทนไม้สีน้ำตาล ห้องด้านล่าง เราไปตอนตี 5 คนยังไม่ตื่นกัน ห้องนี้จะติดริมถนนแต่เห็นวิวนิดๆ แหงนหน้าก้อเห็นฟูจินิดๆนะคะ ห้องนี้จะมีจากุซซี่ผุดมาจากพื้น และ มีน้ำตกไหลแรง มี 1 บ่อเป็นหินแกรนิตสีดำ เราชอบห้องด้านล่างมากกว่าค่ะ อาบแล้วได้อารมณ์บ่อน้ำพุร้อนดี อาหาร:   ทานที่ห้องอาหาร อร่อยทั้ง 2 มื้อเลยค่ะ  มื้อเช้าจริงๆบริการ 7.30 น. แต่เนื่องจากเราจองรถกลับไป Gotemba รอบ 8.10 น. ทางโรงแรมก้อยินดีบริการเราก่อนตั้งแต่ 7.00 น. เลยค่ะ เขาจะจองชื่อเราไว้ที่โต๊ะให้เราเลย มื้อเช้ากับมื้อค่ำก็สลับที่นั่งกันใครได้วิวสวยตอนค่ำ ตอนเช้าก็สลับกับคนได้วิวในไปค่ะ  ตอนเราไปพักมีคนพักอยู่ 5 ห้อง คนไทย 4 ห้องและคนญี่ปุ่นอีก 1 ห้อง เป็นวันศุกร์ค่ะ แขกเลยอาจไม่เยอะ ไม่พลุกพล่านดี ข้อด้อย:  พนักงานจะพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ถึงแม้จะพนักงาน reception ก้อตาม แต่เรื่องบริการประทับใจมากค่ะ ภาษาไม่เป็นอุปสรรคเลยค่ะ เส้นทางรถจากฟูจิไป Gotemba :   ประทับใจมาก วิวสวยมากๆ เหมือนขับเข้าไปวนอุทยานอะไรสักอย่างมีป่าสนต้นใหญ่ๆร่มรื่น แล้วก็ขับทะลุออกมาถนนริมทะเล เหมือนย่านที่คนญี่ปุ่นมาเที่ยวกัน แค่นั่งรถผ่านก้อคุ้มแล้ว วิวสวยจริงๆ ดูเพลินเลยค่ะ จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 10:33:53

ความคิดเห็นที่ 3 รถไฟชิงคันเซ็น:    จะมีที่นั่งแบบ 3 ที่ (ABC) กับ 2 ที่นั่ง (DE) จากโอซาก้าไปเกียวโตหรือไปโตเกียว ตอนเช้าๆ ทาง ABC จะไม่ร้อนนั่งสบาย แต่ถ้าจะอยากเห็นฟูจิแบบนี้ต้องนั่งฝั่ง DE ตอนเราไปขอ reserve ฝั่ง DE ก่อน 3 วันเดินทาง ไม่มีเลยค่ะ เต็มจึงต้องนั่งฝั่ง ABC แทน ตอนที่ไปโตเกียวเป็นช่วงสายๆบ่ายๆฝั่งนี้ร้อน แล้วไม่เห็นฟูจิ แต่คุณฝรั่งใจดีคนนี้ เห็นเราพูดฟูจิๆๆ เขาถ่ายรูปเสร็จรีบขยับให้เราเข้าไปถ่ายรูปบ้าง เลยได้รูปมาแบบนี้ๆ  ต้องขอบคุณน้ำใจคนเดินทางด้วยกัน น่ารักๆ ^ ^ จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 10:35:36

ความคิดเห็นที่ 4 รถไปจาก Nagoya ไป Takayama:    วิวข้างทางจะสวยมาก น้ำเป็นสีเขียว เห็นหิมะตามข้างทางตลอด      รถไฟสายนี้จะมีพนักงานตรวจตั๋วเดินตรวจทุกสถานี ตอนขึ้นแล้วอย่าลืมเตรียม JR Pass หรือ ตั๋วไว้ด้วยนะคะ    และถ้ารถไฟจะผ่านสถานที่วิวสวยๆจะมีเสียงตามสายประกาศว่าจะมีวิวสวยด้านไหน ฉะนั้นพอได้ยินเสียงก้อเตรียมกล้อง หรือ ถ้าคนละฝั่งก้อชะเง้อดูได้เลยค่ะ ไม่พลาดแน่นอน ยกเว้นจะหลับเสียก่อน จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 10:37:20

ความคิดเห็นที่ 5 Takayama:  เราไปพักที่ Takayama Ouan Hotel: ออนเซ็น:   มี 5 ห้อง เปิด 15.00-01.00 น. และ ปิดทำความสะอาด เปิดอีกทีไม่แน่ใจค่ะ ที่นี่จะมีห้องรวมแยกชาย-หญิงอย่างละห้อง และเป็นห้อง private 3 ห้อง รอคิวกันเอง ห้องละ 30 นาที     เราได้ลองใช้ห้อง private 3 ทั้ง 2 วัน จะลองเข้าห้อง private 1 แต่ตอนไปช่วงดึกคนเยอะมาก รอไม่ไหวค่ะ   ห้องที่ 3 จะเห็นวิวแบบนี้ (แอบเอามือถือเข้าไปถ่ายค่ะ)  ส่วนวิวห้องที่รอคิวส่วนกลาง จะเป็นวิวพาโนรามาสวยงามมาก พออนเซ็นเสร็จก้อมาทานน้ำอะไรไม่รู้หวานๆเย็นๆชื่นใจดี เป็นโรงแรมที่เหมาะแก่มา relex มากเลยค่ะ อาหาร:   มื้อดึก 22.45 น. จะมีบริการโซบะฟรีจนกว่าโซบะจะหมด  ส่วนอาหารเช้าจะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่น อลังการ อร่อยทุกอย่างเลย ข้อด้อย:    ไม่น่าจะเป็นข้อด้อยเท่าไหร่ คือ โรงแรมนี่คนไทยพักเยอะมาก ดูๆไปเกือบ 60% เลยค่ะ จริงๆเราว่าที่ทาคายาม่านี่คนไทยเที่ยวเยอะ ทั้งกรุ๊ปทัวร์ และ ไปกันเอง เดินไปทางไหนก็เจอเจอแต่คนไทย ส่วนซากุระยังเพิ่งออกดอกตูมเอง คาดว่าคงสัก 3-4 อาทิตย์กว่าจะบาน แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 55 10:42:03 แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 55 10:41:15 จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 10:39:59

ความคิดเห็นที่ 6 ที่ประทับใจมาก คือ    วันที่เราไปพยากรณ์อากาศว่าจะมีโอกาสเจอหิมะตก 50% แต่ไปแล้วแดดจ้ากันเลยที่เดียว เลยคิดว่าเดี๋ยวไว้ไปดูหิมะที่ตกไปแล้วกองทับๆกันที่ ชิราคาวาโก ก็ได้      แต่พอเช้าวันใหม่ตอน 7 โมงเช้า หิมะตกค่ะ หิมะๆๆๆๆ    คนไทยวิ่งไปถ่ายรูปกันใหญ่เลย 555555555 เพิ่งได้สัมผัสหิมะตกครั้งแรก มันเหมือนฝนตกเลยคือเปียก พอตกถึงพื้นก้อจะกลายเป็นน้ำฝน แบบว่า ถ่ายรูปได้ไม่นานก้อต้องรีบวิ่งไปเอาร่มมากางเพราะมันเปียก (คนญี่ปุ่นคงคิดว่า พวกเรานี่ท่าจะบ้าวิ่งไปตากฝนหิมะถ่ายรูปกันไม่กลัวเปียกกันเลย) สรุปวันนั้นทั้งหิมะตก ฝนตก สลับไปมา ได้สัมผัสหิมะจนหน่ำใจ กินพาราไป 4 เม็ดกันเลย เพราะ อากาศมันเย็นมากใส่กี่ชั้นมันก้อเย็นเข้าไปข้างใน จะแข็งเอาน่ะค่ะ       วันนั้นที่ทาคายาม่าออกข่าว TV เรื่องหิมะตกด้วย สงสัยจะหลงฤดู เพราะ มันเป็นปลายเดือนมีนาคมแล้ว จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 10:43:39

ความคิดเห็นที่ 7 ขออนุญาตปราดนะครับ จะไปวันมะรืนนี้แล้ว ขนาดไปมาจะรอบที่ 3 แล้วยังตื่นเต้นไม่หายครับ แฮ่ๆๆๆ ปล. อยากให้หิมะตกที่ทาคายาม่าอีกจัง จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 10:47:32

ความคิดเห็นที่ 8 สวย  ไปเที่ยวด้วยคนครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 10:52:14

ความคิดเห็นที่ 9 มาทาคายาม่าก็อต้องมาตามร้านเนื้อย่างอร่อยที่ในนี้แนะนำกันไว้ แต่พอไปถึงร้านมันปิด จึงถามคนท้องถิ่นแล้วแถวนี้มีร้านอร่อยร้านไหนอีก อย่างที่บอกคนญี่ปุ่นใจดี เขาพาเราเดินไปส่งที่ร้านกันเลย เขาบอกว่า เขาชอบมาทานร้านนี้ ในร้านมีแค่ 3 โต๊ะ และอีก 1 ห้อง อร่อยสมกับที่คนท้องถิ่นพามาส่งจริงๆค่ะ ใครอ่านออกบอกชื่อร้านหน่อย เดี๋ยวจะมาแจ้งพิกัดร้านนะคะ ต้องดูแผนที่ก่อนน่ะค่ะ จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 10:56:54

ความคิดเห็นที่ 10 เป็นเมนูปิ้งย่างเนื้อฮิดะ จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 11:11:36

ความคิดเห็นที่ 11 โตเกียว:   สถานีโตเกียวหน้าด้านปิดซ่อมอยู่ค่ะ ให้ข้อมูลสำหรับคนที่จะไปถ่ายรูปแบบเรา แต่เจอปิดซ่อมซะนี่ แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 55 11:14:17 จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 11:13:24

ความคิดเห็นที่ 12 จขกท ใช้โปรแกรมอะไร จัดภาพเหมือนอ่านการ์ตูนเลย ชอบจังค่ะ^^ จากคุณ : เจี๊ยบจิ๊จ๊ะ เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 11:22:02

ความคิดเห็นที่ 13 โตเกียว: อากาศอุ่นแล้วค่ะ แต่ลมจะแรงจึงเย็นนิดๆ ใส่แค่สเวตเตอร์อีกชึ้นก้อพอไหว ซากุระในสวนโออุเนะ มีบานบ้างแล้ว คาดว่าอีก 1-2 อาทิตย์ บานเต็มสวยแน่นอน ถ้าไปช่วงนี้แนะนำให้ออกจากสถานี JR ข้ามถนนแล้วเดินเลีบยซ้ายไปผ่านทางจะไปตลาด อาเมโยโกะ ก้อเดินเลียบกำแพงไปเรื่อยๆจะเจอทางเข้าสวนฝั่งป้อมตำรวจ ต้นซากุระตอนนี้จะบานแล้ว  เพราะช่วงหน้าสถานี JR ยังไม่บานน่ะค่ะ จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 11:23:34

ความคิดเห็นที่ 14 กระเป๋าเดินทาง:    ที่ญี่ปุ่นจะเห็นคนหิ้วกระเป๋าเดินทางขึ้นรถไฟกันเยอะ แล้วเกือบ 80-90% จะหิ้วกระเป๋าแบบนี้กัน สงสัยกำลังฮิตที่นี่     การเดินทางด้วย JR ที่ญี่ปุ่นเราว่า กระเป๋าเดินทางควรเป็นล้อแบบหมุน 4 ทิศทาง จะได้ลากง่าย และส่วนใหญ่เราต้องหิ้ววิ่งขึ้นบันได JR ด้วยเล่นเอาหอบกันไปเลย ก็มีลิฟท์นะแต่พอรีบๆมักจะหาลิฟท์ไม่ค่อยเจอนะ ตอนที่เราไปที่โตเกียว เห็นคนเดินหิ้วกระเป๋าขึ้นลงบันไดรถไฟตกถึง 3 คน สงสัยจะรีบและของหนักด้วย เพื่อนๆระวังต้องข้อนี้ไว้ด้วยนะคะ จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 11:24:48

ความคิดเห็นที่ 15 ห้องน้ำหญิง: จะมีกระดาษบริการทุกห้องนะคะ ก่อนไปอ่านไปว่า ที่ญี่ปุ่นไม่ค่อยมีกระดาษทิชชู่บริการ แต่จริงๆเราคงเข้าใจผิด คือง่าในห้องน้ำจะมีให้ค่ะ แต่ตามร้านอาหารเขาจะเป็นผ้าเย็นไม่ค่อยมีกระดาษทิชชู่  ห้องน้ำหญิงจะมีโถ 2 แบบ แบบสากล กับ แบบนั่งยองๆ ขอบบอกว่า แบบหลังกลิ่นสุดยอดค่ะ แล้วห้องน้ำที่โอซาก้าจะมีกลิ่นแรงอ่า ส่วนเกียวโต และ โตเกียวจะสะอาด ยกเว้นแบบนั่งยองๆๆนี่กลิ่นสุดยอดทุกสถานี จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 11:25:42

ความคิดเห็นที่ 16 การบินไทย >>  ใครว่าไม่ delay  ที่สนามบินนาริตะ กระเป๋าเปิด check in 8.30 ดูแถวซะก่อน ยาวเหยียดขนาดนั้น ตอน 8 โมงเช้าเมื่อวาน   รอบที่เรากลับมาวันเสาร์รอบเที่ยง กว่าจะ take off ก้อ 13.30 น. เพราะ การจารจรที่สนามบินนาริตะคับคั่ง ดูแถวเครื่องบินที่ต่อจากเราซินับแล้วมีรออยู่อีก 9 ลำ   พอบินมาถึงประเทศไทยก้อต้องบินวนๆรอลงที่สุวรรณภูมิอีก (เพิ่งเคยเห็นรูป route เครื่องบินบินวนๆ) กว่าจะได้ลงเครื่อง 18.15 น. ทั้งๆที่ตามกำหนดเวลาคือ 16.30 น. คนที่จะ transit ตกเครื่องเป็นแถว เราได้ยินเจ้าหน้าที่แจ้งลูกค้าว่า ให้บินไปพรุ่งนี้เช้าแทนเพราะ เครื่องบินออกไปแล้ว ก้อแหงหละซิ ก้อ delay ไปตั้ง 2 ชั่วโมง   พอลงสนามบินสุวรรณภุฒิฝนตกหนัก เจ้าหน้าที่ไม่สามารถปฎิบัติการรับกระเป๋าได้ เลทไปอีก 1.30  ชม. กว่าจะได้ออกจากสนามบินก้อ 3 ทุ่ม เป็นวันที่เดินทางเหนื่อยมาก ใครไปช่วงนี้เผื่อเวลาขาไปแล้ว ต้องเผื่อขากลับด้วยนะคะ จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 11:28:23

ความคิดเห็นที่ 17 ขอตัวไปแจกของฝากก่อนนะคะ ว่าจะไม่ shop ไม่ shopping ดูซิได้มาซะขนาดนี้ จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 11:35:23

ความคิดเห็นที่ 18 ใครรู้ว่า เจ้าขวดน้ำสาเกนี้ไว้ทำอะไร ช่วยแนะนำที มีฝาขาวกับฝาชมพู เราเห็นแต่เด็กญี่ปุนที่เดินเข้าร้านโดโซะหยิบขวดนี้กัน 1-2ขวด ทุกคนเลย เลยหยิบมามั้ง 6 ขวด 5555+ (ก้อเราไม่ได้ไปบ่อยๆนี่)   ของในร้านโดโซะต้องที่สาขา ฮาราจุกุมี 4 ชั้นเดินซะใจ แต่ต้องดูหน่อยค่ะว่า 1. ของต้องไม่มีป้ายราคาเท่านั้นที่ราคา 100 เยน ถ้าติดป้ายขายตามป้ายค่ะ 2. เวลาซื้อของพยายามเลือกที่ made in Japan เท่านั้น ไม่งั้นอาจได้ของเมืองจีน หรือ เวียดนาม เกาหลีมาแทน 3. ไม่รู้ยี่ห้อไหนดี ก้อดูที่ชั้นมันว่างหรือ เด็กๆหยิบเยอะก็อหยิบตามค่ะ จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 11:41:47

ความคิดเห็นที่ 19 ไว้เย็นๆจะกลับมาต่อเกียวโตกับผู้ชายคนนี้นะคะ ^ ^  เขาดังมากในพันทิพนี่น่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 55 11:43:48 จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 11:43:23

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ เห็นทาคายาม่า และ หมู่บ้างชิราคาวาโกะ น่าจะเจอคนไทยเยอะแน่ๆ แต่คนไทยที่เจอที่ญี่ปุ่น ตามประสบการณ์ผม >80% ไม่ค่อยเวิร์ก ถ้าเลี่ยงได้ก็ไม่จำเป็นต้องไปทัก เค้าอยู่ส่วนเค้า เราอยู่สวนเรา เมื่อเทียบกับคนไทยที่เจอที่ประเทศอื่น ที่มักดูจะ friendly มากกว่า แชร์ประสบการณ์กันได้สนุกกว่าครับ ปล. มีอยู่ครั้งนึง เราก็เสร่อไปทักคน ปรากฎว่าเค้ามองเราหัวจรดเท้าเลยครับ ประมาณว่า เมิงเป็นครายสะเออะมาคุยกับชั้น ... โห .... จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 11:43:50

ความคิดเห็นที่ 21 ** คุณเจี๊ยบจิ๊จ๊ะ  >> ใช้ Comic Life ค่ะ จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 11:44:34

ความคิดเห็นที่ 22 ฟูจิซังสวยจังเลยค่ะ เนื้อย่างก็น่าทานนนนน ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ ^^ จากคุณ : Salmon Lover เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 11:50:07

ความคิดเห็นที่ 23 ชอบที่คุณเก็บรายละเอียดได้เยอะดีจังค่ะ อ่านแล้วสนุกไปด้วยเลย ^^ ขวดที่ซื้อมาเป็นโลชั่นแบบน้ำกับแบบน้ำนมที่ทำจากเหล้าสาเกค่ะ ด้านซ้ายแบบน้ำ ด้านขวาเป็นน้ำนม คุณยุ่งฯ อ่านความคิดเห็นแล้วแอบเสียใจอ่ะค่ะ เราก็คนไทยในญี่ปุ่นนะคะแต่ไม่หยิ่ง ไม่กัด ฉีดยาแล้ว ทักได้นะคะ ^^ ที่บอกว่าไม่เฟรนด์ลี่เนี่ยแอบตั้งสมมติฐานว่าเค้าอาจจะไม่ใช่คนไทยก็ได้ค่ะ บางทีเราโดนคนฟิลิปปินส์ คนเวียดนาม กระทั่งคนจีนทักเหมือนกัน ( ที่รู้เพราะเราเดาภาษาที่เค้าพูดได้ เนื่องจากสมัยเรียนมีเพื่อนเป็นคนชาติที่ว่าหลายคน ) เราฟังไม่ออกก็ทำหน้างง เค้าก็บ่นตามเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเค้าเข้าใจผิดว่าเป็นชาติเดียวกันแล้วหยิ่งหรือเปล่านะคะ แต่คนไทยที่มาเที่ยวก็มีหลากหลายนะคะ บางคนกะว่าตีสนิทคนไทยที่นี่จะให้เค้าพานำเที่ยวหรือขอไปพักบ้านเค้าฟรีๆอย่างนี้ก็ยอมรับว่ารับไม่ได้เหมือนกันค่ะ เพราะค่าใช้จ่ายสูงมากๆและสถานที่ก็ไม่อำนวย เพราะคนไทยที่นี่ไม่นักเรียน  คนทำงานก็แม่บ้านค่ะ เพราะสถานที่อันคับแคบอย่างอยู่หอเนี่ยก็ไม่สามารถเอาใครมาพักได้ หรือกระทั่งอยู่บ้านเพราะบ้านญี่ปุ่นถ้าไม่รวยจริงๆบ้านจะเล็กมากค่ะ แค่คนในครอบครัวก็เต็มแล้ว อยากให้เข้าใจสำหรับผู้ที่มาเที่ยวแล้วคิดจะทำแบบนี้นะคะ ไม่ใช่ไม่มีน้ำใจแต่ว่าโดยสภาพการณ์มันลำบากค่ะ (แต่กับคนรู้จักกันเราไม่ปฏิเสธค่ะ) คนไทยหลายๆคนที่นี่ที่คุณว่าอาจจะไม่เฟรนด์ลี่เพราะเค้าอาจจะเคยมีประสบการณ์ที่ว่ามาก็ได้นะคะ เราเองอยู่มาปีที่เจ็ดแล้วตั้งแต่เป็นนักเรียนจนตอนนี้ทำงานแล้ว คนไทยที่เจอส่วนใหญ่นิสัยดีค่ะ เวลาไปร้านอาหารไทยเค้าเห็นเราเป็นคนไทยด้วยกันก็มาชวนคุยก็มี แถมบางทีมีขนมแถมให้อีกค่ะ ดังนั้นเรามีหลากหลายนะคะ ไม่อยากให้เหมารวมเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 55 13:02:10 แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 55 12:55:02 จากคุณ : มอนจะ เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 12:40:49

ความคิดเห็นที่ 24 สวยมาก ไปเที่ยวด้วยคนครับบ................... จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 13:37:15

ความคิดเห็นที่ 25 คุณยุ่งชะมัด...สัตวแพทย์ คงหมายถึงคนไทยที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น  ไม่ใช่คนไทยในญี่ปุ่นมั้งคะ  ถ้าเป็นอย่างแรก  คือคนไทยที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น  เราก็เจอแบบนั้นค่ะ  ได้ยินเสียงรู้ว่าเป็นคนไทย  แถมจ้องหน้าเราด้วย  พอส่งยิ้่มให้  กลับทำหน้าหยิ่งสะบัดหนี  เจอเยอะมากจนตอนหลังไม่กล้ายิ้มให้แล้ว  แต่เจอสาวคนหนึ่งที่นิคโค  เข้ามาทักทายคุยกัน  น่ารักมาก ๆ ค่ะ จากคุณ : Zhouyuyee เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 14:05:21

ความคิดเห็นที่ 26 ไปพักที่เดียวกันด้วย ขอบคุณที่พาเที่ยว เราเองหากเจอคนไทยที่นั่นส่วนใหญ่คงเป็นนักท่องเที่ยว เราจะกล่าวคำว่าสวัสดีและยิ้มให้ จากนั้นก็เดินจากกัน แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 55 14:27:53 จากคุณ : Bud&Ping เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 14:27:02

ความคิดเห็นที่ 27 น้องสาวผมก็เรียนอยู่ในญี่ปุ่นครับ ไม่ต้องเสียใจไป พ่อแม่ผมยัง skype คุยกับน้องทุกวัน เรียนหนักเว่อร์ ไม่รู้หนักไปไหน แอบเห็นใจเหมือนกัน ยิ่งเพิ่งจะได้ไปไม่ถึงปี ไม่มีกำหนดกลับครับ ต้องปรับตัวตลอดด ทริปนี้มีภารกิจต้องเอาของไปฝากน้องที่โตเกียวด้วย สำหรับนักเรียนญี่ปุ่น เท่าที่ผมสังเกตผมเคยเจออยู่คนนึง มาเป็นเจ้าหน้าที่ part-time ของ Odakyu ใจดีมากๆ ครับ พอรู้ว่าเราเป็นคนไทยก็คุยดีใหญ่เลย คือคนที่อยู่ที่นั่นแล้ว จะอีกแบบนึงครับ ผมว่าแนวโน้มจะใจดี และดีใจที่ได้เจอคนไทยด้วยกัน อย่างน้องสาวผม เนื่องจากเค้าเคยไปอยู่ญี่ปุ่นระยะยาวเป็นปีๆ มา 3 รอบแล้วตั้งแต่ยุค AFS ยุค ป.ตรี จนตอนนี้เป็น ป.โท เด็กไทยที่ไปเรียนที่ญี่ปุ่นต้องปรับตัวแบบสุดๆ ไปเลย ตามมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งพวกเด็กไทยที่ไปเรียนครั้งแรก เครียดเป็นแถบๆ น้องผมก็ต้องเป็นศิราณีช่วยเหมือนกัน แต่หลังๆ ตัวเองเริ่มจะมีภาระหนักขึ้นเรื่อยๆ จนต้องปลีกตัวออกจากสังคมคนไทยออกไปก่อนครับ จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 17:32:04

ความคิดเห็นที่ 28 ** ต่อจากคห. 19  ไปต่อกันที่ >> เกียวโต โอซาก้า:   ซากุระที่นี่เริ่มตูมๆแล้ว คาดว่า อีก 2-3 อาทิตย์ บานเต็มเมืองแน่นอนค่ะโดยเฉพาะ ถนนสายนักปราชญ์ ออกดอกตูมๆเต็มเลย   อาทิตย์ที่แล้วที่เราไป อากาศยังหนาวอยู่สัก สิบต้นๆ ออกไปยื่นเจอลมสัก 2-3 นาทีก็จะมือชา หน้าชาแล้ว แต่ที่นี่คนไม่ค่อยมีใครใส่เสื้อหนาวแบบแหนมๆกันแล้ว ส่วนใหญ่จะใส่สูทยาวสีทึมๆซะมากกว่า ไม่ค่อยได้ใส่หมวก ถุงมือกันแล้ว   ส่วนคนไทยนี่ดูง่ายจะ พร๊อมเต็มตัวตั้งแต่หมวก ถุงมือ ผ้าพันคอ รองเท้าบูท เสื้อหนาวแหนม แถมยังใส่ชุดสีสดๆ หรือ ไม่ก็สีชมพูหวานๆ ใช่เลยคนไทยแน่นอน   รถบัสที่เกียวโตจะมีคนแก่ใช้บริการเยอะมาก เขาจะมีบัตร Pass ขึ้นฟรีมั้งคะ ให้สังเกตเบาะรถไฟ หรือ รถบัส ที่สีแปลกกว่าเบาะอื่นเขาจะ reserve ไว้ให้คนแก่ เด็ก สตรีมีครรรภ์ และ คนป่วยนั่งค่ะ  และ คนแก่เขาจะไม่ต้องเข้าคิวขึ้นรถแบบเราๆนะ ถ้าเราเห็นมีคนแกที่ป้าย เราต้องให้เขาขึ้นก่อน แล้วคนในคิวค่อยขึ้นตาม เราว่าแนวคิดนี้ดีมากๆเลยอ่า   แต่คนญี่ปุ่นก็แปลกๆนะคะ ไม่ค่อยลุกให้คนแก่หรือเด็กนั่งกันเลย พอเราคนไทยลุกให้คนอุ้มเด็กนั่งนะ เขาก้อไม่นั่งนะคะ แบบว่า เราหน้าแตกกันไปเลย ไม่รู้เป็นเพราะอะไร   ส่วนเด็กๆญี่ปุ่นนี่หน้าตาน่ารักกันทุกคนเลย โดยเฉพาะเด็กหนุ่มๆ มักจะถือกระเป๋ากีฬาหรือไม่ก็ดนตรีกันเยอะ อืมม ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ดีแฮะ (แต่ก็สงสัยว่า ทำไมคนญี่ปุ่นที่มีอายุคนจึงไม่สวยหล่อแบบเด็กๆ สงสัยจะจริงจังกับการทำงานกันมั้งคะ)   ส่วนวัดน้ำใสจะมีเด็กใส่ชุดกิมิโนแต่งหน้าแต่งตัวมาถ่ายรูปกันเยอะ แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 55 17:44:05 จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 17:43:28

ความคิดเห็นที่ 29 Arachiyama:    Romantic Train วิวจะสวยมาก ถ้าใครไม่ได้ไปทาคายาม่ามาเที่ยวแต่เกียวโต แนะนำไปที่นี่เลยค่ะ      ตู้ที่ 5 จะ Open Air ตอนเราไปเขาให้ตั๋วตู้ที่ 5 แต่เนื่องจากฝนตกอากาศเย็นมาก เราเลยขอเปลี่ยนเป็นตู้หน้าต่างแทน ถ้ามาช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีคงสวยน่าดู เพราะ รถไฟจะวิ่งเลียบหุบเขาไป ช่วงที่เป็นถ้ำก็จะวิ่งผ่านเร็วๆ อารมณ์เหมือนนั่งรถไฟเหาะเลย       ตอนจะไปป่าไผ่เราเลยหลงๆ เพราะ 3-4 โมงเย็นแล้ว นักท่องเที่ยวไม่ค่อยมีเดินตามคนๆเขาไป เขาดันเดินกลับเข้าไปบ้านซะงั้นแน่ะ กว่าจะออกมาถูกก็เย็นมากแล้ว ไปป่าไผ่ก็ไม่ถูก   จำได้ว่า ในพันทิพเคยบอกว่า ที่นี่จะมีคนลากรถจบมาจากอเมริกา หน้าตาดี เราเลยเดินไปพิสูจน์..เอ๊ยไม่ใช่..เดินไป..ถามทางเขา เขาใจดีมากค่ะ หน้าตา Friendly บอกทางด้วยสำเนียงดีเยี่ยม เพื่อนเราบอกว่า เราน่าจะนั่งให้เขาลากไปนะแต่ว่าอากาศหนาวอ่า นั่งไม่ไหวกลัวหน้าชาก่อนถึงป่าไผ่ เลยขอเดินไปเองดีกว่า   ไหนใครว่า ป่าไผ่มีแต่หัวคน ดูตอนเราไปซิ อิอิ ป่านี้เป็นของเราเลย แทบไม่มีนักท่องเที่ยวเหลืออยู่แล้ว ถ่ายรูปได้สบายเฮ พอตอนกลับก้อไม่รู้ทางไป JR อีก ออกมาเจอพ่อหนุ่มคนลากคนเดิมอีกแล้ว ถ้าเราจะดวงสมพงษ์กัน อิอิ เลยเดินไปถามทางอีก เขาก้อตอบกลับมาอย่างดีไม่มีอิดออดว่าให้นั่งรถลากเขาไปเลย ประทับใจในน้ำใจไมตรี เลยขอถ่ายรูปมาซะเลย     ถ้าใครไปป่าไผ่ อย่าลืมเรียกใช้บริการรถลากเขาบ้างนะคะ ส่วนเราหนาวอ่า เลยไม่ได้ใช้บริการทั้งขาไป-ขากลับ จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 17:50:37

ความคิดเห็นที่ 30 คุณมอนจะ คะ    แล้วน้ำสาเกนี่ใช้ยังไงคะ ทาก่อนทาครีมบำรุงแบบโลชั่น SkII หรือ hadadobo ใช่หรือเปล่าคะ จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 17:54:13

ความคิดเห็นที่ 31 ข้าวปั้น    แบบรูปบนนี่ คนญี่ปุ่นเขานิยมกินกันมากๆๆ ราคา 130 yen จะมีสาหร่ายมาให้ห่อข้าว 1 แผ่น ในข้างจะมีใส่ป่นๆอยู่ตรงกลาง ถ้าจะกินให้อิ่มก้อน่าจะต้องกิน 2 ลูกนะ ซึ่งเราว่า พวกข้าวกล่องที่สถานีรถไฟก้อราคา 300 กว่าเยนได้เนื้อหนังมากกว่าเยอะเลย เราทานมื้อเดียวไม่ทานอีกเลย    ส่วนแบบรูปล่างจะเป็น เต้าหู้ห่อข้าวชุ่มๆน้ำอยู่ข้างใน  เพื่อนบอกว่า คนญี่ปุ่นที่ทำงานชอบทานมาก เราเลยลองซื้อมาทานมาก อร่อยค่ะ แต่จะไม่มีเนื้อเลยนะ จะมีแค่เต้าหู้ห่อข้าว บางร้านจะใส่วาซาบิข้างในข้าวด้วยอร่อยสุดๆ หน้าตาดูไม่น่าทาน แต่ลองทานดู อร่อยนะ แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 55 17:56:40 จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 17:55:40

ความคิดเห็นที่ 32 บัตรเครดิต:     เรื่องใหญ่มากสำหรับเรา เพราะ ที่นี่แทบจะไม่ค่อยรับบัตรเครดิตเลย (ทำให้เราหวาดเสียวว่าเงินจะไม่พอ shopping) ไม่ว่าจะเป็น แมวดำขนกระเป๋า, ตั๋วรถบัสไป Gotemba, ตั๋วรถบัสไป ชิราคาวาโก, เครื่องสำอางค์ตึกม่วง ก้อ cash only  ใครไปก้อแลกเงินเผื่อๆไว้ด้วยนะคะ       แต่ แต่ แต่ Daiso ที่ฮาราจูกุ รับบัตรเครดิตค่ะ ทั้ง JCB, Visa, Master (Shopping มันส์มากค่ะ)   ครีมบำรุงผิว:     ที่นั่นอากาศจะเย็น เราจะแพ้อากาศ ผิวจะคันแดง มือจะแตกทั้งๆที่ใส่ถุงมือนะ ขาอ่อนก้อเป็นผื่นแดงทั้งๆที่ใส่ยีนส์ เพราะ อากาศเย็นและน้ำในห้องน้ำจะเย็นมาก แนะนำควรพกครีมบำรุงแบบหนาๆไปด้วย ครีมที่เป็นแบบโลชั่นเอาไม่อยู่ค่ะขนไปหนักกระเป๋าเปล่าๆ ต้องไปซื้อที่นู้นใหม่อีก จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 17:58:18

ความคิดเห็นที่ 33 รถไฟไปทาคายาม่า จอดชานชาลาที่ 11 ฝั่ง    มี reserve  6 ตู้, Non-reserve 1 ตู้ เราไปจองก่อน 2 วันไม่มีตั๋วเช่นกัน เลยต้องมาเสี่ยงดวงเอาที่นาโกย่า แต่ก็พอมีที่เหลือ แต่ถ้าใครไปหน้าเทศกาลแนะนำควรจองแต่เนิ่นๆ  รถไฟจะวิ่งถอยหลังไป 2 สถานี แล้วจะวิ่งเดินหน้าไปตามปรกติ ฉนั้นไม่ต้องตกใจไปว่าจะเมารถเพราะนั่งถอยหลังตลอดสาย รถบัสไปชิราคาวาโก    ถ้าไปเที่ยว Non-reserve พยายามนั่งแถวหน้าข้างคนขับรถเลย เพราะวิวสองข้างทางจะน่ารักเหมือนเมืองในเทพนิยาย จะถ่ายรูปได้สวยแบบนี้ จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 18:17:12

ความคิดเห็นที่ 34 ของที่ระลึก:     เราเป็นคนสะสม Snow Ball น่ะค่ะ ไม่เคยเห็นมีคน review ว่าหาซื้อได้ที่ไหน พอเราไปหาเองก็หายากนิดหนึ่งนะ ในญี่ปุ่นไม่ค่อยเจอขาย     แต่สุดท้ายก็ได้มา 5 อัน    อันแรกคือ ฟูจิที่มีสาวกิมิโนนั่งอยู่ เป็น Sakura Ball มีซากุระสีชมพูโรยลงมา น่ารักมาก ได้มาจากสนามบินนาริตะ ชอบที่สุดเลยค่ะ    ส่วนอันถัดไปเป็นวัดทอง จริงๆมันมีเป็นชุด 3 วัดนะ : วัดเงิน วัดทอง วัดน้ำใส แต่ซื้อวัดทองมาอันเดียว เพราะ ทั้ง 3 วัดเราประทับใจวัดทองกันที่สุด    อันต่อมาเป็น ยักษ์วัดแจ้งจากสุวรรณภูมิเรานี่เอง      2 อันล่างได้มาจาก Romantic Train ไม่ใช่เป็น Snow Ball แต่เป็น Music Box มีลานไขด้านล่างให้รถไฟวิ่งแล้วมีเสียงเพลง ก็น่ารักดีค่ะ       อันสุดท้ายนี้เป็นฟูจิซัง แต่ไปได้ที่ร้านขายของที่ระลึกในโรงแรมในนาริตะ ราคาถูกกว่าในเมืองด้วย ในเมืองส่วนใหญ่ขายอันละ 1,080 yen แต่อันนี้แค่ 970 yen เอง   ** อยากได้ Snow Ball รูปชิราคาวาโก กับ หอโตเกียวอันใหม่มาก แต่หาไม่มีเลยค่ะ จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 18:31:16

ความคิดเห็นที่ 35 สุดท้าย เพื่อนคู่ใจตลอดการเดินทาง     รองเท้า NB คู่นี้ ขอบอกเดิน 10 วันไม่เมื่อย ไม่กัด เท้าไม่พอง ปรกติแต่เดิน Shopping ที่ฮ่องกงวันเดียวเท้าก็จะพองแล้ว คู่นี้เยี่ยมใส่สบายมาก ใครจะหารองเท้ากีฬาที่ระบายอากาศดีๆไม่อับแนะนำรุ่นนี้เลย เพราะ อะไรนะเหรอ ก้อเพราะตอนเราใส่ไปทาคายาม่า และ ชิราคาวาโก แล้วลมหิมะมาหนาวๆ ลมเข้าในคู่นี้ไปเลย มันเย็นมากๆๆ จึงพิสูจน์ได้ว่า รองเท้าคู่นี้ระบายอากาศได้ดีมาก (แต่ไม่เหมาะเดินหิมะนะคะมันจะเย็นมากค่ะ)   ร่ม 130 บาทจากเมืองไทย ใช้คุ้มเลยค่ะ ไปเที่ยวช่วงฝนตกก็ดีนะคะ คนน้อยเที่ยวสนุก ไม่ต้องกลัวฝนเพราะเราพกร่มไปด้วย จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 18:34:41

ความคิดเห็นที่ 36 ก่อนจบ อยากขอขอบคุณเพื่อนๆในพันทิพและบอร์ดการท่องเที่ยวอื่นๆที่ไปเที่ยวแล้วนำเรื่องราวมาแบ่งปันกัน เพราะ จากที่เราสังเกต คนไทยไปเที่ยวนี่จะ print กระดาษ A4 เป็นคู่มือเดินทาง นักท่องเที่ยวชาติอื่นๆพกมาเป็นหนังสือคู่มือเดินทางมาเป็นเล่มหนาๆกันเลยทีเดียวหละคะ บางคนถือมากาง 2-3 เล่มกันทีเดียว    ส่วนของเรานี่สบายกว่าเยอะพอจบเมืองนี้ก้อทิ้งกระดาษ ไปหยิบกระดาษ print ของเมืองใหม่มาดู ได้ข้อมูลเจาะลึกทุกซอกมุม อาหารไหนอร่อย ร้านไหนถูก มุมไหนถ่ายรูปสวย แฟชั่นแต่งตัวยังไง มีหมด จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 18:40:14

ความคิดเห็นที่ 37 สุดท้ายค่ะ   ญี่ปุ่นควรเที่ยววันละ 2-3 ที่พอ เพราะแต่ละที่นอกจากถ่ายรูปแล้วเราควรดื่มด่ำกับธรรมชาติที่สวยงามรอบๆตัวด้วย ซึ่งแต่ละที่ก้อน่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมงเชียวหละ  ทำให้เที่ยวทริปนี้เราคงต้องมีทริปหน้าไปซ่อมอีกเยอะ เพราะเราไปไม่ทันหลายที่เลยทีเดียว  ไม่ว่า    -  นาราแค่น้องกวางและพระใหญ่ก็หมดครึ่งวันแล้วไม่ได้ไปที่ไหนเลย    -  ชิราคาวาโก ก็ไม่ได้ขึ้นไปถ่ายรูปบนยอดเขาซึ่งถ่ายลงมาเจอหมู่บ้านที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ คงสวยน่าดู แต่เพราะ อากาศเย็นมากไปไม่ไหว อารมณ์อยากกลับไปหาที่อุ่นๆหลบลม เลยอดถ่ายรูปมาเลย    -  โตเกียว ก็ไม่ได้ไปตั้งหลายที่    -  ฟูจิ ก็ไม่ได้นั่งรถรอบทะเลสาบทั้ง 5 เพราะฝนตกตลอดวัน แล้วเจอกันทริปหน้านะคะ ขอให้เที่ยวให้สนุกกันน๊าค๊า จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 19:15:00

ความคิดเห็นที่ 38 คห.9 お手もと(otemoto) รึเปล่าคะ จากคุณ : ~TaShiMaRo~ เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 19:18:04

ความคิดเห็นที่ 39 อยากรู้และอยากถาม ...ได้มั้ยคะ ^^ ขอบคุณสำหรับเรื่องที่มาแชร์ทุกอย่างนะคะ อยากรู้ทุกเรื่องเลยค่ะ อิอิ เป็นเส้นทางที่สวยงาม โรแมนติกไปหมดเลย จากคุณ : ว่างแล้วเที่ยว (ว่างแล้วเที่ยว) เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 19:39:47

ความคิดเห็นที่ 40 ขอโทษทีค่ะ ลืมพิกัดร้านในความเห็น 9   มองออกจากสถานีรถไฟจะเห็นปั๊มน้ำมันสีแดงๆด้านขวามือ เดินไปตรงปั๊มน้ำมันจะเจอถนนมีไฟแดง    เดินไปตามถนนไฟแดง จนไฟแดงที่ 2 (สี่แยกก่อนถึงวัด) สี่แยกนั้นจะเจอสถาบันการเงินที่มีตู้กดเงินสีแดงๆด้านซ้ายมือ ส่วนด้านขวาจะเป็นโรงแรมป้ายสีเหลืองๆ    จากสถาบันการเงินตู้สีแดงให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปในถนนหรือซอยนั้น ไม่เกิน 100-200 เมตรจะเจอร้านอยู่ด้านขวามือค่ะ รูปร้านตามนี้เลย (ไปง่ายไม่หลงหรอก เพราะ เมืองจะเล็กๆไม่ซับซ้อน)    เนื้อฮิดะจะมี 2 แบบ       1500 yen นุ่มหวานอร่อย       1200 yen จะกรุ๊บๆ เคี้ยวเพลิน ยิ่งถ้าทานกับเครื่องดื่มคงเพลินไปหลายจาน       ส่วน Seedfood 1200 yen เราว่าอร่อยสู้เนื้อฮิดะไม่ได้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 55 21:01:55 แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 55 19:58:05 จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 19:52:39

ความคิดเห็นที่ 41 รีวิวกระทัดรัด แต่ได้รายละเอียดมากเลยค่ะ ภาพก็น่ารัก ชอบ  Snow Ball น่ารักดี ขอบคุณนะคะที่พาเที่ยว จากคุณ : สวยด้วยแสง-แรงด้วยสี เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 20:06:02

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณคุณ Zhouyuyeeและคุณยุ่งฯ นะคะ ถ้าเราเข้าใจผิดก็ต้องขอโทษด้วยค่ะ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่มาเที่ยวญี่ปุ่นต้องหยิ่งด้วย เพราะยังไงก็เป็นนักท่องเที่ยวที่อาศัยอยู่เมืองไทยเหมือนคนที่ไปเที่ยวประเทศอื่น แปลกดีนะคะ คุณจขกท น้ำสาเกใช้เหมือนฮาดะลาโบะแหละค่ะ ล้างหน้าเสร็จซับหน้าให้แห้งแล้วใช้มือหรือหยดใส่สำลีเช็ดให้ทั่วหน้าแล้วตามด้วยแบบน้ำนมนะคะ เราอ่านเจอว่ามันมีกลิ่นเหล้าแรงพอสมควร แต่ใช้ดีและราคาถูกแต่เราไม่เคยใช้ค่ะเลยไม่รู้ดีจริงหรือเปล่า ถ้าใช้ดีอย่าลืมบอกต่อนะคะ จากคุณ : มอนจะ เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 20:54:33

ความคิดเห็นที่ 43 ว้าวๆ ผมกำลังจะไป ทริปแบบเดียวกันเลยครับ ได้ความรู้ก่อนไปเลยทีเดียว ฮ่าๆ กำลังนั่งอยู่สนามบินรอไปโอซาก้าแล้ว จากคุณ : noomzila เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 22:22:06

ความคิดเห็นที่ 44 รองเท้า NB คือ ยี่ห้ออะไรครับ จากคุณ : คาราบา เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 23:04:58 A:58.11.45.175 X: TicketID:351298

ความคิดเห็นที่ 45 NB=New Balance นุ่ม เบา ใส่สบาย ที่สำคัญคือ ไม่กัดเท้าเวลาใส่เดินเที่ยวนานๆ จากคุณ : Azimo เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 00:53:04

ความคิดเห็นที่ 46 คห. 43 พูดถึง...โอซาก้า ทำให้นึกขึ้นได้ว่าลืมพูดถึงโอซาก้าไปได้ไง... Osaka:  ถ้าจะไปถ่ายกับป้ายกลูลิโกะต้องไปหลังทุ่มหนึ่งนะคะ เพราะไฟป้ายจะเปิดตอนทุ่มหนึ่งไปแล้ว   ถ้าจะทั้ง Shopping และ ทานข้าวแถวนั้น แนะนำว่า ไปก่อนทุ่มและไปทานข้าวก่อนแล้วค่อยออกมาถ่ายรูปและ Shopping เพราะ ร้านแถวนั้นที่ดังๆจะต้องรอคิวนาน เราเคยรอทานร้าน Chibo ชม.หนึ่งกว่าจะทานเสร็จออกมาก้อจะ 2ทุ่มกว่าๆ ร้านค้าก้อทยอยปิด ร้านค้าจะปิดประมาณ 3ทุ่ม-3ทุ่มครึ่ง ส่วนร้านทาโกยากิ   จะมี 2 ร้าน ร้านแรกติดกับร้านขายกูลลิโกะเลย แต่อีกร้านดังกว่า เขาว่า ร้าน Original จะต้องเดินเลยเขาไปอีกหน่อยค่ะ (ถ้ามาจากทางป้ายกูลลิโกะที่เขาถ่ายรูปกัน) แต่ทั้ง 2 ร้านคิวยาวพอกันค่ะ จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 06:39:08

ความคิดเห็นที่ 47 เคยมีประสบการณ์เจอคนไทยที่ชิบุย่า เราเห็นเค้ามากัน 3 คน น่าจะเป็นคุณแม่ลูก   ได้ยินเสียงเค้าคุยภาษาไทย เราก็หันไปมอง ดีใจ เย้ เจอคนบ้านเดียวกัน เค้ามองกลับมาด้วยสายตานิ่งๆ 55 เพื่อนบอกว่า ดูน้องๆ เค้าแต่งตัวดิ เต็มยศเลย   รองเท้าบู้ท เสื้อมีขนๆ รอบคอ ใส่เลกกิ้งสวมทับกระโปรงสั้นแบบสาวญี่ปุ่น ในมือ มีแต่ถุงของไม่รู้กี่ใบ ก้มมองดูตัวเอง เพื่อนบอกว่า แต่งตัวเหมือนไปออกค่ายพัฒนาชุมชน แถมในมือ มีขวดน้ำเปล่า กรอกน้ำมาจากที่พัก ประหยัด แต่ตอนไปอินเดีย เจอคนไทยที่นั่น โห คุยกันร้านอาหารแทบแตกเลย จากคุณ : fuji_fancy เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 09:24:33

ความคิดเห็นที่ 48 อ่านเพลินดีคะ กำลังจะไปสุดสัปดาห์นี้แหละคะประมาณ 20 วันแต่เป็นทางใต้ สงสัยว่าจขกทไปช่วงวันที่เท่าไรคะ ดูยังหนาวอยู่มากเลย เพราะจำได้ว่าตอนที่ไปเมื่อเมษาฯ สองปีที่แล้วเอาใส่เสื้อแขนสั้นเดินแถวชิรากาว่าได้เลย มีฝนเยอะอยู่แต่ก็ไม่หนาวมากรอบนี้เลยกะว่าจะเอา light jacket ไปพอ แต่พอเห็นแล้วสงสัยต้องเอาlongjohn ไปเผื่อท่าจะดี จากคุณ : เดย์ครีม เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 21:02:53 A:125.24.201.218 X: TicketID:336551

ความคิดเห็นที่ 49 ผมเจอคนไทยในญี่ปุ่น บนรถไฟ subway และ JR อีกสถานที่คือ วัด Asakusa และ Meiji Shrine ครับ.. จากคุณ : อดีประพล เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 00:56:51

ความคิดเห็นที่ 50 คห.48 ไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ปลายเดือนมีนาน่ะค่ะ วันนั้นโชคดีหิมะสลับกับฝนตกทั้งวันเลยค่ะ ภาพเลยออกมาเหมือนเมืองเทพนิยายเลย แต่อากาศเย็นมากเลยค่ะ *เที่ยวให้สนุกนะคะ ไปตั้ง 20 วันแน่ะ จากคุณ : PassioninLove เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 11:06:34

ความคิดเห็นที่ 51 ไม่ต้องไกลถึงญี่ปุ่นหรอกค่ะเราไปสิงค์โปร์ก็เจอคนไทยแบบนั้นเหมือนกัน เจอที่รถไฟฟ้าเขานั่งที่สำหรับไว้ให้เด็ก คนพิการนั่งเราและลูกอีก 2 คนขึ้นไปเขาทำเป็นคุยโทรศัพท์ (ภาษาไทย)คุยกันนานมาก ลูกชายคนโต 9 ขวบกระซิบกะเราว่า นิสัยย ไม่ใช่ว่าอยากจะนั่งหรอกแต่มารยาทหนะมีไม๊เด็กมันยังรู้เลย พอเห็นคนแก่ขึ้นมาเขาลุกให้นั่งเลยเราไม่ต้องบอก.. จากคุณ : boom-bung เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 55 13:46:31