ความคิดเห็นที่ 1 ต่อเนื่องจากกระทู้ที่แล้ว เราขับรถมาถึงเมือง Amboise ก็มืดซะแล้ว เลยยังไม่ค่อยเห็นวิวของเมืองเล็กๆแห่งนี้ซักเท่าไหร่ วันนี้ทุกคนจึงตื่นแต่เช้า มาเดินเล่นรอบๆเมืองกันก่อนทานอาหารเช้า บรรยากาศโรงแรมยามเช้า จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 11:51:34

ความคิดเห็นที่ 2 เราพักที่ชั้น2และ ชั้น3ของตึกนี้(จขกท.อยู่ห้องใต้หลังคาที่เห็นนั่นเอง-_-“) จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 11:52:15

ความคิดเห็นที่ 3 จากนั้นเราก็พากันออกเดิน ไปยังตัวปราสาทAmboise จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 11:53:19

ความคิดเห็นที่ 4 เดินแค่5นาที ก็ถึงทางเข้าแล้ว \(^^)/ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 11:53:52

ความคิดเห็นที่ 5 ปราสาทAmboise จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 11:54:31

ความคิดเห็นที่ 6 เนื่องจากมีเวลาไม่พอ พวกเราจึงอดเข้าไปชมภายใน ได้แต่เดินเล่นรอบๆปราสาท จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 11:55:18

ความคิดเห็นที่ 7 มองลงมาจากทางขึ้นปราสาท มีแผงขายของที่ระลึกนิดหน่อย จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 11:55:50

ความคิดเห็นที่ 8 บ้านเรือนที่นี่น่ารัก สวยงาม น่าอยู่มาก จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 11:56:19

ความคิดเห็นที่ 9 ไปเดินเล่นริมแม่น้ำลัวร์ดีกว่า จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 11:57:12

ความคิดเห็นที่ 10 ออกมาก็เจอสะพานข้ามแม่น้ำก่อน วันนี้ท้องฟ้าสดใสได้ใจมากกก\(^^)/ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 11:57:52

ความคิดเห็นที่ 11 บ้านเรือนริมน้ำ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 11:58:59

ความคิดเห็นที่ 12 หันกลับไปจะเห็นปราสาทAmboise จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 11:59:26

ความคิดเห็นที่ 13 แต่ดันมีตึกมาบังข้างหน้า-_-“ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 11:59:56

ความคิดเห็นที่ 14 น่าอยู่ชิมิ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 12:00:50

ความคิดเห็นที่ 15 จขกท.ชอบเมืองนี้มากเลย (ฟ้าก็สดใสเป็นใจ^^) จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 12:01:26

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีค่ะ ตามมาเที่ยวด้วยคน สวยจังค่ะ จากคุณ : madamyin เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 12:03:22

ความคิดเห็นที่ 17 หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา .Carrefour ที่พึ่งพิงยามยากของพวกเรา ของที่ซื้อประจำคือ สตอเบอร์รี่,โยเกิร์ตหลากรส และ โค้กเชอร์รี่ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 12:03:42

ความคิดเห็นที่ 18 เย้! มีคนอยู่เป็นเพื่อนแล้ว^^ ตามมาเลยค่ะ คุณmadamyin .................................................................................... หลังจากนั้นเราก็รีบเดินกลับโรงแรมโดยไว! เพราะนัดทานอาหารเช้าไว้ 10:30 และตอนนี้ก็ 10:40 เข้าไปแล้ววววว -_-“ หนูขอโตดดดดด(-/|\-) หนูหลงทาง (แต่ถุงcarrefourเต็มมือ) จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 12:06:10

ความคิดเห็นที่ 19 อาหารอยู่หนายยยยย . จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 12:06:45

ความคิดเห็นที่ 20 มาแอบอยู่มุมนี้เอง มาดูไลน์อาหารเช้ากัน ซึ่ง .มีแค่เท่าที่เห็นนี่แหละค่ะ T_T (คนละ12 ยูโร) ประกอบด้วย ขนมปัง,โยเกริต์,ซีเรียล,ผลไม้,ไข่ต้ม,ชีส (แต่อยากได้แฮมหรือไส้กรอกมั่งอะ) จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 12:08:22

ความคิดเห็นที่ 21 และเสริฟที่โต๊ะก็ ชา กาแฟ น้ำส้ม จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 12:08:56

ความคิดเห็นที่ 22 ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว (จริงๆต้องเรียก Brunch สินะ เพราะเสียดาย 12 ยูโร เลยซัดไข่ต้มกันเต็มที่ กะไม่กินข้าวเที่ยงแล้ว) ก็มาคุยกะคุณป้าเจ้าของโรงแรม (มั้ง) แกบอกว่า ลูกชายแกมาทำงานที่เมืองไทย ทำบริษัทน้ำหอม ชื่อ Bell’s perfume เป็นน้ำหอมสำหรับ Celebrityด้วยนะ   เออ หนูไม่ใช่เซเลปอะค่ะ หนูเลยไม่รู้จัก T_T ห้องนั่งเล่นแสนสวยของโรงแรม จุดเตาผิงไว้ด้วยยยย^^ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 12:10:53

ความคิดเห็นที่ 23 ตอน check out คุณพนักงานต้อนรับก็เลยแจกน้ำหอม Bell’s perfume มาให้สาวๆคนล่ะขวดด้วย ขอบคุณนะค้าาาาา (-/|\-) แอบถ่ายคุณพนักงานต้อนรับที่แสนน่ารัก แอร๊ย (>.<) จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 12:12:17

ความคิดเห็นที่ 24 ร่ำลากันเสร็จแล้ว ก็ออกเดินทางสู่ Chateau de Chambord  \(^^)/ ฟ้าฝนเริ่มไม่เป็นใจ ตอนเช้ายังสดใสอยู่แท้ๆเลย T_T จากโหมดสดใสสวยงามข้างบน ตั้งแต่คห.นี้ลงไป ...................เราจะเข้าสู่ด้านมืด อึมครึมและหนาวเย็นกันแล้วนะคะ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 12:25:55

ความคิดเห็นที่ 25 ถนนจะวิ่งเลียบแม่น้ำลัวร์ไปเรื่อยๆ เราก็จะเห็นป้ายบอกทางไปชาโตว์ต่างๆอยู่เต็มไปหมด (เห็นเค้าว่ามีเป็นพันๆแห่งเลย ไม่รู้จริงป่าว) จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 13:14:09

ความคิดเห็นที่ 26 ผ่านเมืองอะไรไม่รู้ รู้แต่ฟ้ามืด เมฆมากและฝนกำลังจะตก จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 13:15:06

ความคิดเห็นที่ 27 สะพานโบราณ(มั้ง?) จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 13:15:58

ความคิดเห็นที่ 28 ยิ่งเข้าใกล้ปราสาทมากขึ้น ทางก็จะเล็กลงๆเรื่อยๆ  เริ่มผ่านทุ่งหญ้า ป่าละเมาะ หมู่บ้านเล็กๆที่เงียบสงัด ไม่เห็นวี่แววของสิ่งมีชีวิตใดๆ ไม่มีแม้แต่รถตามมาหรือสวนมาซักคัน .......................เหอๆๆ เริ่มเหงื่อตก(-_-') ทำไมมันเงียบวังเวงขนาดนี้หว่า นี่เป็นชาโตว์ที่ใหญ่ที่สุดเลยนะ มันควรต้องมีคนมาเที่ยวบ้างสิ! รึว่า Gps มันบอกทางผิด ฮืออออ มันจะพาเราไปหนายยยย...............T_T แต่เราก็ขับต่อไปโดยไม่หวั่นไหว(เพราะไม่รู้จะไปไหน) จนในที่สุด ............ เห็นป้ายแล้ว เย้!ไม่ผิดแน่ (แต่แอบน่ากลัว เหมือนพวกทางเข้าปราสาทตามหนังสยองขวัญHollywoodอยู่แหะ) จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 13:21:11

ความคิดเห็นที่ 29 กรี๊ดดดดด!!!! เห็นตัวปราสาทอยู่ลิบๆ อลังการน่าดู จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 13:22:29

ความคิดเห็นที่ 30 แต่เราต้องเอารถไปจอด แล้วเดินเข้าทางด้านข้าง ผ่านหมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งน่าจะเป็นพวกร้านขายของต่างๆ แต่วันนี้พร้อมใจพากันปิดต้อนรับเรา -_-“ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 13:24:10

ความคิดเห็นที่ 31 ผ่านหมู่บ้านไปแล้ว ก็จะเห็นตัวปราสาทแบบเต็มๆเช่นนี้ \(^^)/ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 13:24:51

ความคิดเห็นที่ 32 ชมความงามของปราสาทอยู่ซักพัก ฝนก็ตกลงมาจนได้ -_-“   อากาศที่หนาวเย็นอยู่แล้ว  ยิ่งเพิ่มความหนาวขึ้นอีกทวีคูณ >< จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 13:26:04

ความคิดเห็นที่ 33 แต่ที่เห็นคือด้านหลังของปราสาท ยังไม่ใช่ทางเข้านะคะ เราต้องเดินอ้อมไปด้านหน้า จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 13:26:41

ความคิดเห็นที่ 34 และนี่คือด้านหน้า T_T  (อย่างเซ็ง) จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 13:27:34

ความคิดเห็นที่ 35 รีบเข้ามาหลบฝนข้างในกันดีกว่า น่าจะอุ่นดี จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 13:28:21

ความคิดเห็นที่ 36 ค่าเข้าชมคนละ9.5 ยูโรค่ะ ถ้าอายุต่ำกว่า 25 ปี เหลือ 8.5 ยูโร จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 13:29:05

ความคิดเห็นที่ 37 มาดู Model ปราสาทแบบเต็มๆดีกว่าค่ะ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 13:29:39

ความคิดเห็นที่ 38 หลังจากผ่านกำแพงชั้นนอก เราก็จะเข้ามาสู่ลานด้านในปราสาท แบบนี้ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 13:30:13

ความคิดเห็นที่ 39 ประตูโค้งที่เห็นตรงมุมล่างซ้าย คือทางเข้าตัวปราสาทนะคะ (เทียบกับขนาดที่ใหญ่โตแล้วเหมือนรูหนูเลยแหะ) จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 13:31:22

ความคิดเห็นที่ 40 หลบหนาวเข้ามาข้างในกันดีกว่า (ซึ่งไม่ได้อุ่นขึ้นเลย T_T) จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 13:31:55

ความคิดเห็นที่ 41 ขอเล่าประวัตินิดนึงนะคะ การก่อสร้างปราสาทแห่งนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 1519 เนื่องจาก พระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1 เกิดอยากมีปราสาทส่วนตัวไว้รับรองพระสหายและไว้เป็นที่ประทับเมื่อมาล่าสัตว์ จึงชักชวนให้เลโอนาร์โด ดาวินชี เป็นผู้ร่างแบบแปลนขึ้นมา แต่จวบจน ท่านดาวินชีเสียชีวิตต่อมาหลายเดือน การก่อสร้างปราสาทจึงเริ่มต้นขึ้น ในใจกลางสวนป่าอันกว้างใหญ่ไพศาล  และได้รับการต่อเติมมาเรื่อยๆตามคำสั่งของผู้ปกครองในช่วงระยะเวลาต่างๆ จนเสร็จสมบูรณ์ดังที่เห็นในปัจจุบัน และนี่คือแปลนของปราสาท ซึ่งประกอบด้วยจำนวนห้องทั้งหมด 426 ห้อง !!!! (จะเดินยังไงไหว-_-‘) จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 13:39:33

ความคิดเห็นที่ 42 ตามเที่ยวด้วยครับ จากคุณ : Civict2003 เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 13:40:17

ความคิดเห็นที่ 43 มาดูห้องต่างๆกันดีกว่า เริ่มต้นที่ Ground floor สัญลักษณ์ที่อยู่ตรงกลางกากบาทระหว่างห้องทั้งสี่ (ฟ้า,เขียว,แดง,เหลือง) ก็คือบันไดเกลียวคู่ที่โด่งดังนั่นเอง ส่วนบันไดเวียนที่อยู่บริเวณอื่นๆของปราสาทจะเป็นแบบเกลียวเดียวธรรมดานะคะ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 13:40:52

ความคิดเห็นที่ 44 เชิญค่าาา คุณCivict2003 .............................................................................. The hunting room (ห้องสีเขียว) จากทางเข้า ชั้นนอก (1) เดินผ่านสนาม ตรงมาที่ทางเข้าอาคารด้านใน(Donjon) ห้องนี้จะอยู่ทางขวามือ เป็นธีมสีเขียวทอง   ก็ตามชื่อห้องนะคะ ตามผนังจะตกแต่งด้วยเขากวางมากมายที่ล่ามาได้ ,ภาพวาดของสุนัขล่าเนื้อ และสัตว์สต๊าฟที่อยู่ในตู้ด้านหลัง จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 13:42:45

ความคิดเห็นที่ 45 Audiovisual room(สีฟ้า) จากทางเข้า คือห้องทางซ้ายมือ บอกเล่าถึงประวัติการก่อสร้างในยุคต่างๆ มี presentationอยู่หลายจอแสดงหลายภาษา ให้เราเลือกนั่งชมได้ตามอัธยาศัย  ลองไปนั่งฟังอยู่ซักพัก ด้วยความรู้ภาษาอังกฤษที่ดีในระดับหนึ่ง.......(จากสิบสองระดับ) พบว่าไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ -_-‘ เลยไปเดินต่อดีกว่า ผ่านบันไดเวียนคู่ไป จะพบอีกสองห้องทางด้านหลัง เป็น Reception roomsทั้งคู่ Reception rooms (สีแดง) เป็นเพียงห้องเดียวในปราสาทที่จุดเตาผิงไว้ ซึ่งเป็นสิ่งให้ความอบอุ่นเพียงอย่างเดียว(จริงๆนะ)ในปราสาทอันใหญ่โตและหนาวเหน็บนี้ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 13:47:00

ความคิดเห็นที่ 46 Reception rooms (สีเหลือง) ห้องนี้มีโต๊ะบิลเลียดตั้งอยู่ด้วย สรุปชั้นนี้ประกอบด้วยห้องสีเขียว,แดง,เหลือง colorful buddha bless ดีเจงๆ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 13:48:48

ความคิดเห็นที่ 47 จริงๆชั้น ground floor ตรงปีกนอกปราสาททางด้านขวา จะมีห้อง The Coach room(สีม่วง) จัดแสดงพวกรถม้าต่างๆด้วย แต่ .จขกท.พลาด!  ชั้นล่างดันเดินแต่ด้านในไม่ได้ออกไปดูปีกข้างนอกเลย มารู้อีกทีตอนอ่านแผ่นพับที่ได้รับแจกมาตอนนั่งทำ รีวิวนี่แหละ T_T (เศร้า) ประตูด้านล่างที่เห็นนั่นแหละค่ะ ทางเข้า The Coach room (แม้แต่ในรูปยังหันหลังให้ ไม่ได้เอะใจเลยซักนิด) จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 13:52:31

ความคิดเห็นที่ 48 ขึ้นมาชั้น First floor กันต่อดีกว่า(ปาดน้ำตา) ชั้นนี้ประกอบด้วยห้องที่ใช้อยู่อาศัยในระหว่างช่วงศตวรรษที่ 16-19  เพราะฉะนั้นการตกแต่งห้องก็จะค่อนข้างหลากหลาย แตกต่างกันไปตามยุคสมัยนะคะ เนื่องจากชั้นนี้มีจำนวนห้องเยอะมาก ประกอบกับทางเดินที่วกวน และอากาศที่หนาวเหน็บ ทำให้ จขกท.จำไม่ค่อยได้ว่าห้องใครเป็นห้องใคร (อย่ามาอ้าง) ก็จะพยายามประติดประต่อจาก ความทรงจำ + รูป + แผ่นพับ + google(ส่วนใหญ่) ตรงไหนผิดพลาดไปขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะเคอะ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 13:55:40

ความคิดเห็นที่ 49 เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น เรามาเรียงลำดับช่วงยุคสมัยต่างๆอย่างคร่าวๆกันก่อนดีกว่า (ในที่นี้ จะกล่าวถึงเพียงบางท่านที่ได้ไปชมห้องมาเท่านั้น ไม่ได้ครบทุกคนเน้อ) 1.King Francis I (ผู้ริเริ่มให้สร้างแต่เคยอยู่ที่นี่เพียงแค่ 72วันเท่านั้น) 2.King Louis XIV (มาอยู่เป็นช่วงสั้นๆประมาณ 9 ครั้ง) 3.Stanislaus Leszczynski (ชื่อนี้เขียนยากมาก เพราะเป็นกษัตริย์ที่ถูกเนรเทศของโปแลนด์ และยังเป็นพ่อบุญธรรมของ Louis XV อีกด้วย) 4.Marechal de Saxe (นายทหารคนเก่งที่ Louis XV พระราชทานปราสาทแห่งนี้ให้) 5.Comte de Chambord หรือ Henri เจ้าของคนล่าสุดก่อนที่จะขายปราสาทนี้ให้เป็นสมบัติของรัฐบาลฝรั่งเศสในปี 1930 จากรูปเรียงตามลำดับ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 13:59:16

ความคิดเห็นที่ 50 หลังจากคิดอยู่นานว่าจะรีวิวแบบไหนดี??? จะเรียงตามลำดับยุคสมัยการปกครอง หรือจะเรียงตามลำดับการเดินชมอันยุ่งเหยิงของ จขกท.ดี เอาเป็นว่าเรียงตามยุคน่าจะดีกว่า(จะได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของการตกแต่งภายในด้วย) ผังห้องของชั้น First floor ค่ะ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:01:39

ความคิดเห็นที่ 51 เริ่มกันที่ .. King Francis I’s Chambers (สีน้ำตาล) อยู่บริเวณปีกขวา(east wing) ของปราสาท ซึ่งแต่เดิมนั้นดำริให้สร้างในบริเวณตัวตึก แต่ยังไงไม่ทราบ ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่ปีกด้านนี้แทน (อาจรำคาญเสียงก่อสร้างมั้ง ..อันนี้เดา-_-“) รูปปั้นย่อส่วนของท่าน จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:04:02

ความคิดเห็นที่ 52 ประกอบด้วย bedchamber,2 studies,a small oratory and council chamber (จขกท.ขอทับศัพท์ เพราะไม่แน่ใจว่าจะแปลถูกมั้ย-_-“) จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:04:53

ความคิดเห็นที่ 53 เท่าที่จำได้จากการอ่านแผ่นป้ายในห้อง เค้าบอกว่าเฟอร์นิเจอร์ห้องนี้ส่วนใหญ่จะเป็นแบบลอยตัว เพื่อให้เคลื่อนย้ายได้ เพราะช่วงเวลานั้นปราสาทยังทำการก่อสร้างอยู่ และ King Francis I จะมาอยู่เพียงช่วงสั้นๆเพื่อล่าสัตว์เท่านั้น จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:06:35

ความคิดเห็นที่ 54 หน้าโซนห้องของ King Francis I จะมีบันไดเวียน(ธรรมดา)ฝั่งตะวันออก จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:07:19

ความคิดเห็นที่ 55 แต่เรายังไม่ขึ้นนะ เดินผ่านบันไดเวียนมาที่ห้องสีน้ำเงินก่อน ซึ่งก็คือ The Queen’s Apartment เป็นห้องของพระมเหสีสองพระองค์ ในพระเจ้าหลุยส์ที่14 คือ Maria Theresa of Austria และ Madame de Maintenon ประกอบด้วยห้องชุดลักษณะเดียวกันกับ King’s Apartment จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:10:12

ความคิดเห็นที่ 56 เดินถัดมาที่กลุ่มห้องสีแดง จะพบกับ The state Apartment (King’s Apartment) สร้างขึ้นในปี 1680 ตามแบบฉบับของ Louis XIV ประกอบด้วย Guard room,1st&2nd Antechambers ,State room และ Private rooms โดยห้องเหล่านี้เชื่อมกันโดยโถงทางเดิน คล้ายๆกับที่แวร์ซายน์ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:11:25

ความคิดเห็นที่ 57 ภาพวาด Louis XIV จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:12:00

ความคิดเห็นที่ 58 แต่การตกแต่งที่เราเห็น ทำขึ้นใหม่ในสมัยศตวรรษที่ 18 โดย Marechal de Saxe คนในภาพเหนือเตาผิงนั่นเอง จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:13:07

ความคิดเห็นที่ 59 ห้องนอนในสไตล์ของ Louis XIV จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:13:53

ความคิดเห็นที่ 60 เดินผ่านห้องชุดของพระเจ้าหลุยส์มาแล้วก็จะพบกับโซนห้องสีชมพู The 18th Century Apartments ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ปราสาทถูกใช้มากที่สุด ในยุคนี้จะเน้นความสะดวกสบายมากขึ้น โดยห้องที่ใหญ่โตจะถูกแบ่ง partitionให้เล็กลง และลดเพดานให้ต่ำลงเพื่อให้ความอบอุ่นจากเตาผิงแพร่กระจายไปทั่วห้องได้เร็วขึ้น ห้องนี้สวยหวานมากกกก >< จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:17:03

ความคิดเห็นที่ 61 ห้องต่างๆเหล่านี้สร้างขึ้นในสมัยของ Stanislaus Leszczynski กษัตริย์ที่ถูกเนรเทศจากโปแลนด์ อาศัยอยู่ที่นี่ช่วงปี 1725-1733 และ Mare’chal de Saxe นายทหารคนสำคัญ ซึ่งพระเจ้าหลุยส์ที่15 มอบปราสาทนี้ให้เป็นรางวัล จากการรบชนะที่ Fontenoy battlefield ในปี 1745 (Saxeก็ได้ใช้เวลา2ปีระหว่างที่อยู่ที่นี่จัดงานปาร์ตี้หรูหราอยู่เป็นประจำ) จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:33:15

ความคิดเห็นที่ 62 มันคือฮีตเตอร์! ช่องสีดำเป็นที่ใส่ฟืนไฟ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:33:51

ความคิดเห็นที่ 63 เดินต่อมาที่โซนห้องสีเขียว จะพบกับ . The Comte de Chambord Museum ห้องสีเขียวมะกอกนี้ อยู่มุมเดียวกับ The hunting room ของชั้น Ground floor ได้รับการตกแต่งใหม่เพื่อแสดงประวัติของท่าน Henri of Artois, Count of Chambord เจ้าของคนสุดท้าย ซึ่งปกครอง Chambord ในช่วงปี 1821-1883 (แต่เคยอยู่ที่นี่เพียงแค่ 3 วัน) ท่าน Henri เป็นราชนิกุลองค์สุดท้ายของราชวงศ์ Bourbons ในฝรั่งเศส ซึ่งเป็นราชวงศ์สำคัญที่ปกครองหลายประเทศในยุโรป ทายาทในปัจจุบันก็คือ ราชวงศ์ของ สมเด็จพระราชาธิบดีฮวน คาร์โลสที่ 1 แห่งสเปนนั่นเอง Ceremonial bed จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:35:23

ความคิดเห็นที่ 64 จากการปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งกษัตริย์ของท่าน Henri ในปี 1871 นี่เอง ฝรั่งเศสจึงประกาศตัวเป็นสาธารณรัฐตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:36:09

ความคิดเห็นที่ 65 ในห้องก็จะแสดงพวกข้าวของต่างๆของท่าน Henri งานแกะสลักและรูปเหมือนของ Duchesse de Berry พระมารดา จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:36:52

ความคิดเห็นที่ 66 เดินไปห้องเล็กๆที่อยู่ติดกันจะพบรูปของท่าน Henri สมัยหนุ่มๆ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:37:21

ความคิดเห็นที่ 67 เราเดินตามส่วนโค้งมุมตึกในโซนห้องสีเขียว ผ่านห้องเล็กๆ หลายห้อง ก็จะออกมาสู่ระเบียงทางเชื่อมจากห้องสีเขียวไปยังห้องสีน้ำเงินได้ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:38:15

ความคิดเห็นที่ 68 จากนั้นเราเดินกลับไปที่ปีกด้านซ้าย (west wing) เพื่อไปยังห้องสุดท้ายของชั้นนี้ (สีม่วง) ทางเดินแอบหลอนๆนิ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:39:52

ความคิดเห็นที่ 69 ผ่านบันไดเวียนทางด้านทิศตะวันตก จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:40:49

ความคิดเห็นที่ 70 ก็จะพบกับ The Chapel ซึ่งพระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1 มีดำริให้สร้าง แต่มาเสร็จสมบูรณ์ในสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่14 โดย Jules Hardouin Mansart สถาปนิกผู้สร้างแวร์ซายน์นั่นเอง ห้องนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดในปราสาท และมีการเปิดเพลงสวดเบาๆขับกล่อมผู้มาเยือนด้วย (หวังว่าเราคงไม่ใช่คนเดียวที่ได้ยินนะ ) จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:43:28

ความคิดเห็นที่ 71 ทางด้านหน้าของ Chamber จะมีบันไดเวียนเพื่อขึ้นไปยัง second floorได้ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:44:46

ความคิดเห็นที่ 72 งั้นขึ้นไปเลยดีกว่า หนาววุ้ยยยย (แต่ในรูปดันเดินลง -_-‘) จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:45:42

ความคิดเห็นที่ 73 จากมุมมองนี้ จะเห็นว่าเราไต่ระดับขึ้นมาที่ second floorแล้ว จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:46:22

ความคิดเห็นที่ 74 ในชั้นนี้ห้องทั้งหมดจะจัดแสดง The Hunting and Wildlife Art Foundation (ห้องสีเขียวทั้งหมด) จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:47:00

ความคิดเห็นที่ 75 เนื่องจาก King Francis I สร้าง Chambordขึ้นมาด้วยความหลงใหลในการล่าสัตว์ ห้องต่างๆในชั้นนี้จึงตกแต่งด้วยพรมประดับผนังเล่าถึงวิธีการล่าสัตว์ในช่วงศตวรรษที่ 16 (ชั้นนี้ไม่มีห้องที่ใช้อยู่อาศัยนะคะ ส่วนใหญ่เป็นห้องโล่งๆ) จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:49:38

ความคิดเห็นที่ 76 และเขากวางจำนวนมาก จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:50:19

ความคิดเห็นที่ 77 จากชั้นนี้(บริเวณกากบาทสีเขียวขี้ม้ารอบบันไดเวียนคู่) เราจะเห็นงานปูนปั้นประดับเพดานโค้ง จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:51:02

ความคิดเห็นที่ 78 ส่วนใหญ่จะใช้ตัวซาลาแมนเดอร์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพระเจ้าฟรองชัวส์ที่ 1 มีประดับอยู่ทั่วปราสาทถึง 700 กว่าชิ้น สาเหตุที่พระองค์ใช้ซาลาแมนเดอร์ เพราะเชื่อว่าเป็นสัตว์ที่ทรงพลังเหนือไฟทั้งปวง (ความหมายตรงข้ามกะเมืองไทยเลยนิ) นัยของความหมายก็คือการมีอำนาจเหนือมนุษย์และโลก ที่ฉลองพระองค์ของกษัตริย์ฟรองซัวส์ ก็มีรูปซาลาแมนเดอร์เช่นกัน จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 14:55:39

ความคิดเห็นที่ 79 ก่อนจะขึ้นไปชั้นบนสุดหรือ The Terraces เราย้อนกลับลงมาตั้งต้นที่บันไดเวียนคู่หลักในใจกลางปราสาทที่ชั้น Ground กันก่อนนะคะ (จากรูปจะเห็นได้ว่าชั้นบนกำลังปิดซ่อม T_T) บันไดเวียนคู่ (The Double Spiral Staircase) สร้างอยู่ตรงกลางห้องโถงโล่งที่ตัดกันแบบกากบาท มีช่องบันไดซ้อนกันอยู่(เหมือนเกลียวของ DNA ) ทำให้ขึ้นและลงแยกจากกันได้เป็นอิสระ มีโครงสร้างเป็นเสาเหลี่ยมแปดเสา อาคารนี้มี 4 ทางเปิด ทำให้ทุกเวลา ทุกฤดูกาลแสงจะผ่านเข้ามาถึงตรงกลางได้โดยตลอด (แต่ก็ทำให้ฤดูหนาว หนาวมากยิ่งขึ้นเพราะมีช่องลมเยอะ เหมือนที่จขกท.ประสบอยู่ตอนนี้ ><) จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 15:03:22

ความคิดเห็นที่ 80 สาเหตุที่สร้างบันไดแบบนี้เพื่อขึ้นได้ทางหนึ่ง ลงได้อีกทางหนึ่งโดยไม่สวนกัน มีประโยชน์มากยามเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือรบพุ่งกัน แต่ยามสงบสุขกลายเป็นที่เล่นซ่อนหาของพวกขุนนางและนางกำนัล -_-“ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 15:06:05

ความคิดเห็นที่ 81 ถึงแม้ว่าจะมีหน้าต่างที่มองเห็นกันได้ตลอด แต่คนกะกล้องเดินไม่เจอกันเลยจนไปโผล่ที่ Terraces ข้างบน จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 15:08:00

ความคิดเห็นที่ 82 ตอนแรกไอ้เราก็ดีใจ นึกว่าแดดออกแล้ว แหม สว่างจ้ามาเชียว จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 15:08:31

ความคิดเห็นที่ 83 แต่ .โดนหลอก เพราะแสงที่เห็นมันเกิดจากสิ่งนี้ สปอร์ตไลท์ -_-“ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 15:09:10

ความคิดเห็นที่ 84 เดินขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงชั้นบนสุด จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 15:09:42

ความคิดเห็นที่ 85 จริงๆยังสามารถเดินขึ้นไปได้อีก ถ้าผ่านประตูไม้ที่เห็นเข้าไปได้ (ซึ่งมันปิดล็อคอยู่) จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 15:10:47

ความคิดเห็นที่ 86 ออกมาก็จะพบกับ ..ลม ที่พาความหนาวเข้ากระดูกมาให้ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 15:11:47

ความคิดเห็นที่ 87 ทางที่เราขับรถเข้ามาตอนแรก ที่เห็นปราสาทอยู่ลิบๆ จากคุณ : underhill เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 15:12:30