ความคิดเห็นที่ 1 มากมายค่ะ  จนใครๆแซวว่า  ซากุระบานในหัวเต็มไปหมด จากคุณ : โปรดอย่าเห็นฉันเป็นสนามอารมณ์ เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 22:22:44

ความคิดเห็นที่ 2 เป็นหนึ่งสิ่งที่ทําให้ผมประทับใจประเทศญี่ปุ่นครับ นอกจากศิลปะวัฒนะธรรม จากคุณ : วางแผนดีๆแล้วจะรักยุโรปครับ เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 22:25:07

ความคิดเห็นที่ 3 อ่านแล้วรู้สึกดีจังค่ะ...จนอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นเลยละคะ ^^ จากคุณ : ก็อยากจะเปรี้ยว เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 22:25:14

ความคิดเห็นที่ 4 ผมประทับใจคนญี่ปุ่นมากๆครับ หลายเรื่องมาก มีครั้งหนึ่งที่อึ้งๆ คือ ผมก็หลงทางที่ shibuya ตอนฝนตกกำลังหาทางจะไป แบบกางแผนที่เต็มที่ อยู่ดีๆหนุ่มนักเรียนวัยรุ่นญี่ปุ่นก็เดินมาถามเป็นภาษาอังกฤษเลย ว่ามีอะไรให้เขาช่วยไหม หลงรึเปล่า (ถึงแม้ภาษาเค้าจะไม่ดีมาก) ก็เป็นครั้งที่ประทับใจมากๆครับ จากคุณ : ชาเนสทีปั่น เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 22:31:38

ความคิดเห็นที่ 5 ประทับใจมากมาย ตรงไฟเขียวไฟแดง ถนนว่างแค่ไหน ไฟคนข้ามได้ไม่ขึ้น คุณเธอก็รออยู่อย่างนั้น จากคุณ : mamao เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 22:34:24

ความคิดเห็นที่ 6 ชอบวัฒนธรรม คนญี่ปุ่นมากค่ะ สอนให้คิดถึงคนอื่นเสมอค่ะ .... ทั้งเรื่องใหญ่ ไปจนถึงเรื่องเล็กน้อย...   เช่น แค่ดึงตะเกียบให้แยกจากกัน ยังดึงแนว บนล่าง เลยค่ะ ถามเค้า เค้าบอกว่า ถ้าดึง แนวแยก ซ้ายขวา แขนเราอาจจะไปโดนคนอื่นได้ .... โห... เรา คิดไม่ถึงเลยค่ะ .... จากคุณ : s_anutt เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 22:36:11

ความคิดเห็นที่ 7 คุณลุงคุณป้า รวมถึงวัยรุ่นและเด็กที่เจอ น่ารักมาก คุณป้าคนหนึ่งนั่งติดกะแม่เราในชิงคังเซน พอรถจอดที่สถานีหนึ่ง เขาชวนแม่เราคุย(ภาษาญี่ปุ่นซึ่งแม่เราพูดและฟังไม่ได้) แล้วทั้ง2สาวก็หัวเราะกันคิกคัก ถามแม่ว่าคุยกันเข้าใจเหรอจ๊ะ แม่บอกว่าเขาสะกิดให้แม่ดูวัยรุ่นชายใส่กุงเกงหลุดก้นเห็นหลุมดำตรงหน้าต่าง แล้วแม่เราก็คุยภาษาไทยผสมภาษามือกับป้าคนนี้จนถึงuenoเลย ก่อนจากกันเขาจับมือลากับแม่เราด้วยน่ะ ^^ จากคุณ : สีน้ำ -_- เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 22:40:16

ความคิดเห็นที่ 8 ประทับใจคนเหมือนกันค่ะ ใจดีทุกคนเลย จากคุณ : MMTaro เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 22:54:43

ความคิดเห็นที่ 9 มากกกกค่ะ เจอคนญี่ปุ่นดีๆ มีน้ำใจเยอะมากค่ะ ถ้าจะให้เล่า คงต้องขอยึดพื้นที่กระทู้นี้แล้วล่ะค่ะ ^^ จากคุณ : pammap เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 22:56:02

ความคิดเห็นที่ 10 เพิ่งเจอสดๆก่อนกลับต้องไปส่งครอบครัวพี่สาวกับภรรยา และลูกๆ ให้กลับก่อน รถไฟที่จะต้องมาตรงเวลาเสมอ ไม่มา ถามนายสถานีก็สื่อสารกันไม่ค่อยรู้เรื่อง มีวัยรุ่นใส่สูทเดินมาสะกิดผม แล้วถามว่าจะไปสนามบินใช่มั้ย ให้ขึ้นรถตรงไหนและไปต่อที่ไหนอีกโดยคุยภาษาอังกฤษที่เราเข้าใจ ถ้าไม่ได้เจอคงต้องเสียเวลาอีกมาก จนตกเครื่องบินได้ จากคุณ : Eakarin เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 23:09:44

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่ทุกคนครับ เคยถามวิธีกดบัตรรถไฟ เพราะสถานนีนั้นมันไม่มีภาษาอังกฤษเลย เลือกแบบหนุ่มหน่อยใส่สูทเผื่อจะพูดอังกฤษเป็นบ้าง เค้ามองหน้าทำหน้านิ่งๆเดินไปเฉยเลย...ไม่พูดไม่ใส่ใจดั่งเราเป็นแมลงตัวนึง จากคุณ : cantare เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 23:36:00

ความคิดเห็นที่ 12 แต่รวมๆ คนญี่ปุ่นน่ารักมากครับ จากคุณ : โฮจุนแห่งกรุงศรีอยุธยา เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 23:56:18

ความคิดเห็นที่ 13 ประทับใจหัวใจบริการของเค้าค่ะ บริการซะจนเราเกรงใจ แต่พอพ้นชั่วโมงงานไปแล้วเค้าก็กลับคืนสภาพชีวิตเค้าแหละค่ะ ไม่ว่ากัน เรายังมีเรื่องให้ประทับใจคนญี่ปุ่นอีกเยอะ ^____^ (ผู้ชายญี่ปุ่นนี่ช้อบชอบ 555555) จากคุณ : orenji_evilcat เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 23:59:46

ความคิดเห็นที่ 14 เขาก็มีทั้งด้านดีและไม่ดีแหละครับ อยู่ที่เราจะเลือกมองเขาด้านไหน จากคุณ : โอซาก้า เลิฟเว่อร์ เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 00:04:52

ความคิดเห็นที่ 15 ชอบตรงใจดี พาไปส่งถึงที่หมายเวลาหลงทางเนี้ยแหละครับ หลาย ๆ ครั้งเลยที่หลง ชอบน้ำใจของคนญี่ปุ่นมาก ๆๆๆ จากคุณ : น้ำค้างเดือนเก้า เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 00:23:45

ความคิดเห็นที่ 16 คนญี่ปุ่นมีนิสัยโดยรวมค่อนข้างเฉพาะตัวนะครับ มีจริตแบบญี่ปุ่นๆแบบที่พยายามนึกก็นึกไม่ออกว่ามีคนชาติไหนเป็นแบบนี้อีก มีความขี้อาย กล้าๆกลัวๆอยู่ เวลาขอความช่วยเหลือจะมีทั้งแบบช่วยสุดๆ กับแบบกลัวคนต่างชาติจนเดินหนี เป็นชาติที่ไว้ใจได้มากที่สุดชาติหนึ่ง ไปแล้วรู้สึกปลอดภัยทุกครั้ง จากคุณ : M E T R O S E X Y เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 00:34:10

ความคิดเห็นที่ 17 มากมายค่ะ หลายอย่างมาก ชอบความมีวินัยของคนประเทศนี้ที่สุด ถึงจะเป็นประเทศที่ดูรีบเร่ง วุ่นวาย แต่ที่แน่ๆ เขาไม่เคยล้ำเส้นใคร เรื่องการบริการ และ การให้ความสำคัญกับทุกๆสิ่งๆ ถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย ตั้งแต่เหยียบเข้าไปในญี่ปุ่น เรื่องการบริการนี่ ไม่เจอเลย ที่มาโมโหใส่ ไม่พอใจ หน้าบึ้ง หรือทำส่งๆไป เหมือนทุกสิ่งอย่าง ทำมาจากความตั้งใจจริงๆ จากคุณ : bOrEd เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 00:38:06

ความคิดเห็นที่ 18 เราเคยเจอคนญี่ปุ่นแซงคิวบนรถไฟ แซงคิวร้านสะดวกซื้อ ยืนท้าวแขนชนหัวบนรถที่่วิ่งข้ามจังหวัด คุยกันเสียงดัง เป็นชั่วโมง ๆ ก็ยังไม่หยุดคุย ขี้นรถบัสไม่ยอมขยับที่ให้ ตัวเองยืนสบาย ๆ ปล่อยให้คนอื่นต้องมายืนเบียดกันแน่น แกล้งคิดเงินผิด (รู้เลยค่ะว่าแกล้ง ไม่ใช่ว่าคิดผิด) แต่ก็เป็นส่วนน้อยมากค่ะ ส่วนใหญ่จะเจอแถบคันไซ คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะมารยาทดี และมีน้ำใจมากระดับหนึ่ง เป็นประเทศที่เที่ยวแล้วสบายใจที่สุดประเทศหนึ่งค่ะ จากคุณ : Coaststarlight เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 00:51:12

ความคิดเห็นที่ 19 นอกจาก ความมีระเบียบวินัยแล้ว เรื่องหัวใจในการบริการต้องยกให้คนญี่ปุ่นจริงๆเลยค่ะ... (แม้ว่าส่วนใหญ่จะทำไปตามหน้าที่ก็ตาม แต่ก็อดชื่นชมไม่ได้น่ะค่ะ) เคยซื้อเหล้าบ๊วย ขวดเล็กๆราคาไม่เกิน 2'000 เยน ที่ Daimaru บอกว่าจะเอาขึ้นเครื่องกลับ เค้าห่อให้อย่างดีเลยค่ะ (ใส่พลาสติกกันกระแทกแบบหลายชั้นมากๆ) บังเอิญเข้าไปในร้าน Onigiri (แบบทำตามสั่ง) ไม่ทราบว่าไส้มีอะไรบ้าง พ่อครัวพยายามอธิบาย แต่ก็พูดกันไม่รู้เรื่อง คิดว่าเค้าคงรำคาญ เพราะเดินหายไปในครัวเลย แต่ปรากฎว่า เค้าเดินกลับมาพร้อมกับถาดซึ่งมีกล่องหลายกล่อง คือเป็นไส้ทุกอย่างที่เค้ามี แล้วเค้านำมาโชว์ให้ดูน่ะค่ะ ไปร้านอาหารโดยไม่ได้จองล่วงหน้า โต๊ะเค้าเต็ม พนักงานก็ขอโทษ โค้งแล้วโค้งอีก เสมือนว่าเป็นความผิดของเค้าเองน่ะค่ะ ฯลฯ ส่วนตัว ประทับใจแทบจะทุกอย่างในประเทศนี้เลยค่ะ... จากคุณ : Miss_Behaving เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 03:23:25

ความคิดเห็นที่ 20 ครั้งแรก ที่โอซาก้า หลงทางหาโรงแรมไม่เจอ เข้าไปถามคนในร้านคอมบีนี่ มีคุณลุงคนนึง พาเดินไปส่งจนเกือบถึงหน้าโรงแรม ครั้งที่สองไปนิโจ้ หลงเหมือนกัน เจอผู้หญิงญี่ปุ่น ลองส่งภาษากับเขาดู คือภาษาเราก็ไม่ดีนะ แต่เขาพยายามช่วยมาก บอกทาง เราเดินไปตามทางที่เขาบอก ปรากฎว่าเขาเดินตามมาห่างๆ พอเห็นว่าไปถูกแน่ เขาค่อยแยกไปทำธุระของเขาน่ะ อีกครั้งก็ตอนซื้อตั๋วที่สถานีโตเกียว พนักงานพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย ภาษาญี่ปุ่นเราก็จำกัดมาก มีวัยรุ่นที่พูดภาษาอังกฤษได้มาช่วย พอเห็นท่าเราจะพูดกันไม่รู้เรื่อง ก็เลยมาช่วยเป็นล่ามให้ ผู้คนเขามีระเบียบวินัย มีมารยาทดี และมีน้ำใจช่วยเหลือนักท่องเที่ยวมาก ประทับใจจนอยากกลับไปเที่ยวทุกปี (ถ้าไม่ติดตรงว่าต้องปั๊มเงินก่อน) จากคุณ : ข้าวปั้น เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 05:58:57 A:122.111.0.97 X: TicketID:188044

ความคิดเห็นที่ 21 ของเรานี่ไปเที่ยวที่ตึกม่วงกับเพื่อนสองคนค่ะ คือตั้งใจจะไปดูเครื่องสำอางค์ แต่ทีขายเครื่องสำอางค์จะอยู่อีกตึกนึงใกล้ตึกม่วงนะคะ เรากับเพื่อนก็กดลิฟท์ขึ้นไปเลยชั้นบนสุด อ้าวทำไม่มีล่ะ เดินลงบันไดลงมาที่ละชั้น คือที่บันไดจะมีรายการของแต่ละชั้น กำลังอ่านอยู่ก็มีผู้หญิ่งญี่ปุ่นเข้าก็มายืนมองๆ เรากับเพื่อน แล้วเค้าก็ส่งภาษาอังกฤษมาเลยค่ะ ว่าต้องการให้ช่วยเหลืออะไรมั้ย เราก็เลยบอกว่าอยากมาซื้อเครืองสำอางค์ เขาจูงมือเราลงเดินไปอีกตึกเลยค่ะ เดินไปส่งถึงทีเลย พูดคุยดีมาก ๆ เรากับเพื่อนประท้บใจมากเลยค่ะ ...... จากคุณ : ณชนก (ณชนก) เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 07:37:31

ความคิดเห็นที่ 22 โดยรวม คนญี่ปุ่นค่อนข้างดี เป็นระเบียบ มีเย็นชาบ้างสำหรับบางคน รายได้จากนักท่องเที่ยว ก็มีส่วนที่ทำให้คนญี่ปุ่น เต็มใจที่จะให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ปีๆหนึ่งมีคนทั่วโลกมาเที่ยวญี่ปุ่น ถ้าพวกเขาทำเฉยเมย เย็นชา หรือให้บริการที่ไม่ประทับใจ แก่นักท่องเที่ยว ใครจะอยากมาซ้ำสอง สำหรับท่านที่เคยขึ้นรถเมล์ที่ญี่ปุ่น จะเห็นได้ว่าต่างกับที่ไทยมากๆ ไม่ว่าท่านจะต้องนั่งรถวีลร์แชร์ ท่านคือคนสำคัญ จะได้รับการบริการจาก พนักงานขับรถ จอดรถ มานำสะพานพาดเพื่อให้วีลร์แชร์ของคุณขึ้นไปบนรถเมล์ รอจนเข้าที่เรียบร้อย จึงออกรถ และกล่าวขอโทษผู้โดยสารคนอื่นที่ทำให้เสียเวลา เวลาลง พขร.ก็จะทำเช่นเดียวกัน ดังนั้น ผู้ใช้วีลร์แชร์ จึงสามารถเดินทางไปไหนมาไหนเองได้สะดวกพอสมควร จากคุณ : พนอจัน เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 07:52:33

ความคิดเห็นที่ 23 มวากกก....ค่ะ คนญี่ปุ่นเค้าสุภาพ อ่อนโยน ใจดี ต้อนรับนักท่องเที่ยว สุดๆ จากคุณ : ไส้สอด เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 08:17:35

ความคิดเห็นที่ 24 ไปคนเดียวก็เลยต้องถ่ายรูปตัวเองโดยใช้กล้องแบบที่พับจอเข้าหาตัวได้ ก็มีคนมาเสนอถ่ายรูปให้สองสามครั้ง แต่ก็ปฏิเสธไปเพราะหวงกล้อง (เคยอ่านกระทู้เรื่องคนถ่ายรูปให้แล้วทำกล้องพังเลยกลัว) แต่ยังไงก็ยังซาบซึ้งในน้ำใจของเขาอยู่ดี แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 55 09:53:03 จากคุณ : Timin2101 เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 08:27:38

ความคิดเห็นที่ 25 ประทับใจมากกกกกกกกกค่ะ เราประทับใจจริงๆ คนที่นั่นช่วยเหลือเราอย่างเต็มที่จริงๆ เราหลงทาง หรือหาทางขึ้นรถไม่ได้ คือเราพูดภาษาเค้าไม่ได้ เค้าก็พูดengไม่ได้เช่นกัน แต่คุยกันรู้เรื่อง ฮ่าๆ คือเราไปขอความช่วยเหลือ ใคร เค้าก็ช่วยเหลือเราหมดเลยค่ะ อยากจะเล่ามาก เกรงจะยาวไป แต่ขอยก ตย ละกัน เราจะขึ้นรถเมล์ ไป พิพิธภัณฑ์ แต่ไม่แน่ใจว่าถูกสายไหม ไปถามผู้ชายคนนึง เค้าก็พยายามsearch Internetให้เรา แล้วก็ บอกว่า อ่อไปสายนี้นะ แล้วเราไม่เคยขึ้น บัส เลย เลยถามเค้าค่ะ เค้าก็โอเค แล้วบอว่าง่ายมากกก รอแป๊ปนึง รถก็มา เค้าก็เดินนำหน้าเราไป แล้วสอนวิธีใช้ตั๋วค่ะ แล้วเค้าก็เดินไปบอกคนขับ คงประมาณว่า เราจะไปที่นั่นนะ ประมาณนั้นค่ะ แล้วเค้าก็เดินลงไปจากรถเลย เราก็อ้าววว ไม่ได้ขึ้นคันเดียวกันหรอ เค้าก็ส่ายหน้ายิ้มๆ เราตกใจมากก ไหว้เค้าใหญ่เลย แล้วเค้าก็ชูนิ้วว่า เค้าจะไปบัสหมายเลข3. คือที่เราตกไจเพราะว่า เราถามเค้าแล้ว เค้าก็บอกว่าไป4ค่ะ ซึ่ง เราเห็นว่า3เนี่ยมาก่อน4ไม่นาน แล้วประมาณครึ่งชั่วโมง 3ถึงจะมาอีกคร ั้ง เราแบบโอ้โห ประทับใจจริงๆ ยิ่งคนบริการนะคะ ยิ่งประทับไจค่ะ จากคุณ : เขียนบน iPhone (หมูหวานน้ำกะทิ) เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 09:26:27

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ ส่วนใหญ่ประทับใจในการมีจิตบริการ   จิตสาธารณะ  ถึงแม้บางคนเค้าจะทำตามหน้าที่ แต่ก็รู้สึกได้ว่าทุกคนพยายามทำหน้าที่เค้าดีที่สุด นี่คือสิ่งดีที่รู้สึกได้ นอกจากประทับใจ และกลับมาทบทวนตัวเอง แล้วรู้สึกว่าจะอยากทำหน้าที่ตัวเองให้เต็มที่มากขึ้น เนอะ จากคุณ : erbhern (erbhern) เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 09:30:37

ความคิดเห็นที่ 27 ในฐานะนักท่องเที่ยวก็ประทับใจครับ แต่เคยมีเจ้านายเป็นคนญี่ปุ่นครับ .. งานหนักเกินไปครับ จากคุณ : realp** เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 09:47:38

ความคิดเห็นที่ 28 มากมายเหมือนกัน    แต่ไม่เข้าใจอยู่ 1 สิ่ง ทำไม่พอพวกเขาเหลานั้นมาอยู่ประเทศไทย ถึงมีนิสัยกลับกัน??? ปล. หรือเราคิดไปเอง จากคุณ : SoOn-Mai-Ka เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 09:53:11

ความคิดเห็นที่ 29 จะว่าประทับใจก็ได้นะครับ ไม่ประทับใจก็ได้ ที่ไม่ประทับใจ เวลาเดินทาง คนญี่ปุ่นจะต่างคนต่างอยู่ ต่างเดิน หน้านิ่งๆ เหมือนหุ่นยนต์ แต่ที่ประทับใจ เมื่อเราถามอะไร เค้าจะกระตือรือร้นช่วย ถึงแม้พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ก็ตาม เคยนั่งรถไฟ เจอกลุ่มอาม่าทั้งหลายแหล่เดินเข้ามา เรารีบลุกให้นั่งทั้งก๊วน 4 คน พวกเค้าขอบคุณกันใหญ่ ชวนคุยด้วยภาษาอังกฤษว่ามาจากประเทศไหน เราบอกว่า เราเป็นคนไทย โอ๊ยยยย ดี๊ด๊ากันใหญ่ บอกว่าเพิ่งกลับจากเมืองไทย ชอบมากๆๆๆ คนไทยมีน้ำใจ ยิ้มเก่ง ช่วยเหลือดี ชอบเมืองไทยมากๆๆๆ คุยกันสักพัก พอถึงสถาณี เราต้องลง โบกมือบ๊ายบายกันใหญ่ จนรถไฟลับตานั่นแหละ น่ารักเชียว จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 10:02:13

ความคิดเห็นที่ 30 ประทับใจตั้งแต่ยังไม่เคยไปญี่ปุ่นเลยค่ะ ทำงานกับชาวญี่ปุ่นมีความสุขมาก แม้งานจะหนัก ทุ่มสุดตัว หืดขึ้นคอ แต่สุขใจอย่างบอกไม่ถูก จากคุณ : Always wrong เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 10:20:10

ความคิดเห็นที่ 31 ไปมาเมื่อเดือนที่แล้ว... ถามทางตลอดเหมือนกัน... และทุกครั้งที่ถาม ก็ไม่เคยได้รับการปฏิเสธเลย.. ถึงจะพูดไม่ได้..ก็วิ่งวุ่นพยายามหาคนที่พูดอังกฤษได้มาช่วย... อย่างนี้จะไม่รักญี่ปุ่นได้อย่างไร? ที่สถานีรถไฟทุกแห่ง.. ถามเจ้าน้าที่ที่ประจำสำนักงานสถานีทีไร.. คุณท่านได้วิ่งวุ่นตื่นตระหนกหาทางช่วยผมสุดชีวิตทุกครั้ง.. จากคุณ : หมู4X เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 10:47:13

ความคิดเห็นที่ 32 อ่านทุกความเห็นแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้จริงๆ ถ้าคนไทยเอานิสัยของคนญี่ปุ่นมาใช้ซักนิ๊ดดดด ประเทศคงจะดีขึ้น แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 55 11:11:18 จากคุณ : vsjmu เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 10:57:48

ความคิดเห็นที่ 33 ชอบที่คนเค้ามีระเบียบวินัย ทำอะไรทำจริงจัง มีจิตสาธารณะสูง เคารพในสิทธิของกันและกัน ไม่มีล้ำเส้น ไม่น่าแปลกใจ ทำไมประเทศเค้าถึงได้เจริญขึ้นมาได้ขนาดนี้ จากคุณ : พริกดอง พริกน้ำส้ม เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 11:53:51

ความคิดเห็นที่ 34 เหมือนหลายๆ คห.ค่ะ การช่วยเหลือ โดยเฉพาะเรื่องบอกทาง เราถามทาง เขาไม่ได้บอกเฉยๆ แทบจะจูงมือไปส่งถึงที่ ไม่ถามยังบอกเลย รอชินคันเซนครั้งแรกตอนเริ่มทริปที่ชินโอซาก้า สถานีใหญ่ขนาดนั้นน่ะคิดดูซิ น้องผู้ชาย แต่งตัวคล้าย porter หรืออะไรก็ไม่แน่ใจ เดินมาขอดูตั๋ว บอกถูกชานชาลาแล้ว แต่คุณยืนผิดที่นะ ตู้เบอร์นี้ ต้องเลยลงไปอีก(ค่อนข้างไกลทีเดียว) เพราะขบวนรถ ถ้าความยาวโบกี้ต่างกัน บางตู้ที่เบอร์เดียวกัน จะยืนรอคนละช่อง น้องเค้าคงเล็งแล้วว่ายัยนี่นักท่องเที่ยวแหง๋ม ยืนไม่มีใครมาต่อแถวอยู่คนเดียว รถไฟมา เจ๊แกวิ่งไม่ทันแน่นอน ท้ายๆ ทริป ถามแล้วเขาช่วยเหลือเราจนเริ่มเกรงใจคนญี่ปุ่น ต้องหาเองให้เจอก่อน หาไม่เจอจริงๆ แล้วค่อยถาม แถมรู้สึกไม่ดีตอนมีคนญี่ปุ่นมาถามทางเรา 5555 แล้วเราช่วยเขาไม่ได้อ่า ไม่ได้เจอครั้งเดียวนะคะ ตั้งสองครั้ง ในโอซาก้า แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 55 12:03:40 จากคุณ : la liga fan เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 11:56:57

ความคิดเห็นที่ 35 เรื่องความช่วยเหลือเรื่องทางนี่สุดยอดจิงๆค่ะ เราไม่ค่อยหลงหรอก เคยอยู่ทีเดียวหาร้านไม่เจอ เข้าไปถามวัยรุ่นคนนึง เค้าไม่รู้จัก เค้าพาเราเดินไปร้าน 7-11 แถวนั้น เพื่อถามพนักงาน ที่ร้าน 7-11 ให้เรา พนักงานก็ไม่รู้ ไปลากเพื่อนพนักงานออกมาถามกันใหญ่ เราถึงกะงง และเกรงใจมากกกก คือไม่รู้ไม่เป็นไรนะจ๊ะ จากคุณ : mamonly เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 12:37:10

ความคิดเห็นที่ 36 วันนั้นยืนล้างมือหน้าห้องน้ำในร้านฟาสต์ฟู้ดแห่งหนึ่ง เนื่องจากร้านเขาเล็กมาก พนักงานออกมาจากห้องน้ำเปิดประตูชนผม เขาก็ขอโทษขอโพยใหญ่ ค้อมแล้วค้อมอีก ผมก็บอกว่า It's OK, don't worry. ไม่รู้เข้าใจมั้ย หลังจากค้อมขอโทษไปหลายทีผมก็ล้างมือเสร็จ กำลังจะเข้าห้องน้ำ พนักงานคนเดิมซึ่งหนีไปหลบผมอยู่มุมเสาก็ค่อยๆโผล่ออกจากเสามาเพื่อล้างมือ(เขายังไม่ได้ล้างไง) ผมเห็นแล้วก็แอบขำในความขี้เกรงใจของคนประเทศนี้ น่ารักดีนะ จากคุณ : พ่อแมวอ้วน เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 12:52:42

ความคิดเห็นที่ 37 มากมายที่สุดแล้วค่ะ ชอบมากๆ จากคุณ : ^^CrAnKY_DevIL^^ เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 12:53:20

ความคิดเห็นที่ 38 นอกเรื่อง @ 7 คุณสีน้ำ พูดจ๊ะ จ๋า กับคุณแม่จริงๆหรือคะ น่ารักมากมาย อ่านแล้วอยากคุยกับแม่ขึ้นมาทันที จากคุณ : bejinpao เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 13:54:30

ความคิดเห็นที่ 39 ที่อ่านๆมาก็เห็นด้วยนะครับ แต่คนไทยก็บริการต่างชาติ มีความเป็นมิตรจนเลื่องลือกันทั่วโลก แต่กับคนไทยด้วยกัน.......อื่ม จากคุณ : แพรมรกต เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 14:28:43

ความคิดเห็นที่ 40 @38 คุณ  bejinpao   พูดตอนปกติก็จ๊ะจ๋าอ่ะค่ะ  บางทีก็..อะไรยะหร่อน 555^^'' ไปเที่ยวด้วยกันสองคนครั้งล่าสุดนี้ เราทึ่งแม่เรามากอ่ะค่ะ (บางทีก็ไปชวนคนญี่ปุ่นเขาคุยก่อน ==') พาแม่เดินจากสถานีรถไฟคาวากุชิโกะ เพื่อไป kachi kachi ropeway  คือปกติแม่เราจะเดินไม่ได้ขนาดนั้นอ่ะค่ะ แต่อาศัยลูกฮึดที่เจอคนแก่ที่เจอเขาเดินกันชิลล์มาก แม่เราเลยเอาอย่างเขาบ้างอ่ะค่ะ คุณป้าเสื้อชมพูคือแม่เราอ่ะค่ะ ตอนลงจากรถไฟ คุณป้าคนญี่ปุ่นคนนี้โบกให้แม่เราทางหน้าต่างด้วยน่ะ แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 55 08:27:35 แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 55 14:38:04 จากคุณ : สีน้ำ -_- เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 14:37:17

ความคิดเห็นที่ 41 เราก็เคยเจอประสบการณ์แบบเดียวกับจขกท.เลยค่ะ เราจะไปร้าน Johnny Shop ที่โอซาก้า มีแผนที่อยู่ในมือเรียบร้อย แต่แผนที่เป็นภาษาญี่ปุ่นนะ ^^" เราว่าเราก็เดินตามแผนที่แล้วนะ แต่สุดท้ายก็หลงจนได้ เราเลยถามคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนั้น กางแผนที่ให้ดู คนแรกไม่รู้จัก เค้าก็ไปตามเพื่อนเค้ามา ปรากฏว่าเพื่อนเค้ารู้จัก ตอนแรกก็จะอธิบายทาง แต่เค้าพูดญี่ปุ่นไม่ได้ สุดท้าย เค้ากับเพื่อนกลุ่มใหญ่ของเค้า พาเราเดินไปส่งถึงหน้าร้านเลยค่ะ ประทับใจมากกกก ทั้งๆที่กลุ่มนั้นเป็นกลุ่มวัยรุ่น แต่งตัวเปรี้ยว ผู้ชายก็สกินเฮด เจาะหูด้วย ตุ่มหูอันเบ้อเริ่ม คนนี้พอพูดอังกฤษได้ เลยเดินไปคุยไปกับเรา แต่เราก็พูดมั่วๆเหมือนกัน 555 ประทับใจสุดๆจนถึงทุกวันนี้เลยค่ะ พูดแล้วก็อยากไปญี่ปุ่นอีกเร็วๆจัง และจะกลับไปร้าน Johnny Shop ที่เคยทำให้เราหลงทางด้วย ^^ จากคุณ : ตุ๊กตาไขลาน เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 14:48:23

ความคิดเห็นที่ 42 เคยขึ้น limousine bus จากโรงแรม พนักงานยืนโค้งส่งเราขึ้นรถรอบนึง พอรถวนผ่านน้ำพุออกไปถนนใหญ่ ก็เห็นเค้าโค้งให้เราอีกรอบนึง จากคุณ : DoRaePEET เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 15:10:47

ความคิดเห็นที่ 43 อ่านทู้นี้แล้วยิ่งอยากไปญี่ปุ่นขึ้นอีกเลยเรา จากคุณ : Baby_I Know_U Know เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 16:10:40

ความคิดเห็นที่ 44 มีทั้งประทับใจ และไม่ประทับใจครับ ที่ประทับใจคือ ความพยายามที่จะช่วยเหลือเราเมื่อเรามีปัญหา ชี้มือชี้ไม้ ก็พอบอกได้ รวมไปถึงความขยันขันแข็งในการทำงาน ดูตั้งใจทำงานกันจริงๆ แต่ที่ไม่ค่อยประทับใจก็จะมีเช่น การทำงานที่ตรงเหมือนกับหุ่นยนต์เกินไป มีวันนึงที่ผมแทบฟิวส์ขาด นั่งรถเมล์ไปสถานี Shin-Iwakuni พอถึงสถานีผมคิดว่ารถน่าจะจอด จึงไม่ได้กดปุ่มจะลง ปรากฎว่ารถขับเลยผ่านไป รถออกจากตัวสถานีผมกดกริ่ง คนขับไม่สนใจครับ ขับไปเรื่อยๆ คนญี่ปุ่นเองก็สังเกตความผิดปกติของคนไทยสองตัวนี้ได้ ผมก็เลยเดินไปบอกคนขับ คนขับก็ไม่จอด ไม่พูดไม่จาด้วย จนสุดท้าย คนขับยอมจอดตรงแนวใต้ทางรถไฟชินกังเซ็น ห่างจากสถานีราว 1 กิโลเมตร ให้เราเดินย้อนกลับไปเอง ซึ่ง คุณป้าที่นั่งท้ายรถ ก็ทำนิ้วชี้บอกทางให้ เดินกลับไปสถานีราวสิบกว่านาทีครับ ก็แอบเซ็งเหมือนกัน อะไรกันเนี่ยะ .... คือคนทำงานบริการค่อนข้างตรงเป๊ะแบบหุ่นยนต์ ในขณะที่คนทั่วๆ ไปดูจะเต็มใจช่วยเหลือมากกว่า จากคุณ : ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์ เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 17:14:27

ความคิดเห็นที่ 45 ขอแชร์บ้างค่ะ เป็นความประทับใจตอนทริปที่เราไปครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว 1. ที่สถานีรถไฟ Nagoya - เนื่องจากสถานีมันใหญ่มาก+เรากะเพื่อนๆ ที่ไปก็เดินงงๆ ไม่รู้จะออกทางไหนเพื่อไป รร.ที่พัก (คือถึงแม้จะออกถูกทาง แต่ก็ยังต้องคลำทางไป รร. อยู่ดี) เลยไปถามทางคุณอาคนนึง (เพื่อนเราพูดญี่ปุ่นได้บ้าง) คุณอาจัดเต็มโดยโทรไปหา รร. ที่เราพักเพื่อคอนเฟริ์มเรื่องทาง + พาพวกเราออกจากสถานีไปส่งจนเกือบถึง รร. <<< กะเหรี่ยงไทยได้แต่ร้องโอ้โหหห ... เพราะเพิ่งมาถึงญี่ปุ่นเป็นวันแรก+เป็นทริปญี่ปุ่นครั้งแรกก็เจอน้ำใจขนาดนี้ เพราะคิดว่าแค่ช่วยชี้ทางให้ว่าจะต้องเดินออกจากสถานีทางไหนก็เป็นบุญคุณแล้ว :D 2. ที่ Takayama -ไปกินทางโกะยากิ+โอโคโนะมิยากิที่ร้านของคุณลุงกะคุณป้าคู่นึง อร่อยมากกกก ที่โต๊ะลูกค้าแต่ละโต๊ะจะมีเตาให้ทำทาโกะยากิกินเอง สำหรับลูกค้าที่อยากทำเองหรือไม่งั้นก็สั่งเค้าทำก็ได้ (ทำจากเตาใหญ่ที่ครัวหน้าร้าน) แล้วนั่งรอกินก็  แต่กะเหรี่ยงไทยอย่างพวกเราขอทำเองอยู่แล้ว  เค้าคงรู้ว่าอิพวกนี้ไม่รู้ว่าต้องใส่อะไรก่อนหลัง ก็มายืนช่วยทำ  ตอนที่ทำเราเอามือถือมาถ่ายวีดีโอไว้ ลุงก็สอนทำไป+หันมาเล่นกล้องไป เฟรนด์ลี่ได้อีก <<< กะหรี่ยงไทยเพลิดเพลินกับร้านนี้มาก นอกจากจะช่วยสอนทำแล้ว ยังใจดีช่วยอธิบายทาง/แผนที่ให้อีก :D - ไปกินมื้อเย็นที่ร้านอาหารร้านนึง เจอลุงกะป้าเจ้าของร้าน แล้วพวกเราก็สไตล์เดิมคือไม่แค่กินอย่างอย่างเดียว ต้องชวนคุยถามนู่นนี่เต็มไปหมด (ก็มันตื่นตาตื่นใจอ่ะ อะไรๆ ก็เลยอยากรู้ 555) ฝ่ายป้านี่ฝีมือขั้นเทพในการทำข้าวหน้าเนื้อมาก เรากะเพื่อนโหวตให้เป็นข้าวหน้าเนื้อที่อร่อยสุดตั้งแต่เคยกินกันมาในชีวิต (เว่อร์มั้ย 555) แต่ป้าพูดอังกฤษไม่ได้ ตลอดการคุยก็รัวมาแต่ญี่ปุ่นอย่างเดียวเลย รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างว่ากันไป  ... ส่วนลุงนี่ออกแนวพูดจาเสียงดัง แต่เป็นคนเฮฮามากๆ คุยอะไรก็รัวญี่ปุ่นกลับมาตลอด มีอังกฤษบ้างภาษามือบ้างนิดหน่อย ตอนที่เด็ดคือ หลังจากกินและคุยกันเสร็จแล้ว ลุงถามว่าพักที่ไหน พอตอบไป ลุงก็บอกว่า เฮ่ยย ที่นั่นห้องน้ำมันเล็กนะ อาบไม่สบายหรอก (รู้ได้ไงอ่ะ) ให้มาอาบที่ รร. ลุงดีกว่า (เพิ่งรู้ว่าแกมี รร. ด้วยแต่ก็นึกว่าเป็น รร.ธรรมดาๆ) พวกเรามองหน้ากันแบบเอาไงดี เกรงใจและอยากปฏิเสธเพราะมันเริ่มมืด+อากาศก็หนาวกว่าจะเดินถึงที่พัก (อารมณ์กินอิ่ม หนังท้องตึง หนังตาเริ่มหย่อน หนาวก็หนาว อยากกลับไปซุกผ้าห่มนอนแล้ว) ระหว่างที่พวกเราคุยกันอยู่ ได้ยินเสียงดังๆ ของลุงเลยหันไปดู ปรากฏว่าแกโทรหาคนที่ รร. บอกว่าเดี๋ยวจะมีเด็กไทย 5 คนไปนะ ให้ดูแลให้ด้วย พอแกวางสายก็หันมาบอกทางพวกเราให้เดินไป รร. แก ..มาถึงขั้นนี้เลย เอาวะไปก็ได้ ก็เดินฝ่าความหนาวกันไปซักพักนึง พอไปถึงกะเหรี่ยงไทยก็ตาตั้งเพราะเป็น รร.ใหญ่ไฮโซเลยทีเดียว มี พนง.พาเดินขึ้นลิฟท์ไปส่งเข้าห้องอาบน้ำ ใจเราตอนนั้นคิดว่ามันคือ "ห้องอาบน้ำ/ห้องน้ำ" ที่คงใหญ่กว่าของที่พักเราอย่างที่ลุงบอก แต่ปรากฏว่ามันคือ "ออนเซน" เลยกรีดร้องกันไป+เป็นการเปิดประสบการณ์ออนเซนครั้งแรกของพวกเราอีก (หลังจากวันนั้น วันที่เหลือในญี่ปุ่นก็ใช้ชีวิตกันยากเลยเพราะต้องหาออนเซนเข้ากันทุกวัน ติดใจสุดๆ 5555) นอกจากให้ใช้ออนเซนฟรีแล้ว พอแช่น้ำกันเสร็จลงลิฟท์ไปชั้นล่าง เจอลุงที่กลับจากร้านมารออยู่แล้ว ก็พาไปห้องนั่งเล่นของ รร. เอาน้ำ/ขนมให้กินอีกนิดหน่อย + นั่งคุย ถามทาง อธิบายไรกันไปเรื่อยอยู่เกือบชั่วโมงพวกเราก็กลับซึ่งตอนนั้นก็มืดมากๆ แล้ว ลุงพาเดินออกจาก รร. ทะลุไปเข้าข้างบ้าน(หลังใหญ่)ของลุง พาเดินดูรอบบ้าน+เล่านู่นนี่อีก เอาเข้าไป!! <<< อย่ามาเฟรนด์ลี่ซ้ำซ้อนกับกะเหรี่ยงไทยได้มั้ย เดี๋ยวหนูติดใจไม่กลับเมืองไทยซะเลยนี่   4. ที่ kawaguchiko - ที่พักมีครัวไว้ให้ทำกับข้าวเลยไปซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารกันใหญ่ รวมถึงข้าวสารด้วย เราก็ฉีกซองข้าวจะใส่หม้อข้าวเพื่อเตรียมหุง แต่เอ๊ะ!! ไม่เหมือนข้าวไทยนี่หว่า สัดส่วนใส่ข้าวใส่น้ำยังไงนะเนี่ย คำอธิบายที่ถุงก็ไม่เข้าใจ เลยไปถามคนที่เค้าดูแลอยู่ตรง front กะว่าแค่ให้แปลวิธีหุงที่ถุงข้าวให้ฟังแล้วเดี๋ยวทำเอง สรุปเค้าเหมือนงงๆ เหมือนกันว่ามันยังไงกันแน่นะ  เค้าเลยเอาไปหุงให้ซะเลย <<< เกรงใจและซึ้งน้ำใจมาก เหมือนเค้ารู้สึกผิดที่เค้าไม่รู้/ไม่สามารถอธิบายให้เราเข้าใจได้ เลยเอาไปทำให้ซะเลย 5. ที่สถานี Izu Nagaoka - ลงสถานีนี้ แล้วออกจากสถานีเดินเล่นไปเรื่อยๆ เจอร้านซูชิร้านนึงเลยเดินเข้าไปกินเป็นมื้อกลางวัน ลุงเจ้าของร้าน+เชฟผู้ช่วย ทำมาให้กินทีละอันพอหมดก็สั่งใหม่ว่าอันต่อไปอยากได้หน้าอะไร ทีนี้เลยมีเรื่องถามเยอะเลยว่าแต่ละหน้ามันคือปลาอะไร ใช้ส่วนไหนของปลา ไปตกปลายังไงที่ไหนเมื่อไร ถามแม้แต่ใบไม้เขียวๆ ที่ใช้รองซูชิว่าใบอะไร 5555 จัดเต็มทั้งซูชิ+เทมปุระ  กินเสร็จก็ออกมาเดินเที่ยวเล่นเมืองนั้นต่อนิดหน่อย พอถึงช่วงบ่ายเรานั่งรถไฟไปอีกสถานีนึงซึ่งพอเดินเที่ยวเสร็จมันก็เย็นแล้ว เลยเดินกลับมาที่สถานีรถไฟเพื่อจะนั่งกลับเข้าเมืองนาโกย่า ก็แปลกใจนิดหน่อยว่าทำไมคนมายืนรอกันเต็มไปหมด เดินไปดูก็เห็นว่า จนท.กั้นส่วนที่เข้า platform ไว้ไม่ให้คนเข้าไปด้านใน (เฉพาะส่วน platform ของ line ที่จะนั่งเข้าเมือง) สรุปว่าเป็นเพราะสึนามิเข้า+แผ่นดินไหว เลยมีผลกระทบถึงระบบของรถไฟต่างๆ จึงต้องเช็คระบบกันยกใหญ่   พวกเรารอกันอยู่พักใหญ่จนเริ่มค่ำเลยตัดสินใจหาที่นอนที่เมืองนั้นเหมือนคนญี่ปุ่นคนอื่นๆ ทีนี้ก็เหมือนเหมือนวิ่งแข่งเลย ใครหาที่พักได้ก็โชคดีไป ซึ่งทุกที่ๆ เราไปถามก็เต็มหมดแล้ว  เลยตัดสินใจเดินกลับมาที่สถานีรถไฟเพื่อนั่งย้อนกลับไปหาที่พักที่สถานีอื่น กะไปหาเอาดาบหน้าเพราะที่นี่ไม่มีหวังแล้ว ก็เลยนึกถึงสถานี Izu Nagaoka ที่เราไปกินซูชิร้านลุงเมื่อกลางวันก็เลยไปที่นั่นแล้วกัน (ลืมบอก... สถานีที่เราอยู่ตอนนี้+สถานี Izuฯ มันอยู่ใน line รถไฟย่อยที่ไปเชื่อมกับ line ใหญ่อีกที ซึ่ง line ย่อยที่แยกออกมานี่ก็มีไปต่อได้ไม่กี่สถานี )พอไปถึงก็คิดว่าถ้าไม่มีที่พักจะเอาไงดี ยังพูดตลกๆ (แต่กะเอาจริง) ว่าไปขอนอนบ้านลุงได้มั้ย  สรุปว่าเจอ รร. + เค้าลดราคาให้ด้วยเพราะขอร้องไปว่าลดให้ได้มั้ย พวกเรามีตังค์ไม่พอแถมยังกลับเข้า nagoya ไม่ได้เพราะรถไฟไม่วิ่ง พอเสร็จเรื่องที่พัก (ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นก็น่าจะราวๆ 2 ทุ่มได้มั้ง) ก็เลยเดินมาหาลุงที่ร้านซูชิ เปิดประตูร้านมาลุงกะเชฟในร้านเห็นหน้าพวกเราอีก+พวกเราพูดคำแรกว่ามันมีแผ่นดินไหว กำลังจะอธิบายต่อ ลุงรีบถามใหญ่เลยว่าโอเคมั้ย แล้วพาไปนั่ง + ถามว่ากินได้ทุกอย่างใช่มั้ย พวกเราบอกว่าได้ ลุงเลยทำซูชิจานเบ้อเริ่มมีทุกหน้ามาให้กินแถมคิดราคาแค่ครึ่งเดียว (มีเรื่องขำคือ เพื่อนเราคนนึงไม่กินปลาดิบ+ไม่ชอบกลิ่นของดิบด้วย  แต่เจอมื้อน้ำใจมื้อนี้ของลุงเข้าไป เพื่อนทุกคนเลยบังคับให้กิน+ไซโคว่าแกกล้าปฏิเสธเหรอ เดี๋ยวลุงเสียใจนะ เพื่อนคนนี้เลยต้องจำใจกินน้ำตางี้คลอเลย ตอนกลืนลงคอ 5555 แต่เรากะเพื่อนที่เหลือนี่เปรมปรีดิ์กะซูชิหน้าโอโทโร่มากๆ)   ลุงยังถามเลยว่าแล้วมีที่พักมั้ย ถ้าไม่มีก็ให้มานอนบ้านเค้าได้นะ  + ตอนเช้าพอเราเช็คเอ้าท์ออกจาก รร. ก็มาเจอลุงที่ร้าน ลุงพาขึ้นรถตู้ไปส่งที่สถานีรถไฟด้วย ใจดีกว่านี้มีอีกมั้ยเนี่ยยยย เป็นการไปครั้งแรกที่ประทับใจสุดๆ เจอทั้งคลื่นน้ำใจมหาศาลจากคน และธรรมชาติ (สึนามิ+แผ่นดินไหว) แล้วยังงี้จะไม่กลับไปอีกได้ยังไง... ว่าแล้วก็เฝ้ารอทริปญี่ปุ่นรอบ 2 เดือนพฤษภานี้ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะไปซื้อของฝากเอาไปให้ลุงที่ร้านซูชิด้วยค่ะ มาอ่านดูอีกที ... ทำไมชั้นเขียนยาวจังฟระ 55555 แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 55 18:08:50 จากคุณ : my_reed เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 18:08:16

ความคิดเห็นที่ 46 จริงอย่างหมอยุ่งว่า ตรงเป๊ะตอนไปครั้งแรกเคย ฉุนจนขำ ตอนยืนรอรถเมล์ที่ป้ายวัดน้ำใส มากี่คันก็จอดให้คนลงแต่ไม่รับคนขึ้น (เพราะเค้าว่ารถเค้าเต็ม) ไอเราก็ลุ้นให้เปิดประตูหลังทีเถอะตรูจะไปต่อรถไปโอซาก้าเค้าไม่ยอมเปิดเพราะคนเต็ม (ข้างหลังไม่ขยับ) เลยยังสงสัยจนวันนี้ว่า  ทำไมเค้าไม่คิดว่าเมื่อมีคนลงมันต้องมีที่ว่างเนอะ ไม่เปิดให้ขึ้นซะงั้น สองแม่ลูกต้องเดินย้อนไปอีกป้ายจึงได้ขึ้น จากคุณ : erbhern เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 18:22:06

ความคิดเห็นที่ 47 อยากบอกว่าไม่ประทับใจ และไม่คิดไปอีกเป็นครั้งที่สองถ้าไม่จำเป็น /วิ่งออกจากกระทู้ จากคุณ : หมาน้อย (Mr.หมาน้อย) เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 21:35:52

ความคิดเห็นที่ 48 555 Mr.หมาน้อย  ไม่ต้องวิ่งค่ะ คนเราต่างประสบการณ์ ต่างความคิด ต่างความรู้สึกกันได้ จากคุณ : erbhern เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 08:36:54

ความคิดเห็นที่ 49 เราประทับใจในความสุภาพและมีวินัยของคนญี่ปุ่น แต่เสียความรู้สึกกับคนญี่ปุ่นบางคน ที่ย้อนถามเราบ่อย ว่า Can you speak Japanese? ทั้งที่เราพูดภาษาอังกฤษตั้งแต่แรก ถ้าเราพูดญี่ปุ่นได้ ไม่เสียเวลาพูดภาษาอังกฤษหรอก เลยทำให้เราคิดได้ว่าในความอ่อนน้อมของคนญี่ปุ่น มีความทะนงตนในชาติแฝงอยู่มาก แม้ในสถานีรถไฟใหญ่ๆ เช่น Shin-Osaka ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางผ่านสถานีนี้มากมาย พนักงาน JR เอง กลับไม่พูดภาษาอังกฤษ เพื่อสื่อสารกับนักท่องเที่ยวเลย พูดภาษาญี่ปุ่นตลอด ผิดกับคนไทยที่ทำงาน BTS หรือ Taxi ที่พยายามพูดภาษาอังกฤษกับนักท่องเที่ยว เพราะรู้สึกภูมิใจที่ได้พูดกับนักท่องเที่ยว แล้วรู้เรื่อง จากคุณ : MaggaM เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 10:35:35

ความคิดเห็นที่ 50 จริงอย่างที่คห.28บอกเลยค่ะ ที่ว่าประทับใจคนญี่ปุ่นอย่างนั้นอย่างนี้หน่ะ แต่พอคนญี่ปุ่นมาอยู่เมืองไทยหล่ะก็..มักจะมีนิสัยตรงกันข้ามเลยค่ะ โดยเฉพาะเรื่องการดูถูกคนไทย ที่เรารู้ก็เพราะเราทำงานด้านภาษาญี่ปุ่น ต้องร่วมงานกับคนญี่ปุ่นตลอด รู้สัยคนญี่ปุ่นเป็นอย่างดี จากคุณ : Beingbig เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 13:37:13

ความคิดเห็นที่ 51 เคยไปมาสองครั้ง ในฐานะนักท่องเที่ยว ประทับใจทั้งสองครั้ง เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ไปเที่ยวไดรับความช่วยเหลือจากคนญี่ปุ่นเป็นอย่างดีค่ะ ถึงแม้จะสื่อสารไม่ได้ แต่เค้าก็แสดงให้เห็นว่าอยากช่วยเราเต็มที่ แต่ถ้าในฐานะเคยเรียน คลุกคลีกับเพื่อนญี่ปุ่น เกาหลี จีน ห้าเดือนก็เฉยๆค่ะ คนเอเชียก็นิสัยคลายๆดัน ยกเว้นจีน แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด   แต่กขึ้นกับนิสัยส่วนบุคคลด้วยค่ะ จากคุณ : kukee (kukee) เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 09:41:46

ความคิดเห็นที่ 52 คนญี่ปุ่นที่ญี่ปุ่นดี๊ดี คนญี่ปุ่นที่เมืองไทย (โดยเฉพาะที่ทำงาน) .เอ่อ... ... ทำไมเป็นอย่างนี้ จากคุณ : GaleeDeb (GaleeDeb) เขียนเมื่อ : วันคุ้มครองโลก 55 22:26:22

ความคิดเห็นที่ 53 เล่าบ้างค่ะ เคยหลงทางหาร้าน ANIMATE สาขาอากิบะไม่เจอ ออกเสียงไม่ถูกถามคนแถวนั้นไม่เข้าใจ เพื่อนเลยเปิดรูปสาขาอิเคะบุคุโระที่ถ่ายไว้ให้เด็กผู้ชาย(ประถม) กลุ่มหนึ่งดู น้องพาเดินไปส่งถึงหน้าร้านเลยอ่ะ เอ๊ะ หรืออยากไปตั้งแต่แรกแล้วนะ (แต่ตอนแรกๆก็จับกลุ่มคุยกันเฉยๆนะ) แต่ก็ประทับใจมากๆเลยนะ พอส่งเสร็จน้องๆก็ก้มหัวให้ด้วย (หรือเพราะเราก้มหัวขอบคุณก่อนหว่า?) แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 55 12:22:25 จากคุณ : NoRin เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 12:21:56

ความคิดเห็นที่ 54 อ่านแล้วรู้สึกอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นมากขึ้นไปอีก เป็นประเทศที่อยากไปให้ได้ซักครั้ง จากคุณ : วอริเออร์ เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 14:46:30

ความคิดเห็นที่ 55 เพิ่งกลับมาจากการไปทริปครั้งแรก ในฐานะนักท่องเที่ยว ประทับใจมากค่ะ ทั้งการบริการ และน้ำในของคนญี่ปุ่น ส่วนตัวเราพอพูดภาษาญี่ปุ่นได้นิดห่นอย (เรียนมามากกว่า １００ ชั่วโมง) วันที่ ２ ของทริป เพื่อนทำมือถือหาย คือไปทำหล่นไว้ในร้านขายยาในเมือง มารู้สึกตัวตอนจะเข้าปราาทนิโจ้ พอรู้สึกตัวก็นั่งรถกลับ เพื่อนบอกว่าจะแวะไปดูที่ร้านก่อน ส่วนเราบอกว่าจะแวะไปที่ป้อมตำรวจให้ เพราะไม่แน่ใจว่าหล่นที่ร้าน หรือหล่นตรงป้ายรถเมล์ ระหว่างทางคุณยายข้างๆ เค้าก็ยิ้มให้เรา ถามเราว่ามาเที่ยวเหรอ ทำนองชวนคุย (เป็นภาษาญี่ปุ่น เพราะเรากับเพื่อนก็คุยเล่นกัน เป็นไทยคำญี่ปุ่นคำ) เราก็เล่าให้ท่านฟังว่าเพื่อนเราทำมือถือหล่น จะกลับไปดู ยายก็ถามว่าแล้วรู้จักป้อมทำตำรวจมั้ย เราก็บอกไปว่าเราจำได้ว่าระหว่างทางเราเห็น แต่จำต่ำแหน่งชัดไม่ได้คงจะเดินย้อนตามทางไป พอถึงป้าย คุณยายก็ลงมาด้วยค่ะ แล้วก็พาเรา ３ คนเดินไปที่ป้อมตำรวจ หลังจากส่งเราถึงป้อมแล้ว เราก็แจ้งความกับเพื่อนอีกคน ส่วนเจ้าตัวคนทำมือถือหล่น ก็ขอตัววิ่งกลับไปเช็คที่ร้านขายยา ส่วนคุณยายก็ขอลา บอกว่า จะต้องกลับไปทำกับข้าวให้หลานกิน เราก็ลายาย ไม่ได้เอะใจอะไร จนออกจากป้อมตำรวจมาเจอคุณยายยืนรอรถเมล์อยู่ คุณยายไม่ได้จะลงป้ายนี้！！ ตายแล้วแกลงมาส่งเรา เรารู้สึกปลื้มมากเลยอ่ะค่ะ เลยเดินไปะกิดยายขอบคุณคุณยาย แล้วก็บอกยายว่าเจอมือถือแล้วล่ะ เจอที่ร้านขายยาน่ะแหละค่ะ ไปถึงร้านเค้าจะปิดแล้ว (ปิดประตูลงมาครึ่งนึง) เพื่อนเราก็ไปงัดขึ้นค่ะ ５５５  แล้วคนขายเค้าก็จำได้ เอามือถือมาคืนให้ (ซื่อสัตย์สมคำร่ำลือ) คุณยายก็ดีใจด้วย (ตามสไตล์ค่ะ คนญี่ปุ่นโอเวอร์แอคติ้งมาก แกดีใจกับเรามากกกกกกกกกก) รู้สึกประทับใจมากค่ะ ส่วนอีกเรื่องเป็นของเพื่อนเรา คือในเกียวโตเนี่ย รถไฟใต้ดินจะไม่มีบันไดเลื่อนเหมือนในโตเกียว ดังนั้นวันแรกของทริป เราก็ต้องลากกระเป๋ากันไปค่ะ ของเราใบเล็กไม่มีปัญหา ของเพื่อนเรานี่สิใบ ２１นิ้ว แล้วชีก็ตัวเล็ก แบกขึ้นบันไดกันแทบจะตกบันไดตาย ระหว่างแบกขึ้นก็มีหนุ่มซาลารี่แมน วิ่งส่วนลงไปแบบจะรีบไปขึ้นรถไฟ ยังไงไม่รู้ หันมาอีกที พ่อหนุ่มคนนี้แบกกระเป๋าเพื่อนเราวิ่งแซงเราขึ้นไปค่ะ เราก็หันไปมอง เพื่อนเราเดินตัวปลิวอยู่ข้างหลัง เค้าก็เอาไปวางไว้ให้ด้านบน แล้วก็โค้งหัวให้แล้วก็รีบวิ่งลงมา จะไปขึ้นรถไฟต่อแบบว่ากลัวไม่ทัน สายแล้ว (แต่ก็ยังมีน้ำใจ) น่ารักมากๆค่ะ ส่วนเรื่องน้ำใจการบริการ ต้องยอมรับว่าดีมากค่ะ เค้าเทรนกันมาดี ไม่ว่าจะพนักงานอะไร เต็มใจบริการหมด จากคุณ : g@de~ เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 20:38:18