ความคิดเห็นที่ 1 ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ  คิดถึงอาหารอร่อยๆตลอดทริป จากคุณ : Nainame เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 12:01:22

ความคิดเห็นที่ 2 ขอตามไปเที่ยวด้วยอีกครั้งนะครับ ผมไปเชียงคานแล้ว 5 ครั้งครับ คิดดูว่าประทับใจแค่ใหน ถ้ามีโอกาสก็จะไปอีก ***เช้าวันหนึ่งเมื่อเดือนที่แล้ว จากคุณ : ย่ำโลกccct-604 (ย่ำโลกccct-604) เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 12:23:16

ความคิดเห็นที่ 3 เชียงคาน เดิมทีก็เป็นเมืองเมืองหนึ่งธรรมดาเหมือนเมืองหรืออำเภออื่นๆ ในจังหวัดเลย ซึ่งมีวิถีชีวิต ประเพณีและวัฒนธรรมคล้ายๆกัน แต่ด้วยบรรยากาศ ที่ตั้งและการบอกต่อ เล่าขานความสวยงามของเมืองแห่งนี้ ก็ได้ทำให้เชียงคานได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ จนมีชื่อเสียงเป็น"เมืองท่องเที่ยว" ที่ทุกคนรู้จักอย่างทุกวันนี้ ด้วยชื่อเสียงและความนิยมที่เพิ่มขึ้นๆ จึงปฏิเสธไม่ได้ กับการเปลี่ยนแปลงที่ต้องเกิดขึ้นเป็นสัจธรรม แต่การเปลี่ยนแปลงก็นำมาทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งข้อดีที่เห็นชัดเลยก็คือโอกาส โอกาสก่อเกิดรายได้ ทั้งธุรกิจรองรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มตัว และ อาชีพอื่นๆ อีกมากมายที่ได้รับอานิสงส์ จากการเป็นเมืองท่องเที่ยว จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 12:29:51

ความคิดเห็นที่ 4 ...สาเหตุหนึ่งที่ทุกคนหลงรักเชียงคาน น่าจะมาจากเอกลักษณ์ความสงบ เรียบง่าย ชีวิตที่ไม่เร่งรีบ ซึ่งสิ่งเรานี้เป็นสิ่งที่ทุกคนถวิลหา ...และที่สำคัญ "บางคน-บางเมือง" อาจเคยมีและเคยเป็นแบบนี้มาก่อน ...ในขณะที่ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไป อะไรบางอย่างที่ยังคงเดิม ก็ดูจะเพิ่มความหมายและคุณค่ามากขึ้นเรื่อยๆ... จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 12:37:55

ความคิดเห็นที่ 5 ไปเลย แต่ยังไม่เคยแวะไปเชียงคานเลย  ตามมาเที่ยวด้วยคนครับ จากคุณ : ชานมชงเอง เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 12:41:23

ความคิดเห็นที่ 6 ...ด้วยบรรยากาศ และสิ่งแวดล้อมที่ทุกคนไปเยือนแล้วมีความสุข ก็เป็นจุดเริ่มต้นให้สิ่งอำนวยความสุข ต่างๆ เกิดขึ้นตามมาอีกมากมาย รวมทั้ง "ร้านกาแฟ" ...เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่นั่งดื่มกาแฟริมแม่น้ำโขง จากกาแฟแก้ง่วง กลับกลายเป็นเครื่องดื่มประกอบบรรยากาศ ที่ได้ความรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ..."บางสิ่งที่คุ้นชิน แต่ได้ทำในบรรยากาศที่แปลกใหม่ ก็อาจทำให้สิ่งนั้นพิเศษขึ้นมาได้"... จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 12:57:34

ความคิดเห็นที่ 7 เชียงคานก็เป็นเหมือนที่อื่นๆ ที่มีร้านกาแฟผุดขึ้นเรียงราย ผมเชื่อว่าการเปิดร้านกาแฟ เป็นความฝันของคนหลายๆ คน ...และผมเชื่อว่า การไปอยู่เชียงคาน ก็เป็นความฝันของคนหลายๆ คน เช่นกัน ...เมื่อสิ่งที่อยากทำ กับที่ที่อยากอยู่ สามารถรวมกันได้ ก็ทำให้ตัวเองมีความสุข และพร้อมที่จะส่งความสุขไปให้คนอื่นต่อไป... จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 13:05:46

ความคิดเห็นที่ 8 ทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อย รองท้องด้วย"ข้าวเปียกเส้น" จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่"ภูทอก" จุดชมวิวที่ทุกคนแนะนำว่าจะสามารถ มองเห็นเชียงคานได้จากมุมสูง และมีทะเลหมอกที่สวยไม่แพ้ที่อื่น ไม่รอช้า ขึ้นสองแถวมุ่งหน้าไปภูทอกกันเลยครับ เส้นทางคดเคี้ยวตั้งแต่ออกจากตัวเมือง พอถึงทางขึ้นภูยิ่งคดเคี้ยวใหญ่ แถมยังชันอีกต่างหาก ต้องใช้ความชำนาญระดับ "เจ้าถิ่น" จึงจะขับขึ้นภูทอกได้ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 13:59:45

ความคิดเห็นที่ 9 ภูทอก เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงคู่กับเชียงคาน ทุกครั้งที่เสิร์ชชื่อเชียงคานจะต้องเจอภูทอก เป็นเหมือนมือขวา คนสนิทที่ทุกคนรู้ว่ามาคู่กัน พร้อมทั้งรูปภูทอกที่ออกไปสู่สายตาประชาชน ที่มีทะเลหมอก หนาๆ ยอดภูเขียวๆ แหลมๆ โผล่พ้นหมอกขึ้นมา เป็นภาพจำที่ทุกคนอยากมาสัมผัสสักครั้ง ...จึงทำให้ภูทอก "ถูกตั้งความหวัง" โดยไม่รู้ตัว ว่าถ้ามาแล้วน่าจะสวย เหมือนในรูป ไม่มากก็น้อย จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 14:07:07

ความคิดเห็นที่ 10 แต่ภูทอกก็เหมือนคนเรา ที่มีวันที่หน้าบึ้ง อารมณ์ไม่ดี ขี้เกียจยิ้มบ้าง หากจะเห็นภูทอกสวยๆ แบบในรูปโปสต์การ์ด ต้องอาศัยองค์กอบหลายอย่าง ทั้งลมฟ้าอากาศ และฝีมือการกดชัตเตอร์ ความรู้สึกวันนี้ที่มาภูทอก ไม่เจอทะเลหมอกและฟ้าใสๆ ไม่ได้ทำให้ความรู้สึก แย่ลงแต่ประการใดครับ ดีเสียอีก ที่เราได้รู้จักกันในด้านที่ไม่สวยงาม ...แต่ยังไงก็สัญญาว่าจะมาอีก เพื่อหวังว่าจะได้เจอวันที่ภูทอกอารมณ์ดี จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 14:18:03

ความคิดเห็นที่ 11 ลงจากภูทอก เราออกเดินทางไปเริ่ม"ภารกิจหัวใจใหม่" กันครับ ไปเยี่ยมชมสวนเกษตรอินทรีย์ อีกวิถีชีวิตและอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจในเชียงคาน ชาวเชียงคานมีอาชีพหลักอีกอย่างหนึ่ง คือการเกษตร นั่นเองครับ โดยสวนที่ว่าแห่งนี้มีชื่อว่า "สวนจักรพล" จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 14:26:35

ความคิดเห็นที่ 12 ความน่าสนใจของที่นี่ ไม่ใช่ที่ผลไม้รสชาติอร่อย หรือเที่ยวไปชิมไป แต่เป็นสิ่งที่อยู่ก่อนบรรทัดบน นั่นคือวิธีการได้มาซึ่งผลผลิตที่ดี โดยพึงพาตนเองให้มากที่สุด เริ่มตั้งแต่พลังงาน อย่างถังสีน้ำเงินที่เห็นนี่คือ "แก๊สชีวภาพ" ที่หมักด้วยขี้วัว บรรยายโดยคุณป้าสมจิต ภรรยาลุงเผือก เจ้าของสวน จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 14:36:02

ความคิดเห็นที่ 13 ลุงเผือกและป้าสมจิต เป็นเกษตรกรชาวเชียงคาน ที่ทำสวนมานาน เมื่อก่อนก็ปลูกมาหลายอย่าง ทั้งขาดทุนบ้าง ได้กำไรบ้าง ตามความไม่แน่นอนของตลาด ที่มีพ่อค้าคนกลางเป็นคนกำหนด อีกทั้งราคาปุ๋ยและอุปกรณ์ที่ปรับขึ้นทุกปี แต่ด้วยความที่ลุงเผือกเป็นคนช่างคิดและเป็นนักประดิษฐ์ ไม่หยุดนิ่ง จึงศึกษาการทำเกษตรอินทรีย์ และประดิษฐ์เครื่องมือ หลายๆอย่างใช้เอง ด้วยภูมิปัญญา เป็นการลดต้นทุนและเวลา ...เช่นเจ้าสิ่งนี้ เป็นเครื่องห่อมะม่วงแบบยางดีด ที่แกคิดค้นเอง จนตอนนี้ ส่งออกไป"เชียงใหม่"เป็นที่เรียบร้อย แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 55 14:49:22 จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 14:48:01

ความคิดเห็นที่ 14 ทุกอย่างในสวนนี้เป็นการพึ่งพากันกันและกันครับ เช่นแก๊สชีวภาพก็มาจากขี้วัว ปุ๋ยชีวภาพก็มาจากซากพืชและอาหาร เครื่องตัดหญ้าก็คือวัว ต้นมะม่วงก็เป็นเล้าไก่ ส่วนหมาตัวนี้ชื่อโอโม่ เป็นทั้งเพื่อน และยามเฝ้าสวน แถมทำหน้าที่รับแขกได้ด้วย ที่นี่เป็นชีวิตที่มีความสุขที่สุดครับ แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 55 14:59:00 จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 14:58:19

ความคิดเห็นที่ 15 ที่เชียงคานยังมีชาวบ้านที่อยู่นอกเมือง ที่มีวิถีชีวิตไม่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ประกอบอาชีพอื่นๆ อีกมากมาย ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่มีทั้งภูเขาและแม่น้ำและทุ่งนา ...แต่ที่สัมผัสได้อย่างหนึ่งที่ชาวเชียงคานมีเหมือนกัน คือ"ความสุข"ครับ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 15:05:01

ความคิดเห็นที่ 16 จากสวนเกษตร เราเดินทางสู่แก่งคุดคู้ครับ แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อ คู่เมืองเชียงคานอีกแห่งหนึ่ง และระหว่างทางก่อนถึงแก่งคุดคู้นั้น เราได้มีโอกาสทำภารกิจเที่ยวหัวใจใหม่อีกหนึ่งอย่าง นั่นคือ"มะพร้าวแก้ว" ของฝากที่ทุกคนต้องถือกลับ ที่วันนี้จะไม่ใช่แค่ซื้อ แต่เรียนรู้ประวัติและได้ลงมือทำครับ แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 55 19:47:56 จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 15:10:12

ความคิดเห็นที่ 17 ที่นี่มีสินค้าอย่างอื่นขายด้วยครับ หลักๆ ก็เป็นของขบเคี้ยว จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 15:19:08

ความคิดเห็นที่ 18 แวะมาชมครับ ตามเที่ยวเชียงคานด้วยคน ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : กัปตันลูกชุบ เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 15:33:30

ความคิดเห็นที่ 19 ที่นี่เริ่มจากการรวมกลุ่มกันเล็กๆ จนขยายใหญ่ขึ้น จนบางคนก็แยกย้ายออกไปทำเอง แต่ที่นี่ก็ยังได้รับความนิยมอยู่ เพราะรสชาติดี ไม่หวานเกินไป และใช้วัตถุดิบดีครับ ที่สำคัญไม่กั๊ก ไม่หวง ถามอะไรก็ตอบหมดเลย ทุกคนที่นี่อัธยาศัยดีและเต็มใจพูดคุยครับ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 15:50:23

ความคิดเห็นที่ 20 ทำไมไม่ถ่ายมาเยอะๆ จากคุณ : tummeng_in เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 15:51:26

ความคิดเห็นที่ 21 พูดคุยทำความรู้จักแล้ว เราก็บุกหลังร้านกันเลยครับ โชคดีที่มาเจอตอนที่คุณพี่ คุณป้าท่านทำมะพร้าวแก้วล็อตใหม่พอดี เลยได้โอกาสเห็นขั้นตอนการทำ ตั้งแต่เริ่มแรก ด้วยการผ่ามะพร้าวกันเลยทีเดียวครับ มะพร้าวเหล่านี้ มาจากหลายที่ครับ ทั้งอุดรฯ เพชรบูรณ์ และจังหวัดใกล้เคียง อย่างที่บอกไว้คือ เมื่อก่อนที่เชียงคานมีต้นมะพร้าวเยอะ เพียงพอต่อการทำมะพร้าวแก้ว แต่ทุกวันนี้นอกจากจะไม่ค่อยมีต้นมะพร้าวแล้ว กิจการกลับดีขึ้นด้วยเพราะ มีคนมาเที่ยวเยอะ ขายดีขึ้น มะพร้าวไม่พอขาย ก็เลยต้องสั่งจากที่อื่นเข้ามา แต่ก็คัดเกรดกันอย่างเข้มงวดนะครับ แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 55 15:57:43 จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 15:56:39

ความคิดเห็นที่ 22 ที่นี่ช่วยกันทำหลายคน ตั้งแต่วัยรุ่น จนถึงคุณยาย และทุกขึ้นตอนสามารถทำแทนกันได้หมด อย่างขั้นตอนนี้พี่ผู้ชายผ่ามะพร้าว รองเอาน้ำมะพร้าวลงในกาละมัง คุณยายเป็นคว้านเนื้อมะพร้าว พอคว้านเสร็จก็จะเอาเนื้อมะพร้าวลงไปแช่ในน้ำมะพร้าวอีกนั่นแหละ เพื่อให้เนื้อมะพร้าวหวานมัน หอมอร่อยยิ่งขึ้นไปอีก จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 16:05:01

ความคิดเห็นที่ 23 เครื่องมือในการคว้านมะพร้าว มีหน้าตาอย่างนี้... จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 16:06:45

ความคิดเห็นที่ 24 ว่าแล้วก็ต้องลองครับ คุณโอชินลองคว้านมะพร้าว จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 16:09:37

ความคิดเห็นที่ 25 หลังจากได้เนื้อมะพร้าวมาแล้ว ต้องนำมาฝานให้บางด้วยความชำนาญอีกที เนื้อมะพร้าวส่วนที่ติดกับกะลา (เนื้อในสุด) คือส่วนที่ดีที่สุด อร่อยที่สุดครับ โดยจะไปอยู่ในถุงที่เรียกว่า "เกรดเอ" ซึ่งราคาก็จะสูงขึ้นมานิดหน่อย เพราะมะพร้าว ที่ได้มาทั้งหมด จะมีที่ทำเกรดเอได้อยู่ไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นครับ ฉนั้นของอร่อย และหายากก็ต้องมีราคาสูงขึ้นเป็นธรรมดา จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 16:14:08

ความคิดเห็นที่ 26 นี่แหละครับ "เกรดเอ" ขาว หวาน มัน หอม นุ่ม อร่อย จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 16:16:07

ความคิดเห็นที่ 27 ส่วนพวกนี้เป็นมะพร้าวที่แก่กว่าเกรดเอนิดนึง... จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 16:18:30

ความคิดเห็นที่ 28 ก็จะถูกเอาไปทำมะพร้าวแก้วแบบเส้น... จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 16:19:34

ความคิดเห็นที่ 29 เสร็จจากการเตรียมมะพร้าว ก็เข้าสู่กระบวนการแปรรูปแล้วครับ ด้วยการเคี่ยวกับน้ำตาล ด้วยไฟที่พอดี มะพร้าวแก้วที่นี่จะเน้นที่รสชาติไม่หวานเกินไปครับ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 16:22:10

ความคิดเห็นที่ 30 เคี่ยวกับน้ำและน้ำตาล ไปจนแห้ง ใช้เวลาพอสมควรครับ... จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 16:24:07

ความคิดเห็นที่ 31 เคี่ยวจนแห้งดีแล้ว นำมารอให้เย็น แล้วคลี่ให้ก้อนน้ำตาลหลุดออกครับ ก็จะเหลือแต่มะพร้าวแก้วที่นุ่ม หอม หวาน มัน อร่อย พร้อมบรรจุถุงจำหน่ายครับ มีรูปการทำมะพร้าวแก้วค่อนข้างเยอะ อย่าเพิ่งเบื่อนะครับ อยากให้เห็นและรู้ถึงความยากง่าย และนำเสนอมุมที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยมีโอกาสเห็น ...การซื้อของฝากทำได้ง่าย แต่ถ้าเรามีโอกาสได้เรียนรู้ที่มาที่ไปของสินค้าเหล่านั้น ก็ทำให้การซื้อของฝากมีความหมายมากขึ้น คนซื้อภูมิใจ คนขายดีใจ ...และคนรับก็สุขใจ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 16:32:34

ความคิดเห็นที่ 32 เพราะเชียงคานนี่แหละครับทำให้ผมรู้ว่ามะพร้าวแก้ว เกรด เอ เป็นยังไง ทุกวันนี้ยังติดใจรสชาติไม่หาย จากคุณ : คินนิคุแมน เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 16:36:57

ความคิดเห็นที่ 33 เอาละครับ ออกจากร้านของฝากกันแล้วก็มุ่งหน้าสู่แก่งคุดคู้จริงๆ เสียที แก่งคุดคู้เป็นแหล่งท่องเที่ยว พักผ่อนของชาวเชียงคานและอำเภอใกล้เคียง มานานแล้ว เพราะที่นี่มีทุกอย่าง ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร รีสอร์ทและที่เล่นน้ำ ที่นี่วิวสวย ทั้งภูเขา และความคดเคี้ยวของแม่น้ำโขง อีกทั้งแก่งหินหน้าตาแปลกๆ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 16:38:24

ความคิดเห็นที่ 34 เรามาที่แก่งคุดคู้แห่งนี้ ไม่ใช่แค่เพียงการมาถ่ายรูป หรือซื้อของฝาก แต่ที่แก่งคุดคู้มีอะไรให้เราได้เห็นมากกว่านั้น แก่งคุดคู้เป็นสถานที่ที่ผู้คนแถบนี้ใช้หลบร้อน ผ่อนคลาย กินข้าว เล่นน้ำ ทำกิจกรรมอีกมากมาย มาก่อนที่เชียงคานจะมีชื่อเสียง และที่นี่พิเศษตรงที่เป็นชายแดนติดกับประเทศลาว จะมีสักกี่ที่ในเมืองไทย ที่คุณนั่งกินข้าว เล่นน้ำ ติดชายแดนได้อย่างสบายใจได้ขนาดนี้ เพียงแค่มองออกไปไม่กี่ร้อยเมตร คุณก็เห็นประเทศเพื่อนบ้านแล้ว จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 16:47:34

ความคิดเห็นที่ 35 เดินลงมาด้านล่าง... จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 16:49:50

ความคิดเห็นที่ 36 ... จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 16:54:25

ความคิดเห็นที่ 37 แม่น้ำโขงไหลมาจากเทือกเขาหิมาลัย และได้นำพาเอาความอุดมสมบูรณ์มา ถึงเมืองไทย ถึงภาคอีสาน และถึงเชียงคาน จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 16:58:40

ความคิดเห็นที่ 38 ... จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 16:59:43

ความคิดเห็นที่ 39 วิถีชีวิต อาชีพและวัฒนธรรมประเพณีมากมาย เกิดขึ้นโดยอิงกับแม่น้ำโขง ทั้งสองฝั่งไทย-ลาว ผู้คนที่นี่พูดภาษาเดียวกัน ประเพณีเีดียวกัน มิหนำซ้ำ...บางคนเป็นญาติพี่น้องกัน หากเพียงแต่ถูกแม่น้ำและการปกครอง แยกออกเป็นคนละประเทศ... จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 17:04:37

ความคิดเห็นที่ 40 สภาพภูมิประเทศสองฝั่งไทย-ลาว ไม่เหมือนกันซะทีเดียว เนื่องจากกระแสน้ำ โค้งน้ำ และเกาะแก่งในแม่น้ำโขง ทำให้การพัดพาสิ่งต่างๆ ให้เกิดลักษณะที่แตกต่างกัน เท่าที่สังเกตุ ฝั่งไทยจะเป็นหิน และฝั่งลาวจะเป็นทราย... จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 17:07:54

ความคิดเห็นที่ 41 ... จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 17:08:47

ความคิดเห็นที่ 42 เมื่ออยู่บนเรือกลางแม่น้ำโขง จะรู้สึกดีเป็นพิเศษครับ...ไม่รู้ทำไม หรืออาจเป็นเพราะเราได้เข้าไปอยู่ท่ามกลางแม่น้ำสายหลักที่เปรียบเหมือนหัวใจ ของชาวเชียงคาน และได้เข้าใกล้ประเทศลาว ที่เปรียบเสมือนบ้านพี่เมืองน้องก็เป็นได้ ...มีคนเคยบอกว่า การไปเที่ยวประเทศลาว เป็นการไปต่างประเทศที่อบอุ่น เหมือนอยู่ประเทศตัวเอง อาจเพราะเป็นประเทศเดียวที่เราสามารถพูดภาษาเรา และเขาพูดภาษาเขา แต่กลับคุยกันรู้เรื่อง...ก็เป็นได้ครับ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 17:15:03

ความคิดเห็นที่ 43 จำปา - ลาว จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 17:15:57

ความคิดเห็นที่ 44 ขึ้นจากเรือ เรากลับเข้าสู่ที่พักครับ ที่นี่เป็นบ้านไม้ อายุกว่า 80 ปี และได้รับการบูรณะใหม่อย่างสวยงาม ชื่อว่า "เฮือนยายบับภา" ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง แบบหลังบ้านเป็นตลิ่งเลยทีเดียว หลายคนมาพักที่เชียงคาน อาจเลือกพักที่พักติดแม่น้ำโขงเพราะบรรยากาศดี อยู่ติดถนนคนเดิน หรืออะไรก็แล้วแต่ครับ ...แต่อีกเหตุผลหนึ่งที่เราเลือกพักที่นี่เพราะ อยากรู้ว่าการนอนเฮือนไม้ ฟังเสียงสายลมจากลำโขง พัดผ่านหน้าต่างไม้บานเก่า ที่เป็นอย่างนี้มาตลอด เกือบร้อยปีนั้น จะมีความสุขเพียงใด จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 17:24:52

ความคิดเห็นที่ 45 บ่ายแก่ๆ ออกเดินเล่นไปตามถนนชายโขง ถนนนี้ยังมีความเป็นสังคมชนบทอยู่มาก ถึงแม้หลายสิ่งจะถูกประดิษฐ์ขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยว แต่นั่นก็เป็นเพียงวัตถุและสิ่งปลูกสร้าง แต่ผู้คนไม่ได้เปลี่ยนไป คุณย่า คุณยาย ก็ยังเป็นอยู่แบบเดิม จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 17:31:08

ความคิดเห็นที่ 46 ... จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 17:34:50

ความคิดเห็นที่ 47 หรือแม้กระทั่งร้านค้า ร้านขาย ที่อยู่บนถนนชายโขงแต่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป ตามกระแสการเป็นถนนสุดแนว ก็ยังมีให้เห็นอยู่... จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 17:37:01

ความคิดเห็นที่ 48 บางครั้ง เชียงคานก็แอบขี้เหงา... แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 55 17:39:20 จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 17:39:07

ความคิดเห็นที่ 49 เมื่อความเปลี่ยนแปลงมาถึง บางครั้งเราก็ไม่อาจปฏิเสธได้ อาจต้องหาวิธีรับมือและอยู่ร่วมกันให้มีความสุขที่สุด บ้านเก่าหลายๆ หลัง ก็ถูกปรับปรุง กลายเป็นเกสต์เฮาส์ ต้อนรับผู้มาเยือน... จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 17:44:09

ความคิดเห็นที่ 50 เมื่อมีอุปสงค์ ก็ย่อมมีอุปทาน... เสื้อยืดพิมพ์ลาย บ่งบอกสถานที่ที่ซื้อมา เป็นเสมือนสัญลักษณ์ แสดงการมาถึง ของนักท่องเที่ยว และเป็นอีกสีสันหนึ่งในบรรยากาศ มองในด้านดีก็คือการสร้างรายได้ให้แม่ค้าในท้องถิ่น และนักท่องเที่ยวเอง ก็มีของที่ระลึกติดไม้ติดมือมา เป็นอนุสรณ์ว่าครั้งหนึ่งเคยมาเยือน จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 17:50:48

ความคิดเห็นที่ 51 ...ร้านนิยมไทย ทำผ้าห่มนวมฝ้าย เคล็ดลับสู้ภัยหนาวของชาวเชียงคาน ที่อยู่คู่เมืองเชียงคานมานับร้อยปี ที่ทุกคนมาที่นี่ต้องถ่ายรูปกับร้านนี้กลับไป ทั้งดารานักแสดง ก็แวะเวียนมากันบ่อยครั้ง เพื่อถ่ายทำรายการ และถ่ายรูปการทำผ้านวมกับคุณยาย ...เป็นที่น่าเสียดายและเสียใจ ที่วันนี้คุณยายท่านได้จากไปแล้ว โดยมีพี่ราตรีลูกสาวคนเล็ก เป็นผู้สืบทอดกิจการ และถ่ายทอดเรื่องราวให้เราฟัง จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 17:56:55

ความคิดเห็นที่ 52 เราเริ่มภารกิจเที่ยวหัวใจใหม่อีกครั้งที่นี่... ด้วยการทำผ้านวมฝ้าย แบบตั้งแต่เริ่มจนจบเป็นผืนกันเลย ...นำฝ้ายมาชั่ง และนำมาคลี่ให้เต็มตาราง จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 17:59:49

ความคิดเห็นที่ 53 อีกส่วนหนึ่งก็ขึงด้าย เพื่อยึดฝ้ายให้เกาะกันเป็นผืน...ทุกขั้นตอนที่นี่ เป็นการทำด้วยมือ แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 55 19:58:09 จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 18:01:45

ความคิดเห็นที่ 54 ...จะได้แบบนี้ก่อน จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 18:02:42

ความคิดเห็นที่ 55 ...แล้วค่อยกดด้วยไม้ ทาบแล้วหมุนๆ ให้ฝ้ายกับด้ายยึดเกั้ยวกัน จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 18:04:30

ความคิดเห็นที่ 56 ทำครบทั้งสองด้าน...จะได้ไส้ผ้านวมหนานุ่มแบบนี้ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 18:05:55

ความคิดเห็นที่ 57 จับใส่ปลอกชั้นใน...จะได้ไม่หลุดลุ่ย จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 18:07:53

ความคิดเห็นที่ 58 เย็บให้ติดกัน แล้วค่อยนำไปสวมปลอกชั้นนอกอีกที... จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 18:08:59

ความคิดเห็นที่ 59 ได้ผ้านวมแสนอุ่น เมดอินเชียงคาน เอากลับบ้านไปห่มให้อุ่นทั้งกาย ทั้งใจ... จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 18:10:25

ความคิดเห็นที่ 60 เสร็จจากการทำผ้าห่ม เราก็ได้ทำกิจกรรมที่อบอุ่นหัวใจที่สุดในการมาเยือนเชียงคานแห่งนี้ ...ด้วยการผูกข้อมือ บายศรีจากคุณตา คุณยายชาวเชียงคาน ตามธรรมเนียมของชาวอีสาน การผูกข้อมือเป็นการสู่ขวัญ รับขวัญ อวยพร และปัดเป่าสิ่งไม่ไดีออกจากร่างกาย ซึ่งการผูกข้อมือครั้งนี้ เปรียบเสมือนการรับขวัญสู่เชียงคาน เป็นลูกเป็นหลาน โดยคุณตา คุณยายที่นี่ เอ็นดูและเมตตา พูดคุยเป็นกันเองด้วยภาษาถิ่นอย่างอบอุ่น จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 18:20:19

ความคิดเห็นที่ 61 ในพิธีที่เป็นมงคลของชาวอีสาน จะมีการ"ป้อนไข่" ซึ่งอาจจะแปลกสำหรับคนรุ่นใหม่ และผู้มาเยือน แต่ก็เป็นพิธีกรรมที่เป็นมงคล... จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 18:23:58

ความคิดเห็นที่ 62 ... จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 18:25:07

ความคิดเห็นที่ 63 คุณยายอายุ 86 แต่ยังแข็งแรงมาก...คนเชียงคานอายุยืน น่าจะเพราะว่าอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี และมีความสุข... จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 18:26:44

ความคิดเห็นที่ 64 ...เช้าอีกวัน เราติ่นแต่เช้าเพื่อตักบาตร ซึ่งเป็นภารกิจเที่ยวหัวใจใหม่อีกอย่างหนึ่ง คนทั่วไปเรียกว่า"ตักบาตรข้าวเหนียว" จริงๆ แล้วก็คือการตักบาตรธรรมดานี่แหละครับ เพียงแต่ที่นี่ทานข้าวเหนียวเป็นหลัก เหมือนคนภาคเหนือ อีสาน และประเทศลาวนั่นเอง เราจึงต้องตักบาตรด้วยข้าวเหนียวครับ ...แต่ที่ไม่เหมือนภาคกลางนั่นคือ จะตักบาตรด้วยข้าวเหนียวอย่างเดียว ไม่ใส่กับข้าว หรือของหวานลงไปในบาตรด้วย เพราะชาวบ้านจะนำไปถวายที่วัดอีกทีหนึ่ง ...และนี่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้เราได้ตักบาตรแบบชาวเชียงคานแท้ๆ ครับ แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 55 18:39:56 จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 18:35:49

ความคิดเห็นที่ 65 ...เสร็จสิ้นการใส่บาตร หลังจากนี้เราจะไปตลาดเพื่อซื้อกับข้าวและภัตราหารไปถวายพระครับ กระติบข้าวคุณยาย ชื่อเป็นสิริมงคลมากครับ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 18:38:54

ความคิดเห็นที่ 66 ...รีบออกเดินไปตลาด ที่อยู่ห่างออกไปไม่มากนัก ก่อนแดดจะแรงและไม่ทันพระท่านฉันเช้า ชาวเชียงคานตื่นเช้า ออกมาทำโน่น นี่ นั่น กันแล้ว จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 18:42:58

ความคิดเห็นที่ 67 ก่อนถึงตลาด ระหว่างทางจากถนนชายโขง มาถนนศรีเชียงคาน เราเจอกับ "สวนมะลิ" ที่ไม่เคยรู้มาก่อนมาที่นี่มีแบบนี้ด้วย จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 18:45:29

ความคิดเห็นที่ 68 ถึงตลาด... จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 18:46:35

ความคิดเห็นที่ 69 อาหารท้องถิ่นมากมาย ที่ชาวเชียงคานนำมาขาย นอกเหนือจากเมนูชื่อดัง ที่ถูกถ่ายรูปลงอินเทอร์เน็ท ที่นี่คุณจะได้เห็นบรรยากาศการจับจ่าย เลือกซื้อหาอาหาร แบบชาวเชียงคานแท้ๆ ที่มีทั้งเมนูที่เคยเห็น และไม่เคยเห็น ...แหนมห่อใบตอง ที่ทุกวันนี้ในเมืองใหญ่เรามักเห็นแต่แหนมแบบห่อพลาสติก จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 18:50:50

ความคิดเห็นที่ 70 ส่วนนี่ เชื่อว่าถ้าไม่ใช่เด็กอีสานขนานแท้ ไม่เคยเห็นแน่นอน "ลาบเทา" ...เทาคือสาหร่ายน้ำจืดชนิดหนึ่งครับ ที่จะเกิดขึ้นตามแหล่งน้ำที่สะอาดเท่านั้น จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 18:55:38

ความคิดเห็นที่ 71 ที่ตลาดเช้า พ่อค้าแม่ค้าก็ได้ตักบาตรเช่นกัน เชียงคานมีวัดค่อนข้างเยอะ เฉพาะในตัวเมืองก็เกือบ 10 วัด ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ซอยไหน ถ้าตื่นเช้าพอ ก็จะเห็นพระเดินบิณฑบาตร ทุกซอยครับ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 18:58:48

ความคิดเห็นที่ 72 ..เต็มอัตรา ข้าวเหนียวร้อนๆ ตอนเช้าๆ อย่างนี้ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 19:00:40

ความคิดเห็นที่ 73 ไม่ลืมชิมเมนูชื่อดัง แห่งเมืองเชียงคาน "ปาท่องโก๋ยัดไส้" อร่อยมากครับ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 19:02:21

ความคิดเห็นที่ 74 วิถีชีวิตยามเช้าในเชียงคาน ...ไข่ลวก สภากาแฟ โจ๊ก คล้ายๆ กับที่อื่นๆ แต่ถ้ามาเชียงคานแต่มาไม่ถึงตลาด ก็อาจไม่ได้เห็น เพราะวิถีชีวิตยามเช้าแบบนี้ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่น่าประทับใจ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 19:04:51

ความคิดเห็นที่ 75 เดินทางด้านหลังตลาด ก็จะเจอกับของขาย แบบ "แบกะดิน" ต้องเดินมาให้ถึงครับ ถึงจะรู้ว่าว่า"นี่สิเชียงคาน" จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 19:06:41

ความคิดเห็นที่ 76 เห็นแล้วนึกถึง"ส้มตำ"... จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 19:07:50

ความคิดเห็นที่ 77 ...และส้มตำ จะขาดสิ่งนี้ไม่ได้ครับ ปลาร้านั่นเอง เชียงคานเป็นเมืองที่อยู่ติดแม่น้ำ มีปลาเยอะ เพราะฉนั้นเรื่องคุณภาพ ของปลาร้านี่ หายห่วงแน่นอนครับ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 19:09:58

ความคิดเห็นที่ 78 ส่วนนี่ ปลาสด ที่ชาวบ้านเอามาจากแม่น้ำโขง... จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 19:11:09

ความคิดเห็นที่ 79 ก่อนจะไปจากตลาด ผมก็ได้พบกับสิ่งหนึ่งที่คุณป้าแม่ค้าเอามาขาย สอบถามจึงได้รู้ว่านี่คือ "แลน" เป็นสัตว์ป่าที่หายาก แต่ด้วยความอุดมสมบูรณ์ ของป่าแถบนี้ จึงพอหาได้ ตัวแลนคืออะไร ลองหาใน Google ดูนะครับ ...ทุกที่มีวัฒนธรรมการกินที่แตกต่าง และบางอย่างก็อาจไม่ใช่ทั้งหมดทุกคนที่กินแบบนี้ นำมาให้ดูเพื่อแบ่งปันข้อมูลด้านที่ไม่เคยเห็นครับ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 19:16:51

ความคิดเห็นที่ 80 ตามไปเที่ยวด้วยคนครับบ อยากลองกินปาท่องโก๋ยัดไส้บ้างน่าจะอร่อยย.............. จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 19:17:44

ความคิดเห็นที่ 81 ...ซื้อหากับข้าวกันเสร็จเรียบร้อย เดินดูบรรยากาศกันพอหอมปากหอมคอ ก็ได้เวลาถวายภัตราหารเช้าที่วัด เพื่อเป็นการตักบาตรแบบเชียงคานที่สมบูรณ์แบบ เราไปที่วัด"มหาธาตุ"ครับ วัดเก่าแก่คู่เมืองเชียงคาน อายุหลายร้อยปี แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 55 19:20:16 จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 19:19:51

ความคิดเห็นที่ 82 หลังจากถวายภัตราหารแล้ว หลวงพ่อเจ้าอาวาส ท่านก็ถามไถ่ พูดคุยและผูกข้อมือให้ครับ ด้วยลูกประคำ แบบนี้ครับ ...ที่วัดมหาธาตุนี้ อาจจะไม่ค่อยมีคนมาถ่ายรูปเหมือนวัดศรีคุนเมือง แต่ที่นี่ก็เป็นวัดสำคัญอีกวัดหนึ่ง ของเชียงคานครับ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 19:23:15

ความคิดเห็นที่ 83 ...ที่นี่มีโบสถ์เก่าแก่ ที่มีภาพเขียนฝาผนังโบราณ หาดูได้ยากครับ เพราะเป็นศิลปะและสถาปัตยกรรมท้องถิ่น จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 19:25:22

ความคิดเห็นที่ 84 ภายในโบสถ์ มี"หลวงพ่อใหญ่" พระพุทธรูปคู่บ้าน คู่เมือง ที่ชาวเชียงคานเคารพครับ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 19:26:46

ความคิดเห็นที่ 85 ...สุดท้าย ไม่ลืมถ่ายรูป ผู้ร่วมทริปทั้งบล็อกเกอร์และผู้โชคดี คุณ Kanuman และคุณโอชินและคุณพ่อคุณแม่เพื่อเป็นที่ระลึกครับ สุดท้าย...เชียงคาน อาจจะเปลี่ยนไปในสายตาของใครหลายๆ คน ซึ่งก็อาจจะจริง แต่คงไม่ใช่ทั้งหมด การมาถึงของความเจริญและกระแสบริโภคนิยมนั้นเป็นสิ่งที่ห้ามได้ยาก รวมทั้งนักท่องเที่ยวร้อยพ่อพันแม่ ที่แต่ละคนมาเชียงคานด้วยจุดมุ่งหมายแตกต่างกัน ...เชียงคานวันนี้ อาจเปลี่ยนไป ก็เหมือนคนเราที่อาจจะปรับตัวตามกระแสสังคม แต่งตัว แต่งหน้าทาปากบ้าง แต่ลึกๆ แล้วนิสัยใจคอ และอัธยาศัยไมตรีก็อาจยังเหมือนเดิม เพียงแต่เราอาจต้องทำความรู้จักเขาให้ลึกซึ้งมากขึ้น มองในมุมที่แตกต่างไป ยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น และให้เกียรติเขาอย่างจริงใจ ...ยังมีอีกหลายมุมที่เรายังไม่รู้จักเชียงคาน ลองเปิดใจ เปิดมุมมองใหม่ ด้วยหัวใจใหม่ แล้วคุณจะฮักเชียงคาน และเมืองไทยมากยิ่งขึ้น "เที่ยวหัวใจใหม่ เมืองไทยยั่งยืน" จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 19:40:57

ความคิดเห็นที่ 86 ตามมาชมต่อค่ะ  รีวิวยาวนานมากเลยค่ะ  ^ ^ จากคุณ : Nainame เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 19:43:56

ความคิดเห็นที่ 87 พึ่งกลับจากจีนมาชมครับ  ^___^ จากคุณ : Kanuman เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:53:04