ความคิดเห็นที่ 1 สวน Botanic ใหญ่และร่มรื่น ต้นไม้เยอะมาก เดินกันชิลล์ๆ นะคะ แต่...โอ๊ะโอ...คอยสังเกตตามโคนต้นไม้ที่มีรากใหญ่ๆ ค่ะ เราจะได้เห็นคู่หนุ่มสาวมาจู๋จี๋กันเยอะมากๆ ((นิสัยคนชอบแอบถ่ายอย่างไอซ์ขัดใจมากที่กล้องซูมได้ไม่เยอะ 5555 นิสัยไม่ดีเลยเนอะ >_<)) จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:10:05

ความคิดเห็นที่ 2 เขาจะแอบกันตามหลืบแบบนี้ค่ะ ไอซ์กับเพื่อนๆ จะหาหลืบถ่ายรูปกันบ้างก็แทบหาไม่ได้ เหลือแต่หลืบเล็กๆ หลืบใหญ่ๆ ถูกจับจองกันโม้ดดดดดด สังเกตความใหญ่โตของรากไม้ หลบสายตาได้ดีนักแล >///< จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:11:58

ความคิดเห็นที่ 3 เดี๋ยวจะหาว่ามีแต่หนุ่มสาว ครอบครัวน่ารักๆ ก็มีเยอะมากๆ ค่ะ ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:15:48

ความคิดเห็นที่ 4 คนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องพันธุ์ไม้ก็เดินกันเพลินๆ นะคะ ไอซ์ชอบส่วนนี้ที่เอาหญ้าหลายๆ แบบมาโชว์ เบน - หนุ่มออสซี่รีบปรี่เข้าไปดูและบอกว่า นี่เป็นพันธุ์ไม้แบบแรกที่เขาเข้าใจ มาๆ เดี๋ยวจะบอกให้ว่า หญ้าแบบไหนเหมาะกับสนามกอล์ฟ -_-" จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:16:07

ความคิดเห็นที่ 5 ต้นนี้เรียกว่า Cannon Ball เพราะผลมันใหญ่เหมือนลูกปืนใหญ่ ลองดูขนาดผลของมันเทียบกับหัวของไอซ์ได้ 555 ภาษาไทยเรียกว่าต้น สาระ หรือเปล่าคะ ใครรู้บอกหน่อย ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:19:18

ความคิดเห็นที่ 6 ตามไปเที่ยวศรีลังกาต่อครับบ ต้นไม้นั่นใหญ่มากๆเลยนะครับบ....................... จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:19:31

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปในสวนมาเยอะค่ะ เพราะรู้ตัวว่า ถ่ายมาเยอะมากก็ขี้เกียจดู -_-" ข้างในมีสวนกล้วยไม้ด้วยค่ะ สวยมากกกกกก ดอกกล้วยไม้ก็หอม เดินเพลินเลย ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:20:28

ความคิดเห็นที่ 8 คุณสายลมแห่งวิงค์คะ ต้นที่ไอซ์ถ่ายรูปด้วย...เล็กแล้วนะคะ เพราะต้นใหญ่ๆ โดนคู่รักจองหมดแล้ว 5555 ... เอาล่ะค่ะ ชมสวนพอหอมปากหอมคอ ก็ออกเดินทางต่อ เรามีเป้าหมายอยู่ที่เมือง Nuwara Eliya ค่ะ ระหว่างทางพบการเฉลิมฉลองนิดหน่อย ... วันปีใหม่ของศรีลังกาจะอยู่ช่วง 12-14 เม.ย. ค่ะ แต่ละปีจะไม่ตรงกัน ขึ้นอยู่กับว่า โหรจะประกาศว่าวันไหนเป็นวันนี้ ปีนี้ตรงกับวันที่ 13 เม.ย. เหมือนปีใหม่ไทยเลย ตามหมู่บ้านก็จะมีการละเล่นกัน ที่เห็นในรูป ((ถ่ายจากบนรถตอนขับผ่าน ก็เลยไกลหน่อยค่ะ)) เป็นเกมเอาหมอนตีกัน ใครตกลงมาก็แพ้ ที่เห็นๆ ก็จะมีเกมอื่นๆ อย่างเช่น วิ่งวิบากด้วยค่ะ ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:23:35

ความคิดเห็นที่ 9 ขับผ่านไร่ชาระหว่างทาง อนิจจาฝนตก T^T ไอซ์รีบถ่ายรูปอย่างว่องไวที่สุด เพราะกลัวกล้องพัง แงๆๆๆ ฟ้าฝนเริ่มทรยศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเลยทีเดียว แง่วๆๆๆๆๆ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:25:25

ความคิดเห็นที่ 10 พลีชีพ ((กล้อง)) วิ่งขึ้นเนินไปถ่ายภาพสาวเก็บชาคนที่อยู่ใกล้ที่สุด เธอยอมให้ถ่ายด้วยความยินดี และเมื่อไอซ์จะเดินจากมา... ...เธอแบมือขอเงินซะงั้น -_-" จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:27:38

ความคิดเห็นที่ 11 ระหว่างฝนตก เราก็แวะเติมพลังด้วยอาหารกลางวัน ต่อด้วยการชมโรงงานผลิตชา ... ขั้นตอนก็มีการตากใบชา แยกใบชา คัดคุณภาพชา ฯลฯ ข้ามไปเลยละกันนะคะ คิดว่ารีวิว SR มีบอกไว้ละเอียดแล้ว ((ความจริงรูปในโรงงานเน่ามากค่ะ อับดอายในการโชว์ T^T)) จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:31:06

ความคิดเห็นที่ 12 ขอตามไปเที่ยวด้วยคนนะครับ จากคุณ : numsiam เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:31:12

ความคิดเห็นที่ 13 ไร่ชาสวยงามภายใต้ฟ้าฉ่ำฝน ((ฟ้าเน่ามาก แงๆๆๆ)) จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:32:43

ความคิดเห็นที่ 14 ยินดีค่าคุณ  numsiam จะพยายามให้จบกระทู้นี้แหละค่ะ ฮึบๆๆๆ >_< ... วิวระหว่างทางไป Nuwara Eliya ฟ้าเน่าต่อเนื่อง ToT จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:34:36

ความคิดเห็นที่ 15 ที่นี่อยู่สูง อากาศเย็นค่ะ ท้องฟ้าข่มขู่สุดๆ >_< จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:36:51

ความคิดเห็นที่ 16 เมืองนี้เมื่อก่อนถูกสร้างเป็นเมืองพักตากอากาศนะคะ เนื่องจากอากาศดี๊ดี มีทะเลสาปและภูเขา ภาพนี้ถ่ายจากที่พักค่ะ สวยเชียว ^^ ความจริงไอซ์ไปเดินเล่นริมทะเลสาปด้วยค่ะ แต่ฝนโปรยๆ ก็เลยไม่ได้ถ่ายรูปอะไรมาเท่าไหร่ อากาศเย็นทีเดียว มีโรงแรมฮิลตันมาเปิดเต้นท์ดิสโก้ริมทะเลสาปด้วยอะ >_< จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:39:52

ความคิดเห็นที่ 17 คืนนั้นเรามี cooking class กันค่ะ ^^ สาวๆ ออสซี่บอกไอซ์ว่า ก่อนมาศรีลังกานี่ ที่โน่นมีรายการทีวีเกี่ยวกับการทำอาหารที่ดังมากๆ และก็มีไปทำที่ศรีลังกาด้วย เป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆ คนอยากมาเที่ยวที่ศรีลังกา ทำให้หลายคนตื่นเต้นกับ cooking class พอสมควรเลย ไอซ์ดูวิธีการทำแล้วก็คล้ายๆ อาหารไทยนะคะ ผัดๆ ก่อนแล้วก็เติมเครื่องแกง เติมกะทิ ... ปริมาณเครื่องปรุงก็กะๆ เอา ออกมาก็อร่อยดี แต่เข้าใจแล้วว่าทำไมรสชาติไม่หลากหลาย ก็เครื่องปรุงใช้ซ้ำๆ กันน่ะค่ะ ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:42:47

ความคิดเห็นที่ 18 เริ่มต้นเช้าวันที่ 8 - วันมหาโหดกันเลยค่ะ ^^" ตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ เพราะวันนี้เราจะมี trekking กันยาวววววววว วิวตอนเช้า อากาศเหมือนจะดี โฮ่ๆๆๆๆๆ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:46:11

ความคิดเห็นที่ 19 การ trek วันนี้จะแบ่งออกเป็นสองส่วนค่ะ ช่วงเช้าเราจะ trek กันที่ Horton Plains Nature Reserve ค่ะ ที่นี่อยู่สูงสองพันกว่าเมตรเหนือระดับน้ำทะเล จุดชมวิวที่โด่งดังคือ World's End หรือขอบโลก ซึ่งจะเห็นมหาสมุทรอินเดียสุดลูกหูลูกตาย ภายในอุทยานก็จะมีโอกาสได้เห็นสัตว์ป่า อย่างเช่น เสือ ((ยากส์มากกกก)) กวาง ลิงหน้าม่วง นกต่างๆ ฯลฯ ที่ไอซ์ชอบก็คือ ตรงทางเข้าจะมีบอกไว้เลยค่ะว่า ห้ามนำขยะเข้าไป ขนาดขวดน้ำพลาสติกก็จะต้องดึงป้ายออกจนหมด ที่ศรีลังกาเข้มงวดเรื่องสิ่งแวดล้อมและขยะมากๆ ค่ะ ระยะทางในช่วงเช้านี้ เราจะเดินกัน 9 กิโล พร้อมหรือยังคะ ไปกันเล้ยยยยย ^^ เริ่มต้นนี่ ฟ้าใส แดดดี ร้อนระอุ >_< จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:51:22

ความคิดเห็นที่ 20 ทางเดินก็ประมาณนี้ค่ะ เราจะเดินเป็นวงกลมตามเส้นเหลือง กลับมาจุดเดิม ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:52:34

ความคิดเห็นที่ 21 ทางเดินชิลล์บ้าง โหดบ้าง สลับๆ กันไปค่ะ มีช่วงที่เป็นหินเยอะหลายช่วงเหมือนกัน แถมเมื่อคืนฝนตก โคลนตรึม ลื่นด้วย -_-" จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:54:12

ความคิดเห็นที่ 22 ระหว่างทางไอซ์ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปนะคะ ตั้งสมาธิเดินหน่อย อย่างที่บอกค่ะว่า ลื่นอยู่ แหะๆๆ จุดชมวิวแรกคือ Little World's End ... สิ่งที่เราได้เห็นก็คือ...หมอกหนามว้ากกกกกกกกก มองไม่เห็นอะไรเลย T^T จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:55:52

ความคิดเห็นที่ 23 เดิน เดิ้นเดินๆๆๆ ไปเรื่อยๆ ถึง World's End ก็... พอๆ กัน -_-" หมอกหนาทึบจนมองอะไรไม่เห็นค่ะ ToT ตรงที่ไอซ์ถ่ายรูปนี่ เป็นจุดที่เมื่อสองสัปดาห์ก่อนที่กลุ่มเราจะไปถึง มีชาวออสเตรเลียตกลงไปตายนะคะ เห็นว่ามัวแต่จ้องถ่ายรูปกิ้งก่าจนไม่ได้ดูทาง ... ที่เศร้ากว่าก็คือ ภรรยาของผู้ตายก็อยู่ในทริปด้วยค่ะ เห็นทุกอย่างกับตา เศร้ามากๆ ทีมหาศพต้องเดินเท้าไปตามหมู่บ้าน กว่าจะหาศพเจอ ดังนั้น...เวลาไปเที่ยวและถ่ายรูป ระวังๆ กันบ้างนะคะ >_< จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:58:45

ความคิดเห็นที่ 24 เดินกันตั้งแต่ก่อนแปดโมงเช้าจนเกือบเที่ยง...ไม่เห็นสัตว์อะไรเลยสักตัวค่ะ -_-" เนื่องจากกลุ่มที่อยู่ข้างหน้าเราเป็นนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส ... เสียงดังโครตตตต ดังถล่มป่าเลยแหละ แต่ไม่เป็นไรค่ะ ทางเดินก็สวยดี ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 19:01:05

ความคิดเห็นที่ 25 มีดอกไม้เล็กๆ งามๆ ให้ชมตลอดทาง ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 19:02:50

ความคิดเห็นที่ 26 น้ำตก Baker's Fall ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 19:06:21

ความคิดเห็นที่ 27 สำหรับคำถามที่ว่า trekkng รูทนี้ยากง่ายแค่ไหน ... ไอซ์ขอตอบว่า...ถ้าสุขภาพดีก็เดินกันได้ทุกคนค่ะ เส้นทางมีช่วงยากๆ ไม่เยอะ ส่วนใหญ่ก็เป็นพื้นธรรมดาที่ขรุขระหน่อยเท่านั้น สาวคนซ้ายมือเป็นสาวออสซี่เชื้อสายตุรกีชื่ออีฟบรูค่ะ จะเห็นว่าเธอถือไม้เท้าด้วย ... เนื่องจากเธอมีปัญหาด้านสายตา เป็นโรคที่การมองเห็นจะค่อยๆ ลดลง ถ้ายืนตรงหน้าเธอ เธอจะมองเห็นค่ะ แต่ถ้ายืนข้างๆ เธอจะมองไม่เห็น ((ขอบอกว่านางเอกคนต่อไปของไอซ์ในศรีลังกา จะเอาอีฟเป็นต้นแบบนี่แหละ เธอสวย นิสัยดี ฉลาด และมีอารมณ์ขันมากๆ >_<)) เธอเดินรูทนี้ได้ค่ะ แม้ว่าจะต้องอาศัยคนคอยจับมือ คอยนำทางกันบ้าง รูทนี้ถ้าเดินกันจริงๆ คงใช้เวลาน้อยกว่านี้ แต่เราพักกันเยอะเพราะต้องรออีฟด้วย ถ้าอีฟเดินได้ ใครๆ ก็เดินได้ค่ะ อีฟเป็นแรงบันดาลใจที่ดีให้กับหลายๆ คนเลยทีเดียว ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 19:10:44

ความคิดเห็นที่ 28 ตามต่อค่า จากคุณ : fox-uk เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 19:21:33

ความคิดเห็นที่ 29 มาเลยค่าคุณ  fox-uk จะพาไปลำบากแล้วววว >_< ... จบจากการ trek ช่วงเช้าแล้ว ช่วงบ่ายจะเป็นการ trek ลงไปในไร่ชาและหมู่บ้านชาว Tamil เป็นระยะทาง 18 กิโลเมตร เป็นทางลงจากเขานะคะ ทางจะชันและค่อนข้างลำบาก ใช้เวลาเดินประมาณ 4-5 ชั่วโมง Trek รูทนี้เป็น optional ค่ะ จะไปหรือไม่ไปก็ได้ คนที่ไม่ไปก็จะขึ้นรถบัสซึ่งใช้เวลาขับอ้อมเขาประมาณ 3-4 ชั่วโมงค่ะ ฝ่ายที่เดินจะตัดลงเขาไปพบกันที่ตีนเขานะคะ ^^ ไอซ์เลือกที่จะเดิน เพราะ - เบื่อนั่งรถ - อยากเดิน เพราะทางเดินนี้จะเข้าไปในหมู่บ้านของชาว Tamil ซึ่งยากจนมากๆ เย็นของวันก่อนหน้า คิงส์ลีย์พาพวกเราไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อนำไปแจกเด็กๆ ค่ะ ก็มีพวกสมุด หนังสือ ดินสอ ของเล่น ลูกอม ช็อกโกแล็ต ฯลฯ ตอนแรกไอซ์แย้งไปว่า ควรให้ลูกอมและขนมหวานกับเด็กๆ งั้นเหรอ เพราะตอนไอซ์ไปเปรู ไอซ์ไป trek ในเทือกเขาแอนดีส ... หัวหน้าทัวร์ซึ่งเป็นประธานหมู่บ้านบนภูเขา บอกเลยค่ะว่า "ห้ามเอาลูกอม - ขนม ให้เด็กๆ เพราะเด็กๆ เหล่านี้ยากจน จะมีปัญหาเรื่องฟันตามมา" คิงส์ลีย์บอกไอซ์ว่า "พวกเขายากจนจนนั่นไม่ใช่ปัญหาแล้ว เพราะยังไงสุขภาพก็ไม่ดีอยู่ดี ดังนั้น...ถ้าเด็กๆ ไม่ได้กินลูกอม ไม่ได้กินขนม ความสุขเล็กๆ น้อยๆ จะหาได้จากไหน" มันก็จริงนะคะ ไอซ์ก็เลยซื้อลูกอมและช็อกโกแล็ตไปห่อใหญ่เลยแหละ ดังนั้นในกระเป๋าสะพายหลังของไอซ์จะหนักมากกกกกกก เพราะมีทั้งขนม สมุด ดินสอ ปากกา ของเล่น และ...เสื้อผ้าค่ะ อ้อ...ยังมีขวดน้ำขนาดลิตรครึ่งอีกสองขวด อย่างหนัก หลังแทบแอ่น 555 ทุกครั้งที่ไอซ์ไปประเทศที่กำลังพัฒนา ไอซ์จะเอาเสื้อผ้าที่ใช้บ่อยๆ แล้ว หรือว่าซื้อใหม่ในราคาไม่แพงไปด้วย เพื่อที่ว่า พอใช้เสร็จก็จะได้บริจาคให้กับคนที่นั่นไปเลย เป็นข้อดีมากๆ นะคะ เพราะผู้รับก็ดีใจ ผู้ให้ก็กระเป๋าเบา เผื่อใครชอบช้อปปิ้ง จะได้ใช้วิธีนี้บ้างค่ะ ตอนไปเปรู ตอนไปเคนย่า-แทนซาเนีย ขาไปกระเป๋าไอซ์ 15-17 กิโล ขากลับเหลือสิบกิโลทั้งสองทริปเลยค่ะ แจกได้แจกหมด อยู่กับเรามันไม่มีประโยชน์เท่ากับอยู่กับคนที่มีน้อยกว่าอะค่ะ ^^ ... เกริ่นมานาน...ทริป 18 กิโลเมตรนี้ จากกลุ่ม 15 คน เหลือแค่ 4 คนค่ะ 555 วีร่า - สาวออสซี่เชื้อสายจีน // ลินดา - สาวอเมริกัน // การ์ธ - หนุ่มอังกฤษ // ไอซ์ - สาวไทยหน้าหมวย ((ดูหมวยกว่าวีร่าอีกอะ >_<)) ไปกันอย่างไม่รู้สำนึกจริงๆ กร๊ากๆๆๆ สังเกตไหมคะว่า จากฟ้าใสๆ ตอนนี้หมอกหนาจนมองไม่เห็นทางแล้วววววว >_< แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 55 19:26:05 จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 19:24:44

ความคิดเห็นที่ 30 ฝนเริ่มโปรยนิดๆ ชื้นมากๆ ทางมองไม่ค่อยเห็น แต่พวกเรายังคงเริงร่าค่ะ โฮ่ๆๆๆ เดินกันไปได้ครึ่งชั่วโมง ก็พักทานอาหารกลางวันกันสักหน่อย วิวสวยยย แม้จะหมอกหนา เมฆคล้อยต่ำ ฝนโปรยเบาๆ เรายังตลกบริโภคกันอยู่ มีการพนันกันด้วยเงิน 50 รูปีว่า ท้องฟ้าจะเปิดเมื่อไหร่ ตอนนั้นเที่ยงครึ่งได้ค่ะ การ์ธ - คนมองโลกในแง่ดีบอกว่า บ่ายโมงสิบห้า วีร่า - บ่ายโมงครึ่ง ไอซ์ - บ่ายสอง ลินดา - บ่ายสองครึ่ง ลองทายไหมคะว่า ใครเป็นผู้ชนะ ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 19:28:43

ความคิดเห็นที่ 31 แวะมาชมครับ มาขอตามเที่ยวต่อ ชอบบรรยากาศจัง ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : กัปตันลูกชุบ เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 19:34:51

ความคิดเห็นที่ 32 เฉลย...ลินดาเป็นผู้ชนะ >_< เปล่าค่ะ ไม่ใช่เพราะฟ้าเปิดตอนสองโมงครึ่ง แต่...ฟ้าไม่เปิดอีกเลยต่างหาก ฝนเทลงมา..."หนัก" มากๆ ค่ะ หนักชนิดมองทางไม่เห็น เนื่องจากเราเดินลงเขา น้ำตรงทางเดินจึงไหลซู่อย่างกับน้ำตก ไอซ์งี้ใจหายวาบ ไม่ได้กลัวฝนค่ะ แต่กลัวกล้องพัง T^T นี่เป็นครั้งที่สองในชีวิตที่ไป trek แล้วฝนเทลงมาหนักมากๆ ชนิดไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ ครั้งแรกที่เคนย่าค่ะ กล้องพังไปหนึ่งตัว คราวนี้โชคดีที่ไอซ์เตรียมข้าวของมาแจกชาวบ้านในหมู่บ้าน Tamil ค่ะ เพราะเสื้อผ้าอยู่ในถุงพลาสติก พวกของเล่น สมุดดินสอก็อยู่ในถุงพลาสติก ไอซ์รีบเอากล้องทั้งสองตัว คือ nex c3 และ piano black ((ตั้งใจจะเอามาถ่ายรูปเด็กๆ น่ะค่ะ)) ยัดลงถุงพลาสติกสองชั้น มัดจนแน่น เนื่องจากฝนตกหนักมากๆ เราจึงเดินกันแบบไม่ได้พักเลย ((ปกติเทรคแบบนี้จะมีพักเป็นระยะๆ)) เพราะไม่มีจุดให้พักอะค่ะ วีร่าใส่เสื้อยืดบางๆ ตัวเดียว หนาวจนสั่นไปหมด เราหยุดเดินกันไม่ได้ เพราะหยุดก็คือหนาวตายแหงๆ ทางเดินก็มหาโหดค่ะ อย่างที่บอกนะคะว่าเป็นทางเดินลงเขา หลายๆ เส้นเป็น "ทางลัด" ตัดไร่ชา ซึ่งจะชันประมาณ 45-60 องศา หินลื่นเปียก แค่นั้นยังไม่พอค่ะ รองเท้าไอซ์...ส้นหลุดค่ะ 555 รองเท้าที่เอามาค่อนข้างเก่าแล้ว แช่น้ำนานๆ มันก็ไปค่ะ ข้างขวาเริ่มหลุดตอน 10 กิโลเมตรแรก การ์ธเอาเชือกมัดเอาไว้ชั่วคราวให้ ((ลองดูเท้าไอซ์อะค่ะ ในรูปอาจจะเล็กหน่อย)) ส่วนข้างซ้ายหลุดขาดไปเลยตอนช่วงเหลืออีก 5 กิโลเมตรสุดท้าย ... แปลว่าไอซ์ต้องเดินด้วยรองเท้าแบบที่ไม่มีตรายางอะค่ะ ลื่นได้อีก กร๊ากกกกกก นอกจากนั้น...เมื่อฝนตก...ปลิงก็ออกมาค่ะ 555 เราต้องหยุดแกะปลิงออกเป็นระยะๆ ไอซ์ใส่ขายาวคนเดียว เลยโดนน้อยหน่อย คนอื่นๆ หรือคะ เพียบบบบบบบบบบ ไอซ์ได้ความรู้ใหม่ค่ะ เมื่อก่อนรู้ว่า การแกะปลิงนี่ สามารถใช้เกลือหยด หรือเอาไฟลน แต่ตอนที่ trek อยู่นี่ไม่มีเกลือ จุดไฟไม่ติด เพราะฝนหนักมากๆ การ์ธสอนว่าให้เอาก้อนหินกลมๆ ปัดแรงๆ ค่ะ มันจะหลุดกระเด็นไปเลย >_< ในรูปนี้ถ่ายตอนกิโลเมตรที่ 12 มั้งนะ ฝนซาลงชั่วขณะจนกล้าเอากล้องออกมาค่ะ น้ำตกข้างหลังเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในศรีลังกามั้งนะ ถ้าจำไม่ผิด ดูสภาพของแต่ละคนสิคะ ดูไม่จืดเลย 555 วีร่าสวมเสื้อของการ์ธค่ะ รูปนี้เป็นรูปสุดท้ายในกล้อง เพราะ...ถ่ายเสร็จ ฝนก็เทลงมาอีก กร๊ากกกกกกกกกกกกก เดินๆๆๆๆๆ ก้มหน้าก้มตาเดินๆๆๆๆๆๆ แทบขาดใจค่ะ อย่างที่บอก ไม่ได้พักเลย ฝนก็หนักมาก ปลิงก็รุม กว่าจะถึงจุดนัดพบก็ห้าโมงกว่าๆ ล่ะค่ะ คนที่อยู่บนรถบัสปรบมือเฮกันใหญ่ ...พวกเรา...หมดแรงงงงงงงงง รอดมาได้ยังไงฟะเนี่ย ก็ได้แผลคนละนิดละหน่อยล่ะค่ะ >_< จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 19:40:40

ความคิดเห็นที่ 33 มาชมค่ะ ศรีลังกาต้นไม้สวยจัง .. เพิ่งเคยเห็นหน้าน้องไอ๊ซ์วันนี้เอง เชยเนอะ! จากคุณ : cultureclub เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 19:41:50

ความคิดเห็นที่ 34 ยินดีค่าคุณกัปตันลูกชุบ มาตอนฝนโปรยในกระทู้พอดีเลยค่ะ 5555 พี่นาคะ ณ จุดนี้ถ้าไม่โชว์หน้าจะไม่ได้บรรยากาศค่ะ ไอซ์จึงขอพลีชีพ 555 ... วิบากกรรมยังไม่จบลงแค่นั้น คืนนั้นพอถึงที่พักนี่ เราสี่คนอยากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นที่สุด ไอซ์อยู่ห้องเดียวกับลินดาค่ะ พอดีว่ากระเป๋าของไอซ์มาถึงที่ห้องพักก่อน ไอซ์ก็เลยเตรียมจะอาบน้ำก่อน ถอดเสื้อผ้าเข้าไปใน shower แล้ว ปรากฎว่า...ไม่มีน้ำร้อนค่ะ ToT ไอซ์เดินออกมาด้วยผ้าขนหนูผืนเดียว บอกลินดาว่า I totally refuse to take cold shower tonight! ลินดาเห็นด้วยค่ะ เราหนาวกันมากๆ เจอน้ำเย็นอีก ต้องตายแหงๆ พอดีกับที่พนักงานเอากระเป๋ามาส่ง ไอซ์ก็เลยบอกพนักงาน พนักงานก็รีบไปพาเพื่อนมากุลีกุจอช่วยกันซ่อม จนห้องไอซ์มีน้ำอุ่นอาบค่ะ ^^v พอลงมาทานอาหารค่ำ ทำให้ไอซ์รู้ว่า...ห้องของไอซ์เป็นห้องเดียวที่มีน้ำอุ่นอาบ คนอื่นๆ อาบน้ำเย็นกันหมด เพื่อนๆ แซวว่าเพราะไอซ์ยืนโป๊นั่นแหละ เลยได้น้ำอุ่นมาอาบ ... ก็อาจจะจริง ไอซ์เลยบอกเล่นๆ ว่า What a girl's gotta do to get hot shower, she's gotta do it. ก็ฮากันไปนะคะ -_-" เอ่อ...คอมเมนต์นี้ไม่ต้องดูรูปประกอบหรอกเนอะ T^T จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 19:45:45

ความคิดเห็นที่ 35 ตามมาเที่ยวแบบติดๆค่ะ ชอบการท่องเที่ยวแบบนี้มากๆเลย จากคุณ : ไม่เมา ไม่อ้วก ไม่พูดมาก เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 19:46:44

ความคิดเห็นที่ 36 ไอซ์ก็ชอบค่ะคุณไม่เมา ไม่อ้วก ไม่พูดมาก ถึงจะทุลักทุเลบ้างแต่ก็สนุกจริงๆ ^^ ... ตัดไปวันรุ่งขึ้นเลยละกัน >_< เนื่องจากเมื่อวานฝนตกหนัก ของที่ซื้อมาก็ยังแจกไม่หมด ((ไอซ์แจกเสื้อผ้าไปหมดแล้ว + ขนมบางส่วน มีช่วงที่ผ่านหมู่บ้านที่ 3 ฝนซาลงพักหนึ่ง ก็เลยงัดออกมาแจกแหลกเลย เพราะกระเป๋ามันหนักมากง่ะ >_< ชาวบ้านที่ได้รับเสื้อผ้าไปดีใจกันมากๆ ค่ะ เด็กๆ ก็ปลื้มกับขนมและสมุดดินสอ คนให้ก็ชื่นใจเหมือนกัน ^^ เช้าวันที่ 9 จึงเริ่มต้นด้วยการแวะหมู่บ้านชาวTamil กันก่อนค่ะ ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 19:55:04

ความคิดเห็นที่ 37 เกือบลืม...สังเกตไหมคะว่า ตามไร่ชาจะมีต้นไม้สูงๆ แซมอยู่ตลอด คิงส์ลีย์บอกว่า ต้องปลูกไว้เพื่อให้รากไม้ใหญ่รับน้ำค่ะ เพราะรากชาตื้นมากๆ ^^ เวลามันออกดอกแล้วสวยดีจัง ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 19:57:31

ความคิดเห็นที่ 38 เจ้าของไร่ชาจะเป็นผู้จัดบ้านให้ชาว Tamil นะคะ แต่จะพยายามกดดันไม่ให้ได้รับการศึกษา เพราะถ้าชาวบ้านได้รับการศึกษาสูงๆ พวกเจ้าของไร่ชาก็กลัวจะไม่มีคนทำงาน สังเกตได้เลยค่ะว่า คนที่เก็บใบชานั้น เป็นชาว Tamil เกือบหมดค่ะ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 19:59:39

ความคิดเห็นที่ 39 คนเราจะเจริญและหลุดพ้นได้ด้วยการศึกษาจริงๆ ค่ะ ... ความจริงประเทศศรีลังกามีระบบให้เรียนฟรีถึงมหาวิทยาลัยเลยนะคะ แต่เด็กๆ ชาว Tamil มักไม่ได้เรียน เพราะต้องมาช่วยพ่อแม่ทำงาน ไอซ์ถามว่ามี organisation อะไรมาช่วยเหลือมั้ย คิงส์ลีย์ก็ส่ายหน้าค่ะ ... ไอซ์ว่าการให้สิ่งของชั่วคราวแบบนี้ ก็เหมือนกับให้ปลาโดยไม่ได้สอนให้เขาตกปลาอะค่ะ และทำให้เด็กๆ เสียนิสัยด้วย พอมีนักท่องเที่ยวเข้าไปในหมู่บ้าน เด็กๆ ก็จะมารุมขอขนม ขอดินสอ ขอสมุด ขอๆๆๆๆ สลดใจอย่างบอกไม่ถูกค่ะ ตอนไอซ์ไปเปรูก็เจอเหตุการณ์คล้ายๆ กันแบบนี้ แต่พอดีว่าหัวหน้าทัวร์ชาวเปรูทำงานกับรัฐบาลและมีโครงการช่วยเหลือชาวบ้านเยอะมากๆ ไอซ์กลับจากเปรูแล้ว ก็เขียนนิยายเกี่ยวกับประเทศเปรู แล้วส่งเงินส่วนหนึ่งกลับไปช่วยที่โน่น ตอนส่งเงินไปนั้นพอดีกับช่วงที่ Sacred Valley น้ำท่วมพอดี นับว่าได้ประโยชน์พอเหมาะจริงๆ ค่ะ ส่วนที่ศรีลังกานี่...ไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรยังไงให้เป็นรูปธรรม แต่ก็นะคะ...ถึงชาวบ้านที่นี่จะยากจน แต่...ไม่อดค่ะ ด้วยสภาพแวดล้อมที่ในน้ำมีปลา ในนามีข้าวเหมือนบ้านเรา ... เทียบกับเด็กๆ ที่อัฟริกาหรือเด็กๆ บนภูเขาที่เปรูแล้ว ชาว Tamil ยังโชคดีกว่ามากๆ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:03:32

ความคิดเห็นที่ 40 เด็กๆ ข้างบนยืนเรียบร้อยได้แป๊บเดียว ก็มารุมของของกันแล้วค่ะ เพื่อนๆ หยิบกันไม่ทันเลยทีเดียว ส่วนไอซ์ของแจกเหลือไม่เยอะ พอแจกหมดแล้วก็หยิบ Piano Black ออกมา อย่างที่บอกนะคะว่า ตั้งใจแต่แรกว่าจะเอากล้องโพราลอยด์มาถ่ายรูปคนท้องถิ่นให้พวกเขาเก็บไว้เป็นที่ระลึก ... พอเอาออกมานี่...ฮิตมากอะ โดนรุม >_< ทั้งเด็กและผู้ใหญ่กรูกันเข้ามาพูดกันคำเดียว One photoๆๆๆ ไอซ์แทบไม่ได้ใช้กล้องดิจิตอลถ่ายรูปอีกเลย ไอซ์พยายามถ่ายรูปกระจายๆ กันไปค่ะ บางคนพอรู้ข่าวก็พาเอาลูกเล็กๆ ออกมาขอให้ช่วยถ่ายรูปให้เป็นที่ระลึก ถึงไอซ์จะไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำของตัวเองเท่าไหร่ แต่ก็ดีใจมากกว่าที่ได้มอบรูปถ่ายเป็นความทรงจำให้กับชาวบ้าน ถ่ายกันจนฟิลม์หมดไปเกือบสามสิบรูปล่ะค่ะ หมดที่เอาไปวันนั้นพอดี เสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้เอาไปเผื่อเยอะกว่านั้น จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:08:45

ความคิดเห็นที่ 41 อยู่กันจนถึงสิบเอ็ดโมง ฝนเริ่มปรอยอีกแล้ว ก็ออกจากหมู่บ้านค่ะ วันนี้เราจะขึ้นรถไฟจาก Haputale ไป Ella กัน ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:10:18

ความคิดเห็นที่ 42 เนื่องจากเรานั่งรถไฟเพื่อกินบรรยากาศ แน่นอนค่ะว่าต้อง...ชั้น 3 เท่านั้น 5555 จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:11:40

ความคิดเห็นที่ 43 บนรถไฟมีคนท้องถิ่นเยอะแยะเลยค่ะ ได้บรรยากาศดีจริงๆ ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:13:13

ความคิดเห็นที่ 44 ลุงคนนี้กำลังเตรียมหมากไว้เคี้ยว ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:13:53

ความคิดเห็นที่ 45 วิวงามๆ ระหว่างทาง ^^ แนะนำให้นั่งฝั่งซ้ายนะคะ วิวจะเยอะกว่าฝั่งขวาค่ะ ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:15:02

ความคิดเห็นที่ 46 รถไฟแล่นเอื่อยๆ จอดเกือบทุกสถานี ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง...คุ้นๆ ไหมคะ 5555 เวลาไปเที่ยวก็เพลินดีหรอก แต่ถ้าเป็นชีวิตประจำวันล่ะก็...ไม่อยากจะคิด -_-" จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:16:08

ความคิดเห็นที่ 47 เป็นทริปที่น่าประทับใจนะคะ  ได้เห็นอะไรหลายๆอย่าง เด็กๆ น่าสงสาร จนเราคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือการให้  แต่จะให้อะไรเค้าล่ะ ที่ไม่ใช่แค่การให้ปลาแบบที่คุณไอซ์ว่า  ระบบการศึกษาในภูมิภาคนี้ยังต้องพัฒนาอีกเยอะเลยค่ะ ว่าไปไกลเกิน แต่พู่ชอบช้างฉี่มากที่สุดแหละ 555 จากคุณ : Red-Rose-14Feb เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:24:28

ความคิดเห็นที่ 48 ใช่ค่ะคุณพู่ เวลาเห็นอะไรแบบนี้แล้วมันสะท้อนใจมากๆ ค่ะ แต่ว่า...ทำไมช้างฉี่ถึงได้ฮิตนัก 555 ... เรามาถึง Ella กันตอนบ่ายๆ ค่ะ เข้าที่พักแล้ว เราก็ไป...นวดแบบศรีลังกากัน...บอกแล้วว่า...ไม่เข็ด 555 พอดีไอซ์ไม่ได้เอากล้องไปด้วยน่ะค่ะ ก็เลยไม่มีรูปถ่ายหน้าร้านมา มันเป็นร้านคล้ายๆ กับนวด + ยาแผนโบราณน่ะค่ะ คิงส์ลีย์บอกว่าที่นี่เลิศที่สุดแล้ว เราก็เลยต้องลอง มีฝรั่งเข้ามาขอการรักษาแบบแผนโบราณเยอะอยู่เหมือนกันนะคะ เนื่องจากมีคนนวดน้อย หญิง 3 ชาย 3 เลยต้องแบ่งกันเป็นสองรอบนะคะ จากประสบการณ์ตอนที่แล้ว ไอซ์ยืนยันหัวเด็ดตีนขาดว่าไม่เอาคนนวดผู้ชายเด็ดขาดดดดด รอบแรกมี ไอซ์ ลินดา การ์ธ ทิมและเวนดี้ ((สองคนนี้เป็นสามีภรรยากันค่ะ)) พนักงานในร้านพาเดินชมอุปกรณ์ต่างๆ แล้วเราก็จ่ายเงิน พนักงานก็กวักมือเรียกไอซ์ แล้วถามว่าเป็นคู่สามี-ภรรยาหรือเปล่า ไอซ์รีบส่ายหน้าบอกว่าไม่ใช่ แต่เขาก็พาไอซ์ไปห้องที่มีเตียงคู่อยู่ดี -_-" ปกติแล้วเวลาไปนวดที่ไทย เราจะได้ห้องเงียบๆ เปิดเพลงเบาๆ มีเสียงน้ำไหล ให้รู้สึกผ่อนคลายใช่ไหมคะ แต่ที่นี่...ไม่มีอะค่ะ ได้ยินเสียงคนคุยกันข้างนอกชัดมากๆ กรรมวิธีก็เหมือนเดิมนะคะ โดนสั่งให้เปลื้องผ้า โดนนวดหัว นวดไหล่ แล้วก็ไล่ไปนอนบนเตียง กำลังโดนนวดขาอยู่ จู่ๆ ประตูก็เปิดพรวดออกมา จ๊ากกกกกกกกก โชคดีที่คนที่เข้ามาเป็นเวนดี้ค่ะ เราก็มองหน้ากันงงๆ นิดๆ โป๊สนิทแต่ไม่คิดมาก เอาวะ ผู้หญิงด้วยกัน นวดๆ ไปนี่ ไอซ์กับเวนดี้ร้องจ๊ากกันเป็นระยะๆ นวดแรงมากกกก แล้วนะคะมีดึงเล็บเท้าด้วยอะ เท้าไอซ์ยิ่งเดี้ยงๆ จาก trek มา เดินกระย่องกระแย่งอยู่ เจอนวดแบบนี้ แทนที่จะดีขึ้น สาหัสเลยล่ะค่ะ แล้วนะ...มีนวดหน้าอกด้วย ((เล่าละเอียดไปมั้ยเนี่ย แต่ต้องเล่าเพราะเดี๋ยวมีต่อ 555 >_<)) หลังจากนวดเสร็จแล้ว ไอซ์ก็โดนพาไปยัง Steam bed เหมือนรอบที่แล้ว แต่คราวนี้มัน - ร้อน - มากค่ะ ขาเกือบไหม้ พอรู้สึกพองๆ ดีแล้ว คนนวดก็เปิดฝาโลงแล้วไล่ไปซาวน่าต่อ ณ จุดนั้นมีผ้าพันตัวบางๆ ผืนเดียว ข้างในไม่มีอะไรเลย -_-" พอเปิดเข้าไปในห้องซาวน่า เจอทิมนั่งอยู่ก่อนแล้ว คุณพี่นุ่งผ้าบางๆ ผืนเดียวท่อนล่าง เอาวะ ไม่คิดมาก นั่งคุยกันไป พอทิมออกไป ลินดาก็เข้ามา พอลินดาออกไป การ์ธก็เข้ามา ต่อด้วยเวนดี้ สรุปว่า...ได้ดูคนโป๊กันเกือบทั้งก๊ก... เอิ๊ก พอเสร็จแล้วก็ออกมานั่งดื่มชา นั่งคุยกันถึงประสบการณ์อัน...ไม่ค่อยน่าพิศมัยเท่าไหร่ ไม่นานคิงส์ลีย์ก็พา วีร่า อีฟบรู นิกกี้และนิกโคล ... สี่สาวออสซี่เข้ามาต่อคิว สาวๆ ถามใหญ่ว่า ดีมั้ยๆ ไอซ์ก็ทำหน้าบู่ๆ บอกไปว่า...ให้ 1 ดาวละกัน -_-" วีร่ากับอีฟบรูจะได้คนนวดหญิงค่ะ ส่วนนิกกี้กับนิกโคลได้คนนวดชาย ไอซ์ก็เลยบอกสองนิกไปว่า "เค้านวดนมด้วยนะเฟ้ย" สองนิกบอกว่า "ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวบอกเองว่าไม่ให้นวดนม" โฮ่ๆๆๆ ไม่รู้จักคนนวดศรีลังกาซะแล้ววววววว ... รูปเมือง Ella ไม่เกี่ยวกับการบรรยายข้างบน 555 จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:30:24

ความคิดเห็นที่ 49 พวกไอซ์ก็กลับโรงแรมแล้วไปเดินเล่นในเมืองกันค่ะ ปล่อยให้สี่สาวผจญชะตากรรมกันไป บอกตรงๆ ว่า ไอซ์ไม่ค่อยชอบเมือง Ella เท่าไหร่ เพราะมันดูเป็นเมืองที่ปรุงแต่ง เอาใจนักท่องเที่ยวเกินไป ไม่มีอะไรที่เป็น "ศรีลังกา" เลยสักนิด มีร้านอาหารฝรั่ง มีบาร์ แต่ฝรั่งหลายๆ คนก็ชอบนะคะ บอกว่ารีแล็กซ์ดี ^^ รูปข้างล่างเป็นรูปเมือง Ella อีกรูปค่ะ ตุ๊กตุ๊กคอยไล่ล่านักท่องเที่ยวเยอะมาก ... ตัดกลับมาที่สี่สาว ที่ไอซ์ได้เจออีกตอนทานอาหารเย็น พบว่า ขอบตาของอีฟบรูเป็นแผลค่ะ คนนวดปิดฝาโลงไม่ระวัง กระแทกตาอีฟตรงขอบตาบน ดีนะที่ไม่โดนตา -_-" ส่วนการนวด สาวๆ รายงานกันหน้าเบ้ ขำขันกันใหญ่ สองนิกโดนนวดนมจนได้ ทั้งๆ ที่บอกแล้วว่าไม่ต้องนวด สองคนนั้นทั้งโกรธ ทั้งฉุน ทั้งขำ จำห้อง Steam bed ได้ไหมคะ มันเป็นห้องเปิดน่ะค่ะ ใครเข้าใครออกก็ได้ เวลามีคนมาใช้บริการ เขาก็พาชมสถานที่ แล้วเวลาออกจากโลงเนี่ย เปลือยทั้งตัวนะคะ วีร่าเล่าว่า คนนวดเธอบอกให้เธออกมาจากโลง เพื่อไปซาวน่าต่อ ทั้งๆ ที่มีผู้ชายใครก็ไม่รู้ยืนอยู่ เธอก็ไม่ยอมออกมาจนกว่าผู้ชายคนนั้นจะไปอะค่ะ แล้วแต่ละคนกลับมาก็สะบักสะบอมกันไปหมด สรุปว่า...ลืมไม่ลงจริงๆ ใครไปศรีลังกาอย่าลืมไปนวดนะคะ แล้วมาเล่าให้ฟังบ้างว่าเป็นยังไง >_< จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:36:11

ความคิดเห็นที่ 50 วันที่ 10 เราตื่นกันแต่เช้า เพราะพวกเราบางคนจะไปเดินขึ้น Little Adam's Peak กันค่ะ ^^ ขอบอกว่า นอกจากร่างกายจะน่วมเพราะเดินป่าเมื่อวันก่อนแล้ว ยังเป็นจ้ำๆ จากการนวดเมื่อวานอีก ... ขอบอกว่าเขาไม่ได้นวดนะคะ เขา "ทุบ" อะค่ะ ตัววีร่าเป็นรอยช้ำเต็มไปหมด ((บวกเพิ่มกับรอยปลิงดูด นับว่าสะบักสะบอมได้ที่เลยทีเดียว >_<)) เราจะใช้เวลาเดินกันช่วงเช้าไม่เกินสองชั่วโมงค่ะ เห็น Adam's Peak ทางขวามือไหมคะ ทางเดินสวยมากๆ ค่ะ เดินกันชิลล์ๆ ^^ ((ช่วงท้ายจะมีบันไดโหดหน่อย แต่พอไหวค่ะ ^^)) จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:40:07

ความคิดเห็นที่ 51 เหมือนเดินในสวนเลยอะค่ะ ดอกไม้ป่าตรึม สวยจริงๆ ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:41:20

ความคิดเห็นที่ 52 เดินกันประมาณ 45 นาทีก็จะถึงจุดชมวิว เห็น Adam's Peak อยู่อีกฝั่ง นั่นก็ปีนได้นะคะ แต่ท่าทางจะโหดกว่ากันมาก 555 จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:43:18

ความคิดเห็นที่ 53 ขากลับเดินลงมา บังเอิญเจอเขากำลังชั่งน้ำหนักใบชากันพอดี ไอซ์กับเพื่อนๆ ก็กรูกันเข้าไปล้อมวง หนุ่มๆ ที่เก็บชาหัวเราะขำกันใหญ่ 555 วิธีชั่งชานะคะ ก็จะชั่งน้ำหนักแบบที่เห็นในรูป จดเอาไว้หนึ่งรอบก่อน... จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:45:59

ความคิดเห็นที่ 54 ชั่งเสร็จแล้ว เขาก็จะเทชาออกมาดูว่า ไม่มีสิ่งปนเปื้อน เผื่อใครหัวหมอแอบใส่หินเข้ามา 555 แล้วก็ค่อยเอาชาเก็บใส่ถุงเหมือนเดิมค่ะ ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:47:26

ความคิดเห็นที่ 55 ขอถ่ายรูปกับกองใบชาซักรูป แฮ่ๆ >_< ปล. สังเกตที่ไหล่ ไหม้เป็นหย่อมๆ -_-" ชุดที่ใส่อยู่คือ...ชุดนอนค่ะ ชุดที่เตรียมไปเน่าหมดแล้ว >_< แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 55 20:49:37 จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:48:55

ความคิดเห็นที่ 56 เดินกันขาหงิกแล้ว เราก็ไปกันต่อ จุดหมายคือเมือง Ahangama ซึ่งเป็นเมืองชายทะเลค่ะ อาหารกลางวันวันนี้ได้ลองของหวานแบบศรีลังกาแท้ๆ คือ ชีสที่ทำจากนมควายราดน้ำผึ้งค่ะ รสชาติก็...อืม...อธิบายยากค่ะ ต้องลองกันเอง 555 มันคาวๆ หวานๆ ขื่นๆ บอกไม่ถูก แหะๆๆๆ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:53:07

ความคิดเห็นที่ 57 ระหว่างนั่งรถ คิงส์ลีย์ก็เล่าถึงเหตุการณ์สึนามิที่ศรีลังกาเมื่อปี 2004 บอกว่า...โรงแรมที่เราจะไปพักนี้ ชั้นหนึ่งเสียหายทั้งหมด แต่ตอนนี้ซ่อมแซมเรียบร้อยแล้วนะจ๊ะ สวยงามติดทะเลเลยทีเดียว ฮิ้ววววววว นี่ถือรูปถ่ายจากระเบียงห้องพักของไอซ์ซึ่งอยู่ชั้น 3 ค่ะ โฮ่ๆๆๆๆ ติดทะเลจริงๆ นะจ๊ะ >_< จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:55:58

ความคิดเห็นที่ 58 วันที่ 11 ไอซ์กับเพื่อนๆ จำนวนหนึ่งแหกขี้ตาแต่เช้าตรู่ก่อนหกโมง ((ทั้งๆ ที่คืนก่อนหน้าไอซ์นั่งคุยกับวีร่าถึงตีสอง ง่วงค่อต -*-)) เพื่อจะมาถ่ายรูป Stick fishermen ซึ่งโฆษณาหราอยู่บน Lonely Planet แบบนี้ * ภาพจากอเมซอนนะคะ ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 20:59:23

ความคิดเห็นที่ 59 ริวิว น่าสนใจดีครับ ขอบคุณครับสำหรับรีวิว จากคุณ : maxtana01 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 21:02:17

ความคิดเห็นที่ 60 บริเวณหน้าโรงแรมมีไม้ปักอยู่เยอะมากๆ ค่ะ ปกติชาวประมงจะออกมาประมาณ 6-7 โมงเช้า แต่...วันที่ 11 เม.ย. คลื่นแรงโครตๆ จึงพบแต่ความว่างเปล่า ไอซ์กับเพื่อนๆ ยังบ่นกันเล่นๆ เลยว่า คลื่นสูงอย่างกับสึนามิ ใครมันจะมาตกปลากันแว้ >_< ... โรงแรมที่ไอซ์พักนี่ เมื่อก่อนเจ้าของที่เป็นชาวประมงชาวศรีลังกาค่ะ เขาขายที่ให้กับเจ้าของโรงแรม แต่ก็ยังคงป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ นี้ ทุกเช้าจะมาแอ๊คท่าบนไม้ให้คนถ่ายรูป รับทิปบ่อยๆ เขาเป็นที่ชื่นชอบของคนในโรงแรมและแขกมาก และเขาก็เสียชีวิตไปในเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2004 ค่ะ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 21:03:21

ความคิดเห็นที่ 61 ยินดีค่าคุณ maxtana01 อีกนิดเดียวก็จะจบแล้วล่ะค่ะ ^^ ... บนชายหาดก็มีแต่เจ้าพวกนี้แหละค่ะ ลูกหมาสีน้ำตาลนี่ อยู่กับเรามาตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะคะ มานั่งอยู่ตรงที่ทานข้าวเลยทีเดียว ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 21:05:16

ความคิดเห็นที่ 62 ท่ามกลางความว่างเปล่า เจอคุณลุงคนนี้ยืนอยู่ ท่าทางอยากลงไปตกปลานะคะ ไอซ์ยังคุยเล่นกับเพื่อนๆ ว่า ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีคนมาตกปลา จะจ้างลุงลงไปแอ๊คท่าให้ถ่ายรูปสักหน่อย >_< จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 21:06:51

ความคิดเห็นที่ 63 อกหักเพราะไม่เห็นชาวประมงบนท่อนไม้แล้ว หลังทานอาหารเช้า เราก็ไปเที่ยวเมือง Galle กันค่ะ ^^ แต่...เอ๊ะ...ระหว่างทาง เห็นอะไรแว้บๆๆๆ จ๊ากกกก กรี๊ดดดดดดด ทุกคนในรถตะโกนขึ้นพร้อมกันว่า "Stoppppppppppp" จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 21:08:45

ความคิดเห็นที่ 64 คุณพี่คนนี้เป็นมืออาชีพนะคะ เปล่าค่ะ...ไม่ใช่นักตกปลาอาชีพ แต่เป็นนักแสดงอาชีพ -_-" คุณพี่อยู่ในน้ำ แต่บนฝั่งภรรยาคุณพี่เดินมาแบมือเก็บเงินค่าถ่ายรูปค่ะ 5555 อะ...ไม่เป็นไร นักท่องเที่ยวยอมมมมมมม จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 21:10:21

ความคิดเห็นที่ 65 ขำๆ ซักรูป ...ไม่ค่อยเป๊ะแฮะ ^^" จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 21:13:15

ความคิดเห็นที่ 66 ถึงเมือง Galle แล้ววว ฟ้าใส ร้อนนรกหมกไหม้มากมาย เดินไปหมดแรงไป T^T จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 21:15:27

ความคิดเห็นที่ 67 นายแบบรับเชิญแบ๊วๆ >_< จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 21:16:11

ความคิดเห็นที่ 68 ประภาคารสีขาวสะอาด จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 21:17:12

ความคิดเห็นที่ 69 เมือง Galle เป็นเมืองโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ทะเลสวยเวอร์ๆ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 21:18:32

ความคิดเห็นที่ 70 น้ำใสมากๆ ค่ะ ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 21:22:12

ความคิดเห็นที่ 71 ถนน Church st. เป็นมรดกโลกด้วยนะคะ ตึกเก่าๆ สีแปร๋นๆ ส่วนมากเป็นร้านค้าค่ะ คงจะเดินเพลินกว่านี้ ถ้าแดดไม่เผาผลาญจนรู้สึกเหมือนจะละลายตลอดเวลา T^T จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 21:22:29

ความคิดเห็นที่ 72 สัญลักษณ์ของเมือง Galle คือ "ไก่" ค่ะ ไอซ์จำไม่ได้แล้วว่าทำไม แหะๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 21:23:44

ความคิดเห็นที่ 73 ใครชอบถ่ายรูปคงชอบเมืองนี้ค่ะ มุมน่ารักๆ ของตึกเก่าๆ สีสวยๆ เยอะเชียว แต่พวกเราก็ไม่ได้อยู่เมืองนี้นานค่ะ เพราะ...มัน - ร้อน - มากกกกกกก อยากกลับไปเล่นน้ำกันเต็มแก่แล้วววววว >_< จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 21:26:12

ความคิดเห็นที่ 74 พอถึงโรงแรม พวกเราต่างก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงค่ะ รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดว่ายน้ำโดยพลัน เพราะนี่เป็นบ่ายแรกที่เราจะได้พักผ่อนกันจริงๆ จังๆ ไม่ต้องเดินเหนื่อย กะชิลล์กันเต็มที่ ว่ายน้ำบ้าง อาบแดดบ้าง อ่านหนังสือบ้าง เล่นเกมบ้าง นั่งคุยกันบ้าง เริงร่ากันอยู่จนถึงซักสามโมงกว่าๆ หรือสี่โมงเนี่ยอะค่ะ ไอซ์ไม่มีนาฬิกา เพราะว่ายน้ำอยู่ในสระ เสียงสัญญาณเตือนก็ดังลั่นขึ้น หันไปมองในโรงแรม พนักงานวิ่งหนีกันกระเจิง ไอซ์กับสาวๆ ในสระมองหน้ากัน อย่างงงๆ แต่ยังไม่ขึ้นจากน้ำนะคะ ตอนนั้นใจนึกว่า เตือนไฟไหม้แหงๆ สักพักพนักงานก็เข้ามาไล่ให้ขึ้นจากสระค่ะ และคนขับรถของเราก็มาเรียกให้ขึ้นรถด้วยท่าทางตระหนกมากๆ เขาบอกเราว่า "ซ้อมเตือนภัยสึนามิ" เน้นนะคะว่า "ซ้อม" ... พวกเราก็เลยค่อยๆ เดินขึ้นมินิบัสของเราอย่างใจเย็น แต่ละคนไม่มีอะไรติดตัวเลยค่ะ เพราะอย่างที่บอกนะคะ ว่ายน้ำกันอยู่ ไอซ์ใส่ชุดว่ายน้ำสวมเสื้อยืดทับ มีกระเป๋าตังส์เพราะเตรียมมาจ่ายค่าเครื่องดื่มเท่านั้นเอง พาสปอร์ต กล้อง โทรศัพท์และอื่นๆ อยู่บนห้องพักหมดเลยค่ะ ในโรงแรมนอกจากพวกเราแล้ว ก็ยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เพิ่งมาถึง เป็นชาวไอริชค่ะ แม่ พี่ชาย น้องชาย และ...แฟนของน้องชายเป็นสาวไทยนะคะ เห็นยืนเอ๋อๆ กันอยู่ พวกเราก็เรียกให้ขึ้นรถมาด้วยกัน ตอนอยู่บนรถก็ยังฮากระหน่ำค่ะ ถ่ายรูปเล่นกันติงต๊อง ((กล้องเพื่อน)) ระหว่างที่ขับรถหนีเข้าฝั่ง ก็เห็นชาวศรีลังกาหอบข้าวของหนีเข้าฝั่งกันเช่นกัน แต่ก็ยังฮากันอยู่ ไม่สำนึก -_-" จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 21:35:01

ความคิดเห็นที่ 75 ขับรถเข้าฝั่งไปได้ประมาณ 6 กม. ((เมื่อปี 2004 น้ำพัดเข้ามาในฝั่งถึง 3 กม.ค่ะ)) รถก็ติดมาก ไปต่อไม่ไหว หัวหน้าทัวร์ + คนขับรถจึงตัดสินใจขับเข้าไปในบ้านของใครก็ไม่รู้ 555 พวกเราก็มายืนออๆ ดูความวุ่นวายที่ริมถนน และ...อย่างที่เล่านะคะว่า แต่ละคนก็โป๊ได้ที่เลยทีเดียว ชาวบ้านก็หนีไป เหวอกับชาวต่างชาติกลุ่มนี้ไป ((บางคนไม่มีอะไรติดตัวเลยนะคะ มีแต่บิกินี่ ไม่มีเสื้อคลุม เอิ๊ก)) เราแซวเวนดี้ซึ่งมีสวมบิกินี่ว่าให้เข้าไปข้างในเหอะ เดี๋ยวจะทำให้เกิดอุบัติเหตุเพราะหน้าอกของเธอ >_< ... บ้าบอกันได้สักพัก พวกสาวๆ ออสซี่ที่มีมือถือ ก็ได้รับข้อความเตือนจากเพื่อนๆ และครอบครัวที่ออสเตรเลียค่ะว่า เกิดแผ่นดินไหวที่อินโดนีเซียรุนแรงมากๆ และมีการเตือนว่าอาจเกิดสึนามิได้ กรรมล่ะสิ ของจริงรึเนี่ย -*- ตอนนั้นไอซ์ไม่ได้ห่วงตัวเองนะคะ เพราะมั่นใจว่าปลอดภัย แต่ห่วงพ่อกับแม่ที่เมืองไทยว่า จะเป็นห่วง โทรศัพท์ก็ไม่ได้ติดมา และ...ขอสารภาพว่า ไอซ์จำเบอร์ใครไม่ได้เลยค่ะ นี่เป็นบทเรียนมากๆ ว่า ต่อไปห้ามพึ่งเทคโนโลยีมากเกินไป ควรจะต้องจำเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินได้บ้าง พวกเราก็รอฟังข่าวกันไป ฮากันไป ((กลุ่มนี้มันฮากันตลอด -_-")) โชคดีที่บ้านที่เราบังเอิญติดไปเป็นกาฝากนั้น มีฐานะพอสมควรค่ะ มีพื้นที่กว้างขวาง บ้านสมัยใหม่ แถม...ยังติดเคเบิ้ลให้เราดูข่าว CNN ได้อีกแน่ะ ^^ เราเลยตามข่าวกันได้ตลอดนะคะ ... พักเรื่องระทึกขวัญ มาเรียนภาษาสักหนึ่งประโยคที่มีประโยชน์มากๆ นี่เป็นคำแรกที่ไอซ์ใช้พูดกับเจ้าของบ้านเลยล่ะค่ะ ประโยคนั้นก็คือ... wesikiliya koheda? เจ้าของบ้านทำหน้าปลื้มและส่ายหน้าไปมา ((ส่ายหน้าแปลว่าใช่หรือตกลงนะคะ)) และ...พาไอซ์...ไปห้องน้ำค่ะ 5555555 >_< ... ภาพโรงแรม ไม่เกี่ยวกับเนื้อหา 555 จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 21:42:15

ความคิดเห็นที่ 76 เราปักหลักอยู่ที่บ้านนี้ตลอดเลยค่ะ เจ้าของบ้านก็ใจดีมากๆ ไปซื้อชาอย่างดีมาชงแจกอีกต่างหาก เราก็เลยเหมือนกับมีปาร์ตี้ย่อยๆ ไอซ์กับเพื่อนๆ เดินไปเดินมา นั่งเมาธ์กันบ้าง เดินออกไปที่หน้าบ้านบ้าง มีครั้งหนึ่ง ไอซ์ อีฟบรู นิกกี้ ลีโอนี่ และเบน กำลังคุยกันเฮฮาอยู่หน้าบ้าน จู่ๆ ก็มีนักข่าวท้องถิ่นผ่านมาและขอถ่ายรูปเอาไปลงหนังสือพิมพ์ค่ะ พวกเราก็โพสต์ท่ากอดเอวกันแล้วโบกมืออย่างเริงร่า ((คนศรีลังกาเห็นแล้วอาจนึกว่ากลุ่มนี้ปัญญาอ่อน -_-")) เราส่งนิกกี้เป็นตัวแทนกลุ่มให้สัมภาษณ์อัดลงวีดีโอด้วย เสียดายที่ไม่รู้ว่าออกข่าวช่องไหนอะค่ะ 5555 จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 21:46:02

ความคิดเห็นที่ 77 มีเรื่องที่ทำให้ใจหายใจคว่ำนิดหน่อยก็คือ คิงส์ลีย์...หัวหน้าทัวร์ของเรา...แอบกลับเข้าไปในโรงแรมค่ะ ไม่รู้จริงๆ ว่าหนีไปตอนไหน เรื่องของเรื่องก็คือ เขาเป็นห่วงว่า เนื่องจากไม่มีใครอยู่ที่โรงแรมแล้ว เขากลัวว่าจะมีคนเข้าไปขโมยของในโรงแรมค่ะ เพราะเคยเกิดขึ้นมาแล้ว พวกเราพูดเป็นเสียงเดียวกันก่อนแล้วนะคะว่า ไม่ต้องเป็นห่วงสิ่งของ ต่อให้พาสปอร์ตไม่มี แต่ในเหตุการณ์ภัยพิบัติ เรากลับบ้านกันได้แน่นอน และของอื่นๆ ก็เป็นของนอกกาย ชีวิตสำคัญที่สุด แต่...คิงส์ลีย์ก็ยังหนีพวกเราไป ตอนที่รู้ว่าคิงส์ลีย์หายไป พวกเรานั่งกันไม่ติดเลยค่ะ เริ่มจะชิลล์ไม่ออก อีกนานเลยค่ะ กว่าคิงส์ลีย์จะกลับมา พร้อมกับ...กล้วย บิสกิต และโค้ก ให้พวกเรารองท้อง พอเห็นหน้าคิงส์ลีย์พวกเราก็โล่งใจค่ะ ยังไงอยู่พร้อมหน้ากันก็อุ่นใจกว่า ของอื่นๆ เป็นของนอกกายนะคะ เราอยู่ที่บ้านนั้นจนเกือบหนึ่งทุ่ม ก็มีการยกเลิกการเตือนภัย ก็เลยกลับโรงแรมค่ะ โชคดีมากๆ ที่ไม่มีใครเข้าไปขโมยของ ทุกอย่างอยู่กับที่เหมือนเดิม ... บอกตรงๆ ว่า ถึงจะทำใจไว้แล้ว แต่เห็นว่าของทุกอย่างอยู่ที่เดิมก็ดีใจค่ะ โดยเฉพาะกล้อง...ไม่งั้นคงจะไม่มีรูปมารีวิวในกระทู้แน่ๆ ^^ ครอบครัวของไอซ์โทร.เข้ามือถือหลายครั้งเลยทีเดียว พอเห็น missed call และข้อความ ไอซ์ก็รีบโทร.กลับไปบอกว่าปลอดภัยดี แต่คุณแม่ก็เสียงสบายๆ นะคะ เพราะ...โทรศัพท์ไปถามทางบริษัททัวร์ต้นสังกัดแล้ว และได้รับคำรับรองว่าปลอดภัยดี ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง ไอซ์จะให้รายละเอียดทุกอย่างกับครอบครัวไว้ค่ะว่า แต่ละวันจะอยู่ที่ไหน ติดต่อฉุกเฉินได้ที่ใคร ซึ่งก็ได้เห็นประโยชน์จะๆ ก็คราวนี้แหละ และ...ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่คิดว่า...เดินทางกับทัวร์นี่ดีตรงที่มีคนดูแลตลอด เพราะดูอย่างครอบครัวชาวไอริชอะค่ะ มาเอง เอ๋อไปเอ๋อมา ถ้าไม่เจอกรุ๊ปไอซ์ ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง เพราะพนักงานโรงแรมน่ะ เผ่นไปก่อนแล้ว >_< ไอซ์เที่ยวเองคนเดียว ไม่ได้ไปกับทัวร์เรื่อยๆ นะคะ โดยเฉพาะประเทศในยุโรป ต่อไปคงจะต้องหาวิธีการติดต่อกับทางครอบครัวให้รัดกุมขึ้น ^^ วันนั้นเหตุการณ์ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีค่ะ วันรุ่งขึ้นก็จะไปโคลอมโบกันแล้ว สรุปว่า...พวกเราไม่มีวันไหนที่ได้พักหายใจหายคอเลยสักวัน 5555 จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 21:54:07

ความคิดเห็นที่ 78 วันที่ 12 ... เราตื่นเช้ามาเพื่อพบกับข่าวร้ายว่า...เสื้อผ้าของเราที่ส่งซักไปก่อนหน้า ยังเปียกอยู่ 555 ณ จุดนั้นเกือบทุกคนไม่มีเสื้อผ้าสะอาดใส่แล้ว แต่ก็ปลงค่ะ เหตุการณ์สุดวิสัย ทำอะไรไม่ได้เนอะ เราออกจาก Ahangama ทิ้งความวุ่นวายไว้เบื้องหลัง และแวะชมศูนย์ดูแลเต่าทะเลระหว่างทางค่ะ ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 21:56:57

ความคิดเห็นที่ 79 ที่นี่ก็จะรับดูแลเต่าทะเลบาดเจ็บ แล้วก็มีการซื้อไข่เต่าจากประชาชน ((ไม่งั้นเขาจะเอาไปกินกันค่ะ)) เพื่อนำมาฟักเป็นตัวก่อนปล่อยลงทะเลค่ะ ลูกเต่าอายุ 3 วัน ตัวเล็กจิ๋ว >_< จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 21:58:28

ความคิดเห็นที่ 80 น้องเต่าตัวนี้แขนหน้าขาดอะค่ะ เขาบอกว่าจะดูแลให้หายดีก่อนปล่อยลงทะเล แต่ไอซ์เห็นแล้วว่ายไม่ตรงเลย ปล่อยลงทะเลจะรอดหรือคะ T^T จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 21:59:38

ความคิดเห็นที่ 81 เยี่ยมชมเสร็จแล้ว ก็ขับรถเข้าโคลอมโบโดยใช้ express way ที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ ค่ะ บน expres way ใช้เวลา 1 ชั่วโมง แต่พอเข้าเขตโคลอมโบแล้ว รถก็ติดมากกกกกกก ก่อนเข้าโรงแรม คิงส์ลีย์ขับพาวนดูรอบๆ เมืองเป็น city tour เบาๆ ไอซ์ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปอะค่ะ เน่ามากๆ แต่เห็นหลายๆ กระทู้ที่รีวิวศรีลังกาถ่ายรูปกันมาสวยมากๆ แล้ว ยังไงลองไปหาดูกันนะค้า ตัวอย่างรูปจากกล้องไอซ์ ได้ประมาณนี้แหละค่ะ 5555 จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 22:02:52

ความคิดเห็นที่ 82 วันนั้นเป็นวัน New year eve ของชาวศรีลังกา ... ตามห้างคนไปซื้อของกันขวักไขว่ อ้อ...คิงส์ลีย์เล่าว่า เวลาขึ้นปีใหม่เนี่ย ชาวศรีลังกานิยมให้เสื้อผ้าใหม่ๆ กันค่ะ ซึ่งโหรจะประกาศว่า แต่ละปีมีสีมงคลอะไร สำหรับปีนี้เป็นสีฟ้าอ่อนนะคะ ^^ ... เล่าถึงตรงนี้ทำให้นึกออกอีกเรื่อง เวลาเด็กๆ ศรีลังกาเกิดใหม่ๆ พ่อแม่จะเอาดวงไปผูกเหมือนบ้านเราเลยล่ะค่ะ ผูกเวลาเป็นสัตว์ต่างๆ แต่ไม่เหมือนของจีนนะคะ เพราะมีช้างด้วยแหละ ไอซ์ก็ไม่รู้ว่าเขาผูกกันยังไง อยากไปลองดูดวงแต่ไม่มีโอกาส เอิ๊ก และเมื่อโตขึ้น มีการจับคู่แต่งงานกัน ดวงของหนุ่มสาวแต่ละคนจะมีกันอยู่ 18 จุด ((อะไรบ้างก็ไม่รู้)) ถ้าจะให้คู่กันจะต้องแมชท์กันมากกว่า 70% ค่ะ การแต่งงานแบบพ่อแม่จับคู่ให้นี้ ยังมีอยู่ในศรีลังกานะคะ ... บ่ายวันนั้นพวกเราส่วนใหญ่...พักผ่อนเพราะหมดแรงค่ะ 555 ไอซ์กับเพื่อนๆ ส่วนหนึ่งไปนั่งชิลล์ๆ กันที่ The Galle Face Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมเก่าแก่ มีคนดังๆ ไปพักเยอะมากๆ ที่นี่มีชื่อเสียงเรื่อง cocktail นะคะ แต่...เนื่องจากวันที่เราไปนั้น เป็น New year eve ...ดังนั้น...งดจำหน่ายเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ทุกชนิด ยาวไปถึงวันรุ่งขึ้นด้วย แง่ T^T จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 22:09:16