ความคิดเห็นที่ 1 ทริปนี้ไม่มีการวางแผนแต่อย่างใด  แค่ไปถึง..อยุธยา..แล้วก็ขับรถไปเรื่อยๆ  เห็นวัดไหนน่าสนใจเข้าไปกราบไหว้ทำบุญก็เข้าไปเลยไม่ต้องคิดมาก  ผมเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ในเวลาเกือบเที่ยง  ขับรถผ่านตัวเมืองปทุมธานีจากนั้นใช้เส้นทางที่มุ่งหน้าสู่ อ.บางปะอิน-บางปะหัน   ไม่นานไม่ถึงชั่วโมงก็มาถึง..อยุธยา..แล้วครับ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 17:33:19

ความคิดเห็นที่ 2 พอถึง..อยุธยา..ก็แวะหาข้าวเที่ยงกินกันก่อนโดยเลือกที่จะไปกิน"ก๋วยเตี๋ยวผักหวาน"เจ้าเก่า  ซึ่งตั้งอยู่ในซอยอู่ทอง 4   หลังจากที่อิ่มหนำสำราญกับอาหารรสชาติดีที่"ร้านก๋วยเตี๋ยวผักหวาาน"กันแล้วก็ถึงเวลาเริ่มต้นทำภาระกิจบุญกันสักที   วัดแรกที่ได้เข้าไปทำบุญในครั้งนี้ก็อยู่ในซอยด้วยกับร้านก๋วยเตี๋ยวผักหวานนั่นเอง  วัดนั้นมีชื่อว่า"วัดสุวรรณดาราราม" จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 17:36:03

ความคิดเห็นที่ 3 "วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร" เป็นวัดพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร สถานที่ตั้ง ซอยอู่ทอง 4  ตำบลหอรัตนไชย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 17:39:36

ความคิดเห็นที่ 4 มารู้จักประวัติของ"วัดสุวรรณดาราราม" กันสักหน่อย  (ข้อมูลต่างๆ นำมาจากเว็บไซต์ http://www.dhammathai.org ขอขอบคุณมากเลยนะครับ) วัดสุวรรณดาราราม ตั้งอยู่ริมป้อมเพชร พระอัยกาในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สร้างวัดนี้ตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยาให้ชื่อว่า "วัดทอง"  ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสด็จขึ้นครองราชย์และทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี ได้โปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์วัดนี้ทั้งหมด จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 17:45:58

ความคิดเห็นที่ 5 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จขึ้นครองราชย์ จึงโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาวัดทองขึ้นใหม่และพระราชนามว่า “วัดสุวรรณดาราราม” เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระบรมชนกนาถและพระบรมราชชนนี ตามพระนามเดิมของทั้งสองพระองค์คือ “ทองดี” และ “ดาวเรือง” จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 17:47:47

ความคิดเห็นที่ 6 ภายในพระวิหารของวัดนี้มีภาพเขียนแสดงพระราชประวัติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช นับเป็นจิตรกรรมฝาผนังที่มีฝีมือยอดเยี่ยมงดงามมาก จนกรมศิลปากรได้ถ่ายแบบภาพเขียนนี้ไปไว้ที่อนุสรณ์ดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 17:50:44

ความคิดเห็นที่ 7 ด้านนอกของพระวิหารเรียบง่ายและสวยงาม จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 17:54:26

ความคิดเห็นที่ 8 ด้านหลังพระวิหารเป็นที่ประดิษฐานของพระเจดีย์ประธาน จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 17:55:21

ความคิดเห็นที่ 9 อีกฝั่งเป็น"พระอุโบสถวัดสุวรรณดารามราม"  ซึ่งถูกสร้างเป็นแบบสมัยอยุธยาตอนปลาย คือทำส่วนฐานโค้งอ่อนลงตรงกลางคล้ายปากเรือสำเภา หน้าบันอุโบสถสลักลายเป็นรูปนารายณ์ทรงครุฑ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 17:57:49

ความคิดเห็นที่ 10 ภายในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเทพชุมนุมที่ผนังอุโบสถตอนบน ตอนล่างเขียนเรื่องเวสสันดรชาดก เตมีย์ชาดกและสุวรรณสามชาดก ผนังด้านหน้าพระประธานเขียนภาพมารวิชัย มีแม่พระธรณีบีบมวยผมอยู่ตรงกลาง จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 17:59:16

ความคิดเห็นที่ 11 ต้นศรีมหาโพธิ์ต้นใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้าพระอุโบสถ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 18:00:40

ความคิดเห็นที่ 12 หลังจากไหว้พระทำบุญที่วัดสุวรรณดารามรามเป็นแห่งแรกแล้ว  ผมก็ขับรถไปเรื่อยๆ ตามถนนในคูเมือง  อ่านป้ายวัดต่างๆ ที่ตั้งอยู่เรียงรายตามท้องถนน  แล้วก็ไปสะดุดตากับป้าย"พระมงคลบพิตร"เข้าอย่างจัง  แล้วก็เลยตัดสินใจขับรถมุ่งหน้าไปตามป้ายบอกทางจนถึงที่หมายนั่นก็คือ "วิหารพระมงคลบพิตร"  ซึ่ง"วิหารพระมงคลบพิตร" นั้นตั้งอยู่ทางด้านใต้ของวัดพระศรีสรรเพชญ์ แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 55 18:09:39 จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 18:07:50

ความคิดเห็นที่ 13 "พระมงคลบพิตร"  ไม่ปรากฏหลักฐานชัดว่าสร้างในรัชกาลใดแห่งกรุงศรีอยุธยาแต่สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยาตอนต้น  เพราะพระพักตร์แม้จะมีลักษณะค่อนข้างเป็นวงรีแต่ก็ยังคงเห็นเค้าพระพักตร์เป็นเหลี่ยมอยู่  ซึ่งเป็นพุทธลักษณะแบบอยุธยาตอนต้น เมื่อพิจารณาถึงเส้นพระขนงที่โค้งก็จะพบว่าเป็นศิลปที่ผสมผสานกับศิลปะสุโขทัยอีกด้วย  องค์พระก่อด้วยอิฐแล้วหุ้มสำริดแผ่น นับเป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งของไทย จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 18:14:01

ความคิดเห็นที่ 14 จากหลักฐานมีอยู่ว่า เมื่อปี พ.ศ. 2146 พระเจ้าทรงธรรมได้โปรดเกล้าฯ ให้ชะลอ"หลวงพ่อวัดมงคลบพิตร" จากด้านตะวันออกของวังหลวงมาไว้ทางด้านตะวันตก ณ ทีประดิษฐานปัจจุบัน และยังได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระมณฑปที่มีลักษณะเช่นเดียวกับมณฑปพระพุทธบาทสระบุรีสวมไว้ด้วย ในสมัยพระพุทธเจ้าเสือ เกิดอสุนีบาตต้องยอดพระมณฑป เกิดไฟไหม้พังลงมาต้องพระศอของพระมงคลบพิตรหัก  พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ ให้รื้อเครื่องบนออกแล้วสร้างใหม่เป็นพระวิหาร แต่คงทำเครื่องยอดอย่างมณฑปของเดิม  ต่อมาในสมัยพระเจ้าบรมโกศ ได้โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศน์เป็นแม่กองบูรณะปฏิสังขรณ์  และได้รื้อยอดมณฑปเดิมเปลี่ยนเป็นพระวิหาร  วิหารพระมงคลบพิตรถูกไฟเผาผลาญในครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาเมื่อปี พ.ศ. 2310   จนเครื่องบนของพระวิหารพังลงมาถูกพระเมาฬีและพระกรขวาขององค์พระชำรุด  พระยาโบราณราชธานินทรเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมุหเทศาภิบาลมณฑลอยุธยาได้บูรณะซ่อมแซมให้คืนดี   สำหรับพระวิหารที่ชำรุดหักพังเกือบจะโดยสิ้นเชิงนั้นได้บูรณะขึ้นใหม่อย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบันเมื่อปี พ.ศ. 2499  โดย นายอูนุ นายกรัฐมนตรีสหภาพพม่าในขณะนั้นได้บริจาคเงินจำนวนสองแสนบาทร่วมกับฝ่ายรัฐบาลไทยอีกสองแสนห้าหมื่นบาท (ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://th.wikipedia.org ขอบคุณมากนะครับ) จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 18:19:55

ความคิดเห็นที่ 15 หลังจากไหว้"พระมงคลบพิตร"แล้ว  ก็ขับรถไปเรื่อยๆ จนถึง"วัดธรรมิกราช" ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก"วิหารพระมงคลบิตร" จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 18:31:41

ความคิดเห็นที่ 16 "วัดธรรมิกราช" เดิมชื่อ "วัดมุขราช" ตั้งอยู่ใน อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ติดกับพระราชวังโบราณและวัดพระศรีสรรเพชญ์  ปัจจุบันยังเป็นวัดที่มีพระภิกษุสงฆ์จำพรรษาและปฏิบัติธรรมอยู่ โดยมีพระครูสมุห์ธรรมภณเป็นเจ้าอาวาส จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 18:34:52

ความคิดเห็นที่ 17 พระเศียรของพระธรรมิกราชจำลอง ตั้งอยู่ลานนอกด้านหน้าพระวิหารพระนอน  ส่วนพระเศียรองค์จริงถูกเก็บรักษาไว้ ณ พิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยา จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 18:44:19

ความคิดเห็นที่ 18 ถัดจากพระเศียรของพระธรรมิกราชเป็น"อนุสาวรีย์ขององค์พระนเรศวรมหาราช" จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 18:45:47

ความคิดเห็นที่ 19 ถีดจากพระอนุสาวรีย์ขององค์พระนเรศวรมหาราชก็เป็น"พระวิหารทรงธรรม" เป็นพระวิหารใหญ่ขนาด 9 ห้อง มีมุขโถงด้านหน้า สร้างขึ้นรัชสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เพื่อเป็นสถานที่ฟังธรรมในวันพระ  ภายในเคยเป็นที่ประดิษฐานพระธรรมิกราช แต่ปัจจุบันพระวิหารทรงธรรมแห่งนี้ได้พังเสียหายไปตามกาลเวลา  คงเหลือแต่ผนังและเสาของพระวิหารบางส่วนไว้ได้เห็นเป็นอนุสรณ์ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 18:50:34

ความคิดเห็นที่ 20 พระธรรมิกราชจำลององค์เล็ก ตั้งอยู่ด้านหน้าของ"วิหารทรงธรรม" จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 18:52:59

ความคิดเห็นที่ 21 ด้านในพระวิหารทรงธรรม ซึ่งเหลือเพียงแต่เสาปูนและผนังอิฐแดง จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 18:55:02

ความคิดเห็นที่ 22 พระธรรมิกราชจำลองภายในพระวิหาร จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 18:55:36

ความคิดเห็นที่ 23 เสาอิฐแดงเข้ากันได้ดีกับท้องฟ้าสีสวยจัง  แต่ดูแล้วก็อดหดหู่ใจยังงัยไม่รู้ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 18:56:42

ความคิดเห็นที่ 24 ผนังด้านหลังพระวิหารทรงธรรม จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 18:57:58

ความคิดเห็นที่ 25 พระพุทธชินราชองค์เล็กตั้งอยู่บนกองหินด้านหลังพระธรรมิกราช จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 18:58:56

ความคิดเห็นที่ 26 ความเชื่อ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 18:59:17

ความคิดเห็นที่ 27 รูปสวยจัง ขอบคุณนะคะ ไม่ได้ไปอยุธยานานมากแล้ว จากคุณ : หาอะไรก็เจอ เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 18:59:44

ความคิดเห็นที่ 28 ยินดีต้อนรับครับคุณ หาอะไรก็เจอ ขอบคุณนะครับ ................................................................................................................ ตรงข้าม"วิหารทรงธรรม"เป็นที่ตั้งของ"เจดีย์สิงห์ล้อม" จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 19:02:03

ความคิดเห็นที่ 29 "เจดีย์สิงห์ล้อม" หรือ "เจดีย์ประธาน" เป็นเจดีย์ทรงระฆังที่ตั้งอยู่บนฐานรูปแปดเหลี่ยม ส่วนล่างเป็นฐานประทักษิณรูปสี่เหลี่ยม รอบฐานเจดีย์ประดับด้วยสิงห์ปูนปั้นที่สร้างขึ้นราวรัชสมัยพระเจ้าปราสาททอง จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 19:03:16

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าไม่เสียหายไปตามกาลเวลา เจดีย์แห่งนี้น่าจะสวยงามน่าดูเลยครับ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 19:04:17

ความคิดเห็นที่ 31 ถัดจาก"วิหารทรงธรรม"ก็เป็นพระอุโบสถของวัดธรรมิกราช จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 19:05:45

ความคิดเห็นที่ 32 ภายในพระอุโบสถ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 19:06:38

ความคิดเห็นที่ 33 ตามไปเที่ยวอยุธยาด้วยคนครับบบ......... จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 19:07:50

ความคิดเห็นที่ 34 เผลอแป๊ปเดียวผมได้เข้าไปไหว้พระได้ 3 วัดแล้ว อิ่มบุญจริงๆ ครับ  หลังจากที่ออกจาก"วัดธรรมิกราช" ก็ขับรถไปอีกนิดเดียวก็ได้เห็น"วัดราชบูรณะ" ซึ่งมี"พระปรางค์"องค์ใหญ่ตั้งเด่นเป็นที่สะดุดตายิ่ง  จอดรถแล้วก็เดินไปชมกัน จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 19:14:49

ความคิดเห็นที่ 35 แปะไว้ก่อน พรุ่งนี้มาชมใหม่ จากคุณ : หาอะไรก็เจอ เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 19:17:01

ความคิดเห็นที่ 36 ยินดีต้อนรับครับคุณ สายลมแห่งวิงค์ ................................................................................................................ ที่"วัดราชบูรณะ"เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกอุทยานประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยา  มีการเก็บเงินค่าเข้าชมสถานที่คนละ 10 บาท จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 19:22:02

ความคิดเห็นที่ 37 -คุณ หาอะไรก็เจอ  ยินดีครับ ................................................................................................................ "วัดราชบูรณะ" ตั้งอยู่ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บริเวณเชิงสะพานป่าถ่าน ติดกับวัดมหาธาตุทางบริเวณทิศตะวันออก ห่างจากพระราชวังโบราณเพียงเล็กน้อย จัดเป็นหนึ่งในวัดที่ใหญ่และมีความเก่าแก่มากที่สุดในพระนครศรีอยุธยา จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 19:23:14

ความคิดเห็นที่ 38 ไม่ได้ไปอยุธยามานานมากแล้ว อยากไปจริงๆ หวังว่าปีนี้น้ำจะไม่ท่วม จากคุณ : นางมารชุดส้ม เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 19:25:46

ความคิดเห็นที่ 39 จากด้านในพระวิหารซึ่งคงเหลือแต่ฐานรากจะสามารถมองเห็นพระปรางค์ได้อย่างชัดเจน จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 19:26:03

ความคิดเห็นที่ 40 ยินดีต้อนรับครับคุณ นางมารชุดส้ม  คิดเหมือนกันเลยครับ ไปครั้งนี้ยังได้เห็นร่องรอยน้ำตามกำแพงวัดต่างๆ  เห็นแล้วก็อดสงสารชาวกรุงเก่าไม่ได้ที่ประสบกับปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่นี้   ................................................................................................................ เดินทะลุพระวิหารออกมาก็จะได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่ขององค์พระปรางค์วัดราชบูรณะแล้วครับ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 19:28:55

ความคิดเห็นที่ 41 "พระปรางค์วัดราชบูรณะ" สร้างโดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือเจ้าสามพระยา ในปี พ.ศ. 1967  วัดราชบูรณะมีชื่อเสียงและความโด่งดังมากในเรื่องการถูกกลุ่มคนร้ายจำนวนหนึ่งลักลอบขุดกรุภายในพระปรางค์ประธานในปี พ.ศ. 2499  และช่วงชิงทรัพย์สมบัติจำนวนมากมายมหาศาลหลบหนีไป  ต่อมากรมศิลปากรเข้าทำการบูรณะขุดแต่งต่อและได้พบทรัพย์สมบัติที่หลงเหลือและเครื่องทองจำนวนมากมาย  ปัจจุบันทรัพย์สมบัติภายในกรุถูกเก็บรักษาไว้ที่ห้องราชบูรณะ ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 19:32:08

ความคิดเห็นที่ 42 ก่อนจะขึ้นไปชมภายในของพระปรางค์เดินสำรวจพื้นที่โดยรอบก่อน   เห็นซากปรักหักพังของสิ่งก่อสร้างต่างๆ ภายในวัดราชบูรณะ และสถานที่อื่นๆ ใน..อยุธยา..แล้วก็อดรันทดใจไม่ได้  นี่แหละที่เค้าบอกว่า..สงครามไม่ได้ก่อให้เกิดผลดีแต่อย่างใด  มีแต่ความสูญเสียและน้ำตา... จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 19:35:19

ความคิดเห็นที่ 43 ความเสื่อม จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 19:38:12

ความคิดเห็นที่ 44 เศร้า จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 19:39:17

ความคิดเห็นที่ 45 หลังจากเดินสำรวจหนึ่งรอบได้เวลาขึ้นไปชมพระปรางค์กันแล้ว จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 19:40:07

ความคิดเห็นที่ 46 ภายในพระปรางค์ไม่ได้ใหญ่โตตามขนาดขององค์พระปรางค์ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 19:42:01

ความคิดเห็นที่ 47 มีทางลงไปยังด้านล่างซึ่งเป็นที่เก็บทรัพย์สมบัติในสมัยโบราณ ซึ่งบางส่วนได้ถูกโจรกรรมไปและอีกบางส่วนได้ถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 19:43:13

ความคิดเห็นที่ 48 รูปภาพทรัพย์สมบัติที่ถูกขุดพบได้ภายในพระปรางค์วัดราชบูรณะแห่งนี้ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 19:44:12

ความคิดเห็นที่ 49 จากนั้นผมก็ลงไปยังด้านล่างซึ่งค่อนข้างแคบและชัน  แถมอากาศยังน้อยหายใจไม่ค่อยออกด้วย จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 19:45:25

ความคิดเห็นที่ 50 ลงไปจนสุดจะเจอห้องเล็กมากเพียงคนยืนได้คนเดียว ผนังทั้ง 4 ด้านน่าจะมีจิตกรรมฝาผนังเมื่อครั้งในอดีตและห้องนี้น่าจะเป็นห้องเก็บทรัพย์สมบัติต่างๆ ที่ขุดค้นพบได้ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 19:49:19

ความคิดเห็นที่ 51 เข้ามาชมกระทู้ทำบุญไหว้พระด้วยค่ะ ^_^ จากคุณ : ชอบกินชอบเที่ยว เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 19:50:29

ความคิดเห็นที่ 52 เดินขึ้นมาอย่างเร่งรีบเพราะต้องการอากาศบริสุทธิ์หายใจอย่างเร่งด่วนก่อนที่จะเป็นลมเป็นแร้งไปเสียก่อน  ออกมาพักด้านนอกได้เห็นศิลปะในสมัยกรุงศรีอยุธยาบนยอดพระปรางค์ที่น่าจะได้รับการซ่อมแซมจากกรมศิลปากรแล้วบางส่วน  งดงามและอ่อนช้อยมาก  ถ้าไม่เกิดสงครามและไม่ถูกทำลาย พระปรางค์แห่งนี้คงจะสวยอย่างหาที่ติมิได้ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 19:53:12

ความคิดเห็นที่ 53 ยินดีต้อนรับครับคุณ ชอบกินชอบเที่ยว ................................................................................................................ จากนั้นผมก็ออกจาก"วัดราชบูรณะ" แล้วขับรถข้ามแยกไปอีกนิดเดียว  ก็จะเจอกับอีกหนึ่งสถานที่ที่สำคัญของอุทยานประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยาแห่งนี้แล้วนั่นก็คือ "วัดมหาธาตุ" จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 19:55:29

ความคิดเห็นที่ 54 เสียค่าเข้าชมสถานที่คนละ 10 บาทเช่นเคย  จากนั้นก็เข้าไปชมสถานที่ได้ตามสบายครับ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 19:56:26

ความคิดเห็นที่ 55 "วัดมหาธาตุ" จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นหนึ่งในวัดในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา วัดมหาธาตุเป็นวัดที่มีความสำคัญยิ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยา เพราะเป็นวัดที่ประดิษฐานพระบรมธาตุุใจกลางพระนคร และโดยเฉพาะอย่างยิ่งยังเป็นที่พำนักของ สมเด็จพระสังฆราชฝ่ายคามวาสีอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงได้รับการก่อสร้างและดูแลตลอดเวลาจวบจนถูกทำลายลงหลังเสียกรุงครั้งที่ 2 จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 20:00:47

ความคิดเห็นที่ 56 ไฮไลต์ของที่นี่ "เศียรพระที่ฝังอยู่ในต้นไม้" จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 20:02:21

ความคิดเห็นที่ 57 ขอตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ^^ จากคุณ : เด็กดอย เจ้าแม่ปาเงิน เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 20:03:35

ความคิดเห็นที่ 58 เฉกเช่นเดียวกับที่อื่นๆ ซากปรักหักพังที่มีให้เห็นทั่วไป จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 20:04:23

ความคิดเห็นที่ 59 ยินดีต้อนรับครับคุณ เด็กดอย เจ้าแม่ปาเงิน ................................................................................................................ บริเวณโดยรอบ"วัดมหาธาตุ" จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 20:06:05

ความคิดเห็นที่ 60 ขอตัวไปกินข้าวก่อน เดี๋ยวกลับมารีวิวต่อนะครับ ขอจบช่วงนี้ด้วยอีกมุมหนึ่งของ"พระปรางค์วัดมหาธาตุ" จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 20:08:04

ความคิดเห็นที่ 61 ตามมาไหว้พระด้วยคนครับ  ดูรีวิวนี้แล้วรู้สึกสงบบอกไม่ถูก จากคุณ : ชานมชงเอง เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 20:22:46

ความคิดเห็นที่ 62 ชอบครับ ตามชมอยู่นะครับ จากคุณ : สมหมาย09 เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 20:41:48

ความคิดเห็นที่ 63 กลับมารีวิวต่อแล้วครับ   -ยินดีต้อนรับนะครับคุณ ชานมชงเอง -ยินดีต้อนรับนะครับคุณ สมหมาย09 ................................................................................................................ขับรถออกจาก"วัดมหาธาตุ" แล้วผมก็มุ่งหน้าออกนอกเกาะเมืองกรุงศรีอยุธยา  จุดหมายปลายทางอยู่ที่วัดอีกหนึ่งแห่งที่ผมอยากไปมานานแต่ยังไม่เคยสบโอกาสสักทีนั่นก็คือ "วัดไชยวัฒนาราม" จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 20:54:08

ความคิดเห็นที่ 64 วัดไชยวัฒนาราม คือ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตกนอกเกาะเมือง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา  เป็นวัดที่พระเจ้าปราสาททอง กษัตริย์กรุงศรีอยุธยาองค์ที่ 24 (พ.ศ. 2173-2198) โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อพ.ศ.2173 ได้ชื่อว่าเป็นโบราณสถานที่มีความงดงามมากแห่งหนึ่ง (ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://travel.thaiza.com ขอบคุณมากครับ) จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 20:59:05

ความคิดเห็นที่ 65 สิ่งที่น่าชมภายในวัดได้แก่ พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ เป็นปรางค์ประธานของวัดตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสและที่มุมฐานมีปรางค์ทิศประจำอยู่ทั้งสี่มุม การที่สมเด็จพระเจ้าปราสาททองซึ่งเป็นกษัตริย์สมัยอยุธยาตอนปลายทรงสร้างปรางค์ขนาดใหญ่เป็นประธานของวัด เท่ากับเป็นการรื้อฟื้นศิลปะสมัยอยุธยาตอนต้นที่นิยมสร้างปรางค์เป็นประธานของวัดเช่น การสร้างปรางค์ที่วัดมหาธาตุและวัดราชบูรณะ เนื่องจากพระองค์ทรงได้เขมรมาอยู่ใต้อำนาจจึงมีการนำรูปแบบสถาปัตยกรรมเขมรเข้ามาใช้ในการก่อสร้างปรางค์อีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีพระระเบียงรอบปรางค์ประธาน จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 21:00:53

ความคิดเห็นที่ 66 ภายในพระระเบียงมีพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ผนังระเบียงก่อด้วยอิฐถือปูน มีลูกกรงหลอกเป็นรูปลายกุดั่น พระอุโบสถ อยู่ด้านหน้าของวัดภายในมีซากพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยสร้างด้วยหินทราย ใบเสมาของพระอุโบสถทำด้วยหินสีค่อนข้างเขียว จำหลักเป็นลายประจำยามและลายก้านขด และเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง ทางด้านหน้าพระอุโบสถมีเจดีย์ 2 องค์ ฐานกว้าง 12 เมตร สูง 12 เมตร ซึ่งถือเป็นศิลปะที่เริ่มมีแพร่หลายตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 21:02:25

ความคิดเห็นที่ 67 ความสำคัญอีกประการหนึ่งคือ วัดนี้เป็นที่ฝังพระศพของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์(เจ้าฟ้ากุ้ง) กวีเอกสมัยอยุธยาตอนปลายกับเจ้าฟ้าสังวาลย์ซึ่งต้องพระราชอาญาโบยจนสิ้นพระชนม์ในรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 21:04:29

ความคิดเห็นที่ 68 "วัดไชยวัฒนาราม"ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2478 และกรมศิลปากรได้ดำเนินการบูรณะตลอดมาจนปัจจุบันไม่มีสภาพรกร้างอยู่ในป่าอีกแล้ว และยังคงมองเห็นเค้าแห่งความสวยงามยิ่งใหญ่ตระการตา จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 21:06:35

ความคิดเห็นที่ 69 ผมไปถึงที่"วัดไชยวัฒนาราม" ในเวลาประมาณเกือบห้าโมงเย็น  และอีกไม่นานพระอาทิตย์ก็จะลาลับขอบฟ้าไปแล้ว  ดูพระอาทิตย์ตกดินที่"วัดไชยวัฒนาราม"ก็สวยใช่เล่นแต่เสียดายท้องฟ้าไม่ค่อยเป็นใจ  มีเมฆหมอกลอยต่ำปกคลุมท้องฟ้าไปทั่ว จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 21:11:17

ความคิดเห็นที่ 70 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติได้นั่งเรือมาลงหน้าวัดด้วยนะครับ  หลายๆ คนพอขึ้นจะเรือได้มาเห็นพระปรางค์วัดไชยวัฒนารามก็ตื่นเต้นถ่ายรูปกันใหญ่ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 21:12:57

ความคิดเห็นที่ 71 เสียดายอีกอย่างตอนนี้ที่"วัดไชยวัฒนาราม"ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมภายในและรอบๆ อาณาบริเวณวัด  เนื่องจากความเสียหายจากการถูกน้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อปลายปีที่แล้ว  มีป้ายห้ามเข้าตลอดรอบบริเวณวัด จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 21:15:38

ความคิดเห็นที่ 72 ขอบคุณรีวิวสวยๆนะครับ จากคุณ : boy next door เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 21:16:37

ความคิดเห็นที่ 73 คุณผู้หญิงนั่งรอชมพระอาทิตย์ตกด้านหน้าพระปรางค์วัดไชยวัฒนาราม จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 21:17:05

ความคิดเห็นที่ 74 ยินดีต้อนรับครับคุณ boy next door  ขอบคุณครับ ................................................................................................................ พระอาทิตย์ใกล้ลาลับแล้ว จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 21:19:24

ความคิดเห็นที่ 75 ภาพสุดท้ายของทริปอิ่มบุญในเมืองกรุงเก่าครั้งนี้  แล้วเจอกันใหม่ในทริปต่อไปนะครับ สำหรับวันนี้โชคดีราตรีสวัสดิ์ครับ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 21:21:28

ความคิดเห็นที่ 76 ...ตามมาเที่ยวอยุธยาด้วยคนนะคะ     มีแต่วัดสวยๆ ทั้งนั้นเลยนะคะ ที่บ้านก็ชอบขับรถไปเที่ยวอยุธยาเหมือนกันเลยคะ   ^-^ จากคุณ : จูลายกะปลายฟ้า ^-^ (ปลายฟ้าที่ภูตะวัน) เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 22:00:19

ความคิดเห็นที่ 77 ไม่ได้ไปอยุธยาเมืองเก่าของเราแต่ก่อน นานมากกกกแล้วครับ อิ่มบุญจริงๆ คุณน้อยพาเข้าซะหลายวัดเลย จากคุณ : Koon Shy_Tour Dee เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 22:05:14

ความคิดเห็นที่ 78 อิ่มบุญกับรีวิวนี้เลยค่ะ ขอบคุณค่ะที่พาไปไหว้พระ จากคุณ : มุ่นแพร เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 22:19:11

ความคิดเห็นที่ 79 ตามคุณน้อยมาไหว้พระที่อยุธยาค่ะ จากคุณ : Memories pink เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 23:05:22

ความคิดเห็นที่ 80 อิ่มบุญด้วยคนค่ะ  ภาพสวยมาก ขอบคุณสำหรับภาพและข้อมูลค่ะ จากคุณ : momnoka เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 23:05:46

ความคิดเห็นที่ 81 ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ ออกจะร้อนนิดนึงอ่ะค่ะ(เพราะว่าเข้าหลายวัดเลย) ^^ จากคุณ : คืนไร้ดาวพราวแสงจันทร์ เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 23:08:31

ความคิดเห็นที่ 82 บ้านผมสวยจัง... จากคุณ : โฮจุนแห่งกรุงศรีอยุธยา เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 23:38:47

ความคิดเห็นที่ 83 ขอบคุณครับสำหรับรีวิว จากคุณ : Low Batt เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 01:41:20

ความคิดเห็นที่ 84 ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับพี่น้อย เพิ่งไปมาเมื่อเดือนมีนานี้เอง ไปกินกุ้งแม่น้ำเผาในวัดด้วย ได้บาปเข้าไปเต็มๆเลยครับ 555+ จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 02:08:07

ความคิดเห็นที่ 85 กำลังเที่ยวชมวัด ชมวาอยู่เหมือนกันครับ เลยขอแวะอยุธยาด้วยแป๊บนึง จากคุณ : MRBIG173 เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 08:10:02

ความคิดเห็นที่ 86 ตามมาเที่ยว อยุธยาเมืองเก่าของเราแต่ก่อน ไม่ได้ไปหลายปีมากๆละ เห็นแล้วก็น่าจัดไปบ้างนะเนี่ย จากคุณ : +G@To+ เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 08:30:50

ความคิดเห็นที่ 87 ภายในอุโบสถวัดสุวรรณดารารามงดงามจังค่ะ ที่วิหารพระมงคลบพิตรด้วย เห็นแล้วคิดถึงอยากไปกราบไหว้อีก หลังจากไม่ได้ไปนานแล้ว ขอบคุณรีวิวนะคะ พี่น้อย จากคุณ : คนช่างฝัน สาวข้างบ้าน เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 12:37:07

ความคิดเห็นที่ 88 สวยทุกวัดเลยค่ะ จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 16:02:53

ความคิดเห็นที่ 89 ภาพสุดท้ายสวยมากๆครับ ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ จากคุณ : ไวท์เบิร์น เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 17:58:57

ความคิดเห็นที่ 90 ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^ จากคุณ : สามแซ่ เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 20:30:00

ความคิดเห็นที่ 91  กำลังอยากไปไหว้พระที่อยุธยาพอดีเลยค่า     จากคุณ : hollaneung เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 55 12:58:24

ความคิดเห็นที่ 92 เพิ่งกลับมาจากอยุธยาเหมือนกันค่ะ มาคอมเฟิร์มว่าสวยจริง ๆ เราเดินไปก็รู้สึกรักชาติยิ่งขึ้น ๆ จากคุณ : ไทยแท้แม่ให้ (ไทยแท้แม่ให้) เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 55 18:30:40

ความคิดเห็นที่ 93 ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ ภาพสวยมากๆ ตอนไปถ่ายภาพวัดราชบูรณะเหมือนกัน แต่ฟ้าไม่เปิดเลย อดไปวัดมหาธาตุเพราะเวลาจำกัด หวังว่าน้ำคงไม่ท่วมอยุธยาปีนี้อีกนะคะ จากคุณ : เด็กศิลป์ (Artiste) เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 55 10:24:07