สวัสดีค่า ทุกๆคน อั่นย๊อง อั่นย๊อง
ไปเกาหลีเพิ่งจะกลับมาได้สดๆร้อนๆ 02 พฤษภาคม 55 - 09 พฤษภาคม 55
ตอนที่จองตั๋ว คิดว่ามันจะต้องเป็นช่วงจังหวะเวลาของฤดูแห่งสีสัน ฤดูใบไม้ผลิ มองไปทางไหนก็จะละลานตาไปด้วยดอกไม้สีสันสดใส
จะได้ไปเห็นดอกซากุระสีชมพู ปลิวไหวไปกับสายลม วาดฝันละเมอเพ้อพกมากมาย
แต่พอไปถึง เดินออกมาจากสนามบิน จนมาถึงที่พัก ก็เกิดคำถาม
"ไหนวะ ซากุระ?"
เพราะตอนนี้เรามองไปทางไหนก็เจอแต่ใบไม้เขียวชะอุ่มกันเล๊ยพี่น้อง ต้นไม้แต่ละต้นนะ ใบเขียวๆแย่งกันขึ้นใหญ่ เวลาลมพัดที ใบไม้สั่นไหว เหมือนมันกำลังเยอะเย้ยเราเลย นั่นสินะ เค้าก็บอกอยู่แล้วว่า ฤดูใบไม้ผลิ แล้วมันจะมีดอกไม้ผลิได้ไงวะ
แต่ก็ช่างเหอะ จะได้หาข้ออ้างไปใหม่ปีหน้า เลิศค่ะ
**ใครอยากเห็นซากุระ ให้ไปเกาหลีประมาณเดือนเมษาของทุกปีนะคะ**
เข้าเรื่องๆ เกาหลีสำหรับเรา ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในชีวิต แต่ก่อนทริปนี้ เราก็โชกโชนแบบเลือดสาดกันไปกับ ฮ่องกง มาเก๊า กวางเจา สิงคโปร์
ไปแล้วหลายทริป (หลงทางมันซะทุกทริป)
ดังนั้น เราเลยมั่นใจมากว่า ไปเกาหลีครั้งนี้ รอดชัวร์ (มันเอาอะไรมามั่นใจเนี่ย)
อันดับแรก
ก่อนไป สิ่งที่ต้องจัดการคือ แผนการเดินทางต่างๆ ซึ่งข้อมูลก็ได้มาจากห้องนี้น่ะแหละ และจากที่ seoulciety บ้างเล็กน้อย
และเพื่อความปลอดภัยมากยิ่ง ขึ้นก็ซื้อหนังสือไปซักเล่ม 2 เล่ม พก ipad ไปด้วย ขอบอกว่า มีประโยชน์มากมาย เช่นเวลาไปเที่ยว ก็เอา ipad ถ่ายรูปหนังสือหรือแผนที่เอาไว้
พอหลงก็หยิบ ipad มาเปิดอ่าน จะได้ไม่ต้องพกหนังสือหนักๆเวลาเดิน
app ฟรีที่อยากแนะนำ
Jihachul - เป็นแผนที่รถไฟฟ้า app นี้ดีตรงที่เราสามารถกำหนดจุดที่เราจะขึ้น และจุดที่เราจะลงได้ โดยโปรแกรมจะคำนวนทางที่ใกล้ที่สุดให้เรา
แต่เวอร์ล่าสุด เราว่ามันไม่อัพเดทสายสีน้ำเงินที่ต่อไปสนามบินให้เรานะ แต่ยังไงมันก็ใช้งานได้ดีล่ะน่า
หรือไม่ก็เข้าไปลองเลือกโหลดดูที่
อันดับ 2 การจองที่พัก
ทริปของเราเหมือนกับจะฉุกละหุกทริปค่ะ ตอนแรกจะไม่ได้ไปแล้ว เพราะมีพี่คนนึงที่ทำงานเค้าจะลาออก
เราก็เลยโดนคำสั่งห้ามไปไหนจนกว่าจะหาพนักงานคนใหม่ได้
เสียใจมาก สวรรค์ช่างกลั่นแกล้ง โฮฮฮฮฮฮ ดอกซากุระ และ ผู้ชายเกาหลี โดนพัดหายไปกับสายลม
พอหลังจากปิดสงกรานต์ผ่านไป พี่เค้าก็มาบอกใหม่ ว่า ไม่ออกแล้วค่า นั่นแหละ ทริปนี้จึงได้เกิดขึ้น
แต่ว่า พอจะจองที่พัก ปรากฏว่า ที่ๆเราเล็งไว้ เต็มครับพี่น้อง ม่ายยยจริงงงงงง
ก็เลยได้ไปลองนอนเกสเฮ้าส์ใหม่ที่ยังไม่เคยเห็นคนไทยรีวิวกันเลย เดี๋ยวจะเล่ารายละเอียดให้ฟังใน คห. อื่นๆค่ะ
**ควรจองแต่เนิ่นๆ ไม่งั้นมันจะเต็ม T^T **
อันดับ 3 การจัดเตรียมกระเป๋า
-ก่อนไป สิ่งที่เรากังวลและพยายามเปิดดูรีวิวของเพื่อนๆ ก็คือ จะพกเสื้อหนาวแบบไหนไปดี แต่ในรีวิว ไม่มี จริงๆนะ
ก็บ้านเรามันเมืองร้อน มาบอกว่าอุณหภูมิ 20 องศา อากาศดี เราไม่เข้าใจอ่ะ ก็เวลาอยู่บ้านเปิดแอร์ 20 องศา แล้วมันโค-ตรหนาวเลยนี่หว่า
ช่วงวันที่เราไปนั้น อากาศบอกว่า 16-25 องศา ค่ะ งงเลย จัดชุดไปยังไงดี พกเสื้อหนาวหนักๆ 1 ตัว (สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้ เปลืองน้ำหนักเลย) ณ ตอนนี้กลับมาแล้ว
บอกได้เลยว่า เสื้อหนาวธรรมดาแบบบ้านเราก็เอาอยู่ค่ะ ถ้าอยากเหลือน้ำหนักกระเป๋าไว้สำหรับของฝาก เสื้อหนาวไม่ต้องพกไปมากก็ได้ คนเกาหลี และฝรั่งเค้าไม่ใส่เสื้อหนาวกันด้วยซ้ำ
สรุปว่า ตอนกลางวัน อากาศดีสบายมาก เหมือนเดินกลางแดด แล้วพกเอาตู้เย็นติดตัวตลอดเวลาเดิน ตอนกลางคืน ลมหนาวเริ่มมา ใส่เสื้อหนาวบางๆซักตัวก็โอเคแล้ว
-ยาสามัญ เราว่าควรพกไปนะ เดินขาลากมาทั้งวัน ก่อนนอนก็ซัดไทลินอลไป 1 เม็ด ตื่นมาก็จะกระฉับกระเฉงมากมาย (แต่อย่ากินทุกวันนะ ไม่ดีๆ)
อันดับ 4 การผ่าน ตม. (สำคัญสุด)
สำหรับมือใหม่เกาหลี คิดว่า ทุกคนแหละจะกังวลเกี่ยวกับ ตม. เพราะถ้าอ่านรีวิวมาเยอะ ก็จะโดนไซโคมาเยอะ เหมือนเราเป็นต้น ก่อนไปเราก็จัดเลย
ของที่ต้องเตรียมเพื่อผ่าน ตม.เกาหลี
บัตรเครดิต เงินดอลล่า เงินบาท statement ใบรับรองการทำงาน เอากล้องถ่ายรูปมาห้อยคอไว้ พาสปอร์ตมีกี่เล่มพกไปให้หมด กะว่าถ้าไม่ผ่าน จะงัดวีซ่าญี่ปุ่นเมื่อสมัยยังสาวๆ โชว์เลย
เราเลือก ตม.ผู้หญิง ตอนแรกว่าจะเอา ตม.ชายแล้ว เพราะหล่อ 5555555 แต่รีวิวบอกมาว่า โหดและเฮี๊ยบกว่าผู้หญิง ก็เลย ตม.หญิงก็ได้ พอถึงคิว เราก็ส่งยิ้มสยามแจกก่อนเลย ตม.หน้านิ่งมาก ไม่ยิ้มไม่อะไร บอกให้เราเอานิ้วชี้ 2 นิ้ว ไปแตะเครื่องแสกน บอกให้เรามองกล้อง แต่เราเข้าไปยืนซะชิดแท่น แทบจะเอาคางเกยโต๊ะกันเลยทีเดียว ตม.เลยบอกให้เราถอยหลังไปหน่อย จากนั้นก็ แชะ!!!
"Welcome to Seoul"
เฮ๊ย ผ่านแล้ว ง่ายๆงี้เลย
**อย่าเชื่อรีวิวให้มันมากนัก จะพาลนอนไม่หลับเอาได้ เพราะเรานอนไม่หลับมาแล้ว**