ความคิดเห็นที่ 1 ตามต่อ................ขอบคุณครับ   จากคุณ : Low Batt เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 10:15:40

ความคิดเห็นที่ 2 รอชมค่ะ^^ จากคุณ : thata_pk เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 10:19:11

ความคิดเห็นที่ 3 ตามขึ้นรถไฟไปด้วยคนนะครับ ฮี่ๆ จากคุณ : chartchy เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 10:21:30

ความคิดเห็นที่ 4 ไปเที่ยวด้วยคนนะคะ ^^ เดี๋ยวไปอ่านตอนแรกก่อนค่ะ จากคุณ : คืนไร้ดาวพราวแสงจันทร์ เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 10:37:36

ความคิดเห็นที่ 5 ก่อนอื่นก็ต้องขอกางแผนที่เดินทาง(รวม) ให้ดูก่อน ต่อจากตอนที่แล้ว คือยังเป็นวันที่ 12 เมย.55 อยู่ ซึ่งผมออกจากสถานีรถไฟสวี ประมาณ 5 โมงเย็น วางแผนไว้แต่แรกว่าจะไปค้างที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อเช้าจะได้ไป ดูแหลมตะลุมพุก ที่ยื่นออกไปในทะเล เคยโดนพายุโซนร้อน "แฮเรียต" พัดมาในตอนค่ำวันที่ 25 ตค.2505 ทำให้บ้านเรือนและผู้คนตกไปในทะเล ยังความเสียหายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ จนมีพายุไต้ฝุ่นเกย์ พัดเข้า จ.ชุมพรในวันที่ 4 พย.2532 ที่สร้างความเสียหายในระดับใกล้เคียงกัน แต่ก็ไปไม่ไหว เพราะดึกเกินไป เกรงจะหาที่พักยาก และอาจมีอันตราย ประจวบกับภาระกิจแรกในวันพรุ่งนี้คือ มาเก็บภาพสถานีรถไฟทุ่งสง เพื่อให้สมบูรณ์กับ การไปชมอุโมงค์ช่องเขา เลยตัดสินใจแวะพักค้างคืนที่ อ.ทุ่งสง ซะเลย ในใจก็กลัวว่าจะหาที่พักยาก เพราะเป็นแค่ระดับอำเภอ  แต่ที่ไหนได้ พอมาถึง กลับดูเหมือนจังหวัดไปเลย อ.ทุ่งสงเจริญมากกว่าที่คิดไว้ ยิ่งได้มาสัมผัสบรรยากาศการเล่นน้ำด้วย นึกว่าอยู่แถวๆ หนองคาย ปีที่แล้วที่ผมไปเที่ยวมาด้วยซ้ำไป คาดไม่ถึงเหมือนกันว่า คนภาคใต้จะนิยมเล่นน้ำสงกรานต์ได้มากเหมือนคนภาคอีสาน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 10:40:32

ความคิดเห็นที่ 6 โอ้โฮ... คาดไม่ถึงเหมือนกันว่า จะมีเพื่อนๆ รอชมกันมากขนาดนี้ สวัสดีครับคุณ Low Batt, คุณthata_pk, คุณchartchy และคุณคืนไร้ดาวพราวแสงจันทร์ : ด้วยความยินดีครับ เชิญติดตามชมได้เลยครับ ก่อนถึง แยกเข้า อ.หลังสวน มีร้านค้าริมทาง ขายผลไม้มากมาย แฟนผมอยากทานทุเรียน เลยจัดให้ แม้จะรีบเดินทางต่อก็ตาม มองไปยังฝั่งตรงข้ามเป็น ศาลพ่อตาเขาม่วง (เพิ่งทราบตอนจัดเตรียมภาพนี้เอง) ผมไม่ได้ข้ามไปไหว้ แต่พอหาภาพได้จากในเว็บนี้ของคุณทวิน http://www.oknation.net/blog/print.php?id=751815 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 10:53:44

ความคิดเห็นที่ 7 มองดูผลไม้ตามร้านค้าต่างๆ เยอะจริงๆ โดยเฉพาะของชอบ ทุเรียน แต่ทานเยอะไม่ดี ร้อนใน ยิ่งอากาศช่วงนี้ร้อนมากๆ ด้วย แฟนผมเลยซื้อมาลูกเดียว ทานกันแค่ชิมๆ ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 10:56:43

ความคิดเห็นที่ 8 ทุเรียนร้านนี้สวยดี มีป้ายบอกไว้ด้วยว่าเป็น พันธุ์หมอนทองหลังสวนแท้  แม่ค้าก็สวยด้วย..อิอิ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 10:58:52

ความคิดเห็นที่ 9 ชิม(ชม)ผลไม้กันแล้วก็ออกเดินทางต่อ ข้างหน้าเป็นทางแยกใหญ่ เลี้ยวซ้ายเข้า อำเภอหลังสวน ภาพบน :  รู้สึกสะดุดตา ที่มีหลักกิโลขาวๆ ขนาดใหญ่อยู่ข้างทาง ลองขยายภาพดู มีข้อความ "ฝังพัทธสีมา วัดนอก" บ้านเรานิยมเรียกว่า ฝังลูกนิมิต  เดี๋ยวนี้วัดเขาทำป้ายโฆษณาได้ตื่นตาตื่นใจดี   ภาพล่าง : ตามป้ายสีเขียวบนหัว ขวามือไป บ.หาดยาย  ไม่ผิดหรอกครับ หาดยายไม่ได้อยู่ริมทะเล เหมือนกับ อ.หาดใหญ่ ที่ไม่เกี่ยวกับทะเลเลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 11:05:30

ความคิดเห็นที่ 10 ขับรถมาได้ครึ่งชั่วโมง ก็ต้องขอเข้าห้องน้ำปั๊มกันละ เจออะไรน่าสนใจก็เก็บภาพมาฝากกันครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 11:07:32

ความคิดเห็นที่ 11 เส้นทางต่อจากนี้ ยังยาวไกล กว่าจะถึง อ.ทุ่งสงคงมืดก่อนแน่นอน โชคดีที่รถไม่มากเหมือนเมื่อวาน ขับสบาย...ชิล..ชิล.. วิวสวยด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 11:09:35

ความคิดเห็นที่ 12 ยิ่งมืดลง ท้องก็เริ่มหิว มองหาร้านอาหารก็ไม่ค่อยมี หอบท้องมาจนประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง ก็เกือบถึง อ.ทุ่งสง เหลือบเห็น ท่ารถขนาดใหญ่มีร้านอาหารและห้องน้ำพร้อม เลยแวะเข้าไปกัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 11:12:57

ความคิดเห็นที่ 13 ไปเที่ยวด้วยคนนะครับ จากคุณ : numsiam เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 11:13:01

ความคิดเห็นที่ 14 โบกรถตามไปด้วยคน จากคุณ : CK-ONliNE เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 11:16:43

ความคิดเห็นที่ 15 อยากกินทุเรียน .... จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 11:18:41

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีครับ คุณnumsiam : ด้วยความยินดีครับ เชิญติดตามต่อได้เลยครับ แวะเข้ามาตรงกับ Lucky Number พอดีเลยครับ เนื่องจากเป็นท่าจอดรถทัวร์ ที่เขามีคูปองให้กับผู้โดยสาร และจัดที่นั่งกันไว้เป็นส่วนๆ เลยต้องมองหาที่นั่งกันให้ดีๆ ส่วนเงินพวกเรามาเองก็ไปชำระที่เคาท์เตอร์ ด้านหลังกัน (ตอนแรกก็สอบถามกับคนตักอาหาร ปรากฏว่าพูดกันไม่รู้เรื่อง คงเป็นคนพื้นที่ หรือมาจากมาเลย์ เลยต้องไปถาม จนท.ประชาสัมพันธ์ ที่พูดเชิญผู้โดยสารลงรถมาทานข้าวแทน)  มาถึงที่นี่ เริ่มรู้สึกแปลกๆ ที่กันแล้ว เพราะมีสาวๆ สวมผ้าคลุมผมกันเยอะ เพราะรถทัวร์ที่มาจอดนั้นไปถึง ปัตตานี เลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 11:19:32

ความคิดเห็นที่ 17 สวัสดีครับ คุณCK-ONliNE : ด้วยความยินดีครับ สวัสดี คุณSugarbean : ยังพอหาได้ครับ...ไม่วาย..อิอิ คนพร้อม..อาหารพร้อม ก็ลุยกันได้เลย  ส่วนผมลำบากหน่อยต้องหาอาหารที่ไม่เผ็ด กลัวปวดไส้ ท้องเสีย ระหว่างเดินทาง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 11:23:43

ความคิดเห็นที่ 18 ทานเสร็จก็เข้าห้องน้ำตามระเบียบ  ทางเดินเข้าจัดเป็นสวนพักผ่อนเล็กๆ กลางวันคงไม่ร้อนนัก จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 11:25:28

ความคิดเห็นที่ 19 ตอนนี้(เวลานั้น) 4 ทุ่มแล้ว คงไป จ.นครศรีธรรมราช ไม่ทันแน่ ไม่ได้จองที่พักไว้ด้วย พรุ่งนี้ก็ต้องกลับมาที่นี่อยู่ดี เลยหาที่พักแถวนี้ซะเลย  มองๆ หา คล้ายกับปั๊มน้ำมัน เลยแวะเข้าไปถาม ได้เรื่อง..เอ๊ย.. ได้ที่นอนกันแล้วคืนนี้...เฮ   แสงไฟส่องป้ายชื่อด้านหน้าที่พัก ดูสวยดีเลยออกมาถ่ายภาพมาฝากเช่นเคยครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 11:29:34

ความคิดเห็นที่ 20 รู้สึกชอบป้ายชื่อ ที่สร้างเป็นน้ำตกจัง เลยถ่ายมาอีก 2 ภาพในมุมด้านข้าง เผื่อเอาไปทำเลียนแบบที่บ้าน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 11:31:59

ความคิดเห็นที่ 21 พอมาที่เคาน์เตอร์ติดต่อห้องพัก ต้องเป็นอันประหลาดใจในการออกแบบ  ข้างในเป็นห้องพักของ จนท.ไปในตัว อ้อ..จนท...สวยมาก จนผมต้องเกิดอาการช๊อค ไม่กล้าต่อรองใดๆ..ฮา  ห้องพักจะอยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์นี้  เห็นทีแรกผงะ...นึกว่า ม่านรูดซะแล้ว  แต่ไม่ใช่ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 11:34:52

ความคิดเห็นที่ 22 ห้องพักเขาทำเป็นล๊อคๆ มีที่จอดรถด้านหน้า แบบส่วนตัว จนผมคิดอยากทำเลียนแบบเลย ถ้ามีโอกาสทำบ้านเช่า  คือสะดวกมาก จอดปุ๊บก็ขนของลงได้เลย โดยไม่ต้องโดนแดดโดนฝน เหมือนทาวน์เฮาส์เลย  ส่วนห้องแถวอีกฝั่งมีประตูเหล็ก จนท.บอกว่าเป็นห้องเช่ารายปี คนนิยมมาเปิดเป็นร้านค้า  ส่วนสาเหตุที่ห้องพักผมเป็นล๊อคแบบนี้ ก็เพราะแต่ก่อน เจ้าของเขากะจะเปิดให้เช่าร้านขายอาหาร แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เลยเปลี่ยนมาเป็นห้องพักแทน ข้างในจะเห็นการดัดแปลงบางส่วนเหมือนกัน ดูจากสภาพแล้ว คาดว่าคงเพิ่งสร้างไม่นาน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 11:39:23

ความคิดเห็นที่ 23 ส่วนราคาที่พักก็ไม่แพง ในระดับไม่กี่ร้อยบาท ผมเลยโอเค รู้สึกประทับใจอย่างคาดไม่ถึง ที่คิดไว้ว่า ทุ่งสง คงเป็นชนบท หาที่พักยาก แต่ที่ไหนได้...  ถ้าลงใต้ครั้งต่อไป ต้องไม่พลาด นอนที่ทุ่งสงสักคืนครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 11:41:37

ความคิดเห็นที่ 24 เช็คอินเสร็จแล้วก็เก็บภาพห้องก่อนเข้าใช้ไว้เป็นหลักฐาน  จะว่าไป ที่นี่ขาดสิ่งสำคัญอันหนึ่งคือ ตู้เย็น นะครับ เพราะจะได้แช่ของบางอย่างได้ เช่นอาหารที่นำติดตัวมา หรือยาที่ต้องรักษาอุณหภูมิต่ำๆ และที่สำคัญคือ ตื่นเช้ามาอยากดื่มน้ำเย็นๆ ก็ทำไม่ได้ ติดอยู่เรื่องเดียวครับที่นี่ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 11:44:34

ความคิดเห็นที่ 25 ที่ลืมไม่ได้คือ ห้องน้ำครับ เพราะเป็นปัจจัยสำคัญอันหนึ่งที่ต้องพิจารณา ว่ามีสภาพเช่นใด มีน้ำอุ่นหรือไม่ ที่นี่ใหม่กิ๊กครับ เป็นเพราะเพิ่งสร้างผมเลยโชคดีไป  ว่าแต่ ชักโครกแบบนี้กดปุ่มน้ำยากจัง เพราะผมชอบกดขณะนั่ง ไม่อยากเก็บกักของเสียไว้กดครั้งเดียว... จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 11:47:01

ความคิดเห็นที่ 26 เช้าตื่นขึ้นมา.... ออกมาถ่ายภาพกันต่อ  แหม...ห่วงถ่ายภาพก่อนทานข้าวซะด้วย  นี่มันทาวน์เฮาส์ ถ้าโครงการไหนทำหลังคาให้เลยแบบนี้ก็ดี ฝนจะได้ไม่สาด หลุดรอดมาจากรอยต่อหลังคาจอดรถ เหมือนทาวน์เฮาส์ทั่วๆ ไป จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 11:50:56

ความคิดเห็นที่ 27 ออกมาดูบรรยากาศตอนกลางวันแดดจ้าๆ ลานกว้างหน้าห้องพักกันบ้าง โชดดีที่มีที่จอดรถในร่ม (รถใหญ่กว่านี้จอดไม่ได้)  มองไปทางขวาเป็นศาลาสวยๆ หลานชายผมบอก เมื่อคืนไปเดินดูมาแล้วเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ มีที่นั่งชมแบบอัฒจันทร์ด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 11:56:35

ความคิดเห็นที่ 28 ตามไปเที่ยวครับ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ค. 55 14:12:35 จากคุณ : พยงค์ เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 11:58:48

ความคิดเห็นที่ 29 หันกลับไปมองหน้าห้องพักอีกที เปิด 2 ห้อง รถผมไปจอดอีกห้อง หน้าห้องผมเลยว่างแบบนี้ มองขึ้นไปตรงกำแพงระหว่างห้อง มีกล่องปล่อยสัญญาณอินเตอร์เน็ตไร้สาย Wi-Fi ด้วย  ผมไม่มีคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค หรือมือถือที่เล่น Wi-Fi ได้เลยไม่ทราบว่า ใช้งานได้หรือเปล่า จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 11:59:14

ความคิดเห็นที่ 30 สวัสดีครับ คุณพยงค์ :  ด้วยความยินดีครับ ตอนนี้กำลังโพสภาพที่พักอย่างเมามัน เพราะรู้สึกประทับใจในความเรียบง่ายของเขา จนน่าจำไปทำเลียนแบบครับ ผมลองเดินฝ่าแดดจ้า มายังศาลาสวยในภาพขวาสุดของ คห.27  โอ้โฮ.. ก็ต้องมาพบกับความอลังการณ์ อย่างคาดไม่ถึง....   เจ้าของเขาลงทุนสร้างขนาดนี้เชียวหรือ  ยังกับฟาร์ม หรือสวนสัตว์น้ำเล็กๆ เลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 12:03:35

ความคิดเห็นที่ 31 ผมเดินมาพักร่ม ที่ศาลา หลังคาสร้างแบบโค้งไปตามขอบสระด้วย เข้าใจสร้างจริงๆ  มีที่นั่งแบบโค้งด้วย ตอนเย็นๆ น่ามานั่ง แต่เสียดาย สระน้ำไม่มีอะไรน่าสนใจ เช่นปลา หรือไม้น้ำสวยๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 12:05:48

ความคิดเห็นที่ 32 เจ้าตัวเล็กก็เดินฝ่าแดดจ้าตามมาชมสระน้ำด้วย  หันขึ้นไปมองโครงหลังคา เป็นทรงจั่วโค้ง คล้ายที่เห็นในสวนสนุก ลงทุนจริงๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 12:09:26

ความคิดเห็นที่ 33 ภาพซ้าย : ผมไปนั่งตรงเก้าอี้โค้งแล้วมองลงไปในสระ ภาพขวา : มองกลับไปยังแถวห้องพักของผม ทางเข้ามาจะอยู่ด้านโน้น เดี๋ยวผมต้องไปทานอาหารเช้าก่อนละครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 12:12:05

ความคิดเห็นที่ 34 เดินออกมาหาอะไรทานที่ร้านอาหารปากทางแล้ว ก็เดินเก็บภาพต่อ ท่ามกลางแดดจ้าๆ... จากภาพจะดูคล้ายกับปั๊มน้ำมันเลย  ตอนแรก เจ้าของคงคิดจะสร้างเป็นตลาดนะครับ พื้นที่โล่งกว้างจัง  แค่ค่าถมปรับพื้นที่ก็ไม่รู้กี่ล้านบาทแล้ว จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 12:14:15

ความคิดเห็นที่ 35 ก่อนกลับออกมา เจ้าตัวเล็กไม่พลาดที่จะเก็บภาพสวยๆ ของป้ายน้ำตก ท่ามกลางแดดจ้าไว้เป็นที่ระลึก  ด้านหลังป้ายนี้ เป็นส่วนปั๊มน้ำขึ้นไป สร้างได้กลมกลืนดี จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 12:17:13

ความคิดเห็นที่ 36 มาต่อกันครับ แวะไปทานมื้อเที่ยงกันนิดนิง ก่อนออกเดินทางไปสำรวจสถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง ขอกล่าวนำเรื่อง ทางรถไฟสายใต้สักเล็กน้อย คือทีแรกผมกะจะมาแค่ อุโมงค์รถไฟช่องเขา แต่พอมาเห็นแผนที่เส้นทางรถไฟสายใต้ช่วงนี้ ที่เป็นรูปคล้ายตัวอักษร "H" ก็รู้สึกประหลาดใจ  เหมือนว่ามีทางรถไฟสองสาย คือ กรุงเทพฯ-ตรัง กับ นครศรีธรรมราช-หาดใหญ่(มีต่อแยกไป สุไหงโกลก กับ ปาดังเบซาร์) มาเชื่อมต่อกัน โดยใช้ชุมทางรถไฟทุ่งสง ด้านซ้าย(ทิศตะวันตก) กับ ชุมทางรถไฟเขาชุมทอง ด้านขวา (ทิศตะวันออก) โดยมี อุโมงค์ช่องเขาต่อเชื่อมอยู่ตรงกลาง  ซึ่งก่อนหน้านี้ยังคิดว่า เป็นทางรถไฟตรงดิ่งจาก กรุงเทพฯ มาหาดใหญ่ แล้วมีทางแยกซ้ายขวาไปยังตรังกับ นครศรีธรรมราช เสียอีก เลยยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า ต้องไปสำรวจสถานีชุมทางทั้งสองแห่งให้ได้ ยิ่งถ้าได้เห็นรางรถไฟที่แยกออกก็ยิ่งดีใหญ่  เมื่อลองค้นข้อมูลดูจากในเน็ตจะพบว่า ระหว่างสถานีชุมทางทั้งสองด้าน จะมีสถานีย่อยอยู่ 3 สถานีคือ สถานีใสใหญ่ สถานีช่องเขา และสถานีร่อนพิบูลย์ ซึ่งสถานีที่ไม่ควรพลาดก็คือ สถานีช่องเขา เผื่อจะได้ทราบข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุโมงค์ช่องเขา โดยอย่างน้อยก็จะได้มีป้ายคำว่า "ช่องเขา" ติดมาด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 14:21:10

ความคิดเห็นที่ 37 ไหนๆ ก็มาเที่ยวดูทางรถไฟสายใต้แล้ว ก็ลองศึกษาประวัติการสร้างทางรถไฟสายนี้ดูบ้าง ก็ดี เพราะในความเป็นจริง ลำดับการสร้างทางรถไฟสายใต้นั้นไม่ได้สร้าง 2 ช่วงมาต่อกันตรงอุโมงค์ช่องเขา แต่เป็นไปตามลำดับต่อไปนี้คือ 1.เริ่มสร้างจากสถานีธนบุรี (ที่เป็น รพ.ศิริราชในปัจจุบัน) ไปถึง จ.เพชรบุรีก่อน 2.สร้างท่าเรือ 3 แห่ง (กันตัง-ตรัง บ้านดอน-สุราษฎร์ธานี และเมืองสงขลา) เพื่อลำเลียง วัสดุอุปกรณ์ มาทางเรือ พร้อมทั้งสร้างโรงงานชั่วคราวที่ กันตัง และ สงขลา 3.สร้างทางรถไฟจาก จ.เพชรบุรี ไปถึง จ.ชุมพร พร้อมๆ กับสร้างทางรถไฟจากกันตัง และสงขลามายัง จ.ชุมพร 4.สร้างทางรถไฟจากหาดใหญ่ ต่อไปสุดชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่ ปาดังเบซาร์ และสุไหงโกลก   ทั้งสายเสร็จเมื่อ ปี พ.ศ.2462 แต่ปัญหาคือ ทางรถไฟสายใต้นั้นมาแค่ ฝั่งธน ก็คือสถานีธนบุรี ยังไม่ได้ต่อเชื่อมกับฝั่งกรุงเทพฯที่หัวลำโพง เพราะขนาดของรางที่ไม่เท่ากับ สายใต้กว้าง 1 เมตรดังในปัจจุบันในขณะที่สายเหนือ(ไปถึงอยุธยา)และสายอีสาน(ไปถึง นครราชสีมา)ที่ได้เปิดใช้งานไปแล้วบางส่วนนั้น สร้างด้วยรางที่กว้างถึง 1.435 เมตร!  จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนรางสายเหนือและสายอีสานให้เป็น รางขนาดกว้าง 1 เมตร เพื่อจะได้ต่อเชื่อมกับประเทศมาเลเซียได้  ต่อมาพ.ศ.2470 ได้เปิดใช้สร้างสะพานพระราม 6 ที่มีทางรถไฟเชื่อมระหว่าง สถานีบางซื่อ กับ สถานีตลิ่งชัน ทำให้รถไฟสายใต้ระยะไกล เปลี่ยนมาขึ้นที่สถานีหัวลำโพงแทน   สะพานพระราม 6 นี้นับเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งแรกที่สร้างขึ้น และเคยถูกระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พ.ศ.2488 ขาดมาแล้ว จนได้ซ่อมแซมเสร็จในปี พ.ศ.2496   แต่เดิมสะพานแห่งนี้ ใช้เดินรถยนต์ และทางรถไฟร่วมกัน จน ปีพ.ศ.2535  ได้มีการสร้างสะพานพระราม 7 จึงยกเลิกช่องเดินรถยนต์บนสะพานพระราม 6ออกไป จนถึงปี พ.ศ.2546 ก็ได้มีการเพิ่มรางเข้าไปบนสะพานพระราม 6 เป็นรางคู่ จนปัจจุบัน แต่....แม้จะเป็นรางคู่ เวลารถไฟข้ามสะพานแห่งนี้ ต้องสลับกันขึ้นทีละขบวน เพราะเกรงว่าสะพานจะพัง! ที่มา : http://guru.sanook.com/encyclopedia/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2/ ส่วนแผนที่ข้างล่างนี้มาจากเว็บ รถไฟไทยดอทคอม http://portal.rotfaithai.com/ แสดงด้วยเส้นสีชมพู สำหรับทางรถไฟสายใต้ช่วงแรกที่สร้างมาบรรจบกันที่ จ.ชุมพร จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 14:51:12

ความคิดเห็นที่ 38 จากนี้ก็ถึงเวลาออกเดินทางไปหาทางรถไฟ เอ๊ย..สถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง กันแล้ว เป้าหมายคือ วันนี้ต้องไปนอน จ.นครศรีธรรมราชให้ได้ จากแผนที่ดาวเทียมของกูเกิ้ล จะเห็นตำแหน่งสถานีรถไฟทุ่งสง และถนนต่างๆมากมาย ซึ่งในวันที่ไปนั้นพอดีเป็นวันที่ 13 เมย. มหาสงกรานต์พอดี ด้วยความไม่รู้เลยเข้าไปติดขบวนเล่นน้ำกับเขา บนถนนเส้นหลัก แสดงในแผนที่ด้วยเส้นสีฟ้า ทอดยาวมาจนถึงรางรถไฟเลย แค่ระยะทางเพียง 2 กิโลเมตรกว่าๆ ใช้เวลานานถึง ครึ่งชั่วโมง แล้วผมดันออกจากที่พักสายมาก คือประมาณ 5 โมงเช้าครึ่ง เล่นเอาภาระกิจวันนี้เกือบไม่ครบ แถมต้องเปลี่ยนเป้าหมายการพักคืนนี้จาก จ.นครศรีธรรมราช ไปเป็นหาดใหญ่ เลย และจากแผนที่นี้ สังเกตุทางรถไฟที่แยกกันหลังผ่าน สถานีทุ่งสงแล้ว คือแยกไป จ.ตรัง กับ หาดใหญ่ นั้นแยกตรง สามเหลี่ยม สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนม์พรรษา พอดี จุดนั้นเป็นจุดตัดถนนด้วย นับเป็นโชคดีที่ผมจะได้แวะไปดูทางแยกรถไฟทั้งสองด้าน โดยไม่ต้องเดินไกล เฮ้อ..เพิ่งจะทราบจากแผนที่ว่า มีถนนใหญ่อีกเส้น ที่เลี่ยงเมืองไปทางใต้ อ้อมภูเขาแจ่ม โดยไม่ต้องมาติดในเมืองแบบผม  แต่เนื่องจากผมต้องไป สถานีทุ่งสง จำต้องใช้ถนนผ่านเมืองครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 15:03:31

ความคิดเห็นที่ 39 ด้นเนื้อหา และแผนที่มามากแล้ว มาชมภาพเหตุการณ์กันดีกว่า ว่าถนนเล่นน้ำสงกรานต์ของชาวทุ่งสงเป็นอย่างไร จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 15:09:22

ความคิดเห็นที่ 40 ในอันที่จริงถนนเส้นนี้มีทางแยกไปยัง ถนนข้างเคียงด้านเหนือหลายจุด แต่ทางตำรวจจราจรได้ปิดกั้นการออกจากถนนสายนี้ไปตลอดสาย เลยทำให้รถ(รวมทั้งผม) ต้องจำทนติดไปเรื่อยๆ อย่างแทบจะไร้ความหวังที่จะทำภาระกิจในวันนี้ได้สำเร็จเลย  แต่ถ้ามองในอีกแง่ ก็คือได้ร่วมชมบรรยากาศสงกรานต์ ที่ปีหนึ่งจะมีสักครั้ง เหมือนเมื่อคราวไปหนองคาย ตอนนั้นจะเครียดกว่านี้ เพราะต้องไปขึ้นรถไฟให้ทันเวลาด้วย ในใจผมคิดไว้แต่แรกว่า ที่ทุ่งสงนี้คงจะชนบท เงียบๆ ไม่ค่อยมีผู้คน หรือความเจริญมากเหมือนตัวจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่พอมาเห็นแบบนี้เป็นงงครับ  ผู้คนออกมาเล่นน้ำกันมากมาย มีการตั้งเวทีดนตรีด้วย เหมือนในกรุงเทพฯ คิดว่าถ้าผมมาช่วงเวลาอื่น คงเงียบกว่านี้มาก   และจากเห็นหน้าตาคนที่มาเล่นน้ำ ก็ดูเหมือนคนกรุงเทพฯมากกว่าด้วยซ้ำไป  ความรู้สึกกลัวๆ คนใต้ หรือความไม่สงบในภาคใต้ก็ค่อยๆ เลือนหายไปจากในใจของพวกเราทุกคน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 15:15:28

ความคิดเห็นที่ 41 นั่งดูไปเรื่อยๆ ก็อดขำไม่ได้เหมือนกัน กับการแสดงออกที่ตลกๆ ของพวกเขา  คนมากจริงๆ ไม่นึกว่าจะมาเจอ ในเมืองที่ฐานะแค่อำเภอ หลงลืมไปว่าเป็นจังหวัดทุ่งสง ไปด้วยซ้ำ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 15:18:07

ความคิดเห็นที่ 42 นั่งรถติดมาเกือบครึ่งชั่วโมง ก็ยังไม่พ้นแนวเล่นน้ำ จะออกไปจากถนนนี้ก็ไม่ได้ถูกปิดกั้นไว้ทุกทางแยก.. แอบมองถนนด้านเหนือ ที่คู่ขนานไป ดูเงียบไม่ค่อยมีผู้คนด้วยซ้ำ ถ้ารู้แบบนี้ ก็หาทางเลี้ยวไปถนนเส้นนั้นก่อนจะถึงแนวเล่นน้ำสงกรานต์แล้ว ไม่มีการประชาสัมพันธ์ ของป้ายบอกใดๆ เลย   สังเกตุเห็นรถทัวร์ที่แล่นเข้ามาติดกับเรา ดูน่าสงสารผู้โดยสารเหมือนกัน เพราะเขาอาจต้องเดินทางไปอีกไกล จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 15:21:49

ความคิดเห็นที่ 43 โชคดีที่ผมมี GPS นำทาง เลยพอทราบว่าอีกไกลไหมจะถึงจุดไหน ภาพบน : ช่วงมีการเล่นน้ำสงกรานต์น้อยลงมากแล้ว ก็ใกล้จะถึงจุดถนนตัดข้ามทางรถไฟพอดี ข้างหน้าจะเห็นเสาเครื่องกั้นของการรถไฟแล้ว ผมก็เตรียมเลี้ยวซ้ายทันที สถานีทุ่งสงอยู่ด้านซ้ายมือ ภาพกลาง : ผมวิ่งเลียบทางรถไฟ (ขนานกับสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ) ไปเรื่อย จนถึงถนนอีกเส้นที่มาจากตลาดทุ่งสง ก็ข้ามไปวิ่งเลียบทางรถไฟเหมือนเดิม ตรงนี้มีอาคารเก่าของการรถไฟ ที่ดูเป็นอาคารสินค้า อยู่หลายหลัง ภาพล่าง : ขับผ่านมาแล้วก็หันกลับไปดูอีกครั้ง ไม่มีเวลาลงไปเดินถ่ายภาพใกล้ๆ เพราะยังมีภาระกิจอีกมากที่ต้องทำในวันนี้  นี่ยังไม่ได้สักชิ้นเลย เที่ยงตรงพอดี จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 15:28:13

ความคิดเห็นที่ 44 ภาพบน : ถนนเลียบทางรถไฟนี้ ไปอีกไม่ไกลก็เฉียดวงเวียนหอนาฬิกา ทางด้านซ้ายมือ สังเกตุดูว่าถนนโล่งดี  ถ้าได้เข้ามาทางนี้ก็คงใช้เวลาแป๊บเดียว ภาพล่าง : ใกล้ถึงสถานีรถไฟทุ่งสง ริมถนนฝั่งซ้ายเป็นสถานีตำรวจรถไฟ (ฝั่งขวาเป็นสถานีรถไฟ) สะดุดตาที่รูปปั้นคู่คล้าย ท้าวจตุคามรามเทพ ตรงด้านหน้าสถานี อย่างน้อยก็จะมีผลทางด้านจิตใจต่อผู้ร้าย ที่ถูกจับเข้ามาในสถานี ให้รู้สึกเกรงกลัว จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 15:33:26

ความคิดเห็นที่ 45 ภาพซ้าย : จากหน้าสถานีตำรวจรถไฟ มองไปข้างหน้า ก็คือสถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง อยู่ฝั่งตรงข้ามนั่นเอง  มาถึงสักที สถานีทีรอคอย... ภาพขวา : เดินข้ามถนนไปฝั่งสถานี ตรงนี้มีช่องเล็กๆ ที่เดินลัดเข้าไปชานชาลาสถานีได้ แต่ผมไม่เข้า เพราะต้องการไปเข้าที่ประตูใหญ่อาคารสถานีเลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 16:40:09

ความคิดเห็นที่ 46 ติดเกาะรอชมอย่างใจจดจ่อครับ จากคุณ : แฮมมึน เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 16:48:17

ความคิดเห็นที่ 47 ผมเดินมาถึงอาคารสถานีทุ่งสงแล้ว ดูคล้ายกับอาคารเรียน โรงเรียนเก่าของผมมาก เหลือบเห็นป้ายเล็กๆ เก่าคร่ำคร่าอยู่ตรงหัวมุมอาคาร เลยเดินไปดูใกล้ๆ พบว่าเป็นป้ายประกาศข้อห้ามในการเข้าไปยังเขตชานชาลาสถานีรถไฟ ของบรรดาผู้ให้บริการรถรับจ้างต่างๆ เพื่อลดปัญหาการคุกคามเสรีภาพของผู้โดยสารที่ลงจากรถไฟ และอาชญากรรมต่างๆบริเวณชานชาลาสถานี ซึ่งในข้อแรกที่ระบุว่าต้องมีตั๋วโดยสาร หรือตั๋วชานชาลา นี้ผมเคยเห็นที่สถานีรถไฟหัวลำโพงมานานแล้ว นึกว่ามีใช้บังคับเฉพาะที่นั่นที่เดียว  ซึ่งผมเคยไปส่งคุณแม่ที่หัวลำโพงกลับต่างจังหวัด โดยผมไม่ได้ซื้อตั๋วชานชาลา ก็ไม่โดนตรวจ ยังนึกเสียวๆ โดนปรับอยู่เหมือนกัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 16:50:44

ความคิดเห็นที่ 48 สวัสดีครับ คุณแฮมมึน : ด้วยความยินดี และขอบคุณครับ ภาพซ้าย : เกือบถึงบันไดทางเข้าสถานีทุ่งสงแล้ว มองไปทางเหนือ เห็นด้านหลังร้านสถานีรถไฟ   ทางซ้ายมือมีถนนตรงเข้าตลาดทุ่งสง ภาพขวา : มองกลับไปทางใต้ ที่เดินมา เห็นภูเขาชื่อ "แจ่ม" เป็นทิวอยู่พื้นหลัง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 17:02:46

ความคิดเห็นที่ 49 ภาพซ้าย : ฝั่งตรงข้ามอาคารสถานี ดูเหมือนสวนสาธารณะขนาดเล็ก ภาพกลาง : ถัดมาเป็นถนนเข้าตลาดทุ่งสง สังเกตุป้ายเล็กๆ ตรงหัวมุม.... ภาพขวา : เดินเข้าไปอ่านป้ายใกล้ๆ เป็นชื่อถนน "ถนนรถไฟ" หรือ ROT FAI Rd. ผมไม่เคยเห็นมาก่อน  นึกว่าเป็นถนนในสวนสนุกซะอีก  แต่เมื่อไปค้นหาชื่อถนนใน GPS Map กลับพบว่าถนนนี้ชื่อ "นิกรบำรุง"  ในขณะที่ ถนนชื่อรถไฟ นั้น ค้นหาจากในวิกิพีเดีย พบว่าเป็นถนนเลียบทางรถไฟจาก สถานีธนบุรีไปถึง ถนนอิสรภาพ ที่ฝั่งธนบุรี แก้ไขเมื่อ 16 พ.ค. 55 17:21:26 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 17:13:09

ความคิดเห็นที่ 50 จากภาพซ้ายในคห.48 ตรงหัวมุมถนนอีกฝั่ง มีแผนที่เมืองทุ่งสง ผมเลยเดินไปถ่ายภาพใกล้ๆเพราะปกติแผนที่ในเขตเทศบาลอำเภอไม่หาไม่ได้จากหนังสือแผนที่ ที่วางขายทั่วไป นั่งดูๆ ไป ทำให้ได้พบ ถ้ำตลอด อันเป็นชื่อแปลก ทีแรกนึกว่าเขียนผิด ลองไปค้นหาในเน็ตhttp://www.thai-tour.com/thai-tour/south/nakornsrithammarach/data/place/pic-talord-cave.htm "ถ้ำตลอดเป็นถ้ำเล็ก ๆ เกิดจากภูเขาชัยชุมพล ตัวถ้ำสามารถเดินทะลุได้ตลอด จึงได้ชื่อว่าถ้ำตลอดหรือถ้ำหลอด ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์องค์ใหญ่ มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง เป็นเรื่องราวพุทธประวัติโดยอาจารย์แนบ ทิชินพงศ์ จิตรกรที่มีชื่อเสียงชาวนครศรีธรรมราช บริเวณโดยรอบได้รับการปรับปรุงให้เป็นสวนสาธารณะ มีร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม" มีภาพตามเน็ตที่ลิ้งข้างล่าง http://www.tungsong.com/Tour_Nakorn/Thum/Data/Thum_Index.html จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 17:55:16

ความคิดเห็นที่ 51 ถึงเวลาเข้าไปชมสถานีรถไฟทุ่งสงได้แล้ว เดินเข้าไปข้างใน เป็นประตูกระจกเลื่อน ต่างจากสถานีรถไฟแห่งอื่น จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 17:58:49

ความคิดเห็นที่ 52 มองไปทางซ้ายและขวาในบริเวณอาคารสถานี คนเยอะดูเขินๆ เหมือนกัน เขาคงงงว่าผมมาถ่ายภาพอะไรกัน เพราะเป็นสิ่งที่เขาพบเห็นเป็นประจำ  ข้างในมีแอร์ด้วย แต่ผมเองจำไม่ได้ว่าเย็นหรือเปล่า จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 18:01:03

ความคิดเห็นที่ 53 เดินผ่านออกมาที่ชานชาลา มองไปทางซ้ายและขวา เป็นชานชาลาที่ยาวไกลสุดลูกหูลูกตาเลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 18:04:42

ความคิดเห็นที่ 54 ข้างหน้าในราง มีขบวนรถจอดอยู่ 1 ขบวน เป็นรถจากกรุงเทพฯไปกันตัง น่าแปลกที่ตารางเวลารถขบวนนี้ ซึ่งเป็นรถเร็ว ขบวน 167 ต้องออกจากสถานีนี้ไปตั้งแต่เวลา 08:55 น.แล้ว เพราะเวลาขณะนั้นคือ 12:05 น. หรือว่ารถเสียเวลา! จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 18:09:40

ความคิดเห็นที่ 55 เดินไปทางซ้าย (ทิศเหนือ) เล็กน้อย ของชานชาลา เหลือบเห็นแผ่นป้ายตารางเวลารถไฟ ติดอยู่บนผนังเหนือหน้าต่าง  โชคดีที่มีตรงนี้ เพราะต้องหน้าห้องจำหน่ายตั๋ว คนเยอะผมไม่ค่อยกล้าไปยืนถ่ายภาพนานๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 18:12:08

ความคิดเห็นที่ 56 ลองศึกษาตารางเวลารถไฟของสถานีแห่งนี้กันหน่อยนะครับ เนื่องจากเป็นสถานีระดับ 1 รถไฟที่ผ่านไปลงภาคใต้ จะเข้าจอดทุกขบวน รวม 11 ขบวน แบ่งเป็น รถธรรมดา 2 ขบวน รถเร็ว 4 ขบวน รถดีเซลราง 1 ขบวน รถด่วน 2 ขบวน และรถด่วนพิเศษ 2 ขบวน รถธรรมดาจะเป็นรถสายสั้นมาจากสุราษฎร์ไป สุไหงโกลก ผ่านสถานีนี้เกือบ 9 โมงเช้า ไปถึงปลายทางเวลาประมาณ 5 โมงเย็นครึ่ง แล้วกลับมาตอน 6 โมงเช้าครึ่งของวันถัดไป  ผ่านสถานีนี้ประมาณ 3 โมงเย็นครึ่ง อีกขบวนมาจากชุมพร ไปหาดใหญ่ ผ่านสถานีนี้เที่ยงกว่าๆ ถึงปลายทางเกือบ 5 โมงเย็น แล้วตีกลับมาประมาณ 6 โมงเช้าครึ่ง ผ่านสถานีนี้ประมาณ 11 โมงเช้า ขบวนรถทุกคันที่เหลือจะมาจากกรุงเทพฯทั้งหมด เริ่มจากรถเร็ว 171 ปลายทางสุไหงโกลก ออกจากกรุงเทพฯ บ่ายโมงตรงผ่านสถานีนี้ ประมาณตีสองครึ่ง! (กลางดึกเลย) ถึงปลายทาง เกือบ 5 โมงเช้า พักประมาณ ครึ่งชั่วโมงก็ตีกลับกรุงเทพฯ ผ่านสถานีนี้ประมาณทุ่มครึ่ง ถึงกรุงเทพฯ 9 โมงเช้าเศษ รถเร็วถัดมา 169 ไปยะลา ออกจากกรุงเทพฯบ่ายสามครึ่ง ผ่านสถานีนี้ เกือบ 6 โมงเช้า (วิ่งทั้งคืน) ถึงปลายทาง 5 โมงเช้าครึ่ง พักประมาณ 1 ชั่วโมงก็ตีกลับมา ผ่านสถานีนี้ประมาณ 6 โมงเย็น ถึงกรุงเทพฯ 9 โมงเช้าตรง รถเร็วถัดมา 173 ไปนครศรีธรรมราช ออกจากกรุงเทพฯ 5 โมงเย็นครึ่ง ผ่านสถานีนี้ ประมาณ 8 โมงเช้าครึ่ง ถึงปลายทางเกือบ 10 โมงเช้า จอด 2 ชั่วโมง ออกบ่ายโมงตรงผ่านสถานีนี้ บ่ายสองโมงกว่าๆ ถึงกรุงเทพฯ ประมาณ 5 โมงเย็น รถเร็วสุดท้าย 167 ไปกันตัง ออกจากกรุงเทพฯ 6 โมงเย็นครึ่ง ผ่านสถานีนี้ประมาณ 9 โมงเช้า ซึ่งน่าจะเป็นขบวนเดียวกับที่จอดที่สถานีอยู่ตอนนี้เวลาเที่ยงวัน! ไปถึงปลายทางเวลาประมาณ 5 โมงเช้าครึ่ง พักประมาณชั่วโมงก็ตีกลับ ผ่านสถานีนี้ 3 โมงเย็นกว่าๆ ถึงกรุงเทพฯ ประมาณ 5 โมงเย็นครึ่ง รถดีเซลรางมีขบวนเดียว ไปยะลา ออกจากกรุงเทพฯ เกือบ 5 ทุ่ม ผ่านสถานีนี้เกือบ 10 โมงเช้า ถึงปลายทางบ่ายสองโมงครึ่ง จอดแค่ 15 นาทีก็ตีกลับ ผ่านสถานีนี้ประมาณ 1 ทุ่ม ถึงกรุงเทพฯ ประมาณ 6 โมงเช้า  อ้อ..คงจำกันได้ จากที่สถานีสวี รถขบวนนี้เป็นรถที่เกาะมากับรถด่วนพิเศษ กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ ที่มีการแยกร่าง-ประกอบร่างกันที่ สถานีสุราษฎร์ รถด่วน 83 ไปตรัง(เน้นว่าตรัง ไม่ถึงปลายทางที่ สถานีกันตัง) ออกจากกรุงเทพฯ ประมาณ 5 โมงเย็น ผ่านสถานีนี้ประมาณ 6 โมงเช้าครึ่ง ถึงปลายทางประมาณ 8 โมงเช้าครึ่ง นับว่าเร็วดี พักเกือบทั้งวัน ตีกลับมาเวลาประมาณ 5 โมงเย็นครึ่ง ผ่านสถานีนี้ 1 ทุ่ม ถึงกรุงเทพฯประมาณ 8 โมงเช้าครึ่ง รถด่วนอีกคัน 85 ไป นครศรีธรรมราช ออกจากกรุงเทพฯ ทุ่มครึ่ง ผ่านสถานีนี้ประมาณ 9 โมงเช้าครึ่ง ถึงปลายทางเกือบ 5 โมงเช้า พัก 4 ชั่วโมง บ่ายสามโมงตีกลับมา ผ่านสถานีนี้ประมาณ 4 โมงเย็นกว่าๆ ถึงกรุงเทพฯ 6 โมงเช้าครึ่ง รถด่วนพิเศษ 35 ปลายทางบัตเตอร์เวอร์ธ ที่ประเทศมาเลเซีย ใกล้เกาะปีนังโน้น ออกจากกรุงเทพฯเกือบ 3 โมงเย็น ผ่านสถานีนี้ตี 3 กว่าๆ (กำลังหลับสนิทเลย) ถึงปลายทางประมาณ 8 โมงเช้า นับเร็วเหลือเชื่อ! จอดทั้งวันประมาณใกล้ 6 โมงเย็นก็ตีกลับมา ผ่านสถานีนี้ ประมาณ 4 ทุ่ม ถึงกรุงเทพฯ ประมาณ 10 โมงเช้าครึ่ง รถด่วนพิเศษอีกขบวน 37 ปลายทางสุไหงโกลก ออกจากกรุงเทพฯ บ่ายสามโมงเย็นเศษ ผ่านสถานีนี้ ประมาณ 4 โมงเย็น ถึงปลายทางเกือบ 5 โมงเช้ากว่าๆ พัก 3 ชั่วโมงก็ตีกลับ ออกประมาณบ่ายสองโมงครึ่ง ผ่านสถานีนี้ ประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง ถึงกรุงเทพฯประมาณ 10 โมงเช้า อ้อ..เกือบลืมไป ชื่อหัวข้อตารางข้างบน(ขึ้น-ล่อง) นั้นสลับกับที่การรถไฟใช้ (ขึ้นออกจากกรุงเทพฯ ล่องกลับกรุงเทพฯ) แต่ไปตรงกับความรู้สึกว่า ขึ้นเหนือ ล่องใต้ดี แก้ไขเมื่อ 16 พ.ค. 55 19:27:48 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 19:18:55

ความคิดเห็นที่ 57 ข้อมูลเยอะจริงๆ ตาลายเหมือนกัน  ผมเดินต่อไปทางเหนือของชานชาลา เห็นป้ายบอกทางแยกไปยังจังหวัดต่างๆ เมื่อถึงชุมทางรถไฟ 2 แห่ง (ทุ่งสง กับ เขาชุมทอง) แถมด้วยระยะทางโดยรถยนต์ไปยังจังหวัดใกล้เคียง  ดูแล้วอย่า งง ทิศ นี่เป็นทิศทางตามแนวรางรถไฟที่ผ่านสถานีแห่งนี้ วันนี้พอพักกระทู้ก่อน ไว้พรุ่งนี้มาต่อกันครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 19:43:57

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ ข้อมูลแน่นปึกมากเลยค่ะ เสียดายกิฟท์หมด ขอมอบให้แทนนะคะ จากคุณ : เอ เองค่ะ เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 20:41:00

ความคิดเห็นที่ 59 สวัสดีครับคุณมิราชช จะกี่ตอนก็จะคอยติดตามครับ เพราะชอบแนวนี้ (ข้อมูลแน่น) ครับ จากคุณ : ต้มมะระหมู เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 22:36:09

ความคิดเห็นที่ 60 รูปในคห.43 คือ อาคารรับส่งสินค้าของสถานีชุมทางทุ่งสงครับ จากคุณ : komen_wong เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 08:35:40

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณที่รีวิวให้ชมครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 12:29:58

ความคิดเห็นที่ 62 สวัสดีครับ คุณเอ เองค่ะ : ขอบคุณครับ กิฟท์หมดไม่เป็นไร หัวใจก็ได้ครับ..อิอิ คุณต้มมะระหมู : ด้วยความยินดีครับ นานๆ จะเจอ คนคอเดียวกัน คือ HardCore ชอบเจาะลึก คอยติดตามชมต่อไปนะครับ สวัสดีครับ คุณkomen_wong : ผมเองก็คิดว่าเป็นเช่นนั้น แต่ทำไมดูเก่าจัง หรือเขาเลิกใช้แล้วนะครับ ดูเงียบจัง สวัสดีครับ คุณเล็กทาโร่ : ขอบคุณเช่นกันครับ มาต่อกัน  วันนี้งานยุ่งเลยมาซะบ่ายแก่ๆเลย  ต้องรีบโพสเดี๋ยวตอนเย็นมีงานเข้าอีก จากแผ่นป้ายบอกทางแยกไปยังจังหวัดต่างๆ ตรงชานชาลาด้านเหนือ ผมเดินต่อไปอีก ก็เห็นร้านอาหารชื่อ "สถานี" ในลักษณะดั้งเดิม ที่ผมเคยเห็นในสถานีอื่นๆ ในสมัยผมเด็ก ซึ่งปัจจุบันหลายแห่งก็เปลี่ยนหน้าตาไปแล้ว เช่น สถานีพิษณุโลก ก็ทำเป็นเหมือนศูนย์การค้า แบ่งเป็นล็อกเล็กๆ ให้เช่า เดินต่อไปอีกก็เจอป้ายบอกระยะทางระหว่างสถานีใกล้เคียง ที่แตกต่างไปจากสถานีทั่วไป ที่มี 2 ด้านเท่านั้น  แต่ก็ชี้ทางได้สอดคล้องกับความเป็นจริง โดยสถานีคลองจังอยู่ทิศเหนือ สถานีที่วังอยู่ทิศตะวันตก(ไป จ.ตรัง) และสถานีใสใหญ่อยู่ทิศตะวันออก(ไป เขาชุมทอง)  จับแผ่นกระดานวางลงไปบนพื้น รางก็วางแบบนี้จริงๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 14:30:06

ความคิดเห็นที่ 63 ภาพซ้าย : ผมเดินเกือบถึงป้ายชื่อสถานีด้านเหนือแล้ว  กำลังผ่านด้านหน้าอาคาร จนท.การรถไฟอยู่  มีสองท่านนั่งอยู่ด้านหน้า คงแปลกใจว่า ผมมาถ่ายภาพอะไรที่นี่ ถ้าหากเป็นกล้องใหญ่ อาจมีมาถามผมได้ ภาพขวา : ถึงแล้ว....ป้ายขื่อสถานี ที่คนรักรถไฟนิยมเรียกว่า ป้ายประเพณี มาถึงสถานีใดก็ต้องไม่พลาดเก็บภาพมาเป็นหลักฐานครับ ป้ายนี้นับว่าแตกต่างไปจากป้ายที่เคยเห็นมา คือ  ตั้งอยู่ในร่ม.....    (แต่ในความเป็นจริงแล้ว ก็อยู่กลางแจ้ง จนมีการสร้างหลังคาชานชาลายาวไปถึงป้ายในภายหลัง เพราะผมเห็นจากภาพที่ คนรักรถไฟเคยไปถ่ายมาครับ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 14:35:58

ความคิดเห็นที่ 64 ภาพซ้าย : ผมขอเก็บภาพตัวเองกับป้ายประเพณีแห่งนี้ไว้เป็นที่ระลึกบ้าง  อิอิ.. มาคนเดียวก็ต้องกะมุมกล้องเอง ช่วงหลังนี้เริ่มชำนาญ รูปนี้กดครั้งเดียวได้เลย (นี่ไม่รวมปัญหาเรื่องแสง ถ้าหากกล้องวัดไม่ถูกต้อง ก็ต้องกดซ้ำกันหลายครั้งเลย) ภาพขวา : ลองไปเก็บภาพอีกด้านของป้ายนี้ เพื่อให้ติดภาพสถานี แต่ทำได้ยาก เพราะมีเสามาบัง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 14:39:37

ความคิดเห็นที่ 65 ภาพซ้าย : ผมเดินออกไปที่ชานชาลา 2 เพื่อเก็บภาพสถานีจากระยะไกล จากมุมมองด้านทิศเหนือเข้ามา และภาพนี้ก็ได้รับการคัดเลือกเป็นภาพพื้นหลังเปิดกระทู้ (น่าเสียดายที่ เสาบังป้ายชื่อไปหน่อย ตอนที่ถ่ายก็ไม่ได้คิดจะให้เป็นภาพสำคัญ) ภาพขวา : หันกลับไปมองรางด้านทิศเหนืออีกที ชานชาลา 1 ยังมีหลังคาเล็กๆ ต่อไปอีกจนสุดชานชาลา เวลามีน้อยเลยหยุดสำรวจด้านเหนือไว้แค่นี้ เลยไม่ทันได้สังเกตุเห็นว่ามีโรงรถจักรอยู่ถัดไปอีก มาทราบตอนจัดเตรียมภาพ ที่พบกลุ่มคนรักรถไฟเคยไปเยี่ยมชมมาแล้ว ตามลิ้งค์ข้างล่างนี้ http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=2470 ถึงว่าซี ตอนที่ไปถ่ายภาพ ผมพยายามมองฝั่งตรงข้ามสถานี ก็ไม่เห็นพื้นที่ หรือถนนฝั่งตรงข้ามเลย มีแต่ขบวนรถไฟจอดซ้อนกันไป  พอมาดูจากแผนที่ดาวเทียม จึงถึงบางอ้อ.. ว่า มีโรงจักรอยู่ที่นั้น ข้อมูลในเน็ตบอกว่า สถานีทุ่งสงเป็นจุดเติมน้ำมันให้กับหัวจักรทุกขบวนที่ลงใต้ วิกิพีเดียวบอกว่า มีรางเข้าโรงจักรมากถึง 14 ราง ในขณะที่ตัวสถานีมี 7 ราง  โอ้...ระดับน้องๆ หัวลำโพง หรือ โรงจักรบางซื่อเลยนะนี่!  แต่ถึงอย่างไร จู่ๆ ผมจะเข้าไปถ่ายภาพอะไรแถวโรงจักรไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเป็นเขตหวงห้าม เฉพาะจนท. หรือต้องติดต่อขออนุญาตล่วงหน้าไว้ก่อน   อ้อ.. รางบริเวณฝั่งตรงข้ามสถานี หน้าโรงจักรนั้น เป็นสุสานรถไฟ หรือที่จอดขบวนรถไฟ ที่ชำรุดเสียหาย เลิกใช้แล้ว  น่ากลัวเหมือนกัน ที่น่ากลัวคือ งูและสัตว์มีพิษ เพราะดูรกมาก (มีภาพจากลิ้งค์ข้างบน ในช่วงท้ายๆ ด้วย) แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 55 14:58:51 แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 55 14:55:05 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 14:50:19

ความคิดเห็นที่ 66 ผมเดินกลับมายังสถานี ขบวนรถไฟที่จอดอยู่ (ไปกันตัง) กำลังจะเคลื่อนออกพอดี  ในมุมนี้มองเข้าไปยังสถานี จะเห็นร้านอาหาร "สถานี" ในมุมมองปกติที่ผู้โดยสารมากับรถไฟเห็น ระหว่างนั้น เจ้าหนุ่มชุดฟ้าที่ยืนอยู่ในรูป ก็เข้ามาบอกผมว่า รถไฟอีกขบวนกำลังเข้ามา ผมเลยรีบกลับเข้ามายังชานชาลา 1 เพื่อเตรียมถ่ายภาพ ขบวนรถไฟกำลังเข้าสถานี (บังเอิญจริงๆ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 15:03:10

ความคิดเห็นที่ 67 ข้างล่างเป็นคลิ๊ปวิดีโอ ขบวนรถไฟจากรุงเทพฯ ไป นครศรีธรรมราช กำลังเข้าสถานีชุมทางทุ่งสง จากตารางเวลาเดินรถในคห.56 คาดว่าเป็นรถด่วน 85 ออกจากกรุงเทพฯเวลา 19:30 น. กำหนดผ่านสถานีนี้เวลา 09:27 น.-09:32 น. ถึง นครศรีธรรมราชเวลา 10:55 น. แต่...... เวลาขณะนั้นคือ 12:09 น.!  ทีแรกผมยังคิดว่าเป็นขบวนรถ ชุมพร-หาดใหญ่ ที่กำหนดผ่านสถานีนี้เวลา 12:14 น. 12:19 น. ไปด้วยซ้ำ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 15:32:58

ความคิดเห็นที่ 68 รถเข้าจอดในชานชาลาที่ 1 เรียบร้อยแล้ว ผมเดินเลียบขบวนรถไฟไปทางใต้ ผ่านอาคารสถานี เห็นป้ายตารางเดินรถอีกแห่ง ป้ายนี้มีช่องเว้นว่างให้เขียนเติมได้ว่า มาช้าเท่าใด(รถเสียเวลา) และเวลาถึงโดยประมาณ ซึ่งผมขอเติมให้นิดนึง ถึง 2 ขบวนที่เพิ่งออก และเพิ่งเข้าในเวลาประมาณเที่ยงวันครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 15:44:28

ความคิดเห็นที่ 69 เดินเลยอาคารสถานีไปตามชานชาลา 1 ทางใต้  คนเยอะ ทางยาวไม่แพ้ด้านเหนือเลย  เดินไปค่อนทาง เห็นป้ายบอกทางแยกไปจังหวัดต่างๆ เหมือนกับชานชาลาด้านเหนือ (ผมเลยไม่ได้ขยายให้ดูอีก) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 15:47:46

ความคิดเห็นที่ 70 ผมเดินเกือบถึงป้ายชื่อสถานีด้านใต้แล้ว ตรงนี้มีหอสถานี ที่ใช้ควบคุมประแจสับเปลี่ยนรางอยู่ด้วย ใกล้กัน มีป้ายบอกระยะทางระหว่างสถานี อีกอัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 15:52:59

ความคิดเห็นที่ 71 ภาพซ้าย : ผมเดินเลยป้ายไปเก็บภาพย้อนเข้ามา เพื่อให้ติดภาพสถานีด้วย ป้ายนี้อยู่กลางแจ้งเหมือนสถานีอื่นๆ ทั่วไป แต่เนื่องจากหลังคาชานชาลาที่ยาวว...มาก จึงมองไม่เห็นอาคารสถานีเลย กลายเป็นเอกลักษณ์ของสถานีทุ่งสง ที่ต้องมีหลังคาชานชาลายาวแบบนี้แทน ภาพขวา : ขอภาพตัวเองอีกสักภาพ...ต้องขออภัยใน มีภาพคุณแม่อุ้มลูกน้อยเข้ามาติดโดยบังเอิญ แต่ดูหน้าไม่ชัดคงไม่เป็นไรนะครับ  ตอนถ่ายภาพไม่ทันเห็นจริงๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 15:58:49

ความคิดเห็นที่ 72 ผมเดินต่อไปทางใต้อีก เพื่อต้องการได้ภาพหัวรถจักร จนท.บนหอ เขาคงแปลกใจอีกว่ามาถ่ายภาพอะไรกัน...หึหึ  พขร.เองก็คงเห็นผม และอาจจำผมได้  เพราะเป็นเรื่องบังเอิญ ที่ได้เจอกันอีก 3 ครั้ง! กับรถขบวนนี้ อย่างคาดไม่ถึง ที่สถานีช่องเขา และ สถานีชุมทางเขาชุมทอง  ซึ่งผมเองก็ไม่ทราบ จนมาดูภาพที่ถ่ายไว้ สังเกตุดีๆ ด้านข้างรถไฟจะมีตราสัญญลักษณ์อะไรบางอย่างติดอยู่  ดูมีอายุพอๆ กับหัวรถจักร ผมเลยไปค้นดูในเน็ต พบว่าเป็นตราเครื่องหมายบูรฉัตร ประจำพระองค์ ของพลเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน หรือ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร พระบิดาแห่งการรถไฟไทย  ลองค้นหาข้อมูลจากในเว็บ http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2 พอสรุปได้ว่า สาเหตุที่ติดเครื่องหมายบูรฉัตร นี้เพราะ พระองค์ท่านเป็นผู้ริเริ่มนำรถจักรดีเซลมาใช้แทน รถจักรไอน้ำ นับเป็นรายแรกในทวีปเอเชีย!  ในปี พ.ศ.2471 โดยสั่งซื้อขนาด 180 แรงม้าส่งผ่านกำลังด้วยการกล(ใช้เพลา-เฟือง-คลัทช์ ไม่ได้ใช้น้ำมันไฮดรอลิคส์ และไฟฟ้า เหมือนในปัจจุบัน) จำนวน 2 เครื่อง จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์  จึงถือว่า พระองค์เป็นผู้ให้กำเนิดรถจักรดีเซลในประเทศไทย เพื่อการรำลึกและเทิดพระเกียรติ จึงให้ติดตราเครื่องหมายนี้ ที่ด้านข้างหัวรถจักรดีเซลทุกคันที่ใช้ในประเทศไทย สำหรับรถจักรใหม่ที่ซื้อแบบ ดีเซลราง ที่ไม่มีหัวลาก(เช่น สปรินท์เตอร์) คงไม่มีการติดตราเครื่องหมายบูรฉัตร เพราะจัดเป็นรถจักรไฟฟ้า  อ้างตาม วิกิพีเดียhttp://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%84%E0%B8%9F หลังจากนั้นก็มองไปทางใต้ ต่อไปจะเห็นรางเลี้ยวโค้งซ้าย ผ่านประแจแยกไป ชุมทางชุมทอง และ ตรัง โดยตรงนั้น สังเกตุเห็น เครื่องกั้นทางรถไฟ อันแสดงว่า มีทางรถยนต์ผ่าน ผมต้องไปที่นั่น เพื่อดู ว่ารางแยกไปอย่างไรกัน แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 55 17:13:35 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 16:36:50

ความคิดเห็นที่ 73 ก่อนไปสำรวจ จุดแยกทางรถไฟ ผมขอแสดงภาพดาวเทียม บริเวณย่านสถานีทุ่งสง และ จุดแยกทางรถไฟให้ดูกันก่อน  จะพบว่า ระหว่างทางแยกทั้งสองทาง เป็นพื้นที่สามเหลี่ยม ได้จัดสร้างเป็นสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนม์พรรษา  มีถนนตัดผ่านถึง 2 เส้น(ด้านหน้าและด้านหลังสวนสาธารณะ)  แต่ถนนที่เห็นรางทั้งสองได้ในจุดเดียวก็คือ ถนนเส้นใกล้สถานีที่สุด ซึ่งผมจะไปจอดรถ เดินสำรวจที่นั่น (ใกล้ๆ ป้อมควบคุมเครื่องกั้นรถไฟ ด้านหน้าสวนสาธารณะ) อนึ่ง เส้นสีน้ำเงินในแผนที่ บอกทิศทางการเดินรถไฟ ส่วนของรถยนต์เป็นเส้นสีม่วง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 16:48:24

ความคิดเห็นที่ 74 ผมออกมาจากสถานีทุ่งสง ย้อนทางเดิมมาถึงจุดตัดทางรถไฟแรก เลี้ยวซ้ายข้ามไปจอดรถ แล้วเดินกลับมายังรางรถไฟ ภาพซ้าย : ตอนนี้ยังเดินไม่ถึงรางที่แยกไป ชุมทางเขาชุมทอง รางนี้ เลี้ยวซ้าย(ยืนหันหน้าไปทิศใต้) เลียบสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนม์พรรษา มีเนินเขาอยู่ข้างหลัง ชื่อ ภูเขาแจ่ม  รางนี้จะขนานกับถนนที่ไปยัง อ.หาดใหญ่ (หรือ จ.นครศรีธรรมราช) ภาพขวา : ข้างหน้ามีราง 2 รางที่แยกไปคนละทาง แต่รถยนต์ที่จะผ่านในจุดนี้ ต้องข้ามพร้อมกันในคราวเดียวเหมือนแยกยมราช ในกรุงเทพฯ  ขวามือคือ รางที่ไปรวมกัน ที่สถานีทุ่งสงนั่นเอง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 17:53:31

ความคิดเห็นที่ 75 ผมเดินข้ามรางแรก ที่มุ่งไปสถานีชุมทางเขาชุมทอง หันหน้ามองตามรางไปทางใต้อีกครั้ง  ถัดมาเป็นป้ายชื่อด้านหน้าสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ  ถัดมาก็คือรางที่มุ่งไป จ.ตรัง รถเยอะมากตอนที่ถ่ายภาพ  ผมนำภาพทั้ง 3 มาต่อกัน เพราะจะบ่งบอกการแยกทางของรางรถไฟได้ดีครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 17:57:25

ความคิดเห็นที่ 76 ตรงรางที่สอง ที่มุ่งไป จ.ตรังนี้ ผมหันกลับไปดูสถานีทุ่งสงอีกที จะมองเห็นอาคารเก่า (รับส่งสินค้า) ฝั่งรางได้ชัดดี  มองเห็นหอสถานีที่เมื่อครู่ผมไปยืนมองมาตรงนี้อยู่ลิบๆ  อ้อ..พยายามมองหาจุดที่รางแยกออกจากกัน เนื่องจากไม่มีเวลาเดินไปถึงตรงนั้น เพราะรถจอดริมถนนไม่ค่อยเรียบร้อย (รถเล่นน้ำเยอะ) เลยได้ภาพมาเท่านี้ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 18:00:55

ความคิดเห็นที่ 77 ภาพบน : ถ่ายภาพเสร็จแล้ว(อย่างรีบๆ) ก็ออกเดินทางต่อไปยังอุโมงค์ช่องเขาทันที เพราะนี่ก็เที่ยงครึ่งแล้ว ไม่รู้ว่าจะใช้เวลาเดินไปอุโมงค์นานแค่ไหน จะลอดดีหรือจะใช้วิธีเดินอ้อมไปปากอุโมงค์อีกด้านแทน ซึ่งจะใช้เวลานานเป็น 2 เท่าเข้าไปอีก...  ออกมาจากจุดตัดข้ามทางรถไฟ นิดเดียวก็เจอะทางแยก ถนนที่มาจากเมืองทุ่งสงอีกสาย (สายแรกที่เล่นน้ำสงกรานต์ นั่นแหละ) รถติดไฟแดง เหลือบเห็นหุ่นตัวตลก ของหนังตะลุง ที่เรียกว่า "เท่ง" เลยเก็บภาพมาฝาก  (ตำแหน่งที่ตั้ง น่าจะตรงหัวมุมถนนตามแผนที่ คห.73 ผมเองก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก) ภาพล่าง : เส้นทางไปยัง สถานีชุมทางเขาชุมทอง ถนนดูเล็กไปหน่อย เพราะเป็นสายเก่า (403)  ไม่ใช่สายใหม่ (41) ที่คู่ขนานกันไป จนไปรวมกันใกล้ๆ แยกเข้าสถานีช่องเขา ครับ ขอจบตอนสองนี้ก่อน เพราะกระทู้ยืดยาวมามากพอสมควร ทีแรกผมกะจะจบตอนนี้ที่สถานีช่องเขา แต่ดูแล้วกลัวจะเฉียดร้อย โดยที่ยังไม่เข้าอุโมงค์ เลยโยกเอาไปรวมกันเลย  ก่อนจะเข้าอุโมงค์ ก็แวะไปเยี่ยมสถานีชื่อเดียวกับอุโมงค์ก่อนเลย อย่างน้อยก็จะได้มีชื่อ "ช่องเขา" ติดกลับมาเป็นที่ระลึกครับ  โปรดติดตามตอนต่อไป นะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 55 18:13:37

ความคิดเห็นที่ 78 ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ   อยากขับรถล่องใต้แวะเที่ยวไปเรื่อยๆ แต่ยังหาเวลาไม่ได้เลยค่ะ   ได้ยินชื่อทุ่งสงมานานอยากไปเห็นเหมือนกัน... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 07:42:39

ความคิดเห็นที่ 79 ทิ้งห่างไปนาน เพิ่มมีโอกาสได้เห็นกระทู้คุณมิราชชอีกครั้งหนึ่ง ที่ไปเยือนสายใต้ในคืนวันนี้เองครับ ชุมทางทุ่งสง ผมเคยแวะลงเดินเล่นอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนนั่งรถไฟไปเที่ยว จ.ตรัง ขอขอบคุณที่นำลงเผยแพร่  แถมข้อมูลที่ให้ละเอียดดีมาก จะรอติดตามไปจนกระทั่งจบกระทู้ล่ะครับ จากคุณ : owl2 เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 23:10:15

ความคิดเห็นที่ 80 สวัสดีครับ คุณป้าฟู : แฟนประจำกระทู้  คิดว่าจะตกหล่นไปสำหรับกระทู้ตอนนี้ แต่ก็ไม่พลาดนะครับ  ตอนนี้อาจไม่ค่อยตื่นเต้น  ตอนหน้าจะพาไปดูอุโมงค์รถไฟช่องเขา ที่มีเพียงแห่งเดียวในภาคใต้ คอยติดตามชมนะครับ สวัสดีครับ คุณowl2 : ผู้อาวุโสแห่งคนรักรถไฟ เช่นกันครับ ที่ไม่ได้ทักทายกัน เพราะผมไปทำกระทู้เที่ยววัด ซะหลายตอน  ยังเหลืออีกเยอะ เพราะไม่มีเวลาโพส พอมีกระทู้ทริปยาวก็ต้องนำลงแซงหน้าไปก่อน  ทริปนี้ยังยาวไกลครับ  อย่างไรก็ขอรบกวนชี้แนะ เพิ่มเติมได้ ตามเห็นสมควรนะครับ ช่วงนี้ ขอจัดเตรียมภาพก่อน ณ วันนี้ภาพที่เตรียมกำลังเริ่มเดินทางเข้าสู่อุโมงค์แล้ว..รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกัน แม้จะเพิ่งไปด้วยตัวเองมาแล้ว จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 01:46:19

ความคิดเห็นที่ 81 อุโมงค์ช่องเขา เป็นอีกหนึ่งในสองอุโมงค์ที่ผมยังไม่เคยเดินลอดไปสำรวจครับ อีกแห่งหนึ่งคืออุโมงค์ขุนตาน น่าอายไม่น้อยครับ เป็นชาวเหนือทั้งที่ ยังไม่เคยเดินลอดอุโมงค์ขุนตานแม้แต่สักครั้งเดียว  55555 แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 55 22:43:58 จากคุณ : owl2 เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 22:42:05

ความคิดเห็นที่ 82 คุณพี่ owl2 : ไม่ต้องแปลกใจครับ โบราณเขาเรียกว่า ใกล้เกลือกินด่าง ผมอยู่กรุงเทพฯ สะพานพระราม 6 ใกล้ๆ ยังไม่เคยขึ้นไปเก็บภาพเลย ยิ่ง สถานีหัวลำโพง อยู่ห่างจากที่ทำงานไม่กี่กม. ยังไม่เคยไปเก็บภาพอีกเช่นกัน  คงรอให้ย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดก่อนกระมัง....   อ้อ..อุโมงค์ที่คุณพี่บอก นั้น แห่งหนึ่งอยู่เหนือสุด แห่งหนึ่งอยู่ใต้สุด นับเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ นะครับ  อุโมงค์ห้วยแม่ลานที่ถือว่าเข้าถึงยากสุด คุณพี่ยังเคยไปมาแล้ว อีกไม่นานคงได้ไปครบนะครับ ส่วนผม อุโมงค์ขุนตานยังถือว่า แค่เลาะเล็ม สักวันจะเดินไปให้ถึง สะพานสอง-สามหอ กันเลย กำลังคิดว่าวิธีไปให้ปลอดภัยอยู่ กลัวรถไฟมาตอนเดินข้ามสะพานมากๆ ส่วนอุโมงค์นั้นไม่น่ากลัว เพราะมีช่องหลบเป็นระยะ เพียงแต่ ต้องหาอุปกรณ์สะท้อนแสงไปวางไว้หน้าช่อง ตอนขาไป แล้วขากลับส่องไฟก็จะเห็น เผื่อรถไฟมาจะได้ไม่ตกใจ วิ่งเลยช่องหลบได้ ช่วงนี้งานยุ่งมากๆๆๆๆ เลยจัดเตรียมกระทู้ไม่เสร็จสักที กลัวว่าจะเลยสัปดาห์นี้ไปเหมือนกัน ถ้าพรุ่งนี้จัดเตรียมเสร็จ วันศุกร์น่าจะออนไลน์ เปิดฉายต่อได้ คอยติดตามชมนะครับ  วันนี้ยังไปไม่ถึงอุโมงค์ เส้นทางเดินไปยังอุโมงค์ ธรรมชาติไม่แพ้ทางเหนือเลย แต่ร้อนอบอ้าวสุดๆ... แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 55 00:02:43 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 23:57:36

ความคิดเห็นที่ 83 วันนี้ได้มาต่อ กระทู้ตอน 3 แล้วครับ ตอนสำรวจเส้นทางสู่อุโมงค์ช่องเขา http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E12166078/E12166078.html เชิญติดตามชมต่อไปได้ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 11:11:31