ไลน์อาหารเช้าของโรงแรมก็เป็นเหมือนโรงแรมทั่วไป แต่ที่นี่ไม่มีข้ามต้มหมู ข้าวต้มไก่ ข้าวต้มกุ้งอย่างที่คุ้นเคยในบ้านเรา มีแต่ข้าวต้ม+กับข้าวเท่านั้นค่ะ นอกนั้นก็เหมือนๆ กัน แต่ก็มีเฝอ และพวกปอเปี๊ยะตามสไตล์เวียดนามให้ได้ลองชิม (สุดท้ายเราสรุปได้ว่าเฝอที่ร้าน PHO24 อร่อยกว่าเฝอในโรงแรมมากมาย)
อิ่มแล้ว เดินจากห้องอาหารก็เจอคุณถังซึ่งจัดการให้เราเช็คสำภาระที่ถูกยกลงมาเรียบร้อยแล้ว และนำสำภาระของเราไปใส่ท้ายรถอย่างรวดเร็ว แล้วก็ไปเช็คเอาท์ นำพาสปอร์ตของทุกคนที่ต้องวางไว้ที่โรงแรมมาคืน
แต่แล้วก่อนจะออกเดินทาง คุณถังรับโทรศัพท์ แล้วหันมาบอกให้ลงจากรถเพราะเรือยังออกไม่ได้ เค้ายังไม่อนุญาตให้ออกจากท่าเพราะว่ามีฝน ต้องรอเช็คสภาพอากาศก่อน ...งานเข้าละสิคะ ก็เลยไปนั่งคุยกันในล็อบบี้โรงแรมพลางๆ แต่ก็ไม่ได้เสียเวลาเปล่า เพราะเราได้รู้อะไรหลายๆ อย่างมากมายจากคุณถัง
เวียดนามเป็นประเทศที่ผ่านการทำสงครามมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่จีน ฝรั่งเศส และอเมริกา การต้องตกอยู่ในสภาวะสงครามนี่เองที่ทำให้คนเวียดนามมีความอดทน บางครั้งเราอาจมองว่าเค้าเห็นแก่ตัว แต่จริงๆ แล้วสงครามสอนให้เค้ารู้จักดำรงชีวิตรอดได้ด้วยตัวเอง ...ขยัน อดทน เป็นคุณสมบัติของชาวเวียดนามส่วนใหญ่
ปัจจุบันเวียดนามมีประชากรมากกว่าไทยหลายสิบล้านคน อาชีพหลักของชาวเวียดนามก็คือเกษตรกรรม รัฐบาลเป็นผู้จัดสรรที่ดินทำกินให้กับประชาชนโดยเท่าเทียมกัน ที่ดินที่ได้รับไม่สามารถขายได้ แต่ตกทอดเป็นมรดกได้ และจะไม่มีการจัดสรรที่ดินทำกินเพิ่มให้ ครอบครัวไหนมีลูกมาก ลูกแต่ละคนก็จะได้ที่ดินทำกินน้อยลง ...ที่นี่ชาวนาจึงปลูกข้าวถึง 4 ฤดู เพื่อให้สามารถอยู่รอดได้ในความจำกัดของพื้นที่
คนเวียดนามรักการศึกษา พ่อ แม่ จะสอนลูกให้รู้จักคุณค่าของการศึกษา รัฐบาลเองก็ให้ความสำคัญของการศึกษาของประชาชนมาก ...อันนี้นับเป็นจุดแข็งของชาวเวียดนาม ในขณะที่ประเทศไทย มีเด็กอ่านหนังสือได้น้อยลง ทั้งที่เป็นประเทศที่เจริญกว่าเยอะ
1 ชั่วโมงของการรอคอย ไม่น่าเบื่อเลยค่ะ ...และแล้วก็มีโทรศัพท์ติดต่อมาจากเรือ บอกว่าตอนนี้ได้รับแจ้งให้ออกเรือได้แล้ว ก็เลยได้ออกเดินทางไปยังท่าเรือสักที
จากคุณ |
:
nifedipine
|
เขียนเมื่อ |
:
26 พ.ค. 55 11:12:18
|
|
|
|