ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อได้ยานพาหนะกันเรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทางกันเลยครับ จุดแรกต้องแวะ 7 เพื่อซื้อของใช้ของกินกันก่อนครับ แล้วก็ขับออกไปนอกเมือง เส้น อ.วาริณ เราจะมุ่งหน้าไปที่อ.โขงเจียมกัน ทีแรกเรากะว่าจะแวะชม แก่งสะพือ ที่อ.พิบูลฯกันก่อนแต่ว่าขับเลยครับ ขี้เกียจย้อนกลับมาด้วยก็เลยไปกันต่อดีกว่า จุดแรกพวกเราแวะไปชม เขื่อนปากมูลกันครับ มีเรือชาวบ้านมาหาจับปลากันเยอะเลย จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 18:45:10

ความคิดเห็นที่ 2 ยานพาหนะคู่ใจของทริปนี้ครับ Honda click กว่าจะมาถึงที่นี่ก็ประมาณ 10.00 น.ทางเ่ข้ามาเขื่อนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ เป็นหลุมเป็นบ่อเยอะเลย จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 18:47:47

ความคิดเห็นที่ 3 หลังจากนั้นพวกเราก็แวะไปกันต่อที่อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ จากเขื่อนปากมูลไปไม่ไกลครับ ประมาณ กิโลกว่าๆแวะไปชมสะพานกันก่อนจุดเด่นของอุทยาน จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 18:49:30

ความคิดเห็นที่ 4 หลังจากนั้นก็ไปชมจุดที่เป็นแก่งกันครับ มีเรือนำเที่ยวด้วยไม่แน่ใจว่าจ้างมาจากโขงเจียมหรือเปล่า จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 18:51:53

ความคิดเห็นที่ 5 กิ๊ฟ หมดตามไปด้วยนะ ครับ ฮิ๊วว   จากคุณ : นายฟ้าใส เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 18:55:32

ความคิดเห็นที่ 6 สายลมแห่งหัวใจ จ จ จ หวานม๊ากกก ตามไปด้วยค่า จากคุณ : P r i m t a a เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 18:56:12

ความคิดเห็นที่ 7 "แก่งตะนะ" จากเรื่องเล่าขานกันว่ามาจากคำว่า "มรณะ" เพราะว่าบริเวณแก่งตะนะมีน้ำไหลเชี่ยวกราก และมีโขดหินน้อยใหญ่อยู่ทั่วไป ชาวบ้านที่ออกจับปลาหรือสัญจรมักได้รับอุบัติเหตุอยู่เป็นประจำ ชาวบ้านจึงเรียกแก่งนี้ว่าแก่งมรณะ และต่อมาจึงเรียกแก่งตะนะ จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 18:59:41

ความคิดเห็นที่ 8 ตามเพื่อนสายลมแห่งวิงค์มาเที่ยวด้วยนะครับ   ภาพเปิดรีวิวก็ธรรมชาติมาก ไล่ลงมาก็ธรรมชาิติมาก  ตามไปเทียวอุบลด้วยนะครับ กิฟหมดตัวแล้ว ให้ ไปก่อนนะครับ จากคุณ : ชานมชงเอง เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 18:59:43

ความคิดเห็นที่ 9 รูปสวยมากค่า ขอตามไปด้วยนะคะ จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 19:01:14

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ นายฟ้าใส - ตามมาเลยครับ....แค่เข้ามาทักทายก็ดีใจแล้วครับ คุณ P r i m t a a - ยินดีครับ กระโดดซ้อนสามเลยครับ คุณ ชานมชงเอง - มาเลยครับ-ยินดีๆ ไปเที่ยวอุบลกัน -------------------------------------------------------------------- พวกเราใช้เวลาเดินเล่นถ่ายรูปไม่นานครับเพราะใกล้จะเที่ยงแล้วเราต้องไปกันต่อที่แม่น้ำสองสี ที่บริเวณริมแม่น้ำโขงอ.โขงเจียมเราไม่ได้นั่งเรือไปชมแม่น้ำสองสีกันครับ เพียงแค่ชมบรรยากาศโดยรอบเท่านั้น นั่งกินเป๊ปซี่เย็นๆมองวิวฝั่งลาว ที่นี่เป็นอำเภอเล็กๆแต่ว่าสงบน่าอยู่มากๆเลยครับ แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 55 19:07:00 จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 19:05:00

ความคิดเห็นที่ 11 ตามไปเที่ยวด้วยคนนะครับ เห็นแล้วคิดถึงบ้านจัง จากคุณ : numsiam เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 19:07:37

ความคิดเห็นที่ 12 คุณ หมูอ้วนจอมพลัง - ขอบคุณครับ ขึ้นมาเลยครับ ต่อรถพ่วงหลังแล้วครับ 555 ------------------------------------ วิวฝั่งเมืองลาวครับ ที่นี่มีบริการนั่งเรือข้ามไปเที่ยวด้วย แต่ว่าพวกเราไม่ได้ไปครับ จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 19:11:42

ความคิดเห็นที่ 13 รูปเปิดสวยจังค่ะ ขอตามไปเที่ยวอุบลฯด้วยนะคะ จากคุณ : Miss_Behaving เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 19:15:55

ความคิดเห็นที่ 14 คุณ numsiam - กระโดดขึ้นมาเลยครับ ยังรับได้อีกเยอะ คึดฮอดเฮือนหลายๆ -------------------------------------- ออกจากอำเภอโขงเจียมเราก็รีบเร่งสปีดกันต่อครับ จุดหมายต่อไปคือผาแต้มครับ ออกจากตัวอำเภอเลยสามแยกมาหน่อย มีปั๊มน้ำมันอยู่เราแวะเติมน้ำมันกันก่อนครับ บิดมาจากอุบลจะหมดถังอยู่แล้ว ถึงอุทยานจ่ายค่าธรรมเนียมกันก่อน แล้วจุดแรกที่พวกเราแวะคือ เสาเฉลียงครับ (แต่ไม่มีรูป)อยู่ข้างทางเลย ในใจทีแรกนึกว่าจะใหญ่โตมากกว่านี้อีกครับและคงเยอะพอควร แต่ว่ามีเท่านี้เองครับ ข้างๆเสาเฉลียงมีทางเดินไปจุดชมวิวหินแตกครับเดินไปประมาณ 50 ม. ที่นี่เราได้พบกับอาจารย์สองสามีภรรยา ขับมาเที่ยวจากบุรีรัมย์ได้พูดคุยทักทายกันเล็กน้อย พอเราบอกว่าจะไปสามพันโบก จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 19:16:08

ความคิดเห็นที่ 15 คุณ Miss_Behaving - ดีใจมากครับ กระโดดขึ้นมาเลยครับ รถพ่วงยังว่าง ------------------------------------------ “โอ้...คุ้มแน่ๆได้เจอ สามแสนโบกด้วย “ แกพูดไปพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย “ ทีแรกลุงก็ขับรถเที่ยวไปเรื่อยๆอยู่ดีๆพอไปเจอสามแสนพันโบกเท่านั้น จากทีคุยกันดีๆก็ทะเลาะกันซะงั้น “แกหันไปยิ้มให้กับภรรยาของแก "ก็ลุงนั่นแหละ ขับลงหลุมตลอด" อาจารย์ผู้หญิงรีบอธิบาย พร้อมใช้มือตีที่แขนของสามีเบาๆ “ก็มันไม่มีที่ให้หลบ"ลุงบอกกับพวกเรา" "เอาหล่ะ ลุงต้องไปก่อนแล้วเที่ยวให้สนุกๆนะ โชคดีๆ” “ครับ โชคดีเช่นกันครับ สวัสดีครับ “ พวกเราทั้งสี่ไหว้ลา แล้วก็ขับมอไซค์เลี้ยวซ้ายไปที่ผาแต้มต่อ ส่วนรถของคุณครูทั้งสองท่าน เลี้ยวขวากลับออกไปที่ถนนใหญ่ การเดินทางแค่ได้พูดคุยกับนักท่องเที่ยวท่านอื่นๆหรือชาวท้องถิ่นเล็กๆน้อยๆก็ทำให้มีความสุขได้ จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 19:22:29

ความคิดเห็นที่ 16 ขอสะกดรอยตามไปด้วยค่ะ เก็บเกี่ยวข้อมูลไว้ก่อน อิๆ จากคุณ : ไปทุกที่ ถ้ามีสตางค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 19:22:46

ความคิดเห็นที่ 17 มาถึงแล้วผาแต้ม ป้ายสัญลักษณ์ไปที่ไหนๆก็ต้องถ่าย...... จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 19:24:11

ความคิดเห็นที่ 18 คุณ ไปทุกที่ ถ้ามีสตางค์ - ผมรู้ตัวแล้วคงสะกดรอยไม่ได้แล้วครับ กระโดดขึ้นมานั่งรถพ่วงด้วยกันเลยดีกว่าครับ 555  ยินดีครับ แต่อาจจะไม่ค่อยมีข้อมูลนะครับ แต่ถ้าไร้สาระนะเยอะครับ อิอิ ---------------------- บริเวณผาแต้มเป็นลานหินกว้างเลยครับ ฝั่งลาวตรงข้ามก็มีหน้าผาชันเหมือนกันครับ ผมเเอบสงสัย แล้วฝั่งนั้นไม่มีภาพเขียนสีบ้างหรือ ถามกับเจ้าหน้าที่ เขาบอกว่าไม่เห็นมีรายงานนะคงไม่มี จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 19:29:25

ความคิดเห็นที่ 19 บ่ายสองโมงแล้ว เรารีบลงไปดูผาแต้มกันดีกว่า แต่ว่าแต่ละจุดนั้นไกลกันจริงๆ ภาพเขียนสีมีทั้งหมด 4 จุด 4 โซน เราไปได้แต่ 3 โซนเองก็หมดแรงซะแล้ว อันที่จริงเราว่าจะขับอ้อมไปทางศาลารับเสด็จเพื่อที่จะชม สุดที่4 เพราะเดินใกล้ๆ แต่เวลาของเราจะหมดแล้ว ไว้คราวหน้าถ้าได้มาอีกจะไปดูแค่จุดที่ 4 วันนี้เป้าหมายของเรายังอีกไกลนัก จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 19:31:46

ความคิดเห็นที่ 20 บ่ายสามโมงเราออกจากอุทยานแห่งชาติผาแต้มมุ่งหน้าสู่สามพันโบกอันลือชื่อ แต่ก็ยังน้อยกว่าสามแสนโบกเสียอีก ถนนช่วงแรกค่อนข้างดีแต่พอเลย แถวๆ อบต.นาโพธิ์ไปแล้วทางจะมีดีสลับกับแย่ นั่นคือหลุ่มเต็มถนนไปหมด ไม่มีรูปนะครับ เพราะช่วงขับมอไซค์ต้องใช้สมาธิสูง(ที่จริงขี้เกียจ 555) จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 19:34:35

ความคิดเห็นที่ 21 จากผาแต้มถึงหาดสลึงเราใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง  พอมาถึงเราก็รีบติดต่อเรือเพื่อที่จะไปชมสามพันโบกกันครับ เหมาลำ 1000 บาท เกือบห้าโมงเย็นแล้วเราก็นั่งเรือไปชมสามพันโบกกัน บรรยากาศตอนเย็นๆสบายดีจริงๆครับมีลมพัดเบาๆไม่ร้อนมาก จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 19:35:45

ความคิดเห็นที่ 22 ไกด์ตัวน้อยประจำเรือของเราครับ ชื่อน้องดรีม จะเป็นผู้พาเราไปชมสามพันโบก จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 19:36:43

ความคิดเห็นที่ 23 โบก เป็นภาษาลาว แปลว่า เเอ่งหรือหลุมครับ บนหินมีแอ่งขนาดเล็กขนาดใหญ่มากมายเลยครับ จึงได้เรียกที่นี่ว่า สามพันโบก เกิดจากการกัดเซาะของน้ำในฤดูน้ำหลาก จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 19:40:45

ความคิดเห็นที่ 24 แล้วในแอ่งก็ยังมีน้ำขังอยู่ด้วย..... จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 19:41:55

ความคิดเห็นที่ 25 ซ่ิงตามมาครับ หวังว่าจะเห็นรูปคนรีวิวและผู้ร่วมทริปด้วยนะครับ จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 19:43:17

ความคิดเห็นที่ 26 หินนี้คือหินเต่า...ยิ่งขึ้นไปมองจากด้านบนจะเหมือนว่าเต่านอนตายครับ.... จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 19:43:18

ความคิดเห็นที่ 27 คุณ 3KKK - ซิ่งมาเลยครับ--คงไม่มีอะไรครับ เกรงใจท่านผู้ชม.....ไว้โอกาสหน้าดีก่าาา ----------------------------------------------- มุมนี้สุดฮิตครับ  เพราะมีเครื่องประหารหัวสุนัขอยู่ด้วย ล้อเล่นครับ เป็นหินรูปหัวสุนัขครับ จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 19:48:07

ความคิดเห็นที่ 28 มุมสูง ที่นี่ดูยิ่งใหญ่จริงๆครับ..... จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 19:49:46

ความคิดเห็นที่ 29 โบกเยอะๆติดๆกัน..... จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 19:51:04

ความคิดเห็นที่ 30 ยังไม่เคยไปเลยครับ แอบมากก็บข้อมูลไว้ก่อน ไว้มีโอกาสจะขอตามรอยไปบ้างครับ จากคุณ : nongmalakor เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 19:52:39

ความคิดเห็นที่ 31 เดินชมที่นี่มีขยะจำพวกขวดน้ำให้เห็นอยู่ประปรายครับ ตามโบก จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 19:55:39

ความคิดเห็นที่ 32 คุณ nongmalakor - ยินดีครับ แต่ข้อมูลอาจจะน้อยไปหน่่อยครับ ยังไงต้้องลองหาโอกาสไปสัมผัสดูสักครั้งนะครับ -------------------------------- แอ่งน้ำขนาดใหญ่กลางสามพันโบก จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 19:57:39

ความคิดเห็นที่ 33 สมาชิกทั้งสาม ของเรากับ น้องดรีม ไกด์ของเราครับ.......... จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:00:54

ความคิดเห็นที่ 34 ที่สามพันโบก มีโบกรูปมิี๊กกี้เม๊าด้วยครับ แต่ไม่ได้ถ่ายมา จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:02:36

ความคิดเห็นที่ 35 ขอนั่งรถพ่วงด้วยค่ะ อุบลไกล๊ไกลนะคะ นั่งรถกันเมื่อยเลย จากคุณ : บัวนลิน เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:02:38

ความคิดเห็นที่ 36 คุณ บัวนลิน -ขึ้นมาเลยครับ ยังมีที่ว่าง......แต่เมื่อยหน่อยนะครับเพราะไกลจริงๆ -------------------------------- สามพันโบก ตั้งอยู่ที่บ้านโป่งเป้า ต.เหล่างาม อ.โพธิ์ไทร สมญานามที่เขาเรียกๆกัน แกรนด์แคนยอนเมืองไทย จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:07:18

ความคิดเห็นที่ 37 ถ่ายรูปได้สวยมากค่ะ วันหลังมีโอกาสต้องขอตามรอยไปเที่ยวที่นี่บ้าง จากคุณ : Flaminio เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:08:11

ความคิดเห็นที่ 38 เย้ๆๆๆ อุบลบ้านผม!!!! มีคำกล่าวว่า  " ถ้าคุณจะไปสามพันโบก  คุณต้องผ่านสามพันบ่อเสียก่อน "  ป๋าวิงค์คงจะเจอแล้วสินะครับ ถนนสมัยนี้ดีขึ้นแล้วนะครับ  ถ้าไปตอนสมัยพี่เบิร์ดยังไม่ไปถ่ายโฆษณา...อันนั้นเจ็บตูดมากๆ -*- แต่ก็อย่างว่า  ตรงนั้นมันเป็นชายแดน ความเจริญต้องค่อยๆเข้าไป  จะให้พัฒนาทีเดียวครั้งใหญ่ มันก็คงจะไม่ได้ครับ จากคุณ : ประกายแสงสีเหลืองแห่งแอนฟิลด์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:09:34

ความคิดเห็นที่ 39 หลังจากนั้นเราก็ไปกันต่อที่หินสีครับ หินที่นี่มันเงามากๆ ไปชมแจกัน กันด้วยครับ เหมือนมากจริงๆ (แต่ไม่มีรูปอีกแล้ว) บริเวณนี้เป็นบริเวณที่มีการเเกะสลักตัวเลขเพื่อวัดระดับน้ำ ในสมัยที่ฝรั่งเศสเข้ามา จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:11:18

ความคิดเห็นที่ 40 คุณ Flaminio - ขอบคุณครับ...ต้องหาโอกาสไปเยี่ยมที่นี่บ้างนะครับ บรรยากาศดีทีเดียวครับ คุณ ประกายแสงสีเหลืองแห่งแอนฟิลด์ - ว้าวเจอเจ้าบ้านแล้วครับ...แต่ก็ดีขึ้นจริงๆครับ เพราะว่ามีถนนทำใหม่สลับอยู่เรื่อยๆ --------------------------------------- รูปแจกันครับบ....... จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:15:46

ความคิดเห็นที่ 41 จากหินสีเราแวะอีกจุดหนึ่งคือ หาดหงส์ครับ ถ้ามาตอนกลางวันแสงคงสวยและร้อนเหมือนทะเลทรายจริงๆ เสียดายแต่ตอนเย็นฟ้าบิดเมฆฝนบังพระอาทิตย์เลยอดเห็นแสงยามเย็นสะท้อนบนผืนทรายเลยครับ จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:16:57

ความคิดเห็นที่ 42 เดินไปชมบริเวณชะง้อนหินครับ....... จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:18:15

ความคิดเห็นที่ 43 มุมนี้นั่งชมพระอาทิตย์ตกสวยมากๆ เเต่เีสียดายวันนี้พระอาทิตย์อาย เลยหลบอยู่หลังก้อนเมฆ..... แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 55 20:46:31 จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:19:41

ความคิดเห็นที่ 44 สวยงามมาก จากคุณ : tonhok เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:19:49

ความคิดเห็นที่ 45 เกือบ 18.30 น.แล้วเรากลับกันดีกว่าครับ กลับมาถึงพวกเราก็ต้องขับมอไซค์ย้อนกลับไปที่ครัวสามพันโบกซึ่งห่างออกไปประมาณ 5 ก.ม.ครับ เราจะนอนเต็นท์กันที่นั่น ที่ครัวสามพันโบก เราขับออกมาก็มืดแล้วครับ ยิ่งต่างจังหวัดไฟข้างทางก็ไม่มียิ่งมืดเข้าไปใหญ่ครับทางก็ไม่ดีเป็นหลุมเต็มไปหมด ดีที่ยังมีรถชาวบ้านขับสวนมาเรื่อยๆเลยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อยครับ ไม่งั้นเปลี่ยวมากๆ ถ้าขับมาคนเดียวคงไม่กล้าแน่ๆ ยิ่งเป็นคนมีจินตนาการสูงจะต้องเหลียวมองหลังตลอดแน่ๆ แต่โชคดีที่มีคนซ้อน 555 จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:22:02

ความคิดเห็นที่ 46 คุณ tonhok - ขอบคุณครับ --------------------- เรามาถึงครัวสามพันโบกทุ่มกว่า มองไปรอบๆมืดไปหมดเพราะเป็นสวนมะขาม มีเพียงแสงสว่างจากร้านอาหารที่เปิดไว้ แต่ไม่มีใครอยู่เอาแล้วไงหล่ะ ทำไงหล่ะทีนี้ โทรติดต่อไปที่ อ.เรืองประทิน บอกกับอาจารย์ว่าพวกเรามาถึงแล้วแต่ไม่มีใครอยู่เลย อาจารย์บอกว่าเดี๋ยวจะโทรหาเจ้าหน้าที่ให้รอแป๊บหนึ่ง ผ่านไปประมาณ 2-3 นาทีอาจารย์โทรกลับมาบอกว่าเจ้าหน้าเอาข้าวไปให้พ่อที่บ้าน รอนานไม่เห็นพวกผมมาก็เลยเอาข้าวไปให้พ่อก่อนรอสัก 20 นาทีนะ พวกผมก็เลยเข้าไปนั่งรอให้ร้านอาหาร แล้วพร้อมเดินสำรวจรอบๆ มีห้องน้ำอยู่อาบน้ำได้ พวกเราก็เลยเปลี่ยนกันไปอาบน้ำกันก่อนดีกว่าไม่ไหวแล้ว เน่ามาทั้งวันแล้ว  ตะลอนๆตั้งแต่เช้าจนป่านนี้ พออาบน้ำเสร็จสบายตัวสุดๆไปเลย แล้วสักพักเจ้าหน้าที่ก็มาถึง ก็เลยบอกว่าถือวิสาสะ สำรวจพื้นที่แล้วก็อาบน้ำ “ไม่เป็นไร กินข้าวกันหรือยัง” พี่เจ้าหน้าที่ตอบกลับมา “ยังเลยครับพี่ มีอะไรทานบ้างครับหิวมากๆเลย” พี่เขาก็เลยจัดแจงเอาเมนูมาให้ดู เราก็สั่งไปสี่ห้าอย่าง ไม่นานอาหารแสนอร่อยก็พร้อมเสิร์ฟ พวกเราทานกันอย่างเอร็ดอร่อย รสชาติอาหารอร่อยดีครับ โดยเฉพาะต้มยำปลาเนื้ออ่อนผมชอบเป็นพิเศษ รูปเต๊นท์นอนของพวกเรามองออกไปเห็นสามพันโบกเลย ใครจะลงไปกางที่หาดทรายข้างล่างก็ได้นะครับ แต่พวกผมมาถึงมืดแล้วเลยเตรียมอะไรไม่ทัน จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:25:46

ความคิดเห็นที่ 47 พวกเราตื่นขึ้นมาตอนตี 5 ฟ้าสว่างแล้วเราเดินลงไปชมสามพันโบกกันอีกครั้งจากครัวสามพันโบกสามารถเดินลงไปถึงสามพันโบกได้เลยครับ บรรยากาศเช้าๆ ช่วงนี้ใกล้จะปิดฤดูกาลแล้วคนไม่เยอะครับ จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:26:57

ความคิดเห็นที่ 48 บรรยากาศตอนเช้าๆเย็นสบายดีมากๆเลยครับ.....นั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นบริเวณ สระมรกต ถ้ามาตอนกลางวันจะเห็นน้ำในโบกเป็นสีเขียวครับ เลยเรียกสระมรกต จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:29:00

ความคิดเห็นที่ 49 เราเดินเล่นชมบรรยากาศสักพักครับบ....แล้วค่อยกลับขึ้นไป จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:30:07

ความคิดเห็นที่ 50 โบกรูปหัวใจครับ มีสองดวง ถ่ายมาดวงเดียว...... จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:30:48

ความคิดเห็นที่ 51 หลังจากอาบน้ำและทานอาหารเช้าที่ครัวสามพันโบกกันเรียบร้อย ก็ได้เวลาแปลงร่างเป็นเด็กแว๊นท์กันอีกแล้วครับ เราย้อนกลับไปทางเดิมครับ จุดต่อไปที่เราไปเที่ยวคือหมู่บ้านผาชันครับ ก่อนถึงหมู่บ้านผาชันมีทางแยกลูกรังเข้าไป 600 ม.เพื่อชมเสาเฉลียงใหญ่บ้านผาชัน เราแวะไปชมกันก่อนครับ จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:32:25

ความคิดเห็นที่ 52 เสาเฉลียงอีกอัน อยู่เลยขึ้นไปประมาณ 100 ม. จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:33:26

ความคิดเห็นที่ 53 จากนั้นเราก็ไปขับเข้าไปในหมู่บ้านผาชันเพื่อชมผาริมโขงที่มาของชื่อหมู่บ้านผาชันครับ จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:34:34

ความคิดเห็นที่ 54 เมืองอุบลฯ งามจริงๆ จากคุณ : BANGKOK-MANILA-JAKARTA เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:35:24

ความคิดเห็นที่ 55 บริเวณตรงผาชัน เจอแมลงอะไรไม่รู้ครับ เหมือนแมลงเต่าทอง...... จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:36:27

ความคิดเห็นที่ 56 คุณ BANGKOK-MANILA-JAKARTA - สวยจริงๆครับ ------------------------------------- ออกจากบ้านผาชันเราจะไปกันต่อที่ ผาชนะไดครับก่อนอื่นต้องตุนเสบียงกันก่อนเพราะข้างบนไม่มีอะไรให้กินครับ พร้อมทั้งเช่าเต๊นท์กับถุงนอนไปด้วย ติดต่อ อบต.นาโพธิ์ครับ แต่ปัจจุบันที่ด้านบนของอุทยานมีเต็นท์ให้เช่าแล้วนะครับ มีประมาณ สิบกว่าหลัง หลังหนึ่งนอนได้ 4-5 คน ไปถึงเศร้าเลยครับ เมื่อรู้ว่าข้างบนก็มีจะได้ไม่ต้องแบกมาจากข้างล่าง ราคาก็เท่ากัน หลังละ 250 บาท ถ้าหากใครสนใจลองโทรไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนก็ได้นะครับ เพราะว่าบางทีช่วงนักท่องเที่ยวเยอะอาจจะไม่พอ โทรไปจองไว้ก่อน เบอร์โทรเจ้าหน้าที่นะครับ ชื่อพี่คำเพียร  087-8726499 จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:40:20

ความคิดเห็นที่ 57 เส้นทางขึ้นผาชนะได หลังจากสิ้นสุดทางลาดยางตรงวัดถ้ำปาฏิหารย์แล้ว ทางค่อนข้างลำบากทีเดียวครับ รถธรรมดาคงไม่เหมาะ ต้องเป็นรถกระบะยกสูงครับ หรือไม่ก็มอไซค์นี่แหละง่ายสุดครับ หรือถ้าใครมาเป็นหมู่คณะติดต่อรถเพื่อ รับ-ส่งได้ที่ อบต.ครับ ราคา 2500 บาท พวกเราใช้เวลาในการขึ้นผาชนะได้จากถ้ำปาฏิหารย์จนถึงข้างบนกับระยะทาง 15 กม. ประมาณ 1.20 ชม.ครับ ทางสุดยอดมากๆ ถ้ามารถกระบะจะใช้เวลามากกว่านี้หน่อย มาถึงที่ทำการพวกเราก็นอนพักหลับสนิทเลยครับ จากบ่าย2 ถึงสี่โมงครึ่งลุกขึ้นไปชมผาชนะไดตอนเย็นกันดีกว่า จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:42:40

ความคิดเห็นที่ 58 พระอาทิตย์กำลังตก....บริเวณผาชะนะได บรรยากาศบนเขาที่มีเพียงพวกเราสี่คนกับเจ้าหน้าที่ เป็นอะไรที่สงบจริงๆไม่มีใครต้องให้มาแย่งกันถ่ายรูป เข้าห้องน้ำ แย่งกันชมวิว ไปเที่ยววันธรรมดามันก็ดีอย่างนี้แหละ แต่แอบเสียดายคราวหน้าถ้าได้มาอีกจะมาช่วงเดือนตุลาบ้างเพราะดูจากสภาพแล้วถ้ามาช่วงนั้นเป็นช่วงดอกไม้บานคงสวยงามมากๆ มองไปทางไหนก็เขียวชุ่มชื่น ดอกไม้ก็บานสะพรั่ง กลับมาจากผาชะนะไดหลังพระอาทิตย์ตก เพื่อที่จะมากางเต๊นท์ ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ไม่อยู่ครับ บนที่ทำการอุทยานมีเพียงเราสี่คนเท่านั้น มองไปทางไหนก็วังเวงไปหมด (อ้าวไหนว่าชอบหล่ะ สงบดี) “แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ เจ้าถิ่น อยู่มันก็โหวงเหวงเหมือนกันนะ อย่างน้อยก็ขอให้มีสักคนก็ยังดี แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 55 20:45:53 จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:43:52

ความคิดเห็นที่ 59 ผมชะนะไดสวยมาก   ฝนตก ตอนเช้า น่าจะมีทะเลหมอกนะครับ จากคุณ : ชานมชงเอง เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:49:30

ความคิดเห็นที่ 60 พวกเราตะโกนเรียกก็ไร้เสียงตอบรับใดๆ ป่าตอนกลางคืนมันสงัดดีจังมองไปรอบๆด้านหลังอาคารศูนย์บริการก็มีแต่ป่ารกชัฎ น่ากลัวไปหมด ดีนะที่มีสี่คนถ้าต้องอยู่คนเดียวคงหลอนแน่ๆ ว่าแล้วอย่ามัวแต่กลัวเลยรีบไปกางเต๊นท์กันก่อนมืดแล้ว พวกเราไปกางเต๊นท์กันบนลานหินกว้างห่างจากที่ทำการออกไปราว 80 ม.บนลานกว้างๆ ใช้ไฟจากมอเตอร์ไซค์ส่องแล้วกางเต๊นท์กัน ถือวิสาสะอีกแล้ว เขาไปหยิบมีด หยิบหม้อ และเทียนพรรษา ของพี่ๆเจ้าหน้าที่ เพื่อเอาไปใช้ หลังจากกางเต๊นท์เสร็จ ก็ก่อกองไฟท่ามกลางสายลมที่พัดค่อนข้างแรง ผมก็หยิบมีดขึ้นมาแล้วเจาะขวดน้ำ เจาะรู้ด้านล่างเพื่อเสียบเทียนที่เราซื้อกันมา ทำเป็นโคมไฟแล้วผูกไปรอบๆ แล้วพวกเราทั้งสี่ก็นั่งทานข้าวห่อ รอบกองไฟกัน แล้วก็ต้มมาม่าด้วย เสียดายที่ค่ำคืนนี้ฟ้าไร้ดาวพราว ไม่งั้นคงได้บรรยากาศสุดๆ เงยหน้าขึ้นมองฟ้ามีแต่เมฆมืดดำไปหมด พวกเรานั่งคุยกันรอบกองไฟที่ลุกโชนท่ามกลางความมืดที่รายล้อม ประมาณสองทุ่มกว่าๆเราก็เห็นแสงไฟวิ่งมาอย่างรวดเร็วจากป่าอีกฟากหนึ่ง เป็นแสงไฟจากรถมอไซค์ทีแรกเราก็นึกว่าพี่ๆเจ้าหน้าที่กลับมาแล้วที่ไหนได้ เป็นชาวบ้านสามสี่คนที่ขึ้นมาหาเห็ดมานอนบนนี้เพื่อจะได้ตื่นตอนตีสี่-ตีห้าเพื่อไปส่องหาเห็ดกัน แต่อย่างน้อยก็มีเพื่อนแล้ว โล่งอกไปที 555 พวกเราก็นั่งคุยนั่งเมาท์กันไปเรื่อยๆจนสามทุ่มกว่าๆ พวกพี่ๆเจ้าหน้าที่ก็กลับมา พวกเราจึงรีบไปหาแล้วบอกว่าหยิบยืมอะไรไปใช้บ้าง จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:49:41

ความคิดเห็นที่ 61 คุณ ชานมชงเอง - ฝนตกนิดหน่อยเองครับ เลยไม่ค่อยมี ถ้ามาหน้าฝนคงสวยมากๆ -------------------------------   เช้าตรู่เวลาประมาณตีห้าเศษ พวกเราก็รีบแหกขี้ตาตื่น แล้วออกไปชมพระอาทิตย์ขึ้นกันที่ผาชะนะได วันนี้พระอาทิตย์ขึ้นที่ผาชะนะไดเวลา 05.30 น. จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:51:39

ความคิดเห็นที่ 62 ตามไปเที่ยวอุบลด้วยค่ะ เดี๋ยวกรกฎาคมเจอกันอีกรอบ จากคุณ : Memories pink เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:52:18

ความคิดเห็นที่ 63 บรรยากาศตอนเช้าๆกับอากาศเย็นๆ สดชื่นจริงๆครับ....... จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:52:44

ความคิดเห็นที่ 64 คุณ Memories pink - ขอบคุณที่ตามมาเทีี่ี่ยวด้วยกันครับบ..... ---------------------------- อีกสักภาพก่อนกลับมาเตรียมตัวเพื่อลงไปที่อื่นต่อ จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:54:22

ความคิดเห็นที่ 65 บริเวณหินเต่าชมจันทร์ ตอนขาขึ้นขี้เกียจแวะก็เลยแวะ่ขาลงแต่ว่าย้อนแสงอย่างแรง......... จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:56:08

ความคิดเห็นที่ 66 ตอนขาลงเจอชาวบ้านหลายกลุ่มกำลังขึ้นมาเพื่อหาเก็บเห็ดกันครับ ช่วงนี้กำลังเยอะเลย.... จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:58:13

ความคิดเห็นที่ 67 พรุ่งนี้จะเข้ามาดูต่อจนจบนะครับ ชอบพระอาทิตย์ที่ คห.58 ครับ สวยดี จากคุณ : nongmalakor เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:58:50

ความคิดเห็นที่ 68 ขาลงทำเวลาได้ดีกว่าใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง กับเส้นทางสุดหฤโหด.... จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 20:59:29

ความคิดเห็นที่ 69 สวยจัง เมื่อต้นปีไปอุบล พลาดไปหลายที่เลย จากคุณ : boy next door เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:00:34

ความคิดเห็นที่ 70 ไปเที่ยวอุบลด้วยค่ะ คราวที่แล้วไปหน้าฝน เลยไม่ได้ไปสามพันโบกเลย สงสัยต้องไปซ่อมอีกซักที ^^ จากคุณ : ใต้ท้องฟ้า เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:01:26

ความคิดเห็นที่ 71 คุณ nongmalakor - ขอบคุณครับบ.... --------------------------------------- หลังจากผ่านเส้นทางหฤโหดมา พวกเราก็เลี้ยวเข้าไปชมวัดถ้ำปาฏิหารย์กันครับ จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:01:45

ความคิดเห็นที่ 72 คุณ boy next door -ไว้คราวหน้าไปใหม่ครับ ผมก็ยังอยากไปช่วงหน้าฝนเพื่อชมดอกไม้ครับ คุณ ใต้ท้องฟ้า - ครับ คราวหน้าถ้ามีโอกาสผมจะไปหน้าฝนบ้างจะชมทุ่งดอกไม้สวยๆ -------------------------------------- เดินลงไปชมกันดีกว่าครับ ถ้ำปาฎิหารย์ถ้าจะชมต้องติดต่อกับทางวัดก่อนนะครับ เพราะล็อกประตูไว้แล้วอีกอย่างจะได้เปิดไฟให้ด้วยครับ แล้วก็บริจาคเป็นค่าไฟแทน ข้างในมีค้างคาวเยอะแยะเลยครับ จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:06:11

ความคิดเห็นที่ 73 บันไดเดินลงไปชมด้านใน จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:06:52

ความคิดเห็นที่ 74 บริเวณด้านในครับ มีพระพุทธรูปมากมาย ถ้าปาฏิหารย์เดิมชื่อว่าถ้ำมืดครับ........ จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:08:11

ความคิดเห็นที่ 75 เจ้าหน้าที่บอกว่า ลึกประมาณ 300 ม. แต่มีอีกถ้ำหนึ่งที่ซ้อนอยู่ด้านล่างบริเวณปลายหางบันไดพญานาค พี่เขาเล่าว่าถ้ำนั้นยาวทะลุไปถึงแม่น้ำโขงครับ อันนี้ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหนชาวบ้านเล่าต่อๆกันมา จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:11:02

ความคิดเห็นที่ 76 ขึ้นไปเที่ยวที่เจดีย์กันต่อครับ......... จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:11:59

ความคิดเห็นที่ 77 ภาพอีกมุมครับ...... จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:13:51

ความคิดเห็นที่ 78 ออกจากวัดก็มุ่งหน้ากันต่อเลยครับ เส้นทางจากนี้สวยดีครับ เหมากับการขับรถเล่นชมวิวจริงๆ จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:15:29

ความคิดเห็นที่ 79 อ้าว....แซงไปก่อนเลย... จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:16:09

ความคิดเห็นที่ 80 เราแวะไปคืนเต๊นท์กับถุงนอนแล้วหาอะไรทานกันก่อนครับ ก่อนจะมุ่งหน้าต่อกันที่น้ำตกห้ัวยหลวง......ชมเถาวัลย์ยักษ์ จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:19:18

ความคิดเห็นที่ 81 น้ำตกน้ำน้อยมากๆเลยครับบ......เพราะฝนยังไม่ค่อยตกเท่าไหร่ จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:20:30

ความคิดเห็นที่ 82 คิดถึงเมืองดอกบัวจังเลยยย ตามไปเที่ยวอุบลด้วยครับ ผมไปเมื่อ 2 ปีที่แล้วตอนช่วงแห่เทียนพรรษา ไปสามพันโบกไม่เห็นหินเลย น้ำท่วมมิด แถมฝนตกด้วย T____T จากคุณ : kungpack เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:20:32

ความคิดเห็นที่ 83 คุณ kungpack - เข้ามาชมให้หายคิดถึงก่อนครับ ไว้คราวหน้าไปใหม่ ----------------------------- หลังจากนั้นเราไปกันต่อที่น้ำตกแสงจันทร์ครับ (น้ำตกลงรู) จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:23:13

ความคิดเห็นที่ 84 1 ใน UNseen ของเมืองไทยครับ น้ำก็น้อยเหมือนกัน จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:24:06

ความคิดเห็นที่ 85 มุมจากด้านบนบริเวณที่สายน้ำตกลงไปในรูครับ..... จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:25:49

ความคิดเห็นที่ 86 เรานั่งพักที่น้ำตกลงรู และคิดว่าจะไปที่ไหนกันต่อดีเพราะว่า น้ำตกสร้อยสวรรค์ที่ เราว่าจะไปพี่เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่มีน้ำเลย เอาไงต่อดีหล่ะ น้องปอบอกว่า เราไป เที่ยวชมเขื่อนสิรินธรกันดีกว่ายังไม่เคยเห็น โอเคงั้นเราย้อนกลับไปทางโขงเจียม กัน จะได้ย้อนกลับไปชมแก่งสะพือด้วย ทีแรกกะว่าจะวนกลับไปทาง อ.ตระการฯ แต่ไม่ไปแล้ว ยังไม่ทันจะออกจากน้ำตกลงรูเลย สายฝนเริ่มโปรยปรายลงมาเล็ก น้อยแล้ว พวกเราจึงรีบบึ่งออกเดินทางกันต่อ ครับ ตลอดเส้นจากน้ำตกมาถึง โขงเจียมฝนตกตลอดทางเลยครับ แต่ไม่หนักมาก แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 55 23:36:13 จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:29:11

ความคิดเห็นที่ 87 พวกเราก็ฝ่าสายฝนกันมาอย่างชุ่มฉ่ำ...แวะชมที่เขื่อนเล็กน้อยก็ออกมาที่แก่งสะพือกัน.. จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:31:05

ความคิดเห็นที่ 88 นั่งพักเหนื่อยกันก่อนครับแล้วค่อยออกเดินทางกันต่อหลังจากนี้เราจะเข้าเมืองกันแล้ว จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:32:04

ความคิดเห็นที่ 89 เข้าเมืองมาก็แวะไปหาซื้อของฝากและก็ทานก๊วยจับที่ขึ้นชื่อกันหน่อยครับ หลังจากนั้นประมาณ 17.30 น. เราก็เข้าไปที่สนามบินเพื่อรอขึ้นเครื่องไฟลท์ 20.45 น. หลังจากคืนรถกันเรียบร้อยแล้วเราก็เข้าไปนั่งรอข้างในสนามบินกันครับ เพื่อล้างหน้าล้างตาด้วย สภาพดูไม่ไหวจริงๆ ลุยกันมาอย่างหนักหน่วง พอเข้าสนามบินได้ไม่นาน พายุฝนก็เทกระหน่ำลงมาเลยครับ ไฟที่สนามบินดับไปสักครู่จนต้องใช้ไฟสำรอง ลมแรงมากๆครับ ในที่สุด ไฟลท์่ของเราก็ดีเลย์ 3 ชั่วโมง ......เต็มที่จริงๆ จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:37:11

ความคิดเห็นที่ 90 ทริปของพวกเราทั้ง 4 คนในครั้งนี้สนุกมากจริงๆครับ มีค่าเสียหายไปทั้งหมด คนละ 1920 บาท สุดคุ้มมากๆ สุดท้ายนี้ต้องขอบคุณทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาชมและทักทายนะครับ แล้วเจอกันทริปหน้านะครับ.... พระอาทิตย์ขึ้นที่ผาชะนะได....... จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:40:58

ความคิดเห็นที่ 91 ภาพสวยงามมากเสียดายกิฟหมด จากคุณ : chak-krab เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:42:57

ความคิดเห็นที่ 92 ไปด้วยครับ ชอบน้ำตกแสงจันทร์ เที่ยวแบบนี้ลุยดีนะครับ รอชมตอนหน้าครับ จากคุณ : BANBONDOI เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 21:46:23