นั่งรอรถประจำทางต่อไม่มีอะไรจะทำ....เลยขอแม่กลับไปเล่น Bob-sleigh อีกครั้งเพื่อฆ่าเวลา เมื่อไปถึงไม่มีใครเล่น รถ Bob-sleigh ก็ถูกวางคว่ำเอาไว้ ฉันเลยคิดว่าเครื่องเล่นคงปิดไปแล้วแน่ ขณะกำลังจะเดินกลับ ฉันก็เห็นคุณครูกับเด็กนักเรียนกลุ่มใหญ่เดินมาทางนี้พอดี ครูพูดอะไรไม่รู้นะไม่รู้เรื่อง แต่พอพูดจบเสียงเฮดังลั่น จากนั้นกองทัพมดก็แตกฮือ เด็กแต่ละคนต่างวิ่งเฮกันมาที่เครื่องเล่นนี้ อ้าวไม่ปิดหรอกเหรอ....แต่ไม่ทันแล้วละเพราะเด็ก ๆ มาต่อแถวซะยาวมากมาก วันนี้โชคร้ายจริง ๆ หิวก็หิวเล่นก็ไม่ได้เล่น
ฉันเหลือบเห็นร้านขายขนมเล็ก ๆ คิดว่าจะซื้อขนมกลับไปกิน เงินในกระเป๋ามีแค่ 5 CHFเท่านั้น ฉันตัดสินใจซื้อไอศกรีมเพราะราคาถูกดีพอดีตังค์ พอเข้าไปในร้านเจอครูคนเดิมกำลังเลือกไอศกรีมให้เด็กอยู่ฉันต่อคิวรอเธอเลือกเกือบ 5 นาทีก็เลือกไม่เสร็จ ฉันก็เลยตั้งท่าจะเลือกบ้างซักสองแท่ง เจ้าของร้านก็หันมาดุว่าอย่าเพิ่งเลือกให้เขาเลือกให้เสร็จก่อน ไหงงั้นเนี่ยครูเลือกตั้งเกือบ 30 แท่งแนะ ไม่รู้ไง...คุณครูระวังให้ดีน่าหิวหิวอย่างนี้กล่องข้าวน้อยฆ่าครูได้นะเออ
ไม่ซื้อไอติมแล้วงอนซื้อขนมก็ได้ถูกดี เลยซื้อช๊อคโกแลตมา 2 แท่งหน้าตาคล้ายกับเซี่ยงไฮ้บ้านเรา ส่วนอีกอันซื้อมันฝรั่งทอดกรอบ สิริรวมทั้งหมดราคา 4.50 CHF ฉันร่าเริงเบิกบานขึ้นมาหน่อยได้ขนมประทังชีวิตเมื่อเดินกลับมาหาแม่ก็ปรึกษากันว่าเราจะกลับที่พักดีไม๊...ไปขอร้องให้คุณ Danielle ให้ช่วยทำอาหารเย็นให้หรือลองเสี่ยงหาของกินที่ Supermarket ที่เมือง Bulle เมืองใหญ่ใกล้ที่พัก สุดท้ายก็ตกลงใจไปเมืองBulle กันก่อนกลับ พอขึ้นรถประจำทางก็เลยถามคนขับว่าลงป้ายไหนดีที่มี Supermarket ใหญ่ ๆ คนขับแนะนำให้เราลงที่ป้าย Bulle centre commercial เพราะมีห้าง Migros ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ พอใกล้ถึงคนขับใจดียังชี้ป้ายรถประจำทางขากลับและบอกเวลารถออกให้เราด้วยซึ่งเราก็จำได้คร่าว ๆ เท่านั้นความจำสั้นไม่คิดว่าต้องจำเป็นวินาทีด้วย ใครจะคิดว่าที่ป้ายรถประจำทางจะมีเวลารถออกใกล้เคียงกันขนาดนี้คือ เวลา 18.43 และ 18.45 น. เอาแล้วไงจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า 18.45 น. แต่ไม่แน่ใจ แต่ถ้าไม่ใช่ทำงัยดีละ รถเที่ยวสุดท้ายซะด้วย เดี๋ยวได้หลงอยู่ในเมืองนี้แน่ ๆ ฉันพยายามถามคนที่นั่งกันอยู่แถวนั้นก็หาคนพูดภาษาอังกฤษไม่ได้สักคน ไม่ว่าจะเป็นคนแก่ ผู้หญิงผู้ชายวัยกลางคน หรือแม้แต่วัยสะรุ่น จะร้องไห้ดีไหมเนี่ย สุดท้ายช่างมันก่อนยังเหลือเวลากังวลอีกตั้งเยอะไปซื้อของกินกันก่อนดีกว่า พอตัดสินใจได้ดังนั้นก็เลยข้ามถนนกันมาฝั่งตรงข้ามเพื่อมาซื้อของที่ห้าง Migros ที่นี่มีผลไม้และเนื้อสัตว์มากมายเลยคิดเมนูอาหารเย็นแล้วว่าวันนี้เราจะทานเสต็กหมูกันเพราะกำลังลดราคาอยู่พอดี แถมซื้อมันฝรั่งและ baby carots ไปด้วยไว้ทานแก้เลี่ยน ที่ห้างนี้เราพบคนไทยด้วยนะ เป็นผู้หญิงผิวค่อนข้างคล้ำมากับฝรั่งคิดว่าเธอน่าจะแต่งงานกับชาวสวิสแล้วมาอยู่กันที่นี่นั่นแหละ ดีใจแทบแย่รีบไปถามทางเธอทันทีแต่เสียใจจังเธอไม่รู้จักทางไปที่พักของเราแถมไม่ช่วยอะไรเราเลยคนไทยด้วยกันแท้ ๆ ฉันเลยหันมาลองถามพนักงานที่ห้างนี้ดูแต่ละคนกระวีกระวาดช่วยเหลือเต็มที่แต่ก็คุยกันไม่รู้เรื่องเพราะไม่มีใครพูดอังกฤษได้สักคน ช่างมันละกันขี้เกียจกังวลแล้วเดี๋ยวพอไปถึงป้ายรถประจำทางนะฉันจะขึ้นไปถามคนขับทุกคันเลยลองดูแรงฮึดของฉันละกัน เมื่อซื้อของเสร็จพวกเราจึงเดินมารอที่ป้ายรถประจำทาง ฉันเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังเพ่งมองตารางเวลารถอยู่ เลยเสี่ยงลองเข้าไปถามดูแล้วโชคก็เริ่มเข้าข้างพวกเราเพราะเขาพูดอังกฤษได้ด้วยละ เขาแนะนำให้เราไปรถสาย Charmy-Jaun เวลา18.45น......ไปถึงที่พักแน่นอน ว๊าย กรี๊ด.......ขอบใจหลายเด้อ
สุดท้ายฉันก็สามารถกลับถึงที่พักได้อย่างปลอดภัย แม่ติ๋มเข้าครัวทำอาหารส่วนฉันเป็นลูกมือ อาหารมื้อนี้เลยเป็นอาหารมื้อที่สุดอร่อย อร่อยมาก ๆ ยกเว้นไส้กรอกที่ซื้อมาจากหมู่บ้าน Moléson เพราะรสชาติมันออกเปรี้ยว ๆ เหมือนไส้กรอกอีสานบ้านเราแต่ผสมผสานกับรสชาติและกลิ่นของเครื่องเทศฝรั่งแปลก ๆ ไม่คุ้นเคย ของอีสานบ้านเราแซบอีหลีกว่ามาก ก่อนนอนวันนี้ได้มานั่ง speak งูงูปลาปลากับฝรั่งชาวสก็อตแลนด์ด้วยละก่อนที่จะร่ำลากัน พรุ่งนี้เราคงไม่พบกันแล้วเพราะเราต้องเดินทางกันตั้งแต่เวลา 7.45 น. พรุ่งนี้ค่อยมาพบกันใหม่นะคะคุณผู้อ่านทุกท่าน