ความคิดเห็นที่ 1 ตามมาปาด ^^ จากคุณ : dekba_com เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 14:46:11

ความคิดเห็นที่ 2 ภาพเปิดสวยมากเลยนะคะ ^^ จากคุณ : P r i m t a a เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 14:51:00

ความคิดเห็นที่ 3 ต่อจากตอนที่ 1 นะคะ ขึ้นรถแล้วประมาณ 4 ทุ่มก็ยังไม่เลิกเปิดนะ ตลกพม่าเนี๊ยะ ไปปิดเอาประมาณ 5 ทุ่ม กว่าจะนอนหลับ ตื่นมาอีกทีถึงพุกามแล้ว พอลงรถ เราถามคนบนรถว่ารู้จัก Aungmingalar hotel มั๊ย เขาก็บอกทาง พอลงรถบัสแล้ว ให้หันหน้าเข้าถนน เลี้ยวขวาเดินไปประมาณ 300 เมตร จะอยู่ตรงข้ามเจดีย์ชเวสิกอง สังเกตุว่าคนพม่าโดยส่วนใหญ่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษพอเข้าใจได้นะ ถึงแม้เราจะถามคนนี้แล้วเขาไม่เข้าใจ แต่สักพักก็จะมีคนอื่นๆ เข้ามาช่วยเสมอ Bagan Map : google จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 14:54:31

ความคิดเห็นที่ 4 น้อง dekba ท่านได้สิทธิ์นั้น คุณ P r i m t a a ขอบคุณค่ะ ไปเที่ยวด้วยกันนะ อีกที่ที่ Backpack มักไปก็ เมขลา http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2010/02/E8880869/E8880869.html และ  Golden Village GH, Inn Wa Guest House, Eden Hotel , New Heaven Hotel  เหล่านี้ราคากำลังดี พอจ่ายและห้องพักใช้ได้ http://www.myanmar2day.com/hotel-accommodation/2011/07/hotels-and-guest-houses-in-bagan-nyaung-u-cheap-accommodation/ จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 14:57:58

ความคิดเห็นที่ 5 ขณะที่เดินไปโรงแรมก็มีชายหนุ่มร่างผอมบางมาคุยกับเรา ถามเราว่าอยากได้รถม้าชมเมืองมั๊ย เราก็เลยถามราคา 15,000 k ราคาโอเคตามที่อ่านรีวิวมา ตั้งแต่เช้า ยัน เย็น แต่ถามน้องเค้าว่าจ่ายเป็น US ได้มั๊ย น้องไม่รับ เราก็เลยนัดน้องเขามารับตอน 6 โมงครึ่ง ที่จริงบอกน้องเขาว่าอยากไปดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วย สงสัยเราบอกไม่ชัดมั้งเนี่ย ขอเวลาน้องเขาไปชำระความโสโครกของร่างกายแป๊บนึง Aungmingalar hotel ที่นี่ราคาน่าจะแพงที่สุดในแนว GH  B&B อะไรแบบนี้ แต่ทำเลดีมาก จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:00:08

ความคิดเห็นที่ 6 ตามไปเที่ยวต่อด้วยคนครับครูตาล ฮี่ๆ ^___^ จากคุณ : chartchy เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:07:56

ความคิดเห็นที่ 7 ขอโทษที่ไม่ได้ถ่ายรูปห้องมาให้ดู เผอิญลุงคนดูแลเรียกเราไปดูอีกห้อง ว่าชอบห้องไหน กลับมาห้องมันเละแล้ว จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:15:23

ความคิดเห็นที่ 8 น้าชาติ chartchy ตามๆ เดี๋ยวจะพาไปนั่งรถม้าค่ะ สภาพแวดล้อมโดยรอบ น่าอยู่นะ จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:17:01

ความคิดเห็นที่ 9 Rate ราคาค่ะ จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:17:33

ความคิดเห็นที่ 10 นามบัตร Aung Mingalar Hotel มี Facebook ด้วยนะ http://www.facebook.com/pages/Aung-Mingalar-Hotel-Bagan-Nyaung-U/251839838228940 จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:18:52

ความคิดเห็นที่ 11 เราถามเรื่องเรือไปมัณฑะเลย์กับน้องพิวพิว คนขับรถม้า บอกว่าช่วงนี้เรือไปพุกามไม่มีเพราะมันแล้ง แม่น้ำอิระวดีบางช่วงแห้ง พอถามรีเซปชั่น รร.บอกมี แต่เอาไปเอามาก็ไม่มีเหมือนกัน สรุปอดล่องเรือลำน้ำอิระวดี พอเจอหน้าน้องพิวก็เลยบอกให้พาไปจองตั๋วรถบัสไปมัณฑะเลย์ก่อน ที่นี่ท่ารถไปมัณฑะเลย์เป็นรถ Local bus มีแต่ชาวบ้าน จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:20:03

ความคิดเห็นที่ 12 เคยอ่านรีวิวของน้องส้ม Iamchula เห็นว่ามีรถ แอร์อยู่นะ ราคาตั๋ว 8000 k แต่ที่เราจอง 5,000 k เอง รถออก 7.30 น. ไปถึงมัณฑะเลย์บ่าย 2 เวลาดีเยี่ยม หน้าตารถบัสของเรา เป็นรถเมล์เก่าของญี่ปุ่น จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:21:06

ความคิดเห็นที่ 13 จากนั้นเราก็ออกเที่ยวเมืองพุกามกัน เมืองพุกามในความคิดของเรา สวย น่าอยู่ มีเสน่ห์ เมืองเล็กๆ ถนนสายเล็ก มีรถม้า จักรยาน รถยนต์มีน้อย ผู้คนดูก้าวย่าง อย่างช้าๆ ความวุ่นวายช่างดูไม่มีในเมืองแห่งนี้ จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:21:57

ความคิดเห็นที่ 14 ที่แรกที่เราไปคือเจดีย์ ชเวสิกอง สร้างเมื่อรัชสมัยพระเจ้าอโนรธา พ.ศ. 1619 มีประวัติใน wiki แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 55 15:23:39 จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:22:48

ความคิดเห็นที่ 15 พระมหาธาตุเจดีย์ชเวสิกอง   ชื่อ "ชเวสิกอง" มีหมายความว่า "เจดีย์ทองแห่งชัยชนะ" (ชเว = ทอง) สร้างโดย พระเจ้าอโนรธามังช่อ แต่แล้วเสร็จในรัชกาลพระเจ้าจานสิตาแห่งอาณาจักรพุกาม ราว 960 ปีก่อน ภายในเจดีย์เชื่อว่าบรรจุพระเขี้ยวแก้วและพระสารีริกธาตุ โดยอัญเชิญมาจากลังกา บนหลังช้างเผือก พระเจ้าอโนรธามังช่อได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้าช้างเผือกคุกเข่าลงที่ใด จะสร้างเจดีย์ไว้ที่นั่น จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:25:30

ความคิดเห็นที่ 16 เจดีย์ชเวสิกองถูกบูรณะในสมัยต่อมาอีกหลายครั้ง เจดีย์ชเวสิกองเป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำพื้นผิวภายนอกถูกปิดด้วยทองคำเปลว ปัจจุบันมีความสูงราว 53 เมตร หรือ 160 ฟุต มีลวดลายปูนปั้นอยู่ 3 แถว และมีเจดีย์เล็ก ๆ เป็นบริวารอยู่รายรอบ จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:26:24

ความคิดเห็นที่ 17 ความอัศจรรย์ ๙ ประการของพระมหาธาตุชเวสิกอง 1.ยอดพระเจดีย์ไม่มีการใช้เหล็กเสริม 2.กระดาษห่อแผ่นทองคำเปลวที่นำไปปิดส่วนยอดพระเจดีย์ จะไม่ปลิวพ้นฐานสี่เหลี่ยมของพระเจดีย์ 3.เงาพระเจดีย์จะไม่ล้ำออกนอกฐานสี่เหลี่ยมของพระเจดีย์ (ถ้าเงาล้ำออกไป ถือว่าเป็นลางร้าย) 4.ภายในเขตองค์พระเจดีย์ สามารถรองรับผู้แสวงบุญได้ไม่จำกัดจำนวน (ไม่เคยเต็ม) 5.มีการให้ทานด้วยข้าวสุกร้อน ๆ ทุกเช้า (ไม่ว่าเราจะตื่นเช้าสักเพียงใด จะพบข้าวสุกในบาตรอยู่ก่อนหน้าเราเสมอ) 6.เมื่อตีกลองใบใหญ่จากด้านหนึ่งของพระเจดีย์ จะไม่สามารถได้ยินเสียงกลองจากด้านตรงข้าม 7.แม้พระเจดีย์จะตั้งอยู่บนพื่นราบ แต่เมื่อมองจากภายนอก จะเกิดภาพลวงตาคล้ายพระเจดีย์ตั้งอยู่บนที่สูง 8.ไม่ว่าฝนจะตกหนักเพียงใด จะไม่มีน้ำฝนขังอยู่ในอาณาเขตขององค์พระเจดีย์ 9.มีต้นพิกุล ซึ่งจะออกดอกตลอดทั้งปี (ปรกติจะออกปีละครั้ง) จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:28:41

ความคิดเห็นที่ 18 รายละเอียดเจดีย์ แต่ละองค์ที่พุกาม http://www.ancientbagan.com/shwezigon-pagoda.htm จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:29:21

ความคิดเห็นที่ 19 บางข้อมูลบอกว่าเจดีย์นี้เก่าแก่ที่สุด แต่บางข้อมูลบอกว่า เจดีย์ Bupaya เก่าที่สุด แต่ดูจากเวปข้างบนแล้ว ที่ Bupaya น่าจะเก่าที่สุด เราไม่ใช่นักโบราณคดี ดังนั้นขอผ่านเรื่องข้อมูล ขอกราบ และ นำความงามของพระเจดีย์มาให้ชมกันก็พอ ถ้าอยากท่องพุกามอย่างสนุกแนะนำ อ่านกระทู้นี้ของน้องส้มค่ะ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9341045/E9341045.html จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:30:04

ความคิดเห็นที่ 20 แสงแดดทอยามเช้าต้องกระทบกับเจดีย์สีเหลืองทองอร่ามช่างงดงามน่าชมนัก เดินรอบเจดีย์ก็มีสิ่งสวยงามมากมายให้พินิจ พิจารณา ความงาม ความศรัทธา ของชาวพม่าที่มีต่อพระพุทธศาสนา จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:30:44

ความคิดเห็นที่ 21 สวย สงบ รู้สึกจิตใจเป็นสุขดีนะ แค่นั่งอยู่เฉย ๆ มองสิ่งรอบตัว เคลื่อนไหว ไม่ว่าจะคน นกพิราบ และพระอาทิตย์ จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:32:28

ความคิดเห็นที่ 22 ไม้แกะสลักเป็นอีกศิลปะที่เราชื่นชอบ จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:33:02

ความคิดเห็นที่ 23 ดูยังไงก็ไม่รู้สึกเบื่อ จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:33:38

ความคิดเห็นที่ 24 ....แต่ละวัดก็จะมีลวดลายที่แตกต่างกัน แต่ก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ พุทธประวัติ นัต หรือ เทวดา จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:35:10

ความคิดเห็นที่ 25 พม่าเป็นประเทศที่อยู่บนรอยเลื่อนแผ่นดินไหว วัด เจดีย์ จำนวนมากที่ประสบกับแผ่นดินไหว บางเจดีย์ พังจนต้องบูรณะใหม่ทั้งหมดก็มี ยิ่งแผ่นดินไหวใหญ่ ปี ค.ศ.1975 ทำให้โบราณวัตถุหลายที่พัง เช่น Bupaya พังลงไปในแม่น้ำอิระวดี จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:35:53

ความคิดเห็นที่ 26 มีให้เห็นทุกมุม จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:36:25

ความคิดเห็นที่ 27 หันไปเจอ ...จังหวะมีเงา สวยดี จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:37:09

ความคิดเห็นที่ 28 หลังจากชื่นชมความงามพอสมควรเวลา เราก็เดินทางต่อ พิวพิว พาเรามุ่งสู่ถนนสายหลักที่มุ่งหน้าไป Old Bagan จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:37:50

ความคิดเห็นที่ 29 ที่นี่เจดีย์เยอะมาก 2 พันกว่าองค์ เราจึงต้องเลือก highlight ที่อยากจะดู เราบอกพิวพิวว่าอยากจะดู ชเวสิกอง อนันดา มนูหะ และดูพระอาทิตย์ตกดินพร้อมวิว 360 องศาของเมืองพุกาม และนอกนั้นแล้วแต่ พิวพิว จะนำเสนอแล้วกัน ช่างเป็นกรุ๊ปทัวร์ที่แปลกจริงๆ ที่แรกที่เราแวะ ลืมชื่อแล้ว จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:38:34

ความคิดเห็นที่ 30 รูปสวยจังเลยค่ะ จากคุณ : Nainame เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:40:13

ความคิดเห็นที่ 31 ดูภาพเขียนภายในมีหนุ่มน้อยนายนึงถือกุญแจ และพาเราปีนไปข้างบนด้วย วิวสวยนะ บนนั้น จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:40:21

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณมากค่ะ คุณ Nainame  ตามมาเที่ยวกันต่อค่ะ รถม้าของนายพิวพิว จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:41:34

ความคิดเห็นที่ 33 บรรยากาศกำลังดี ชาวบ้านกำลังจะไปไหนนะ ที่นี่ส่วนใหญ่ยังใช้วัวเทียมเกวียน จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:43:07

ความคิดเห็นที่ 34 แล้วหนุ่มน้อยก็ชวนเราดูภาพเขียนทราย เฮ้อ จะไม่ซื้อก็เกรงใจ พูดจูงใจจนต้องซื้อแพงอีกต่างหาก ตั้ง 7,000 เราไปเห็นอีกที่ แค่ 3,000 เอง ฮึมๆๆ นั่นเงิน pocket money ฉันนะ ได้คนละ 10,000 k เองนะ แถมเมื่อมาถึงบ้านคลี่ออก สีมันติดกันเลยเป็นรอยตำหนิเลย เซ็งกว่าเก่า จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:44:01

ความคิดเห็นที่ 35 จากนั้นร่ำลาพ่อหนุ่มรูปงามที่ได้ Lucky money ของฉันไปแล้ว ต่อไปเราไปที่  Htilominlo Temple สร้างขึ้นในปี พ.ศ.1761 ในรัชสมัยของ “พระเจ้านรปตีซีตู” รัชกาลที่ 6 แห่งราชวงศ์พุกาม พระองค์ได้ทรงสร้างเจดีย์จุฬามณี เป็นอารามหลวงประจำรัชกาล ครั้งถึงวาระแต่งตั้งองค์รัชทายาท โปรดฯให้ใช้ฉัตรเสี่ยงทาย ถ้าพระราชโอรสองค์ใดใน 5 พระองค์มีบุญบารมีจะเป็นกษัตริย์ ก็ขอให้ฉัตรโน้มไปทางพระองค์นั้น ปรากฏว่าฉัตรโน้มไปทางเจ้าชายชัยสิงห์ ซึ่งต่อมาได้เป็นกษัตริย์ พระนาม “นาตองมยา” หรือ “พระเจ้าติโลมินโล” ซึ่งแปลว่า“กษัตริย์ฉัตรตั้ง” เป็นรัชกาลที่ 7 แห่งราชวงศ์พุกาม http://www.ancientbagan.com/htilominlo-temple.htm http://www.oknation.net/blog/print.php?id=622518 จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:45:30

ความคิดเห็นที่ 36 แต่ตอนนี้ เกือบ 8 โมงแล้ว หิวข้าวจัง แวะกินร้านอาหารเพิงเล็กๆหน้าวัด เป็นหมี่คลุก สั่งมาจานเดียว กินกันตั้ง 3 คน รองท้อง เผื่อไม่อร่อย เราขอสั่งกาแฟร้อนแก้วนึง เบอร์ดี้ นมซะ หารสคาเฟอีนไม่เจอ น้องผู้ชายอายุประมาณ 10 ขวบ มาดูแล รับออเดอร์ พูดภาษาอังกฤษใช้ได้เลย ขอไว้อาลัยการศึกษาบ้านเรา จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:46:26

ความคิดเห็นที่ 37 วิหาร ติโล มินโล เป็นวัดใหญ่มีพระพุทธรูปภายในเยอะแยะ มีพระพุทธรูปใหญ่ 4 องค์ และพุทธรูปเล็กๆ รายล้อม จากนั้นก็มาเดินดูรอบๆๆ เจดีย์ที่เขาขายของที่ระลึกกัน จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:47:14

ความคิดเห็นที่ 38 แอบหลอน เห็นหุ่นแบบนี้ทีไร จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:48:06

ความคิดเห็นที่ 39 ร้านขายของที่ระลึกก็มี จำพวกพระพุทธรูป หุ่นชัก ภาพเขียน แต่ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเรา (ไม่มีตังค์ซื้อ ) พิวพิวถามเราว่าอยากไปอิระวดีมั๊ย เราก็โอเค แต่พอไปถึงมีคนล่องเรือมาเสนอพวกเราว่าจะพาไปล่องเรือคิดคนละ 5,000 k ใช้เวลา 2 ชั่วโมงประมาณนี้ เราเลยบอกตามตรงว่าไม่สะดวก เราไม่มีตังค์และไม่มีเวลา แล้วชายคนนั้นก็ลาจากไปพร้อมความผิดหวัง จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:49:48

ความคิดเห็นที่ 40 ที่เจดีย์  BUPAYA  รูปน้ำเต้านี้ พิวพิวบอกว่าเป็นเจดีย์ที่เก่าที่สุด เราเลยไปค้นๆ ข้อมูลมา ดังนี้ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 ของอาณาจักรพุกาม พระเจ้าพิวซอว์ธี  (King Pyusawhti ) ใน พ.ศ. 705 http://www.ancientbagan.com/bupaya-pagoda.htm จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:53:27

ความคิดเห็นที่ 41 เคยถูกแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ พังเสียหายทั้งหมด ในปี ค.ศ.1975 และได้รับการบูรณะใหม่ ทรงแปลกตาดี สมกับตั้งชื่อว่า เจดีย์ น้ำเต้า ตั้งอยู่ริมแม่น้ำอิระวดี เป็นสถานที่อีกแห่งที่เหมาะกับการชมพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 55 15:54:50 จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 15:54:20

ความคิดเห็นที่ 42 หลังนั้นเดินดูสินค้าที่วางขายอยู่รายรอบ ช่วงนี้เป็นฤดูแล้ง การท่องเที่ยวไม่คึกคัก สักเท่าไหร่ ร้านค้าปิดไปหลายร้าน ร้านที่เปิดอยู่มีโสร่ง ผ้าถุงขายด้วย ก็เลยแวะเข้าไปดู มี 2 แบบ แบบลายผ้าทอ ผืนละ 4,000 k และ แบบผ้าสีพื้นและใช้สีเพ้นท์ ผืนละ 6,000 k เลือกอยู่นาน ตอนแรกว่าจะเอาลายทอ แบบสวยดี ไม่ค่อยเจอ แต่แบบเพ้นท์ก็สวย ออกแนวผ้าถุงประยุกต์  น่าจะเอาไปเย็บทำผ้าถุงสำเร็จสวยก็เลยซื้อแบบเพ้นท์ แต่อยากใส่ตอนอยู่พม่าด้วย จะได้เป็นน้องเจน น้องเขาเลยบอกรอแป๊บนึงได้มั๊ย แล้วก็หันไปคุยกับคุณแม่ สักพักแม่ก็ขี่มอไซค์ออกไป สงสัยเอาไปเย็บให้เรา จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:02:42

ความคิดเห็นที่ 43 ระหว่างรอ เราก็คุยกับน้องคนขายว่าเคยทาแป้งทานาคาแบบทำเป็นลายสวย เช่นดอกไม้ ใบไม้ บ้างไหม ทำยังไง เพราะเห็นน้องเค้าก็ทาทานาคา น้องเขาเลยถามว่าสนใจจะทาทานาคามั๊ย เดี๋ยวทาให้ แล้วยังย้ำอีกว่า ฟรีนะ         พวก เราก็สนใจ รีบตอบตกลง คนขายกุ้ง มาเป็นพม่ามุง จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:03:40

ความคิดเห็นที่ 44 น้าของน้องคนขายก็รีบไปใช้ไม้ทานาคาฝนกับหินแล้วมาทาให้พวกเรา ตอนแรกนึกว่าป้ายแต่แก้มที่ไหนได้เขาต้องลงแบบรองพื้นก่อน คือทาเกลี่ยให้ทั่วใบหน้า จากนั้นค่อยทำ ลายสวยๆตรงแก้ม แต่พอบอกน้องว่าทำแบบลายใบไม้ได้มั๊ย น้องตอบว่าไม่ดี ๆๆ สงสัยน้องคิดว่า ลายแบบนั้นแสนจะเห่ยค่ะ คุณพี่ ทาทานาคาครบ 3 คนจากนี้ก็แปลงร่างเป็นสาวพม่าได้แล้วยกเว้นยังไม่มีผ้าถุงใส่ แล้วสักพักแม่ของน้องก็ขับมอไซค์กลับมาพร้อมผ้าถุงที่เย็บพร้อมใช้แล้ว เราขอบคุณในความมีน้ำใจอย่างมาก ของคนขายทั้ง 3 คน น่ารักที่สุด   จะบอกว่าตอนที่ทาทานาคากัน แม่ค้าขายกุ้งมามุงดูเยอะเลย พร้อมกับอมยิ้ม สงสัยขำโยเดีย 3 นางนี้ แล้วเราก็กล่าวอำลา จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:04:45

ความคิดเห็นที่ 45 จากนั้นพิวพิวก็พาเราไปเขต New Bagan ช่วงที่อยู่ในเขต old bagan เห็น เขากำลังขุดค้น บริเวณ พระราชวังพระเจ้าอนิรุธด้วยนะ  ถ่ายรูปไม่ทันเลยไปค้นๆ มาให้ดู http://culturemyanmar.org/pages/doa_royal_palace.html http://www.globaltravelmate.com/asia/myanmar/bagan/bagan-sights/1909-bagan-old-palace.html จากนั้นเราไปที่เจดีย์ Gawdawpalin Temple จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:07:44

ความคิดเห็นที่ 46 เป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นในในรัชสมัยของ “พระเจ้านรปตีซีตู”  (King Narapatisithu)รัชกาลที่ 6 แห่งราชวงศ์พุกาม หลังจากพระองค์ได้ทรงสร้างเจดีย์จุฬามณี จึงสร้างวิหารนี้ต่อ แต่แล้วเสร็จในสมัยพระราชโอรส พระเจ้าติโลมินโล ตอนแรกไม่รู้จักหรอก พิวพิว พาไปก็ไป แต่ที่ประทับใจที่นี่ไม่ยักกะเป็นเจดีย์ แต่เป็นสาวน้อยขายโปสการ์ด ตอนเข้าไปน้องก็วิ่งมาหาครั้งนึงแล้ว เราก็ไม่สนใจน้องยังบอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวรอ พอออกมาเราก็เจอน้องอีกยิ้มหวานมาแต่ไกล พร้อมกับนำเสนอขายโปสการ์ด เราก็บอกว่าเราหมดตังค์แล้ว ไม่มีเงิน K แล้วน้องก็บอกว่าไม่เป็นไร หนูรับเงินไทย นอกจากหนูน้อยคนนี้ ยังมีอีกสองสาวตาคมมานำเสนอ แถมหาเก้าอี้ให้พวกเรานั่งอีกนะ สุดท้ายเราก็ไม่ได้ซื้อแต่ให้โฮมมี่ปลอบใจสาวๆ ห่อนึง ดีใจกันยกใหญ่เลย พูดภาษาอังกฤษไพเราะมาก จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:09:39

ความคิดเห็นที่ 47 สายแล้วประมาณ 10 โมงกว่าได้ แต่แดดกลับร้อนมาก เรานั่งรถม้าไปกันต่อที่วัดมนูหะ จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:10:37

ความคิดเห็นที่ 48 เข้าไปภายในวัด กราบพระนั่งใหญ่คับโบสถ์ ตอนที่สร้างคงสร้างพระพุทธรูปก่อนหรือเปล่า แล้วค่อยสร้างวัดทับ เพราะแคบเหลือเกิน แสดงให้เห็นว่าอึดอัดใจ อึดอัดกายนะ จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:11:40

ความคิดเห็นที่ 49 ภายในวัดก็มีรูปปั้นพระเจ้ามนูหะและพระมเหสี ของพระองค์ ซึ่งเป็นกษัตริย์ถูกจับมาเป็นเชลย ช่วงที่พระอนิรุธไปตีมอญเพื่อเอาพระไตรปิฎก เพราะตอนแรกส่งทูตไปขอ มอญไม่ให้ วัดสร้างใน พ.ศ.1602 นอกจากพระนั่งแล้ว ก็ยังมีพระนอน เต็มอาคารเช่นกัน มีช่องให้เดินได้ทีละคน ช่วงที่เราอยู่ในวัด มีครอบครัวชาวพม่ามาคุยกับเรา แนะนำเราอะไรหลายอย่าง แล้วคำสุดท้ายที่ได้ยินว่ามีโอกาสได้พบกันเหมือนเคยเป็นพี่น้องกันมา แถมขอถ่ายรูปกับพวกเราด้วยนะ จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:12:35

ความคิดเห็นที่ 50 มีอะไรหลายๆอย่างให้รู้สึกดีๆตลอดเลยนะ จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:13:17

ความคิดเห็นที่ 51 เดินชมวัดท่ามกลางความคับแคบภายใน ภายนอกพื้นกระเบื้องก็ทำให้เราเกือบเท้าพองเช่นกัน เดินออกมาเดินดูสินค้าวางขายบริเวณด้านหน้าวัด มีขนมที่แอบทานที่โรงแรมด้วย เป็นคล้ายลูกอมแต่ทำเป็นชิ้นแบนๆ ทำมาจากมะขาม อร่อยดี จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:14:01

ความคิดเห็นที่ 52 และข้างๆก็เป็นซุ้มขายของเครื่องเขิน สวยนะ คนทีชอบซื้อของแบบนี้คงเดินช๊อปเพลิน กล่องเล็กใส่ของก็น่ารัก ตอนแรกบอกราคา ชิ้นละ 200 บาท แต่พอเราไม่สนใจบอกลดราคาไล่หลังมาแค่ชิ้นละ 100 ก็ได้ แต่น้องเขาน่ารักนะ บอกว่าตอนนี้ช่วงปิดเทอมมาขายของ ตอนนี้เรียนม.ปลายแล้ว อยากเข้ามหาวิทยาลัย เราเลยถามอยากเรียนอะไร น้องบอกว่าอยากเป็นไกด์ เวลาเห็นเด็กที่รู้จักหารายได้ช่วงเรียนรู้สึกทึ่งนะ เพราะตอนเราตัวเท่านี้ชีวิตไม่เป็นโล้เป็นพายอะไร เล่นสนุกไปวันๆ ไม่งั้นก็ดูทีวี อ่านหนังสือ พ่อแม่เลี้ยงดีเกินไป จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:15:12

ความคิดเห็นที่ 53 ออกเดินทางกันต่อ พิวพิว พาเราไปอีกแห่งใกล้ๆ กัน ชื่อวัด Gubyaukgyi http://www.ancientbagan.com/gubyauknge-temple-myinkaba.htm ภายในห้ามถ่ายรูป และ มีเจ้าหน้าที่พาชมรูปเขียนภายใน ภาพเขียนสวยและสมบูรณ์มาก ดีแล้วที่เขาห้ามถ่ายรูปเพราะข้างในมืดมาก ถ้าต้องเจอแฟลชทุกๆวัน สีของรูปคงจืดจางไปในที่สุด จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:16:28

ความคิดเห็นที่ 54 ....มี 2 วัด แต่แดดสายๆ นี่ช่างถ่ายรูปลำบากเสียจริง แถมร้อนเท้ามาก จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:17:31

ความคิดเห็นที่ 55 หิวมากแล้วสงสัยหมี่คลุกคงหมดแล้ว อาการท้องเสียหายแล้ว แต่ยังปวดท้องเป็นพัก ๆ ยังกิน Norflox ต่อไป พิวพิวพาเราไปทานร้านบุฟเฟ่ห์ เพราะพวกเรา Request แล้วว่า อยากทานอาหารพม่า จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:18:11

ความคิดเห็นที่ 56 ร้านนี้พี่ B บอกว่าครั้งที่แล้วก็มากินร้านนี้ คนละ 3,000 k เติมได้ตลอด และ คนขับรถม้า ร้านก็จะมีให้ทานด้วย มีอาหารหลักอยู่ 4 อย่าง มีแกงกะหรี่ไก่ แกงแพะ พะโล้หมู ปลา หมู และไก่ทอด นอกนั้นจะเป็นเครื่องเคียง อร่อยนะ แต่บางอย่างออกจะเค็มไปนิด น้ำพริกเจ้านี้อร่อย กินกับผักและมะม่วง แซ่บ แต่สิ่งที่อร่อยที่สุดกลับเป็นน้ำเย็นๆ หมดไป 3 ขวด ขวดละ 400 k ทานข้าวเสร็จมีขนมแปลกๆ มาให้ทานด้วย เหมือนน้ำอ้อย แต่แอบเปรี้ยวนิดนึง มื้อนี้หมดไปตั้ง 10,200 k เราตั้งไว้ว่าจะกินข้าวเฉลี่ยมื้อละ 5,000 k เองนะ แต่มื้อนี้คูณ 2 เฉลิมฉลอง อาหารพม่ามื้อแรกแล้วกันนะ จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:19:37

ความคิดเห็นที่ 57 หลังจากอิ่มหนำและสำราญกับอาหารพม่าแล้ว เราถามพิวพิวว่าจะไปไหนต่อ พิวพิว ตอบว่า กลับ โรงแรมและนอนกลางวัน เราพูดซะจะพร้อมกันเลยว่า ไอเดียนี้เริ่ดมาก เพราะอากาศช่วงเที่ยงทีพุกามฤดูร้อนนี้ช่างทรมาน ไปนอนกลางวันที่ห้องท่าจะดีกว่า เย็นๆ ค่อยออกมาใหม่ นายพิวพิวเป็นหนุ่มอารมณ์ดีเหลือเกิน ร้องเพลง ฮัมเพลงให้ฟังตลอด กลับถึงที่พัก หลับปางตาย แอร์ใช้ได้ เพราะใช้แอร์ตั้งพื้นขนาดเล็กด้วยละ กินไฟน้อยจึงใช้เครื่องปั่นไฟได้สบาย เป็นการหลับที่มีความสุขที่สุด หลับลึก ไม่มีฝัน หลังจากร่างกายเหนื่อยและอ่อนล้ามานาน จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:20:34

ความคิดเห็นที่ 58 ตื่นขึ้นมาพร้อมความสดชื่น แต่ร่างกายคนเรานี่มหัศจรรย์จริงๆนะ เราตั้งนาฬิกาปลุกทีไรตื่นก่อนนาฬิกาครึ่งชั่วโมงทุกที นาฬิกาชีวิต ไม่ต้องตั้งใหม่เหมือนเวลาสมมติของโลกกระมัง พวกเราตกลงกันว่าจะเดินไปดูเจดีย์ชเวสิกองอีกรอบ ช่วงเวลาเย็นอาจจะได้อีกบรรยากาศนึงนะ เรานัดพิวพิวตั้งแต่แรกแล้วว่ามารับเราที่เจดีย์ชเวสิกองตอน 4 โมงครึ่ง เราเดินจาก โรงแรมไปเจดีย์ชเวสิกองแค่ 5 นาทีเอง บรรยากาศที่วัดยามเย็นก็อีกแบบนะ แต่การมาครั้งนี้ เจ็บจนจำ เลยละ จึงต้องเอามาแชร์ จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:21:12

ความคิดเห็นที่ 59 มีเจ้ 3 คนมาคุยกับพวกเราตอนเราพากันไปดูหลุมสมดุลเจดีย์ ชวนพวกเราไหว้พระปิดทอง  3 จุด คือองค์เจดีย์  และที่ร่างกายของนัตหรือเทวดานี่แหละ อีก 2 จุด จุดที่เรามักจะเจ็บป่วย เราเลยปิดที่ท้อง และ ศีรษะ เพราะชอบปวดไมเกรน กับ กระเพาะขึ้นบ่อยๆ แต่ขอบอกปิดเสร็จ เสียค่าแผ่นทอง กับ ดอกไม้คนละ 5,000 k อ๊าก ไหว้พระคนละ 200 บาท จะเป็นลม ค่าไหว้พระ 3 คนเท่ากับค่ารถม้าทั้งวันเลยนะ ตอนเย็นๆ พวกเรามาวัดกันอีก เห็น เจ้เหล่านี้อยู่ร้านขายของนู้น เซ็งจิตอีกแล้ว โฉมหน้าของเหล่าเจ้ เห้อ จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:22:21

ความคิดเห็นที่ 60 แต่ประหลาดนะ หลังจากปิดทองมาแล้ว ไมเกรนยังไม่มาถามหาสักที ปลอบใจตัวเองเบาๆ โปรดสอบถาม ราคา และ ค่าบริการก่อนทุกครั้ง ที่มีคนมาเสนอบริการอะไรให้กับคุณ จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:23:36

ความคิดเห็นที่ 61 ยอดฉัตร อันเดิมที่พังลงตอนแผ่นดินไหว จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:24:15

ความคิดเห็นที่ 62 ต้นพิกุลที่ออกดอกตลอดปี อยู่เลยศาลาฉัตรดิมไปนิดนึง จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:25:10

ความคิดเห็นที่ 63 ศาลานัต แต่ส่วนมากรูปแกะสลักเป็น นิทานชาดกนะ จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:26:56

ความคิดเห็นที่ 64 ใกล้ๆ จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:27:23

ความคิดเห็นที่ 65 ฟ้าสวย ขออีกสักรูป จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:27:56

ความคิดเห็นที่ 66 คุณยาย เดินผ่านบอกให้ถ่ายรูป ถ่ายเสร็จ คุณยายบอก Money Money บอกไปแบบหน้ามึน  หนูไม่มีตังค์ เลยจ้า จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:29:14

ความคิดเห็นที่ 67 ชเวสืกอง ยามเย็น แดดร่มลมตก แต่พื้นวัดก็ยังต้องเดิน แบบผู้ดีเท้าแดง ต้องตะแคงเท้าเดิน จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:30:42

ความคิดเห็นที่ 68 4 โมงครึ่ง พิวพิวมายิ้มแปล้รอเราแล้วที่หน้าวัด พร้อมเพื่อนอีก 1 คน เป็นชายผิวคล้ำร่างเล็ก ใส่เสื้อสีสดใสทั้งสองหนุ่ม ถ้าจะเช่าจักรยานปั่น แนะนำออกปั่นแค่ช่วงเช้า กับ เย็นนะ แดดร้อนเกินไป และ อากาศแห้งมาก กลัวจะเป็น Heat stroke ไปเสียก่อน แม้แต่บางคนเช่ารถม้า แล้วไม่อยากพักช่วงบ่ายแดดจัดๆ ไม่เห็นด้วยเลยนะ หนื่อยทั้งคน ทั้งม้า จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:33:27

ความคิดเห็นที่ 69 จากนี้พิวพิวจะพาเราไปอนันดาเจดีย์ ที่สุดแห่งที่สุดของพุกาม งดงาม มีเรื่องเล่าว่า พระเจ้ากยันสิตถา สั่งให้ประหารช่างที่สร้าง อนันดาเจดีย์ หลังจากสร้างเสร็จ เพราะกลัวจะมีเจดีย์ที่งามเสมือนที่นี่ขึ้นมาอีก ตกลงท่านจะได้บุญ หรือ บาปนะ แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 55 19:36:37 จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:35:29

ความคิดเห็นที่ 70 ที่อนันดาเจดีย์นอกจากสถาปัตยกรรมภายนอกแล้ว ภายในก็น่าชมเช่นเดียวกัน พระพุทธรูปยืนทั้ง 4 องค์ สวยงามและอ่อนช้อยมาก การออกแบบให้แสงตกมาที่พระพุทธรูป ยิ่งดูเหมือนท่านลอยเด่น แต่ก่อนพระพุทธชินราช เราก็ออกแบบให้แสงตกมาที่พระพุทธรูปแบบนี้ มองเข้าไปจะเหมือนท่านลอยเด่นอยู่ในโบสต์ แต่พอบูรณะ ช่างสมัยใหม่คิดอย่างไรไม่รู้ เราพลาด ลืมถือขาตั้งกล้องเข้ามาด้วย อยู่ในรถม้าโน้น ท่าแปลกๆเพื่อจะได้มาซึ่งรูปไหวน้อยที่สุดจึงเกิดขึ้น ทิศตะวันตก พระโคตมพระพุทธเจ้า แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 55 19:37:48 จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:36:15

ความคิดเห็นที่ 71 องค์ที่ 1 ทิศตะวันตก พระโคตมพระพุทธเจ้า แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 55 19:38:21 จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:37:28

ความคิดเห็นที่ 72 องค์ที่ 2 ทิศใต้ พระกัสสปพุทธเจ้า ภาคดูใกล้ๆ หน้าท่านบึ้ง แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 55 19:39:24 จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:38:19

ความคิดเห็นที่ 73 องค์ที่ 2 ถอยออกมาอีกนิด ใบหน้าท่านเปลี่ยน เป็นยิ้ม จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:39:24

ความคิดเห็นที่ 74 องค์ที่ 3 ทิศตะวันออก  พระโกนาคมนพุทธเจ้า แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 55 19:40:20 จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:40:46

ความคิดเห็นที่ 75 องค์ที่ 3 อีกมุม จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:41:18

ความคิดเห็นที่ 76 องค์ที่ 4 ทิศเหนือ พระกกุสันธพุทธเจ้า แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 55 19:41:58 จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:41:46

ความคิดเห็นที่ 77 ทำไมวัดที่พม่า พระพุทธรูปต้องมี 4 องค์ น่าจะมาจาก .....ในมหากัปปัจจุบันที่เราอยู่นี้มีชื่อว่า ภัทรกัป ซึ่งถือว่าเป็นมหากัปที่เจริญที่สุด เพราะมีพระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นมากที่สุดถึง ๕ พระองค์ พระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์ ได้แก่ ๑. พระกกุสันธพุทธเจ้า ๒.พระโกนาคมนพุทธเจ้า ๓.พระกัสสปพุทธเจ้า ๔.พระสมณโคดมพุทธเจ้า ๕.พระศรีอาริยเมตไตรยพุทธเจ้า ปัจจุบันนี้เรากำลังอยู่ในยุคของพระสมณโคดมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นพระองค์ที่ ๔ ในภัทรกัปนี้ ในยุคหน้าจะเป็นสมัยของพระศรีอาริยเมตไตรยพุทธเจ้า ....kalyanamitra.org... จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:55:58

ความคิดเห็นที่ 78 พี่ B บอกว่าครั้งก่อนที่มาช่วงเช้า แสงที่พระพุทธรูปก็สวยอีกแบบ เดินชมความงดงามของพระพุทธรูปจนอิ่มใจ ก็ออกมาดูภายนอกกัน ช่วงนี้ซ่อมแซม เลยได้ไม้ไผ่แถมมาด้วยนิดหน่อย จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:57:05

ความคิดเห็นที่ 79 ...อนันดาวิหาร.. จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:57:37

ความคิดเห็นที่ 80 ร้านน้ำอ้อยหน้าวัด พี่ A แกไปลอง บอกว่าอร่อยดี จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:58:37

ความคิดเห็นที่ 81 เย็นมากแล้ว เลยรีบไปดูพระอาทิตย์ตกกัน พิวพิวถามว่าเราอยากดูที่ไหน เรา บอกให้ไปเจดีย์ Shwesandaw Pagoda http://www.ancientbagan.com/shwesandaw-pagoda.htm คนเยอะนะ พิวพิว เตือน เราเลยบอกไม่เป็นไรมารอบหน้าค่อยจะไปดูริมแม่น้ำอิระวดี ตอนเราไปถึงมีคนรอบนเจดีย์ส่วนนึงแล้ว ปีนขึ้นไปชันพอควร ขอแนะนำว่าอย่าใส่กางเกงขาบานมาเลยนะ สงสารสายตาคนอื่นบ้าง มีนางนึงใส่สั้นยังไม่พอ ยังขาบานอีก เฮ้อ สงสารตัวเอง จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:59:33