ความคิดเห็นที่ 1 Day 2 : Kurayoshi the antique stylish City 10.45 ถึงแม้พายุจะเข้า รถไฟจะหยุดวิ่ง ก็อย่าได้ท้อ! ทุลักทุเลนั่งรถบัสพิเศษมุ่งหน้าสู่เมือง Kurayoshi 11.30 เดินเล่น Kurayoshi Park Square สถานที่จัดประชุมและที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ Nijisseiki Pear Museum ชิมลูกแพร์ลูกเท่าส้มโอ อร่อยสุดๆ ไปเลย 13.40 รอจนฝนซาก่อนนั่งรถไปยังเมือง Shirakabe Dozogun เมืองเก่าที่ยังคงอนุรักษ์บ้านโบราณและคลองโบราณเอาไว้ เก็บรูปสวยๆ ก่อนจะนั่งรถไปยังที่พักแหล่งออนเซ็นมีชื่อของจังหวัด Tottori “Misasa Onsen” 17.00 เข้าถึงที่พัก Hashizuya Hotel เรียวกังท่ามกลางธรรมชาติ อาบน้ำแช่น้ำร้อนที่มีธาตุเรเดียมอ่อนๆ อย่างสบายอารมณ์ก่อนที่จะหม่ำอาหารไคเซกิเซ็ทใหญ่ 19.00 ใส่ชุดยูกาตะเดินเล่นชมเมืองยามค่ำคืน จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 19:28:30

ความคิดเห็นที่ 2 แนะนำการเดินทางในเมือง Kurayoshi และ Misasa เมืองคุราโยชิ (Kurayoshi City) เป็นหนึ่งใน 4 เมืองหลัก ของจังหวัดทตโตริ ใช้เวลานั่งรถไฟสาย Local เป็นเวลา 1 ชม. หรือด้วยรถไฟด่วน Limited Express 25 นาทีจากเมืองทตโตริก็จะมาถึงเมืองแห่งนี้ เนื่องจากเมืองเป็นที่ตั้ง 1 ใน 3 ของสถานีรถไฟหลักจากจังหวัดทตโตริสู่จังหวัดชิมาเนะ (Shimane Prefecture) อันประกอบด้วย ทตโตริ คุราโยชิ และโยนาโกะ จึงมี information Center ที่มีข้อมูลบริการแก่นักท่องเที่ยวเป็นภาษาอังกฤษ มีร้านสะดวกซื้อและร้านขายของฝากขนาดใหญ่ และมีท่ารถบัสที่ไว้สำหรับการเดินทางสู่เมืองเล็กๆ อื่นๆ ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดทตโตริ คนส่วนมากถ้าต้องการเดินทางไปยังเมืองน้ำพุร้อนมิสะสะ (Misasa Town) หรือไปเมืองยูริฮามะ (Yurihama Town) เพื่อชมทะเลสาบ Togo ก็นิยมจะมาตั้งต้นการเดินทางด้วยรถบัสจากเมืองนี้ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 19:30:52

ความคิดเห็นที่ 3 สรุปง่ายๆ ก็คือ การเดินทางภายในเมืองนี้ และสู่เมืองรอบๆ เช่น มิสะสะ หรือ ยูริฮามะ ก็ให้ใช้การเดินทางด้วยรถบัสเป็นหลักนั้นเอง และบัตรเดินทางที่จะช่วยอำนวยความสะดวกก็คือ บัตร Tottori Unlimited Pass 3 day ดังที่กล่าวไปข้างต้นในวิธีการเดินทางระหว่างเมืองในจังหวัดทตโตริ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 19:31:56

ความคิดเห็นที่ 4 - แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 55 19:38:07 แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 55 19:36:50 จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 19:36:33

ความคิดเห็นที่ 5 .สำหรับตารางการเดินรถ สายรถประจำทาง และเวลาที่ออก Load ได้ที่นี่ค่ะ http://yokoso.pref.tottori.jp/secure/45803/kurayoshi_2011_4.pdf ใครที่อ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออกและไม่เข้าใจวิธีการอ่านตาราง เราได้พยายามอธิบายง่ายๆ ตามประสาคนที่ไม่เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นมาไว้ให้ ในกระทู้นี้ คห.ที่ 48-51 นะคะ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E12214395/E12214395.html จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 19:38:00

ความคิดเห็นที่ 6 Website การท่องเที่ยวเกี่ยวกับเมือง Kurayoshi ที่น่าสนใจ Kurayoshi city Hotel Ryokan Association : http://www.sirakabe.net/eng/index.html Misasa onsen navi: http://www.misasa-navi.jp/ Tottori Fairy Hot spring : http://www.nashinohana.com/en/ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 19:38:51

ความคิดเห็นที่ 7 Start Game at Tottori Station ปิ๊งป่อง ปะดิ๊บๆ เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น สองผู้กล้าจากแดนตะวันตกลุกขึ้นขยี้ตางัวเงียจากเตียงนอนขนาดพอดิบพอดีตัว   ตามแผนการวันนี้เราต้องออกเดินทางด้วยรถไฟ Limited Express Matsukaze สู่เมืองที่สองอันมีชื่อว่าคุราโยชิ (Kurayoshi) ตอนเวลา 8.24 นาทีพอดิบพอดีไม่มีขาดไม่มีเกิน เจ็ดโมงครึ่งขณะเติม HP ให้เต็มโดยการหม่ำข้าวเช้าแสนอร่อย ณ โรงแรม RESH Hotel เราก็เห็นว่า อากาศสดใสแต่ลมกรรโชกแรงถึงแรงมาก บางคนที่กางร่มกันฝุ่นกันลมถึงกับเกือบปลิวกันทีเดียว ไม่เป็นไรแค่ลมแรงอย่าได้กลัว ไม่มีฝนตก ฟ้าใส ไปสถานีรถไฟกันดีกว่า จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 19:40:43

ความคิดเห็นที่ 8 ตามไปด้วย ฮิ๊ว ๆ จากคุณ : นายฟ้าใส เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 19:41:01

ความคิดเห็นที่ 9 หลังจากเดินเข้าไปทำภารกิจ Mission แรกคือการซื้อตั๋วรถไฟ ก็เจอคำพูดที่ไม่อาจเข้าใจได้ของพนักงานขายตั๋ว "!@#$%^&*() ... Sorry" หือ ? หมายความว่าไงนะ ไม่มีตั๋วรถไฟสาย Limited Express เหรอ...? มองตารางกำหนดการที่ตัวเองพิมพ์มาอีกที ไม่ผิดนี่ เวลาก็ไม่ผิด เกิดอะไรขึ้น? รถเสีย? อะ ไม่เป็นไร งั้นเอา Local ก็ได้ ว่าแล้วก็ชี้เวลาที่สองที่ print มาแต่เป็นของรถ Local คำตอบยังเป็นคำตอบเดิม พร้อมกับพนักงานที่ทำท่า X-jump แต่ไม่ Jump ขึ้นมาจากที่นั่ง ไม่มีแหงๆ ชักตะหงิดใจแปลกๆ ซักพักเจ้าหน้าที่ประจำท่ารถคนหนึ่งก็เดินออกมาพร้อมกับนำป้ายกระดานมาตั้งหน้าทางตรวจตั๋วเป็นภาษาญี่ปุ่น ... เอาละหว่า มันแปลว่าอันหยังกันละนี่ ใช้สัญชาติญาณ นักเล่นเกม RPG เก่า 8.53 นี่เวลารถออกแน่นอน ตัวแดงๆ สงสัยแปลว่าหยุดเปล่าเนี่ยะ? แล้วไอ้ตัวแปลกๆ ที่เหลือแปลว่าอะไรละนี่? จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 19:42:00

ความคิดเห็นที่ 10 ว้าว คุณฟ้าใส มาทัน (ตก) รถไฟขบวนแรกพอดีเลยค่ะ ---------------------------------------------------------------- เมื่อไม่สามารถแก้ quest ได้ สิ่งต่อไปที่ผู้กล้าควรทำคือ เริ่มคุยกับคนในหมู่บ้านให้หมดดูก่อน และแล้วก็ไม่รอช้า เราเดินตรงไปที่ Information Center ประจำสถานีรถไฟทันที และก็ประจักษ์ว่า นี่มันเพิ่ง 8 โมงครึ่ง Information Center มันเปิด 9โมง ครึ่ง! ซวยละ! หันไปมองรอบๆ เด็กนักเรียนในชุดยูนิฟอร์มสีดำหลายคนเริ่มยืนจับกลุ่มรอบๆ ประตูตรวจตั๋วแต่ไม่เข้าไป บางคนโทรศัพท์คุยกับใครบางคน ... อันนี้มันต้องไม่ใช่การนัดกันรอเพื่อไปทัศนศึกษาแน่ๆ สงสัยเด็กพวกนี้อาจจะตกรถไฟ ไม่ก็ต้องรอรถไฟเหมือนกับเรา ไม่เป็นไร เมื่อไม่สามารถแก้ไขภารกิจหลักโดยการขึ้นรถไฟได้ เรามองหาตัวเลือกสองทันที รถบัสไงล่ะ! เดินลากกระเป๋าไปยังท่ารถบัสฝ่าลมที่แรงขึ้นเรื่อยๆ และฟ้าที่ค่อยๆ มืดอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย กวาดตามองตารางออกรถที่ไม่มีภาษาอังกฤษแม้แต่ตัวเดียว ไม่ยักกะมีชื่อเมืองคุราโยชิเลยแฮะ ทำไงดีละ? เอาไงเอากัน ถามจากคนขายตั๋วแล้วกัน “คุราโยชิ โก บัส” เป็นภาษาญี่ปุ่นที่ฟังดูวิบัติที่สุดที่เคยใช้สื่อสารแต่ก็ทำไงได้อ่ะ เค๊าพูดไม่เป็นนี่หน่า เจ้าหน้าที่เงยหน้าขึ้นมาและทำท่าพิมพ์เดียวกับพนักงานขายตั๋วรถไฟ ใช่แล้ว X อีกแล้วครับท่าน! จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 19:44:04

ความคิดเห็นที่ 11 ลากกระเป๋าเดินกลับมายังสถานีรถไฟใหม่ เดี๋ยวๆ มันต้องเกิดอะไรขึ้นแน่ๆ ว่าแล้วก็ตั้งสติค่อยๆ มองตัวอักษรที่วิ่งอยู่บนลู่วิ่งสีแดงเหนือป้ายรถไฟ “.....ลม.....รถไฟ......หยุด.....Yonago ..Matsue” จบกัน!! แปลว่ามันหยุดแน่ๆ แต่เอ...เท่าที่ประเมินเมื่อกี๊ลมมันก็แรง แต่ก็ไม่ได้แรงจนป้ายปลิวอะไรขนาดต้องหยุดรถไฟนี่หน่า? เอาไงดีละ โรงแรมที่จองไว้ที่เมืองมิสะสะในคืนนี้เป็นเรียวกังอย่างดีพร้อมอาหารเช้าและเย็น ถ้าไปไม่ได้ชั้นต้องลงไปชักดิ้นชักงอตายแน่ๆ นี่มัน Rare Event นะเฟร๊ยยยยย! ระหว่างยืนหันรีหันขวางก็เป็นเวลาเก้าโมงเช้า เจ้าหน้าที่สองคนลุงป้าเดินมาเปิด Information อย่างสบายๆ เราปรี่เข้าไปเป็นคนแรก พร้อมกับชี้ที่แผนที่แล้วพูดเป็นภาษาอังกฤษ ถามว่าเกิดอะไรขึ้นพอจะช่วยแปลให้เราสองคนได้ไหม ทำไมรถไฟถึงหยุดวิ่ง คุณป้าผงะไปเล็กน้อยหลังจากเจอหมัดฮุกภาษาอังกฤษที่พ่นไปเป็นชุดด้วยความเร็วสูง “ช๊อตโตะ ช๊อตโตะ” คุณป้าทำท่าปางห้ามญาติแล้ววิ่งออกไปดูป้ายที่เขียนไว้หน้าสถานีรถไฟ แล้วก็กลับมาพยักหน้าหงึกๆ ว่า “แม่นแล้วอีหนูเอ๊ย รถไฟมันหยุดวิ่งนั่นแหละ” “แล้วมันจะวิ่งอีกเมื่อไหร่ค่ะ?” เราถามเป็นภาษาอังกฤษ “ I don’t know” เธอให้คำตอบอย่างจริงใจและจนปัญญา (เรื่องใหญ่เหมือนกันนะเนี่ยะถึงขนาดมาทำข่าวกันเลยทีเดียว) จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 19:45:48

ความคิดเห็นที่ 12 นั่นซิ ใครจะรู้ละว่ามันจะวิ่งเมื่อไหร่ ระหว่างที่สองจิตสองใจไม่รู้จะทำไงต่อ คุณสามีที่ดูจะชิลมากถึงมากที่สุดก็เงยหน้าจากภารกิจเก็บตังค์ปลูกผักใน Ipad แล้วพูดว่า “เห็นเด็กๆ ที่ยืนอยู่ไหม เขาก็ตกรถเหมือนเรานั่นแหละ เดี๋ยวรอดูว่าเขาจะทำไงก็ทำตามแล้วกัน ถ้าเขายังยืนรอก็แปลว่ามันมีโอกาสวิ่ง” “แล้วถ้าเขากลับบ้าน?” เราถาม “.... ก็จบเห่” คุณสามีตอบหน้านิ่งๆ ก่อนก้มไปกด Ipad ต่อ หลังจากเวลาล่วงเลยไปได้ครึ่งชม. กว่า พนักงานรถไฟคนหนึ่งก็ตะโกนอะไรบางอย่างท่ามกลางฝูงเด็กนักเรียน ทุกคนเงยหน้าจากสิ่งที่ทำอย่างพร้อมเพรียงแล้วเดินตามไปเป็นแถว “เฮ๊ยๆๆๆ  เขาไปไหน” เรากระตุกสามีอย่างแรง “เออ นั่นแหละ ได้เวลาแล้ว” คุณสามีลุกขึ้นลากกระเป๋าเดินไปทางเดียวกัน จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 19:47:01

ความคิดเห็นที่ 13 “เฮ๊ย เดี๋ยวก่อนแล้วเขาไปที่เดียวกับเราเหรอ?” เรางงอย่างแรง แล้วก็ตัดสินใจทำตามกฎข้อสองของนักเล่น RPG (เฮ๊ย แล้วกฎแรกมันว่าว่าอะไร?) เมื่อใดก็ตามที่คุยกับตัวละครตัวเดิม หากมี event เปลี่ยนแปลง กรุณาลองคุยใหม่ อาจได้ข้อมูลหรือ Quest เพิ่ม “สุมิมาเซ็น....คุณป้าคุณลุงค๊า เขาไปไหนก๊านนน หนูจะไป คุราโยชิ” “โอ๊ะๆๆ “ คุณป้าพลอยตื่นเต้นไปด้วย ผลักคุณลุงที่อยู่ในตู้ information counter ออกให้ไปวิ่งตามกลุ่มนักเรียนและเจ้าหน้าที่รถไฟ หลังจากตะโกนคุยกันซักพัก (ซึ่งเป็นอะไรที่ผิดปกติวิสัยของคนญี่ปุ่นมาก แต่คาดว่าคงเป็นเพราะเราไปทำให้คุณลุงแก excite เกิน) คุณลุงก็หันมาหาเราสองคนแล้วตะโกนว่า “คุราโยชิ คุราโยชิ คัมๆ” เราสองคนกึ่งวิ่งกึ่งเดินลากกระเป๋าตามกรุ๊ปเด็กนักเรียนไปอย่างรวดเร็ว สรุปว่าเจ้าหน้าที่ JR เขาไปหารถบัสมาให้บริการแทนค่ะ โดยจะวิ่งบนเส้นทางถนนปกติแต่จะอ้อมไปจอดให้ที่สถานีรถไฟทุกสถานีที่รถไฟ Local ตามปกติจะจอด “คุราโยชิ๊?” เรายื่นแผนที่ให้คุณเจ้าหน้าที่ JR ประจำรถบัสดูอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ (ตอนนี้อย่ามา x ใส่หน้าหนูนะขอร้อง) “Okay Okay” เขาพยักหน้า (....รอดไป!) จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 19:48:10

ความคิดเห็นที่ 14 เมื่อขึ้นรถ สายตาของเราก็สอดส่องหาเหยื่อผู้ที่จะเป็นล่ามให้เราได้ทันที โอ๊ นี่เลย หนุ่มผมทองหน้าตายุโร๊ป ยุโรปแต่ใส่ชุดฟอร์มญี่ปุ่น เอาคนนี้ละ หลังจากขึ้นไปนั่งข้างๆ เราก็ยิ้มหวานพร้อมกับป้อนคำถามทันที “Can you speak English” เขาดูงงๆ กับคำถามเล็กน้อย ก่อนตอบว่า “Yes I can speak English” (มานึกดูอีกทีคงตลกดีนะ ถ้านั่งรถไฟฟ้าบ้านเราแล้วมีฝรั่งเดินมาถามเราว่า “นี่ ๆ ยู ยูพูดไทย ด้าย หมายยย?”) สรุปว่าเหยื่อ เอ๊ย ผู้ช่วยเหลือให้ความกระจ่างแก่เราในครั้งนี้เป็นคุณครูชาวอังกฤษที่มาสอนภาษาอังกฤษอยู่ที่โรงเรียนในจังหวัดทตโตริแห่งนี้ค่ะ เขาบอกว่า เขาก็เพิ่งรู้เมื่อเช้านี้แหละ ว่ารถไฟทุกเส้นที่วิ่งไปทางเมืองคุราโยชิและโยนาโกะ ปิดให้บริการหมดเพราะว่าลมกรรโชกแรงมาก อาจเกิดอันตรายได้ “ผมอยู่มาเป็นสิบปี พายุลมแรงแค่ไหนก็ไม่เคยหยุด นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเคยเห็นเขาหยุดเลยนะเนี่ยะ” คุณครูยืนยันความคิดเราซ้ำสองว่า เราอาจเป็นตัวซวยจริงๆ ก็ได้นะเนี่ยะ! จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 19:49:30

ความคิดเห็นที่ 15 แต่ไม่มีอะไรที่จะมาหยุดยั้งการมองโลกในแง่ดีสำหรับการเที่ยวของเราได้ วะฮะฮ่า ไม่ได้นั่งรถไฟไม่เป็นไร เห็นไม๊เราได้นั่งรถบัสชมเมืองทุกเมืองเลยคราวนี้ เห็นวัดจีน Enchoen จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 19:50:08

ความคิดเห็นที่ 16 แถมยังเห็นชายหาดต้นกำเนิดตำนานกระต่ายขาวแห่งอินาบะอีกด้วยนะเนี่ยะ! จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 19:50:30

ความคิดเห็นที่ 17 ตามมาชมต่อ ข้อมูลละเอียด เยี่ยมมากเลยคะ จากคุณ : jarabeebb เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 19:51:18

ความคิดเห็นที่ 18 หนึ่งชม.ครึ่ง รถมาจอดยังหน้าสถานีรถไฟคุราโยชิ ฟ้าใสแต่ลมแรง ไม่เป็นปัญหาตราบใดที่ฝนไม่ตก เราไปเที่ยวกันดีกว่า! จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 19:51:43

ความคิดเห็นที่ 19 ฝ่าลมมาด้วยกันเลยค่ะ คุณ Jarabeebb --------------------------------------------------------------- กลับมาดูข่าวกันที่ห้องหลังจากคืนนั้นแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากแค่ไหนเพราะว่า ณ วันนั้นที่ Tokyo ถึงกับมีคนเจ็บ คนตาย เป็นพายุที่แรงที่สุดตั้งแต่ปี 1959 ทีเดียวเลยนะคะ นั่น! http://www.bloomberg.com/news/2012-04-03/japan-s-strongest-storm-since-1959-forecast-to-slam-into-tokyo.html (ภาพจาก Website JMA ) จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 19:56:56

ความคิดเห็นที่ 20 กลับมาที่ ปัจจุบัน ณ Kurayoshi Station กันต่อ ที่นี่มี Info Center ที่จะให้ข้อมูล และโบรชัวร์ภาษาอังกฤษ แต่เจ้าหน้าที่พูดอังกฤษไม่ได้นะคะ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 19:58:15

ความคิดเห็นที่ 21 มีร้านขายของฝาก ที่คุณสามีอยากจะซื้อเนื้อปูอบชีสมาสุดๆ (ราคาไม่แพงมากด้วย) จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 19:58:53

ความคิดเห็นที่ 22 เหล้าก็มี จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 19:59:13

ความคิดเห็นที่ 23 ท่าจอดรถบัสมีภาษาอังกฤษกำกับไม่ให้สับสน จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 19:59:47

ความคิดเห็นที่ 24 แต่บนตัวรถบัสเป็นภาษาญี่ปุ่น ไม่มีตัววิ่งเป็นภาษาอังกฤษนะคะ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:00:13

ความคิดเห็นที่ 25 Locker มีให้ฝากทั้งกระเป๋าเล็กใหญ่ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:00:36

ความคิดเห็นที่ 26 และตามมาตรฐานการใช้ทั่วไป สามารถฝากข้ามคืนได้ไม่เกิน 3 วัน โดยหยอด ราคาของวันแรกลงไปก่อน ดึงกุญแจออก หลังจากนั้นถ้ามาเอาสองสามวันทีหลัง ให้เติมเงินเพิ่ม ถึงจะเอาของออกมาได้ค่ะ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:01:31

ความคิดเห็นที่ 27 Stage I : Nijisseiki Pear Museum หลังจากเอากระเป๋าไปใส่ในล็อกเกอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราสองคนก็เดินตัวปลิวไปขึ้นรถบัสเพื่อมุ่งหน้าไปยัง Kurayoshi Parksquare (อันนี้เป็นหน้าป้ายที่ลง) จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:03:01

ความคิดเห็นที่ 28 ต้องเดินเข้าซอยด้านซ้ายมือที่เห็นไปอีก 10 นาที ถึงจะถึงพิพิธภัณฑ์นะคะ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:03:37

ความคิดเห็นที่ 29 แหล่งอันที่จริงแล้ว Park Square หนะ มีอย่างอื่นนอกจากพิพิธภัณฑ์ลูกแพร์ด้วยนะคะ มีทั้งสนามเด็กเล่นสำหรับเด็ก ห้องสมุด บ่อน้ำร้อน เพียงแต่ว่าในวันที่เราไปพายุฝนตั้งเค้า แล้วพอก้าวออกจากพิพิธภัณฑ์ปุ๊บก็ตกลงมาอย่างหนักไม่ลืมหูลืมตา ก็เลยอดไปเดินดูที่เหลือเลย จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:04:28

ความคิดเห็นที่ 30 ข้างในอาคารออกแบบดูดีมาก จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:04:49

ความคิดเห็นที่ 31 อันนี้รสชาติเหมือนขนมโก๋ แห้งๆ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:05:08

ความคิดเห็นที่ 32 ส่วนดังโงะอันนี้อร่อยมาก เพราะด้านนอกไม่ใช่แป้งโมจิ แต่ว่าเป็นถั่วบดเอามาปั้น ส่วนโมจิอยู่ด้านในแทน แปลกดี จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:05:45

ความคิดเห็นที่ 33 เอ๊าไม่ให้เสียเวลาเราไปเดินดูพิพิธภัณฑ์ด้วยกันเลยดีว่า! ภายใมพิพิธภัณฑ์ความสูงสองชั้นแห่งนี้ เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งเดียวในญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นเกี่ยวกับลูกแพร์โดยเฉพาะ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:10:20

ความคิดเห็นที่ 34 ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยโชวะที่ปลูกลูกแพร์เป็นสินค้าประจำเมืองแห่งนี้มีการต่อสู้กับความยากลำบาก จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:10:40

ความคิดเห็นที่ 35 ทั้งจากภัยธรรมชาติ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:10:58

ความคิดเห็นที่ 36 จากโรคของพืช จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:11:19

ความคิดเห็นที่ 37 จากแมลงต่างๆ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:11:38

ความคิดเห็นที่ 38 ผ่านยุคสมัย การปรับปรุงพันธุกรรม การเพาะปลูก จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:12:00

ความคิดเห็นที่ 39 ไปจนถึงวีธีการตรวจคุณภาพและการส่งออก จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:12:23

ความคิดเห็นที่ 40 น่าเสียดายที่คำอธิบายทั้งหมดดันเป็นภาษาญี่ปุ่น เสียดายๆๆๆ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:12:50

ความคิดเห็นที่ 41 มีมุมตำนานเกี่ยวกับลูกแพร์ด้วย จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:13:31

ความคิดเห็นที่ 42 อยากอ่านออกจัง จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:13:52

ความคิดเห็นที่ 43 แต่มุมที่ถูกใจคุณสามีที่สุดเห็นจะเป็นมุม “ศึกษาด้วยวิธีลิ้มรส” จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:14:12

ความคิดเห็นที่ 44 เพราะคุณพี่เล่นจิ้มเอาจิ้มเอาก่อนจะคอมเมนต์ว่าอันนี้หวาน อันนั้นกรอบ ไหนชิมอีกทีซิ อันนี้หวานกว่า เป็นที่สนุกสนานและอิ่มท้องในเวลาเดียวกัน จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:14:32

ความคิดเห็นที่ 45 มีให้ชิมชากลิ่นลูกแพร์ด้วย จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:14:53

ความคิดเห็นที่ 46 มีตัวอย่างลูกแพร์จากทั่วโลก จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:15:37

ความคิดเห็นที่ 47 ส่วนที่เล่นสำหรับเด็กก็มีนะ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:16:06

ความคิดเห็นที่ 48 น่ารักทีเดียว จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:16:27

ความคิดเห็นที่ 49 ช่วงที่ไปมีนิทรรศการของเล่นจากไม้ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:16:58

ความคิดเห็นที่ 50 แต่ละชิ้นก็เป็นนิยายเด็กเรื่องดัง จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:17:21

ความคิดเห็นที่ 51 แฟนขับมารายงานตัวครับ จากคุณ : Palm Jung Won เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:17:49

ความคิดเห็นที่ 52 ความพิเศษของมันคือ มันสามารถถอดมาเป็นเรื่องราวได้ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:17:51

ความคิดเห็นที่ 53 แบบนี้ (น่ารักจังเลย มีขายด้วยนะ แต่แพงอักโขอยู่) จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:18:18

ความคิดเห็นที่ 54 ไหนๆ มาพิพิธภัณฑ์ไม่ซื้อของฝากจะพิพิธภัณฑ์ก็จะกระไรอยู่ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:18:59

ความคิดเห็นที่ 55 ขอจัดเต็ม Soft Cream ลูกแพร์ หวานๆ เย็นๆ ชื่นใจ (อร่อยกว่าที่ Sand dune 10 ดาว) 300 เยน ๋Jelly เนื้อลูกแพร์  472 เยน และขนมปังไส้ลูกแพร์ 1 กล่อง 525 เยน (อันนี้เหมือนขนมที่็ Hokkaido กล่องฟ้าๆ อะคะ ชื่ออะไรจำไม่ได้ แต่ขอบอกว่าอันนี้จะหอมกลิ่นแพร์กว่าแหละ) จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:21:00

ความคิดเห็นที่ 56 Nijisseiki Pear Museum (鳥取二十世紀梨記念館) เวลาเปิด    : 9.00 am -5.00 pm ปิดวันจันทร์ที่ 1,3,5 ของสัปดาห์ ราคา      :300 yen (แสดง Passport ลดครึ่งราคา) การเดินทาง  : จากสถานีรถไฟ Kurayoshi Sta.  นั่งรถสาย 市内・関金温泉方面 Platform 2 ลงยัง Kurayoshi Park Square North Entrance (倉吉パークスクエア北口) เดิน 8 นาที 190 เยน Website   : http://1174.sanin.jp/ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:22:00

ความคิดเห็นที่ 57 หวัดดี "ขับ" น้าเถียน! ---------------------------------------------------------------------- Stage II : Explore the Shirakabe Storehouses มื้อกลางวันวันนี้ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันตกถึงท้องของผู้กล้าที่ต้องหลบพายุฝนนานเกือบชม. ฟ้าหลังฝนเริ่มสว่างขึ้นอีกครั้ง นกที่ออกบินสู่ท้องฟ้าเป็นสัญญาณได้เวลาออกเดินทางอีกครั้งของพวกเรา จากพิพิธภัณฑ์ลูกแพร์เราใช้วิธีเดินยาว 15 นาทีไปยังเขตหมู่บ้านเก่าของเมืองคุราโยชิ อันมีชื่อว่า ชิราคาเบะ (Shirakabe) บ้านสีขาวชั้นเดียวมุงด้วยหลังคาสีแดงพร้อมกับสะพานอันน้อยข้ามคลองหน้าบ้านเป็นสัญลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ที่สร้าขึ้นมาตั้งแต่สมัยเอโดะจวบจนถึงเมจิ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:27:06

ความคิดเห็นที่ 58 แวะตามมาเที่ยวด้วยคนคะ เหตุลมกรรโชกแรงจนรถต้องหยุดวิ่งก็เพิ่งเจอมาเหมือนกันคะอยู่ๆคนขับก็แวะจอดข้างทางและลุกมาบอกเราเป็นภาษาท้องถื่นเดากันประมาณว่าต้องจอดก่อนให้ผู้โดยสารอยู่บนรถสักพักหนึ่ง แป๋๊บนึงเราก็รู้สึกว่ารถโยกเยกคิดว่าแผ่นดินไหวเพราะมีเสียงครืนครันด้วยแต่ก็ไม่เห็นคนอื่นตื่นเต้นอะไร สักพักพอรถวิ่งต่อไปถึงจุดหมายลงรถเห็นบนรถคิดว่าไม่แรงเท่าไรฝนก็ไม่มีแต่พอลงจึงรู้ว่าลมแรงมากพัดปลิวเลยคะ คิดย้อนไปแล้วตอนนั้นอันตรายมากดีว่ารถไม่ตกเขาเอานะคะ แต่ช่วงนั้นออกแนวตื่นเต้นแบบผจญภัยมากกว่า กลับมาดูพยากรณ์อากาศแบบงูๆปลาๆที่โรงแรมก็ไม่เห็นมีรายงานพิเศษแต่อย่างใด แปลกดีคะ จากคุณ : เดย์ครีม เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:27:27 A:125.25.187.206 X: TicketID:336551

ความคิดเห็นที่ 59 ตามใบโบรชัวร์และเว็บไซด์ที่เราเปิดก่อนมา ทำให้เราวาดฝันอันสวยงาม นี่เราจะเดินเข้าออกชมแต่ละบ้านเลย ดูซิมีอะไรขายบ้าง มีบ้านหนึ่งดัดแปลงเหมือนบ้านขายของโชว์ห่วยแบบเก่า มีบ้านหลังหนึ่งสาธิตวิธีการทำตุ๊กตา Hakata มีร้านขายโซบะมีชื่อ ... จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:27:41

ความคิดเห็นที่ 60 ... แต่เมื่อพอไปถึงก็ต้องอึ้งเพราะว่า มันปิดเกือบทุกร้าน เหมือนมาเมืองร้างไม่ผิดเลยค่ะ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:28:36

ความคิดเห็นที่ 61 คือมันไม่ได้โทรมนะ แต่มันปิด ปิดหมด บางร้านส่องๆ ดูก็เหมือนไม่ได้ปัดกวาดมานานมาก จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:29:09

ความคิดเห็นที่ 62 งงๆ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าที่ปิดหมดเพราะมันเป็นวันอังคารหรือเปล่า? (แต่ในเว็บก็บอกว่าเปิดทุกวันนี่หน่า) หรือว่าเพราะวันนี้พายุเข้า เลยทำให้คนมาทำงานไม่ได้? อันนี้งงจริงๆ ค่ะ ใครที่เคยมาเที่ยวที่นี่ในวันเสาร์-อาทิตย์อาจจะพอมาช่วยไขข้อข้องใจให้เราได้ ว่าตกลงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หรือว่ามันเจ๊งแล้ว? จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:29:35

ความคิดเห็นที่ 63 คุณเดย์ครีม : ดีใจที่ได้เจอผู้ร่วมชะตากรรมค่ะ คุณเดย์ครีม! ลมอย่างแรงเลยเน๊อะ วันนั้น ----------------------------------------------------------------- หิวมาก สุดท้ายตัดสินใจกินกันที่ร้านใน Information Center จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:30:50

ความคิดเห็นที่ 64 ตกแต่งน่ารักใช้ได้ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:31:51

ความคิดเห็นที่ 65 สั่งอะไรดีน๊า จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:32:12

ความคิดเห็นที่ 66 คุณสามีสั่งเืนื้อ (แต่รู้สึกได้น้อยนะ)  700 เยน จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:33:02

ความคิดเห็นที่ 67 ของเรา 1000 เยน จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:33:24

ความคิดเห็นที่ 68 แถมขนมด้วย (แต่รู้สึกว่าข้าวปั้นจะแข็งและแห้งไปหน่อย ไม่ค่อยอร่อยคุ้มค่าเท่าไหร่ค่ะ) จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:34:06

ความคิดเห็นที่ 69 คุณสามีโมโหหิวทันที แบบ เอ๊ย เธอพามาทำอะไรนี่!! (แอบโฆษณาไว้เยอะ ว่าเดี๋ยวเราจะมาแวะเดินชิมชมช๊อปกันให้กระจาย) อย่างงี้แหละค่ะ เขาถึงเรียกว่าการผจญภัย ถ้าทุกอย่างมันเป็นไปตามแผนหมด มันก็ไม่ใช่การเดินทางซินะ! (แต่รู้สึกวันนี้ผิดแผนไปเยอะเหมือนกันนะเนี่ยะ) จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:34:52

ความคิดเห็นที่ 70 ร้านไทยากิ 7 รส (ยังสู้ที่โอซาก้าไม่ค่อยได้นะ) จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:35:24

ความคิดเห็นที่ 71 แต่ถึงแม้จะเก่า แต่ร้านที่ยังคงเปิดอยู่ก็มีความกระตือรือร้นที่จะบริการเป็นเยี่ยมค่ะ ขอชมเชย (เปาะๆ) จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:36:10

ความคิดเห็นที่ 72 เอาเป็นว่าเมืองนี้สำหรับใครที่อยากมา ชิม ชม ช๊อป อาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:36:41

ความคิดเห็นที่ 73 แต่ใครที่อยากมาเก็บรูปสวยๆ มาเลยค่ะ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:37:18

ความคิดเห็นที่ 74 ที่นี่มีวัดด้วยนะ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:37:41

ความคิดเห็นที่ 75 เชื่อไหมค่ะ ว่านี้คืออุโบสถวัน Dairenji จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:38:13

ความคิดเห็นที่ 76 ศูนย์หัตถกรรมที่เปิดให้เข้าไปดู (แต่ไม่ยักกะมีคนอยู่) จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:38:51

ความคิดเห็นที่ 77 บ๊ายบาย จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:39:17

ความคิดเห็นที่ 78 Shirakabe Dozogun (白壁土蔵群) เวลาเปิด : Visiting Center 9.00 am -5.00 pm ราคา : ฟรี การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Kurayoshi Sta.  นั่งรถสาย Park Square จาก Platform 2 ไปลงยังป้าย Shirakabe Dozogun (白壁土蔵群) 18 นาที 250 เยน หรือนั่งรถสาย Nishi-Kurayoshi  Platform 4 ไปลงที่ป้าย Akagawara Shirakabedozo (赤瓦・白壁土蔵) 12 นาที 250 เยน Website : http://akagawara.net/ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:40:58

ความคิดเห็นที่ 79 Recovery point at Misasa Onsen หลังจากสองผู้กล้าต้องเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางด้วยรถบัส ฝ่าลมพายุ ตากฝนที่ตกอย่างหนัก หิวกระหายเดินหลงไปมาในชิราคาเบะ สุดท้ายเราก็มาโซซัดโซเซหมดแรงกันที่ ออนเซ็นแห่งเมืองมิสะสะ (Misasa Town) จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:42:52

ความคิดเห็นที่ 80 ที่ Info Center ที่นี่มีใช้เช่าจักรยานด้วยนะ เจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษไม่กระดิกเลย เช่นเคย จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:44:26

ความคิดเห็นที่ 81 ทริปแบบนี้แหละครับ ท้าทายมาก !!! 555 ผมเป็นบ่อยมาก เวลาเดินเมืองแปลกๆ แล้วต้องมานึกในใจ "ที่นี่มันมีไรฟะ" ซอฟท์ครีมสาลี่ก็พึ่งเคยเห็นครับ น่าชิมมากกกกกก จากคุณ : realp** เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:46:42

ความคิดเห็นที่ 82 คำว่า Misasa มาจากคำสองตัวที่รวมกัน (三朝) คือ San และ Asa รวมกันแปลตรงตัวว่าสามรุ่งอรุณ โดยมีความเชื่อว่าเหล่าผู้ผจญภัยทั้งหลาย ไม่ว่าจะติด Status Blind, Fatique, Slow หรือ Dori ถ้าหากได้มาข้างคืนที่นี่ให้ครบถึงสามรุ่งอรุณ ทุกความเจ็บป่วยจะหายไปอย่างเป็นปลิดทิ้ง ชาวบ้านที่นี่ทราบความพิเศษของน้ำแร่ที่นี่ดีมาเกือบ 850 ปี และรู้ว่าแหล่งนี้แหละเป็นสถานที่ที่จะใช้แช่รักษาความเจ็บป่วยให้หายมานักต่อนักแล้ว จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:47:15

ความคิดเห็นที่ 83 คุณ realp** : ฮาๆ มันท้าทาย ตั้งแต่กระเป๋าหายวันแรกแล้วละคะ หะๆ ------------------------------------------------------------- หลังจากการค้นคว้าในสมัยใหม่และผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ออกมาโดยนักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่น รายงานว่า ณ ดินแดนแห่งนี้ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่มีอัตราการเกิดโรคมะเร็งต่ำกว่าประชากรทั่วไปในญี่ปุ่นเทียบกับทั้งประเทศโดยรวม และค้นพบว่าน้ำแร่ที่นี่มี “แร่เรเดียม” อ่อนๆ ปนอย่างเจือจางในน้ำ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:48:18