ความคิดเห็นที่ 1 จาก Monument Valley มาเมือง Moab ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงค่ะ เราแวะกินข้าวเย็นที่ Moab ด่วนๆ ก่อนคลานเข้าโรงแรม Red Cliff Lodge แต่โรงแรมนี้ไม่ได้อยู่ในตัวเมือง Moab เน้อ ต้องขับรถเข้าซอยมาอีกซัก 15 นาทีได้ แถมสองข้างทางถนนยังมืดตึ๊ดตื๋อ ไม่มีไฟซักดวงอีก -_- เห็นแล้วไม่อยากจะเชื่อว่า in the middle of nowhere แบบนี้ มันจะมีรีสอร์ทตั้งอยู่จริงๆ ห้องพักที่นี่กว้างขวาง ดูดี ได้บรรยากาศอเมริกันคันทรี่ไม่เลว จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:37:59

ความคิดเห็นที่ 2 มีโต๊ะกินข้าวให้ด้วยนา จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:38:12

ความคิดเห็นที่ 3 เช้าวันรุ่งขึ้น เราจึงได้ถึงบางอ้อว่าชื่อ Red Cliff Lodge นั้นท่านได้แต่ใดมา! จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:38:30

ความคิดเห็นที่ 4 เห็นผาแดงเป็นเทือกเรย แต่เห็นผาแดงยังไม่แปลกใจเท่าเห็นไร่ไวน์ เอ่อ แถวนี้มันปลูกไวน์ขึ้นด้วยเรอะ! จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:38:53

ความคิดเห็นที่ 5 ด้วยความขี้เกียจ เราเลยหม่ำข้าวเช้ากันที่โรงแรมเนี่ยแหล่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:39:12

ความคิดเห็นที่ 6 บุฟเฟต์อาหารเช้าที่นี่ ราคาประมาณ $10 ค่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:39:38

ความคิดเห็นที่ 7 อาหารเช้าคิดตังค์ แต่วิวนี่ฟรีครับผม จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:40:08

ความคิดเห็นที่ 8 โอว์ สีตัดกันกว่านี้มีอีกมั๊ย ผาแดง แม่น้ำเขียว! ช่วงหน้าร้อนที่ Red Cliff Lodge นี่คงคึกคักน่าดู เพราะที่รีสอร์ทมีกิจกรรมมากมาย คุณลูกขี่ม้า คุณแม่ชิมใวน์ คุณพ่อพายเรือ ครบวงจรเจงๆ แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 55 22:41:40 จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:40:27

ความคิดเห็นที่ 9 วันนี้ชาวคณะตื่นสาย กว่าล้อจะหมุนออกมาจากโรงแรมได้ ก็ปาไปเกือบ 11 โมงแล้ว >_< ไอ้หยา ต้องทำเวลาแล้วล่ะเพื่อนๆ รีบซิ่งรถไป Arches National Park ให้ไวเล๊ย! ....(เลี้ยวรถออกมาจากรีสอร์ท).... กรี๊ดดดดดด วิวจ๋วยยยยย แวะจอดถ่ายรูปก่อนได้มั๊ย กี๊ดๆ (อ้าว ไหนตะกี้บอกรีบ -*-) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:41:21

ความคิดเห็นที่ 10 มิน่า เมื่อคืนตอนนั่งรถเข้าโรงแรม ถนนถึงได้มืดสนิท ก็เพราะเราขับรถเลียบหน้าผามานี่เอง แถมระหว่างทางเรายังเห็น Camp site อยู่ริมแม่น้ำด้วยนะฮะ ถ้าอากาศดีๆ ก็น่ามาตั้งแคมป์เล่นเหมือนกันแฮะ แค่ทางเข้าโรงแรม พวกเราก็กรี๊ดสลบแล้ว ไม่อยากจะคิดเลยว่า Arches National Park ของจริงจะขนาดไหนเนี่ย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:42:24

ความคิดเห็นที่ 11 เพียงแค่แว่บแรกที่มาถึง Arches National Park พวกเราก็มั่นใจแล้วค่ะว่างานนี้ไม่มีแป้กแน่นอน! วิวทิวทัศน์ช่างตระการตาเหลือเกิน จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:42:45

ความคิดเห็นที่ 12 แถม Landmark ของที่นี่ยังตั้งชื่อได้เก๋ไก๋ซะไม่มี อย่าง Park Avenue นี่เป็นต้น ที่ได้ชื่อนี้ก็เพราะหน้าผาที่ตั้งตระหง่านราวกับตึกระฟ้านั่นเอง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:43:54

ความคิดเห็นที่ 13 ส่วนนี่ก็หินสามแม่ครัว เอ้ย Three Gossips ค่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:44:22

ความคิดเห็นที่ 14 อันนี้ชื่อแอบสิ้นคิดเล็กน้อย เพราะเขาเรียกมันว่า Balanced Rock -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:45:02

ความคิดเห็นที่ 15 เราขับรถต่อมาเรื่อยๆจนมาถึง Windows Section จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:45:57

ความคิดเห็นที่ 16 ซุ้มหินโค้ง North Window กับ South Window นี่เหมือนหน้าต่างสมชื่อจริงๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:46:29

ความคิดเห็นที่ 17 ตามไปด้วยคนนะครับ จากคุณ : tonhok เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:46:36

ความคิดเห็นที่ 18 #ตามมาเลยค่ะคุณ tonhok ----------------------------------------------------------- ในปาร์คมีป้ายอธิบายถึงที่มาของซุ้มหินโค้งเหล่านี้ด้วยค่ะ เมื่อประมาณ 300 ล้านปีก่อน น้ำทะเลได้ไหลลงมาท่วมบริเวณนี้ พร้อมพัดพาซากดิน หิน หอยมาด้วยกัน ในอีกหลายร้อยล้านปีถัดมา น้ำทะเลค่อยๆระเหยหายไป ส่วนเศษดินทั้งหลายก็เริ่มกลายสภาพไปเป็นหินแทน ทำให้เกลือทะเลที่นอนแอ้งแม้งอยู่ข้างใต้หิน ขยับตัวไปมา จนทำให้หินบางส่วนโป่งตัวเป็นรูปโค้ง ต่อมาเปลือกโลกเคลื่อนตัว ทำให้เกิดรอยแยกบนพื้นหิน จากนั้นก็ถึงคิวน้องน้ำฝนกับพี่น้ำแข็งออกโรง อุณหภูมิที่หน้าร้อนก็ร้อนจัด พอหน้าหนาวก็สะท้านไปทุกรูขุมขน คอยตุ๊บๆหินเป็นเวลาติดต่อกันร้อยล้านปี จากรอยแยกก็กลายเป็นครีบ ซึ่งพอโดนน้ำและลมเซาะนานเข้าๆ ก็เกิดเป็นรูโบ๋ในที่สุด ว่าแล้วก็ขออนุญาตเปิดเพลงธีมประจำทริป เพื่อเพิ่มบรรยากาศหน่อยนะขอรับ ~*~ น้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันยังกร่อน แล้วตับอ่อนๆ ของเธอจะทนทีมชาติอิตาลีได้อย่างไร ~*~ (ผิดห้องแล้วโว้ย ) แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 55 09:55:26 จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:47:28

ความคิดเห็นที่ 19 ด้วยเหตุฉะนี้ที่ Arches National Park เลยมี Natural Arches ให้ชมกันจนตาแฉะ กว่า 2000 อันเลยทีเดียว จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:48:00

ความคิดเห็นที่ 20 นี่ยังไม่นับพวก Arches in progress ที่เห็นอยู่ทั่วปาร์คอีกนา ถ้ากลับมาเที่ยวในอีก 10 ล้านปีข้างหน้า คงทันเห็นหินเหล่านี้กลายสภาพเป็น Arches พอดี กร๊ากกก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:48:35

ความคิดเห็นที่ 21 แน่นอนฮ่ะว่ามาถึงแล้ว ชาวคณะก็ต้องโพสท่าบังคับตามธรรมเนียมนิยม จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:48:56

ความคิดเห็นที่ 22 ด้านหลัง North Window กับ South Window มี hiking trail ด้วยฮ่ะ ซึ่ง จขกท.ขอบาย เพราะกะเก็บแรงไว้ hike ของหนักในวันหลัง แต่ชาวคณะที่เหลือสู้ตาย ไปเดินเล่นพร้อมเก็บภาพสวยๆมาฝากด้วย ดูๆแล้ว จากด้านหลังจะถ่ายรูป North Window กับ South Window ได้สวยกว่านะเนี่ย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:49:29

ความคิดเห็นที่ 23 พร้อมภาพวิวแจ่มๆเป็นของแถม จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:49:56

ความคิดเห็นที่ 24 กรี๊ดดดด snow capped mountain อันเบ้อเร่อเรยยยย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:50:14

ความคิดเห็นที่ 25 จาก Windows Section เราก็ขับรถต่อมาเรื่อยๆ เจอพี่ภูเขาเจ้าเก่าอีกแล้ว จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:50:43

ความคิดเห็นที่ 26 ลายหินจะติสต์ไปไหน จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:51:04

ความคิดเห็นที่ 27 จากนั้นเราก็เข้าสู่ Devil's Garden ได้อารมณ์ดินแดนในเทพนิยายสมชื่อจริงๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:51:35

ความคิดเห็นที่ 28 แค่ทางเข้า Devil's Garden hiking trail ก็ประทับใจจ๊อดแล้ว จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:52:05

ความคิดเห็นที่ 29 เห็นที่นี่เขาตั้งชื่อหินได้ครีเอทดี จขกท.เลยถือวิสาสะตั้งชื่อหินอันกลางว่า Modem Rock ซะเลย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:52:35

ความคิดเห็นที่ 30 เดินไปได้ซัก 1.5 กม. เราก็จะพบกับ Landscape Arch อันเป็นไฮไลต์ของ Trail นี้ ที่ Arches National Park มีซุ้มหินโค้งที่ดังสุดๆอยู่ 2 อันค่ะ นั่นคือ Delicate Arch กับ Landscape Arch ซึ่งตอนแรก จขกท.ก็ตะหงิดๆว่าทำไม Landscape Arch มันดูบอบบางว่า Delicate Arch อีกล่ะเหวย แต่ภายหลังมีคนบอกว่า เจ้า Arch นี้จริงๆชื่อ Delicate Arch ค่ะ เพียงแต่ตอนทำแผนที่สมัยตั้งอุทธยานแห่งชาติใหม่ๆ เจ้าหน้าที่ดันใส่ชื่อสลับกัน ก็เลยต้องเลยตามเลย -_-" จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:52:58

ความคิดเห็นที่ 31 ในปี 1991 ก็มีเหตุให้ Landscape Arch กลายสภาพเป็น Anorexia Arch อย่างที่เราเห็นกันอยู่นี่ เมื่อหิน 180 ตันตรงช่วงกลางของ Landscape Arch ร่วงโป๊ะลงมาค่ะพี่น้อง! เดชะบุญที่ก่อนหินจะถล่มลงมา มันส่งเสียงครืนๆ พร้อมปล่อยเศษหินเล็กหินน้อยร่วงนำร่องลงมาก่อน นักท่องเที่ยวเลยเฮโลเผ่นออกมาได้ทัน ตอนนี้เค้าเลยล้อมรั้วไว้ ไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปใกล้ค่ะ นอกจากนี้ ด้วยความยาวกว่า 18 เมตร ทำให้ Landscape Arch ถือเป็นหนึ่งใน Natural Arches ที่มีช่วงสแปนยาวที่สุดในโลกอีกด้วยนะฮะ ก็ได้แต่หวังว่ามันจะอยู่ยงคงกระพันไปอีกนานๆ อย่าเพิ่งถล่มลงมาอีกเลยนะ T^T จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:54:17

ความคิดเห็นที่ 32 จริงๆ Devil's Garden Trail นี่ยาวตั้ง 7 ก.ม.(ไปกลับ)แน่ะ แต่เวลาเราไม่มี เลยต้องจบ Trail ไว้ที่ Landscape Arch นี่ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:54:49

ความคิดเห็นที่ 33 จากนั้นเราก็ขับรถต่อไปยัง Delicate Arch บ้างค่ะ ข้อดีของการมาเที่ยวที่นี่เดือน พ.ย. ก็คือ รถอย่างโล่ง คนก็ไม่ค่อยมี แต่ข้อเสียก็คือ หน้าหนาว พระอาทิตย์ตกเร็ว แถมวันนี้เราดันตื่นสายซะอีก เราเลยไม่มีเวลา hike ไปให้ถึง Delicate Arch ฮ่ะ ชาวคณะเลยต้องแก้ขัดด้วยการ hike ไปยังจุดชมวิวแทน เราเดินขึ้นเขาตามกองหินที่เจ้าหน้าที่วางไว้เป็นไกด์ไลน์เรื่อยๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:55:15

ความคิดเห็นที่ 34 จนถึงจุดชมวิวที่เห็น Delicate Arch ลิบๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:55:44

ความคิดเห็นที่ 35 แค่เดินมาจุดชมวิว จขกท.ก็เหนื่อยลิ้นห้อยแล้ว เลยแอบดีใจเล็กน้อย ที่ไม่ต้องรีบวิ่งขึ้นเขาสองโลครึ่งไป Delicate Arch ให้ทันก่อนพระอาทิตย์ตก T^T จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:56:16

ความคิดเห็นที่ 36 แต่พอเห็นอย่างนี้แล้วก็เสียดายที่ไม่ได้ไปเหมือนกัน เพราะภาพ Delicate Arch ยามเย็นช่างสวยงาม สีสันจัดจ้านจับใจเหลือเกิน จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:56:57

ความคิดเห็นที่ 37 แถมถ้าไปแล้ว จะได้ถ่ายรูปมุมมหาชนที่เห็น Delicate Arch ควบเทือกเขาเป็นแบ็คกราวด์อีก (ภาพ : Corbis) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:57:35

ความคิดเห็นที่ 38 เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไป ชาวคณะก็ต้องบ๋ายบายบรรดา Arches ทั้งหลายซะแล้ว เอาฮ่ะ ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า เก็บทีเด็ดไว้ จะได้มีแรงกระ:-)กระสนกลับมาเที่ยว Arches National Park อีกครา T^T จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:58:26

ความคิดเห็นที่ 39 คืนนั้นเรากลับมาหม่ำข้าวเย็นในตัวเมือง Moab ที่ร้าน Jeffrey's Steak House จขกท.ไม่พูดพร่ำทำเพลง สั่ง Petite Filet Mignon มาที่นึงด่วนๆ เพราะหิวแล้ว เนื่องจากใน Arches National Park ไม่มีอาหารขายค่ะ ตอนมื้อเที่ยงเราเลยต้องกิน cereal bar กันตายกันไป -_- สเต็กร้านนี้เนื้อนุ่ม อร่อยมากๆ ค่อยสมกับที่เหนื่อยหิวโซมาทั้งวันหน่อย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:59:07

ความคิดเห็นที่ 40 เราสั่ง Bread Pudding เป็นของหวาน รสชาติก็ใช้ได้เลยค่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:59:40

ความคิดเห็นที่ 41 ตบท้ายมื้อเย็นด้วย Tiramisu อีกซักก้อนละกัน แฮ่ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 22:59:56

ความคิดเห็นที่ 42 กลับถึงโรงแรม เราก็กรึ้บย้อมใจที่อดไป Delicate Arch ด้วยไวน์โอท็อปของ Red Cliff Lodge เนี่ยแหล่ะ!! ไม่อยากจะเชื่อจริงๆ ว่ากลางดงหินแดงแบบนี้ปลูกไวน์ชึ้นด้วย แถมรสชาติไวน์ Merlot ยังออกมาไม่เลวด้วยนะเอ้อ Amazing Utah จริงๆเลย >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:00:28

ความคิดเห็นที่ 43 นึกถึงหนังโบราณๆเลยครับ สวยดีจัง เดี๋ยวต้องยอนกลับไปดูตอน1ก่อน พลาดไป จากคุณ : boy next door เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:00:37

ความคิดเห็นที่ 44 #ไว้เด๋วดูๆไป คุณ boy next door อาจจะพาลนึกถึงหนังไซไฟแทนก็ได้นะฮะ --------------------------------------------------------------------------------------------------- เช้าวันใหม่แล้วจ้า หลังจากได้บทเรียนอดเที่ยวไปเมื่อวาน วันนี้ชาวคณะเลยแหกขี้ตาตื่นแต่เช้าตรู่ เพื่อมายัง Canyonlands National Park Canyonlands นั้นใหญ่กว่า Arches National Park ซัก 5 เท่าได้ โดยอุทธยานถูกแบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ Island In The Sky district, Needles district, The Maze district แล้วก็ The River district เนื่องจากเวลาจำกัด เราเลยได้เที่ยวแค่ Island In The Sky district ที่อยู่ใกล้ๆ Arches National Park แค่โซนเดียว มาถึง Canyonlands ปุ๊บ เราก็พุ่งไปยัง Mesa Arch ทันที จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:02:17

ความคิดเห็นที่ 45 ความเท่ของ Mesa Arch อยู่ที่ ตอนเช้าท้องของ Arch จะเรืองแสงค่ะ แถมยังมีวิวหุบเขาสุดลูกหูลูกตาเป็นแบ็คกราวด์อีกตะหาก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:02:41

ความคิดเห็นที่ 46 สำหรับท่านที่ไม่เป็นโรคกลัวความสูง ก็สามารถพกปิ่นโตมาปิคนิคบน Arch ได้ด้วยนะเคอะ ฮา จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:02:57

ความคิดเห็นที่ 47 จาก Mesa Arch เราก็มาต่อกันที่ Grand View Point จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:03:30

ความคิดเห็นที่ 48 มองไปด้านล่างมีถนนด้วย ซึ่งเฉพาะ 4 Wheel Drive เท่านั้นที่จะขับเข้าไปได้ เพราะเป็นถนนลูกรังล้วนๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:03:47

ความคิดเห็นที่ 49 จบแล้วค่ะ ชะโงกทัวร์ Canyonlands National Park แบบขำๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:04:12

ความคิดเห็นที่ 50 แต่ก่อนจะชิ่งไปยัง National Park ลำดับถัดไป เราก็แวะเที่ยว Dead Horse Point State Park กันเสียหน่อย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:04:42

ความคิดเห็นที่ 51 จุดขายของที่นี่คือโค้งน้ำ 360 องศาค่ะ แต่วิวอลังการสู้ Horseshoe Bend ไม่ได้ แถมยังไม่มีทางเดินไปตรงโค้งน้ำอีก เซ็งเป็ด -_- เซ็งเป็ดไม่พอ ยังต้องมาเซ็งจิตต่อ เมื่อเราอ่านประวัติที่มาของชื่อ Dead Horse ว่าเคยมีคาวบอยต้อนม้าฝูงนึงมาตรงหน้าผาเหนือโค้งน้ำ ก่อนจะกั้นรั้วล้อมน้องม้าไว้ แล้วปล่อยให้น้องม้าอดน้ำตาย ทั้งๆที่เห็นแม่น้ำอยู่ตรงหน้าแท้ๆ ฮือออออออ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:05:19

ความคิดเห็นที่ 52 จาก Dead Horse Point State Park เราก็มุ่งหน้าไปยัง Capitol Reef National Park กันต่อ ตอนอยู่บนไฮเวย์ I-70 ให้ดูป้ายดีๆนะขอรับ อย่าโม้เพลินจนขับรถเลย Exit แบบพวกเราล่ะ แถมขับต่อไปอีกสิบกว่าไมล์ ไม่เจอ Exit กลับรถซักกะอันอีก >_< เลยต้องอาศัยที่กลับรถกลางถนนที่สงวนไว้เฉพาะรถตำรวจ รถพยาบาลแทน จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:06:09

ความคิดเห็นที่ 53 ช่วงแรกๆที่ออกจากไฮเวย์ สองข้างทางถนนมีแต่ทุ่ง ทุ่ง แล้วก็ทุ่ง แต่พอยิ่งใกล้ Capitol Reef ภูมิทัศน์ก็ยิ่งทวีความแปลกขึ้นเรื่อยๆ โอ้ นี่มันไซต์ก่อสร้างของอารยธรรมต่างดาวหรือไร จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:06:43

ความคิดเห็นที่ 54 เกร๊ยยยย นี่อะไร Mont St Michel ฉบับ Planet Utah เรอะ >___< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:07:06

ความคิดเห็นที่ 55 ถึง Capitol Reef แล้วจ้า โชคดีจัง ที่ตอนนั้นยังพอมีสีสันของฤดูใบไม้ร่วงให้เห็นบ้าง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:07:26

ความคิดเห็นที่ 56 เราขับรถตัดปาร์คปุเลงๆไปตามถนน UT-24 ซึ่งอัดแน่นไปด้วยสิ่งน่าสนใจมากมาย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:07:45

ความคิดเห็นที่ 57 ประเดิมกันด้วย Capitol Dome หรือ Navajo Dome จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:08:00

ความคิดเห็นที่ 58 ถ้าที่นี่คือเมืองไทย มันคงได้เปลี่ยนชื่อไปเป็น "น้องแห้วโดม" ชัวร์ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:08:27

ความคิดเห็นที่ 59 ต่อด้วยหน้าผาที่ดูเหมือนจะเบๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:08:48

ความคิดเห็นที่ 60 แต่ถ้าเพ่งดีๆจะเห็นลายแทงขุมทรัพย์ เอ๊ย Petroglyph (หรือภาพสลักหิน) นะเคอะ! Petroglyph อันนี้เป็นฝีมือของอารยธรรม Fremont ซึ่งเป็นเผ่าพื้นเมืองที่อาศัยอยู่แถวนี้ในช่วงปี คศ. 600-1300 ว่าแต่ชาว Fremont เขาสลักรูปใครหว่า เผ่าตัวเองหรือเผ่าเพื่อนบ้านจากต่างดาว จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:09:30

ความคิดเห็นที่ 61 จากศิลปะต่างดาว เราก็มาถึง "The Castle" จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:10:22

ความคิดเห็นที่ 62 โอว์ หินสามชั้น สามสี เท่กว่านี้มีอีกมั๊ย (แต่ทำไม จขกท.เห็นแล้วแอบหิว Red Velvet Cake ขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล กร๊ากกกก) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:11:11

ความคิดเห็นที่ 63 จากนั้นเราก็ขับรถมายังจุดชมวิว Sunset Point เพื่อถ่ายรูป Capitol Reef ยามพระอาทิตย์ตกค่ะ แต่ค่ะแต่ แต่ชาวคณะกะเวลาผิด (อีกแล้ว) เนื่องจากเราไม่รู้ว่าพระอาทิตย์ที่นี่ตกหลังเขาค่ะพี่น้อง -_- ฉะนั้นกว่าจะมาถึง Sunset Point พระอาทิตย์ก็ลับขอบภูเขาไปเรียบร้อยแร๊ววววว จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:11:51

ความคิดเห็นที่ 64 สารภาพว่าก่อนมา ชาวคณะไม่มีใครตั้งความหวังไว้กับ Capitol Reef เลย เพียงแต่ห็นว่าไกด์บุคแนะนำ ก็เลยเอาวะ มาซักหน่อย ที่ไหนได้ พวกเราชอบที่นี่มากๆเลยค่ะ เพราะวิวแต่ละดอกของปาร์คช่างแปลกสะใจ เหมือนเราได้ไปเที่ยวดาวอังคารซะจริงๆ อย่างมุมนี้จะเห็น Waterpocket Fold เป็นเทือกๆเลย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:12:30

ความคิดเห็นที่ 65 Waterpocket Fold ที่มีความยาวถึง 160 ก.ม.ของ Capitol Reef นี้ เกิดจากการยกตัวของเปลือกโลกเมื่อ 65 ล้านปีที่แล้วค่ะ เพียงแต่มันไม่ได้ถูกยกตัวในแนวดิ่งเหมือนชาวบ้านเขา แต่เป็นการยกตัวแบบเอียงๆ และที่เรียกว่า Waterpocket Fold ก็เพราะหินโดนน้ำกร่อนจนเกิดเป็นแอ่งเล็กๆเต็มไปหมด (ภาพ : nps.gov) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:13:01

ความคิดเห็นที่ 66 เห็นแล้วก็ได้แต่ทึ่งในพลังของธรรมชาติและกาลเวลาจริงๆค่ะ ที่สร้างสรรค์ภูเขาออกมาได้กิ๊บเก๋ยูเรก้าสุดๆ! ดูเอาเถอะค่ะ ส่วนที่ยืนออกมาจากภูเขาเนี่ย ดูเผินๆแอบเหมือน Flying Buttress ในวิหารโกธิคเลย ว่ามั๊ยฮะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:13:28

ความคิดเห็นที่ 67 ปิดท้ายวันแรกของทัวร์ Capital Reef ด้วยภาพท้องฟ้ายามเย็น featuring หิมะบนยอดเขาละกันเน้อ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:14:12

ความคิดเห็นที่ 68 จากนั้นเราก็เข้าเช็คอินที่โรงแรม Best Western Capitol Reef ซึ่งอยู่ติดปาร์คมาก ประมาณพ้นป้ายสุดเขตอุทธยานแห่งชาติ ก็ถึงโรงแรมเลย ฮา จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:14:40

ความคิดเห็นที่ 69 ห้องอาจจะเก่าไปนิด แต่ก็พออยู่ได้ค่ะ ข้อดีอีกอย่างก็คือ ที่นี่มีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญด้วย ชาวคณะเลยถือโอกาสซักเสื้อซะเลย ส่วนข้าวเย็น ตอนแรกเรากะจะไปหาร้านหม่ำๆที่เมือง Torrey ซึ่งอยู่ติดกับปาร์ค แต่ปรากฎช่วง Low Season เมืองอย่างร้าง แถมร้านที่เล็งเอาไว้ก็ไม่เปิดเสียอีก เราเลยต้องกินข้าวเย็นที่ร้านพิซซ่าที่อยู่ตรงข้ามโรงแรมแทน T__T จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:15:13

ความคิดเห็นที่ 70 เอ้กอี้เอ้กเอ้ก เช้าวันใหม่มาถึงแล้วจ้า มองออกไปนอกหน้าต่างห้องพัก บร๊ะเจ้า โรงแรมนี้มีเทือกเขาส่วนตัวอยู่ด้านหลังด้วยเรอะ!! >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:15:41

ความคิดเห็นที่ 71 เช้านี้เราตั้งใจจะไปขับรถเล่นที่ Scenic Drive ของ Capitol Reef กันค่ะ ระหว่างทางก็ขับผ่านสวนผลไม้ของเมือง Fruita ซึ่งในช่วงปี 1800s มีชาว Mormon (นิกายหนึ่งในศาสนาคริสต์) มาตั้งรกร้างที่นี่ เพื่อปลูกแอปเปิ้ล พีช เชอร์รี่ขายส่งสมชื่อเมืองเลยนะฮะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:16:27

ความคิดเห็นที่ 72 ถนนช่วงแรกๆของ Scenic Drive เป็นถนนลาดยางค่ะ แต่พอขับเข้าช่องเขาปุ๊บ มันจะกลายเป็นถนนลูกรังแทน เลยทำให้ได้บรรยากาศขับรถท่องดาวอังคารยิ่งขึ้นไปอีก กร๊ากกกก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:16:51

ความคิดเห็นที่ 73 แม่จ๋า นี่หนูอยู่บนดาวดวงไหนกันเนี่ย >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:17:35

ความคิดเห็นที่ 74 สุดทางของ Scenic Drive จะเป็นหุบเขา Capitol Gorge ค่ะ เมื่อถึงทางตัน ชาวคณะจึงจำต้องทิ้งยานแม่ไว้เบื้องหลัง เพื่อออกสำรวจ Planet Utah ต่อไป จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:18:14

ความคิดเห็นที่ 75 เพี้ยงงงงง ขอให้มาทันเจ๊ด้วยเถิด เจ๊เหมียวรีวิวไวตลอด ปาดไม่เคยทันเลยอะ จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:18:49

ความคิดเห็นที่ 76 มีแต่หินหน้าตาประหลาดเต็มไปหมด จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:19:26

ความคิดเห็นที่ 77 หรือที่แท้มันคือซากยานอวกาศคะเนี่ย กร๊ากกกกก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:20:25

ความคิดเห็นที่ 78 #อ่ะ ปาดทันแล้วนะจ๊ะน้องกาแฟ --------------------------------------------------- เห็นแบบนี้ บอกแล้วจะเชื่อไหม ว่าก่อนที่จะสร้างถนน UT-24 ในปี 1964 คนที่จะมาเที่ยว Capitol Reef ต้องขับมาทาง Capitol Gorge นะขอรับ! แถมนี่ยังเส้นทางสำหรับรถม้าสมัยพระเจ้าเหา บนกำแพงเลยมีสลักรายชื่อบรรดานักสำรวจ ที่เคยเดินทางผ่านที่นี่อีกด้วย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:21:25

ความคิดเห็นที่ 79 จริงๆ Capitol Gorge Trail ยังไปต่อได้อีกค่ะ แต่สันหลังยาวทัวร์เริ่มขี้เกียจเดินต่อแล้ว เราเลยจำต้องยกเลิกปฎิบัติการสำรวจไว้เพียงเท่านี้ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:22:03

ความคิดเห็นที่ 80 เพิ่งรีวิวมอลต้าของตัวเองจบไปหนึ่งตอน หมดแรง คลานมาแปะกิ๊ฟท์ให้คุณเหมียวก่อนนะคะ เดี๋ยวมาเก็บพรุ่งนี้ คร่อกๆ >_< จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:22:14

ความคิดเห็นที่ 81 ได้เวลาโบกมือลา Capitol Reef แล้วล่ะค่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:22:27

ความคิดเห็นที่ 82 #โอ้ มอลต้า คุณ Clear Ice นี่เที่ยวแต่ที่แปลกๆจริงเลยนะฮะ ไว้เด๋วจะตามไปเน้อ -------------------------------------------------------------------------------------------- ขอบอกว่าในกระบวน National Parks ที่เราได้เที่ยวในทริปนี้ ไม่มีที่ไหนแปลกประหลาดพิสดารเท่า Capitol Reef อีกแล้ว เรียกว่าเป็นเซอร์ไพรส์ที่น่าประทับใจสุดๆก็ว่าได้ ฉะนั้นท่านที่พิสมัยความแปลกใหม่ ไม่ซ้ำซากจำเจ ขอบอกห้ามพลาดที่นี่เด็ดๆนะเคอะ! จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:23:44

ความคิดเห็นที่ 83 จาก Capitol Reef เราก็ขับรถไต่เขาตามเส้นทางถนน UT-12 มาเรื่อยๆจนกระทั่งเข้าเขต Dixie National Forest เอ่อ...เมื่อ 20 นาทีที่แล้ว เรายังอยู่ในหุบเขาแห้งๆหินแดงเถือกๆอยู่เลย ทำไมตรงนี้หิมะตกขาวโพลนซะแล้วล่ะ >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:24:30

ความคิดเห็นที่ 84 ไม่เชื่อดูรูปเป็นหลักฐานได้เลยฮ่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:24:47

ความคิดเห็นที่ 85 ภาพที่เห็นตรงหน้าช่าง Surreal ได้ใจ ไม่ให้เสียยี่ห้อ Planet Utah เลยจริงๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 23:25:09