ความคิดเห็นที่ 1 วันนี้โปรแกรมการเที่ยวมีอยู่แค่สองที่ เพราะว่าต้องมีการเดินทางข้ามประเทศจากอังกฤษไปยังเวลส์ครับ รวมถึงฝนก็ตกทั้งวัน ทำให้การเดินทางในวันนี้ค่อนข้างลำบากพอสมควรเลย แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 55 00:37:22 จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 14:24:26

ความคิดเห็นที่ 2 ตื่นเช้ามาวันนี้ผมก็ตั้งใจว่าจะออกไปเดินเล่นแถวๆ The Circus กับ Royal Crescent ก่อนที่จะถึงเวลาเข้าชม Roman Bath หน่อยครับ แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 55 14:39:41 จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 14:26:48

ความคิดเห็นที่ 3 รูปนี้คือหน้าโรงแรม Travelodge ที่ผมพัก ซึ่งเป็นส่วนนึงของอาคารเก่า The Royal York จากรูปถ้าสังเกตด้านล่างขวาจะเห็นป้ายชื่อโรงแรมว่า Travelodge นะครับ จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 14:29:00

ความคิดเห็นที่ 4 อย่างที่เคยแจ้งในกระทู้ก่อนหน้านี้ว่าถ้าจองล่วงหน้า และได้จังหวะเวลาที่ดีก็สามารถเข้าพักโรงแรมในเครือ Travelodge ได้ในราคาคืนละ 19 ปอนด์ครับ จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 14:30:17

ความคิดเห็นที่ 5 จุดแรกประจำวันนี้ก็คือ The Circus ครับ เป็นกลุ่มของบ้านหรืออาคารสามชั้นที่สร้างล้อมรอบเป็นวงกลม รูปที่เห็นนี้เป็นเพียงแค่ส่วนเดียวของ The Circus ครับ แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 55 14:40:07 จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 14:37:51

ความคิดเห็นที่ 6 อาคารในย่านนี้จะสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Georgian โดยเริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1754 และสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1768 ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง John Wood จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 14:43:05

ความคิดเห็นที่ 7 The Circus จะแบ่งกลุ่มของอาคารออกเป็น 3 ช่วงขนาดเท่าๆกัน แล้วล้อมเป็นวงกลม โดยตรงกลางจะมีสนามหญ้าและต้นไม้ขนาดใหญ่ ครับ แถวๆนั้นก็จะมีรถยนต์ของเจ้าของบ้านมาจอดกันเต็มฟุตบาทไปหมดครับ แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 55 14:48:04 จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 14:47:30

ความคิดเห็นที่ 8 สวยจัง อยากไปยุโรปบ้าง สถาปัตยกรรม สวยมากๆเลย ขอบคุณที่มาแบ่งปันครับ ต้องเก็บตังค์ไปบ้างแระ จากคุณ : Mickey-kun เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 14:51:21

ความคิดเห็นที่ 9 จาก The Circus เดินตามทางไปเรื่อยๆ อีกซักพักเดียวก็จะพบกับ Royal Crescent ซึ่งออกแบบโดยลูกชายของ John Wood โดยเริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1767 และสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1774 จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 14:54:08

ความคิดเห็นที่ 10 Royal Crescent ก็ยังคงเป็นอาคารที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Georgian ของจริงสวยงามมากๆ เลยครับ ชื่อเดิมคือ The Crescent แต่มีการเติม Royal เข้าไปข้างหน้าเพราะในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 เจ้าชาย Frederick, Duke of York and Albany เคยเสด็จมาประทับที่นี่ครับ จากความสวยงามของ The Royal Crescent ทำให้ปัจจุบันมีบางอาคารกลายเป็นโรงแรม, พิพิธภัณฑ์, อาคารสำนักงาน เป็นต้นครับ รวมถึงได้โอกาสประกอบในฉากภาพยนตร์และรายการทีวีอีกหลายรายการด้วยกัน จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 15:00:34

ความคิดเห็นที่ 11 ด้านหน้าของ Royal Crescent จะเป็นเนินสนามหญ้ากว้างใหญ่มากที่ชื่อว่า Royal Victoria Park ครับ ถ้าสังเกตจากรูปจะเห็นว่าจะมีแนวของหญ้าที่มีสีเขียวเข้มและอ่อนต่างกัน แนวหญ้าสีเขียวเข้มที่เห็นคือ แนวร่องที่เค้าออกแบบมาเป็นกำแพงที่เรียกว่า Ha-ha รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถหาอ่านได้จาก http://en.wikipedia.org/wiki/Royal_Crescent จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 15:17:03

ความคิดเห็นที่ 12 เดินชมความงามย่านนี้ได้ซักพักก็ได้เวลาที่จะเข้าไปเดินเที่ยวใน Roman Bath แล้วครับ จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 15:24:14

ความคิดเห็นที่ 13 ตรงนี้คือบริเวณทางเข้า Roman Bath ซึ่งเราจะต้องซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมสถานที่ สำหรับผู้ใหญ่ก็คนละ 12.25 ปอนด์ครับ รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเวลาทำการ และราคาเข้าชมที่ Update สามารถเช็คได้ที่นี่ครับ http://www.romanbaths.co.uk/visiting.aspx จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 15:40:57

ความคิดเห็นที่ 14 สวยงาม  ตามไปเที่ยวด้วยครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 16:00:41

ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อผ่านเข้ามาก็จะพบกับแผนผังแสดงภาพโดยรวมของจุดแวะชมสถานที่ต่างๆ ใน Roman Bath แห่งนี้ จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 16:00:43

ความคิดเห็นที่ 16 ตอนนี้เรายืนอยู่ตรงระเบียงซึ่งสร้างเสร็จในปี 1897 ส่วนด้านล่างจะเป็นสระน้ำพุร้อนธรรมชาติ ซึ่งเรียกส่วนนี้ว่า The Great Bath จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 16:24:27

ความคิดเห็นที่ 17 ริมระเบียงชั้นสองนี้มีรูปปั้นของผู้ปกครองจากโรมันที่มาปกครองแคว้น Britannia รวมถึงจักรพรรดิ์ต่างๆ เช่น Julius Caesar ซึ่งอยู่ในมุมบนขวาของรูปครับ จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 16:31:41

ความคิดเห็นที่ 18 รูปปั้นของจักรพรรดิ์ Constantine มหาราชครับ จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 16:39:16

ความคิดเห็นที่ 19 ตามไปเที่ยวต่อค่ะ ฟ้าครึ้มๆเนอะ^^ จากคุณ : หมูอ้วนขี้อ้อน เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 16:40:04

ความคิดเห็นที่ 20 อาคารใน Roman Bath สวยงาม Classic มากๆ ครับ เสียดายวันนั้นฝนตกตั้งแต่เช้า เลยอดได้ภาพฟ้าสวยๆ มาประกอบด้วย จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 16:44:50

ความคิดเห็นที่ 21 จากระเบียงชั้นสองด้านนอก เรากำลังจะไปเยี่ยมชมภายใน Roman Bath ครับ ด้านในมีอะไรให้เยี่ยมชมมากมายเลย ตามมาได้เลยครับ จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 16:59:26

ความคิดเห็นที่ 22 จากหลักฐานที่ขุดค้นพบ ทำให้เจอชิ้นส่วนที่มีการจารึกไว้ทำให้ทราบว่า Roman Bath น่าจะมีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.76 จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 17:06:29

ความคิดเห็นที่ 23 ในช่วงต้นของศตวรรษที่ 4 Roman Bath และวิหาร Sulis Minerva ก็ได้ถูกต่อเติมขยายออกไปมาก ซึ่งสามารถรองรับผู้เข้ามาใช้งานได้เป็นร้อยๆ คน ทำให้ช่วงนั้น Roman Bath เต็มไปด้วยสีสันและกิจกรรมต่างๆ มากมาย จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 17:13:36

ความคิดเห็นที่ 24 รูปนี้แสดงถึง route ในการเยี่ยมชมจุดต่างๆ ภายใน Roman Bath แห่งนี้ครับ จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 17:24:51

ความคิดเห็นที่ 25 ตรงนี้แสดงถึงหน้าจั่วของวิหาร Sulis Minerva ที่เห็นในรูปคือชิ้นส่วนที่มีการขุดค้นพบ ส่วนที่หายไปก็แสดงเติมเต็มโดยการฉายภาพแทน ตรงกลางจะเป็น The Gorgon's head ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่มีชื่อเสียงมากครับ รายละเอียดเพิ่มเติมหาอ่านได้ที่นี่ครับ http://www.romanbaths.co.uk/walkthrough/5_temple/the_gorgons_head.aspx จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 17:34:25

ความคิดเห็นที่ 26 ถึงฟ้าไม่ใสปิ้ง แต่ Roman Bath ท่ามกลางกลิ่นไอ Brit ชวนมองมากๆ ค่ะ ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ จากคุณ : Sweety-around-the-world เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 19:30:13

ความคิดเห็นที่ 27 แผนที่นี้แสดงถึงอาณาเขตของจักรวรรดิโรมันในตอนนั้นซึ่งก็มีเมือง Aquae Sullis หรือเมือง Bath ในปัจจุบันรวมอยู่ในนั้นด้วย จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 00:43:47

ความคิดเห็นที่ 28 วิหาร Sulis Minerva แห่งนี้ก็เป็นสถานที่ที่นักบวชมาทำพิธีกรรมเพื่อแสดงความเคารพสักการะแด่เทพเจ้า จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 00:47:41

ความคิดเห็นที่ 29 รูปปั้นส่วนหัวของ Minerva ซึ่งเป็นเทพธิดาของชาวโรมัน และเทียบเท่ากับเทพธิดา Athena ของชาวกรีก จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:00:08

ความคิดเห็นที่ 30 ภาพการขุดค้นพบขั้นบันไดของวิหารที่มีอายุนับพันๆปีในปี 1981 จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 08:16:42

ความคิดเห็นที่ 31 รูปจำลองภาพของบ่อน้ำพุร้อนในวิหาร แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 55 08:30:45 จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 08:18:57

ความคิดเห็นที่ 32 ท่อระบายน้ำของน้ำพุร้อนที่ล้นออกมา ซึ่งจะไหลไปลงแม่น้ำ ปัจจุบันก็ยังมีน้ำพุร้อนไหลออกมาอยู่นะครับ ในรูปจะเห็นถึงไอของน้ำพุร้อนระเหยอยู่ตลอดเวลา จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 08:25:01

ความคิดเห็นที่ 33 รูปแสดงถึงวิธีการควบคุมการไหลของน้ำที่ดำเนินการโดยวิศวกรของชาวโรมันตั้งแต่ศตวรรษที่ 1 โดยจะมีการสร้างเขื่อนกำแพงหินรอบๆ บ่อน้ำพุร้อนเพื่อที่จะจ่ายน้ำให้ไหลเข้าสู่ The Bath ตามด้านขวามือของรูป ส่วนของน้ำที่ล้นออกมาก็จะไหลผ่านท่อระบายน้ำเพื่อไปลงสู่แม่น้ำ Avon ตามด้านซ้ายมือของรูป จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 08:29:51

ความคิดเห็นที่ 34 การสร้างอิฐในรูปแบบต่างๆ เพื่อมาใช้ในการก่อสร้าง The Bath ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งใหม่ในสมัยนั้นที่ชาวโรมันนำมาถ่ายทอดให้กับชาวอังกฤษ จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 11:15:29

ความคิดเห็นที่ 35 ร่องระบายน้ำของ Roman Bath จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 11:17:49

ความคิดเห็นที่ 36 ตามรูป route การเยี่ยมชมในความเห็นที่ 24 ตอนนี้เราลงมาที่ชั้นล่าง และออกมาถึงจุด Great Bath แล้วครับ ว่ากันว่าเมื่อหลายสิบปีก่อนสมัยที่อนุญาตให้คนลงไปเล่นในสระ เคยมีคนลงไปว่ายน้ำแล้วเกิดติดเชื้อและเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่กี่วัน ทำให้ต้องมีการออกกฏห้ามนักท่องเที่ยวลงไปในสระน้ำนับจากนั้นเป็นต้นมา แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 55 11:41:44 จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 11:21:22

ความคิดเห็นที่ 37 Great Bath ในมุมต่างๆ ครับ จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 11:22:17

ความคิดเห็นที่ 39 อีกมุมครับ จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 11:27:45

ความคิดเห็นที่ 40 อีกซักมุม จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 11:28:40

ความคิดเห็นที่ 41 รูปสุดท้ายก่อนเข้าไปในอาคารอีกที จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 11:31:50

ความคิดเห็นที่ 42 แต่งตัวแบบยุคโรมันโบราณ เข้ากับบรรยากาศที่ Roman Bath เลยครับ จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 11:35:15

ความคิดเห็นที่ 43 เดินเข้ามาในอาคารซักพักก็มาเจอกับห้องอบร้อน (Heated Room) ที่แสดงถึงวิธีการตามแบบฉบับโรมันโบราณ ภายใต้พื้นจะมีเสาตั้งเรียงอยู่เป็นจำนวนมากเพื่อรองรับแผ่นพื้น ซึ่งก็ทำให้มีช่องว่างใต้พื้นเพื่อให้อากาศร้อนสามารถไหลเวียนได้ ทำให้พื้นและผนังมีอุณหภูมิที่สูง ส่วนควันไฟที่เกิดจากการเผาถ่านก็จะไหลเวียนออกไปทางหลังคา แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 55 13:22:52 จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 11:57:14

ความคิดเห็นที่ 44 ดูกันชัดๆ อีกซักรูป จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 11:59:35

ความคิดเห็นที่ 45 ใกล้ๆ กันนั้นมีบ่อน้ำ Cold Plunge ทรงกลมขนาดใหญ่ที่มีน้ำใสแจ๋ว ต่างจากสระน้ำพุร้อนสีเขียวที่อยู่ด้านนอก บ่อนี้เป็นสระน้ำเย็นสำหรับให้แช่หลังออกมาจากห้อง Heated Room เพื่อปรับสมดุลอุณหภูมิในร่างกาย  และก็จะคล้ายๆ กับบ่อน้ำในสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังหลายที่ ที่ก้นบ่อจะเต็มไปด้วยเหรียญต่างๆ จากนักท่องเที่ยวที่โยนทิ้งไว้เพื่ออธิฐานขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 13:28:13

ความคิดเห็นที่ 46 ตบท้ายการเยี่ยมชมใน Roman Bath ด้วยการชิมน้ำแร่ธรรมชาติครับ จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 13:41:27

ความคิดเห็นที่ 47 เราใช้เวลาภายใน Roman Bath ประมาณ 2 ชั่วโมง ออกมาฝนก็ยังไม่หยุดตกอีก บรรยากาศเลยทึมๆ อย่างที่เห็นในภาพครับ จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 13:44:20

ความคิดเห็นที่ 48 ประตูของ Bath Abbey ขนาดใหญ่มาก จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 14:04:44

ความคิดเห็นที่ 49 รูปสุดท้ายก่อนลาจาก Roman Bath ที่งดงาม จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 14:06:57

ความคิดเห็นที่ 50 เป้าหมายต่อไปในวันนี้ก็คือเมือง Cardiff ประเทศ Wales โดยจุดท่องเที่ยวที่ตั้งใจจะไปในครั้งนี้คือ Cardiff Castle Post code ของ Cardiff Castle คือ CF10 3RB โดยสามารถหารายละเอียดเพิ่มเติมต่างๆ รวมถึงแผนที่ได้ที่ http://www.cardiffcastle.com/ ที่จริงแล้วเวลาที่ใช้ในการขับรถจาก Roman Bath มาที่นี่ประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที ด้วยระยะทาง 88.8 km แต่เนื่องจากฝนตกตลอดทาง บางช่วงก็หนัก เราเลยแวะพักทานกลางวันที่ KFC กันหลังจากขับรถขึ้นสะพานขนาดใหญ่มากข้ามทะเลเข้ามาในเขตประเทศ Wales แล้ว (ค่าข้ามสะพานมา Wales คือคันละ 6 ปอนด์ แต่ขากลับเข้าอังกฤษไม่เสียเงินครับ)  ทำให้กว่าจะถึง Cardiff Castle ก็ใช้เวลาร่วมๆ 3 ชั่วโมง จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 14:29:25

ความคิดเห็นที่ 51 ป้อมปราการของ Cardiff Castle ที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางสายฝน ประดับด้วยธงชาติจากหลายประเทศ ตรงกลางคือธงของประเทศ Wales ที่มีสัญลักษณ์เป็นรูปมังกรแดง จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 14:36:01

ความคิดเห็นที่ 52 ภาพป้อมปราการด้านหน้า และหอนาฬิกาที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์ ดูแล้วคล้ายๆ หอนาฬิกาที่เมือง Prague ของสาธารณรัฐเช็ค แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 55 14:44:06 จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 14:43:47

ความคิดเห็นที่ 53 ภาพประตูทางเข้า Cardiff Castle จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 14:45:13

ความคิดเห็นที่ 54 zoom หอนาฬิกาเข้าไปใกล้ๆ สวยงามมากครับ แต่ถ่ายรูปค่อนข้างยาก เพราะฝนตกตลอด ส่วนใหญ่ภาพจะเสียเพราะติดเม็ดน้ำฝนมาด้วย จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 14:50:54

ความคิดเห็นที่ 55 ผ่านเข้ามาก็เจอ Norman Keep ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้าเลยครับ Norman Keep แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1091 จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 15:06:52

ความคิดเห็นที่ 56 ค่าเข้าชมของ Cardiff Castle (ผมเลือกแบบ Essential Ticket) ก็คนละ 11 ปอนด์ ที่ชั้น 2 ของอาคารจำหน่ายตั๋วจะมีห้องแสดง Film Show ที่บอกเล่าเรื่องราวของ Cardiff Castle ซึ่งย้อนกลับไปเมื่อสองพันปีก่อนสมัยที่ชาวโรมันบุกมายึดครองดินแดนแถบนี้ จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 15:40:36

ความคิดเห็นที่ 57 หลังจากชม Film Show เสร็จก็เดินออกมาชมบรรยากาศบนแนวกำแพงที่ล้อมรอบ Cardiff Castle ท่ามกลางสายฝน จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 16:02:44

ความคิดเห็นที่ 58 แนวกำแพงที่สามารถชมวิวภายใน Cardiff Castle ครับ จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 16:15:57

ความคิดเห็นที่ 59 มุมนี้ได้เห็นทั้งส่วน Norman Keep, Castle และไกลไปถึงสนาม Millennium Stadium ด้วยครับ จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 16:25:29

ความคิดเห็นที่ 60 ภายใน Castle แห่งนี้มีการตกแต่งห้องที่สวยงามมากครับ เดี๋ยวเราจะตามเข้าไปดูกัน จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 16:29:18

ความคิดเห็นที่ 61 อีกซักรูปก่อนเข้า Castle ครับ วิวนี้สวยดี จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 16:32:56

ความคิดเห็นที่ 62 ห้องนี้ชื่อว่า Arab Room น่าจะเป็นหนึ่งใน Hilight ของ Cardiff Castle แห่งนี้ การตกแต่งทำได้สวยงามมากด้วยการออกแบบที่ถือว่าเป็นผลงาน Masterpiece ของ William Burges เดิมถูกออกแบบมาเพื่อใช้เป็นห้องนั่งเล่น แต่บางครั้งก็กลายเป็นห้องนอนสำหรับรับรองแขก จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 16:46:20

ความคิดเห็นที่ 63 เพดานของห้องนี้ทำจากไม้ประดับด้วยทอง ตกแต่งด้วย style ที่เรียกว่า Muqarnas เพื่อรองรับน้ำหนักของหลังคา จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 16:57:24

ความคิดเห็นที่ 64 ห้องนี้ก็ตกแต่งได้งดงามมากๆ เช่นกันครับ น่าจะเป็นห้องอาหาร จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 17:13:47

ความคิดเห็นที่ 65 ชมกันหลายๆ มุมครับ จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 17:16:37

ความคิดเห็นที่ 66 ... จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 17:32:44

ความคิดเห็นที่ 67 .... จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 17:35:33

ความคิดเห็นที่ 68 ..... จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 17:37:19

ความคิดเห็นที่ 69 ...... จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 17:40:38

ความคิดเห็นที่ 70 ส่วนของห้องสมุด จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 17:43:31

ความคิดเห็นที่ 71 ... จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 17:46:25

ความคิดเห็นที่ 72 ออกมานอก Castle เพื่อจะไปชมในส่วนของ Norman Keep ต่อครับ ก่อนเดินไปก็มาเจอสัญลักษณ์ของ Wales ก็คือมังกรแดงตัวนี้ จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 17:50:40

ความคิดเห็นที่ 73 จะเข้าไป Norman Keep ได้ก็ต้องเดินขึ้นหลายขั้นบันไดอยู่ แถมสูงชันด้วย จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 17:55:22

ความคิดเห็นที่ 74 วิวจากด้านบนของ Norman Keep เมื่อมองย้อนกลับมาที่ด้านหน้าของ Cardiff Castle จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 17:59:58

ความคิดเห็นที่ 75 แบบมุมกว้างบ้าง จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 18:01:34

ความคิดเห็นที่ 76 อีกซักรูป จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 18:04:25

ความคิดเห็นที่ 77 ภายใน Norman Keep ก็มีสนามหญ้าอยู่ด้านหลังด้วย พร้อมกำแพงหินล้อมรอบ จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 18:06:09

ความคิดเห็นที่ 78 ลาจาก Cardiff Castle ที่แสนสวยงามด้วยภาพแนวกำแพงรอบนอกครับ จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 18:09:39

ความคิดเห็นที่ 79 หลังจากเที่ยวมาทั้งวันแล้ว เราก็ต้องเดินทางกลับไปยังประเทศอังกฤษอีกครั้งเพื่อเข้าสู่ที่พัก Travelodge Burford Cotswolds ซึ่งได้ราคาที่พักคืนละ 42.75 ปอนด์ และสามารถจอดรถได้ฟรีครับ Post code ของ Travelodge Burford Cotswolds คือ OX18 4JF เวลาที่ใช้ในการขับรถจาก Cardiff Castle จนถึงที่พักประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที ด้วยระยะทาง 141 km ซึ่งก็ถึงที่พักประมาณเกือบ 2 ทุ่ม โดยก่อนถึงที่พักเราก็ต้องแวะเติมน้ำมัน ซึ่งน้ำมันที่นี่ราคาแพงมากครับ เพราะน้ำมันเบนซิน 95 ที่ผมเติมไปนั้นราคาลิตรละ 1.45 ปอนด์ ซึ่งเป็นราคา ณ วันที่ 9 เมษายน 2555 ถ้าคิดที่ 1 ปอนด์ = 49 บาท ก็เท่ากับว่าน้ำมันเบนซิน 95 ที่นี่ราคาลิตรละ 71 บาทครับ การเติมน้ำมันที่นี่เราต้องเติมเองไม่มีเด็กปั๊มมาเติมให้ไม่ว่าคุณจะขับรถแพงขนาดไหนมาก็ตาม เมื่อเติมเสร็จแล้วก็จำว่าเติมไปกี่ปอนด์จากหัวจ่ายเบอร์อะไร แล้วก็เดินเข้าไปชำระเเงินเองที่เคาน์เตอร์ภายในร้านครับ แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 55 21:55:22 จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 21:53:13

ความคิดเห็นที่ 80 ตามมาชมความงดงามของย่าน Cotswold, เมือง Oxford และ Shopping กันอย่างจุใจที่ Bicester Outlet ได้เลยครับ ความคิดเห็นนี้ได้แตกไปยังกระทู้ E12264638 จากคุณ : TensaiBoy เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 55 16:05:26