ความคิดเห็นที่ 1 เท้าแตะผืนดินเมืองปักกิ่งของเช้าวันที่ 7 มิถุนายน แดดร้อนใช้ได้สลับกับฟ้ามืดคลื้มเป็นบางครั้ง แต่ก็มีลมเย็นๆปะทะเข้าสู่ร่างเป็นระยะๆสร้างความเย็นสดชื่นได้พอควร เป้าหมายแรกของเราในเช้าวันนี้คือ "กิน"  ทานอาหารเช้ากันก่อนที่ภัตราคาร ใครก็ตามที่มาเที่ยวปักกิ่งกับทัวร์ สิ่งหนึ่งที่จะต้องพูดถึงคือ อาหารการกิน ที่ทางทัวร์จัดให้ซึ่งอยู่ในระดับดีถึงดีมาก ทานระดับภัตราคารเกือบทุกมื้อก็ว่าได้ หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จ เราก็มุ่งหน้าสู่วัดลามะทันที ที่วัดลามะสิ่งที่ผมชอบมากคือ ต้นแปะก๊วย ที่ยืนต้นร่มรื่นตลอดสองแนวถนนเข้าสู่วัดลามะ จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 22:52:15

ความคิดเห็นที่ 2 "วัดลามะ ยงเหอกง" สถานที่มีความวิจิตรและได้รับการบูรณะอย่างยอดเยี่ยมที่สุดในปักกิ่ง สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1694 แต่เดิมเคยเป็นตำหนักที่ประทับของจักรพรรดิหย่งเจิ้น หรือองค์ชายสี่ผู้เป็นพระราชบิดาของจักรพรรดิเฉียนหลงแห่งราชวงศ์ชิง ต่อมาตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมา ที่นี่ได้กลายป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธนิกายมหายาน และศิลปะแบบธิเบต นมัสการพระศรีอารยเมตไตรที่งดงามและสูงถึง 23 เมตร โดยเชื่อกันว่าเป็นงานแกะสลักจากไม้จันทน์เพียงชิ้นเดียว ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในศาลาหมื่นสุข ว่านฟู่เก๋อ จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 22:56:02

ความคิดเห็นที่ 3 "วัดลามะ" จะแบ่งออกเป็น 5 ชั้นด้วยกัน แต่ละชั้นนั้นจะมีตัวอาคารที่สวยงามและมีความสำคัญ ที่นี่ถือว่าเป็นวัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในเมืองปักกิ่ง ชาวปักกิ่งนิยมมาไหว้พระขอพรและมาประกอบพิธีกรรมต่างๆ จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 22:59:49

ความคิดเห็นที่ 4 ลวดลายอันวิจิตรบรรจงตัวอาคารที่วัดลามะ จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 23:05:46

ความคิดเห็นที่ 5 บรรยากาศภายในวัดลามะ จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 23:08:06

ความคิดเห็นที่ 6 ศาลาหมื่นสุข ว่านฟู่เก๋อ ประดิษฐานพระศรีอารยเมตไตร  ที่งดงามและสูงถึง 23 เมตร โดยเชื่อกันว่าเป็นงานแกะสลักจากไม้จันทน์เพียงชิ้นเดียว จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 23:10:28

ความคิดเห็นที่ 7 ขอตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ^^ จากคุณ : เด็กดอย เจ้าแม่ปาเงิน เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 23:13:06

ความคิดเห็นที่ 8 ออกจากวัดลามะเราก็ไปนั่งสามล้อหูถ้งเพื่อชมเมืองเก่า ซึ่งภายในจะมีทะเลสาบใหญ่ รอบๆทะเลสาบจะมีร้านอาหาร บาร์ดื่มกิน เต็มไปหมด เป็นที่เที่ยวสำหรับคนหนุ่มสาวและนักท่องเที่ยว จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 23:19:02

ความคิดเห็นที่ 9 คุณเด็กดอย เจ้าแม่ปาเงิน.....ตามมาเที่ยวปักกิ่งด้วยกันเลยครับ นอกจากการนั่งสามล้อแล้วที่นี่ยังมีจักรยานให้เช่าปั่นเที่ยวเมืองเก่า มีให้เลือกทั้งแบบปั่นเดี่ยว หรือแบบปั่นสองคน จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 23:23:15

ความคิดเห็นที่ 10 จากบ้านเรือนเก่าสมัยโบราณกลายมาเป็นร้านอาหาร บาร์ดื่มกิน  ความเจริญบุกไปถึงที่ไหนการเปลี่ยนแปลงก็จะถามหา จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 23:25:33

ความคิดเห็นที่ 11 นั่งสามล้อหูถ้งเที่ยวเมืองเก่าเสร็จ ก็ถึงเวลาทานอาหารเที่ยงกันพอดี มื้อนี้เราทานมื้อเที่ยงที่ภัตราคารแถวจตุรัสเทียนอันเหมิน เพราะจุดหมายของเราในช่วงบ่ายคือการเที่ยวจตุรัสเทียนอันเหมินและพระราชวังกู้กง หลังทานข้าวเสร็จเราก็เดินไปยังพระราชวังกู้กง ตามจริงแล้วเราต้องแวะเที่ยวจตุรัสเทียนอันเหมินเสียก่อนแต่ว่าวันนี้มีการประชุมผู้นำประเทศจากหลายชาติเลยมีการปิดจตุรัสเทียนอันเหมินไม่ให้คนเข้าไปเที่ยว ได้แต่มองดูไกลๆ ระหว่างทางไปยังพระราชวังกู้กง ก็จะผ่านสถานีรถไฟเมืองปักกิ่ง วึ่งปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์รถไฟไปแล้ว จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 23:48:45

ความคิดเห็นที่ 12 อีกหนึ่งประตูชัยที่ยังคงรักษาไว้ ไม่ได้ทุบทิ้งเหมือนกับประตูอื่น จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 23:50:22

ความคิดเห็นที่ 13 บริเวณจตุรัสเทียนอันเหมิน จะมีอนุสาวรีย์วีรชนตั้งอยู่ จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 23:52:30

ความคิดเห็นที่ 14 กำลังเดินอยู่ดีๆ ก็มีกลุ่ม SECURITY เดินผ่านมาพอดี จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 23:56:05

ความคิดเห็นที่ 15 ข้างจตุรัสเทียนอันเหมิน ฝั่งตะวันออกจะมีพิพิธภัณฑ์การปฏิวัติแห่งชาติและพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ชาติจีน จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 23:57:41

ความคิดเห็นที่ 16 บริเวณจตุรัสเทียนอันเหมิน มีการประดับประดาด้วยดอกไม้ ไม้ประดับอย่างสวยงาม จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 23:58:59

ความคิดเห็นที่ 17 เดินมาเรื่อยๆใกล้จะถึงทางเข้าพระราชวังกู้กงก็เจอกับรถขายน้ำ เป็นรถมินิบัสเห็นแล้วน่าจะเอารถมินิบัสบ้านเรามาทำบ้างคงจะดี จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 00:01:02

ความคิดเห็นที่ 18 หอรำลึกท่านประธานเหมาและหอประตูเจิ้งหยางเหมิน หรือเฉียนเหมิน ทางเดินสู่พระราชวังกู้กง จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 00:03:43

ความคิดเห็นที่ 19 น้ำพุ่ตรงหน้าทางเข้าพระราชวังกู้กง จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 00:05:34

ความคิดเห็นที่ 20 ประตูทางเข้าพระราชวังกู้กง เพียงแค่ประตูก็ยิ่งใหญ่อลังการแล้ว  หากจะเที่ยวแบบเจาะลึกจริงๆผมว่าเที่ยวทั้งวันคงไม่พอเป็นแน่ "พระราชวังกู้กง" สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิหย่งเล่อแห่งราชวงศ์หมิง เป็นทั้งบ้านและชีวิตของจักรพรรดิในราชวงศ์หมิงและชิงรวมทั้งสิ้น 24 พระองค์ พระราชวังเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 500 ปี มีชื่อในภาษาจีนว่า ‘กู้กง’ หมายถึงพระราชวังเดิม มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ‘จื่อจิ้นเฉิง’ ซึ่งแปลว่า ‘พระราชวังต้องห้าม’ เหตุที่เรียกพระราชวังต้องห้าม เนื่องมาจากชาวจีนถือคติในการสร้างวังว่า จักรพรรดิเปรียบเสมือนบุตรแห่งสวรรค์ ดังนั้นวังของบุตรแห่งสวรรค์จึงต้องเป็น ‘ที่ต้องห้าม’ คนธรรมดาสามัญไม่สามารถล่วงล้ำเข้าไปได้ จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 00:09:01

ความคิดเห็นที่ 21 บริเวณภายในพระราชวังกู้กง จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 00:11:25

ความคิดเห็นที่ 22 ช่วงบ่ายนี้อากาศเป็นใจ ฟ้าดูคลื้ม ลมเย็นสบาย เดินเที่ยวไม่ร้อนเท่าไหร่ จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 00:13:16

ความคิดเห็นที่ 23 เด็กๆในเมืองปักกิ่งก็มาทัศนศึกษา เห็นแล้วน่ารักน่าหยิก จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 00:14:36

ความคิดเห็นที่ 24 ยิ่งมองดูยิ่งทึ่ง คนสมัยก่อนสร้างได้อย่างไร มันใหญ่โตมโหฬารมากๆ จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 00:16:21

ความคิดเห็นที่ 25 ทุกวันนี้คนจีนตามต่างจังหวัดของจีนนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น อันเนื่องจากคนจีนตามต่างจังหวัดร่ำรวยขึ้น มีเงินเก็บขึ้นเพราะไม่ต้องเสียภาษีให้กับรัฐบาลแล้ว ทำไร่ทำนาได้เท่าไหร่ก็ได้หมดไม่ต้องเสียภาษีให้รัฐเหมือนแต่ก่อน จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 00:18:55

ความคิดเห็นที่ 26 ช่วงนี้คนจีนยังเที่ยวไม่มาก ต้องเป็นช่วงเดือนกรกฏาคม สิงหาคม คนจีนจะออกมาเที่ยวกันเยอะ จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 00:20:41

ความคิดเห็นที่ 27 หากจะเดินเที่ยวเดินดูแบบพินิจพิจารณากันจริงๆคงต้องใช้เวลาทั้งวัน คนส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวมักจะเดินตรงกลางตลอด อาคารด้านข้างมักจะไม่ค่อยไปชมกันเท่าไหร่ เพราะหากแวะชมคงเสียเวลา จึงเดินตรงเท่านั้นเพื่อให้ทันกับเวลา จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 00:23:42

ความคิดเห็นที่ 28 พระราชวังกู้กงมีการปรับปรุงบูรณะใหม่เป็นบางจุด ภาพเขียนหรือลวดลายต่างๆก็มีการเขียนขึ้นมาใหม่ ดูชัดเจนมากยิ่งขึ้น จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 00:25:52

ความคิดเห็นที่ 29 ความยิ่งใหญ่อลังการของพระราชวังกู้กง จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 00:27:40

ความคิดเห็นที่ 30 ส่วนตัวอาคารพระราชวังด้านใน จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 00:29:10

ความคิดเห็นที่ 31 ตามไปเที่ยวเมืองจีนด้วยคนครับ จากคุณ : ข้าวเสาไห้ เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 00:29:40

ความคิดเห็นที่ 32 หากเปรียบเทียบตัวอาคารกับตัวคนมันต่างกันลิบลับ จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 00:30:37

ความคิดเห็นที่ 33 คุณข้าวเสาไห้...ตามมาเลยครับ เมื่อช่วงเย็นก็ติดตามกระทู้เที่ยวสารคามของคุณข้าวเสาให้อยู่ครับ ----------------------------------------------------------------------------------------- ที่จริงแต่ละอาคารนั้นมีที่มาที่ไป แต่บอกตรงๆจำไม่ค่อยได้เท่าไหร่มัวแต่เดินชมตรงนั้นตรงนี้เพลินครับ จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 00:34:43

ความคิดเห็นที่ 34 มองไปทางไหนก็เจอแต่ความยิ่งใหญ่ บรรพบุรุษของคนจีนทิ้งสิ่งมีค่ามหาศาลไว้ให้กับลูกหลานจริงๆ จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 00:36:34

ความคิดเห็นที่ 35 หลังคาสีทองเหลืองอร่าม สลับซับซ้อนกัน จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 00:37:41

ความคิดเห็นที่ 36 เห็นแล้วน่ารักดี  เดินเที่ยวจนเหนื่อยก็พากันนั่งพัก จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 00:38:39

ความคิดเห็นที่ 37 ออกจากพระราชวังกู้กงแล้วก็ค่ำพอดี ก็มุ่งหน้าสู่ภัตราคารเพื่อทานอาหารเย็นจากนั้นก็เข้าโรงแรมที่พัก บอกตรงๆว่าจะสองทุ่มแล้วพระอาทิตย์ยังไม่ตกดินเลยท้องฟ้ายังสว่างอยู่เลย ขึ้นพักก็ต้องร้องว๊าวๆแล้ว โหๆทัวร์จัดให้ผมพักคนเดียว เตียงเดี่ยวด้วย คืนนี้พักที่ฮอลิเดย์อิน จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 00:42:45

ความคิดเห็นที่ 38 โปรแกรมเที่ยววันใหม่ของเราเริ่มต้นที่ "หอฟ้าเทียนถาน"  เราออกเดินทางไปแต่เช้าจะได้ไม่ร้อนนัก วึ่งจริงๆแล้วอากาศวันนี้ดีมากๆไม่ร้อนเท่าไหร่ มีลมเย็นมาเป็นระยะๆ จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 00:46:03

ความคิดเห็นที่ 39 สิ่งหนึ่งที่คนมาเที่ยวหอฟ้าเทียนถานจะได้พบได้เจอคือ กลุ่มอาซิ้ม อาม่า อากง มาออกกำลังกายกันในตอนเช้า ซึ่งทุกคนที่เข้ามาในบริเวณหอฟ้าเทียนถานไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยว หรือคนจีนที่อยู่ระแวกนี้ต้องเสียเงินค่าผ่านประตูทุกคน  คนจีนที่มาออกกำลังกายจะไม่เข้าไปข้างในแต่จะเข้าไปออกกำลังกายตามสวนที่อยู่ข้างๆแทนซึ่งเสียค่าเข้าเป็นรายปี จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 00:49:45

ความคิดเห็นที่ 40 เห็นแล้วก็เป็นสีสันอีกแบบหนึ่งของที่นี่ การเริ่มชีวิตในเช้าวันใหม่กับการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ สามารถทำให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาหยุดมองดูเสียมิได้ จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 00:52:02

ความคิดเห็นที่ 41 การเขียนอักษรจีนด้วยปลายพู่กันยักษ์ก็มีให้เห็น เป็นการเขียนอักษรจีนโบราณ เขียนเป็นบทโครงกลอน  ซึ่งคนจีนรุ่นใหม่บางคนอ่านไม่ออก รัฐบาลจีนจึงมีนโยบายให้มีการเรียนการสอนอักษรจีนโบราณให้กับนักเรียนเพื่อที่จะให้อักษรจีนโบราณไม่เลือนหายไปและคนจีนรุ่นใหม่สามารถใช้ภาษาจีนโบราณได้ อ่านได้ เขียนได้ จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 00:55:05

ความคิดเห็นที่ 42 ไว้ตามไปเที่ยวด้วยกันอีกนะครับ จากคุณ : ข้าวเสาไห้ เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:02:00

ความคิดเห็นที่ 43 เราเดินเข้ามาข้างใน ซึ่งที่หอฟ้าเทียนถานจะมีเจ้าหน้าที่ประจำตามประตูต่างๆเพื่อรอตรวจบัตรเข้าชม และผู้ที่พาคุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย ที่นั่งรถเข็นไปเที่ยวไม่ต้องห่วงที่นี่มีทางสำหรับรถเข็นอยู่ สะดวกในการเที่ยวครับ จุดแรกที่เราเข้าไปก็คือ  "ลานหยวนซิว" ลานหยวนชิว  ตั้งอยู่ทางด้านใต้ของตําหนักฉีเหนียนเตี้ยนเป็นแบบคล้ายเวทีกลม ๓ ชั้น สร้างด้วยหินอ่อนสีนํ้าเงินและสีขาว แต่ละชั้นล้อมรอบด้วยลูกกรงหินอ่อนสีขาว เป็นสถานซึ่งพระจักรพรรดิบวงสรวงเทพยดาหรือขอให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:04:51

ความคิดเห็นที่ 44 คุณข้าวเสาไห้....จะรอชมคร๊าบ ----------------------------------------------------------------------------------------- ออกจากลายหยวนซิว เราก็มุ่งหน้าไปยัง ตำหนักหวงฉงอี่ ที่อยู่ด้านในถัดไปทันที จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:07:59

ความคิดเห็นที่ 45 "ตําหนักหวงฉงอี่" สร้างเป็นรูปทรงกลมหลังคาชั้นเดียว มุงด้วยกระเบื้องเคลือบสีนํ้าเงินแก่ เป็นสถานสําหรับเก็บรักษาแผ่นป้ายพระนาม"เทพเจ้าผู้ปกครองสวรรค์" ตําหนักนี้ล้อมรอบด้วยกําแพงเตี้ย ๆ กําแพงนี้สร้างถูกต้องตามหลักวิชาว่าด้วยเสียง จึงสะท้อนเสียงได้จนเป็นที่เลื่องลือ เมื่อสองคนยืนอยู่ที่กําแพงคนละฟาก คนหนึ่งพูดใส่กําแพงเบา ๆ อีกคนหนึ่งเอาหูแนบกับกําแพง ก็จะได้ยินเสียงพูดจากฝ่ายตรงกันข้าม จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:09:05

ความคิดเห็นที่ 46 นอกจากจากนี้ภายในบริเวณตำหนักหวงฉงอี่ ก็มีอาคารที่อยู่ข้างๆอีก ซึ่งเป็นที่เก็บแผ่นป้ายเช่นกัน จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:11:35

ความคิดเห็นที่ 47 ออกจากตำหนักหวงฉงอี่เราก็มุ่งหน้าไปยังตำหนักฉีเหนียนเตี้ยน จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:13:56

ความคิดเห็นที่ 48 ระยะทางจากตำหนักหวงฉงอี่ไปยังตำหนักฉีเหนียนเตี้ยนก็ไกลพอควร จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:15:29

ความคิดเห็นที่ 49 "ตำหนักฉีเหนียนเตี้ยน" หรือ "หอฟ้าเทียนถาน" ตําหนักฉีเหนียนเตี้ยนเป็นตําหนักเอก เริ่มก่อสร้างเมื่อ ค.ศ. ๑๔๒๐ ห่างจากปัจจุบัน ๕๐๐ กว่าปี เป็นรูปทรงกลมหลังคา ๓ ชั้น มุงด้วยกระเบื้องเคลือบสีนํ้าเงิน ไม่มีขื่อและอกไก่ อาศัยเสาไม้ ๒๔ ต้น เป็นโครงยึดไว้ซึ่งได้ชื่อว่า "ตําหนักไม่มีขื่อ" ภายในตําหนักมีภาพวาดสีประณีตงดงาม บนเพดานวาดเป็นรูปมังกรและหงส์ จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:18:13

ความคิดเห็นที่ 50 “ฉีเหนียนเตี้ยน” หอประกอบพิธีบวงสรวงฟ้าดิน • ตั้งอยู่ตอนเหนือสุดของสถานที่แห่งนี้ สร้างบนฐานหินหยกขาว 3 ชั้น สูง 2.7 เมตร เป็นอาคารทรงกลม สร้างด้วยไม้ล้วนๆ โดยไม่ใช้ตะปูเลยแม้แต่ตัวเดียว มีขนาดใหญ่มาก เส้นผ่าศูนย์กลางอาคารกว้างถึง 30 เมตร ใช้เสาจากต้นไม้ต้นเดียวขนาดใหญ่ 28 ต้น รองรับน้ำหนักหลังคาทรงกลมว้อนกัน 3 ชั้น มุงกระเบื้องสีน้ำเงิน ปลายสุดยอดหลังคาประดับด้วยลูกแก้วกลมสีทอง • บนฐาน 3 ชั้น จะมีรั้วล้อมรอบทุกชั้น เป็นเสากำแพงหินหยกขาวแกะสลักงดงามได้สัดส่วน กลมกลืนกับหอดีมากตั้งอยู่บนแนวเส้นแกนเดียวกับอาคารอีก 2 แห่ง มีถนนยกระดับเชื่อมต่อกันยาวประมาณ 800 เมตร • ภายในหอบวงสรวง ตรงกลางในสุดจะมีเสา 4 ต้น เปรียบเสมือน 4 ฤดูของจีน วงรอบที่ 2 จะมีเสา 12 ต้น เปรียบเหมือน 12 เดือน ใน 1 ปี วงรอบที่ 3 ติดกับผนังมีเสาอีก 12 ต้น รวมเป็น 24 ต้น เปรียบเสมือน 24 ฤดูกาลของการเพาะปลูก รวมทั้งหมดมี 28 ต้น เปรียบเหมือนกลุ่มดวงดาว 28 กลุ่มทางดาราศาสตร์ • ด้านหลังและด้านข้างของหอแห่งนี้จะมีอาคารที่ประทับของฮ่องเต้ ห้องครัว ห้องฆ่าสัตว์บูชายัญ ห้องเก็บจัดและเตรียมข้าวของเครื่องใช้ในพระราชพิธี • ในปี ค.ศ.1889 หอถูกฟ้าผ่าไฟไหม้ ทางราชสำนักได้สร้างหลังใหม่ขึ้นทดแทน และงดงามยิ่งกว่าหลังเก่า จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:21:57

ความคิดเห็นที่ 51 ภายใน ตำหนัก “ฉีเหนียนเตี้ยน” หรือ "หอฟ้าเทียนถาน" มีการจำลองพิธีการบูชาฟ้าดิน จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:25:34

ความคิดเห็นที่ 52 อาคารที่อยู่ด้านหลังตำหนัก “ฉีเหนียนเตี้ยน” หรือ "หอฟ้าเทียนถาน" จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:26:37

ความคิดเห็นที่ 53 ตำหนัก “ฉีเหนียนเตี้ยน” หรือ "หอฟ้าเทียนถาน" จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:27:19

ความคิดเห็นที่ 54 ปัจจุบัน ตำหนัก “ฉีเหนียนเตี้ยน” หรือ "หอฟ้าเทียนถาน" เป็นสัญลักษณ์ของเมืองจีนไปแล้ว จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:28:23

ความคิดเห็นที่ 55 เรากลับออกมาจาก ตำหนัก “ฉีเหนียนเตี้ยน” หรือ "หอฟ้าเทียนถาน" ก็จะเจอกับบรรยากาศอันสนุกสนานของอาซิ้ม อาม่า อากง ที่พากันมาจับกลุ่มนั่งเล่นไฟนกกระจอก เล่นโดมิโน่  ภาพนี้เห็นจนชินตา จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:30:55

ความคิดเห็นที่ 56 วงนี้หากรวมอายุของสมาชิกในวงแล้วร่วมๆ200กว่าปีกันเลยทีเดียว จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:31:57

ความคิดเห็นที่ 57 ออกจากหอฟ้าเทียนถานเราก็มุ่งหน้าไปยังพระราชวังฤดูร้อน “อวี้เหอหยวน" จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:33:46

ความคิดเห็นที่ 58 "พระราชวังฤดูร้อนอวี้เหอหยวน" ตั้งอยู่ในเขตชานเมืองด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงปักกิ่ง เป็นพระราชอุทยานที่มีทัศนียภาพที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง มีเนื้อที่ทั้งหมด 290 เฮกต้าร์ ประกอบด้วยเนื้อที่ที่เป็นนํ้า 3 ส่วน เนื้อที่ที่เป็นดิน 1 ส่วน ประกอบด้วยสองส่วนคือ เขา "ว่านโซ่วซาน" และ ทะเลสาบ "คุนหมิงหู" บนเขาว่านโซ่วซานได้สร้างวิหาร ตำหนัก พลับพลา และเก๋งจีนอันงดงามไว้หลายรูปหลายแบบ ตั้งอยู่ลดหลั่นรับกันกับภูมิภาพ ที่เชิงเขามีระเบียงทางเดินที่มีระยะทางไกลถึง 728 เมตร ลัดเลาะไปตามริมทะเลสาบคุนหมิง ในทะเลสาบคุนหมิงมีเกาะเล็ก ๆ เกาะหนึ่ง มี สะพาน 17 โค้งอันสวยงามเชื่อมติดกับฝั่ง ทั่วทั้งอุทยานจัดไว้ได้สัดส่วนงดงามตระการตาซึ่งแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของศิลปะในการสร้างอุทยานของจีน จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:36:09

ความคิดเห็นที่ 59 บริเวณที่ว่าราชการของซูสีไทเฮา จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:39:10

ความคิดเห็นที่ 60 ด้านหน้าจะมีหงษ์  มีมังกร จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:40:38

ความคิดเห็นที่ 61 บริเวณทะเลสาบคุนหมิง ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใช้แรงงานคนขุด ผู้สร้างคือฮ่องเต้เฉียนหลง ใช้ในการฝึกซ้อมทัพเรือ จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:43:16

ความคิดเห็นที่ 62 ภายในพระราชวังฤดูร้อนจะมีห้องหับมากมายให้ชมกัน จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:44:24

ความคิดเห็นที่ 63 ภาพพระนางซูสีไทเฮา ที่ยังหลงเหลืออยู่ให้เห็นกันในพระราชวังฤดูร้อน จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:45:48

ความคิดเห็นที่ 64 ระเบียงทางเดินที่มีระยะทางไกลถึง 728 เมตร ลัดเลาะไปตามริมทะเลสาบคุนหมิง จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:46:50

ความคิดเห็นที่ 65 "เรือหินอ่อน" สิ่งก่อสร้างน่าทึ่งอีกอย่างคือเรือหินอ่อนน้ำ มองไกลๆเป็นเรือสองชั้นสง่างามดูโปร่งตาราวกับจะลอยน้ำได้จริง แต่ความจริงคือแท่งหินอ่อนหนักมหาศาล สร้างขึ้นตามพระประสงค์ของพระนางซูสีไทเฮา มีประโยชน์ใช้สอยเพียงพระนางนั่งจิบน้ำชาดูทิวทัศน์อยู่บนเรือนี้เท่านั้นเอง จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:48:15

ความคิดเห็นที่ 66 ในทะเลสาบคุนหมิงมีเกาะเล็ก ๆ เกาะหนึ่ง มี สะพาน 17 โค้งอันสวยงามเชื่อมติดกับฝั่ง จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:49:23

ความคิดเห็นที่ 67 อีกจุดหมายหนึ่งที่เราเฝ้าตั้งตารอคือ กำแพงเมืองจีน ซึ่งทุกครั้งที่ผมไปเที่ยวปักกิ่งก็จะได้ไปกำแพงเมืองจีนที่ด่านจีหยงกวน แต่ครั้งนี้ได้ไปที่ด่านปาต้าหลิง ซึ่งเป็นด่านที่มีกระเช้าขึ้นกำแพงเมืองจีน การเดินทางของเราไปยังกำแพงเมืองจีนค่อนข้างมีอุปสรรคพอควร เพราะไปถึงปาต้าหลิงเขาไม่ให้นำรถขึ้นไปยังสถานีกระเช้า ให้เราเอารถไปจอดด้านล่างแล้วนั่งรถบัสที่เขาจัดไว้ให้อีกทอดหนึ่ง แต่หากเราอยากนำรถขึ้นไปต้องจ่ายค่าขึ้นอีก 100 หยวน สุดท้ายพวกเรายอมจ่ายเพื่อความสะดวก ระหว่างทางที่จะขึ้นก็จะเจอกับด่านที่มีเจ้าหน้าที่มาดักและกั้นทางไว้ ตรงนี้ทำให้เราเดินทางขึ้นไปยังสถานีรถไฟฟ้าไม่ได้เพราะด้านหน้ามีรถเก๋งหนึ่งคันที่ไม่ยอมถอยออก เพราะเขาจะเอารถขึ้นไปสถานีกระเช้าแต่ไม่ยอมเสียเงิน 100 หยวน จนทำให้รถที่จะขึ้นเขาติดกันเป็นแพ จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:56:44

ความคิดเห็นที่ 68 กว่าจะได้ขึ้นไปเสียเวลามาก รถเราต้องย้อนกลับไปทางที่จอดรถแล้วลัดขึ้นอีกทางหนึ่ง ตรงนี้ก็เจอกับเจ้าหน้าที่มายืนดักไว้ คนจีนที่เราจ่ายเงินให้เป็นค่าขึ้นเขาต้องลงไปจัดการกับเจ้าหน้าที่ นานมากกว่าจะเคลียร์กันสำเร็จนำรถขึ้นไปยังสถานีกระเช้าได้ จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 01:59:08

ความคิดเห็นที่ 69 เราเสียเวลาอยู่ที่นี่ตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะได้ขึ้นกระเช้าก็เกือบเที่ยงแล้ว จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 02:00:15

ความคิดเห็นที่ 70 "กำแพงเมืองจีน" ถือว่า เป็น 1 ใน 7 สิ่งอันมหัศจรรย์ของโลก มีระยะทางยาวกว่า 7000 กิโลเมตร จึงเรียกว่า “ว่านหลี่ฉางเฉิง” (กำแพงหมื่นลี้) ในอดีตเชื่อกันว่ายาวถึง 9,000 กิโลเมตร เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และใช้เวลาสร้างนานที่สุดในโลก ที่เกิดขึ้นด้วยฝีมือของมนุษย์ มีการเกณฑ์แรงงานเกือบล้านคน และยังมีแรงงานจากพวกนักโทษผู้ซึ่งถูกโกนหัว และมีตรวนเหล็กคล้องคอ คนเหล่านี้ต้องทำงานในถิ่นทุรกันดาร ท่ามกลางอุณหภูมิเลวร้าย คือ 35 องศาเซลเซียสในฤดูร้อน และ -21 องศาเซลเซียสในฤดูหนาว ต้องอด ๆ อยาก ๆ เพราะเสบียงที่ส่งมามักถูกขโมยกินหรือถูกยักยอกนำไปขาย คนงานนับพันจึงต้องล้มตาย ร่างถูกฝังอยู่ใต้กำแพง กำแพงเมืองจีนจึงได้รับการขนานนามว่าเป็น “หลุมฝังศพที่ยาวที่สุดในโลก” จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 02:03:38

ความคิดเห็นที่ 71 "กำแพงเมืองจีน" เริ่มขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 ก่อน ค.ศ.เพื่อป้องกันการรุกรานของชนชาติส่วนน้อยในภาคเหนือ ถึงปี 221 ก่อน ค.ศ.จักรพรรดิ จิ๋นซีได้เชื่อมกำแพงเมืองในแคว้นต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เพื่อป้องกันการรุกรานจากชนชาติส่วนน้อยบนทุ่งหญ้าอันกว้างไพศาลในมองโกเลีย กำแพงเมืองจีนในสมัยนั้นมีระยะทางยาวกว่า 5000 กิโลเมตร หลังจากนั้น ผู้ปกครองของจีนในสมัยราชวงศ์ฮั่นไดสร้างกำแพงเมืองจีนต่อจนมี ระยะทางยาวกว่า 10000 กิโลเมตร ในช่วงระยะเวลากว่า 2000 ปี ผู้ปกครองของจีนในสมัยต่าง ๆ ต่างก็เคยสร้างกำแพงเมืองไม่มากก็น้อย รวม ๆ แล้วมีระยะทางยาวกว่า 50000 กิโลเมตร ซึ่งสามารถล้อมโลกกว่า 1 รอบ ก่อนที่จะมีการใช้อิฐในการก่อสร้าง กำแพงเมืองจีนถูกสร้างขึ้น โดยใช้หิน ดิน และไม้ บางครั้งมีการแพ็คดินไว้ระหว่างไม้แผ่นใหญ่ และมัดไว้ด้วยกันโดยเสื่อทอบริเวณใกล้ กรุงปักกิ่ง กำแพงเมืองจีนถูกสร้าง โดยใช้หินอ่อน ในบางสถานที่กำแพงถูกสร้างโดยใช้หินแกรนิต บางแห่งก็ใช้ดินเผา ทางตะวันตกของจีน กำแพงถูกสร้างโดยใช้โคลน ทำให้ชำรุดได้ง่ายกว่า กำแพงเมืองจีนที่เราเห็นกันทุก วันนี้ ส่วนใหญ่ถูกสร้างในราชวงศ์หมิง โดยใช้วัตถุที่ทนทานกว่าเช่นหิน จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 02:05:54

ความคิดเห็นที่ 72 "กำแพงเมืองจีน"  ในปัจจุบันหมายถึงกำแพงเมืองจีนสมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ.1368 -ค.ศ.1644)ระหว่างด่านเจียอี้กวนในมณฑลกันซู่ทางภาคตะวันตกถึงริมฝั่งแม่น้ำยาลู่ กำแพงเมืองจีน ไม่ได้เป็นแค่กำแพง เพราะทุกๆ 300 ถึง 500 หลา จะมีฐานบัญชาการเพื่อใช้สับเปลี่ยนเวรยามและใช้เป็นจุดสังเกตุการณ์  อีกทั้งยังมีหอสังเกตุการณ์กว่า 1 หมื่นแห่ง จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 02:08:26

ความคิดเห็นที่ 73 กระเช้าขึ้นกำแพงเมืองจีน จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 02:09:28

ความคิดเห็นที่ 74 "กำแพงเมืองจีน" ช่วงที่มีคนนิยมมาเที่ยวชมมากที่สุดคือ “ปาต๋าหลิ่ง” (Badaling) อยู่ห่างจากกรุงปักกิ่ง 67 กิโลเมตร ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในปีค.ศ.1957 วิวทิวทัศน์ขุนเขากำแพงแถบนี้สวยงาม แนวของกำแพงเหยียดตัวไปตามแนวสันเขา สูงๆต่ำๆ แลดูคล้ายระลอกคลื่น หรือมังกรยักษ์เลื้อยไปตามสันเขา มีความสูง 7 เมตร กว้าง 5 เมตร สร้างในสมัยราชวงศ์หมิง ใช้วัสดุทั้งดินอัดแข็ง หิน และอิฐ มีหอไฟสัญญาณเป็นระยะๆตลอดรายทาง กำแพงช่วงที่ถูกบูรณะขึ้นใหม่ยาว 2 กิโลเมตร สามารถปีนป่ายเที่ยวได้อย่างสบายๆ แต่พ้นจากนี้ไปก็จะมีสภาพหักพังจนไม่สามารถเดินได้ ปลายกำแพงด้านเหนือ มีกระเช้าไฟฟ้านำนักท่องเที่ยวขึ้น-ลงจากบริเวณลานจอดรถ จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 02:11:05

ความคิดเห็นที่ 75 วันนี้มีคนมาเที่ยวกันเยอะ บริเวณกำแพงเมืองจีนมีต้นไม้เขียวชะอุ่ม จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 02:12:53

ความคิดเห็นที่ 76 ด่านปาต้าหลิง ดีตรงที่ไม่ต้องปีนกำแพงเมืองจีนตั้งแต่ต้นเพื่อขึ้นไปยังด้านบนเหมือนกับด่านจีหยงกวน  ด่านปาต้าหลิงนั่งกระเช้าขึ้นไปยังด่านบนแล้วก็เดินนิดหน่อยก็ถึงกำแพงเมืองจีนที่อย฿่บนเขาสูงสุดแล้ว จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 02:16:04

ความคิดเห็นที่ 77 ผมเดินจากจุดสถานีกระเช้ามาได้ 3 ป้อม บอกตรงๆว่าโคตรเหนื่อย พอแล้วไม่ไหวแล้ว ขืนเดินต่อมีหวังไม่ได้กลับบ้านแต่จะได้ไปโรงพยาบาลแทน จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 02:24:50

ความคิดเห็นที่ 78 วันนี้คนไทยไม่เยอะครับ ผมเจอคนไทยไม่กี่คน กลุ่มผมมีกันแค่ 10 คน นอกนั้นพี่จีนกับฝรั่งที่มาเที่ยว จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 02:28:07

ความคิดเห็นที่ 79 กำแพงเมืองจีนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 02:29:27

ความคิดเห็นที่ 80 ทุกวันนี้ตั้งแต่โอลิมปิคผ่านไป มีฝรั่งเริ่มมาเที่ยวเมืองจีนมากขึ้น ซึ่งแต่ก่อนนี้ฝรั่งไม่นิยมมาเที่ยวจีนเท่าไหร่ แต่เดี่ยวนี้มาเที่ยวเยอะอาจเป็นเพราะจีนได้มีการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงในเรื่องการท่องเที่ยวให้ดีขึ้น จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 02:31:38

ความคิดเห็นที่ 81 วันนี้ลากันที่กำแพงเมืองจีน เดี่ยวพรุ่งนี้จะพาเที่ยวถนนหวังฟู่จิง ถนนที่ทุกคนที่ไปเที่ยวจีนต้องแวะไปเดิน มีอะไรซ่อนอยู่ที่นี่เยอะครับ จากคุณ : baokalasin เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 02:33:53

ความคิดเห็นที่ 82 ผมไปปักกิ่งเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ดูรีวิวแล้วอยากไปอีก จากคุณ : บุณฑริก เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 05:49:00

ความคิดเห็นที่ 83 ตามมาเที่ยวปักกิ่งครับ จากคุณ : โต้คลื่น เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 07:19:54

ความคิดเห็นที่ 84 ตามไปเที่ยวปักกิ่งด้วยคนค่ะ จากคุณ : Sergeant Keroro เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 11:29:17

ความคิดเห็นที่ 85 ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 11:39:23

ความคิดเห็นที่ 86 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : สิบทัพ เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 12:27:52

ความคิดเห็นที่ 87 ขอบคุณมากๆเลยค่ะ จากคุณ : Moobaby เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 13:08:26

ความคิดเห็นที่ 88 คิดถึงเมืองจีนจังเลย : ( จากคุณ : Jasperkj เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 14:47:42

ความคิดเห็นที่ 89 ชอบสถาปัตยกรรม วัด วังของเขา น่าตื่นตา ตื่นใจไปกับกำแพงเมือง อันอลังมากกกค่ะ ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ จากคุณ : Sweety-around-the-world เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 15:39:03

ความคิดเห็นที่ 90 แวะมาชม รำลึกความหลังค่า จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 20:50:19