ความคิดเห็นที่ 1 สายการบิน LAN ที่ผมนั่งมาจากเซาเปาโลนั้น ผมใช้ไมล์สะสม Asia Miles ของสายการบิน Cathay Pacific แลกมาครับ ใช้ 30,000 ไมล์ ตั๋วชั้นประหยัดไปกลับ เซาเปาโล-ลิมา-เซาเปาโล จ่ายค่าธรรมเนียม 2,600 บาท สายการบินนี้ไม่คิดค่าธรรมเนียมน้ำมันครับ ดีมากๆ ถ้าบินในอเมริกาใต้สะสมไมล์กับโปรแกรมนี้ก็ดีครับ ใช้ไมล์ไม่มาก สายการบิน LAN มีเที่ยวบินหลายประเทศในทวีปอเมริกาใต้ ทั้งอาร์เจนตินา บราซิล ชิลี เอกวาดอร์ โคลัมเบีย เปรู แถมถ้าเป็นตั๋วรางวัลไม่ต้องจ่ายค่าน้ำมันด้วย ทำให้ประหยัดค่าเดินทางไปได้มาก แต่ถ้าซื้อตั๋วตามปกติ ราคาเส้นทางนี้ถูกที่สุดอยู่ราวๆ 13,000 กว่าบาทครับ ผ่านออกมาถึงอาคารผู้โดยสาร ทำการแลกเงินก่อนครับ อย่างว่าที่สนามบินให้เรทไม่ค่อยดี ก็แลกไว้พอใช้ไปก่อน 1 USD = 2.54 โซเลส (Soles) ที่เปรูใช้สกุลเงิน "โซล" (Sole) แต่ถ้าเป็นพหูพจน์เค้าจะอ่านออกเสียงว่า "โซเรส" หรือถ้าคิดเป็นเงินไทยง่ายก็ 1 โซล เท่ากับ 12 บาทโดยประมาณครับ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 17:37:51

ความคิดเห็นที่ 2 รีบเข้ามาจับจองพื้นที่รออ่านกระทู้นีอย่างไว เย้ๆ จากคุณ : OKANEMOCHI เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 17:42:30

ความคิดเห็นที่ 3 ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ผมมีเที่ยวบินต่อไปเมืองจูเลียกา (Juliaca) ในวันรุ่งขึ้นตอนเกือบ 11 โมง จะให้เรียกแท็กซี่เข้าไปนอนในลิมาก็กระอยู่ ตัดสินใจนอนค้างในสนามบินเป็นครั้งแรกในชีวิตมันเลยครับ นอนหลบๆ หน่อย ใช้ถุงนอนปูนอนเป็นหนอนดักแด้เลย นอนหลับๆ ตื่นๆ แน่นอนว่านอนไม่ค่อยสบายครับ -_-" วันที่พุธที่ 25 เมษายน 2555 ตื่นมาอีกที 6 โมงเช้า สนามบินนี้เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง เข้าห้องน้ำแปรงฟัน ล้างหน้า แล้วรอเวลาจนได้เช็คอินเที่ยวบินของสายการบิน LAN เช่นเดิมเพื่อต่อไปยังเมืองจูเลียกา จากรุปนี้ผมนอนอยู่ตรงริมซ้ายมือของรูปครับ นอนชิดริมกระจก ใช้เคาน์เตอร์เล็กๆ กั้นบังไว้หน่อย จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 17:43:53

ความคิดเห็นที่ 4 สวัสดีคุณ OKANEMOCHI ครับ มาคนแรกเลย ^^ การเดินทางระหว่างเมืองในเปรูนี้ ผมก็ใช้ Asia Miles แลกอีกเช่นกันครับ เส้นทาง ลิมา (LIM)-จูเลียกา (JUL)-กุสโก (CUS)-ลิมา (LIM) กับสายการบิน LAN ชั้นประหยัดใช้ 15,000 ไมล์ ค่าธรรมเนียมแค่ 400 บาท ประหยัดไปได้เยอะเลย ^^ สนามบิน LIM เป็นสนามบินกระทัดลัด แต่สิ่งอำนวยความสะดวกก็ครบครันนะครับ ขนาดน่าจะพอๆ กับสนามบินดอนเมืองบ้านเรา หรืออาจจะเล็กกว่านิดหน่อย จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 17:47:28

ความคิดเห็นที่ 5 เดินขึ้นไปชั้น 2 เพื่อรอเครื่องออก ร้าน duty free ที่นี่ของเยอะเชียวครับ แต่ราคาโหดร้ายมาก จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 17:49:34

ความคิดเห็นที่ 6 ราคาแบบนี้เรียกว่า duty free ตรงไหน ถ้าซื้อที่ตลาดในเมืองถูกกว่ากันครึ่งๆ เลยครับ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 17:50:30

ความคิดเห็นที่ 7 ร้านอาหารจ่านด่วนสัญชาติอเมริกันมีเพียบครับที่สนามบินนี้ ไม่ต้องกลัวอด จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 17:51:18

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้ายังไม่มีเงินสด มากดเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มเอาก็ได้ ที่เปรูไม่เสียค่าธรรมเนียมการกดเงินสดด้วยบัตรต่างประเทศครับ ยอดเยี่ยม ยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย แวะร้านคาเฟ่ สั่งน้ำมะนาว และฟรุ้ตสลัดมารองท้องก่อนครับ เซ็ตนี้ 27.50 โซเลส ของกิน ของใช้ ในสนามบินจะแพงกว่าข้างนอกเป็นปกติครับ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 17:55:03

ความคิดเห็นที่ 9 ดีที่ ส่วน Domestic ของสนามบินนี้มีห้องรับห้องสำหรับบัตร Priority Pass ด้วย กินที่คาเฟ่ยังไม่อิ่ม เข้าไปกินต่อในเล้านจ์ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:00:09

ความคิดเห็นที่ 10 มีอินคาโคล่า ให้หยิบฟรีไม่อั้น ในสนามบินขายตั้งขวดละ 5 โซเลส ข้างนอกขายแค่ 1.80 - 2 โซเลสเอง รสชาติอินคาโคล่า ผมว่าเหมือนเม้าเทนท์ดิวซ์ แต่รสจะออกหวานกว่า จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:01:34

ความคิดเห็นที่ 11 กินเสร็จ แล้วอาบน้ำให้สดชื่น เตรียมไปขึ้นเครื่องเที่ยวเวลา 10.50 น. เพื่อไปเมืองจูเลียกา ปล่อยผ่านลิมาไปก่อน เดี๋ยวค่อยมาสำรวจท้ายทริป แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 23:36:39 จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:02:50

ความคิดเห็นที่ 12 นานๆจะมาทันซะที ขอมาเจ๋อแถวหน้ากับประเทศในฝันอย่างเปรูเลยครับ ^.^ จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:03:09

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าเดินทางภายในประเทศเปรูเอง การตรวจของเหลวที่สนามบินไม่ค่อยเข้มงวดครับ น้ำดื่มจากข้างนอกสามารถนำเข้ามาได้ ไม่ต้องโยนทิ้ง จากลิมาไปจูเลียกา ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:04:32

ความคิดเห็นที่ 14 ไปด้วยเด้อ จากคุณ : tottui เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:04:48

ความคิดเห็นที่ 15 ตามมาก่อนเลยครับ คุณ Coffee Blended ชิมวิวทิวทัศน์เบื้องล่างไปก่อนครับ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:05:39

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีครับ คุณ tottui บินเข้าสู่เขตเมืองจูเลียกาแล้วครับ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:06:23

ความคิดเห็นที่ 17 มองไกลๆ จากบนฟ้า เมืองนี้เป็นเมืองที่ดูแห้งแล้งมากครับ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:07:13

ความคิดเห็นที่ 18 ตึกรามบ้านช่องเป็นอิฐ เกือบจะทั้งหมด ไม่มีการฉาบปูหรือทาสีใดๆ ทั้งสิ้น ทำนองว่าให้ดูเหมือนว่ายังสร้างไม่เสร็จ จะได้ไม่ต้องเสียภาษี อะไรประมาณนั้น จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:08:23

ความคิดเห็นที่ 19 เครื่องลงจอดที่สนามบินนานาชาติ Inca Manco Capac โดยสวัสดิภาพ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:11:50

ความคิดเห็นที่ 20 สนามบินนี้เป็นสนามบินเล็กๆ เล็กมาก บ้านๆ ครับ ใช้เดินเข้าอาคารผู้โดยสารเอาอย่างเดียว ไม่มีรถรับส่งหรือทางเดินงวงช้างใดๆ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:13:05

ความคิดเห็นที่ 21 จูเลียกา เป็นแค่ทางผ่านของการเดินทางในครั้งนี้ครับ เมืองนี้ไม่มีอะไรให้ชม นอกจากโรงงานอุตสาหกรรม และไม่มีไกด์บุ๊คเล่มไหนให้แวะมาเยือนหรือมาค้างคืนที่นี่เลย เราจะใช้จูเลียกาเป็นทางผ่านต่อไปยังเมืองปูโน (Puno) เมืองริมทะเลสาบติติกากา (Lake Titicaca) จุดหมายปลายทางในตอนนี้ครับ รับกระเป๋าจากสายพานที่ดูจะพังแหล่ไม่พังแหล่ -_-" แล้วเดินออกมาหน้าอาคารผู้โดยสาร หารถโดยสารเพื่อไปยังเมืองปูโน มีคนขับรถแท็กซี่เข้ามาหาเรียกลูกค้าอยู่หลายราย แต่ผมก็ไม่สน รู้ว่ามีรถบัสจากสนามบินจูเลียกาเข้าเมืองปูโนในราคาที่ไม่แพง ออกมาด้านหน้าอาคารผู้โดยสารก็เจอรถบัสแล้วครับ ราคาค่าโดยสาร 15 โซเลสเท่านั้น จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:18:00

ความคิดเห็นที่ 22 รถออกสภาพรถตู้ครับ ดูไม่ใหม่เท่าไหร่ แต่ก็โอเค ผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่ง ควรรีบออกมาจับจองที่นั่งก่อนนะครับ จะได้ไม่เสียเวลารอรถคันต่อไป ซึ่งผมก็ไม่ทราบว่าจะออกอีกทีเมื่อไหร่ ระหว่างทางเข้าเมืองปูโน เจอรถคันนี้ คงประมาณรถตุ๊กตุ๊กเปรูมั้งครับ เท่มั้ย จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:19:42

ความคิดเห็นที่ 23 ช่วงเวลานี้ก็ชมวิวสองข้างทางระหว่างทางของเมืองจูเลียกากับปูโนกันก่อนครับ นี่น่าจะเป็นเป็นโบสถ์ประจำเมืองจูเลียกา (???) จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:22:48

ความคิดเห็นที่ 24 มีตรงนี้และครับ ที่ยังมีตึกที่ดูเหมือนจะสร้างเสร็จแล้วบ้าง จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:23:28

ความคิดเห็นที่ 25 พอพ้นจากตัวเมืองจูเลียกาออกมาก็จะเป็นท้องทุ่งนาซะส่วนใหญ่ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:24:01

ความคิดเห็นที่ 26 จากจูเลียกา นั่งรถมาประมาณ 1 ชั่วโมง ก็มาถึงเมืองปูโนครับ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:24:28

ความคิดเห็นที่ 27 เมืองปูโน ตั้งอยู่ริมทะเลสาบติติกากา ตัวเมืองจะไล่ขึ้นไปตามเนินเขา จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:25:08

ความคิดเห็นที่ 28 ผมว่า inka kola  เหมือน  fanta น้ำเขียว จากคุณ : pichaic เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:25:31

ความคิดเห็นที่ 29 ดูแบบนี้ อาจจะดูเหมือนตัวเมืองใหญ่ แต่จริงๆ แล้วสถานที่สำคัญมีไม่ค่อยเท่าไหร่ครับ ใช้เวลาไม่มากก็เดินได้ครบแล้ว จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:25:56

ความคิดเห็นที่ 30 คุณ pichaic - แต่ผมชอบแฟนต้าน้ำเขียวมากกว่า เมืองปูโน เป็นเมืองที่อยู่บนระดับกว่าสูงถึงกว่า 3,800 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นเมืองที่อยู่สูงมากเมืองหนึ่งของโลกเลยครับ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:27:38

ความคิดเห็นที่ 31 แน่นอนว่า คนที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเราๆ มาอยู่ในพื้นที่ที่สูงขนาดนี้ อาจจะโดนโรคแพ้ความสูง หรือ Altitude sickness เข้าโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัวได้ ดังนั้นผมจึงต้องเตรียมตัวรับมือกับโรคนี้ไว้ก่อนล่วงหน้า โดยกินยา Diamox หรือชื่อทางการแพทย์  Acetazolamide เพื่อป้องกันโรคแพ้ความสูง ยาตัวนี้จริงๆ แล้วไว้ใช้รักษาโรคต้อกระจกตาครับ เป็นยาปรับความดันลูกตา แต่มีผลข้างเคียงเกี่ยวกับการป้องกันโรคแพ้ความสูง กินยาตัวนี้ก่อนเดินทางขึ้นที่สูงล่วงหน้า 1 วัน เช้า 1 เม็ด และเย็น 1 เม็ด และกินติดต่อกันอีก 2 วัน รวมทั้งหมด 3 วัน 6 เมือง ผลข้างเคียงเมื่อกินยาตัวนี้ จะทำให้เกิดอาการชาที่ลิ้น ปลายนิ้วมือและนิ้วเท้าครับ กระหายน้ำ ทำให้ต้องดิ่มน้ำและปัสสาวะบ่อย แต่ผมว่าคุ้มค่านะครับ เมื่อเทียบกับเราต้องโดนโรคแพ้ความสูงเล่นงาน โรคแพ้ความสูงนี้ ไม่ได้เป็นกันทุกคนครับ บางคนอาจจะไม่เป็นก็ได้ แต่ก็ไม่มีใครรู้ ผมก็ไม่รู้ว่าผมจะโดนโรคนี้โจมตีหรือเปล่า แต่ต้องป้องกันไว้ก่อน เดินทางมาขนาดนี้ ถ้าเกิดเจ็บป่วยขึ้นมาล่ะก็ ไม่คุ้มแน่ๆ ครับ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:34:01

ความคิดเห็นที่ 32 รถมาส่งหน้าปากซอย ใกล้กับที่พัก แล้วผมต้องเดินต่อไปเข้าที่พักเอง ไม่ไกลครับ คืนนี้จองที่ Bothy Hostel ไว้ 1 คืน ห้องเตียงรวม มีอาหารเช้า ราคา 26 โซเลส เป็นห้องรวมชายหญิง นับได้ 7 เตียง มีเพื่อนร่วมห้องเป็นสาวชาวสวีเดนคนเดียวครับ มาถึงที่พักก็บ่าย 2 เกือบ บ่าย 3 แล้ว เผลอหลับสลบไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ตัว ตื่นมาอีกที 3 ทุ่มเข้าไปแล้ว หิวมาก ขอแผนที่จากคนดูแลที่พัก แล้วเดินลงเนินเข้าตัวเมืองที่ถนน Lima (Jiron Lima) Plaza Parque Pino ยามค่ำ แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 19:24:26 จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:46:17

ความคิดเห็นที่ 33 จาก Plaza นี้ลงมาก็เป็นถนน Lima ยาวตลอดแนว ถนนเส้นนี้เป็นถนนคนเดิน ที่สองข้างทางจะเรียงรายไปด้วย ร้านอาหาร บริษัทัวร์ ร้านขายของที่ระลึก จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:47:41

ความคิดเห็นที่ 34 สุดยอดรีวิวจริงๆ ค่ะ จากคุณ : SOYU_K เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:49:18

ความคิดเห็นที่ 35 สวัสดีครับ คุณ SOYU_K ^^ อากาศที่ปูโนตอนกลางคืนกับตอนเช้าๆ จะหนาวมากๆ ครับ เนื่องจากเป็นพื้นที่สูง ตอนนี้อุณหภูมิอยู่ราวๆ 2-3 องศาเท่านั้น เดินหาร้านอาหารนั่ง ดูตามหน้าร้านที่แสดงเมนูอาหารและราคาเพื่อตัดสินใจ แล้วก็ได้ร้านนี้ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:51:04

ความคิดเห็นที่ 36 สั่งเมนูสำหรับนักท่องเที่ยวครับ แบ่งเป็นเรียกน้ำย่อย จานหลัก และของหวาน แถมน้ำดื่มด้วย ราคา 26 โซเลส ค่าครองชีพที่เปรูถือว่าไม่สูงมากนักครับ แต่ก็ยังแพงกว่าบ้านเราอยู่นิดหน่อย ผมเลือกเอาชุดนี้มา รสชาติอาหารเปรูถูกปากผมอย่างมาก จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:53:12

ความคิดเห็นที่ 37 เสร็จจากมื้อเย็น 4 ทุ่มแล้ว เดินกลับที่พักดีกว่า โฮสเต็ลที่เปรูส่วนใหญ่ในห้องจะไม่มีฮีทเตอร์ครับ อย่างที่ Bothy Hostel นี้ก็ไม่มี เพราะฉะนั้นกับอุณหภูมิเฉียดๆ จุดเยือกแข็งแบบนี้ ถุงนอนจำเป็นมาก ผ้าห่มที่มีก็เอาไม่อยู่ หนาวแบบที่ราบสูงจะหนาวเหน็บลึกเข้าไปถึงกระดูกเลยครับ คืนนี้เลยได้ถุงนอนที่เตรียมมาให้ความอบอุ่นได้เป็นอย่างดี วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน 2555 ตื่นขึ้นมารับอาหารเช้า มีแค่ขนมก้อนกลมแบนๆ เนยแล้วก็แยม แถมกาแฟ และชาใบโคคา เท่านี้ครับ ไม่มีเสร็จสัตว์ใดๆ ชาใบโคคาสามารถช่วยเรื่องโรคแพ้ความสูงได้ครับ ให้ดื่มเยอะๆ แต่ได้ข้อมูลมาว่าชาแบบซองนี้จะไม่ได้ผล ถ้าจะให้ได้ผลต้องเป็นใบโคคาแบบเป็นใบๆ แล้วใส่น้ำร้อนดื่มเลยถึงจะได้ผลดี อยู่ในที่สูงแบบนี้นอกจากให้ดื่มน้ำเยอะๆ แล้ว ต้องทำอะไรให้ช้าๆ ไปด้วยครับ พยายามเดินช้าๆ เคลื่อนไหวช้าๆ ทำอะไรช้าๆ หายใจสูดอากาศลึกๆ เอาอ๊อกซิเจนเข้าปอดมากๆ จะช่วยได้ แต่ผมกินยา Diamox กันไว้ ก็ใช้ชีวิตตามปกติครับ ไม่มีการของโรคแพ้ความสูงมารบกวนแต่ประการใด นอกจากผลข้างเคียงของยาที่บอกไว้ข้างต้น เรื่องลิ้นชา ทำให้กินพวกน้ำอัดลมแล้วรสชาติจะแปลกๆ ไปด้วย รสชาติไม่เหมือนเดิม >< จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 19:19:56

ความคิดเห็นที่ 38 ตามอาเฮียมาเที่ยวเมืองแปลกต่อครับ... จะตามดูว่าสวยสมกับที่ต้องกิน Diamox รึเปล่าครับ... จากคุณ : mordek1 เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 19:24:40

ความคิดเห็นที่ 39 ตามแผนที่วางไว้ บ่ายนี้ต้องนั่งรถบัสจากปูโนไปเมืองโคปาคาบานา (Copacabana) ของโบลิเวียครับ เพราะฉะนั้นเช้านี้ ผมจึงต้องรีบไปยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวโบลิเวียที่สถานกุงสุลในปูโน หลังจากพลาดการขอวีซ่ามา 2 ครั้งแล้วที่บัวโนสไอเรสกับที่ริโอเfอจาเนโร เสร็จจากอาหารเช้า ส่งเสื้อผ้าให้ผู้ดูแลที่พักส่งซัก ค่าซักผ้าที่นี่ค่อนข้างแพงครับ 7 โซลเลส ต่อ 1 กิโลกรัม ให้มารับกลับตอนเที่ยงหลัง เช้านี้ซื้อทัวร์ไปเกาะอูรอส (Isla Uros) กับทางที่พักไว้ด้วยครับ ทัวร์ครึ่งวันเช้าราคา 25 โซเลส จริงๆ แล้วมีทัวร์แบบเต็มวันเพิ่มเกา Taquile เข้าไปด้วย แต่ผมมีเวลาเที่ยวได้แค่ช่วงเช้าเท่านั้น ช่วงบ่ายต้องตีรถไปโบลิเวียแล้ว จากที่พักเดินไปสถานกงสุลโบลิเวียในปูโน เดินตามแผนที่ไปครับ เดินง่าย ถนนไม่ซับซ้อนอะไร เดินผ่าน Plaza Parque Pino ที่ผ่านมาเมื่อคืน อยู่ใกล้ๆ กับโบสถ์ซานฮวน (Iglesia San Juan) จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 19:29:57

ความคิดเห็นที่ 40 คุณ mordek1 - ตามมาพิสูจน์ด้วยกันครับ ถนนลิมา ที่มากินข้าวเย็นเมื่อคืน ยังเช้าอยู่ 7.30 น. บรรยากาศดูเงียบเหงาครับ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 19:35:26

ความคิดเห็นที่ 41 ยังมีเวลาเดินเล่น ก่อนสถานกงสุลเปิด เดินมา Plaza de Armas จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 19:36:03

ความคิดเห็นที่ 42 วิหารประจำเมืองปูโน จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 19:36:49

ความคิดเห็นที่ 43 ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ ภาพสวยจังเลยค่ะ จากคุณ : ข้าวปุ้นจอมยุ่ง เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 19:43:48

ความคิดเห็นที่ 44 แล้วก็เดินหาสถานกงสุลโบลิเวียตามแผนที่ ที่อยู่สถานกงศุลโบลิเวีย เมืองปูโน ที่อยู่สถานกงสุลโบลิเวียในปูโน Jiron Arequipa No. 136 2do. Piso Puno เลขที่ 36 ชั้น 2 ถนน Arequipa เมืองปูโน เวลาทำการ 8.30 น. – 14.30 น. เอกสารที่ใช้ในการขอวีซ่าท่องเที่ยวโบลิเวีย 1. หนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งานเหลือไม่ต่ำกว่า 6 เดือน พร้อมสำเนา 2.  แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า พร้อมติดรูปถ่ายสีขนาด 2x2 นิ้ว 1 ใบ โหลด พิมพ์ แล้วปริ๊นแบบฟอร์มออกมาได้เลยครับ  http://www.boliviawdc.com/index.php?option=com_smartformer&formid=18 3. สำเนาสมุดรับรองการฉีดวัคซีนไข้เหลือง 4. สำเนาตั๋วเครื่องบิน จะเป็นเส้นทางบินในเปรู หรือตั๋วเที่ยวกลับเมืองไทยก็ได้ 5. เอกสารการจองที่พักในโบลิเวีย ที่ปูโนขอเอกสารเท่านี้ครับ แต่ถ้าไปขอที่บัวโนสไอเรส หรือเมืองอื่น ผมเจอที่บัวโนสไอเรส เจ้าหน้าที่อาจจะขอสำเนาบัตรเครดิตเพิ่มเติมครับ หนังสือเดินทางไทย ขอวีซ่าท่องเที่ยวโบลิเวียได้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆ ทั้งสิ้น มาถึงสถานกลสุลแล้ว ผลักประตูแล้วเดินขึ้นไปที่ชั้น 2 จะพบกับคุณลุงเลขานุการของท่านกงสุลเป็นผู้รับเรื่องครับ คุณลุงนัดให้ผมมารับเล่มคืนตอน 10 โมงครึ่ง แต่ผมบอกขอมารับตอนบ่ายโมงครึ่งแทน เพราะว่าต้องไปทัวร์เกาะอูรอสก่อน คุณลุงก็โอเคครับ ด้านหน้าสถานกลสุลโบลิเวีย มาตอนเช้ายังไม่ธงโบกสะบัดอยู่ด้านหน้า แต่ถ้ามาสายหน่อยจะมีธงชาติโบลิเวียติดไว้เป็นจุดสังเกตได้ครับ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 19:46:55

ความคิดเห็นที่ 45 ตามมาเที่ยวต่ออย่างสม่ำเสมอค่ะ จากคุณ : Flaminio เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 19:47:50

ความคิดเห็นที่ 46 ตามมาด้วยกันครับ คุณ ข้าวปุ้นจอมยุ่ง ยื่นเอกสารขอวีซ่าโบลิเวียเสร็จเรียบร้อย รีบเดินกลับเข้าที่พักครับ รถจะมารรับไปทัวร์เกาอูรอสตอน 9 โมง รถมารับตามเวลาที่นัดไว้ นั่งรถมาไม่ถึง 10 นาที สู่ท่าเรือเพื่อขึ้นเรือไปยังเกาะอูรอส จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 19:50:27

ความคิดเห็นที่ 47 ตามมาชมต่อ จากคุณ : boy next door เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 19:56:55

ความคิดเห็นที่ 48 คุณ Flaminio - สวัสดีครับ ถ้าไม่ซื้อทัวร์มา จะมาเองแล้วซื้อตั๋วข้ามไปเกาะที่ท่าเรือก็ได้ แต่ผมว่าซื้อทัวร์มาเถอะครับ สะดวกสบายกว่ากันเยอะ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 19:58:49

ความคิดเห็นที่ 49 ตามมาด้วยกันครับ คุณ boy next door บนเรือ มีศิลปินบรรเลงดนตรีให้ฟัง ก่อนเรือออก บรรเลงเพลงจบ ใครใคร่จะให้เงินตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ก็ให้ครับ ใครไม่ให้ก็ไม่บังคับ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:01:00

ความคิดเห็นที่ 50 ออกเรือกันเลยครับ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:04:00

ความคิดเห็นที่ 51 ทะเลสาบติติกากา (Lake Titicaca) เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ อยู่บริเวณชายแดนประเทศเปรูและโบลิเวีย โดยพื้นที่ของทะเลสาบประมาณ 60% เป็นของประเทศเปรู และอีก 40% เป็นของประเทศโบลิเวีย จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:07:03

ความคิดเห็นที่ 52 ทะเลสาบนี้มีพื้นที่ประมาณ 8,300 ตารางกิโลเมตร จุดที่ลึกที่สุดอยู่ที่ประมาณ 280 เมตร จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:09:01

ความคิดเห็นที่ 53 ระหว่างทางจะพบเห็นต้นโทโทรา หรือต้นกก ที่ชาวบ้านเอามาสร้างเกาะอยู่ทั่วไปครับ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:10:16

ความคิดเห็นที่ 54 ตามมาชมต่อค่ะ พลาดไม่ได้เลยกับกระทู้คุณอาตี๋อินเทอร์เน็ต จากคุณ : Blue Whale เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:11:26

ความคิดเห็นที่ 55 เนื่องด้วยทะเลสาบนี้ตั้งอยู่บนที่สูง จึงทำให้ขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สามารถเดินเรือทางพาณิชย์ที่อยู่สูงที่สุดในโลก จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:11:29

ความคิดเห็นที่ 56 มาเที่ยวต่อด้วยกันครับ คุณ Blue Whale ^^ ชาวบ้านเลี้ยงหมู ปล่อยหมู กันกลางทะเลเลย จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:12:45

ความคิดเห็นที่ 57 เรือแล่นมาถึงจุดผ่านแดนเข้าทะเลสาบครับ จุดนี้คนเรือคงต้องจ่ายค่าผ่านทางให้กับชาวเกาะ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:14:51

ความคิดเห็นที่ 58 จากท่าเรือในเมือง เรือวิ่งมาได้ครึ่งชั่วโมง ก็เข้าสู่เขตเกาะอูรอสครับ ผ่านประตูได้แล้ว ก็โบกมืออำลา บายๆ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:16:35

ความคิดเห็นที่ 59 เกาะอูลอสนี้จะแบ่งเป็นเกาะเล็กเกาะน้อยอีกเยอะแยะครับ เรือของเรามาแวะที่ชุมชนนี้ สงสัยมีการทำสัมปทานด้วยกันละมัง จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:19:26

ความคิดเห็นที่ 60 ชาวบ้านมารอต้อนรับด้วยชุดพื้นเมืองสีลูกกวาดแสบตา จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:19:59

ความคิดเห็นที่ 61 เกาะอูรอสเป็นเกาะที่ชาวอูรอสสร้างขึ้นจากการใช้ต้นโทโทราที่มีอยู่ทั่วไปในทะเลสาบตีตีกากา เกาะถูกยึดไว้ด้วยเชือกผูกไม้ที่ปักอยู่กับพื้นของทะเลสาบ ชาวอูรอสต้องซ่อมแซมเกาะโดยการเพิ่มต้นโทโทราจากด้านบนอยู่เรื่อย ๆ เพราะส่วนที่อยู่ใต้น้ำจะค่อย ๆ เน่าตามกาลเวลา ข้อมูลจาก วิกิพีเดีย จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:20:38

ความคิดเห็นที่ 62 ลูกหลานของชาวเกาะครับ ผิวกร้านดำตั้งแต่เด็ก ด้วยเป็นเพราะรังสียูวีที่นี่จะแรงมาก แล้วพวกชาวบ้านเค้าไม่ได้มีเวลาทาครีมกันแดดป้องกันกันหรอกครับ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:21:43

ความคิดเห็นที่ 63 เรือจอดสนิทเรียบร้อยดี ก็เดินลงจากเลยสิครับ ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวบ้าน จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:22:38

ความคิดเห็นที่ 64 เจ้าเด็กน้อยแสนซนจอมแก่นบนเกาะ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:23:28

ความคิดเห็นที่ 65 แล้วก็มานั่งล้อมวงฟังไกด์บรรยาย จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:24:59

ความคิดเห็นที่ 66 การหยอกล้อน่ารักๆ ของเด็กๆ ระหว่างอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:26:19

ความคิดเห็นที่ 67 ไกด์นำปลาอะไรไม่รู้มาให้ดู เป็นปลาที่จับมาได้จากทะเลสาบติติกากาแห่งนี้ บอกว่าเอามาทอด ทำกับข้าวกิน อร่อย... จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:27:13

ความคิดเห็นที่ 68 แล้วก็เอาต้นโทโทรา หรือต้นกก มาให้ลองชิมกัน รสชาติจืดๆ แปลก ๆ บอกไม่ถูกครับ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:28:36

ความคิดเห็นที่ 69 ทำการจำลองสาธิตวิธีสร้างเกาะด้วยต้นโทโทรา ชาวเกาะอูรอสจะใช้ต้นโทโทรานี้สานเป็นเรือ เป็นบ้าน และเป็นเกาะ แปลว่าแผ่นพื้นที่พวกเขาสร้างบ้านลงไป คือเกาะสร้างเองกะมือ สร้างไป ซ่อมไปจากด้านบนลงไปเรื่อย เพราะส่วนที่อยู่ใต้น้ำจะค่อยๆ เน่าตามกาลเวลา จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:30:08

ความคิดเห็นที่ 70 แล้วก็วัดระดับความลึกของน้ำบริเวณที่เรานั่งกันอยู่ครับ เค้าใช้เชือกวัด วัดออกมาได้ลึก 10 เมตร เพราะเชือกทบกันได้ 10 ทบ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:31:05

ความคิดเห็นที่ 71 ฟังไกด์อธิบายนู่นนี่ไปเรื่อยครับ รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 20:32:40 จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:32:05

ความคิดเห็นที่ 72 ฟังไกด์บรรยายจบ ก็ได้รับการอนุญาตให้เดินเล่นกันอิสระ ข้างในบ้านของชาวเกาะอูรอส ดูเรียบง่ายดีครับ ข้าวของใช้น้อยถึงน้อยที่สุด จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:35:54

ความคิดเห็นที่ 73 แล้วก็ถึงช่วงเวลาสำคัญของชาวเกาะเค้าล่ะครับ ขายของ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:36:32

ความคิดเห็นที่ 74 เด็กน้อยก็เป็นแม่ค้ากับเค้าด้วย จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:37:30

ความคิดเห็นที่ 75 ผมอุดหนุนผ้าทอกับปลอกหมอนอิงสีสด ลดลายอินคา มาอย่างละหนึ่งใบ สามารถต่อราคากันได้ครับ ไม่ผิดกติกาใดๆ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:38:29

ความคิดเห็นที่ 76 ชาวเกาะอูรอส อยู่กับธรรมชาติได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆครับ จากคุณ : PAEstudio เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:39:02

ความคิดเห็นที่ 77 เรือที่ทำด้วนต้นกกแบบนี้จะมีกันแทบทุกครัวเรือนครับ เอาไว้บริการนักท่องเที่ยว จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:41:15

ความคิดเห็นที่ 78 คุณ PAEstudio - ชาวเกาะเข้าใจคิด เข้าใจทำ ใช้ประโยชน์จากธรรมชาติรอบตัวได้อย่างเยี่ยมเลยครับ เกาะนี้ดูท่าจะโดนปรุงแต่งมาเรียบร้อยร้อยเพื่อการท่องเที่ยว ดูแล้วอาจจะไม่ได้เห็นวิถึชีวิตที่แท้จริงของชาวเกาะมากนักครับ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:43:23

ความคิดเห็นที่ 79 ใครใคร่ซื้อก็ซื้อ ส่วนคนขายอยากขายอยู่แล้ว จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:44:13

ความคิดเห็นที่ 80 เจ้าเด็กคนนี้มันเซี้ยวจริงๆ ครับ ข้างหลังคงเป็นพี่สาว จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:44:50

ความคิดเห็นที่ 81 แล้วคนนี้เป็นคุณแม่ เจ๊คนนี้ท่าจะเป็น:-)าน ทำทุกอย่าง ตั้งแต่รอต้อนรับ เป็นผู้ช่วยไกด์อธิบายให้ข้อมูล ขายของ พายเรือ ร้องเพลง ฯลฯ งานแกเยอะมาก จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:46:08

ความคิดเห็นที่ 82 ซื้อของเค้า เลยขอเค้าถ่ายรูปซะหน่อย อิอิ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:46:43

ความคิดเห็นที่ 83 แล้วถ้าใครต้องการขึ้นเรือที่ทำด้วยต้นกก ที่นี่ก็มีให้บริการเหมือนกันครับ คนละ 10 โซเลส ร้องเพลงอำลากันแล้วครับ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:48:05

ความคิดเห็นที่ 84 ขึ้นเรือกก ล่องออกไปในทะเลสาบ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:48:47

ความคิดเห็นที่ 85 เจ๊เสื้อเขียวก็มาเป็นฝีพายครับ ขยันมากๆ ผู้ชายคนนี้คงเป็นสามีของแก เพราะได้ยินเด็กชายแก่นคนนั้นเรียกว่าปาป๊า จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:50:11

ความคิดเห็นที่ 86 เจ้าเด็กคนนี้ก็แจมกับเค้าด้วยครับ พายไปไม่ทันไร ทำไม้ที่ถืออยู่หล่นลงน้ำ ร้องเรียกพ่อเสียงหลงเลย แต่พ่อก็มาตามเก็บไม้ให้ไม่ทัน จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:51:11

ความคิดเห็นที่ 87 ชมวิวชิมบรรยากาศกันไปให้เต็มที่ แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 55 20:52:33 จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:52:00

ความคิดเห็นที่ 88 เรือของครัวเรืออื่น หัวเรือหายไปทั้งหัวแล้ว -_-" จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:52:49