ความคิดเห็นที่ 1 ขอกางแผนที่เดินทางภาพรวม สำหรับตอนที่ 5 นี้ให้ดูก่อน เป็นการเดินทาง 2 วัน คือ คืนวันที่ 13 เมย. 55 กับ เช้าวันที่ 14 เมย. 55 ซึ่งไม่มีการถ่ายภาพใดๆ ระหว่างเดินทางช่วงพัทลุงถึงหาดใหญ่ เพราะมืด ต้องรีบทำเวลาเข้าหาดใหญ่ เนื่องจากไม่ได้จองที่พักมาก่อน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 13:06:55

ความคิดเห็นที่ 2 จากคุณ : Low Batt เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 13:14:24

ความคิดเห็นที่ 3 ตามชมต่อครับ รูปใหญ่มากเลย จากคุณ : numsiam เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 13:18:10

ความคิดเห็นที่ 4 ตามชมค่ะ จากคุณ : armearn เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 13:25:37

ความคิดเห็นที่ 5 ก่อนเข้าเมืองหาดใหญ่ ขอขยายแผนที่ให้เห็นชัดเจนขึ้นมาหน่อย เพราะอาจจะรู้สึกงงๆ กับถนนเพชรเกษมสาย 4 ที่พามาจากกรุงเทพฯ ก็ดันมีการเลี้ยวขวาไปทาง จ.สตูล ประมาณ 5 กิโลเมตร (ทับถนนสาย 406 ที่มาจาก อ.ควนเนียง ไป สตูล) แล้วเลี้ยวซ้าย เข้าหาดใหญ่อีกที ในขณะที่จุดตัดถนนสาย 43  ลัดตรงเข้าหาดใหญ่ไปตัดถนนเพชรเกษม หน้าเมือง แล้วเลี้ยวอ้อมด้านใต้ไป ตัดถนนเพชรเกษม ที่ลงใต้ไป ด่านสะเดา แล้วยาวเลยไป สิ้นสุดที่ถนนสาย สงขลา-ปัตตานีเลียบทะเลอ่าวไทยโน้น การเดินทางมายังหาดใหญ่นี้ สามารถมาจากถนนเลียบทะเลอ่าวไทย สาย 408 ได้เช่นกัน โดยเริ่มจาก จ.นครศรีธรรมราช แล้วข้ามปากน้ำทะเลสาบสงขลา โดยใช้เกาะยอเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทาง ตรงเข้าสู่ จ.สงขลา (ซึ่งทางสาย 408 นี้ก็เป็นเส้นทางลงต่อไปยัง จ.ปัตตานี, ยะลา, นราธิวาส ได้) แล้วค่อยเข้าหาดใหญ่ในภายหลังได้ เพียงแต่เป็นถนนที่เล็กกว่า คดเคี้ยวกว่า เพราะเป็นถนนสายเก่าดั้งเดิมนั่นเอง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 13:34:01

ความคิดเห็นที่ 6 สวัสดีครับ คุณLow Batt, คุณ numsiam และคุณ armearn :  ยินดีต้อนรับประเดิมเปิดกระทู้สดๆ ร้อนๆ เลยครับ ต้องอภัยภาพเปิดกระทู้ที่กว้างอีกแล้วครับ ก็อยากให้ดูอลังการ สมดังชื่อ หาดใหญ่ นะครับ ใครๆ ที่มายังเมืองหาดใหญ่ รับรองว่าต้องรู้สึกสับสนและงง กับชื่อเมือง ที่ดูสลับกับ จ.สงขลา   ซึ่งผมเองก็เป็นเช่นนั้น ยังคิดไปว่า เมืองหาดใหญ่ต้องอยู่ริมทะเล เพราะคงมีหาดทรายขนาดใหญ่แน่นอน  ในขณะที่เมืองสงขลาก็อยู่ลึกเข้ามา เพราะเป็นตัวจังหวัด ที่น่าจะมีพื้นดินล้อมรอบมากๆ เพื่อป้องกันการรุกรานจากข้าศึก    แต่พอมาให้ความสนใจศึกษาดู ก็พบว่ากลับกันเลย เมืองสงขลาตั้งอยู่ริมทะเล แถมอยู่ตรงปลายยอดแหลมของพื้นที่ เล็กๆ แคบๆ ที่แน่นอนว่า ยากแก่การขยายตัว ในขณะที่ เมืองหาดใหญ่ นั้นกลับอยู่ลึกเข้ามาในผืนดิน เลยมีคำถามในใจว่า ชื่อหาดใหญ่ นั้นมาได้อย่างไร ลองค้นดูในเน็ต พบว่า ชื่อหาดใหญ่นั้น มีความเกี่ยวเนื่องกับ หาดทรายจริงๆ แต่ไม่ใช่หาดริมทะเล  เป็นหาดริมคลองอู่ตะเภา ที่พาดผ่านด้านตะวันตกของเมือง ที่เคยเป็นแค่ หมู่บ้านหาดใหญ่เล็กๆ  จนเมื่อมีการตั้งอำเภอ หาดใหญ่ จากการรวมหมู่บ้านหาดใหญ่เข้ากับ หมู่บ้านโคกเสม็ดชุน ก็ได้นำชื่อหาดใหญ่มาเป็นชื่ออำเภอ ส่วนชื่อหาดใหญ่นั้น มีที่มา ที่ลึกซึ้งกว่านั้นอีก คือ ชื่อต้นมะหาด(ขนุนชนิดหนึ่ง) ที่เคยปลูกอยู่ทั่วไป ด้านใต้ของเมืองหาดใหญ่ (เคยขุดพบตอ ตอนสร้างอุโมงค์ลอดทางรถไฟ) และพบว่ามีต้นหนึ่งที่มีขนาดใหญ่มาก อยู่ตรงหาดทรายริมคลองอู่ตะเภาที่นิยมจัดตลาดนัด อันเป็นจุดสังเกตุง่ายๆ ว่า มีต้นมะหาดใหญ่ ตั้งอยู่  แต่คนใต้นิยมพูดเร็วและสั้น จึงย่อคำพูดลงเหลือแค่ หาดใหญ่ (คล้ายกับที่เรานิยมย่อคำ เช่น มหาวิทยาลัย เป็น มหาลัย) ที่มา: http://th.answers.yahoo.com/question/index?qid=20071109092356AAxEXeS แผนที่ข้างล่าง เป็นแบบดาวเทียม แสดงให้เห็นว่า มีถนนหลักๆ อยู่ 2 สาย ด้านเหนือ(เพชรเกษม)กับด้านใต้(ศรีภูวนารถ)  โดยมีสถานีรถไฟอยู่ตรงกลางพอดี  ถนน 2 สายนี้ไปสิ้นสุดกับถนนกาญจนวนิช (407) ที่ผ่านหน้า ม.อ. (ซึ่งถนนสายนี้แหละ ที่ตรงมาจาก เมืองสงขลา ไปตัดกับถนน 43 อ้อมเมืองด้านใต้ แล้วเปลี่ยนชื่อกลับมาเป็นถนนเพชรเกษมในภายหลัง) ที่น่าสนใจก็คือ ถนนทางด้านเหนือที่ตัดผ่านทางรถไฟได้ทำสะพานข้ามยาว เหมือนข้ามแม่น้ำสายใหญ่ ส่วนถนนทางด้านใต้นั้นกลับทำเป็นอุโมงค์เปิด ลอดใต้ทางรถไฟ ซึ่งทางรถไฟช่วงนี้ก็ได้มีการแยกออกเป็น 2 ทางแล้ว (ไปปาดังเบซาร์ และ สุไหงโกลก) จากข้อมูลเกี่ยวกับ ที่มาของหาดใหญ่ ผมลองคาดคะเนดูว่า หาดทรายขนาดใหญ่ ที่เคยมีมา ว่าอยู่ด้านหลังที่ว่าการอำเภอ และปัจจุบันได้ถูกดูดเอาไปใช้งานเกือบหมดแล้ว นั้นน่าจะอยู่ ดังแสดงในวงกลมสีม่วง สถานที่สำคัญๆ อื่นๆ เช่น โรงแรมลีการ์เด้นพลาซ่า ที่เป็นอาคารสูงที่สุดในเมืองหาดใหญ่ ที่เพิ่งโดนวางระเบิดไปหมาดๆ  นั้นผมไม่ได้ผ่านไป เพราะไม่มีเวลา และงง สับสนไปกับ ถนนที่มากมายในเมือง น้องๆ กรุงเทพฯเลย  ได้ผ่านไป ก็ตลาดกิมหยง ซึ่งก็ไม่ได้ศึกษามาก่อนว่าอยู่ตรงไหน เล่นเอาวุ่นวายไปเหมือนกัน รถราเยอะ ถนนก็มีแยกมาก แถมเป็นการเดินรถทางเดียวซะมากมาย พาหลงไปไม่น้อย แม้ว่าจะมีแผนที่ GPS ติดรถก็ตาม ในคืนวันที่ 13 นั้น ผมได้พยายามหาที่พักไปจนถึงถนนเพชรเกษม ที่ลงใต้ไปยัง อ.สะเดา ก็ยังหาไม่ได้ จะเข้าเมืองก็กลัวแพง ชานเมืองก็กลัวเป็น โรงแรมม่านรูด เลยโทรหาญาติที่อยู่หาดใหญ่ เขาแนะนำให้ย้อนกลับขึ้นมาพักแถวๆ ถนนราษฎร์อุทิศ ผมก็เลยตกลงตามนั้น ตามเส้นทางที่แสดงด้วยจุดสีม่วง  ส่วนจุดสีน้ำเงินนั้นเป็นเส้นทางในวันรุ่งขึ้น (14) ที่ไปยัง สถานีรถไฟหาดใหญ่ และลงไปปาดังเบซาร์ ต่อไปครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 14:15:10

ความคิดเห็นที่ 7 มาเริ่มเดินทางโดยรูปภาพกันดีกว่า เกริ่นนำจากแผนที่ไปมากแล้ว อาจง่วงและเบื่อไปได้ เริ่มเปิดกล้องอีกทีในเวลาประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง หลังข้ามคลองอู่ตะเภา ไปจนถึงสะพานข้ามทางรถไฟ บรรยากาศก่อนเข้าเมืองหาดใหญ่ดังแสดงในภาพข้างล่าง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 14:23:29

ความคิดเห็นที่ 8 ก็อย่างที่เกริ่นไว้แต่แรกว่า ไม่ได้จองโรงแรมที่พักไว้ก่อน เพราะไม่แน่ใจว่า คืนไหนจะนอนที่ใด อยู่ที่รถติด และสถานที่ท่องเที่ยว ว่าจะแวะในเวลาใด เลยทำให้เสียเวลาไปชั่วโมงกว่า ถึงจะหาที่พักได้ เกือบ 4 ทุ่มเข้าไปนั่น!  โชคดีที่ทานอาหารเย็นมาแล้ว ซึ่งก็ได้ตุนขนมไว้ด้วย เพราะทานไปตั้งแต่ 6 โมงเย็นแถวๆ ชุมทางเขาชุมทองโน้น ที่พักอยู่ในซอยราษฎร์อุทิศ 4 สาเหตุที่หายาก เพราะต้องดูราคาด้วย งบน้อยจะมานอนห้องละเป็นพันก็ไม่ไหว จะถูกเกินไปก็กลัวม่านรูดอีก  ที่พักแห่งนี้คล้ายกับอพาร์ทเมนต์ เลยทำให้ราคาไม่แพงเกินไป เหมือนในเมือง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 14:30:51

ความคิดเห็นที่ 9 คงไม่ต้องบอกชื่อที่พักกัน เพราะไม่ได้ค่าโฆษณาใดๆ อีกทั้งดูเขาก็มีคนพักเต็มหมดในช่วงเทศกาล โชคดีที่มีระเบิด(อิอิ...วิกฤติเป็นโอกาส ถ้าหากคุณกล้า)  เลยทำให้ แขกที่จะมาพัก พากันยกเลิกห้องเยอะ แขกส่วนใหญ่เป็นคนมาเลย์ครับ ไม่ใช่คนไทย  ถ้าเป็นคนไทยก็มักเป็นนักธุรกิจ เซลล์แมน พนักงานเดินสายทั่วประเทศ ญาติแฟนผมเขาเป็น นักธุรกิจเคยพาคนมาพักบ่อยๆ  เลยได้ส่วนลดซึ่งยกให้ผมหมด หมายเลข 1, 2 ในภาพเล็ก ก็คือภาพขยายของป้ายประชาสัมพันธ์ตามตำแหน่งในภาพใหญ่ ครับ แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 55 14:37:48 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 14:37:25

ความคิดเห็นที่ 10 จอดรถเสร็จก็เข้าไปติดต่อเคาน์เตอร์ ต้องประหลาดใจที่ชั้นล่างไม่มีส่วนต้อนรับ ต้องขึ้นบันไดอย่างเดียว อารมณ์แบบอพาร์ทเมนต์เลย  ใต้ตึกในภาพขวาจะเป็นทางเข้าลิฟต์พิเศษที่ใช้ขนของขึ้นลงเท่านั้น ปกติจะปิดไม่ใช้เพราะสามารถข้ามชั้นเคาน์เตอร์ไปได้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 14:41:22

ความคิดเห็นที่ 11 ซึ่งงานนี้พอดีมีผู้สูงอายุ เลยได้ใช้บริการขึ้นทางลิฟต์พิเศษตรงไปยังชั้นห้องพักได้เลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 14:42:52

ความคิดเห็นที่ 12 ส่วนผม(ตัวคนเดียว) เดินมาขึ้นบันไดด้านหน้าดีกว่า เพราะต้องไปทำเรื่องเช็คอินอยู่แล้ว เลยได้ภาพมุมอลังการมาอย่างที่เห็น ตรงบานประตูด้านซ้ายเชิงบันได มีป้ายประกาศติดไว้ เรื่องการสนับสนุนของ อบจ. เพราะโรงแรมแห่งนี้เก็บค่าบำรุง อบจ. เพื่อพัฒนาท้องถิ่น ในอัตรา 0.25% ของค่าเช่าห้องพัก ส่วนบานประตูด้านขวา เป็นป้ายห้ามนำสัตว์เลี้ยง และทุเรียนขึ้นไปบนห้องพัก  ห้ามสัตว์เลี้ยงไม่แปลก แต่ห้ามทุเรียนนี่ซิ คงเคยมีประสบการณ์กินแล้วทิ้งห้องเหม็นไปหลายวันกระมังครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 14:52:39

ความคิดเห็นที่ 13 เข้ามาที่หน้าเคาน์เตอร์  ข้างหลังมีรูปปั้นเทพของจีนวางไว้เยอะ ทำให้คาดได้ว่า เจ้าของคงเป็นคนจีน  บนเคาน์เตอร์ มีกระดาษประชาสัมพันธ์เรื่องราคาค่าห้องพัก ซึ่งผมเปิด 2 ห้องใหญ่-เล็กได้ราคาตัวแทน เพราะญาติแนะนำนั่นเอง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 14:56:20

ความคิดเห็นที่ 14 ตรงหน้าเคาน์เตอร์บริการนี้ แหงนดูข้างบน ต้องรู้สึกประหลาดใจ ที่มีช่องทะลุขึ้นไปข้างบนคล้ายปล่องด้วย  นับเป็นไอเดียที่แจ๋วจริงๆ ไม่รู้ว่ามาทำภายหลัง หรือพร้อมๆ กับสร้างอาคาร มองไปจนสุดหลังคา มีช่องแสงรูปวงกลม 3 วง ดูคล้ายกับท่อไอพ่นท้ายกระสรวยอวกาศเลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 15:00:28

ความคิดเห็นที่ 15 ภาพขวา : มองไปทางขวามือเป็นพื้นยกระดับ เป็นที่นั่งรอผู้มาติดต่อกับแขกที่มาพัก ภาพซ้าย : ลองเดินเข้าไปใกล้ หลังกรอบไม้สวยเป็นห้องพักชั้นล่าง  เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบขึ้นลิฟต์ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 15:03:53

ความคิดเห็นที่ 16 มองมายังซ้ายมือ(ยืนหันหน้าเข้าโรงแรม) เป็นลิฟต์และบันไดขึ้นไปห้องพักชั้นบน สังเกตุว่า มีการจัดวางภาพสวยๆ ไว้เหนือช่องลิฟต์ส่งของด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 15:06:17

ความคิดเห็นที่ 17 ลองเข้าไปใกล้รูปภาพหน้าลิฟต์ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 15:07:34

ความคิดเห็นที่ 18 ขอตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ  อิอิ จากคุณ : ลุ๊งลิ๊ง เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 15:17:59

ความคิดเห็นที่ 19 ไปด้วยๆครับ จากคุณ : langtang เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 15:31:42

ความคิดเห็นที่ 20 มาแล้ววๆๆๆ รอคอยมานาน จากคุณ : CK-ONliNE เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 15:45:45

ความคิดเห็นที่ 21 มาแล้วๆ  ไปเที่ยวด้วยครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 15:57:25

ความคิดเห็นที่ 22 สวัสดีครับทุกท่านที่รอคอย ช่วงแรกนี้ยังคงเป็นการสำรวจที่พักก่อน เสร็จแล้วจะออกเดินทางไปสำรวจสถานีรถไฟกันครับ ภาพบนขวา : ผมเดินขึ้นบันไดมาถึงตรงช่วงพักระหว่างชั้น 2 ที่มีเคาน์เตอร์บริการกับชั้น 3 พบมีบันไดแยกไปห้องพักฝั่งทิศตะวันออก ด้านขวามือ   ภาพบนซ้าย : ลองแวะเดินเข้าไปดูพบว่าเป็นระเบียงหน้าห้องพัก แตกต่างจากห้องปกติ เสร็จแล้วขึ้นบันไดต่อไปยังชั้น 3 ภาพล่างซ้าย : ที่วกกลับเข้ามา พบว่ามีลิฟต์ และทางเดินไปยังห้องพักตามภาพ ภาพล่างขวา : เมื่อเดินไปยังหน้าลิฟต์แล้วหันกลับมาดูบันได ก็จะเห็นว่า ช่วงพักบันไดระหว่างชั้น 3 กับ ชั้น 4 ก็มีทางแยกไปห้องฝั่งตะวันออกเช่นกัน นับเป็นความแปลกของโรงแรมแห่งนี้ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 16:25:35

ความคิดเห็นที่ 23 ตรงช่วงพักบันไดระหว่างชั้น 2 กับ ชั้น 3 ที่ผ่านมา เหลือบเห็น แผ่นกระจกแกะลาย รูปนางฟ้าแบบจีน งดงามมาก จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 16:27:05

ความคิดเห็นที่ 24 ภาพบน : ตอนนี้อยู่หน้าลิฟต์ ถอยหลังออกมาเก็บในมุมมองคล้ายกับที่ชั้น 2 หน้าเคาน์เตอร์ ในคห.16 ภาพล่าง : ถอยหลังออกมา จะเห็นระเบียงของช่องทะลุระหว่างชั้น ทางขวามือในภาพนี้ผมลืมถ่ายภาพว่ามีห้องพักส่วนหลังของอาคารอยู่ด้วย (ผมลืมไปจริงๆว่ามีห้องพักส่วนนี้ มาทราบจากแผนภาพ ทางหนีไฟ ในห้องพัก ช่วงจัดเตรียมภาพเมื่อสัปดาห์นี้เอง เล่นเอางงไปเลย) นับเป็นความพิศวงของ โรงแรมแห่งนี้อีกอย่าง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 16:41:38

ความคิดเห็นที่ 25 ภาพซ้าย : ผมเดินเข้าไปดูที่ช่องปล่องระหว่างชั้น ก้มลงไปดูข้างล่างที่เป็นหน้าเคาน์เตอร์ พอดีญาติมาเยี่ยม ยืนรอหน้าลิฟต์ ภาพขวา : แหงนขึ้นไปมองชั้นบน ทำให้นึกถึง ห้างเซนทรัลลาดพร้าว ที่มีระเบียงโค้งๆ อยู่ภายในอาคาร จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 16:46:41

ความคิดเห็นที่ 26 หันกลับมาดู ห้องพักด้านทิศตะวันตก ที่ผมต้องพักคืนนี้  ผมพักห้องเล็ก 308 ที่หน้าต่างหันออกด้านหน้าอาคาร (มาทราบตอนที่เปิดม่านหน้าต่างดู เพราะ งงกับเลเอาท์ที่นี่) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 16:51:27

ความคิดเห็นที่ 27 ลองเข้ามาดูภายในห้องพักผมบ้าง ซ้ายมือเป็นเฟอร์นิเจอร์ ขวามือเป็นเตียง ดูครบสมบูรณ์ดี จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 16:53:22

ความคิดเห็นที่ 28 ภาพซ้าย : หันหลังกลับมาดูด้านผนังฝั่งประตูเข้า มีตู้เสื้อผ้าบิ๊วอินติดกับที่วางกระเป๋า นับว่าครบถ้วนจริงๆ ภาพขวา : ตรงบานประตู มีแผนผังหนีไฟอยู่ ดูแล้วจึงทราบเลเอาท์ ที่นี่ แม้จะวาดไม่ตรงตามอัตราส่วนจริงบ้าง บันไดหนีไฟอยู่ทางห้องส่วนหลังของอาคาร น่าเสียดายที่ลืมเดินไปสำรวจดู ลืมจริงๆครับ ถ้ามีโอกาสได้กลับไปพักที่นั่นใหม่ ก็จะไปเก็บภาพมาอีกที (คงไม่ง่าย เพราะช่วงเทศกาล จะไม่ว่าง ก็อย่างที่บอกว่า ถ้าไม่มีระเบิดก็คงไม่ได้พัก หรือไม่ก็ต้องจองห้องล่วงหน้า)  ผมขอเพิ่มเติม ข้อมูล ถนนรอบๆ อาคาร พร้อมทิศ ให้ด้วย แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 55 17:00:08 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 16:59:03

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่ลืมเก็บภาพห้องน้ำ ที่อยู่ติดกับผนังด้านหน้าห้อง  น้ำอุ่นเป็นแบบผสมมีป้ายบอกชัดเจน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 17:04:25

ความคิดเห็นที่ 30 ย้ายมาดูห้องใหญ่ ขนาด 3 เตียง ที่คณะผมที่เหลือทั้งหมดนอนบ้าง  พื้นที่ว่างปลายเตียงกว้างมาก ขนาดเล่นฟุตซอลเล็กๆ ได้เลย  ห้องน้ำไปอยู่ที่มุมด้านหลังห้อง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 17:06:28

ความคิดเห็นที่ 31 ภาพซ้าย : ต่อเนื่องจากภาพบน (คห.30) มาทางขวามือถัดจากม่านหน้าต่างเป็นส่วนเฟอร์นิเจอร์ ขนาดพอๆ กับห้องเดี่ยวของผม ภาพขวา : หันหลังกลับมายังผนังด้านหน้าห้อง เป็นตู้เสื้อผ้าบิ๊วอินเช่นกัน คุณแม่ท่านคงเห็นที่วางกระเป๋าเสื้อผ้ากว้างดี เลยไปนั่ง เจ็บก้นนะครับ เพราะมีลอนที่พื้นผิว จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 17:10:33

ความคิดเห็นที่ 32 ภาพซ้าย : ห้องน้ำของห้องใหญ่ ดูๆ แล้วเหมือนกับห้องเล็ก เลยถ่ายมาแค่นี้ ภาพขวา : แผนผังหลังบานประตูห้อง ดูแล้วงง กับช่องหน้าต่าง เลยขอแก้ให้สอดคล้องกับความเป็นจริง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 17:13:12

ความคิดเห็นที่ 33 ก่อนที่ญาติแฟนจะลากลับบ้าน ขอถ่ายภาพหมู เอ๊ย หมู่กันก่อน แต่งานนี้ก็ดูมีหมูมาร่วมกล้องหลายตัวอยู่เหมือนกัน...ฮา จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 17:15:16

ความคิดเห็นที่ 34 ภาพบน : เช้าวันใหม่ อรุณสวัสดิ์ ที่หน้าต่างห้องผม ขอเปิดม่านดู พบว่าอยู่ตรงป้ายชื่อโรงแรม ที่ตรงหัวมุมอาคารพอดี (ดูจาก แผนที่ พบว่าเป็นทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ไม่ใช่ทิศเหนืออย่างที่คิดไว้ตอนแรก) ภาพล่าง : ย้ายมาดูหน้าต่างห้องพักใหญ่บ้าง ดูแล้วอาจงง เพราะมีห้องด้านข้างยื่นออกไปทั้งสองข้าง (ให้ดูในแผนผังหนีไฟ คห.32) หันออกด้านลานจอดรถด้านข้างโรงแรม อันเป็นทิศตะวันตกเฉียงใต้ ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 17:20:37

ความคิดเห็นที่ 35 ท้องหิวแล้ว เปิดเมนูอาหารที่โต๊ะหัวเตียงดู ลองโทรไปพบว่าร้านปิดครับ ปิดช่วงเทศกาลพอดี..อดเลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 17:22:12

ความคิดเห็นที่ 36 เลยพากันลงมาหาอะไรทานกันข้างนอก ถามจนท.โรงแรมดู บอกว่าอยู่ไม่ไกล ทางฝั่งถนนประชาอุทิศ ไปทางข้างหลังโรงแรม เป็นร้านเพิงหมาแหงนขนาดใหญ่ ปลายถนนประชาอุทิศ ที่ตัดกับ ถนนบิ๊กไบค์ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 17:24:08

ความคิดเห็นที่ 37 อาหารที่นี่มีแต่อาหารเช้าง่ายๆ และอาหารกล่อง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 17:26:07

ความคิดเห็นที่ 38 อาหารที่ดูหนักท้องที่สุดคือ โจ๊ก เลยสั่งมากินกันทุกคน ยกเว้นผมกินข้าวกล่อง รสชาติพอแก้หิวได้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 17:28:11

ความคิดเห็นที่ 39 ผมทานเสร็จก่อน ก็ขอกลับห้องไปทำธุระส่วนตัวก่อนออกเดินทาง เลยได้ภาพด้านหลังโรงแรม และด้านหน้า ฝั่งถนนประชาอุทิศ (คู่ขนานกับ ถนนราษฎร์อุทิศ โดยมีซอยเชื่อมกัน) จากภาพจะเห็นห้องอาหาร เดียวกับที่มีรายการอาหารในห้องพัก ในภาพคห.35 ดูๆ แล้วมี คนทำงานอยู่ อาจเปิดตอนค่ำ หรือทำความสะอาดช่วงหยุดยาวก็ได้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 17:32:19

ความคิดเห็นที่ 40 ภาพซ้าย :ผมเดินมาเข้าทางหน้าโรงแรม เพื่อเก็บภาพตอนกลางวันบ้าง สังเกตุดีๆ จะเห็นสัญญลักษณ์ นกนางแอ่นอยู่ข้างหน้า ลองค้นข้อมูลดูในเน็ตไม่พบที่มาของรูปนี้ เพื่อนผมเดาว่าแต่ก่อนคงเคยมีธุรกิจเกี่ยวกับรังนกนางแอ่นกระมัง เพราะเป็นธุรกิจที่ทำเงินได้ดี แต่ความจริงเป็นอย่างไรก็คงต้องไปถามเอากับเจ้าของโรงแรมนะครับ ภาพขวา : ป้ายชื่อซอย หน้าโรงแรม ฝั่งถนนประชาอุทิศ (ชื่อเหมือนถนนที่กรุงเทพฯ อย่า งง นะครับ) ว่าแต่ต้นไม้ขึ้นรก แทบอ่านไม่ออกเลย แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 55 18:00:57 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 17:59:53

ความคิดเห็นที่ 41 ก่อนกลับ เก็บภาพอะไรสวยๆ มาฝาก ภาพซ้าย : เป็นโคมไฟด้านหน้าโรงแรม  ข้างบนมีป้ายหินอ่อน ระบุว่าเป็น "ศิลามุมเอก" ทำให้ทราบว่าสร้างมาประมาณ 8 ปีแล้ว ยังดูใหม่มากๆ ภาพขวา : เป็นปล่องช่องระหว่างชั้น ถ่ายตอนกลางวัน ถ้าเอียงหัวไปด้านขวามือ 90 องศา จะดูคล้ายกับอุโมงค์เลย พื้นที่ราบนี่คือผนังห้องแรกฝั่งใต้ (ด้านหลัง) นะครับ แทบไม่น่าเชื่อเลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 18:05:32

ความคิดเห็นที่ 42 ภาพบน : ในที่สุดก็เช็คเอาท์ออกมาได้ประมาณ 9 โมงเช้า นับว่าเช้าที่สุดเท่าที่เคยทำได้ในระหว่างการท่องเที่ยวทุกครั้ง...ฮา  ออกมาทาง ถนนราษฎร์อุทิศ เลี้ยวซ้าย เข้าถนนศรีภูวนารถ มาลอดอุโมงค์รถไฟ เป็นอุโมงค์เปิด เหมือนกับอุโมงค์ลอดทางแยกที่กรุงเทพฯ ดูทางรถไฟข้างหน้า คล้ายกับทางเดินข้าม เพราะมีขนาดเล็ก   ซึ่งจะมี 2 ทางที่แยกไป ปาดังเบซาร์ กับ สุไหงโกลก  โดยทางรถไฟที่ไป ปาดังเบซาร์จะมีถึง 3 ราง(ไม่แน่ใจว่า 2 รางด้านข้างจะเป็นแค่ทางเดินเท้าหรือเปล่า ไม่ทันได้สังเกตุ) มีเพิ่มเติมสำหรับอุโมงค์ลอดแห่งนี้ แต่ก่อนทำเป็นช่องทึบๆ ทำให้เกิดอันตราย ต่อมามีการปรับปรุงให้โล่ง เหมือนสะพานลอย เลยดูไม่เป็นอุโมงค์ ที่มาข้อมูล http://gimyong.com/talung/index.php?topic=54709.0 ภาพล่าง : ลอดอุโมงค์มาแล้วก็มาติดไฟแดงบนถนนศรีภูวนารถ เหลือบเห็นป้ายประชาสัมพันธ์ กระเช้าลอยฟ้านครหาดใหญ่ ขึ้นเขาคอหงส์ กับ ป้ายรนณรงค์ "ขอนครหาดใหญ่คืน..." อ่านแล้วรู้สึกสงสัยว่า ใครยึดหาดใหญ่ไป   คาดว่าเป็นการสื่อเรื่องต้นไม้ ธรรมชาติของเมืองที่เปลี่ยนไปเป็นอาคารตึกมากกว่า เพราะสื่อด้วยสีเขียวเป็นสีพื้นของป้าย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 18:27:49

ความคิดเห็นที่ 43 ลองขยายภาพแผ่นประชาสัมพันธ์ กระเช้าลอยฟ้านครหาดใหญ่ดู จะทราบราคาอัตราค่าโดยสารขึ้นลง  โดยไปขึ้นที่สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ ซึ่งจะมีรถนำเที่ยวพาขึ้นไปยังจุดขึ้นกระเช้าอีกที (เสียค่าบริการเพิ่ม แต่ถ้าไม่ต้องการเสียเพิ่ม ก็ต้องนั่งรถไปขึ้นที่สถานีกระเช้าเอง) ลองค้นข้อมูลดูเกี่ยวกับกระเช้าลอยฟ้านี้ เป็นเป็นกระเช้าขึ้นเขาแห่งแรกในประเทศไทย เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2554 จากสถานีพุทธมงคลมหาราช ถึงสถานีท้าวมหาพรหม ระยะทาง 525 เมตร ใช้เวลา 2 นาทีครึ่ง จุได้ 8 คนต่อกระเช้า (เท่าที่ทราบ มีเพียง 2 กระเช้า ขึ้นลงสวนกัน เป็นการถ่วงน้ำหนักต่อกัน) เคยมีปัญหาติด (ใช้คำแบบลิฟต์ติด)ในวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2555 (หลังจากที่ผมไปแค่สัปดาห์เดียว) เนื่องจากฟ้าผ่า ทำให้หม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด สายไฟฟ้าขาด ต้องใช้แรงคนในการหมุนสายเคเบิ้ลดึงกระเช้ากลับสู่สถานีเอง ซึ่งใช้เวลานานถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง ! โดยนักท่องเที่ยวทั้งหมดปลอดภัย ที่มา :http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9550000049712 ซึ่งเรื่องนี้ ต่อไปคงต้องมีระบบหมุนด้วยมือ ที่มีประสิทธิภาพกว่านี้ เผื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก  ธรรมชาติไม่มีอะไรแน่นอนครับ  (ติดอยู่บนฟ้า ยังดีกว่าติดอยู่ในลิฟต์ หรืออุโมงค์) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 19:19:06

ความคิดเห็นที่ 44 เป้าหมายแรกของวันนี้คือ สถานีชุมทางหาดใหญ่ ก่อนเข้าไปเดินชมขอกางแผนที่ดาวเทียมกูเกิ้ลให้ดูก่อน ซึ่งผมได้ตัดเอามาตั้งแต่ ประแจแยกรางด้านเหนือสุดเลย จนถึง อุโมงค์ถนนลอดรางรถไฟด้านใต้  ซึ่งจะพบว่าสะพานข้ามทางรถไฟที่ผมข้ามเมื่อคืน นั้นอยู่ค่อนลงมาเกือบจะตรงกลางเลย ซึ่งแน่นอนว่า ตัวอาคารสถานีนั้นอยู่ค่อนลงมาทางใต้อย่างมาก นับเป็นสถานีที่ยาวจริงๆ วัด(จาก GPS Pocket PC ของ Garmin) จากประแจด้านเหนือถึงอุโมงค์ลอดด้านได้ได้ระยะทางประมาณ 1.8 กิโลเมตร  ซึ่งถ้าวัดแค่จากอุโมงค์ด้านใต้ถึงสะพานข้ามรางจะมีระยะทางประมาณ  1 กิโลเมตร  ซึ่งถ้าวัดเฉพาะชานชาลาที่ 2 ที่ยาวที่สุดก็ยาวประมาณ 400 เมตร แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 22:11:39 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 20:09:34

ความคิดเห็นที่ 45 แต่เนื่องจากวันนี้ค่ำแล้ว กระทู้มาได้ไม่ถึงครึ่งทาง จึงต้องขอพักกระทู้ไว้ก่อน แล้วผมจะมาต่อในกระทู้เดิมนี้ ในวันอาทิตย์นะครับ ก่อนพักขอวางคลิ๊ปวิดีโอ ตอนกำลังเข้าเมืองหาดใหญ่เมื่อคืน ขณะที่อยู่บนสะพานข้ามทางรถไฟด้านเหนือ ที่ไม่เคยทราบมาก่อน คิดว่าเป็นสะพานข้ามแม่น้ำไปด้วยซ้ำ แต่ในแผนที่ GPS ไม่มีแม่น้ำอยู่ข้างล่าง มีแต่เพียงคลองอู่ตะเภาที่ผ่านมาแล้ว นับเป็นความรู้สึกตื่นเต้นที่ได้มาหาดใหญ่สำเร็จ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 20:15:15

ความคิดเห็นที่ 46 ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ    อยากไปหาดใหญ่มาตั้งแต่เด็กๆ       สมัยรุ่นวงชาตรีร้องเพลงว่า  ไปหาดใหญ่คราวนั้น ฉันยังจดจำ  คำที่เคยสัญญาให้ไว้สองเรา.... อายุจนปูนนี้ยังไปไม่ถึงสักทีเลยค่าาาา... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 20:30:15

ความคิดเห็นที่ 47 สวัสดีครับ คุณป้าฟู : เหมือนกันเลยครับ ผมเองก็ชอบเพลงนี้ ฟังแล้วชวนให้คิดถึงหาดทราย สายลม ชายทะเล ที่ภาคใต้  เพิ่งมารู้ทีหลังว่า หาดใหญ่ไม่ได้อยู่ติดทะเลอย่างชื่อ เพราะเป็นหาดทรายริมคลองอู่ตะเภา เลยขอวางคลิปวิดีโอของคุณ grandchatri ได้อัปโหลดไว้เมื่อปี พ.ศ.2009  เพลง ไปหาดใหญ่..... นี้มีชื่อว่า "สัญญาใจ" อยู่ในชุดสัญญาใจ ร้องโดยคุณประเทือง อุดมกิจนุภาพ (ตามภาพในคลิ๊ปวิดีโอ) เมื่อปี พ.ศ.2523  โอ้ว...ตอนนั้นผมยังเรียนอยู่ ชั้น ม.ศ.3 เลย  เป็นปีที่ผมเริ่มกล้าคุยกับแฟนคนแรก หลังแอบดูใจเธอมานานกว่า 3 ปี  แต่เธอไม่สน รัก(หลง)เขาข้างเดียว จนเลิกคบหากันในปี 2527 แล้วมาติดต่ออีกหลังเธอไปมีสามีแล้ว ตอนผมจบ มช. ปี 2530 ขออวยพรให้ได้มีโอกาสไปเที่ยวหาดใหญ่เร็วๆ นี้นะครับ ตอนนี้ดูภาพจากกระทู้ผมไปพลางๆ ก่อนนะครับ แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 55 00:24:06 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 00:22:18

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ละเอียดมาก จากคุณ : PAEstudio เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 00:38:40

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ มีประโยชน์ และน่าตามรอยมาก จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 07:35:17

ความคิดเห็นที่ 50 เมื่อ ก่อน ปี 2531 ศิริภินันท์ คือ อพาทร์เมนท์ ครับผม จากคุณ : SKYLAP เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 08:57:42

ความคิดเห็นที่ 51 ละเอียดจริง  ผมอยู่หาดใหญ่  confirm จากคุณ : joehinfo เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 11:35:32

ความคิดเห็นที่ 52 เข้ามาสวัสดี คุณ mirage ครับ และตามอ่านแบบเงียบๆ จากคุณ : DA-4 เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 11:57:05

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณครับ จากคุณ : TheFootball เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 19:24:12

ความคิดเห็นที่ 54 เรียน จขกท ขอแก้ไขความเห็นที่ 6 ครับ ตึกที่สูงที่สุดในหาดใหญ่ไม่ใช่ลีการ์เดนนะครับ ลีการ์เดน สูงอันดับ 2 ด้วยความสูง 33 ชั้น ส่วนตึกที่สูงที่สุดในหาดใหญ่และในภาคใต้ คือตึกนภาลัยเพลส คอนโดมิเนียม สูง 48 ชั้นครับ จากคุณ : jamekoong เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 23:57:55

ความคิดเห็นที่ 55 ที่พักผมอยู่ไม่ไกลจากทางลอดรถไฟเลยครับ เช้า ๆ นั่งฟังเสียงหวูดรถไฟ พร้อมกับรายงานการเสียเวลาของรถไฟแต่ละขบวน ในทุกเช้า ซึ่งแต่ละวันรถสายใต้จาก กทม.เข้า สุไหงโก-ลก , บัตเตอร์เวิร์ธ เสียเวลาไม่ต่ำกว่า 2 ชม.ครับ แล้วเป็นอย่างนี้มานานแล้ว จากคุณ : @Server ! maN@ เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 11:03:15

ความคิดเห็นที่ 56 สวัสดีครับ คุณPAEstudio, คุณม่วงมหากาฬ, คุณDA-4, คุณTheFootball : ขอบคุณเช่นกันครับ รีวิวตอนนี้มีคนสนใจเยอะ ทำลายสถิติ กิฟท์เลยครับ ขอบคุณทุกๆ ท่านอีกเช่นกัน สวัสดีครับ คุณSKYLAP : ขอบคุณที่เข้ามาเพิ่มเติมให้ครับ ว่าแล้วเชียว จากแผ่นศิลาฤกษ์ ในคห.41 ที่ระบุวันที่ไว้เป็นปี ค.ศ.2004 นี้น่าจะเป็นการสร้างอพาร์ทเมนต์ก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นโรงแรมในภายหลัง คาดว่าคงเปลี่ยนมาไม่นาน และปล่องช่องทะลุระหว่างชั้น นี้ผมเดาเอาว่าน่าจะมาเจาะเอาทีหลัง จริงหรือไม่ ต้องให้คนที่เคยพักตอนเป็นอพาร์ทเมนต์มาตอบนะครับ สวัสดีครับ คุณjoehinfo และ คุณ@Server ! maN@ :ยินดีที่รู้จัก คนหาดใหญ่ ครับ สำหรับคุณ @Server ! maN@ นี้ พอจะทราบไหมว่า ทางรถไฟตรงทางลอด ที่แยกไป ปาดังฯ ดูมี 3 สะพานติดๆ กัน ข้างบนเป็น 3 รางหรือเปล่าครับ  ดูจากกูเกิ้ลไม่ชัด ตอนที่ขับรถลอดไปก็สังเกตุเห็นเหมือนมีราง 3 รางอยู่เรียงกัน แต่ก่อนคงทำเป็นพื้นทึบติดต่อกัน ต่อมามีการเจาะโปร่งให้แสงลอดลงไปได้  โอกาสหน้า ถ้าผมได้ไปอีกก็จะขึ้นไปเก็บภาพมาครับ สวัสดีครับ คุณjamekoong : ขอบคุณที่เข้ามาแก้ไขให้ ตึกสูงที่สุดในเมืองหาดใหญ่ ณ.ปัจจุบัน คือ นภาลัยเพลสคอนโด ผมลองค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมดู พบว่า อยู่ทางใต้ของเมือง ตรงจุดตัดถนน ราษฎร์ยินดี กับ ถ.ศรีภูวนารถ ตามแผนที่ในคห.6 (ขอแก้ไขแผนที่อีกเล็กน้อย ที่ผิดพลาดตรง ถนนเพชรเกษม ที่มุ่งตรงไป ม.อ. นั้นไม่ใช่นะครับ ที่ถูกต้องเป็นถนน ศุภสารรังสรรค์ ส่วน ถนนเพชรเกษมนั้นจะเลี้ยวซ้ายขึ้นไปทางเหนือของเมือง ไปบรรจบกับ ถนนกาญจนวนิช เช่นกัน ตรงหน้า โรงพยบาลค่ายเสนาณรงค์ ติดกับ ศูนย์วิจัยยางสงขลา ที่อยู่ติดกับ ม.อ.ขึ้นไปทางเหนือ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 12:31:52

ความคิดเห็นที่ 57 สำหรับรูปอาคารสูง ทั้งสองแห่ง (นภาลัยเพลสคอนโด กับ โรงแรมลีการ์เดนท์ พลาซ่า) พอจะหาภาพได้จากในเน็ต ของคุณimagine จากเว็บ http://www.thaitransport-photo.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=4016&start=30 ถ่ายจาก โรงแรมเจบี หาดใหญ่  ชั้น10 ที่อยู่ด้านเหนือของเมือง (อยู่ระหว่างถนนจุติอนุสรณ์ กับ คลองเตย) ถัดลงมามีภาพเกี่ยวกับเมืองหาดใหญ่อยู่หลายภาพ ดูเป็นคนรักรถไฟคนหนึ่งเช่นกันครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 12:58:05

ความคิดเห็นที่ 58 ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว พูดถึง โรงแรมเจบี หาดใหญ่ ที่อยู่ทางเหนือ ซึ่งเลยไปจากแผนที่ข้างบน คห.56  ซึ่งไม่ได้ครอบคลุมพื้นที่ส่วนบนของเมืองหาดใหญ่ เลยขอทำแผนที่ใหม่ มาให้ดูกันซึ่งจะได้เห็นภาพรวมของเมืองหาดใหญ่เต็มๆ นะครับ (แถมให้ กับ ตลาดสันติสุข ผมไม่ได้ไป แต่พยายามค้นหาข้อมูลตำแหน่งจากในเว็บนะครับ) คราวหน้าไปอีกที คงไม่งง หลงทางแบบผมนะครับ (ก่อนไป ผมไม่ได้หาข้อมูลก่อน ว่าตลาดกิมหยง ตลาดสันติสุข อยู่ตรงไหน นึกว่าจะมีป้ายบอกทางไป อยู่ในเมือง กลับไม่มี ต้องใช้วิธีถามทางเอา วุ่นวาย เหมือนกัน) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 13:50:34

ความคิดเห็นที่ 59 มาเดินทางต่อกันซะที หลังจากนอกเรื่องไปยังตึกสูงสุดของเมืองหาดใหญ่ ที่ผมไม่ได้ไป  เป้าหมายแรกวันนี้ (14 เมย.55) ก็คือ สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ ก่อนเข้าไปขอกางแผนที่ บริเวณสถานีให้ดูชัดๆ อีกทีครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 14:05:35

ความคิดเห็นที่ 60 จากถนนศรีภูวนารถ ด้านใต้ของเมือง วกขึ้นไปยังสถานีรถไฟ ตามถนนนิพัทธ์อุทิศ 2 (ถนนแถวนี้ เป็นถนนเดินรถทางเดียว ต้องสังเกตุให้ดี) ไปเลี้ยวซ้ายเข้า ถนนมนัสฤดี ตรงไปถนนขนานรางรถไฟ ด้านใต้ของสถานี ไปหาที่จอดร่มๆ หน้าห้างโรบินสัน  หันไปมองสถานีทางด้านใต้ ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 14:11:22

ความคิดเห็นที่ 61 หันไปมองขวามือ เป็นลานจอดรถหน้าห้างโรงบินสันครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 14:12:52

ความคิดเห็นที่ 62 ผมเดินเข้ามาใกล้อาคารสถานีแล้ว รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย เพราะเคยมาที่นี่เมื่อ ประมาณ 30 ปีที่แล้ว จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 14:14:31

ความคิดเห็นที่ 63 มาถึงสามแยกหน้าอาคารสถานี (ที่จริงคือ หลังสถานี) มองเห็นเขากำลังฉีดน้ำทำความสะอาดถนนอยู่ ไม่ใช่เล่นน้ำสงกรานต์  เมื่อวานเป็นวันสงกรานต์คงมีการเล่นน้ำแถวนี้กันหนัก แต่แปลกดี ที่วันนี้เงียบ คนใต้คงนิยมเล่นน้ำสงกรานต์เพียงวันเดียวนะครับ  มองตามถนนที่มุ่งออกจากสถานี (ถนน ธรรมนูญวิถี) จะเห็น โรงแรมลีการ์เด้น พลาซ่า อยู่ด้วย  (ตอนนั้นผมไม่ทราบว่าเป็นโรงแรมนี้ ใน GPS Map กลับไประบุว่า อยู่ใกล้ถนน ศรีภูวนารถ ทางใต้โน้น คงเป็นโรงแรม ลีการ์เด้น เดิมกระมังครับ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 15:12:54

ความคิดเห็นที่ 64 ผมเดินถอยห่างออกมา เพื่อเก็บภาพอาคารสถานีรถไฟหาดใหญ่ หน้าตรง เป็นประติมากรรมผสมผสาน ดูเผินๆ คล้ายกับ ศาลเจ้าที่ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 15:16:45

ความคิดเห็นที่ 65 เรียน จขกท ขออนุญาตมาแก้ไขข้อมูลอีกครั้งนะครับ ใน คห 63 ที่บอกว่า ทางใต้เล่นสงกรานต์วันเดียวนี่บางจังหวัดครับ แต่สำหรับหาดใหญ่เล่น 3 วันครับ เล่นก่อนด้วย ปกติก็ 11-13 เมษายนครับ และนิยมเล่นตอนกลางคืน เราเรียกว่า มิดไนท์สงกรานต์ หาดใหญ่ ที่แรกและที่เดียวในประเทศไทยครับ. ส่วนที่เงียบเพราะวันที่ 14 ไม่มีกำหนดการแล้ว นักท่องเที่ยวกลับประเทศไปแล้ว ส่วนคนหาดใหญ่เองก็กลับต่างจังหวัดและไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด  อารมณ์เหมือนกรุงเทพช่วงเทศกาลที่เงียบและรถไม่ติดครับ ขออนุญาตแปะกำหนดการซึ่งได้จัดมาทุกปีและนี่คือของปี 2555 ครับ ต้องขออภัย จขกท อีกครั้งที่ต้องมาขอแก้ข้อมูลนะครับ จะได้เข้าใจอย่างถูกต้องและเชิญชวนมาเที่ยวงานมิดไนท์สงกรานต์ที่หาดใหญ่ในปีต่อๆไปครับ ซึ่งคนมาเที่ยวค่อนข้างเยอะ จริงๆแล้วทุกปีมีมากกว่า 50000 คน แต่ปี 2555 เกิดเหตุการณ์ 331 คนจึงน้อยลงบ้างแต่โรงแรมก็ยังเต็มอยู่ดีครับ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวร้อยละ 60 เป็นชาวต่างชาติและที่เหลือเป็นชาวไทยเขตใกล้เคียงครับ สามารถคลิกไปดูได้ที่ http://www.hatyaiok.com/events/?p=2238 ส่วนนี่ข้อมูลหาดใหญ่เพิ่มเติมครับ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการพัฒนาครับ http://www.skyscrapercity.com/showpost.php?p=92873992&postcount=6472 กำหนดการ มิดไนท์สงกรานต์หาดใหญ่ วันที่  11  เมษายน 2555 - บริเวณถนนนิพัทธ์อุทิศ 3 – เวทีใหญ่ เวลา  16.30 น.       – พิธีแห่เทียมดา เวลา  18.30 น.      – ดนตรี เวลา  20.20 น.       – ประกวดนางงามรอบโชว์ตัว /  รอบคัดเลือก  /  รอบ 20 คน เวลา  22.00 น.       – การแสดง เวลา  22.30 น.       – คอนเสิร์ต POTATO วันที่  12  เมษายน 2555  - บริเวณถนนนิพัทธ์อุทิศ 3 – เวทีใหญ่ เวลา  16.00น.        – การแสดง ฮูลาฮูป โยกย้ายส่ายพุง เวลา  17.00น.        – การแสดง ลีลาลีลาศเริงรื่นสงกรานต์ – บริเวณหน้าห้างโรบินสัน เวลา 17.00 น.        – ขบวนแห่คาร์นิวัล พร้อมกันที่ หน้าห้างโรบินสัน เวลา 17.45 น.        – แขกผู้มีเกียรติ /สื่อมวลชน พร้อมกันบริเวณงาน เวลา 18.15 น.        - พิธีกรนำเข้าสู่พิธีการ -นายกสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา นายสุรพล  กำพลานนท์วัฒน์ กล่าวรายงานขบวนแห่คาร์นิวัล - ประธานในพิธีฯ   กล่าวปล่อยขบวนคาร์นิวัล - ขบวนคาร์นิวัล เคลื่อนไปตามเส้นทางที่กำหนด – ถนนนิพัทธ์อุทิศ 3 – เวทีใหญ่ เวลา 19.00 น.        – ขบวนแห่คาร์นิวัลเข้าบริเวณงาน (ผ่านหน้าเวที) เวลา  20.00  น.      – พิธีเปิดงาน”มิดไนท์สงกรานต์หาดใหญ่ 2555 “ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เวลา  20.30 น.       – การประกวดนางงามรอบต่าง ๆ พร้อมประกาศผลและพิธีมอบรางวัล เวลา  22.40 น.       – คอนเสิร์ต THAITANIUM * มวยไทย , มวยทะเล  เริ่ม เวลา 20.30 น. * ปาร์ตี้โฟม บริเวณถนนเสน่หานุสรณ์ วันที่  13  เมษายน 2555  – ถนนเสน่หานุสรณ์ เวลา 10.00 น.        – มวยทะเลและกีฬาพื้นบ้าน เวลา 10.00 – 20.00 น.   – ปาร์ตี้โฟมกับDJ ชื่อดัง เวลา 20.00 น.        – มวยไทย **เวลา 07.00 น.  บริเวณหน้าจัตุรัสหาดใหญ่     – พิธีทำบุญตักบาตร / พิธีรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ ข้างล่างนี้คือคลิปสำหรับงานมิดไนท์สงกรานต์หาดใหญ่ครับ แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 16:01:01 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 15:40:40 จากคุณ : jamekoong เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 15:38:49

ความคิดเห็นที่ 66 ตรงด้านหน้าอาคาร มีแผนที่เมืองหาดใหญ่ ลักษณะคล้ายป้อม ทรงกระบอกตั้งอยู่ 2 อัน สีทอง กับ สีเงิน มองไปที่ยอด เป็นรูปปั้นเศียรช้าง 3 เชือก มีพานวางแผ่นกระดาษคล้ายรัฐธรรมนูญอยู่ข้างบน  เป็นตราสัญญลักษณ์ประจำ เทศบาลนครหาดใหญ่ ประวัติที่มา กว่าจะได้เป็น เทศบาลนครหาดใหญ่นี้มีความเป็นมานานพอสมควร ดังต่อไปนี้ เมืองหาดใหญ่เกิดจาก การมีสถานีรถไฟจริงๆ และเกือบจะไม่มีใครรู้จัก ชื่อนี้แล้ว  เพราะตอนแรกมีการสร้างสถานีรถไฟอู่ตะเภา ชาวบ้านนิยมเรียกว่า สถานีต้นโด หรือต้นประดู่ ที่เรารู้จักกันนั่นแหละ อยู่เหนือไปจากสถานีหาดใหญ่ในปัจจุบันประมาณ 3 กิโลเมตร เกือบถึงคลองอู่ตะเภา (คงมีวัตถุประสงค์ เรื่องการขนส่งทางน้ำ และการใช้น้ำสำหรับต้ม เพราะหัวจักรรถไฟสมัยก่อนเป็นแบบเครื่องจักรไอน้ำ) สร้างเมื่อปี พ.ศ.2452 โดยสร้างเป็นชุมทางรถไฟ เพราะมีรางแยกไป จ.สงขลา เพื่อการก่อสร้างทางรถไฟสายใต้ และให้บริการช่วง พัทลุง-สงขลา (ในระหว่างนั้น ผมคิดว่าน่าจะยังไม่มีการสร้างทางรถไฟใต้ลงไปกว่านี้)  แต่เนื่องจากพื้นที่สถานีเป็นที่ลุ่ม น้ำจึงท่วมบ่อยและนาน ในปีพ.ศ. 2455 จึงมีการย้ายสถานีลงมาสร้างอยู่ที่ หาดใหญ่ ดังในเช่นปัจจุบัน เนื่องจากเป็นพื้นที่เนินสูง เป็นป่าต้นเสม็ดชุน ชาวบ้านนิยมเรียกว่า โคกเสม็ดชุน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก หาดทรายริมคลองอู่ตะเภา ที่ประชาชนนิยมเรียกกันว่า "หาดใหญ่" เลยตั้งชื่อสถานีแห่งใหม่ ว่าหาดใหญ่ (ผมเองคิดว่า น่าจะดีกว่า ชื่อสถานีเสม็ดชุน) ทำให้ ประชาชนย้ายบ้านเรือนตามมาอยู่ใกล้สถานีหาดใหญ่ และมีคนมาอยู่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  จนปีพ.ศ.2471 ได้รับการยกฐานะให้เป็นสุขาภิบาลตำบลหาดใหญ่ และไม่นานก็ได้รับการยกฐานะเพิ่มเป็นเทศบาลตำบลหาดใหญ่ ในปีพ.ศ.2478  ความเจริญได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนปี พ.ศ.2492 ได้ยกฐานะขึ้นเป็น เทศบาลเมืองหาดใหญ่  จนปัจจุบันได้ปรับขึ้นเป็น เทศบาลนครหาดใหญ่ ในปี พ.ศ.2538 เป็นต้นมา ซึ่งในส่วนของการเป็นอำเภอนั้น ได้มีการใช้ชื่อ หาดใหญ่ เป็นอำเภอมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2460 แล้ว (ก่อนหน้านั้น ใช้ชื่อว่า อำเภอเหนือ) ความเจริญของเมืองหาดใหญ่นี้นับว่าแซงหน้า ตัวจังหวัดสงขลาไปมาก ทั้งๆ ที่ เมืองสงขลานั้นมีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาแล้ว จากภาพ จะสังเกตุเห็นรูปปั้นเศียรช้างเล็กๆ ตั้งอยู่ในรั้ว ตอนนั้นผมไม่ทันเห็นด้วยซ้ำไป มารู้ตอนจัดเตรียมภาพนี้แหละ พอดีสังเกตุเห็นยอดแผนที่สีเงินมันหายไป (ถ้าไม่มียอดสีทองเปรียบเทียบก็ไม่ทราบเช่นกัน) คาดว่าคงหักและนำไปเก็บไว้ตรงนั้น นั่นแหละครับ แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 18:24:00 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 18:19:00

ความคิดเห็นที่ 67 ขอ ขอบคุณคุณjamekoong ที่ช่วยแก้ไข เรื่องการเล่นน้ำสงกรานต์ ของคนใต้ให้ครับ เลยทำให้ทราบว่า มีการเล่นน้ำสงกรานต์ตอนกลางคืน ที่หาดใหญ่ ที่เรียกว่า "มิดไนท์สงกรานต์" ด้วย  เคยเห็นแต่ที่ตรอกข้าวสาร กรุงเทพฯ เล่นน้ำกันทั้งวันจนดึกถึงเลิก ผมย้ายฝั่งมาเล็งภาพ มุมเฉียงของสถานีชุมทางหาดใหญ่ อีกด้านบ้าง ฝั่งนี้เป็นทางเข้านะครับ แต่ดูจากภายนอกไม่เห็น เพราะมีรถกระป๋องโดยสารจอดกันแน่น จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 18:32:23

ความคิดเห็นที่ 68 หันออกไปมองตึกแถว ฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟอีก ถนนตรงนี้มีชื่อว่า "ถนนรถไฟ" เป็นการเดินรถทางเดียวเมื่อถึงสถานีต้องเลี้ยวซ้ายออก ไปบรรจบกับถนนด้านที่ผมเข้ามา (ไม่เห็นระบุชื่อในแผนที่ว่า ชื่ออะไร คิดว่าน่าจะชื่อเหมือนกันคือ ถนนรถไฟ ฝั่งใต้)  นับว่าแปลกดี แทนที่จะกำหนดให้ถนนวิ่งเข้าหาสถานีโดยตรง แล้วแยกออกไป 2 ด้าน คนจะได้มองเห็นอาคารสถานีได้ตั้งแต่ระยะไกล (ทำให้เห็นด้านข้างแทน หรือถ้าต้องการจะเห็นข้างหน้า ต้องหันหลังกลับไปดู ซึ่งถ้าขับรถเองก็คงไม่ถนัดเห็นแค่จากกระจกมองหลังเท่านั้น) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 18:38:37

ความคิดเห็นที่ 69 ถอยห่างออกมาอีก เพื่อเก็บภาพอาคารสถานีหาดใหญ่ ด้านเหนือได้เต็มๆ (ตรงข้ามกับภาพในคห.60) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 18:52:34

ความคิดเห็นที่ 70 ได้เวลาเข้าไปเดินชมสถานีกันแล้ว เดินย้อนกลับมายังตรงกลาง มีช่องเล็กๆให้เดินเข้าไป เข้าไปก็จะพบ จนท.รักษาความปลอดภัยมากมาย และรั้วกั้นกำหนดทิศทางการเดินเข้าออกสถานี เพราะเพิ่งผ่านเหตุการณ์วางระเบิด โรงแรมลีการ์เด้น พลาซ่า ไปไม่นาน (วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2555) ว่าแต่เข้าไปปุ๊บ ก็พบรอยยิ้มของ คุณตำรวจท่องเที่ยว ก็สบายใจแล้ว ว่าคงไม่ได้มีคำสั่งห้ามถ่ายภาพแต่อย่างใด จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 18:58:12

ความคิดเห็นที่ 71 เข้ามาในหลังคาสถานี เป็นถนนสำหรับรถรับส่งผู้โดยสาร ยามนี้ถูกสั่งปิด ห้ามผ่าน มี จนท.ไปยืนกันเต็ม เหมือนกำลังรอ บุคคลสำคัญ กำลังมา ส่วนภาพขวาดันมี ประชาชนไปยืนด้วย ทำให้นึกถึงบรรยากาศม๊อบปิดถนนเลย เห็นแบบนี้ ถ่ายไปก็เสียวจะโดนเรียก ถามว่า "ถ่ายไปทำไม ?" แต่โชดดีที่ไม่มี จนท.ถาม ซึ่งผมก็พยายามถ่ายไม่ให้ติด จนท. ตามจุดต่างๆ เท่าที่ทำได้ เกรงว่าจะถูกสงสัยให้มาบันทึกภาพต้นทางให้กับผู้ก่อการร้ายได้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 19:04:05

ความคิดเห็นที่ 72 ข้างในอาคารสถานี โล่ง เพราะถูกกั้นพื้นที่ไว้ มีป้ายตารางเดินรถอยู่บนเพดาน ฝั่งซ้าย (ด้านทิศใต้) 2 แผ่น แยกกันระหว่าง ขาขึ้นกับ ขาล่อง ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 19:07:40

ความคิดเห็นที่ 73 มาวิเคราะห์ตารางเดินรถกันหน่อย โดยนำตารางมารวมกันในภาพเดียว แล้วลากโยงเส้น รถไฟขบวนเดียวกันที่มาจากกรุงเทพฯ (ขึ้น) แล้วตีกลับไปกรุงเทพฯ (ล่อง) รวมฝั่งละ 12 ขบวน แบ่งเป็น รถธรรมดามี 5 ขบวน เป็นรถท้องถิ่นไม่ได้มาจากกรุงเทพฯ ทั้งหมด 3 ขบวนลงไปถึง สุไหงโกลก 1 ขบวน ไปยะลา และอีก 1 ขบวนมาแค่หาดใหญ่ รถเร็วมี 3 ขบวน มาจาก กรุงเทพฯ 2 ขบวนปลายทางสุไหงโกลก กับ ยะลา ส่วนอีกขบวนออกจาก หาดใหญ่ไป สุไหงโกลก รถด่วนพิเศษมี 4 ขบวน มาจากกรุงเทพฯ 3 ขบวนปลายทางสุไหงโกลก ยะลา และบัตเตอร์เวอร์ธ ที่ข้ามไปมาเลเซีย(ใกล้ๆ กับเกาะปีนัง) และอีกขบวนที่ออกจากหาดใหญ่ไปถึง กัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย (ขบวนนี้ดูเหมือนเป็นของมาเลเซีย เพราะมีระยะทางวิ่งในประเทศไทยแค่ 45 กิโลเมตร และไม่สามารถตรวจสอบได้จากเว็บการรถไฟนี้ได้http://www.railway.co.th/checktime/checktime.asp) ขบวนนี้ คนที่นั่นนิยมเรียกว่า ลังกาวี เป็นเรื่องแปลกที่ ลังกาวีเป็นเกาะ รถไฟก็แค่ผ่านไปเฉียดชายฝั่ง Kuala Perlis (ท่าเรือ jetty ที่ต้องข้ามเรือไปยังเกาะลังกาวี) ที่ห่างจากสถานีรถไฟ Arau สิบกว่ากิโลเมตร อ้อ..และเวลารถไฟขบวนนี้ข้ามมาประเทศเรา จะตัดโบกี้โดยสารออกเหลือแค่ 2 โบกี้เอง นอกนั้นเป็นโบกี้สินค้า เท่าที่สังเกตุดู เป็นเรื่องที่น่าแปลกว่า ไม่มีรถไฟขบวนท้องถิ่นวิ่งไป ปาดังเบซาร์เลย! จะมีก็เพียงรถด่วนพิเศษ กรุงเทพฯ-บัตเตอร์เวอร์ธ หรือ หาดใหญ่ - กัวลาลัมเปอร์ เท่านั้น ซึ่งคงไม่มีใครขึ้นจาก หาดใหญ่ ไปแค่ ปาดังเบซาร์ เพราะต้องเสียค่าธรรมเนียมแพง การไปปาดังเบซาร์จากหาดใหญ่ จึงนิยมไปโดยรถยนต์เท่านั้น อ้อ..จากตารางเดินรถที่เห็น มีข้อสังเกตุอันหนึ่งที่น่าสนใจคือ รถไฟที่มาจากกรุงเทพฯ จะอยู่ในช่วงเช้าถึงเที่ยง ส่วนช่วงบ่ายรถไฟจะวิ่งกลับไปกรุงเทพฯ ต่างกับรถที่ไปไม่ถึงกรุงเทพฯ จะกระจายกันวิ่งทั้งช่วงเช้าและบ่ายครับ แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 55 13:52:38 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 55 12:14:17 แก้ไขเมื่อ 02 ก.ค. 55 11:54:07 แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 20:54:27 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 20:16:08

ความคิดเห็นที่ 74 ถ่ายอะไรมากไม่ได้ จนท.เยอะ และรั้วก็มาก ผมเดินเข้ามาในอาคารสถานี หันไปเก็บภาพทั้งสองด้านอย่างเร็วๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 20:27:44

ความคิดเห็นที่ 75 รีบๆ เดินผ่าน เกือบจะถึงช่องทางออกไปยังชานชาลาด้านนอก หันไปทางขวา เก็บภาพเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วอีกที มีถึง 6 ช่อง น้องๆ สถานีหัวลำโพงเลยนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 20:30:00

ความคิดเห็นที่ 76 เดินออกมาถึงชานชาลาสถานีแล้ว...เฮ้อ..เจอเข้ากับป้ายชื่อสถานีแบบแขวนยอดฮิต ที่ใครมาก็ต้องเก็บภาพนี้ไปทุกครั้ง มองไปทางซ้ายที ขวาที ข้างหน้ามีรั้วกั้นระหว่างราง ก่อนที่จะข้ามไปยังชานชาลาถัดไป จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 20:32:07

ความคิดเห็นที่ 77 ภาพซ้าย : ผมเลือกเดินไปทางขวา (ทิศเหนือ) ก่อน เจอตารางบันทึกเวลารถไฟเข้าสถานีหาดใหญ่ ดูๆ แล้วจะมีบันทึกไว้เฉพาะรถที่ไปหรือมาจากกรุงเทพฯเท่านั้น  ดูๆ แล้ว น่าจะเป็นเวลาคาดการณ์ รถไฟที่เสียเวลา มาจากสถานีต้นทางทั้งสองด้าน ซึ่งแบ่งชัดเจนว่า มาจากกรุงเทพฯ 5 ขบวนช่วงบนของตาราง และ ไปกรุงเทพฯ 5 ขบวนช่วงล่างของตาราง ภาพขวา : แผ่นป้ายติดกันเป็นแผนที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว จ.สงขลา บังเอิญผมถ่ายภาพมาไม่ชัด ต้องคาดเดาบางสถานที่ ถ้าไม่ถูกต้องช่วยทักท้วงด้วยนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 20:45:03

ความคิดเห็นที่ 78 พอดีช่วงนั้นมีรถไฟกำลังจะเข้าสถานีพอดี เหลือบเห็นนายสถานีถือธง รีบออกไปปฏิบัติหน้าที่รับขบวนรถ แหม... เห็นป้ายกำกับทิศทางเดินรถตรงรั้วทั้ง 2 ใบแล้ว ชวนให้งงๆ เหมือนกัน เพราะเคยชินกับสถานีทุ่งสง ที่อาคารสถานีอยู่ทิศตะวันตก ที่ด้านซ้ายมือคือรถขึ้นเหนือ ขวามือรถลงใต้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 20:49:57

ความคิดเห็นที่ 79 พอดีถ่ายคลิ๊ปวิดีโอไว้ คาดว่าเป็นขบวนที่ 456 รถเร็ว ปลายทางนครศรีธรรมราช กำหนดเวลาเข้าสถานี 9:11 น. เวลาขณะนั้น 9:24 น. เสียเวลาแค่ 13 นาทีเอง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 21:03:56

ความคิดเห็นที่ 80 รถจอดสนิทแล้ว มองไปทางท้ายขบวน และหัวขบวน ป้ายข้างหน้าข้างโบกี้ อ่านแล้วทำให้งง เพราะดันมี ชื่อ พัทลุงอยู่ต่อท้าย นครศรีธรรมราช ทั้งๆ ที่รถไฟต้องผ่าน พัทลุงก่อน นครศรีธรรมราช ทางการรถไฟคงมีนัยยะสำคัญอะไรแฝงไว้ด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 21:07:51

ความคิดเห็นที่ 81 หันกลับมาดูทางสถานี รั้วที่กั้นช่วยให้คนเดินเป็นระเบียบเฉพาะช่องที่ผ่านได้ ไม่งั้นคงเดินกันมั่วไปหมด ซึ่งในรูปจะเห็น จนท.ทหารเดินปะปนกันเต็มไปหมด จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 21:10:40

ความคิดเห็นที่ 82 จากนั้นผมก็เดินกลับเข้ามายังชานชาลาสถานี เพื่อเดินต่อไปทางเหนือ ตามทิศทางลูกศร (ขวาไปซ้าย) จะเห็นช่องให้บริการสวยๆ อาคารยาวมากๆ  มีศูนย์อาหารติดแอร์ด้วย... จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 21:13:42

ความคิดเห็นที่ 83 ภาพซ้าย : เดินไปจนสุดอาคารสถานี ก็มีชานชาลาต่อไปอีกยาว...  ถัดจากอาคารสถานีเป็นห้องสุขา ซึ่งมีแผงลอยอยู่ข้างหน้า เป็นแบบถาวรที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนว่าเป็นแค่ห้องเล็กๆ ที่เก็บสินค้าได้  แต่ที่น่าแปลกคือ ร้านแผงลอยเหล่านี้พากันปิดหมดทั้งๆ ที่เป็นช่วงเทศกาล มีคนมาสถานีกันเยอะแยะ ภาพขวา : เดินอ้อมไปข้างหลังแผงลอยถาวร พบว่ามีรางในอีก 1 ราง ที่มีจุดหยุดตรงนี้พอดี  จะเห็นว่ามีโบกี้สินค้าจอดทิ้งไว้ด้วย แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 21:32:45 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 21:18:13

ความคิดเห็นที่ 84 ภาพซ้าย :เดินเลียบรางในไปทางเหนือ เจอป้ายบอกชื่อสถานีข้างเคียง ที่ไม่มีระยะทางกำกับ ผมเลยเพิ่มเติมเข้าไปให้ด้วย เป็นเรื่องที่น่าแปลก ที่สถานีแห่งนี้เป็นสถานีชุมทาง มีทางแยกไป 2 ปลายทางคือ สุไหงโกลก กับ ปาดังเบซาร์ แต่กลับไม่มีป้ายบอกทางแยกสถานีเหมือนที่ ชุมทางทุ่งสง และชุมทางเขาชุมทอง หรือเป็นเพราะว่า ไม่นิยม(สนับสนุน)ให้นั่งรถไฟจากสถานีนี้ไปปาดังเบซาร์ ที่ห่างเพียง 45 กิโลเมตร ในขณะที่ขบวนรถไฟเกือบทั้งหมดจะไปทางสุไหงโกลก ที่ไกลถึง 110 กิโลเมตร ภาพขวา :หันกลับไปมองปลายราง ที่มีแป้นประทะ มีการเขียนตัวเลขกำกับไว้ด้วย ไม่รู้ว่ามีความหมายอะไร แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 21:30:13 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 21:20:10

ความคิดเห็นที่ 85 ภาพซ้าย : กลับมาเดินที่ชานชาลา 1 อีก เลยแนวแผงลอยถาวรมาแล้ว ยังอีกไกลเหมือนกันกว่าจะสุดปลายชานชาลา ตรงนี้จะเห็นว่าในรางที่ 2 มีขบวนรถจอดอยู่ (คงจำกันได้ว่า เพิ่งมีรถไฟจากยะลามาเข้าจอดในรางที่ 3  อยู่กันคนละรางนะครับ) ภาพขวา : เลยแนวโบกี้สินค้าที่จอดตรงรางใน มีวัตถุโบราณ ของเก่าควรค่าแก่การเก็บสะสมไว้ เครื่องชั่งแบบเข็ม ที่หาได้จากที่สถานีรถไฟเท่านั้น  มองผ่านไปข้างหล้งเครื่องชั่งจะเห็นช่องทางออกไปยัง อาคารจนท.รถไฟ มีรั้วรอบขอบชิด แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 21:39:24 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 21:37:22

ความคิดเห็นที่ 86 เดินเลยมาทางเหนืออีก เกือบถึงปลายชานชาลาสถานี ด้านรางในติดรั้วข้างนอก ตรงนี้มีช่องเดินออกไปข้างนอกได้ มองไปทางซ้าย และขวาดู (แต่ดันลืมเก็บภาพช่องเดินออกไปได้) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 21:42:05

ความคิดเห็นที่ 87 ภาพเล็กตรงกลาง : เดินออกไปข้างนอกรั้ว ข้างหน้าเป็นสถานีตำรวจรถไฟ สังเกตุเห็นถนนเล็กๆ ด้านข้างสถานี แทบไม่น่าเชื่อว่า เป็นถนนที่มาจาก ย่านธุรกิจ ที่มีโรงแรมลีการ์เด้นท์ เพียงแต่เดินรถทางเดียว ย้อนกลับไปไม่ได้ ภาพซ้าย : ซ้ายมือเป็นสนามเด็กเล่น ภาพขวา : เป็นหัวจักรรถไอน้ำเก่า รุ่นบอลด์วิน(แปซิฟิค) ที่ตั้งเป็นอนุสาวรีย์ แปลกดี ที่มาตั้งหลบอยู่ตรงนี้ ปกติสถานีแห่งอื่นมักจะนำไปวางโชว์ตรงหน้าอาคารสถานีเลย คงไม่มีพื้นที่ว่างพอ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 21:53:30

ความคิดเห็นที่ 88 ผมเดินมาเกือบถึงป้ายชื่อสถานีด้านเหนือจนได้ มองต่อไปเห็นสะพานรถข้ามอยู่ไม่ไกล เป็นสะพานที่ผมข้ามมาเมื่อคืนจำซุ้มเฉลิมพระเกียรติกลางสะพานได้  หัวจักรขบวนรถที่จอดอยู่ในรางที่ 2 ยังเลยออกไปนอกชานชาลาอีก เห็นจนท.กำลังล้างทำความสะอาดข้างตู้ รถยังไม่พร้อมให้บริการ เลยจอดไกลจากสถานีมาก   เดินถึงป้ายแล้วก็ขอถ่ายภาพตัวเองไว้เป็นที่ระลึกครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 21:57:25