ความคิดเห็นที่ 1 อย่างที่เกริ่นตั้งแต่หัวกระทุ้ว่าขนาดเจ้าของกระทู้ตอนได้ยินชื่อจังหวัดนี้ว่าจะต้องไปเนี่ย... ยังงงเลยว่ามันจะมีอะไรให้เที่ยว.. ดังนั้นจะเอาข้อมูลจังหวัดอำนาจเจริญมาฝากกันก่อนซักเล็กน้อย จังหวัดอำนาจเจริญ เป็นจังหวัดที่ 75 ของประเทศไทยอยู่แถวๆอีสานทางใต้ เป็นจังหวัดที่แยกตัวออกจาก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2536 ห่างจากกรุงเทพฯประมาณ 600 กิโล แต่ขับรถจริงร่วม  700++ ครับ มีประชากรคร่าวๆ ราว 400,000 คน จังหวัดอำนาจเจริญถือเป็นอีก 1 จังหวัดที่มีพื้นที่ติดต่างประเทศ นั้นคือ  สปป.ลาวนั้นเองครับ จังหวัดอำนาจเจริญมีคำขวัญประจำจังหวัดคือ พระมงคลมิ่งเมือง แหล่งรุ่งเรืองเจ็ดลุ่มน้ำ งามล้ำถ้ำศักดิ์สิทธิ์ เทพนิมิตรพระเหลา เกาะแก่งเขาแสนสวย เลอค่าด้วยผ้าไหม ราษฎร์เลื่อมใสใฝ่ธรรม การเดินทางจาก กทม. ผมเดินทางด้วยรถยนต์ก็วิ่งถนนมิตรภาพผ่านโคราช แยกผ่านบุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด ยโสธรครับ (เส้นทางแบบเป๊ะๆ จำไม่ได้เพราะว่าใช้ GPS เป็นหลักครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 18:13:25

ความคิดเห็นที่ 2 ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ จากคุณ : numsiam เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 18:20:35

ความคิดเห็นที่ 3 วันที่เดินทางผมเดินทางไปช่วงกลางคืนครัยแล้วไปแวะพักที่โคราช... เนื่องจากระยะทางมันไกลขี้เกียจที่จะขับยาวรวดเดียวเพราะไปแค่ 3 วันแล้วจะต้องขับกลับรวดเดียวขากลับอยู่แล้ว ขาไปเลยขอสบายนิดนึงครับ... หลังจากนอนพักที่โคราชแล้ว (ผมพักที่ The Rich Hotel) คืนละ 600 บาท นอนกัน 3 คน ถูกดีมีอาหารเช้าให้กินด้วย ปล. โรงแรมนี้เข้าใจว่าเป็นเฟรนชายส์ เพราะว่าแถวบ้านผมก็มีตรงแถวๆพระราม 5 ติดกันจะมี  Boss  Hotel ที่เป็นม่านรูด 555 เดาว่ามันคงเหมือนๆ Fragrance หรือ Hotel81 ที่สิงคโปร์ประมาณนั้นครับ ออกจากโคราชช่วงเช้าเที่ยงๆก็ถึงอำนาจเจริญ พาคุณภรรเมียไปทำธุระเสร็จเกือบๆ 4 โมง ก็ได้เวลาออกเที่ยวครับ โดยวันแรกเที่ยวอยู่ในตัวเมืองก่อนครับ... จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 18:27:54

ความคิดเห็นที่ 4 ตามไปด้วยๆ จากคุณ : tonhok เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 18:28:56

ความคิดเห็นที่ 5  สวัสดีครับคุณ numsiam ตามมาเที่ยวด้วยกันเลยครับ ------------------------------------------------------------- สำหรับที่แรกที่ผมไปคือศาลหลักเมืองครับ ช่วงหลังส่วนใหญ่เวลาไปเที่ยวที่ไหนถ้าไปที่ตัวเมืองผมมักจะแวะไปหว้พระที่ ศาลหลักเมืองเป็นประจำครับ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่มันก็คงเป็นอะไรซักอย่างที่เป็น landmark ของแต่ละจังหวัดหล่ะมั๊งครับ อย่างเอาง่ายๆถ้าเราไปอิตาลีเราก็มักจะต้องแวะ Duomo ของแต่ละเมืองนั่นเองครับ ที่ศาลหลักเมืิองจะตั้งอยู่ที่สวนศาธารระผมจำชื่อไม่ได้เหมือนกันรุ้แต่ว่าเป็นสวนที่สร้างขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองวโรกาศที่ในหลวงทรงครองราชครบ 50 ปีครับ (หากข้อมูลผิดยังไงต้องขออภัยนะครับ แบบว่าผ่านมาแค้เดือนเดียวลืมซะละ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 18:32:17

ความคิดเห็นที่ 6 สวัสดีครับคุณ tonhok ตามมาด้วยกันเลยครับ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ที่สวนแห่งนี้จะมีสระน้ำอยู่สระนึง หากใครไม่รู้ตอนไปถึงอาจจะงงๆ ว่าสระน้ำสระนี้ขุดเป็นรูปอะไร เพื่อนๆ ดูแล้วคิดว่ามันเป็นรูปอะไรครับ... ติ๊กต่อกๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 18:35:20

ความคิดเห็นที่ 7 ติ๊กต่อกๆๆๆๆ .... ติ๊กต่อกๆๆๆๆ ..... หมดเวลา เฉลยครับ.. สระน้ำแห่งนี้ถูกขุดเป็นเลข ๙ ครับสามารถพิสูจน์ได้จาก google map นั่นเองครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 18:38:13

ความคิดเห็นที่ 8 จริงๆตอนแรกทีเดียวที่แรกที่ผมไม่ได้กะจะมาที่ศาลหลักเมืองก่อนหรอกครับ แต่ผมตั้งใจว่าจะไปไหว้พระมิ่งมงคลที่เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งจากที่หาๆ ข้อมูลผมไปเข้าใจผิดว่าอยู่ตรงนี้ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ครับ... มันอยู่เลยไปด้านบนตามแผนที่ในคอมเม้นท์ 3 อ่ะครับ อยู่ห่างจากตรงศาลหลักเมืองประมาณ 3 กม. ครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 18:41:39

ความคิดเห็นที่ 9 สำหรับพระมิ่งมงคล เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 11 เมตร ความสูงจากพื้นถึงเปลวรัศมีอยู่ที่ 20 เมตรครับ ได้รับอิทธพลมาจากทางอินเดีย ซึ่งมีการเข้ามาเผยแพร่ศาสนาที่นี่เมื่อประมา 100 กว่าปีเศษครับ พระมงคลมิ่งเมืองถือเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามประจำของภาคอีสานเลยทีเดียวครับ บริเวณรอบๆค่อนข้างร่มรื่นเชียวหล่ะครับ ต้นไม่เยอะดี ไปเดินเล่ยแล้วมีความสุขสบายตาดีครับ ช่วงวันที่ผมไปเป็นช่วงก่อนวันพระใหญ่ (วันวิสาขบูชา) เลยมีการเตรียมพื้นที่ไว้สำหรับเวียนเทียนด้วยครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 18:49:54

ความคิดเห็นที่ 10 ภาพที่ผม Serach ตอนหาข้อมูลของที่นี่คือภาพพระมิ่งมงคล ที่มีฉากหน้าเป็นอ่างบัว ไหนๆก็ทำการบ้านมาแล้วแอบลอดมุมซะหน่อย จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 18:50:50

ความคิดเห็นที่ 11 หลังจากไหว้พระขอพรเสร็จ ทุกครั้งเวลาไปเที่ยวผมจะไม่ขอพรอะไรมากนอกจากขอให้การเดินทางในครั้งนั้นปลอดภัยปราศจากภยันอันตรายทั้งปวงเป็นพอ... ครั้งนี้ก็เช่นกันครับ... เพราะส่วนตัวรู้สึกว่า มันคือความสบายใจ ส่วนเรื่องการขออย่างอื่นผมเชื่อว่ามันอยู่ที่ตัวเราเองมากกว่าครับ  :) ไหนๆก็มาแล้วขออีกซักแชะล่ะกัน ปล. วันที่ไป ช่วงกลางวันแดดจะดีมาก แต่พอตดเย็นปุ๊บ ท้องฟ้าทะมึนน่ากลัวมาทุกวันวันนี้ก็เหมือนกันครับ แดดไม่เหลือแล้วฟ้าเร่มครื้มและเมฆเริ่มเยอะ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 18:54:31

ความคิดเห็นที่ 12 ถ่ายภรรเมียเสียหน่อย... เด๋วโดนบ่น จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 18:55:14

ความคิดเห็นที่ 13 วันที่ไปตอนนั้นผมยังไม่มีที่พักเพราะกะไปหาเอาดาบหน้า... ประกอบกับตอนหาข้อมูลมาได้ข้อมูลที่พักมาที่นึงคือบ้านต้นไม้... ซึ่งเป็นบ้านที่ถูกสร้างจาก ซากไม้ตายที่อยู่ในอ่างเก็บน้ำครับ ซึ่งที่ดูบ้านหลังนี้จะอยู่ที่สถานีควบคุมไฟป่า จ.อำนาจเจริญครับ.. เลยกะว่าจะลองไปดูเสียหน่อยถ้าโอเคก็อยากจะพักที่นั่นครับ สำหรับการเดินทางไปก็ไม่ยากครับจากแผนที่ขับย้อนกลับมาทางตัวเมืองที่แยกตรงหอนาฬิกาเลี้ยวซ้ายขับไปเรื่อยๆ ไปทางเดียวกับไปวัดถ้ำแสงเพชร (เป็นอีกวัดดังของที่นี่มีป้ายบอกทางเรื่อยๆครับ) ตัวสถานีควบคุมไฟป่าจะอยู่ก่อนถึงวัดนั่นเองครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 19:00:41

ความคิดเห็นที่ 14 ป้ายหน้าทางเข้าไม่เท่าไหร่ผมไปสะดุดกับป้ายนี้..... "สถานที่ราชการให้เข้า" เออแปลกดี จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 19:07:06

ความคิดเห็นที่ 15 แหะๆๆ โดนตามไปกินข้าวหล่ะ เด๋วคืนนี้มารีวิวต่อนะครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 19:07:44

ความคิดเห็นที่ 16 มารอชมต่อครับ จากคุณ : คุณชายชอบเที่ยว เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 19:26:26

ความคิดเห็นที่ 17 เพิ่งกลับจากอำนาจฯ เหมือนกันครับ   แต่แค่แวะทานข้าวเที่ยงที่ร้านต้นสน  แล้วก็ไปต่อ ร้านนี้อาหารเวียดนามอร่อยดีครับ  บรรยากาศนั่งสบาย ๆ จากคุณ : Dearance เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 20:02:25

ความคิดเห็นที่ 18 ตามไปเที่ยวอำนาจเจริญด้วยคนครับบบ................. จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 20:02:56

ความคิดเห็นที่ 19 กลับมาเร็วๆนะ อยากดู อยากดู... จากคุณ : มา รัก กัน เถอะ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 20:22:45

ความคิดเห็นที่ 20 เคยไปตอนที่ยังไม่เป็นจังหวัดค่ะ จากคุณ : ป้าทุยบ้านทุ่ง เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 20:44:11

ความคิดเห็นที่ 21 เปนคนอำนาจฯพึ่งรุว่าสระน้ำเป็นเลข๙  รูปสวยมากคะ จากคุณ : nure san (nure san) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 20:48:23

ความคิดเห็นที่ 22 ชอบสระน้ำจัง ขอบคุณมากครับ จากคุณ : PAEstudio เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 21:55:25

ความคิดเห็นที่ 23 ตามเที่ยวด้วยคนค่ะ จากคุณ : Big Elep เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 22:00:21

ความคิดเห็นที่ 24 คห6แอบเดาถูกด้วยล่ะค่ะว่าเป็นเลข๙ ^__^ รอชมต่อนะคะ จากคุณ : คืนไร้ดาวพราวแสงจันทร์ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 23:06:48

ความคิดเห็นที่ 25 ตามมาแล้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว จากคุณ : ข้าวเสาไห้ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 23:09:38

ความคิดเห็นที่ 26   ดีจ๊ะ เอ่อ้อย         จำความไม่ได้แระว่าปาดทันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่          มารอชมตอนต่อไปนะคะ........ . จากคุณ : กบจูเนียร์ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 23:24:46

ความคิดเห็นที่ 27 สวัสดีครับคุณคุณชายชอบเที่ยว กลับมาแล้วครับมาตามเที่ยวต่อเลยค้าบบบ สวัสดีครับคุณDearance ชื่อร้านคุ้นๆเหมือนจะพยายมไปแต่หาไม่เจอ สวัสดีครับคุณสายลมแห่งวิงค์ ตามมาเที่ยวกันเลยครับ สวัสดีครับคุณมา รัก กัน เถอะ กลับมาแล้วค้าบบบ สวัสดีครับคุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง  นานมากๆแล้วครับ   สวัสดีครับคุณnure san เจอเจ้าถิ่นแว้ววว สวัสดีครับคุณPAEstudio ผมเห็นตอนหาข้อมูลเดินทางทนี่หล่ะครับ แบบ Google map แล้วเห็นเลยกะว่าต้องแวะไปให้ได้ แต่ก็อย่างที่คาดแต่แรกว่าไม่เห็นอะไรในมุมกับพื้นแน่ๆ สวัสดีครับคุณBig Elep ตามมาเลยจ้า สวัสดีครับคุณคืนไร้ดาวพราวแสงจันทร์ แหะๆ แต่ไม่มีรางวัลให้นะครับ   สวัสดีครับพี่ต้น ตามมาเลยค้าบ สวัสดีครับคุณกบจูเนียร์ นั่นเพราะผมหายหน้าหายตาไปหรือเปล่า -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- กลับมาแว้วววววว พาไปเที่ยวต่อกันเลยครับ... บ้านต้นไม้ที่ว่าคืออันนี้หล่ะครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 23:34:25

ความคิดเห็นที่ 28 อย่างที่บอกแต่แรกครับ บ้านต้นไม้หลังนี้ถูกสร้างขึ้นจาก ไม้ตายซาก (ไม่แน่ใจเรียกอย่างนี้หรือเปล่า) โดยที่เป็นไม้ที่ยืนต้นตายที่อยู่ในอ่างเก็บน้ำครับ... เมื่อช่วงที่น้ำลด และไม่มีไฟป่าให้ดับ ทางหัวหน้าสถานีให้ลูกน้องไปโค่นตอไม้พวกนี้มาเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในพื้นที่ครับ โดยเอามาสร้างเป็นบ้านต้นไม้ แต่แรกเดิมทีตั้งใจจะสร้างเป็นเรือนรับรอง ของแขกของหัวหน้าสถานี แต่พอทำเสร็จทางหัวหน้าสถานีก็บอกว่าเปิดให้ประชาชนโดยทั่วไปสามารถเข้ามาเยี่ยมชม และพักที่นี่ได้ครับ สภาพห้องภายในไม่ใหญ่โตเท่าไหร่ นอนได้อย่างสบายซัก 2 คนแต่อาจจะเบียดๆได้ถึง 4 คนมีมุ่้งให้ ตัวหน้าต่างกลอนเท่าที่ผมไปจับๆดู ถือว่าทำได้แข็งแรงทีเดียวเลยครับ แรกทีเดียวกะว่าอยากจะมาพักที่นี่ ซึ่งลองๆถามพี่เจ้าหน้าที่ดูเค้าให้พักฟรีด้วยครับ แต่ เรื่องอาหารการกินเค้าให้ผมเข้าครัวไปทำกินเองเลย แต่ด้วยความที่ว่าไปกัน 3 คน ประกอบกับไม่ได้เตรียมเรื่องอาหารการกินมา เลยต้องปฏิเสธน้ำใจของพี่เจ้าหน้าที่ไปครับ แต่ที่นี่ผมว่าเหมาะกับกลุ่มที่อยากมา เที่ยวอยู่อย่างธรรมชาติ และอยู่อย่างสงบครับ ตัวบ้้านแม้ห้องนอนจะเล็กแต่ว่าด้านล่างจะมีโถงให้นั่งเล่นได้ครับ เหมาะมากที่จะมานั่งคิดเลขกัน จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 23:42:30

ความคิดเห็นที่ 29 บ้านต้นไม้นี้ผมไปเจอข้อมูลจาก Youtube ครับลองดูกันได้ http://www.youtube.com/watch?v=JTiVFBM5yjk อ้ออย่างที่บอกที่นี่ตอนนี้เค้าให้คนนอกสามารถเข้าไปพักได้ฟรี แต่ตอนนี้มีแค่หลังเดียว (เท่าที่คุยๆเห็นว่ามีโครงการจะสร้างเพิ่ม แต่ยังไม่ได้ทำเพราะเจ้าหน้าที่ต้องทำภารกิจหลักคือการควบคุมไฟป่าเป้นหลักก่อนครับ) ดังนั้นถ้าใครสนใจจะเข้าไปพักก็สามารถโทรไปแจ้งไว้ก่อนได้ครับ ให้ติดต่อไปที่ หน.สถานไฟป่าอำนาจเจริญครับ จริงๆผมของเบอร์มาแต่ว่า หาไม่เจอ แต่เมื่อกร้ลอง Search ใน google ได้เบอร์มาตาม link นี้ครับ http://www.panoramio.com/photo/23055726 อันนี้เป็นวิวจากหน้าต่างที่ห้องนอนครับ โหลดรูปผิด แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 55 22:43:12 จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 23:48:46

ความคิดเห็นที่ 30 จริงๆอีกสาเหตที่ผมไม่พักที่นี่ก็คือ วันนั้นที่ไปฝนดูท่าจะตกแล้วครับ เลยเลยดูว่าถ้าพักแล้วฝนตกมันต้องอยู่แต่ในห้องแน่ๆครับ คงลงมานั่งเล่นตรงชั้นลอยไม่ได้เลยตัดสินใจได้ง่ายๆว่า ครั้งนี้ยังไม่พักที่นี่ดีกว่า แต่ครั้งหน้าถ้าได้มีโอกาสมาที่นี่คงได้มารบกวนแน่ๆครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 23:51:02

ความคิดเห็นที่ 31 หลังจากตัดสินใจไม่พักที่นี่ผมเลยย้อนกลับเข้าเมืองอีกครั้งไปที่ รร.ฝ้ายขิด เป็นอีกโรงแรมนึงที่ผมหาข้อมูลก่อนมา แต่กะว่าจะมาดูห้องเอาหน้างาน ซึ่งโรงแรมนี้อยู่ในแผนที่ตาม คคห.ข้างบนครับ ดูห้องแล้วก็มาตรฐานโรงแรม (เท่าที่ดูน่าจะดีสุดในจังหวัดแล้วมั๊ง) สามคนห้อง Deluxe  ได้ราคามา 1050 บาท (มีบัตรราชการลดมา  100  บาทจาก 1150 ครับ) จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 00:02:28

ความคิดเห็นที่ 32 ภายในห้องถ่ายมาให้ดูภาพเดียวเพราะตอนนั้นขี้เกียจยกกล้องแล้วเหนื่อยขับรถมาเกือบทั้งวัน ปล. สภาพห้องรกเชียว เตียงถูกเลื่อนออกมาเพื่อรอเอาเตียงเสริมมาลงครับ แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 55 00:03:45 จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 00:03:08

ความคิดเห็นที่ 33 หลังจากได้ที่พักต่อไปก็ไปหาข้าวเย็นกินครับ ตอนแรกกะใช้ GPS แต่ไปร้านที่มันแนะนำมา 2 ร้านมันปิดกิจการไปแล้วทั้งคู่ แล้วร้านอาหารในเมืองค่อนข้างน้อย แต่สุดท้ายไปเจอร้าน บ้านสีขาว เลยตัดสินใจเข้าไปดูครับ เป็นบ้านคนทั่วไปที่เปิดเป็นร้านอาหารครับ อยู่ฝั่งถนนที่จะมุ่งหน้าไปจ.อุบลครับ ขับออกมาไม่เกิน 1 กม.อยู่ซ้ายมือ (ตามรูปในแผนที่ข้างบนครับ) จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 00:08:22

ความคิดเห็นที่ 34 สภาพตอนไปถึงนี่คือหลังจากฝนตกแบบว่าหนักมากๆๆๆๆ พื้นเปียกชุ่มเลยทีเดียว ตอนนั้นซักทุ่มนึงฟ้าอย่างสวยแต่ไม่รู้จะถ่าย Twilight กะอะไรก็ถ่ายกับถนนหน้าร้านที่หล่ะว่ะ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 00:09:40

ความคิดเห็นที่ 35 เข้ามาชมต่อค่ะ ^^ ไม่มีรางวัลไม่เป็นไรค่ะ นานๆจะตอบอะไรถูกซักทีเลยดีใจอ่ะค่ะ จากคุณ : คืนไร้ดาวพราวแสงจันทร์ เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 00:10:03

ความคิดเห็นที่ 36 อ้อสำหรับอำนาจเจริญ เป็นจังหวัดที่เครมว่าข้าวหอมมะลิอร่อยที่สุดในประเทศไทยก็ต้องมาพิศุจน์กันหน่อยหล่ะ... ปล. ต่อจากนี้ไปหากใครเปิดช่วงดึกหรือก่อนมื้ออาหารแนะนำให้ข้ามไปนะครับเพราะไม่งั้นอาจจะน้ำลายยืดอยู่น้ำคอมได้ครับ   เรามาเริ่มเมนูแรกกันครับ... ลาบหมูสับทอด เป็นการเอาหมุสับไปทำเป็นลาบแล้วปั้นเป็นก้อนเอาไปทอดครับ อร่อยยยย จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 00:12:19

ความคิดเห็นที่ 37 คุณคืนไร้ดาวพราวแสงจันทร์ ตามมาต่อเนื่องเลยครับ ว่าแต่มันทานมื้อดึกพอดี -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เมนูที่สองมาอีสานทั้งทีต้องกินส้มตำ เลยได้ส้มตำไข่เค็มมาครับ อาหารร้านนี้ทำรสชาติออกแนวเหมือนกรุงเทพฯเลยครับ ไม่ได้เหือนแนวอีสานแบบรถเข็นเท่าไหร่ แต่สรุปได้ว่าถูกปากผม อิอิ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 00:14:46

ความคิดเห็นที่ 38 แน่นอนกินข้าวทุกมื้อมักจะต้องมีปลามากิน เลยได้ช่อนทอดสมุนไพรมาครับ สมุนไพรมาแบบว่าหมดสวนกันเลย เผ็ดเล็กน้อยอาจจะไม่เหมาะกะคนกินเผ็ดแต่สำหรับผมสบายแซบหลาย จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 00:16:42

ความคิดเห็นที่ 39 ตอนนี้คงต้องหาผ้ามาซับน้ำหมาก...อุ๊ย!!น้ำลายแล้วอ่ะค่ะ จะอยู่เป็นเพื่อนไม่ไหวเพราะเริ่มหิวแล้วสิ >< จากคุณ : คืนไร้ดาวพราวแสงจันทร์ เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 00:18:09

ความคิดเห็นที่ 40 หุหุุ  ดึกโฮกกกกกกกกก จากคุณ : ประธานชมรมคนมีแฟนน่ารัก เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 00:18:16

ความคิดเห็นที่ 41 และทุกมือควรมีผักใช่ม่ะ ดังนั้นได้ยำผักบุ้งทอดมาอีกเมนู จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 00:18:42

ความคิดเห็นที่ 42 แหะๆ... ถือเป็น Signature ของผมนะครับที่ทุกรีวิวต้องมีของกิน สวัสดีทั่นประธาน เชิญตามชมได้เลย... ที่มาดึกเพาะวันนี้ที่ Siam Center คนเยอะมากว่าจะได้กินกว่าจะกินเสร็จกว่าจะเอาตัวออกจากดงรถติดมาได้ เฮ่อ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ยังๆ ใครคิดว่ากับข้าว  4 อย่างจะพอ มันยังขาดน้ำแกงไว้ซด ดังนั้นได้ต้มแซ่บกระดูกอ่อนมาอีก 1 หม้อครับ... ว่าแต่ข้าวสวยที่นี่เค้าอร่อยจริงๆหล่ะครับ สมคำกล่าวอ้างของ จังหวัดจริงๆว่าที่นี่ข้าวอร่อยครับ สำหรับมื้อนี้อิ่มหนักๆในราคาเบาๆ (เมื่อเทียบกับจำนวนอาหาร) 720 บาทถ้วนครับตกคนละ  2xx ด้วยกับข้าวเยอะและรสชาติถูกปากผมถือว่าไม่แพงนะ.. แต่ถ้าเอาแค่พออิ่มนะจะถูกกว่านี้ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 00:24:13

ความคิดเห็นที่ 43 จากนั้นก็กลับไปนอนครับ เตรียมแรงไว้อีกวันเตรียมเที่ยวเต็มสูบเพราะเสร็จธุระไปตั้แต่บ่ายวันนี้แล้ว.. เด๋วหนีไปอาบน้ำซัก 10 นาทีเด๋วมารีวิวต่อค้าบบบบ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 00:26:21

ความคิดเห็นที่ 44 ขอหนีไปฝันถึงปลาช่อนทอดสมุนไพรก่อนนะคะ ^^ จากคุณ : คืนไร้ดาวพราวแสงจันทร์ เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 00:34:33

ความคิดเห็นที่ 45 ฝันดีครับคุณคืนไร้ดาวพราวแสงจันทร์ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- สำหรับเช้าวันที่ 2 จุดหมายแรกสวนชิตสกนธ์ครับ จากที่หาข้อมูลมาเป็นสวนดาวเรืองใหญ่ของประเทศไทยที่ปลูกและส่งดาวเรืองไปยังปากคลองตลาดครับ แรกทีเดียววาดฝันไว้เยอะเชียวครับว่ามันจะเป็นสวนใหญ่มีดอกดาวเรืองเต็มทุ่ง ซึ่งที่อ่านมาเค้าจะมีนำชมด้วยครับ แต่ตอนไปถึงปรากำว่า อยู่นอกฤดูกาลพึ่งจะตัดดอกไปเมื่อปลายๆเมษายนครับ และตอนนี้อยู่ระหว่างการแปลงสวนไปเป็นนาจ้าวแทนครับ เค้าบอกว่าถ้าจะมาชมสวนดาวเรืองแนะนำให้มาช่วงหน้าหนาวถึงหน้าร้อนครับ เซ้งเลยไม่ได้ทำการบ้านมาก่อน แต่มาแล้วเลยเดินวนๆเล่นหน่อยนึงไปเจอฝูงห่าน มันก็เดินๆอยู่พอผมเดินไปใกล้มันเริ่มเดินหนี พอผมเร่งฝีเท้ามันก็เร่งฝีเท้าได้ในความเร็วที่ผมเดินเลยครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 00:48:48

ความคิดเห็นที่ 46 ที่สวนเค้าจะมีบ้านพักด้วยนะครับ ตกคืนละ 400-600 บาทครับ ส่วนที่เป็ยสวนดอกดาวเรืองจะต้องเดินเลยบ้านพักไปและลงไปด้านล่าง จริงๆเค้าก็ถามผมนะว่าจะไปดูมั๊ย แต่คิดๆดูมันไม่มีอะไรเพราะพึ่งปรับหน้าดินเตรียมทำแปลงนาอยู่เลยไม่ได้ลงไปครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 00:53:36

ความคิดเห็นที่ 47 หลังจากผิดหวังกลับไป (ใครที่ไปช่วงหน้าหนาวอย่างลืมถ่ายรูปสวนดอกดาวเรืองมาฝากผมด้วยนะอยากเห้นว่ามันจะสวยมั๊ย สวยขนาดไหนอ่ะครับ) ผมก็ขับรถไปต่อที่ วัดถ้ำแสงเพชรซึ่งเห็นป้ายตั้งแต่เมื่อวานตอนไปสถานนีควบคุมไฟป่าแล้ว แต่งงๆ ว่ามันมีชี้ไปสองทางด้านบนเขาและด้านล่างครับ ผมเลยไปด้านบนก่อน ที่ด้านบนพอสังเกตดีๆชื่อวัดจะเป็น วัดสี่แยกถ่ำแสงเพชร แต่ด้านล่างจะเขียนว่าวัดถ้ำแสงเพชรครับ ได้ถามๆพระที่อยู่ในวัดได้ความว่าเมื่อก่อนเป้นวัดเดียวกัน แต่พื้นที่วัดกว้างมากเลยแยกเป็นสองส่วนบนล่าง และแยกเป็น 2 วัดให้พระแต่ละวัดดูแลส่วนของตนเองได้อย่างทั่วถึงประมาณนั้นครับ ด้านบนที่เห็นเด่นมาแต่ไกลคือยอดเจดีย์นี้หล่ะครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 01:00:39

ความคิดเห็นที่ 48 พอขับไปถึงจอดรถแล้วเดินเข้าไปในวัดจะเจอกับพระพุทธรูปปางไสยยาศนืองค์ใหญ่อยู่ครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 01:01:40

ความคิดเห็นที่ 49 ซึ่งที่มาของชื่อถ้ำแสงเพชรว่าันว่ามาจากประกายของเกล็ดหินยามเมื่อต้องกับแสงตะวันจะวาววับคล้ายกับแสงเพชร วัดถ้ำแสงเพชร เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมสาย พระอาจารย์ชา สุภัทโท สาขาที่ 5 ของวัดหนองป่าพง วัดถ้ำแสงเพชร ซึ่งภายในเจดีย์ที่เห็นเมื่อสัหครุ่พอมาถึงที่จะสามารถเดินขึ้นไปได้ครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 01:04:25

ความคิดเห็นที่ 50 ซึ่งภายในจะมีหน้าตาเยี่ยงนี้ครับ.. เป็นรูปปั้นเหมือนของพระโพธิญาณเถระ (หลวงปู่ชา สุภัทโท) ได้ธุดงค์ผ่านมาพบถ้ำที่บริเสณนี้และตั้งชื่อว่าถ้ำแสงเพชร ดังนั้นง่ายๆท่านคือผู้ก่อตั้งวัดนี้นั่นหล่ะครับ แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 55 01:18:50 จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 01:06:01

ความคิดเห็นที่ 51 ในบริเวณเจดีย์จะเป็นช่องลมผมไปนั่งตากลมตากลมอยู่พักใหญ่เลยครับ อากาศดีมากกกกกก จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 01:08:38

ความคิดเห็นที่ 52 หลังจากนั่งตากลมอยู่พักใหญ่ผมก็ขับรถลงมาด้านล่างครับ ข้างล่างตรงบริเวณทางเข้าวัดเจะเป็นลานไผ่สวยดี ถ้าเป็นม.เกษตร ตรงนี้คงเรียกว่า Loving Way ต้องพอแฟนนั่งซ้อนจักรยานไปขี่   จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 01:13:02

ความคิดเห็นที่ 53 ที่ด้านหน้าทำจะมีพระพุทธรูปปางป่าเลไลย์อยู่หน้าทางขึ้นถ้ำ (พระปางนี้ เป็นปางที่พระพุทธเจ้าทรงเบื่อหน่ายพระสาวกที่ขัดแย้งกัน พระพุทธองค์จึงทรงเสด็จไปเพียงลำพัง ณ ป่าเลไลย์ มีช้างป่ามาถวายกล้วย และลิงมาถวายน้ำผึ้ง ฯลฯ เป็นพระประจำวันเกิดของวันพุธกลางคืน) อยู่ครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 01:15:29

ความคิดเห็นที่ 54 ถัดไปทางซ้ายจะเป็นทางเดินขึ้นไปที่ถ้ำครับ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่พำนักของพระที่นี่ครับ ตอนผมไปมีพระนั่งอ่านหนังสืออยู่ได้ไปสนทนาถึงที่มาที่ไปของวัดแห่งนี้และที่รู้ว่าวัดสองแห่งบนล่างต่างกันยังไงก็มาจากท่านนี่หล่ะครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 01:21:02

ความคิดเห็นที่ 55 หลังจากออกจากวัดที่ใกล้ๆกันจะมีอ่างเก็บน้ำห้วยสีโทอยู่ครับ อันนี้ก็เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่ผมมัดแวะ แต่แวะเพื่อไปหาข้าวกิน เพราะตามริมเขื่อน ริมอ่างมักจะมีอาหารให้ทานครับซึ่งแน่นอนที่นี่ก็เช่นกันไม่ผิดหวังครับ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วชางต่างจังหวัดมักจะชอบไปนั่งพักผ่อนตามริมเขื่อน แบบนี้แหละ อย่างนึงคงเพราะว่าไปนั่งชิวรับลมหล่ะครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 01:26:19

ความคิดเห็นที่ 56 ซึ่งอาหารมาจรฐานของทุกทีคือส้มตำนั่นเอง หลังจากนั่งแล้วดูเมนูก็เริ่มสั่งโดยที่ไม่รู้ว่า ราคาแต่ละจายเท่าไหร่และใหญ่ขนาดไหน เลยสั่งไปเท่าเดิมคือ 5 อย่างเหมือเมื่อคืน แต่ๆๆๆๆ สิ่งที่ไม่เหมือนคือปริมาณอาหารครับ จานแรกที่ยกมาเสิร์ฟคือ ยำหมูยอ วูบแรกที่เห็นเฮ้ยทำไมมันจานใหญ่ขนาดนี้เนี่ย จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 01:28:24

ความคิดเห็นที่ 57 จานที่สองอันี้ค่อนจานปกติหน่อย... ซี่โครงหมูทอด จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 01:29:23

ความคิดเห็นที่ 58 จานที่สาม ส้มตำ โอวมาก๊อด.... จานใหญ่ (มากอีกแล้ว) จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 01:30:01

ความคิดเห็นที่ 59 ตามด้วยปลาเผา ตอนสั่งเห็นแบบว่าเดินมีคนเดินไปเอาปลามาจากริมอ่างเลยอ่ะ.. (แต่ตัวที่กินคิดว่าน่าจะเผาไว้อยู่แล้ว แต่คงไปเอามาเผาเพิ่ม) ซึ่งปลาตัวใหญ่มากกกกกกก จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 01:31:19

ความคิดเห็นที่ 60 ตอนแรกนึกว่าสั่งแต่นี้ ผ่านไปีกพักใหญ่เฮ้ยมีมาอีกจาน ก็เออเราสั่งจริงๆด้วย ปอเปี๊ยะญวนทอด (จานนี้ถึงกับกินไม่ไหวต้องให้เอาใส่ถุงกลับเลยครับ) สรุปมือนี้ 520 คือยำหมูยอจานละ 100 จริงลดหมูยอไปครั้งนึงเหลือ 50 บาทจะดีมากๆอ่ะนะ รวมถึงอาหารอย่างอื่นด้วยไม่รู้จะทำจานใหญ่ไปไหน   จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 01:33:41

ความคิดเห็นที่ 61 T____T วันนี้ไมไหวแล้ว เด๋วขอมารีวิวต่อพรุ่งนี้นะครับ... จะมีพาไปอีก 3-4 ที่ครับ คราวนี้จะพออกนอก อ.เมืองบ้างแล้วหล่ะครับ เพราะที่รีวิวมาก่อนหน้านี้เป้นที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใน อ.เมืองมทั้งหมดเลยครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 01:34:56

ความคิดเห็นที่ 62 ยังไม่เคยไปแถวนั้นเลย ขอบคุณเอ๋อ้อยที่รีวิวทำให้มองภาพจังหวัดนี้ชัดเจนมากขึ้นน่ะจ๊ะ จากคุณ : มาเรีย ณ ไกลบ้าน เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 01:48:31

ความคิดเห็นที่ 63 มาอ่านแล้วรู้สึกละอายใจที่ดั้นด้นไปที่อื่นตั้งไกล แต่บ้านตัวเองยังเที่ยวไม่ครบเลย --'' จากคุณ : bluedracula เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 01:50:28

ความคิดเห็นที่ 64 มาตามชมคร๊าบบ ^^ จากคุณ : Kanuman R เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 10:30:01

ความคิดเห็นที่ 65 ขอบคุณที่พาเที่ยวครับ จากคุณ : karn.cop 1 เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 14:43:57

ความคิดเห็นที่ 66 ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 14:44:19

ความคิดเห็นที่ 67 สวัสดีครับพี่จิบ ก็ด้วยไม่มีรีวิวเท่าไหร่ เลยตัดสินใจมารีวิวนี่หล่ะครับ สวัสดีครับคุณbluedracula เจอเจ้าถิ่นอีกคนแล้ว อิอิ สวัสดีครับคุณKanuman ตามมาชมเลยค้าบ สวัสดีครับคุณ karn.cop 1  ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมเช่นกันครับ สวัสดีครับคุณเล็กทาโร่ ไปที่ยวด้วยกันเลยครับ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- หลังจากินอิ่มแล้ว จุดมุ่งมหายหลักที่ผมจะไปคือที่ อช.ภูสระดอกบัวครับ เพราะจองที่พักไว้ที่นี่ครับ... ซึ่งที่ตั้งของ อช. จะอยู่โซนทิศเหนือของจังหวัดครับ แต่เนื่องจากยังเห็นว่ายังพอเหลือเวลา เลยแอบแวะลงไปทางใต้ก่อน เพราะมีที่เที่ยวอีก 2-3  ครับ แล้วยังไงรถผมใช้แก๊สขับวนไปวนมาไม่ใช่ปัญหาใหญ่อยู่แล้ว.... ก็หลังจากขับรถออกมาที่ทางหลักขับต่อไปไม่นานจะมีทางแยกนึงไปที่ อ.พนา ครับ ขับไปไม่นานนักก็ถึง ที่อ.พนา จะมีสถานที่นึงที่มีลิงอาศัยอยู่เต็มไปหมดเลยครับ เรียกว่า อุทยานดงลิงดอนเจ้าปู่ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 15:27:38

ความคิดเห็นที่ 68 แน่นอนที่นี่ไม่ใช่สวนสัตว์ดังนั้นลิงจึงไม่ยอมอยู่แต่ในอุทยานแน่ๆ ตอนขับรถไปถึงที่หน้าทางเข้าตอนแรกก็ว่าจะจอดรถแถวนั้น แต่จอดยังไม่ทันดับเครื่องดีก็มีเจ้าจ๋อเจ้าถิ่นโผล่มาทุกทายถึงหน้าหม้อรถยนต์เลย จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 15:29:38

ความคิดเห็นที่ 69 คุณแฟนซึ่งตอนนั้นเป็นคนขับรถเลยไม่กล้าจอดรถตรงนี้เพราะเด๋วลิงจะมาขย่มรถซะ.... เลยต้องวนหนีกลับไปซัก 100 เมตรแล้วค่อนเดินเข้ามาดูกัน พื้นที่ของอุทยานเป็นป่าทั้งหมดเลยครับมีเนื้องที่ร่วม  250  ไร่ ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ประชาชนท้องถิ่นให้ความเคารพศรัทธา เพราะว่ามีศาลปู่ตาที่สิงสถิตของเจ้าปู่ (พรานที พรานทอง) พระพุทธรูปปางประสูติ ปางตรัสรู้ ปางปฐมเทศนา และปางปรินิพพานอยู่ในอุทยานดงลิงดอนเจ้าปู่ แต่เนื่องด้วยเป็นที่อยู่ที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งปัจจุบันมีลิงมาอยู้เป้นจำนวนมากทำให้ภายในอุทยานขาดการดูแล ต้นไม้ขึ้นรกเสียจน ผมลืมถ่ายศาลมาเลย เลยได้แต่วิ่งไล่ถ่ายลิงแทนครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 15:33:56

ความคิดเห็นที่ 70 ลิงส่วนใหญ่ที่ห็นก็เป็นลิงแม่ลูกทั้งนั้น มีตัวผู้ปะปนบ้าง มีบางตัวเป็นจ่าฝูง ซึ่งส่วนใหญ่จ่าฝูงจะไม่กลัวคนครับ แต่ตัวอื่นๆบางทีเราเดินไปใกล้ๆ มันก็จะเดินหนี แต่ไอ้ตัวจ่าฝูงเนี่ยเดินทางขออาหารทันที คุณแฟนหยิบถุงถั่วมาจากในรถยังไม่ทำจะให้เลยปรากฎโดนฉกไปจากมือเลยครับ เลยเสร็จลิงอร่อยกันไป ซึ่งตอนแรกเจ้าตัวจ่าฝูงจะหวงมากไม่ให้ตัวไหนเข้ามายุ่งหลังจากตัวเองหยิบของกินเป็นที่เรียบร้อยถึงจะยมให้ตัวอื่นๆมากินด้วย จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 15:36:53

ความคิดเห็นที่ 71 ที่อำเภอพนาในตัวอำเภอเลยมีวัดอีกวัดนึงที่เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองชาวอำนาจเจริญครับ นั่นก็คือ วัดพระเหลาเทพนิมิตร ซึ่งตอนแรกไม่ได้กะจะแวะ แต่ตอนขับกลับมันผ่านพอดีเลย ก็เลยขอชะโงกซักหน่อย สังเกตได้ว่าที่อำนาจเจริญวัดส่วนใหญ่จะมีสถาปัตยกรรมออกแนวอินเดียวซึ่งกธคงเพราะได้รับอิทธิพลสมัยมีผู้เข้ามาเผยแพร่ศาลนาจากอินเดียวเมื่อซัก  100 กว่าปีก่อนนั่นหล่ะครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 15:40:20

ความคิดเห็นที่ 72 ตอนไปถึงเป็นช่วงบ่ายพระอาทิตย์กะลังจะไปหลบหลังอุโบสถพอดีเลยได้รูปนี้มาครับ สถาปัตยกรรมแปลกตากว่าวัดในเมืองกรุงครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 15:41:33

ความคิดเห็นที่ 73 ภายในอุโบสถจะมี พระเหลาเทพ-นิมิตร เป็นพระประธาน ว่ากันว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดในภาคอีสาน จัดอยู่ในพระพุทธรูปศิลปะลาวสกุลช่างเวียงจันทน์ สวยไม่สวยลองดูกันครับ ภายในจะมีช้างให้อธิฐานแล้วยกครับ ว่าขึ้นกับไม่ขึ้น ซึ่งจะเป็นคำตอบว่าสิ่งที่เราอยากทราบจะเป็นจริงหรือไม่ เห็นคุณแฟนบอกว่าลองอธิษฐานไปแล้ว 2 เรื่องได้คำตอยที่ดีครับ (มีทั้งครั้งที่ยกขึ้น และยกไม่ขึ้น) เห็นบอกว่าถ้าสิ่งที่ติดที่ถามเป็นจริงเมื่อไหรจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง ปล. เรื่องแบบนี้ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคฃหล่ะครับ :) จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 15:52:24

ความคิดเห็นที่ 74 หลังจากไหว้พระเสร็จผมก็ออกเดืินทางต่อไปยัง อช.ภูสระดอกบัวครับ... ซึ่งอยู่ทางเหนือของจังหวัดที่ อำเภอเสนางคนิคม... จริงๆแล้วตัว อช. ที่ทำการนั้นที่ตั้งถิอว่าเป้นเขตปกครองของ จ.มุกดาหารครับ... แต่จริงๆคือพื้นที่ของ อช.จะกินเนื้อที่ทั้งสิน 3 จังหวัดคือ  อำนาจเจริญ มุกดาหาร และยโสธร ครับ การเดินทางถืดว่าไกลอยู่เหมือนกันครับขับไปร่วม  100 กิโล แต่อย่างว่าขับในต่างจังหวัดแปร๊บๆ ก็ถึงครับ การขับไปก็มไ่ยากจากแยกหอนาฬิกาขับรถขึ้นไปทางเหนือ (เส้น 212) แล้วจะมีป้ายบอกครับ ให้เลี้ยวขวาไปใช้เส้น 2277 ครับจากตัวเมืองไปถึงอช. จะราวๆ 60-70 ก.ครับ ที่ทางเข้า อช. ไม่ต้องห่วงว่าจะหลงเพราะป้ายใหญ่มว๊ากกก ปล. เมฆมาครื้มอีกแล้ว สงสัยว่าที่กะจะมาถ่ายดาวหมุนคอดถ่ายเป็นแน่แท้ T___T แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 55 16:02:34 จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 16:02:08

ความคิดเห็นที่ 75 ที่พักที่นี่มีอยู่สองหลังครับ หลังนึงนอนได้ 8 คน คืนละ 1200 ซึ่งถ้ามาได้  8 คนคงจะถูกครับ แต่ผมไปกันสามคน แอบถามพี่เจ้าหน้าที่แล้วว่าลดได้มั๊ย เค้าก็เปิดๆ สมุดบอกกลับมาว่าไม่ได้ T___T แต่เอาเถอะทำใจไว้อยู่แล้ว และรู้มาล่วงหน้าอยู่แล้ว สำหรับที่พักที่นี่จะเป็นอาคารชั้นเดียวอยู่สระทะเลสาป ไม่ได้ถ่ายที่พักมาให้ดูเพราะที่พักหน้าตาจะเหมือนกับอุทยานอื่นๆครับ ส่วนนี่เป็นทะเลสาปที่ว่าครับ ตอนไปเป็นช่วงพระอาทิตย์เริ่มใกล้ตกพอดีครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 16:06:27

ความคิดเห็นที่ 76 อีกซักมุม ไม้ยืนต้นตายที่เห็นในทะเลสาปนั่นหล่ะครับ คือไม้พวกที่ เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมไฟป่าน้ำมาใช้เพื่อสร้างบ้านต้นไม้ครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 16:07:48

ความคิดเห็นที่ 77 ช่วงเย็นน้ำนิ่งมากๆ นิ่งจนเป็น Mirror Lake ไปเลยครับ ด้วยการที่ผมไม่ได้ทำการบ้านมา ทำให้พลาดไปอย่างนึงคือ ที่นี่เค้าไม่มีร้านค้าสวัสดิการขายอาหาร แต่อย่างว่าแหละครับ อช. ไม่ใหญ่มาก คงไม่คุ้มที่จะเปิด เสบียงก็ไม่ได้เตรียมมาซะด้วย เลยคุยกะคุณแฟนและพี่ที่ไปด้วยว่า งั้นเราออกไปริมโขงกันดีกว่า น่าจะมีร้านอาหาร เพราะตอนหาข้อมูลมาเป้นว่าที่ อ.ชานุมาน เป็นจุดชมวิว ผมก็ตั้งควาหวังไว้เลยว่าจะต้องเหมือนที่อุบลตรงพวกแม่น้พสองสีอะไรอย่างนั้นที่มีร้านอาหารเป็นแพไปบนแม่น้ำโขงครับ ก็เลยขับรถออกจาก อช.ไปที่ อ.ชานุมาน ตามที่หาข้อมูลมาตรงอ.ชานุมานเค้าว่าเป็นจุดขมวิวแม่น้ำโขงที่สวยช่วงหระอาทิตย์ตก แต่วันที่ไป เมฆค่อนข้างเยอะซึ่งฝั่งแม่น้ำโขงมันจะเป็นฝั่ง ตอ. ซึ่งจะฟ้าสวยก็ต่อเมืองมีแสง twilight สะท้อนมาจากฝั่งตรงข้าม แต่วันที่ไป ฟ้าได้มาอย่างที่เห็นครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 16:13:41

ความคิดเห็นที่ 78 #5 สวนสาธารณะแห่งนั้นชื่อสวนมิ่งเมืองครับ จากคุณ : bluedracula เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 16:14:40

ความคิดเห็นที่ 79 แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะ ปัญหาหลักคือ เรื่องที่ผมคาดว่าจรงริมโขงจะมีร้านอาหารปรากฎว่าไม่มีเลยครับ.. เป็นทางเดินริมโขงโล่งๆ ธรรมดาๆ เลยพยายามจะพึ่ง  GPS อีกครั้ง เจอโลตัส ตอนแรกก็ดีใจแต่พอขับไปถึงกลายเป็นร้านอาหารชื่อโลตัสที่ปิดไปแล้ว //หยอดเย้า สุดท้ายเลยออกมาถนนใหญ่เจอร้านไหนก็จัดไปซะเลย... วันนี้เลยได้้มากินอาหารพื้นบ้าน (จริงๆต้องบอกว่าอาหารบ้านๆมากกว่า ) โดยเมนูหลักเป็น แจ่วฮ้อนครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 16:16:46

ความคิดเห็นที่ 80 คุณbluedracula ขอบคุณครับ ผมคุ้นๆว่า มันมีชื่อยาวกว่านี้นิดๆ คือมีคำว่า เฉลิมพระเกียรติ อะไรประมาณนี้เพิ่มอ่ะครับ แต่คงมาเพิ่มช่วงเฉลิมฉลองในหลวงครองราชย์ครบ 50  ปีมั๊งครับ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ส่วนที่เหลือเป็นเมนูสามัญชนพวก หมูทอดกระเทียม ผักผักบุ้ง ไข่เจียว ข้าวผัดอะไรประมาณนั้น แต่ร้านนี้กินๆแล้วอาหารค่อนข้างหวาน แปลกจากอาหารทางอีสานทั่วไปที่ผมเคยกินมา.. และข้าวยังคงอร่อยเหมือนเดิมครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 16:20:08

ความคิดเห็นที่ 81 หลังจากกินอิ่มก็วนหาร้านขายของชำครับ เพราะว่าต้องเตรียมเสบียงไว้สำหรับวันรุ่งขึ้นซื้อเสร็จก็ขับรถกลับไปที่อช.อีกรอบ ซึ่งเป็นอย่างที่คาดครับ คือฟ้าปิด และผ่านไปซักพักฝนตก ผมเลยพับโครงการจะถ่ายดาวหมุนแต่เพียงเท่านี้ และเปลี่ยนไปนอนตีพุงแทน จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 16:22:49

ความคิดเห็นที่ 82 ช่ายยครับ ชื่อเต็มๆคือสวนมิ่งเมืองเฉลิมพระเกียรติ แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 55 16:26:24 จากคุณ : bluedracula เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 16:25:04

ความคิดเห็นที่ 83 สำหรับเช้าวันรุ่งขึ้นตื่นขึ้นมาฝนหยุดไปแล้วแต่ยังมีเมฆและลมแรงอยู่ก็เดินเล่นที่อช. ซักพักมีคนมาอีกกลุ่ม เค้าจะมาพักต่อจากผมไปคุยกับเค้าเค้าบอกว่า เค้ามักจะมาที่นี่บ่อยๆ เพราะมาพักผ่อน เนื่องจากตัวที่พักอยู่ริมทะเลสาปลมเย็นสบายสดขื่นครับ ซึ่งผมว่าก็จริงแหละการมาพักแบบนี้มันสงบเงียบ และชิวดีครับ ออกแนวมาพักเพื่อชาร์จแบตเตรยมกลับไปทำงานต่อ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 16:25:09

ความคิดเห็นที่ 84 ขอบคูณสำหรับข้อมูลครับ คุณbluedracula มีเจ้าถิ่นมาชมด้วยนี่แหละดีมีคนมาแก้ข้อมูลให้ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เหมือนทุกครั้งในช่วงหลังที่ผมไปเที่ยว อช. คือ ไม่ค่อยได้เตรียมไปว่าจะไปเที่ยวไหนได้บ้าง ไปถามพี่เจ้าหน้าที่เลย เพราะที่อช. ส่วนใหญ่ที่เที่ยวจะค่อนข้างหลากหลาย และเวลาที่ผมมีก็เที่ยวได้ไม่หมดอยู่แล้ว... ครั้งนี้ไปถามแรกทีเดียวเข้าใจว่าผมสามารถขึ้นไปภูสระดอกบัวซึ่งเป็นชื่อที่เอามาตั้งเป็นชื่ออุทยานด้วยได้ แต่พอถามพี่เจ้าหน้าที่ได้ความว่าจะขึ้นไปตรงนั้นต้องมาแต่เช้าแล้วต้องมีคนนำทางขึ้นไปให้ระยะทางไปประมาณ 7 กม. ซึ่งดูแล้วผมอดไปแน่นอนเพราะวันนี้ผมต้องกลับ กทม.แล้ว.. เลยถามพี่เค้าว่าพอไปเดินเล่นทีี่ไหนได้บ้างก็ได้คำตอบว่าใกล้ๆจะมี "ผาแต้ม" ใช่แล้วครับเหมือนที่ทุกคนคิดว่ามันเหมือนกับ ที่อช.ผาแต้ม อุบลฯหรือเปล่า มันเป็นภาพเขียนยุคเดียวกันครับ.. เพียงแต่พบที่นี่เท่านั้นเองครับ ซึ่งต้องเดินขึ้นเขาไปประมาณ 400  เมตรซึ่งไหนๆก็มาแล้วก็เอาซักหน่อย ทางขึ้นไม่ได้โหดครับ แต่สังขารที่ร่วงโรยของผมมากกว่าที่ทำให้บางช่วงมีหอบอยู่เหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 55 16:32:41 จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 16:32:24

ความคิดเห็นที่ 85 พอไปถึงที่ก็เจอภาพเขียนประมาณนี้หล่ะครับ ดูแล้วมีคว่มคล้ายกับ ผาแต้มที่ อุบลมากทีเดียว แต่ที่นี่มีน้อยกว่าครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 16:33:56

ความคิดเห็นที่ 86 อันนี้ไม่รู้ภาพเขียนสมัยไหน แต่ถ้าเห็นคนเขียนจะจับมาตีมือเสีบให้เข็ดเลย.. จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 16:38:23

ความคิดเห็นที่ 87 ทริปนี้ยังไม่ได้ถ่ายรูปครบแก๊งค์เลย ขอซักหน่อย จะได้รู้ว่ามากัน 3 คน จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 16:39:47