ความคิดเห็นที่ 1 ... จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 11:34:04

ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อเดินทางถึงจันทบุรี ช่วงสายๆ เราเริ่มภารกิจเที่ยวที่แรกเลยที่"ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ" หลังจากเข้าฟังข้อมูลเบื้องต้นกับพี่วิทยากร เพื่อทำความเข้าใจในการศึกษา และประวัติความเป็นมาเล็กน้อย วิทยากรก็นำทางเรามาดูกระชังสาธิตการเลี้ยงสัตว์น้ำที่อ่าวคุ้งกระเบนแห่งนี้ ...พี่วิทยากรใจดี สามารถซักถามได้ทุกอย่างที่เราอยากรู้เกี่ยวกับอ่าวคุ้งกระเบนครับ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 11:40:33

ความคิดเห็นที่ 3 ปาดขวา จากคุณ : เด็กน้อยตัวแสบ เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 11:40:41

ความคิดเห็นที่ 4 ในส่วนนี้เป็นกระชัง มีปลาหลายชนิด ที่เห็นน้ำขุ่นๆ นี้ไม่ใช่น้ำเสียครับ แต่เป็นเพราะช่วงหน้าฝนแบบนี้ น้ำจะขุ่นครับ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 11:43:18

ความคิดเห็นที่ 5 ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 11:47:37

ความคิดเห็นที่ 6 รอบๆ อ่าวคุ้งกระเบนบางช่วงจะมีบ้านเรือนของชาวบ้านมาอาศัยอยู่ ทั้งหมดนั้นก็ประกอบอาชีพประมง วิทยากรเล่าให้ฟังว่า ตอนนี้ชาวบ้านต้องออกหาปลากันไกลออกไป เพราะสัตว์น้ำลดจำนวน นั่นก็แปลว่าสิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น ลำบากมากขึ้น โลกสมัยใหม่แบบทุนนิยม ส่งผลกับทุกๆ สิ่ง จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 11:52:24

ความคิดเห็นที่ 7 ...แต่วิถีชีวิตความเรียบง่าย สมถะ เป็นกันเอง แบบสังคมไทยแท้ ก็ยังมีอยู่เต็มเปี่ยม เหมือนทุกที่ในเมืองไทยที่เราไปเยือน สิ่งที่ต่างกันมีเพียงสำเนียงภาษาพูดเท่านั้น จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 11:55:21

ความคิดเห็นที่ 8 ขอตามไปเที่ยวด้วยคนคะ จากคุณ : ลุ๊งลิ๊ง เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 11:56:12

ความคิดเห็นที่ 9 ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ  จากคุณ : *~Mayple Girl~* เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:00:50

ความคิดเห็นที่ 10 พูดคุยกับลุงป้า ชาวประมงอารมณ์ดีแล้ว เราออกเดินทางไปต่อที่ สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ ๖ รอบพระชนมพรรษา จันทบุรี ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก ที่นี่เหมาะมากถ้าจะพาเด็กๆ มาครับ แต่ผู้ใหญ่มาก็สนุกไม่แพ้กัน เพราะทุกครั้งที่เราเข้าพิพิธภัณฑ์ ความเป็นเด็กในตัว ของเรา ก็จะออกเปล่งประกายออกมาครับ (เป็นความเชื่อส่วนตัว อิอิ) จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:00:54

ความคิดเห็นที่ 11 ทุกครั้งที่เห็นสัตว์แปลกๆ ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ก็ตื่นตาตื่นใจทั้งนั้น ที่มีพันธุ์สัตว์น้ำมากมาย ให้ดู ให้ศึกษาครับ มาแล้วรู้สึกว่ากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ...ปลาไหลมอเร่ย์ขี้เซา เห็นทีไรก็ชอบครับ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:05:29

ความคิดเห็นที่ 12 มีไปจนถึงสัตว์ใหญ่ อย่างฉลาม จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:06:29

ความคิดเห็นที่ 13 ...ปลากระเบน จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:06:59

ความคิดเห็นที่ 14 ตามมาด้วยครับ จากคุณ : หนุ่ม ณ วันวาน เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:07:21

ความคิดเห็นที่ 15 และนี่ ฉลาม + กระเบน (คิดเองครับ เพราะมันเหมือนทั้งคู่) จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:07:54

ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อมีฉลาม ก็ต้องมีเจ้านี่ ...เหาฉลาม จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:09:03

ความคิดเห็นที่ 17 ไปเที่ยวด้วยครับ จากคุณ : Nat_NM เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:11:47

ความคิดเห็นที่ 18 สัตว์น้ำหลายชนิด น่าเป็นห่วง เพราะใกล้สูญพันธุ์ ถึงแม้จะมีสีสันสวยงาม แต่จุดขายกลับกลายเป็นการนำไปทำอาหาร เมนูแปลก ตามความเชื่อแปลกๆ ตู้ปลาคงไม่ใช่ที่ที่ควรอยู่ของปลา แต่บางครั้งหากไม่นำมาเก็บไว้เป็นที่เป็นทาง เพื่อให้ความรู้กับคนทั่วไป ก็อาจสูญพันธุ์เร็วขึ้น แต่ไม่วาย นำมาอยู่ในตู้แล้วก็ยังโดนทำร้ายครับ อย่างเจ้าปลาตัวนี้ ปากเป็นแผลอักเสบ เพราะชนกระจก สาเหตุมาจาก "ตกใจแสงแฟลช" เจ้าหน้าที่ย้ำอยู่เสมอว่าอย่าเปิดแฟลช ตอนถ่ายรูปสัตว์เหล่านี้ครับ ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ซึ่งการรักษาก็ต้องมีค่าใช้จ่าย และทางศูนย์เองก็ไม่ได้เก็บค่าเข้าชม มีเพียงตู้รับบริจาค ตั้งไว้สำหรับผู้มาเยือนได้ช่วยตามกำลังเท่านั้นครับ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:17:44

ความคิดเห็นที่ 19 มากันที่ป่าโกงกาง ทางเดินศึกษาธรรมชาติอ่าวคุ้งกระเบน ระหว่างทางมีบ่อกุ้งของชาวบ้าน บรรยากาศดีครับ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:21:32

ความคิดเห็นที่ 20 ป่าโกงกาง จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:23:15

ความคิดเห็นที่ 21 สะพานไม้ ทางเดินศึกษาธรรมชาติ ครับ พี่วิทยากรกำลังเล่าเรื่องปูก้ามดาบให้ฟัง จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:24:37

ความคิดเห็นที่ 22 ตามเส้นทางก็จะมีป้ายบอกรายละเอียดเกี่ยวกับพันพืชต่างๆ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:26:41

ความคิดเห็นที่ 23 ตลอดเส้นทางเป็นสะพานไม้ ยาวหลายกิโล แต่เราไม่ต้องเดินหมดก็ได้ครับ บรรยากาศดี เย็นสบาย จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:27:53

ความคิดเห็นที่ 24 หอดูนก ก็มี จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:29:06

ความคิดเห็นที่ 25 ส่วนนี่ "หมูดุด" หรือพยูนนั่นเอง พยูนเคยเป็นเจ้าแห่งคุ้งกระเบน แต่ด้วยสภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม จึงหายไป แต่หลังจากอ่าวคุ้งกระเบนได้รับการพัฒนา เมื่อปี 2549 พยูนกลับเข้ามาหากินที่อ่าวคุ้งกระเบนอีกครั้ง ตามจริง ที่ศูนย์ฯ ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว ไม่ได้มีการบริการรองรับนักท่องเที่ยว เป็นเพียงศูนย์ศึกษาและพัฒนา ตามแนวพระราชดำริ แต่เมื่อนักท่องเที่ยวสนใจเข้ามาเที่ยว และหน่วยงานต่างๆ ให้ความสนใจเข้ามาดูงาน ทางศูนย์ก็เลยต้องพยายามรองรับการท่องเที่ยวเท่าที่จะทำได้ครับ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:35:02

ความคิดเห็นที่ 26 หลังจากเที่ยวชมป่าโกงกาง ได้ความรู้กันแล้ว เราออกเดินทางต่อไปที่ท่าเรือ และลงเรือมุ่งหน้าสู่โฮมสเตย์ ต้องเดินทางทางเรือเพราะทางถนนค่อนข้างไกลครับ และการนั่งเรือก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ เพื่อให้ได้อารมณ์แบบชาวขลุง อย่างแท้จริง จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:39:35

ความคิดเห็นที่ 27 ชาวบ้านที่นี่ใช้เรือกันเป็นส่วนมาก ตลอดทาง เราก็จะเจอเรือชาวบ้านที่สัญจรไปมา ร่วมด้วยเรือบริการนักท่องเที่ยวด้วย นั่งเรือค่อนข้างไกล เป้าหมายคือ "ท่าขาหย่าง โฮมสเตย์" บอกอีกอย่าง เรือที่นั่งไป ค่อนข้างเร็วนะครับ ตื่นเต้นมากกกก จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:43:18

ความคิดเห็นที่ 28 อยากเกาะล้อตามไปด้วยทุกทริปเลย จากคุณ : Nainame เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:44:50

ความคิดเห็นที่ 29 ข้างหน้านั่นแหละครับ คือจุดหมายของเรา เรือลำก่อนหน้ากำลังทยอยขึ้นจากเรือกัน จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:44:51

ความคิดเห็นที่ 30 ถึงแล้วครับ ท่าขาหย่างโฮมสเตย์ บรรยากาศบ้านไม้ ใต้ถุนเป็นเลน มีฟ้ากับน้ำเป็นแบ็คกราวด์ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:49:12

ความคิดเห็นที่ 31 เหล่าสมาชิกออกมาต้อนรับกันแล้วครับ ปลาตีนตัวใหญ่ กระดึ๊บๆ ไปมากันสนุกสนาน ใต้ถุนบ้าน หลังบ้าน หน้าบ้าน เต็มไปหมด จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:51:27

ความคิดเห็นที่ 32 คุณป้าทักทายด้วยมะม่วงน้ำปลาหวานก่อนเลย จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:52:53

ความคิดเห็นที่ 33 เก็บข้าวของเข้าบ้านพักเรียบร้อย ล้างหน้าล้างตาเสร็จ เราก็ลงเรืออีกรอบ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:54:28

ความคิดเห็นที่ 34 เพื่อมุ่งหน้าไปดูไฮไลท์ ของที่นี่ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:55:26

ความคิดเห็นที่ 35 มะม่วงน่าทาน แก้ง่วงยามบ่ายมาก ๆ ค่ะ จากคุณ : Love sugar&cream เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:57:18

ความคิดเห็นที่ 36 ตลอดเส้นทางก็ประกอบไปด้วยต้นโกงกาง เขียวๆ สบายตา สบายใจ ประกอบการบรรยายของพี่ไกด์ ท้องถิ่นครับ ซึ่งพี่แกก็เป็นคนดูแลโฮมสเตย์ และดูแลพวกเราตลอดการพักที่นี่ครับ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:57:35

ความคิดเห็นที่ 37 ถึงจุดหมาย เวลาบ่าย 4 โมงเย็น ได้เวลาพี่เหยี่ยวแดง พระเอกของเราออกมาโชว์ตัว เหยี่ยวแดงเป็นสัตว์หายาก เหมือนเหยี่ยวพันธุ์อื่นๆ แต่ที่นี่มีมาก เพราะสภาพแวดล้อมสมบูรณ์ จนกลายเป็นไฮไลท์ ให้ทุกคนอยากมาดูกัน ...คุณลุงนำปลาสับมาโปรยให้เหยี่ยว จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 13:01:18

ความคิดเห็นที่ 38 เหยี่ยวแดงจะบินวนไปมา ตัวไหนเล็งปลาิชิ้นไหนไว้ ก็ทิ้งตัวถลา โฉบชิ้นปลาไป กินในอากาศ ดูเพลินมากๆ ครับ กับเหยี่ยวนับร้อยตัว ที่บินเป็นฝูงใหญ่ขนาดนี้ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 13:07:47

ความคิดเห็นที่ 39 พอได้เวลาสักพักเหยี่ยวทั้งหลายก็สลายการชุมนุม บินกลับรังนอน เราออกเดินทางทางเรือ เที่ยวชมบรรยากาศชุมชนริมน้ำ ชาวขลุงกันต่อ โดยมีพี่ไกด์อธิบาย เล่าอะไรๆ ให้ฟังตลอดเส้นทาง นี่คือ ลอบดักปู ชาวบ้านมาวางไว้ ผูกติดกับแกนลอน ให้ลอยเหนือน้ำเพื่อเป็นที่สังเกต จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 13:11:33

ความคิดเห็นที่ 40 ด้านข้าง ริมฝั่งก็จะมีบ้านเรือนชาวบ้านอยู่เป็นระยะ แต่ค่อยข้างห่างกัน ชาวบ้านกลุ่มนี้จะไม่ได้อยู่ในชุมชน แต่ก็รู้จักกันหมด เพราะเวลามีงานวัด การแต่ง งานศพ ก็จะไปร่วมกันโดยมีเรือเป็นพาหนะเข้าออก และทุกอย่างก็ขนส่งทางเรือทั้งของกิน ของใช้ เป็นวิถีชีวิตที่ค่อนข้างสันโดษ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 13:16:07

ความคิดเห็นที่ 41 พระอาทิตย์คล้อยต่ำลงเรื่อยๆ.. ที่นี่มีแต่น้ำกับฟ้าจริงๆ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 13:17:16

ความคิดเห็นที่ 42 นั่งเรือมาสักพัก ก็ถึงชุมชน ตรงนี้คือศาลาประชาคม เมื่อมีกิจกรรมต่างๆ ชาวบ้านจะมารวมที่นี่ เช่น การเลือกตั้ง จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 13:18:53

ความคิดเห็นที่ 43 ทุกอย่างที่นี่อยู่ริมน้ำ รวมทั้งโรงเรียนและสถานที่สำคัญต่างๆ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 14:15:45

ความคิดเห็นที่ 44 วัดก็ด้วย ...เรือนี้เป็นเรือวัด เหมือนชาวบ้านบนบก จะมีรถวัดครับ เอาไว้ขนของ รับส่งคน ตามงานวัดและงานประเพณี พี่ไกด์บอกว่างานวัดที่นี่ก็เหมือนบนบก มีวัยรุ่นมาดูรำวง ดูวงลูกทุ่ง สอยดาวและต่างๆ และที่สำคัญ มีการตีกันเหมือนบนบกด้วย แต่ที่นี่ไม่มีคือแก๊งค์มอเตอร์ไซค์ แต่จะมีวัยรุ่นขาซิ่ง แต่งเรือแรง ไว้แว๊นกันแทน จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 14:20:02

ความคิดเห็นที่ 45 วิถีชีวิตยังเรียบง่าย ไม่เปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยมากนัก ตอนเย็นๆชาวบ้านก็จะมานั่งให้อาหารปลาในกระชัง ข้อดีของที่นี่อีกอย่างคือ ทุกครัวเรือนมีอาชีพ เพราะมีทรัพยากรเพียงพอ ไม่ต้องทิ้งบ้านไปหางานในเมืองใหญ่ทำ การปลูกบ้านเรือนก็ง่ายๆ ไม่ได้เน้นหลังใหญ่โตโอ่อ่า หากมีลูกออกเรือน ก็ปลูกอีกหลังใกล้ๆ กัน อยู่กันเป็นเครือญาติ ที่น่าสังเกตอีกอย่างนึงคือ บ้านที่นี่ไม่ค่อยปิดประตูบ้านกันครับ พี่ไกด์บอกว่า ที่นี่ไม่มีขโมย เพราะรู้จักกันหมด ตอนนอนก็เปิดประตู สังคมแบบนี้ในเมืองไทยเหลือน้อยลงไปทุกที จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 14:28:39

ความคิดเห็นที่ 46 เสาไม้ไผ่ที่เห็นนั้น เป็นที่ลงตาข่ายดักสัตว์น้ำ อีกอย่างหนึ่ง เป็นมรดกตกทอด จากรุ่นสู่รุ่น มีมาแต่โบราณ ใครปักตรงไหน ก็จับตรงนั้น เปลี่ยนไม่ได้ ไม่สามารถปักใหม่ได้ครับ เพราะได้รับอนุญาตเฉพาะคนที่ปักมานานแล้วเท่านั้น ส่งมอบให้ลูกหลานต่อๆ ไปได้ แต่เขาไม่ขายกัน จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 14:33:37

ความคิดเห็นที่ 47 กระชังเลี้ยงหอยแมลงภู่ ทุกวันนี้ต้องไปซื้อพันธุ์หอยแมลงภู่ และหอยแครงมาจากที่อื่นเช่น ชลบุรีครับ และใครจะลงกระชังก็ต้องไปขออนุญาตก่อน จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 14:37:06

ความคิดเห็นที่ 48 พี่ไกด์ยกให้ดู จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 14:37:45

ความคิดเห็นที่ 49 ชาวบ้านที่นี่ต้องมีเรือ แต่ถ้าใครไม่มีก็ต้องเสียค่าจ้างในการเดินทาง เข้าเมืองหรือไปทำธุระแต่ละที่ ก็ใช้ไปหลายตังค์ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 14:40:35

ความคิดเห็นที่ 50 เสร็จสิ้นภารกิจเที่ยวที่ขลุง นอนพักหนึ่งคืนพร้อมอาหารทะเลสดๆ แบบชุดใหญ่จากทางโฮมสเตย์ ตอนเช้าเราก็ออกเดินทางโดยเรือเร็วอีกครั้ง เพื่อกลับเข้าฝั่ง จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 14:42:34

ความคิดเห็นที่ 51 จุดหมายสุดท้าย กับภารกิจสุดท้ายของทริปคือ... จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 14:44:13

ความคิดเห็นที่ 52 เสื่อกก เป็นของขึ้นชื่อของเมืองจันทบุรีอีกอย่างหนึ่ง เมื่อก่อนมีเยอะมาก แต่ทุกวันนี้ลดลงอย่างน่าใจหาย หากเราไม่ได้มาฟังจากปากคุณป้าผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มทอเสื่อกก เราก็ไม่ทราบมาก่อนจริงๆ ครับ ว่าเสื่อกก เดี๋ยวนี้เหลือกลุ่มที่ทำกันจริงๆ อยู่ไม่กี่คน เพราะต้นกกเหลือน้อยลง จากการขยายพื้นที่เลี้ยงกุ้ง คนทำเสื่อเลิกไปทำบ่อกุ้งกันเยอะ การทอเสื่อวันหนึ่ง ทำสองคนคนหนึ่งสอด คนหนึ่งกระทก ได้เต็มที่ยาว 2 เมตรเท่านั้น เฉลี่ยก็ตกคนละเมตร หักค่าใช้จ่ายแล้ว เหลือรายได้อยู่ไม่เท่าไร คนที่ทำอยู่นี้ก็อยู่เพราะใจรักจริงๆ ก็ว่าได้ครับ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 14:49:11

ความคิดเห็นที่ 53 เสื่อที่นี่ละเอียดมากครับ เส้นเล็กและลวดลายสวยงาม จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 14:50:26

ความคิดเห็นที่ 54 สังเกตว่าคนทอเสื่อต้องมีความรู้ด้านกราฟฟิคและการทำแพทเทิร์นด้วยนะครับ เพราะลวดลายต่างๆ ก็ต้องคิดเอง และลองทอ ลองขึ้นลายเอง ใช้ความสามารถมากครับ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 14:52:26

ความคิดเห็นที่ 55 และนอกจากจะทอเป็นเสื่อไว้ปูนั่งแล้ว ยังมีการดัดแปลงเป็นสินค้าอื่นอีกมากมาย จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 14:53:52

ความคิดเห็นที่ 56 เส้นกกในการทอเสื่อ ของกลุ่มที่นี่จะเส้นเล็กละเอียด เพื่อการใช้งานที่ทนทานและสวยงามด้วย โดยคุณป้าสาธิตการจักกกให้เป็นเส้นเล็กๆ ให้ดู จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 15:02:56

ความคิดเห็นที่ 57 สุดท้ายไม่พลาด ต้องลองทำให้รู้ ทอเสื่อกันด้วยตัวเอง แต่ไม่ถึงกับเสร็จเป็นชิ้นเป็นอันหรอกครับ เพราะต้องใช้เวลา และความชำนาญสูงจริงๆ แต่อย่างน้ยก็ได้ลองครับ ให้ได้รู้ว่าการทอเสื่อนี่ยากจริงๆ กว่าจะได้หนึ่งผืน นี่เป็นอาชีพและเครื่องใช้ที่อยู่คู่ เมืองไทยเรามาช้านาน แต่เริ่มที่จะเลือนหาย ลดน้อยลงเรื่อยๆ จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 15:05:56

ความคิดเห็นที่ 58 สุดท้าย...ลากันด้วยภาพบรรยากาศพระอาทิตย์ตก กับกระชังกลางน้ำ จันทบุรี เมืองที่หลายคนยังไม่ค่อยรู้จัก แต่คาดว่าหลังจากดูรีวิวนี้แล้วคงอยากรู้จักกันบ้างไม่มากก็น้อย เมืองนี้ช่างเป็นเมืองที่ร่ำรวยด้วยทรัพยากรอย่างแท้จริง ที่เราไปสัมผัสกันมานี้เป็นแค่ส่วนหนึ่ง และเหลืออีกหลายที่ที่ยังรอการไปเยือน แต่สิ่งที่มีมากไม่แพ้ทรัพยากรก็คือความมีน้ำใจ ของชาวจันทบุรี อาจจะเพราะว่าคที่นี่มีความสุข อุดมสมบูรณ์ เพียงพอและพอเพียง จึงพร้อมที่จะแจกจ่าย ต้อนรับผู้มาเยือนให้มีความสุขไปด้วย ที่เหลือก็มีแต่ผู้ไปเยือนที่จะรักและตอบแทนความสุขเหล่านั้นอย่างไร ไปเยือนอย่างไร ให้ความสุข ความอุดมสมบูรณ์นี้อยู่คู่เมืองจันทบุรีไปแสนนาน "เที่ยวหัวใจใหม่ เมืองไทยยั่งยืน" จากคุณ : นาย1081009 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 15:14:45

ความคิดเห็นที่ 59 ให้ที่ให้ gife ไม่เจอ  อยากให้..อยากให้จัง จากคุณ : daiso เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 15:43:04

ความคิดเห็นที่ 60 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : แม่จีน-ไทไท (GT2007) เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 16:07:57

ความคิดเห็นที่ 61 เมือง ขลุง ยังมีของดีซ่อนอยู่อีกแย๊ะ ไช่ไหมฮิ จากคุณ : เฮโรด (Youth In Asia) เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 17:45:26

ความคิดเห็นที่ 62 เข้ามาเที่ยวด้วยคนนะคะ เสียดายที่ให้กิฟไม่ได้ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ ^^ จากคุณ : คืนไร้ดาวพราวแสงจันทร์ เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 21:45:30

ความคิดเห็นที่ 63 ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 55 07:47:25

ความคิดเห็นที่ 64 เห็นมะม่วงน้ำปลาหวานแล้วเปรี้ยวปาก จากคุณ : คนช่างฝัน สาวข้างบ้าน เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 55 08:19:44

ความคิดเห็นที่ 65 ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^ จากคุณ : สามแซ่ เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 55 22:34:14