ความคิดเห็นที่ 1 ตามกิจวัตรประจำทุกเช้า นั่งจัดการอาหารเช้าแบบเต็มๆ อิ่มๆ ที่ทาง Hostel มีให้ ทั้งกาแฟ ขนมปังไม่จำกัด เนย เนยถั่ว แยม แถมท้ายด้วยกล้วยหอมมาในตระกร้าบนโต๊ะ และเนื่องจากวันสุดท้ายแล้ว ก่อนออกจากที่พักจัดเก็บกระเป๋าเรียบร้อย เช็คเอาท์ แล้วฝากกระเป๋าไว้ที่นั่น แล้วมีข้อแม้ว่าเดี๋ยวจะขอกลับมาอาบน้ำช่วงค่ำๆ นะค้าบ... พนักงานค้อนเบาๆ (เริ่มคุ้นเคย เริ่มคุยเล่นด้วยแล้ว) พร้อมตอบมาว่าตามสะดวกเลยเพ่... 555 จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:09:12

ความคิดเห็นที่ 2 ประเดิมเช้าวันนี้ด้วย 1 ใน 5 mission ที่ผมตั้งไว้ และเป็นภารกิจ(ภาคบังคับ) อันสุดท้ายแล้ว คือบันไดหนีไฟหลากสีที่ Bugis เราเริ่มออกเดินทางกันจากสถานี Clack Quay เหมือนทุกวัน จนตอนนี้เริ่มรู้สึกคุ้นเคยกับสถานีนี้แล้ว เดินเลี้ยวซ้ายขวาได้อย่างมั่นใจ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:09:45

ความคิดเห็นที่ 3 อีกสิ่งหนึ่งที่รู้สึกชื่นชมสิงคโปร์ คือมีการตกแต่งสถานีรถใต้ดินในทุกสถานี แถมไม่มีแพทเทิร์นที่ต้องเหมือนกัน แต่ละสถานีจึงดูสวยมีเอกลักษณ์ดี ซึ่งแต่ละสถานีก็มีจุดเด่น สวย และสร้างสรรค์ดี นึกถึงบ้านเราไม่คุ้นว่ามีแบบนี้บ้าง นอกจากป้ายโฆษณาเรียงกันให้พรึ่บ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:10:13

ความคิดเห็นที่ 4 การเดินทางสู่สถานี  Bugis ออกจะวุ่นวายเล็กน้อยครับ เพราะต้องเปลี่ยนสถานีหลายรอบหน่อย (ทั้งที่ระยะทางไม่น่าไกล) แต่ไม่ถึงกับงงนะครับ เริ่มจากสายสีม่วงที่สถานี Clack Quay ไปเปลี่ยนขึ้นสายสีแดงที่สถานี Dhoby Ghaut ก่อนจะเปลี่ยนอีกทีเป็นสายสีเขียวที่ City Hall แล้วนั่งมาลงสถานี Bugis ได้เลย จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:10:42

ความคิดเห็นที่ 5 สายพอควรแล้วเมื่อมาถึงสถานี Bugis แต่เพราะใช้พลังไปเยอะ เลยออกแนวง่วงๆ มึนๆ เหมือนยังไม่ตื่นดี ต้องปลุกตัวเองเพื่อตามหาบันไดหนีไฟหลากสีกันครับ ออกจากสถานีมามองเห็น Bugis Village ตั้งแต่ก่อนข้ามถนนก็เบาใจแล้ว ว่าคราวนี้หาง่าย ไม่หลงแน่ๆ เพราะบันไดหนีไฟที่ว่าแอบๆ อยู่ด้านหลังอาคาร เดินเลาะถนนมาเรื่อยๆ ทุกสิ่งในสิงคโปร์ดูเหมือนจะถูกแต้มสีสันสดไปไปซะทุกสิ่งจริงๆ แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 55 16:12:05 จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:11:51

ความคิดเห็นที่ 6 เจอแล้วคร้าบ!!... บันไดหนีไฟแสนสวยที่เห็นจากรูปถ่ายจนคุ้นตาแล้ว แต่แอบผิดหวังนิดหน่อย เพราะสีมันดูชืดๆ กว่าที่คิดไว้ แถมถ้าเข้าไปเก็บภาพต้องเข้าไปในซอยแคบๆ ที่เต็มไปด้วยรถส่งของจอแจ ท่ามกลางเสียงโหวกเหวกโวยวาย ครั้นจะลุยเข้าไปก็กลัวเกะกะเค้า แถมถ้ามีพวกความใจกล้าหน้าด้านคงจะเพิ่มเท่าทวีคูณ แต่ ณ ตอนนี้หัวเดียวกระเทียมลีบ เลยมองตาปริบๆ พยายามถ่ายจากปากซอยแทน มุมเลยออกจะจำกัด ขัดใจชะมัด!!! จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:12:47

ความคิดเห็นที่ 7 พยายามหาเหลี่ยมสวยๆ แต่ไม่ได้รูปอย่างใจเลยครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:13:20

ความคิดเห็นที่ 8 เก็บภาพตึกตรงข้ามบันไดแทน แหม่... มันสีแดงได้ใจจริงๆ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:13:53

ความคิดเห็นที่ 9 วันนี้มาทันถ่ายทอดสด ตามไปเที่ยวต่อด้วยคนนะคะ จากคุณ : ZoSha เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:14:22

ความคิดเห็นที่ 10 ส่งท้ายก่อนจากมา ภารกิจหลักอันสุดท้ายนี้ เลยเป็นจุดที่ใช้เวลากับมันน้อยที่สุดไปซะงั้น จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:14:26

ความคิดเห็นที่ 11 ZoSha ...ได้เลยครับ มาปิดท้ายทริปด้วยกันนะครับ ก่อนเดินทางไป set เส้นทางการเดินทางในแต่ละย่านของสิงคโปร์ผ่าน Google Map ซะดิบดี แต่ยังไงล่ะนี่ ลืมแผนที่ที่ print ไปแทบทุกวัน 555 เลยอาศัยเดินมั่วเอา เดินๆ อยู่เจอโบสถ์อีกหลัง ที่ตอนแรกไม่ได้คิดจะแวะ แต่สีขาวสะดุดตาอยู่ตรงหน้า เลยขอแวะซะหน่อยครับ และสัมผัสแรกที่ประทับใจ เมื่อตอนเข้าไปใกล้โบสถ์ด้อมๆ มองๆ เก็บภาพไปเรื่อยๆ แต่งงๆ ว่าเข้าไปชมข้างในได้ไหม เจอ จนท. ที่ดูก็รู้ว่าเป็นเชื้อชาติอินเดีย กวักมือเรียก พร้อมเชิญชวนเข้าไปชมด้านใน เลยยิ้มแก้มปริ เข้าไปชมข้างในอย่างสบายใจ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:15:39

ความคิดเห็นที่ 12 เย้ๆๆ ยังไม่ออกไปข้างนอก เพราะรอรีวิวนี้เลยนะคะคุณเดี่ยว เดี๋ยวหม่ำเสร็จแล้วจะกลับมาชมต่อนะคะ จากคุณ : Yai Klong_Tour Rai เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:16:02

ความคิดเห็นที่ 13 โบสถ์นี้คือ The Church of Our Lady of Lourdes เป็นโบสถ์คาทอลิกของชาวทมิฬแห่งแรกของสิงคโปร์ นั่นก็คือเหล่าชนชาติอินเดีย ที่ทำเอาผมประหลาดใจไม่น้อย เพราะภาพจำของผมนึกไม่ถึงว่าชาวอินเดียส่วนหนึ่งก็เป็นคาทอลิกด้วย จะนึกถึงฮินดู หรืออิสลามซะมากกว่า แต่ลืมไปว่าศาสนาแต่ละศาสนากระจายอยู่ในทุกๆ ประเทศ ทุกเชื้อชาติ แม้จะเป็นส่วนน้อยแต่ใช่ว่าจะไม่มี เนอะ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:16:16

ความคิดเห็นที่ 14 Yai Klong_Tour Rai ...ขอบคุณมากๆ ค้าบ ทานให้อน่อยนะคร้าบ โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1888 ในรูปแบบโมเดิร์น โดยมีต้นแบบจากโบสถ์เมืองลูร์ด ประเทศฝรั่งเศส ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังของสิงคโปร์ Swan และ Maclaren อาคารดั้งเดิมถูกตกแต่งด้วยสีเหลือง แดง และเทา จนกระทั่งภายหลังมีการปรับปรุง และเปลี่ยนเป็นโบสถ์สีขาวทั้งหลัง ภายในก็แต่งแต้มด้วยสีฟ้าสดใส และกระจกสีอันงดงาม แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 55 12:11:12 จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:17:22

ความคิดเห็นที่ 15 ใกล้ๆ ทางเข้าโบสถ์มีมอร์เตอร์ไซด์สีสวยจอดอยู่ สีนี่ช่างดูเป็นสิงคโปร์จริง 555 จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:17:59

ความคิดเห็นที่ 16 โบสถ์แห่งนี้เป็นสถานที่นอกแผนของผม แต่เป็นนอกแผนที่สวยงามและประทับใจมากๆ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:18:38

ความคิดเห็นที่ 17 มองขึ้นไปบนเพดานโบสถ์ยามต้องแสงร้อนแรงยามใกล้เที่ยง ส่งให้ดูสว่างไสว ยิ่งมีสีขาว แซมด้วยสีฟ้าแบบนี้ บอกได้คำเดียว ....สวย..... จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:19:12

ความคิดเห็นที่ 18 ชาวคาทอลิกที่แปลกตาสำหรับผม แต่ท่ามกลางความเงียบ ความสำรวมของผู้คนในโบสถ์ ทำให้ทุกอย่างดูนิ่ง ขลัง และสงบ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:19:44

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นความศรัทธาของเค้าแล้วก็ทึ่ง ผมเองไม่ใช้คาทอลิกเลยไม่ทราบธรรมเนียมปฎิบัติสักเท่าไหร่ แต่ชายคนนี้ เดินเข่าจากประตูทางเข้าจนถึงแท่นบูชา เล่นเอาผมอึ้งไปเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 55 12:12:47 จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:20:17

ความคิดเห็นที่ 20 รูปปั้นภายในโบสถ์มีแทบทุกมุม จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:20:47

ความคิดเห็นที่ 21 มาเที่ยวต่้อตอนจบครับ จากคุณ : One Light One Shadow เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:21:05

ความคิดเห็นที่ 22 สีขาวและฟ้าดูเข้ากัน ทำให้โบสถ์แสนสวยแห่งนี้ยิ่งสวยขึ้นไปอีก จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:21:14

ความคิดเห็นที่ 23 One Light One Shadow ...ค้าบ ไปเที่ยวด้วยกันนะครับ จริงๆ ตัวโบสถ์เป็นเพียงหลังเล็กๆ ที่บรรยากาศอบอุ่นและน่ารัก เดินไม่นานก็ทั่วแล้วละครับ ได้เวลาต้องไปที่อื่นกันต่อนะครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:21:58

ความคิดเห็นที่ 24 เดินอีกชั่วหนึ่งอึดใจ จนมาเจอกับ Haji Lane ถนนสายอาร์ต ที่ขึ้นชื่อของย่านนี้ ถึงขนาดเคยถูกกล่าวถึงในนิวยอร์กไทม์ว่าถนนสายนี้เป็นที่รวมตัวกัน ของผู้หันหลังให้กับสินค้า แบรนด์เนม มาสู่ความชิคที่เป็นตัวของตัวเอง นั่นเพราะบรรดาหนุ่มสาวรุ่นใหม่ทั้งดีไซน์เนอร์ ศิลปิน และช่างภาพ จะมารวมกันอยู่ที่นี่ แสดงงานศิลปะและตัวตนผ่านร้านเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ของแต่งบ้าน และอื่นๆ อีกมากมาย แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 55 12:14:15 จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:22:35

ความคิดเห็นที่ 25 แต่ที่ผมสรุปไปนั้น จากการแอบชมผ่านกระจกหน้าร้านนะครับ เพราะตอนไปประมาณเที่ยง บรรดาศิลปินยังไม่ตื่นมาเปิดร้านกันเลยคร้าบบบ... บรรยากาศรอบตัวจึงเงียบเหงา ยิ่งพอดินเข้ามาในซอย เหมือนเดินคนเดียวทั้งซอยเลย 555 แต่มาตอนที่ยังไม่เปิดร้านนี่ก็มีข้อดีนะครับ สามารถเลือกมุมถ่ายได้แบบอิสรเสรี ไม่ต้องเกรงใจใครกันเลยทีเดียว แต่... มันจะเหงาไปไม๊ ????... จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:23:08

ความคิดเห็นที่ 26 บรรดาประตูหน้าต่าง สีสันจัดจ้าน หลากหลาย แต่พอมาอยู่พร้อมๆ กัน ก็สวยไปอีกแบบ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:23:44

ความคิดเห็นที่ 27 ธงสีสันสวยๆ ออกแนวธิเบต อยู่แถวๆ กลางซอย เรียกว่าศิลปะต่างๆ ในซอยนี้ถูกผสมผสานจากหลากหลายที่มา จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:24:19

ความคิดเห็นที่ 28 ร้านนี้ร้านขายดอกไม้ น่าจะเพิ่งเปิดได้ไม่กี่วันก่อนหน้า เพราะสังเกตเห็นกระเช้าดอกไม้วางแถวๆ หน้าร้าน คงเพิ่งฉลองเปิดร้านใหม่ (มั้ง) จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:24:52

ความคิดเห็นที่ 29 ร้านนี้ตกแต่งน่ารักดีนะครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:25:16

ความคิดเห็นที่ 30 คนน้อยเดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:25:46

ความคิดเห็นที่ 31 ให้เห็นกันชัดๆ เหมือนผมหลุดเดี่ยวมาอีกดินแดนหนึ่งเลย ชักกลัวแล้วน้าาาาาา ...555 จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:26:17

ความคิดเห็นที่ 32 การตกแต่งร้าน หรือการลงสีที่ผนังตึกแบบนี้มีให้เห็นตลอดซอย เรียกว่าจัดเต็ม ไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ ใครมีความคิดสร้างสรรค์ยังไง จัดมา!!!!... จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:26:48

ความคิดเห็นที่ 33 เดินมาถึงปากซอยอีกฝั่งแล้ว มองย้อนกลับไปจากที่เดินมา จะเห็นว่าเป็นซอยไม่ยาว แต่ถ้าช่วงที่เปิดร้านกันหมด บรรยากาศคงคึกคักกว่านี้มากมายหลายเท่า จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:27:39

ความคิดเห็นที่ 34 ก่อนจาก Haji lane เก็บตึกสีสวยอีกสักที จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:28:12

ความคิดเห็นที่ 35 เมืองสิงคโปร์ในมุมมองของคุณ cold river สวยงามมากค่ะ จากคุณ : ColaGirl เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:28:16

ความคิดเห็นที่ 36 ออกจาก Haji Lane เดินชมบ้านเมืองเรื่อยเปื่อย เท่าที่สังเกตแถวนี้จะได้บรรยากาศของชาวอาหรับเต็มที่มาก ทั้งร้านอาหารกลิ่นเครื่องเทศร้อนแรง และบรรดาสินค้าตามร้านต่างๆ เผลอๆ อาจลืมไปเลยว่าเดินอยู่บนถนนสายหนึ่งในสิงคโปร์ จริงๆ ย่านอาหรับสตรีทแห่งนี้ สมัยแรกเริ่มเป็นย่านขายของที่เกี่ยวกับศาสนาอิสลามเป็นหลัก ทั้งเครื่องแต่งกายชาวมุสลิม คัมภีร์อัลกุระอาน และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ภายหลังมีชาวอาหรับอาศัยมากขึ้นจึงค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสิงค้าที่นำเข้า จากทั้งมาเลย์เซีย อินโด อียิปต์ ตุรกี โมร็อกโค ทั้งผ้าฝ้าย ผ้าไหม ผ้าชีฟอง พรม และบรรดาเครื่องหอมต่าง โดมสีทองที่เห็นในภาพคือ Sultan Mosque มัสยิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ ภายในสามารถจุผู้คนได้ถึง 5000 คน มีจุดเด่นอยู่ที่โดมตรงกลางขนาดใหญ่และมียอดแหลมอประดับยู่สี่ด้าน ซึ่งถือเป็นศิลปะอาหรับขนานแท้ที่หาชมได้จากที่นี่ที่เดียว จริงๆ ตามข้อมูลสามารถเข้าชมด้านในได้ แต่งดถ่ายภาพ แต่บรรยากาศ และความไม่คุ้นเคย รวมทั้งข้อห้ามทางศาสนาที่ผมเองก็ไม่ทราบ เลยตัดใจขอชมจากภายนอกอย่างเดียวครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:28:45

ความคิดเห็นที่ 37 ColaGirl ...ขอบคุณครับ ไปเที่ยวด้วยกันนะครับ จัดการย่าน Bugis และอาหรับสตรีท เรียบร้อยแล้ว ที่นี่ก็เหลือแค่แถบๆ  chinatown ที่ยังไม่ได้เที่ยวเป็นเรื่องเป็นราว ดูจากแผนที่รถไฟใต้ดินแล้ว ถ้าต้องไปสถานี Chinatown ต้องเปลี่ยนสถานีหลายรอบ(เหมือนขามา) เลยกะว่าใช้สายสีเขียวตรงไปสถานี Tanjong Pagar นั่งยาวไม่ต้องเปลี่ยนขบวน แล้วเดินเที่ยว Red Dot Museum แล้วค่อยเดินทะลุไป Chinatown   เอะอะก็เดินนะผมนี่ ทำเหมือนแรงขาเหลือเยอะ ทั้งที่ตอนนี้แผ่วลงๆๆ 555 ออกจากสถานี Tanjong pagar เดินต่ออีกไม่ไกล ตึกสีแดงตั้งโดดเด่นอยู่ ถึงแล้ว Red Dot Museum แม้ตอนนี้เลยเที่ยงมาเยอะพอควรแล้ว อาหารเช้าที่กินตุนไว้ แทบไม่เหลือ แต่จาก Red Dot มองออกไปเจอศูนย์อาหาร Maxwell อยู่ไกลๆ เลยขอแวะเข้าไปชมข้างในซะหน่อย นี่คงเป็นพิพิธภัณฑ์แรกประจำทริปนี้ที่จะได้เข้าชม ทั้งที่ตอนทำแผนมีชื่อพิพิธภัณฑ์ไม่น้อยกว่า 5 แห่งที่ตั้งใจว่าจะเข้าชม แต่ไปๆมาๆ ถึงตัดทิ้งระหว่างทริปซะเกลี้ยง เอาละ เริ่มจากที่นี่แล้วกัน แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 55 12:19:05 จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:29:45

ความคิดเห็นที่ 38 รูปสวยๆมาแล้ว  ตามไปเที่ยวต่อครับ   จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:29:53

ความคิดเห็นที่ 39 อาคารสีแดงแห่งนี้ตั้งโดดเด่นบนถนนเม็กเวลล์ อดีตเป็นสำนักงานควบคุมการจราจร ที่ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เน้นงานดีไซน์ในปัจจุบันนี้ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:30:19

ความคิดเห็นที่ 40 เล็กทาโร่ ...ด้วยความยินดีมากๆ ครับ ทางเดินเข้าสู่พิพิธภัณฑ์ เจอทักทายด้วยกล่องไปรษณีย์สีแดงเรียงรายเป็นพรืด นี่ไม่ใช่ผลงานศิลปะที่จัดแสดงนะครับ แต่เป็นกล่องไปรษณีย์ที่ใช้งานจริงอยู่ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:31:07

ความคิดเห็นที่ 41 ทางเข้าเจอเจ้าหน้าที่สาวอินเดียยิ้มแป้นแต่ไกล ผมซื้อตั๋วเข้าชมราคา 8 เหรียญ พร้อมถามเพื่อให้แน่ใจว่าด้านในถ่ายรูปได้ไม๊ แต่ตอบได้...สบายมาก พร้อมยื่นตั๋ว และโบรชัวร์แผ่นใหญ่ยักษ์มาให้ ผมมองเข้าไปภายใน เฮ้อ... ผมต้องเดินแบบทั้งพิพิธภัณฑ์มีผมแต่เพียงผู้เดียวอีกแล้วใช่ไม๊เนี่ย... แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 55 12:20:38 จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:31:40

ความคิดเห็นที่ 42 ภายในเป็นเหมือนห้องโถงโล่งๆ กว้าง ที่ซอยเป็นสัดส่วนเล็กลง เพื่อจัดแสดงผลงานตามหมวดหมู่ และประเภทผลิตภัณฑ์ ทุกชิ้นล้วนผ่านการได้รับรางวัล  red dot design award จากประเทศเยอรมนี ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล บรรดาผลิตภัณฑ์ Tupperware มากมายหลายอย่าง หลายสีสัน พอมาจัดเรียงแบบนี้ดูมีสีสันสะดุดตา จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:32:10

ความคิดเห็นที่ 43 รถเข็นเด็กสีสวยๆ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:32:38

ความคิดเห็นที่ 44 ตัวนี้เป็นรถโมเดลนะครับ เห็นจัดแสดงอยู่สวยดีนะครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:33:05

ความคิดเห็นที่ 45 ตรงนี้เป็นโซนเครื่องชงกาแฟ ไม่แน่ใจว่าเป็นส่วนหนึ่งของพร็อพหรือเปล่า แต่ชอบตรงสี สวยดี จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:33:32

ความคิดเห็นที่ 46 บรรดาเครื่องชงกาแฟ แค่เครื่องชงยังสวยขนาดนี้ กาแฟจะอร่อยขนาดไหนน้ออออ... จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:34:00

ความคิดเห็นที่ 47 โคมไฟสีสวยๆ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:34:25

ความคิดเห็นที่ 48 อีกหนึ่งของโคมไฟ สีน้ำเงินสดๆ แต่พอถ่ายมาแล้วแถมแถบสีม่วงมาด้วย จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:34:51

ความคิดเห็นที่ 49 ไม่เคยเห็นแบบสีทองยังงี้ สวยแบบแปลกๆ ดี จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:35:17

ความคิดเห็นที่ 50 พื้นที่จัดแสดงไม่กว้างมากนัก เดินไปเดินมาไม่นานก็ทั่วแล้ว เมื่อขาก็พักพักเป็นช่วงๆ เพราะช่วงนี้ทั้งพิพิธภัณฑ์เป็นของผมแต่เพียงผู้เดียว ฮ่า ฮ่า.. จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:35:44

ความคิดเห็นที่ 51 แต่ตอนนี้อารมณ์สุนทรีย์ในการเดินชมได้ระเหิดไปหมดเรียบร้อยแล้ว อาการหิวแบบสุดๆ เข้ามาแทนที่ เดินยังไม่คุ้มเท่าไหร่ แต่เอาล่ะ หาข้าวกินดีกว่า จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:36:24

ความคิดเห็นที่ 52 ไปสิงคโปร์อย่างน้อยปีละครั้ง ไม่เคยได้แวะ Red Dot Museum เลยค่ะ หลงไปร้าน Charles & Keith ตลอดๆ จากคุณ : ColaGirl เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:36:30

ความคิดเห็นที่ 53 ออกจาก Red Dot เดินตามถนน Mexwell ไปเรื่อยๆ เดินไม่ไกลก็จะถึงศูนย์อาหารครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:37:01

ความคิดเห็นที่ 54 ColaGirl ...วันหลังต้องเปลี่ยนบรรยากาศบ้างนะครับ อิอิ.. ถึงศูนย์อาหาร Mexwell ซะที จากภายนอกดูไม่ใหญ่ ออกจะเก่าๆ โทรมๆ ด้วยซ้ำ แต่พอเข้าไปข้างไหน ตกตะลึงกับร้านอาหารละลานตา ยิ่งช่วงหน้ามืดตาลายแบบนี้ ผ่านร้านไหนก็อยากกินไปหมด แต่อีกแล้ววววว.... คนเยอะมว๊าก... ที่นั่งหาอยู่นานยังไม่สำเร็จ แต่หิวขนาดนี้ เป็นตายร้ายดียังไงก็ต้องกินแล้วละ ตัดสินใจตรงดิ่งซื้อข้าวมันไก่หน้าตาน่ากิน ตรงไปที่โต๊ะที่เห็นก้าวอี้ว่างอยู่ 1 ที่ ถามคนอยู่ก่อนขอนั่งนะ พอพยักหน้าหนึ่งที นั่งกินแบบไม่สนใจโลกไปเลยยยย.... หลังจากกินข้าวมันไก่เสร็จแล้ว อยากนั่งเหยียดขาต่อหน่อย แต่มองไปรอบข้างมีคนคอยจ้องต่อคิวที่นั่งต่ออยู่ เลยไปหาเดินเล่นแถวๆ นี้ดีกว่าครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:39:50

ความคิดเห็นที่ 55 ตึกนี้มีการตกแต่งไม่เหมือนใคร จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:40:24

ความคิดเห็นที่ 56 แถวนี้มีบรรดาอาหารเก่าที่สีสวยๆ หรือหน้าต่างงามๆ น่าสนใจอยู่เยอะ ยิ่งถ้าใครชอบแนวนี้เดินกันได้เป็นวันๆ แน่ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:40:59

ความคิดเห็นที่ 57 ตลอดแนวถนนเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟ และผับบาร์ ส่วนใหญ่จะยังไม่เปิดร้าน น่าจะคึกคักตอนกลางคืนมากกว่า จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:41:31

ความคิดเห็นที่ 58 อาคารเก่าเยอะดีจริงๆ ครับแถวนี้ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:42:02

ความคิดเห็นที่ 59 หน้าต่างสีสวยสุดๆ ถูกใจๆ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:42:36

ความคิดเห็นที่ 60 เดินวนกลับมาจนถึงวัดพระเขี้ยวแก้ว ซึ่งจริงๆ คืออยู่ตรงข้ามกับศูนย์อาหารนั่นแหละครับ จุดเด่นคืออาคารทรงจีนหลายชั้น ตั้งอยู่ท่ามกลางตึกอยู่ข้างหลัง จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:51:47

ความคิดเห็นที่ 61 วัดพระเขี้ยวแก้ว หรือ Buddha Tooth Relic Temple & Museum แห่งนี้เพิ่งสร้างขึ้นเมื่อปี 2005 ไม่กี่ปีมานี่เอง ใช้ทุนสร้างมหาศาล กว่า 60 ล้านเหรียญสิงคโปร์ สร้างตามรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์ถัง จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:52:19

ความคิดเห็นที่ 62 โดยนอกจากเป็นที่สักการบูชาของชาวพุทธในสิงคโปร์แล้ว ยังมีส่วนที่จัดแสดงพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมพระพุทธรูปองค์สำคัญ รวมทั้งเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาพุทธด้วย จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:52:52

ความคิดเห็นที่ 63 เข้ามาด้านใน เจอเทียนและดอกไม้ที่ใช้ในการไหว้พระเรียงรายอยู่ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:53:20

ความคิดเห็นที่ 64 หนึ่งในพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่โดยรอบผนังภายใน จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:54:11

ความคิดเห็นที่ 65 ภายในมีพุทธศาสนิกชนที่แวะเวียนมาสักการบูชาไม่ขาดสาย ดูจะเป็นจุดแวะที่ผู้คนคึกคักที่สุดที่ผมเจอตลอดวันนี้ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:54:48

ความคิดเห็นที่ 66 ภายในจะเน้นการตกแต่งด้วยสีแดงและทอง สัมผัสได้ถึงวัดจีนจริงๆ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:55:17

ความคิดเห็นที่ 67 การตกแต่งบนเพดาน จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:55:42

ความคิดเห็นที่ 68 ถ่ายรูปได้สวยและน่าสนใจมากครับ จากคุณ : ainboston เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:55:44

ความคิดเห็นที่ 69 ainboston ...ขอบคุณมากๆ ครับ ตอนแรกฟังตัวเลขค่าสร้างที่นี่ถึงกับตกใจ แต่พอเข้ามาจริงก็จะหายสงสัย เพราะแต่ละจุดดูเหมือนวิจิตรบรรจง ต้องใช้เวลา และต้นทุนสุงทีเดียว จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:56:46

ความคิดเห็นที่ 70 จริงๆ ยังขาดส่วนพิพิธภัณฑ์ที่ผมไม่ได้เข้าไปเยี่ยมชม เพราะเริ่มรู้สึกว่าการเดินเหินไม่ค่อยสะดวกแล้ว เพราะปวดขามากกกก... เลยเก็บแรงไว้หน่อย ตัดใจเดินจากวัดมาเพื่อไปชมที่อื่นต่อ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:57:15

ความคิดเห็นที่ 71 ตามตรอกซอกซอยในย่าน Chinatown เงียบดีจริงๆ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:57:44

ความคิดเห็นที่ 72 เดินมาหน่อยแวะร้านเซเว่น ได้น้ำมา และนั่งดื่มแบบพักขาไปในตัวแถวๆ หน้าร้านนี่แหละครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:58:14

ความคิดเห็นที่ 73 ตลอดแนวสองข้างทางมีร้านขายของหลากหลาย โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวข้องกับชาวจีน จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:58:47

ความคิดเห็นที่ 74 ระหว่างรอข้ามถนนเพื่อเข้าวัด Sri Mariamman เจอรถเหลืองแดง ท่ามกลางบรรยากาศตึกแดงเหลือง อิอิ... แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 55 16:59:57 จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:59:30

ความคิดเห็นที่ 75 velez ยังวิ่งตามมาทันใช่มั๊ยคะ ^^ ขอเดินเที่ยว China town ด้วยคน จากคุณ : VELEZ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:59:45

ความคิดเห็นที่ 76 VELEZ ...ยังทันครับ เที่ยวด้วยกันต่อนะครับ ถึงแล้วครับวัดฮินดูอีกแห่งประจำทริปนี้ของผม Sri  Mariamman Temple วัดเก่าแก่อีกแห่งของสิงคโปร์ ยืนมองบริเวณซุ้มประตูที่ได้รับการตกแต่งด้วยเทพสีสันสดใสตั้งสูงขึ้นสู่ฟ้า อ่านเจอข้อมูลว่าจริงๆ การสร้างรูปเทพที่ประดับอยู่นี้ ได้มีการจัดเรียงอย่างมีแบบแผน โดยไล่ลำดับขึ้นไปตามความสำคัญที่ถูกกำหนดไว้แล้วตามหลักศาสนา ส่วนเราไม่มีความรู้ทางศาสนาก็มองเพียงว่าสวยดีจัง แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 55 12:26:11 จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 17:02:00

ความคิดเห็นที่ 77 วัว สัตว์สำคัญประจำศาสนาฮินดู จึงกลายเป็นส่วนประกอบหลักตามโบสถ์วิหารของศาสนานี้ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 17:02:30

ความคิดเห็นที่ 78 วัดศรีมาริอัมมัน เป็นวัดที่สร้างเพื่อถวายพระศรีมาริอัมมัน หรือพระแม่อุมาเทวีที่เรารู้จักกันดีนั่นเอง ซึ่งถือเป็นเทวีแห่งอำนาจ สันติสุข และความงดงาม เมื่อแรกสร้างชาวท้องถิ่นสิงคโปร์มีความเชื่อว่าการสร้างนี้จะป้องกันโรคระบาดด้วย เป็นอันว่าวัดฮินดูทั้งสองแห่งที่ผมได้ชม เป็นการสร้างถวายเทพองค์เดียวกัน แต่เป็นคนละภาค  เพราะวัดที่แล้วคือ  Sri Veeramakaliamman temple เป็นการสร้างถวายพระแม่กาลี ที่เป็นภาคหนึ่งของพระแม่อุมาเทวีนั่นเอง จะต่างจาก  คือที่นี่แม้จะสามารถเข้าชมได้ฟรี แต่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการถ่ายรูป 3 เหรียญ โดยมีช่องคล้ายขายตั๋วหนังสมัยก่อนอยู่ด้านซ้ายมือหลังจากเดินลอดซุ้มประตูด้านหน้าแล้ว ข้อดีคือ ทำให้สบายใจในการเก็บภาพได้มากกว่านะครับ (มองโลกในแง่ดีสุดๆ 555) แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 55 12:27:22 จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 17:03:04

ความคิดเห็นที่ 79 ถ้าเทียบกับวัดพระแม่กาลีแถวลิตเติ้ลอินเดียกับที่นี่ ผมว่าที่นี่ดูใหม่กว่า สีสดกว่า แต่ดูขลังน้อยกว่า เพราะวันที่ไปที่นี่เงียบเหงามาก ต่างจากวัดพระแม่กาลีที่มีชาวฮินดูเข้าไปไหว้ และทำพิธีกันคึกคัก จะได้อารมณ์ความรู้สึกร่วมได้มากกว่าไปหลายขุมเลย จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 17:03:45

ความคิดเห็นที่ 80 นกจริงนะครับ อาศัยบริเวณหัวรูปปั้นเป็นที่เกาะ จนดูกลมกลืนกลายเป็นรูปปั้นไปซะงั้น จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 17:04:17

ความคิดเห็นที่ 81 สีสันแต่ละรูปปั้นนี่สีจัดจ้านจริงๆ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 17:04:59

ความคิดเห็นที่ 82 แทบทุกตารางนิ้วบนยอดเต็มไปด้วยรูปปั้น จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 17:05:35

ความคิดเห็นที่ 83 ด้านในมีรูปปั้นที่คลุมผ้าจริง ไม่ทราบความหมายหรือความสำคัญเหมือนกัน แต่ดูแปลกตาดี จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 17:06:08

ความคิดเห็นที่ 84 เป็นเพราะวันที่ไปเงียบๆ นอกจากนักท่องเที่ยว 3-4 คนแล้ว แทบไม่มีชาวฮินดูเข้ามาเลย ทำให้บรรยากาศดูแห้งๆ ไปจริงๆ เดินดูได้ไม่นานก็ครบแทบทุกมุมแล้ว จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 17:06:43

ความคิดเห็นที่ 85 กำลังใส่รองเท้าเพื่อไปสถานที่อื่นต่อ คุณป้าชาวฮินดูมาโดยสาหรี่สีสันสุดๆ ถอดรองเท้าวิ่งตามไปถ่ายรูปคุณป้าแทบไม่ทัน 555 ชอบตรงสี นี่ได้ใจจริงๆ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 17:07:10