จากนั้น เดินออกจากสถานีมาตายเอาดาบหน้า แต่ ….หลงกลจนได้ ตาลุงไม่มาเอง แต่ส่งเพื่อนมาแทน ผอมๆแห้งๆ มาเสนอขับ ริกชอว์เข้าเมืองคิดแค่ 50Rs (ตาลุงบอกไว้ที่ 60Rs ) และจะไปส่งโรงแรมแถวแกงก้า  หันมามองเห้นลุงแอบเดินตามมา ด้วยความอยากหนีไปให้พ้นๆ จากตาคนนี้ เลยตกลงไปกับคนนี้  แต่ระหว่างเดินไปที่รถแก ตาลุงคนก่อน ก็เข้ามาพูดอีก โชว์บัตรอีกว่า ฉันเป็นคนดี ไม่ใช่คนร้ายนะ สรุปว่า มันรู้จักกัน เนื่องจากเราไม่ไปกะแก แกเลยลองให้เพื่อนมาถามดู  โอ แล้วเจือกมานั่งขับรถคันเดียวกัน สองคน  แม่ช่วย…..แค่คนเดียวกรูก็คิดว่า จะทำไงดี ดันมาสองคนอีก มันจะพากรูไปหมกที่ไหนไหมเนี่ย น่ากลัวจริงๆ เมืองนี้  กรูเลยถามไปว่า เมิงจะมาขับกันทำไมสองคน มันก็แถไปว่า เพื่อความสะดวก (เวรของกรู) จะทำไงดีฟะเนี่ย สวดมนต์ดีกว่า เมตตัญจะ บวก อิติปิโส เผื่อมันจะคิดบวกกะเรา

พอเข้าเขตแกงก้า มันก็พาไปหาที่พัก จริงๆ ดิฉันไม่ต้องการค้างคืน แค่ต้องการหาที่ฝากกระเป๋า แต่เนื่องจากอากาศร้อนมากกว่าที่คาดไว้ ก็เลยคิดว่า หาที่พักและอาบน้ำก็ดี ดังนั้น จึงเข้าใจว่า ริกชอว์ พวกนี้ ต้องการค่า คอมมิชชั่น ซึ่ง เคยอ่านมา ถ้ามา Varannasi ควรจะจองที่พักไปเลย เพราะถ้ามาพร้อมพวกนี้ เจ้าของที่พัก ต้องมาบวกค่าคอมเอาจากเรา ซึ่งจะแพง และก็แพงจริงๆ ที่แรก สวยค่ะ เป็นห้องแอร์ แต่ไฟไม่มา และไม่ลดราคาให้ด้วย ทั้งที่ดิฉันบอกว่า เข้าตอนนี้ คือ เกือบเก้าโมงเช้า check out ตอนห้าโมงเย็นวันนี้ ไม่ลด มีแอร์ แต่ไม่มีไฟ จะเอาทำไมล่ะ คะ

และแล้วมันก็พาไปดูอีกที่ วิวสวยมองเห็นแม่น้ำคงคา แต่อยู่ชั้นห้า ไม่มีลิฟท์ แพงกว่า ที่แรกอีกเยอะ ไม่เอาค่ะ ลุงชักโมโหว่า ทำไมไม่เอาซักที่ เธอมี budget เท่าไหร่ อิอิ สมน้ำหน้าเมิง เหนื่อยและร้อนอ่ะดิ เลยบอกว่า ที่ไม่แพงอ่ะ มีมั้ย เพราะไม่ค้างคืน แต่จะกลับเย็นนี้เลย มันก็พาไปอีกที่ ดูในรูป  อันนี้ เราบอกเจ้าของตรงๆ ไปเลย ว่า เราเข้าใจว่า ผู้ชายสองคนข้างล่าง ต้องการค่า คอมมมิชชั่น ซึ่งเราพยายามจะหนี แต่หนีไม่พ้น ก็คงต้องให้เขาได้สมใจอ่ะ  แล้วยูจะคิดค่าห้องฉันเท่าไหร่ แค่ไว้กระเป๋า อาบน้ำ แล้วออกไปเที่ยว แล้วยูให้แผนที่ และบอกทางฉันหน่อยได้ไหม แบบว่า ไม่ได้เตรียมตัวมาอ่ะ  เจ้าของโรงแรมนี้ ก็บอกว่า ใช่ ไอต้องไปจ่ายค่าคอมฯ เขา  เขาเลยคิดเราที่350Rs ( ที่ แรก 1,000 ที่ที่สอง 1,500 Rs ) เราก็โอเค ราคาตามสภาพ  พอลงมาจ่ายตังค์ ค่ารถ50Rs อีตาลุงเสื้อเหลืองคนแรก ก็มารับเงินไปเฉย ก็เลยนึกสงสารว่า เจิอกมากันสองคน แล้วอีกคนจะได้เท่าไหร่วะ ค่าโรงแรมก็ถูก อย่างดีมันก็ได้คอมฯ แค่ 50Rs หรือ ไม่ก็ 100Rs  เลยให้ไอ้คนผอมไป 30Rs (เป็นคนดีอีกกรู เมื่อกี้ เกือบเอาตัวไม่รอด)

Ok, อาบน้ำอาบท่า ล้างขี้ ที่รองเท้าอีกรอบเสร็จ ทานอาหารเช้าที่โรงแรม ซึ่ง มีrestaurant on the roof วิวสวยค่ะ แต่ร้อนนรกมาก  กลับจากทริปนี้ คือ ฝ้าขึ้นอ่ะ จากนั้นก็ถามเจ้าของโรงแรมว่า จะเที่ยว one day trip จะทำยังไง เขาก็ให้อีกคน คาดว่า เป็นลูกชาย มาเสนอทริปคือ ดูวัด Hindu สามสี่วัด แล้วพาเดินไปที่แม่น้ำ 450Rs แต่ถ้าจะไป Sanarth ต้องเพิ่งอีกเป็น900Rs ซึ่งดิฉันก็เลือก choice แรกก็พอ…

เอ่อ เพิ่งไปทางเหนือเจอหนาวๆมา แล้วมาเจอ 42-48 C เข้า ลมจะใส่ค่ะ เดินไปที่ริมแม่น้ำคงคา กะจะไปหาภาพสวยๆ แต่เดินได้ไม่นาน ร้อนมากจริง ๆ ถ้าใครไปต้องค้างคืนค่ะ ถ่ายตอนเช้าๆ และเย็นๆ จะสวยกว่า และไม่แนะนำให้ผู้หญิงเดินทางคนเดียวที่เมืองนี้ แต่ถ้าข้อมูลแม่นก็โอเคค่ะ ตอนนี้เดินไปแม่น้ำ เห็นมี agency ตั๋ว เลยให้เขาแวะ เนื่องจาก search หา booking confirmation ตัวเองกับสายการบิน Spicy jet ไม่เจอ โทรหา agency ก็สายไม่ว่าง ใจตุ้มๆ ต่อมๆ มันจะ cancel ตั๋วกรู แล้วทำ refund ไหมเนี่ย ลืมขอใบเสร็จ ไว้เป็นหลักฐานการจ่ายเงินซะด้วย ฮือๆๆๆๆ แต่ในที่สุด สายการบินก็ confirm ที่หา booking ไม่เจอ คาดว่า ตอนจอง agency ใช้email address ตัวเขาเองจอง แต่ละสายการบินมีวิธีเช็คต่างกัน อันนี้ ต้องกรอก email addressด้วย ซึ่งพอกรอกของดิฉันเข้าไป มันเลยไม่โชว์

ระหว่างนั่งริกชอว์ที่ลูกชายเจ้าของโรงแรมจัดให้ ก็เป็นเรื่อง ดิฉันถามว่า ถ้าไปแอร์พอร์ตเท่าไหร่ ลืมจดอ่ะค่ะ แต่ราคาสูงเนื่องจาก airport อยู่นอกเมือง(ซึ่งก็จริง ไกลและเปลี่ยวด้วยอ่ะ) ประมาณ 450-500 Rs นี่แหล่ะ ดิฉันเลยถามว่า ต้องจองผ่านโรงแรมไหม เขาบอกว่า ไม่ต้อง ยูจ่ายทีฉันเลย (ฮั่นแน่) เราก็โอเค ไงก็ได้ งั้นตอนเย็นมารับตอนห้าโมงนะ อารามดีใจ แถมให้เราวัดนึง แต่ขอบอกว่า อากาศร้อนมาก รถก็ติดสุดๆ ทนอยู่ได้แค่สองชั่วโมง อยู่ในแต่ละวัดไม่ถึงสิบนาที เพราะไง เขาก็ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปอ่ะค่ะ ได้ถ่ายมาวัดเดียว จำชือไม่ได้ละ  ต้องกลับมาพักที่โรงแรม ( แถมเป็นห้องพัดลม  โอ ถ้าคุณเจอ 48C    มา แล้วเข้าห้องมาเจอพัดลม T_T…) อ้อ ลูกชายเจ้าของโรงแรมถามว่า แล้วเย็นนี้จะไปแอร์พอร์ตยังไง ดิฉันเลยบอกว่า เดี๋ยวคนขับจะมารับตอนห้าโมง (เป็นเรื่องละสิ) เขาถามว่า ราคาเท่าไหร่ เลยตอบไป พร้อมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ถามไปว่า มีอะไรหรือเปล่า เขาบอกว่า ไม่มี แล้วเดินไปโทรศัพท์ (ด่าไอ้คนขับแหงเลย)

เอาเป็นว่า งัดพารามาสองเม็ดด่วน เพราะไข้แดด กำลังกำเริบ ตื่นมาสี่โมงเย็น อาบน้ำอาบท่าอีกรอบ ทานอาหารเย็นไปเลย จะได้ไม่ต้องกังวลว่า จะมีที่ทานหรือเปล่า

หลังจากทานข้าว และถ่ายรูปอีกนิดหนึ่ง เดินกลับมาที่ห้อง นัดคนขับมารับอีกสิบนาทีห้าโมงเย็น แต่ลูกชายเจ้าของโรงแรมเดินมาบอกเราว่า คนที่นัดว่าจะมารับเธอน่ะ มาไม่ได้ละ (กรูนึกแล้ว) แต่ตอนนี้รถพร้อมแล้ว เป็นคนอื่นมารับแทน  เลยถามไปว่า ราคาเดิมหรือเปล่า เขาบอกว่า ใช่  ก็โอเค  ( ไม่เซ้าซี้มันมาก ไอ้หมอนั่น คงไม่ได้กลับมาหากินถิ่นนี้อีกแน่ ) จ่ายค่าที่พักและอาหารเสร็จ ก็เซย์กู้ดบาย ขอนามบัตรมา ประมาณ เผื่อใครจะมา อะไรเทือกนี้แหละ  นั่งรถไปแอร์พอร์ตไกลมากกกกกกกกกกก แถมมันไม่เข้าไปส่งข้างใน เพราะมันไม่อยากจ่ายค่า ธรรมเนียม เราก็เข้าใจ ดีมีกระเป๋าเป้ใบหนึ่ง กระเป๋าสะพายใบหนึ่ง