Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ภารกิจทวงคืนผืนป่า ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ ณ อุทยานแห่งชาติทับลาน [ย้ายจาก : บันทึกนักเดินทาง] vote ติดต่อทีมงาน

“ดำรงค์” นำกำลังป่าไม้ 5,000 นาย ลุยรื้อรีสอร์ทรุกทับลานกลางดึกรอบ 3

จากกรณีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ( ทส.) เปิดยุทธการทวงคืนผืนป่า โดยเริ่มในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน  อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมาและ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี  ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการบุกรุกก่อสร้างรีสอร์ท และบ้านพักตากอากาศมากที่สุดในประเทศไทย  ซึ่งกรมอุทยานฯ ได้ดำเนินการรื้อถอนบ้านพักตากอากาศ รีสอร์ทบุกรุกอุทยานฯ ทับลาน ที่ศาลมีคำสั่งให้รื้อถอนไปแล้ว 2 รอบ จำนวน 9 ราย จาก 49 รายที่ศาลยุติธรรมมีคำพิพากษาให้คดีสิ้นสุดแล้ว

ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ทางอุทยานฯ ทับลาน ได้เสนอต่อนายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานฯ ให้รื้อถอนรีสอร์ท บ้านพักตากอากาศในส่วนที่เหลือซึ่งคดีทางศาลยุติธรรมสิ้นสุดแล้ว เป็นรอบที่ 3 โดยมีรีสอร์ท บ้านพักตากอากาศ รายใหญ่จำนวน  9 รายที่จะถูกรื้อถอนตามมาตรา 22  ของ พ.ร.บ.อุทยานฯ พ.ศ.2504  ประกอบด้วย 1.นายณรงค์ วานิชกิตติ บ้านพักตากอากาศ ท้องที่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เนื้อที่ 3 งาน 13 ตารางวา  2.นายสุรเดช จิตภักดีบดินทร์ บ้านพักตากอากาศ ท้องที่ อ.นาดี พื้นที่ 5 ไร่ 3 งาน 43 ตารางวา  3.นายไพโรจน์ ศรีสมสุข  บ้านพักตากอากาศ ท้องที่ อ.นาดี  พื้นที่ 11 ไร่  1 งาน 89 ตารางวา 4.นายสัมพันธ์ ประเสริฐ บ้านพักชั่วคราว ท้องที่ อ.นาดี พื้นที่กว่า  1,165 ไร่  5.นายเกิด เพชรเลิศ  บ้านพักชั่วคราว ท้องที่ อ.นาดี พื้นที่ 229 ไร่ 3 งาน 71 ตารางวา  6.นายวิรัตน์ ศิริรักษ์ โครงสร้างบ้านพัก ท้องที่ อ.นาดี  พื้นที่ 333 ไร่  49 ตารางวา มีการปลูกยางพาราในพื้นที่  7.นายมงคล เงินเต็ม บ้านพักชั่วคราว ท้องที่ อ.นาดี  8.นายรนกร พิชัยโยธิน  บ้านพักตากอากาศ ท้องที่ อ.วังน้ำเขียว พื้นที่ 45 ไร่ และ 9.ห้างหุ้นส่วนจำกัด บ้านทะเลหมอกรีสอร์ท (นางวไลลักษณ์ วิชชาบุญศิริ) สถานที่พักตากอากาศ รีสอร์ท ท้องที่ อ.นาดี พื้นที่ 65 ไร่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าโดยการรื้อถอนรีสอร์ท บ้านพักตากอากาศที่บุกรุกพื้นที่อุทยานฯ ทับลานครั้งนี้  ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของกรมอุทยานฯ โดยมีรีสอร์ทขนาดใหญ่ที่สุดในพื้นที่วังน้ำเขียว - ทับลาน คือ ทะเลหมอกรีสอร์ท มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ที่จะต้องถูกรื้อถอนออกไปด้วย รวมทั้งพื้นที่ของเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอิทธิพลรายหนึ่ง ที่สามารถเรียกระดมมวลชนได้ตลอดเวลา ดังนั้นกรมอุทยานฯ จึงได้วางแผนการดำเนินการอย่างรัดกุม และรอบคอบ  โดยมีคณะทำงานระดับผู้บริหารที่ร่วมวางแผนดำเนินการเพียงไม่กี่คนที่ทราบกำหนดวัน เวลา ที่แน่ชัดในการเข้ารื้อถอน บ้านพัก และรีสอร์ททั้ง 9 แห่งนี้  เพราะเกรงว่าหากข่าวการรื้อถอนรั่วไหลออกไป กลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จะระดมมวลชนออกมาต่อต้านและขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เหมือนการเข้าดำเนินการรื้อถอน 2 ครั้งที่ผ่านมา

แหล่งข่าวจาก ทส.เปิดเผยว่า สำหรับปฏิบัติการในครั้งนี้ กรมอุทยานฯ ได้เรียกระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ทั้ง 16 แห่ง ๆ ละ 300 คนขึ้นไป  รวมกำลังเจ้าหน้าที่เกือบ 5,000 นาย โดยอ้างหนังสือคำสั่งเรื่องการให้ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ และบุคคลภายนอก ไปปฏิบัติงานตามแผนสนธิกำลังปราบปรามการลักลอบทำไม้กฤษณาในพื้นที่มรดกโลกป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ โดยให้แต่ละพื้นที่เริ่มทยอยส่งคนเข้าพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค. เป็นต้นมา จากนั้นกระจายกำลังเข้าไปอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงโดยรอบอุทยานฯ ทับลาน โดยเฉพาะอยู่ในอุทยานฯ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา และปางสีดา จ.สระแก้ว เพื่อหลบเลี่ยงไม่ให้เป็นที่สังเกตของกลุ่มมวลชนที่จะออกมาต่อต้านการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่  นอกจากนั้นยังได้แบ่งกำลังหลักในการรื้อถอนออกเป็น 9 ชุด โดยในช่วงสายของวันที่ 27 ก.ค. ได้มีการประชุมวางแผนเตรียมการรื้อถอนของหัวหน้าชุดทั้งหมดที่อุทยานฯ เขาใหญ่ ก่อนจะเรียกระดมพลทั้งหมดในช่วงค่ำของวันเดียวกันนี้

ส่วนบรรยากาศที่อุทยานฯ ทับลาน ได้มีเจ้าหน้าที่หน่วยเคลื่อนที่เร็ว (ชุดเสือไฟ) ของกรมอุทยานฯ ที่ทำหน้าที่อารักขาผู้บริหารระดับสูงที่จะร่วมในภารกิจรื้อถอนบ้านพักและรีสอร์ทครั้งนี้ เดินทางเข้ามาตรวจตราความเรียบร้อยในพื้นที่ และยังได้มีการประสานกับ รพ.นาดีให้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดปฐมพยาบาลเข้ามาเตรียมพร้อมหากมีเหตุการณ์รุนแรงขึ้นด้วย นอกจากนั้นทางอุทยานฯ ทับลานยังได้มีการจัดทำลานบินเฮลิคอปเตอร์ และนำเฮลิคอปเตอร์จากสำนักการบินอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติฯ มาจอดเตรียมพร้อมไว้บริเวณด้านหลังที่ทำการอุทยานฯ 2 ลำ เพื่อเตรียมความพร้อมหากอุทยานฯ ทุกกลุ่มผู้ชุมนุมปิดล้อม  รวมทั้งเตรียมระดมเครื่องจักรหนัก เข้าพื้นที่เพื่อเตรียมการรื้อถอนแล้วด้วย

ต่อมาเมื่อเวลา 23.30 น.นายดำรงค์ พร้อมคณะ ประกอบด้วยนายเริงชัย ประยูรเวช นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว รองอธิบดีกรมอุทยานฯ พร้อมผู้บริหารกรมอุทยานฯ ได้เดินทางมาถึงอุทยานฯ ทับลาน   และได้เข้ารับฟังรายงานสรุปสถานการณ์รวมทั้งแผนปฏิบัติการโดยมี ร.ต.อ.มนัส บุญอินทร์ หัวหน้าชุด นปภ.ปราจีนบุรี เข้าร่วมประชุม ทั้งนายอรรถพล เจริญชันษา ได้รายงานให้ที่ประชุมทราบว่าก่อนหน้าที่นายดำรงจะเดินทางมาถึง ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น.ได้เกิดเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นเผายางรถยนต์บริเวณทางเข้าทะเลหมอกรีสอร์ท ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการรื้อถอนครั้งนี้ และมีการปาระเบิดที่หน้าศูนย์วิศวกรรมที่ 5  ซึ่งเป็นที่รวบรวมเครื่องจักรกลหนัก เช่น รถแบล็กโฮ รถตีนตะขาบ ที่จะใช้ในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่บุกรุกพื้นที่ นอกจากนี้ ซึ่งใกล้เคียงกับพื้นที่ของนายวิรัตน์ กำนัน ต.ทุ่งโพธิ์ อ.นาดี เจ้าของหนึ่งในพื้นที่ที่จะถูกรื้อถอน  ทั้งนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปประจำจุดที่จะรื้อถอนทั้งหมด 9 จุด รวม 3,300 คน  โดยที่ทะเลหมอกรีสอร์ท มีจำนวน 1,500 คน จุดที่ 5 และ6 ซึ่งเป็นรายใหญ่ จุดละ 600  คน ส่วนที่เหลือวางกำลังไว้จุดละ 200 คน

นายดำรงค์ กล่าวว่า การมาดำเนินการรื้อถอนรีสอร์ท บ้านพักที่บุกรุกพื้นที่อุทยานฯ ทับลานครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับเรื่องของมรดกโลก ตนได้ไปประชุมที่ประเทศรัสเซีย ซึ่งที่ประชุมเป็นห่วงในเรื่องมรดกดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ที่มีรีสอร์ท บ้านพักตากอากาศเข้ามาอยู่ในพื้นที่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอุทยานฯ ทับลาน กรมอุทยานฯ ต้องจัดการเรื่องเหล่านี้ให้เสร็จเรียบร้อยก่อนวันที่ 1 ก.พ. 2556 และรายงานให้คณะกรรมการมรดกโลกทราบ ไม่เช่นนั้นก็จะถูกจัดเข้าสู่บัญชีมรดกโลกที่อยู่ในภาวะคุกคามอันตราย และถูกถอดในที่สุด ซึ่งจะเป็นเรื่องเสียหายกับประเทศชาติ  ขณะนี้ในพื้นที่ทับลานมีการดำเนินการจับกุมเพิ่มเติมทั้งหมด 418 คดี มีพื้นที่ 8,000 ไร่ และมีพื้นที่อีก 3.7 หมื่นไร่ ที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิ์ตามมติ ครม. 30 มิ.ย. 2541 โดยอุทยานฯ มีพื้นที่ที่ถูกบุกรุกทั้งหมดประมาณ 5 หมื่นไร่  มีรีสอร์ทขนาดใหญ่เพียงไม่กี่แห่ง  ถูกศาลตัดสินไปจำนวน 49 คดี รื้อถอนไปแล้ว 8 คดี  อยู่ระหว่างการรื้อถอน 19 คดี  ส่วนที่เหลืออยู่ในขั้นตอนของศาลปกครอง ซึ่งในวันนี้จะรื้อถอน 9 แห่ง ใน 19 คดี ส่วนที่เหลือจะค่อยๆ ทยอยดำเนินการต่อไป

จากนั้นเมื่อเวลา 01.00 น . ได้มีการกระจายกำลังไปยังพื้นที่ทั้ง 9 จุด โดยนายดำรงค์ได้เดินทางไปยังทะเลหมอกรีสอร์ท  เมื่อไปถึงได้มีกลุ่มชาวบ้านจำนวนหนึ่งพยายามจะนำรถกลอ์ฟที่ใช้ในรีสอร์ท มาขวางทางเข้า เพื่อกันไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่ แต่เจ้าหน้าที่ได้เคลียร์เส้นทาง พร้อมกับนำรถแบ็กโฮจำนวน 3 คัน  รถตีนตะขาบ โดยมีรถปั่นไฟของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) คอยให้แสงสว่างอำนวยความสะดวกด้วย  ทั้งนี้รถแบ็กโฮได้เริ่มรื้ออาคารสำนักงานต้อนรับนักท่องเที่ยวของรีสอร์ทเป็นหลังแรก ก่อนจะเคลื่อนไปยังอาคารสัมมนาขนาดใหญ่ และตามด้วยห้องพักนักท่องเที่ยวทั้งนี้ระหว่างดำเนินการรื้อถอน ได้มีนางวไลลักษณ์ วิชชาบุญศิริ  พร้อมสามี เข้ามายืนดูเหตุการณ์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด และได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกเสียดายเพราะสร้างมาตั้งแต่ปี 2541 โดยซื้อต่อมาจากชาวบ้าน และพัฒนามาเรื่อยๆ จนประเมินมูลค่าพร้อมค่าเสียโอกาสในการให้บริการท่องเที่ยวเป็นเงิน 307 ล้านบาท ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยนึกว่าตนเองจะถูกรังแกเช่นนี้ เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่สมัยนายปลอดประสพ สุรัสวดี เป็นอธิบดีกรมป่าไม้เป็นต้นมา รวมทั้งนายดำรงค์ เมื่อครั้งเป็นรองอธิบดีกรมป่าไม้ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานฯ เมื่อปี 2548 ก็ได้ให้ความหวังว่าจะกันพื้นที่ให้เป็นโซนบริการและให้เช่าพื้นที่ดำเนินการ 30 ปี  รวมทั้งเมื่อวันที่ 23 ก.ค. ได้ไปยื่นเรื่องต่อศาลปกครองให้คุ้มครอง โดยศาลนัดไต่สวนในวันที่ 14 ส.ค. ที่จะถึงนี้ แต่กรมอุทยานฯ กลับมาดำเนินการโดยไม่รอกระบวนการทางศาลปกครองก่อน ทั้งนี้ตนจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งจากกรมอุทยานฯ  รวมค่าเสียหายและค่าเสียโอกาสทั้งหมดประมาณ 500 ล้านบาท และฟ้องร้องผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่มีการรื้อถอนดำเนินอยู่นั้น ได้มีนักท่องเที่ยวจำนวน 4 คน ขับรถฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่ออกไปจากบริเวณรีสอร์ทอย่างรวดเร็ว  โดยนางวไลลักษณ์ระบุว่านักท่องเที่ยวทั้ง 4 คนมาจาก จ.กาญจนบุรี ที่มาเที่ยวพักผ่อนในรีสอร์ท ซึ่งเป็นครอบครัวเดียวที่ยังพักอยู่ในวันนี้ และตนไม่ทราบว่าจะมีการรื้อถอนในวันนี้จึงไม่ได้แจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบล่วงหน้า อย่างไรก็ตามในวันที่ 28 ก.ค. นี้ยังมีนักท่องเที่ยวที่จะมาสัมมนาที่ทะเลหมอกรีสอร์ทอีกจำนวน 100 คน ตนยังไม่ได้แจ้งให้ทราบเช่นกัน แต่คิดว่าเมื่อข่าวออกไปก็คงรู้กันหมดแล้ว และตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร

ด้านนายดำรงค์ ให้สัมภาษณ์ว่า การดำเนินการรื้อถอนทะเลหมอกรีสอร์ท เป็นการดำเนินการตามคำสั่งศาลที่คดีถึงที่สุดแล้ว และที่ผ่านมาก็เปิดโอกาสให้เจ้าของรีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศสู้คดีจนถึงที่สุด ส่วนที่เจ้าของทะเลหมอกรีสอร์ทจะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากกรมอุทยานฯ 500 ล้านบาทนั้น เรื่องนี้คดีสิ้นสุดแล้ว แม้ว่าจะเป็นแค่ศาลชั้นต้น แต่จำเลยไม่อุทธรณ์และไม่ฟ้องศาลปกครองตามเวลาที่กำหนด และถึงแม้ฟ้องแล้วแต่ศาลก็ยังไม่ได้มีคำสั่งใดๆ ออกมา ส่วนที่จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 500 ล้านนั้น ชาติหน้าถึงมาใช้คืน.

ที่มา:http://www.dailynews.co.th/politics/144775

ภาพโดย : นักเลงตะลอน

แก้ไขเมื่อ 30 ก.ค. 55 12:37:22

 
 

จากคุณ : นักเลงตะลอน
เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 12:20:33




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com