ความคิดเห็นที่ 1 ตอนแรกเราเข้าใจว่า การที่จะเข้า The White House นั้นต้องรีบมาจองคิวแต่เช้าค่ะ แต่คิวเราแน่นแล้วล่ะ เราเลยเกาะรั้วดูแทน ซึ่งมีคนคิดแบบเราเยอะทีเดียว 55555 เพิ่มเติม : มาย้อนดูกระทู้ของคุณ ฐ. ฐาน แล้วรู้สึกพลาดยังไงไม่รู้ 5555 แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 55 11:15:39 จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 20:43:35

ความคิดเห็นที่ 2 ดูจากแผนที่แล้วก็พอจะเดาได้ว่า ถ้าเราหันหน้าเข้า The White House ข้างหลังของเราจะเป็นอะไร?? มันคือ Washington Monument ค่ะ ใกล้ขนาดที่ว่า เดินนิดเดียวก็ถึงแล้ว แต่วันนี้เราขอผ่านไปก่อน เพราะเป้าหมายของเราคือ "National Museum of American History" ชอบเข้า museum ของที่นี่เพราะว่ามันฟรีนี่แหล่ะค่ะ สร้างเสริมความรู้ได้อีกต่างหาก ช่วงเวลาที่เราไป เป็น Summer ของเด็กที่นี่ค่ะ พ่อแม่จะส่งลูกๆ ไปเข้า Summer Camp และเหล่า camp พวกนี้ก็จะพาเด็กๆ มาทำกิจกรรมต่างๆ รวมไปถึงการพาเข้า Museum เหล่านี้ด้วยค่ะ ยิ่ง museum ไหนดังๆ นะ โอ้โห....มืดฟ้ามัวดินกันเลยทีเดียว ถึงแล้วค่ะ National Museum of American History แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 55 20:51:58 จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 20:51:07

ความคิดเห็นที่ 3 ภายใน NMAH จะแบ่งเป็นห้องๆ เอาไว้ อย่างห้องแรกจะเป็นห้องเล็กๆ เกี่ยวกับเงินตราในยุคแรกๆ ที่เค้าเก็บรวบรวมเอาไว้ได้ บางอย่างก็ดูไม่น่าจะเป็นเงินได้ แต่ก็เอามาใช้แทนเงินตรา อย่างเช่น เปลือกหอยในรูปค่ะ เขียนเอาอย่างนี้เลยอ่ะ - -" จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 20:56:55

ความคิดเห็นที่ 4 ห้องถัดมา เป็นห้องเกี่ยวกับสิ่งของ เครื่องใช้ไฟฟ้า และกว่าจะมาเป็นไฟฟ้าค่ะ สำหรับที่นี่ ยกเรื่อง Niagara Falls ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดไฟฟ้าแหล่งใหญ่ในแถบนี้ค่ะ ร้อยกว่าปีแล้วสินะ จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 21:00:02

ความคิดเห็นที่ 5 ห้อง America on the Move เกี่ยวกับการคมนาคมและการขนส่งมวลชนของอเมริกาค่ะ เริ่มตั้งแต่ยุคการเดินเรือสมัยแรกๆ และรวมไปถึงเหตุการณ์สำคัญอย่าง เรือบรรทุกทาสจากแอฟริกาด้วย นี่เป็นรูปจำลองสภาพการบรรทุกทาสกลับเข้าประเทศค่ะ โดยกัปตันเรือ เลือกที่จะใช้วิธีบรรทุกทาสให้เยอะเท่าที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะว่าระหว่างการเดินเรือนั้น ทาสต้องอยู่ปะปนกับสัตว์ สิ่งของค่ะ เรื่องสุขอนามัยไม่ต้องพูดถึง ตามมีตามเกิด ทำให้เกิดโรคติดต่อขึ้นภายในเรือ แน่นอนว่า ไม่มียา ไม่มีใครให้ความรู้ เป็นโรคก็ตาย ไม่ก็ถูกฆ่าเพื่อป้องกันการติดเชื้อ คนที่ตายก็ถูกโยนลงทะเลค่ะ บนเรือเหลือรอดเท่าไหร่ ก็ถูกจับไปเป็นทาสให้คนผิวขาวไป ซึ่งชาวแอฟริกันที่ถูกขาย/ส่งตัวไปเป็นทาส คือคนที่มีสุขภาพแข็งแรงค่ะ ทำให้แอฟริกาขาดแคลนคนหนุ่มในการพัฒนาประเทศ ซึ่งส่งผลมาจนถึงบัดนี้ แม้จะผ่านมากว่า 200 ปีแล้วก็ตาม จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 21:09:09

ความคิดเห็นที่ 6 วาร์ปมาที่ยุคใหม่ๆ ค่ะ เริ่มมีรถไฟ รถราง รถม้าและอื่นๆ กันบ้าง บรรยากาศยุคนี้จะเริ่มมีวิวัฒนาการของระบบคมนาคมกันแล้ว เริ่มที่ รถไฟ!! จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 21:13:24

ความคิดเห็นที่ 7 รถราง!! มาถึงตรงนี้แล้วนึกถึงพิพิธภัณฑ์บ้านเราอย่าง นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ เป็นแนวเดียวกันค่ะ แนว modern museum สีสันสดใส มาพร้อมสื่อ อย่างเสียงประกอบ (เสียงคนพูดคุย เสียงสั่นกระดิ่ง เสียงออกรถ ฯลฯ) ตื่นตาตื่นใจอีกแล้ว... จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 21:16:05

ความคิดเห็นที่ 8 รถบัส!! อันนี้เราชอบค่ะ เป็นรถบัสให้เราขึ้นไปนั่ง เมื่อมองไปหน้ารถ จะเป็นการฉายภาพจำลองบรรยากาศภายในรถบัสสมัยก่อนค่ะ หน้าต่างรถก็มีการเคลื่อนไหวตามภาพที่ฉายอยู่ด้วย เรียกได้ว่า เหมือนเราเข้าไปนั่งรถเมล์สมัยก่อนไม่มีผิดค่ะ (ขออภัย เผอิญเปิดแฟลชถ่ายรูปค่ะ แฟลชเลยสะท้อนไม่เห็นภาพฉายบนรถเลย) จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 21:20:33

ความคิดเห็นที่ 9 แหม มันกระโดดไป กระโดดมาสักหน่อยนะคะ - -" เพราะเราเดินหลงค่ะ เค้าแบ่งห้องแล้วก็จริง แต่ทางเดินมันงงมากกกก ยุคสมัยของรถยนต์ค่ะ รถสวยมาก ด้านหลังทำเป็นห้องกระจกค่ะ จำลองโชว์รูมขายรถค่ะ เค้าตกลงซื้อขายรถกันแบบนี้นะ ไรงี้ XD จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 21:24:26

ความคิดเห็นที่ 10 รถคันนี้ คือรถแบบเดียวกับที่คุณหมอวัตสันขับในตอนต้นเรื่องของ Sherlock Holmes ภาค 2 รึเปล่าคะ จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 21:29:43

ความคิดเห็นที่ 11 ถัดมาเป็นห้องของการเลิกทาสค่ะ โดยฮีโร่ของงานนี้คือ Thomas Jefferson ประธานาธิบดีคนที่ 3 ของสหรัฐฯ ด้านหลังเป็นรายชื่อทาสที่ Jefferson ปลดปล่อยจากการเป็นทาสค่ะ โดยแกจะมีกระดาษใบนึงจดรายละเอียดของทาสเอาไว้ เช่น ชื่อ อายุ เมืองที่ทำงานอยู่ รวมแล้ว 600 กว่าคน โดยเริ่มที่ Virginia ค่ะ คนผิวสีที่นี่ยกย่องแกพอสมควรเลย แบบว่า หอบลูกจูงหลานมาดูตรงนี้เยอะเป็นพิเศษ จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 21:37:27

ความคิดเห็นที่ 12 ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ จากคุณ : Bpearl เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 21:39:26

ความคิดเห็นที่ 13 กระดาษใบนั้น มีการเก็บรักษาไว้อย่างดีค่ะ เมื่อพูดถึงการเลิกทาส จะมีกระดาษของ Jefferson เป็นตัวอย่างนึงเลยทีเดียว (ไม่ว่าไปที่ไหนก็เจอ) ซึ่งก็คือใบนี้ ที่มาตั้งไว้หน้าห้องนั่นเอง จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 21:40:02

ความคิดเห็นที่ 14 ถัดมา เป็นห้องที่เกี่ยวกับวิวัฒนาการทั่วๆ ไปค่ะ มีการพูดถึงชาวจีนที่เคยถูกว่าจ้างให้ไปสร้างสะพานที่แคลิฟอร์เนียด้วย ซึ่งในภาพคือเสื้อของแกค่ะ เล่าว่าอาแปะรายนี้ ชื่อ Lee Lok แกเคยเป็นคนงานก่อสร้างจากเมืองจีน ตอนนั้นทำงานที่แคลิฟอร์เนียแต่ด้วยความที่คนจีนเป็นคนขยัน ค่าจ้างถูก นายจ้างส่วนใหญ่จะชอบ กลายเป็นว่าไปแย่งงานคนท้องถิ่นทำ คนแคลิฟอร์เนียไม่พอใจเลยไล่ี่ที่คนจีนทั้งหมดออกไป จากแคลิฟอร์เนีย ฝั่งตะวันตก เลยย้ายมาฝั่งตะวันออกมาอยู่นิวยอร์คแทน (China town)  โดยอาแปะคนนี้ก็เปิดร้านขายของโชห่วยใน China Town ตัวแกนั้นไม่ได้ US citizen แต่ลูกๆ ได้กันทุกคน จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 21:45:51

ความคิดเห็นที่ 15 สุดท้ายจากที่นี่ คอมพิวเตอร์จาก Apple!!! ยุค 1980 แหน่ะ ใครทันเห็นบ้างคะ XD จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 21:48:49

ความคิดเห็นที่ 16 ออกมาจาก NMAH แล้ว เราก็เดินดุ่มๆ ออกมาเรื่อยๆ ด้วยความคิดที่ว่า The Mall (รูปแรกขีดเส้นใต้ไว้) มันต้องเป็นห้างร้านอะไรสักอย่างแน่ๆ ว่าแล้วเราก็เดินๆๆๆๆๆ จนมาถึงที่นี่.... ลานโล่ง...ที่เค้าเรียกว่า The Mall... ถามคนแถวนั้นเค้าบอกว่ามันเป็นจุดกางเต้ันท์ขายของ เหมือนเปิดท้ายฯ บ้านเรา แป่ว....... ปราสาทตรงนั้นคือ Smithsonian Castle ค่ะ จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 21:58:49

ความคิดเห็นที่ 17 เย็นวันนั้น เราเดินหาร้านอาหารค่ะ ซึ่งมันหายากพอสมควรนะ ห้างร้านอะไรก็ไม่มีเลย เหมือนเป็นตัวเมืองที่อนุรักษ์ไว้ ไม่ให้ทุบทำลาย แล้วก็มีไว้ทำงานอย่างเดียวอ่ะค่ะ วันที่เราไปเป็นวันอาทิตย์ ตัวเมืองก็เลยเงียบมากกกกกกก ร้านอาหารก็เปิดแค่ไม่กี่ร้าน ที่ฮาคือ Mc Donald's ปิดตอน 1 ทุ่ม รีบปิดไปไหนเนี่ยยยยยยยยยย ท้ายที่สุด เราก็เดินเข้าร้านอาหารไทยค่ะ ซึ่งมีคนไทยเป็นเจ้าของและมีพนักงานส่วนใหญ่เป็นคนไทย ร้าน Asia Nine พี่คนไทยที่มารับออเดอร์น่ารักมากค่ะ แนะนำสถานที่ช้อปปิ้งให้เราด้วย เธอแนะนำให้เรานั่ง subway ไปลง Crystal City ซึ่งจะมี mall เล็กๆ ให้เราช้อปปิ้งด้วยจ้า (แต่เดี๋ยวเราจะมาเล่าตรงนี้อีกทีนะ มีต่อ) ระหว่างที่เราทานอาหารกันอยู่นั้น พี่เจี๊ยบเจอเส้นผมไม่ทราบที่มาอยู่ในจานข้าวเธอเอง เราเลยตัดสินใจบอกพี่พนักงานเสิร์ฟคนไทย เธอตัดสินใจยกอาหารจานนั้นไปเลยค่ะ พร้อมจานข้าวของพี่เจี๊ยบด้วย หลังจากนั้นเธอกลับมาบอกว่า ทางร้านจะยกเลิกค่าอาหารจานนั้น (ซึ่งก็คือข้าวราดกะเพราหมู) และจะมอบของหวาน 2 จาน เป็น complimentary ให้ด้วยค่ะ ถ่ายมาเป็นที่ระลึกที่เราได้ทานข้าวเหนียวมะม่วงและทิรามิสุกันที่ DC จ้า จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 22:09:05

ความคิดเห็นที่ 18 ตามมาชมต่อจากตอนแรกครับ จากคุณ : Nobody loves me. เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 22:19:42

ความคิดเห็นที่ 19 คืนนั้นเราต้องนั่งแท็กซี่กลับโรงแรมค่ะ เพราะอากาศหนาวแบบกะทันหันมากๆ ตอนกลางวันอุณหภูมิประมาณ 33 องศา พอตกเย็นเหลือแค่ 23-24 องศาเท่านั้น เล่นเอาเราที่ใส่แค่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น หนาวจนเกือบไข้ขึ้นเลยค่ะ (แต่ก็ไม่ขึ้นนะคะ) กลับถึงโรงแรม สิ่งแรกที่ทำคือ กระโดดขึ้นเตียงแล้วห่มผ้าทันที กลัวเป็นหวัดค่ะ วันที่ 19 มิถุนายน ฝนตก!!! ที่หนาวเพราะฝนจะตกนี่เอง T T เช้านี้เราไปกันต่อที่ US Capitol ค่ะ โดยการเดินไปขึ้น subway สถานี Foggy-bottom/GWU ไปลงที่ Capitol South Station เพื่อเดินไปที่ US Capitol ค่ะ **บอกก่อนสำหรับคนที่จะขึ้น metro/subway ของที่ DC** metro ที่นี่ขึ้นง่ายกว่าใน NY มากกว่าหลายเท่าค่ะ ขอให้ดูสีของสถานีที่เราจะไปเท่านั้น ดูแผนที่จากที่นี่นะคะ http://mapa-metro.com/mapas/Washington/mapa-metro-washington.png วงกลมใหญ่คือ สถานีที่สามารถเปลี่ยนเส้นทางของ metro ได้ค่ะ ส่วนตู้ขาย metro card ที่นี่จะพิเศษกว่าที่อื่นมากๆๆๆๆ ตรงที่ว่า แกจะขายเป็น 3 เรทค่ะ Normal = เวลาปกติ reduced = เวลาที่คนน้อยๆ จะใช้เรตนี้ peak time = เวลาพีคสุด ก็คือช่วงเช้ากับเย็น ทั้งหมดนี้ มีเวลากำกับบอกไว้ ถ้าเราจ่ายขาด เราจะออกจากสถานีไม่ได้ ต้องไปหยอดเงินเพิ่มที่ตู้ด้านหลัง เสียบบัตรแล้วเครื่องจะบอกเลยว่าเงินขาดเท่าไหร่ ถ้าจ่ายเกิน เงินเหลือในบัตร ไม่มีคืนเงินนะฮะ จ่ายเพิ่มได้อย่างเดียว ต้องคำนวณกันดีๆ ค่ะ ตอนนี้เราก็มาถึงแล้ว!! US Capitol.. ในวันที่ฟ้าหม่นๆ ฝนตกปรอยๆ จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 22:32:24

ความคิดเห็นที่ 20 สำหรับใครที่หมายตาที่นี่ไว้เป็นหนึ่งในที่เที่ยวของ Washington DC สามารถจองตั๋วได้ในเว็บไซต์ค่ะ http://tours.visitthecapitol.gov/ หรือ... Walk-in เข้าไปได้เลย (พนักงานโรงแรมบอกมา) เข้าชมฟรี!!! เห็นลูกกรงในภาพด้านบนมั้ยคะ จริงๆ เราต้องลงไปด้านล่างค่ะ ตรง Visitor Center มีการสแกนที่เข้มประหนึ่งสนามบินเลยค่ะ สแกนกระเป๋า ทิ้งน้ำ ทิ้งของกินทุกอย่างให้หมดก่อนเข้าไปข้างใน ส่วนร่มเปียกๆ ให้ใส่ถุงพลาสติกก่อนเข้าไปด้วยนะคะ (มีแจกค่ะ) เข้ามาแล้วจะเจอบรรยากาศแบบนี้!!! ตรงเค้าเตอร์ด้านใน จะเป็นเค้าเตอร์สำหรับคนที่จองเวลาเอาไว้ค่ะ แต่สำหรับเราที่ walk-in เข้าไป จะอยู่ด้านล่างซ้ายมือ (คนน้อยกว่าเห็นๆ) จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 22:41:01

ความคิดเห็นที่ 21 เราโชคดีตรงที่ว่า เราไปค่อนข้างเร็วค่ะ เพราะหลังจากที่เราต่อคิวรับบัตรแล้ว ก็มีนักเรียน นักศึกษากลุ่มใหญ่มากกกกกกก เดินเข้ามา จนห้องนั้นแน่นไปเลยค่ะ อันนี้คือบัตรที่เราต้องเอาติดไว้กับอกเสื้อนะจ้า ส่วนที่ติดกับอกเสื้อ จะมีเวลาระบุไว้ค่ะ ว่าเราเป็นรอบนี้นะ เพราะหลังจากนี้เราจะได้เข้าไปชมภาพยนตร์รักชาติของสหรัฐฯ ค่ะ แน่นอนว่าห้ามถ่ายรูปนะจ้า คุณลุงที่ทำงานเป็น MC ในที่นี้ แกมีมุกสนุกๆ มาหยอดนักท่องเที่ยวอย่างเราตลอดเวลา เหมือนเป็นการผ่อนคลายอารมณ์ ให้เรารู้สึกว่า เรามาพักผ่อน มาผ่อนคลายจริงๆ นะ พนักงานที่นี่ entertain เก่งมาก ยิ้มแย้มแจ่มใสกันทุกคน อยากให้บ้านเรามีพนักงานเจ๋งๆ แบบนี้เยอะๆ ค่ะ Out of Many, One. << ใครรู้จักวลีนี้บ้าง :) แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 55 22:49:21 จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 22:46:56

ความคิดเห็นที่ 22 เมื่อออกจากโรงภาพยนตร์แล้ว เค้าจะแบ่งกลุ่มเราเป็นกลุ่มย่อยๆ ประมาณ 15-20 คน ต่อไกด์ 1 คนค่ะ อุปกรณ์ก็มี audio guide แบบพิเศษ ซึ่งก็คือสามารถฟังเสียงของไกด์ของเราได้คนเดียวค่ะ ใน US Capitol มีคนเข้าชมหลายร้อยคน การตะโกนใส่กันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ วิธีแก้ก็คือ ไกด์ 1 คน จะมีชุดส่งสัญญาณ และเครื่องรับสัญญาณ+หูฟัง ในจำนวนที่กำหนด เป็นการ sync สัญญาณกันค่ะ โดยไกด์จะเป็นคนแจกชุด headset นี้เอง เวลาเดิน ก็จะเดินไปเป็นกลุ่มค่ะ ระหว่างนั้นไกด์ก็จะอธิบายไปว่าตรงไหน มีอะไรบ้าง บลาๆๆๆ สังเกตว่าจะมีหูฟัง แล้วก็เชือกห้อยคอนะคะ เป็นตัวรับสัญญาณ จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 22:56:56

ความคิดเห็นที่ 23 ห้องแรก ที่พาชมส่วนใหญ่จะเป็นห้องที่มีรูปปั้นของบุคคลสำคัญค่ะ มีอยู่หลายสิบตัว แต่ในบรรดานั้น มีรูปปั้นที่เป็นของผู้หญิงแค่ 9 คนเท่านั้น เจ้คนนี้คือไกด์ของเราค่ะ สังเกตว่าเธอจะพูดไปยิ้มไปตลอดเวลา เสียงที่พูดออกมาก็ทำให้เราฟังเพลินไปด้วยค่ะ (แต่เราฟังไม่ทันเพราะเสียงข้างนอกดังกว่า) จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 23:02:06

ความคิดเห็นที่ 24 มาถึงห้องที่เป็นโดมใหญ่ของที่นี่ (Rotunda) ห้องนี้สวยมากกกกกกกกก ด้านบนเป็นรูปวาดค่ะ (ทำให้เรานึกถึงตึก CL ที่เอแบคบางนาเลย) จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 23:04:58

ความคิดเห็นที่ 25 ถัดลงมา ตรงแถบเล็กๆ นั้น เป็นภาพวาด 3 มิติค่ะ จากที่จับใจความมาได้ก็คือ เป็นเทคนิคการวาดเพื่อทำให้ดูเหมือนรูปปั้นค่ะ โดยใช้จิตรกรทั้งหมด 4 คนมาวาดต่อกันไปเรื่อยๆ ไปดูสถานที่จริง ตอนแรกนึกว่าเป็นรูปปั้นนูนต่ำค่ะ สวยมาก ส่วนรูปสีขนาดยักษ์นั้นเล่าเรื่องเหตุการณ์สำคัญอีกอย่างค่ะ แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 55 11:23:23 แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 55 23:08:33 จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 23:07:22

ความคิดเห็นที่ 26 ห้องถัดมา เป็นอีกห้องที่เก็บรูปปั้นบุคคลสำคัญค่ะ รูปปั้นด้านบน เราไม่แน่ใจว่านางชื่อ Freedom ตัวเดียวกับที่อยู่บนยอดตึก US Capitol รึเปล่านะคะ :) ห้องนี้ ไกด์ภูมิใจเสนอมาก ก็คือพื้นสามารถสะท้อนเสียงได้ เธอปิดไมค์แล้ววิ่งไปตะโกนจากอีกฝั่งของห้องเลยค่ะ XD แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 55 23:12:21 จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 23:11:04

ความคิดเห็นที่ 27 จบจากห้องนั้นก็หมดทัวร์แล้วค่ะ มี museum ย่อยๆ อยู่ด้านล่างด้วย ซึ่งมีแม่นาง Freedom ขนาดเท่าไซส์จริงบนยอดโดม US Capitol อยู่ด้วยค่ะ แต่ตัวนี้ทำจากปูนปลาสเตอร์ มีการอธิบายลักษณะของนางดังนี้ She is a female allegorical figure whose right hand holds the hilt of a sheathed sword while a laurel wreath of victory and the Shield of the United States are clasped in her left hand. The heraldic shield is the same as in the Great Seal of the United States, with thirteen stripes, except that the chief has stars (again, thirteen). Her chiton is secured by a brooch inscribed "U.S." and is partially covered by a heavy, Native American–style fringed blanket thrown over her left shoulder. She faces east towards the main entrance of the building and the rising Sun. She wears a military helmet adorned with stars and an eagle's head which is itself crowned by an umbrella-like crest of feathers. Freedom stands atop a cast-iron globe encircled with one of the national mottoes, E pluribus unum. The lower part of the base is decorated with fasces and wreaths. Ten bronze points tipped with platinum are attached to her headdress, shoulders, and shield for protection from lightning. จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 23:18:04

ความคิดเห็นที่ 28 ใน US Capitol มี Food court ด้วยนะคะ :) เราก็อาศัยฝากท้องไว้ที่นี่แหล่ะ ราคาก็แพงกว่าข้างนอกนิดหน่อย ยอมหาอะไรกินที่นี่ดีกว่าหิ้วท้องไปที่อื่นนะ ขอฝากภาพสุดท้ายของตอนที่ 2 ไว้ที่หน้า US Capitol ตอนฟ้าหม่นๆ จ้า (เค้า maintenance กันซะอย่างงั้น -3-) จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 23:21:31

ความคิดเห็นที่ 29 รอลอกอยู่ครับ ไปตอนมี.ค. จำนวนวันเท่ากันเลยครับ ^^ จากคุณ : jiwyeefun เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 23:47:44

ความคิดเห็นที่ 30 มาตามไปเที่ยวอีกแล้วครับผม จากคุณ : พิ้งค์โลลี่ป้อบ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 55 02:21:07

ความคิดเห็นที่ 31 สอบถามหน่อยครับ จะเข้า The White House หมายถึงเข้าข้างในเลยนะครับ. ต้องทำอย่างไร แค่ไปต่อคิวให้ทันตอนเช้าหรือครับ เห็นใน visit. The  White House บอกให้ติดต่อสถานทูตไทยที่กรุงวอชิงตันอย่างเดียวนะครับ. พอดีจะพาลูกไปจุดประกายความรู้ครับ  ขอข้อมูลด้วยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : ชอบเที่ยวกับครอบครัว เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 55 03:32:14

ความคิดเห็นที่ 32 ตามมาเที่ยวต่อนะครับ จากคุณ : BANBONDOI เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 55 07:19:06

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 55 10:24:57

ความคิดเห็นที่ 34 คุณ ชอบเที่ยวกับครอบครัว : ต้องขอโทษด้วยเพราะตอนที่ทำโปรแกรมทัวร์เอง แต่ให้ลองดูที่กระทู้ของคุณ ฐ. ฐาน ดูนะคะ ไปทั้งโรงพิมพ์ธนบัตรแล้วก็ The White House ด้วย http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E12041067/E12041067.html แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 55 13:36:11 จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 55 11:13:55

ความคิดเห็นที่ 35 ไปเที่ยว DC กันต่อนะคะ ความคิดเห็นนี้ได้แตกไปยังกระทู้ E12501016 จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 55 23:00:16

ความคิดเห็นที่ 36 ในรีวิวของผมนั้นไปที่ White House Visitor Center ครับ ไม่ได้เข้าไปใน The White House ได้แต่ถ่ายรูปอยู่ด้านนอก จะเข้าใน The White House จะต้องจองผ่านสถานฑูตไทยใน D.C. ซึ่งตอนผม plan ก็ได้ email ไปที่สถานฑูตไทยใน D.C. ล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน ให้ช่วยอนุเคราะห์จองเวลาให้เพราะอยากพาลูกเข้าไปดูข้างใน เจ้าหน้าที่ทางโน้นก็ตอบกลับมาว่าระบบจองขัดข้องแล้วก็เงียบไป ใกล้เวลาเดินทาง email ไปถามอีกครั้ง คราวนี้เงียบไปเลย ก็เลยถอดใจ ไม่สามารถจองเวลาเข้าไปข้างในได้ ก็ไปแต่ที่ visitor center แทน จากคุณ : ฐ. ฐาน เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 55 23:40:39

ความคิดเห็นที่ 37 จะเข้าไปข้างในทำเนียบขาว    ต้องเป็นคนสัญชาติอเมริกันเท่านั้นค่ะ    ไม่อนุญาตให้คนต่างชาติเข้าไปอีกแล้ว คนอเมริกันถ้าจะเข้าไปก็ต้องไปขอตั๋วจาก สว. ประจำรัฐของตัวเอง   ต้องของล่วงหน้าประมาณสี่ห้าเดือนค่ะ กรณีที่คนต่างชาติเข้าไปได้   คงต้องเป็นกรณีพิเศษจริงๆ  ต้องขอโดยให้สถานฑูตของชาติตัวเองทำเรื่องให้มั๊งคะ      ซึ่งแน่นอนว่าถ้าไม่ใช่คนใหญ่คนโตมากๆ  ทางสถานฑูตคงไม่ทำให้ค่ะ.... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 55 23:40:51

ความคิดเห็นที่ 38 ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพียบเลยครับ จากคุณ : MRBIG173 เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 55 06:50:07

ความคิดเห็นที่ 39 คุณป้าฟูค่ะ เห็นในเวบเค้ายังบอกว่าคนต่างชาติให้ติดต่อผ่านสถานทูตตัวเองได้อยู่เลยนี่ค่ะ จากคุณ : jasmin noir เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 55 17:10:24

ความคิดเห็นที่ 40 ตอนเราไปทำเนียบขาวก็แค่เกาะรั้วดูค่ะ 555 จากคุณ : GeD^_^GeD เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 55 10:04:02