2. มีข้อเดียว ย้อนกลับไปอ่านข้างบนใหม่
ความเดิมจากตอนที่แล้ว ที่เราเดินทางมาจาก เจิงดองจิน และ กังนึง กลับมาที่โซล ได้แวะเที่ยวย่านเมียงดงอีกครั้งค่ะ
ในตอนนี้ จากที่ติดค้างไว้ตั้งแต่ตอนที่แล้วค่ะว่า เราได้จองบ้านพักแบบเกาหลีไว้ค่ะ ชื่อ Friends House
หลังจากเมื่อคืนเรากลับจากเมียงดง มาถึงก็ค่อนข้างดึก ประมาณ 5 ทุ่มค่ะ
เล่าย้อนถึงตอนแรกมานิดนึง คือตามแผนที่วางไว้ พวกเรามาที่เกาหลี พักที่ Ann Guesthouse ก่อน 2 คืน แล้วไปพักนอกเมือง 2 คืน กลับมาโซล พักที่ Friends House 1 คืน ก่อกลับไปพักที่ Ann Guesthouse อีก 2 คืนแล้วกลับไทยค่ะ
เรื่องของเรื่องก็คือ มาเกาหลี ทั้งที ขอให้ได้นอนแบบเกาหลีบ้าง แพงหน่อยไม่ว่ากัน ของลองนิดนึง
จึงทำการค้นหาข้อมูล บางที่ ไกลปืนเที่ยงเหลือเกิน ถึงอยู่ในโซล แต่ไม่คิดแหล่งท่องเที่ยวอะไรเลย เดินทางหลายต่อก็ไม่ไหว บางที่ บรรยากาศดี แต่จองยากมากมาย ไม่รับบัตรเครดิต ให้โอนเข้าธนาคารอย่างเดียว ก็ไม่ไหว หาไปหามา ก็เจอที่นี่แหละค่ะ ว่าไม่ไกลมาก แล้วก็สามารถจองไปก่อน ไม่ต้องเสียอะไร แล้วไปจ่ายสดที่นู่น (แต่พูดถึงก็เสี่ยงต่อการไม่ได้ห้องนะคะ เพราะไม่มีหลักประกันว่าเราเอาแน่) แต่ดูจาก feedback หลาย ๆ เว็บที่พูดถึงที่นี่ ก็ไม่น่าเกลียด บาง complain ก็เป็นจำพวก ประตูเสียงดัง ห้องแคบ อะไรประมาณนั้น ซึ่งเราไม่แคร์ ถ้าใครจะตัดสินใจจองที่พัก ก็ลองดูหลาย ๆ ที่ หลาย ๆ คำแนะนำประกอบกันนะคะ
แต่พอเรามาถึง ก็เจออุปสรรคเลยค่ะ เพราะ เจ้าของมาต้อนรับ ด้วยยิ้มแย้มแจ่มใส พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย !!
แถมเราก็ลืมเอาใบจองที่ print มาจากเน็ตมาอีกตะหาก (ไม่ควรทำตามเป็นอย่างยิ่ง)
โชคยังดี ที่เราจองห้องแบบ 3 คน ซึ่งมีเพียงห้องเดียว และตามที่ทางบ้านพักบันทึกไว้ ก็คงมีเจ้าเดียวนี่แหละค่ะ เขาถึงโอเค
เข้าใจว่าตอนจอง เราจองกับลูกสาวบ้านพักที่พูดอ่านเขียนอังกฤษได้ แต่วันที่เราไป เธอไม่อยู่น่ะสิคะ
ก็เป็นบทเรียนเลยว่า ใบจองบ้านพัก ห้ามลืมเด็ดขาดๆๆๆๆๆ
อย่างที่บอกไว้ในตอนที่แล้ว หลังจากเราเสร็จจากเมียงดง กลับมาถึง Friends house ก็ 5 ทุ่ม อากาศช่วงกลางคืนก็หนาวกว่ากลางวันแน่นอน แต่ด้วยวิถีไทย พวกเราต้องกระ:-)กระสนไปอาบน้ำให้ได้ ซึ่งที่นี่ห้องอาบน้ำรวมค่ะ คืออยู่นอกห้องนอน
ใช้ร่วมกันกับแขกหลายห้อง พอออกไปนอกห้องเท่านั้นแหละ โห นึกว่าวิ่งเล่นในตู้เย็น
ดูภาพห้องพักของเรานะคะ