ความคิดเห็นที่ 1 อยากมาเที่ยวที่พระราชวังบางปะอินนานแล้ว เคยมาทัศนศึกษากับโรงเรียนครั้งนึงและมากับน้องสาวครั้งนึง แต่ก็ยังอยากมาเที่ยวชมอีกอยู่ดี ก็สวยอย่างนี้ใครจะไม่อยากมาดูมาชมล่ะคะ หมายเหตุ: ข้อมูลพระราชวังบางปะอินจากแผ่นพับของพระราชวังและวิกิพีเดีย พระราชวังบางปะอินอยู่ที่ตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยู่ห่างจากเกาะเมืองลงมาทางทิศใต้ประมาณ 18 กิโลเมตร เป็นพระราชวังโบราณตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 10:54:09

ความคิดเห็นที่ 2 ตามชมด้วยคน..........ขอบคุณครับ จากคุณ : Low Batt เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 10:59:39

ความคิดเห็นที่ 3 พระราชวังบางปะอินมีประวัติความเป็นมาตามพระราชพงศาวดารครั้งกรุงศรีอยุธยาว่า พระเจ้าปราสาททองหรือพระศรีสรรเพ็ชญ์ที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังแห่งนี้ขึ้นบนเกาะบ้านเลนในลำน้ำเจ้าพระยา ตามพระราชพงศาวดารกล่าวว่า พระเจ้าปราสาททองเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระเอกาทศรถประสูติแต่หญิงสาวชาวบ้าน ซึ่งพระองค์ทรงพบเมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินโดยเรือพระที่นั่งแล้วเกิดล่มลงตรงเกาะบางปะอิน ในปี พ.ศ. 2175 พระเจ้าปราสาททองทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดชุมพลนิกายาราม ตรงบริเวณเคหสถานเดิมของพระมารดา และให้ขุดสระน้ำสร้างพระราชนิเวศน์สถานขึ้นกลางเกาะเป็นที่สำหรับเสด็จประพาส แล้วสร้างพระที่นั่งองค์หนึ่งขึ้นริมสระน้ำนั้น พระราชทานนามว่า "พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์" พระราชวังแห่งนี้คงเป็นที่ประพาสสำราญพระราชหฤทัยของพระเจ้าแผ่นดินในสมัยกรุงศรีอยุธยาตลอดมา และรกร้างทรุดโทรมไปแต่ครั้งเสียกรุงศรีอยุธยา เมื่อ พ.ศ. 2310 จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 11:01:52

ความคิดเห็นที่ 4 กรี๊สสสสสสสส เชิญค่า คุณ Low Batt พระราชวังบางปะอินได้รับการบูรณะฟื้นฟูขึ้นอีกครั้งในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระที่นั่งองค์หนึ่งสำหรับเป็นที่ประทับ มีเรือนแถวสำหรับฝ่ายใน และมีพลับพลาริมน้ำ เป็นต้น ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์โปรดที่จะเสด็จประพาสพระราชวังบางปะอินอยู่เสมอ ด้วยทรงปรารภว่าเป็นเกาะกลางน้ำเงียบสงบ ร่มรื่น และเคยเป็นที่ประทับประพาสของสมเด็จพระบรมชนกนาถมาก่อน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระที่นั่งและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ขึ้น ดังที่ปรากฎให้เป็นอยู่ในปัจจุบัน จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 11:05:15

ความคิดเห็นที่ 5 พระราชวังบางปะอินแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ 1. เขตพระราชฐานชั้นนอก ประกอบด้วยพระที่นั่งซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้สำหรับการออกมหาสมาคมและพระราชพิธีต่างๆ สิ่งสำคัญในเขตพระราชฐานชั้นนอกของพระราชวังบางปะอิน ได้แก่ หอเหมมณเฑียรเทวราช สภาคารราชประยูร พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพย์อาสน์ และพระที่นั่งวโรภาษพิมาน 2. เขตพระราชฐานชั้นใน ประกอบด้วยที่ประทับ พลับพลา และศาลาต่างๆ ซึ่งสร้างอยู่ในพระราชอุทยานขนาดใหญ่ สิ่งสำคัญในเขตพระราชฐานชั้นใน ได้แก่ พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร หอวิฑูรทัศนา พระที่นั่งเวหาศจำรูญ พระตำหนักฝ่ายใน อนุสาวรีย์ราชานุสรณ์ และอนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 11:08:25

ความคิดเห็นที่ 6 พวกเราออกจากกรุงเทพฯ มาแต่เช้า ไม่หลง....แต่เลยอีกแล้ว เลยที่จอดรถไปซะไกล ค่าจอดรถ 20 บาท โชคดีที่มาแทบจะเป็นกลุ่มแรกเลยได้จอดในเต็นท์ ถ้ามาสายก็ต้องจอดกลางแจ้งนะคะ จ่ายค่าเข้าชมคนละ 30 บาท แล้วก็เริ่มเดินกันได้เลยค่า จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 11:14:20

ความคิดเห็นที่ 7 ส่องวัดนิเวศธรรมประวัตินิดนึง จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 11:17:02

ความคิดเห็นที่ 8 เริ่มไล่เรียงจากสิ่งก่อสร้างในเขตพระราชฐานชั้นนอกกันเลยนะคะ หอเหมมณเฑียรเทวราช หรือ ศาลพระเจ้าปราสาททอง ลักษณะเป็นปรางค์ ศิลา จำลองแบบจากปรางค์ขอม ภายในประดิษฐานเทวรูปพระเจ้าปราสาททอง ตั้งอยู่ ณ ริมสระน้ำใต้ต้นโพธิ์ จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 11:19:56

ความคิดเห็นที่ 9 สภาคารราชประยูร เป็นตึกสองชั้นตั้งอยู่ริมน้ำ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นสำหรับเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอฯ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ และเจ้านายฝ่ายหน้า ปัจจุบันใช้เป็นที่แสดงนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับพระราชวังบางปะอิน จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 11:20:54

ความคิดเห็นที่ 10 สะพานตุ๊กตา เป็นสะพานที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอย่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเลียนแบบสะพานข้ามแม่น้ำไทเบอร์ ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 11:22:03

ความคิดเห็นที่ 11 กับมุมมหาชนค่ะ...... รูปปั้นเทพธิดาดิมีเทอร์หรือเทพธิดาเซเลส ดิมีเทอร์หรือเซเลส เป็นธิดาองค์ที่2 ของโครเนิส และรีอา นางเป็นเทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์ และการเก็บเกี่ยว นางมักจะปรากฏตัวพร้อมกับดอกไม้ ผลไม้ และเมล็ดธัญญาหาร ต่อมาได้เป็นชายาของเทพซูส และมีธิดา คือ เพอร์เซโฟเน เทพธิดาแห่งฤดูใบไม้ผลิ เมื่อเพอร์เซโฟเนถูกฮาเดส จับตัวไปนางโศกเศร้ามากพืชผลไม่ผลิดอกงอกงาม นั่นก็คือต้นกำเนิดของฤดูหนาว เชื่อกันว่านางได้สอนให้ชาวกรีกโบราณรู้จักศิลปะของการปลูกพืชผล เพื่อพวกเขาจะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยการเพาะปลูกและมีอารยธรรมขึ้นมา จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 11:23:24

ความคิดเห็นที่ 12 กระโจมแตร สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นกระโจมขนาดกลางรูปแบบ Gazebo ซึ่งเป็นลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่เป็นที่นิยมกันอย่างสูงในปลายศตวรรษที่ 19 จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 11:24:50

ความคิดเห็นที่ 13 พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ และกระโจมแตร มีงานข้าววววว ไปก่อนนะคะ เดี๋ยวมาใหม่ แว้บบบบบบบ จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 11:27:10

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : tonhok เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 12:14:27

ความคิดเห็นที่ 15 ปูเสื่อรอนะคะ จากคุณ : web_rung เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 12:28:20

ความคิดเห็นที่ 16 ตามมาเที่ยวพระราชวังบางปะอินด้วยคนนะคะ จากคุณ : คนช่างฝัน สาวข้างบ้าน เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 12:34:59

ความคิดเห็นที่ 17 เมืองเก่าเขียวชอุ่มมากครับ ^^ จากคุณ : ไผ่พริ้ว (PyDE) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 12:35:23

ความคิดเห็นที่ 18 ยินดีค่ะ คุณ tonhok มาเที่ยวต่อกันค่ะ คุณ web_rung เชิญค่ะ คุณคนช่างฝัน สาวข้างบ้าน ใช่ค่ะ เข้าหน้าฝนแล้วมองไปทางไหนก็เขียวสดชื่นมากมายค่ะ คุณ ไผ่พริ้ว (PyDE) พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ เป็นพระที่นั่งโถงทรงปราสาทจตุรมุข พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จำลองแบบมาจากพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2419 และพระราชทานนามว่า "พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์" ตามนามพระที่นั่งองค์แรกที่พระเจ้าปราสาททองทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น ณ ที่แห่งนี้ จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 14:06:04

ความคิดเห็นที่ 19 ภายในพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ มีพระบรมรูปหล่อสำริดของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขนาดเท่าพระองค์จริงฉลองพระองค์เต็มยศจอมพลทหารบก ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นประดิษฐานอยู่ จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 14:08:03

ความคิดเห็นที่ 20 พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์อาจถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจของงานช่างไทยแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เคยได้รับการจำลองแบบไปแสดงในงานมหกรรมนานาชาติ (Expositions Universelles) ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อ พ.ศ. 2501 จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 14:11:13

ความคิดเห็นที่ 21 ด้านหลังอาคารการ์ดทหาร สำหรับสุภาพสตรีที่จะเข้าชมพระที่นั่งวโรภาษพิมาน หากนุ่งกางเกงมา ถึงจะเป็นกางเกงขายาวก็ต้องมาสวมผ้านุ่งทับ ขอยืมผ้านุ่งได้จากอาคารการ์ดทหารนี้ค่ะ จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 14:16:35

ความคิดเห็นที่ 22 ชอบแม่น้ำ ขออีกรูปละกัน อิอิ จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 14:19:10

ความคิดเห็นที่ 23 เรือนแพพระที่นั่ง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเป็นแบบเรือนไทย ตัวเรือนสร้างด้วยไม้สักทอง หลังคามุงด้วยจากแบบโบราณ ภายในจัดแบ่งห้องต่างๆ เป็นสัดส่วน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้เรือนแพพระที่นั่งองค์นี้เป็นที่ประทับแรมในการเสด็จประพาสต้น และทรงสำราญพระอิริยาบถทางน้ำ จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 14:22:19

ความคิดเห็นที่ 24 พระที่นั่งวโรภาษพิมาน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างตรงบริเวณที่ประทับเดิมของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อแรกสร้างเป็นอาคารตึกสองชั้น ต่อมาได้ดัดแปลงรื้อลงเป็นชั้นเดียว ลักษณะอาคารเป็นศิลปะนีโอคลาสสิก มุขด้านหน้าของพระที่นั่งทำเลียนแบบวิหารของกรีก พระที่นั่งองค์นี้ใช้เป็นที่ประทับ และท้องพระโรงสำหรับเสด็จออกว่าราชการ จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 14:27:58

ความคิดเห็นที่ 25 นอกจากนี้ภายในพระที่นั่งวโรภาษพิมานยังมีสิ่งที่น่าชมอื่นๆ อีก ได้แก่ อาวุธโบราณ ซึ่งมีทั้งอาวุธของไทยและอาวุธของตะวันตก ตุ๊กตาหินสลักด้วยงานฝีมือประณีต ภาพเขียนสีน้ำอิงพระราชพงศาวดาร ภาพเขียนจากวรรณคดีไทยเรื่อง และเครื่องบรรณาการอื่นๆ จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 14:32:32

ความคิดเห็นที่ 26 ตามไปด้วยครับ เพิ่งไปเที่ยวมาแถบนี้เหมือนกัน จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 14:32:33

ความคิดเห็นที่ 27 เชิญค่ะคุณเอก รอชมรีวิวสวยๆ เรื่องราวดีๆ ของคุณเอกด้วยนะคะ อ้อ ด้านในพระที่นั่งวโรภาษพิมานเป็นที่ประดิษฐานพระแท่นราชบัลลังก์นพปฏลมหาเศวตฉัตร พระราชบัลลังก์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยค่ะ ภายในพระที่นั่งไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพนะคะ และมีวิทยากรบรรยายความรู้เกี่ยวกับพระที่นั่งค่ะ จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 14:42:00

ความคิดเห็นที่ 28 ชมเขตพระราชฐานชั้นนอกแล้ว เดี๋ยวเราจะไปชมเขตพระราชฐานชั้นในกันต่อนะคะ จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 14:44:56

ความคิดเห็นที่ 29 หยุดพักดูนกตัวน้อยกันแป๊บนึง จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 14:45:56

ความคิดเห็นที่ 30 ขนาดรีบมากันแต่เช้า แต่พักเดียวคนก็เริ่มเต็มพื้นที่แล้วเพราะทัวร์ลงหลายคณะทีเดียว จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 14:47:31

ความคิดเห็นที่ 31 ข้ามสะพานนี้ไปก็เข้าเขตพระราชฐานชั้นในแล้วค่ะ จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 14:48:18

ความคิดเห็นที่ 32 การเสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่เขตพระราชฐานชั้นใน ใช้สะพานเสาวรสซึ่งเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างพระที่นั่งวโรภาษพิมานในเขตพระราชฐานชั้นนอก กับประตูเทวราชครรไลยในเขตพระราชฐานชั้นใน จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 14:53:31

ความคิดเห็นที่ 33 สะพานเสาวรสนี้มีลักษณะพิเศษคือ มีแนวฉากคล้ายบานเกล็ดกั้นกลางตลอดแนวสะพานเพื่อแบ่งเป็นทางเดินของฝ่ายหน้าด้านหนึ่งและฝ่ายในอีกด้านหนึ่ง ซึ่งฝ่ายในสามารถมองลอดออกมาโดยตัวเองไม่ถูกมองเห็น จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 14:54:47

ความคิดเห็นที่ 34 ประตูเทวราชครรไลและสะพานเสาวรสมองจากอีกด้านหนึ่ง จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 14:56:09

ความคิดเห็นที่ 35 ประตูเทวราชครรไล เดิมเรียกว่าประตูเทวราชดำรงศร ลักษณะเป็นอาคารตึกชั้นเดียว รูปทรงโค้งครึ่งวงกลม จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 14:57:41

ความคิดเห็นที่ 36 มาชมต่อ จากคุณ : Low Batt เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 14:57:53

ความคิดเห็นที่ 37 จำได้ว่าสมัยก่อนบริเวณนี้จะเป็นสถานที่ขายอาหารว่างและเครื่องดื่ม แต่ตอนนี้ย้ายไปยังที่ทำการด้านหน้าหมดแล้ว จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 14:58:35

ความคิดเห็นที่ 38 เชิญเที่ยวต่อกันเลยค้าบ คุณ Low Batt ปัจจุบันใช้เป็นที่จัดแสดงรถม้าพระที่นั่งรัชกาลที่ 5 จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:00:12

ความคิดเห็นที่ 39 เดินต่อไปอีกนิดก็จะเห็นเรือนหลังน้อยสีชมพูน่ารัก เก๋งบุปผาประพาส พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นตามแบบสถาปัตยกรรมยุโรป เรียกว่า เรือนขนมปังขิง ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียว ตั้งอยู่บนฐานก่ออิฐถือปูน มีมุข 2 มุข ประดับด้วยลวดลายไม่ฉลุอยู่ภายในวงกลมทั้ง 2 ด้าน ชายคาทั้งตอนบนและตอนล่างประดับด้วยไม้ฉลุเช่นเดียวกัน จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:02:58

ความคิดเห็นที่ 40 รอบอาคารมีบานเกร็ดสามารถดึงเปิดรับลมได้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงใช้เป็นที่พักผ่อนพระอิริยาบถภายในพระราชอุทยาน ด้านหลังที่เห็นเป็นเรือนเล็กๆ นั่นคือแพทรงบาตร ตอนแรกว่าจะเดินเข้าไปถ่ายรูปแต่คนเยอะจนเราลืม กลับมาถึงนึกขึ้นได้ อดเห็นใกล้ๆ เลย จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:05:13

ความคิดเห็นที่ 41 ไหนๆ มาถึงเก๋งบุปผาประพาสแล้ว แวะชมดอกไม้กันก่อนนะคะ อิอิ ต้นอโศกน้ำและแพทรงบาตร( ไกลๆ ) จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:08:28

ความคิดเห็นที่ 42 ดอกอโศกน้ำ จุ๊ๆๆๆๆ อย่าเอ็ดไปนะ แอบบอกความลับครั้งวัยรุ่น แอบชอบคุณไกด์ตอนที่มาทัศนศึกษา จนกลับไปแต่งกลอนถึงเค้า มีตอนที่เกี่ยวกับอโศกน้ำอยู่ด้วย นึกถึงแล้วยังขำไม่หาย ทำไปได้นะเรา จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:11:01

ความคิดเห็นที่ 43 พุดน้ำบุศย์ก็งาม แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 55 15:12:59 จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:12:43

ความคิดเห็นที่ 44 อินทนิลน้ำ แอบดูมาจากแผนที่ของพระราชวัง จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:14:57

ความคิดเห็นที่ 45 ที่นี่มีต้นปีบอยู่แทบทุกมุม ช่วงนี้ดอกปีบออกดอกบานสะพรั่งอยู่หลายต้น หอมฟุ้งเลยทีเดียว จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:15:45

ความคิดเห็นที่ 46 มองเห็นนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเก็บดอกที่ร่วงอยู่ไปหลายดอก ท่าทางชอบมาก จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:17:53

ความคิดเห็นที่ 47 ประตูสังฆสิทธิภัตรการ นามประตูของพระราชวังบางปะอินมีดังนี้ (แต่มีรูปไม่ครบนะคะ) 1. ประตูราชกิจวิวรณ์ 2. ประตูสาครประพาส 3. ประตูเทวราชครรไล 4. ประตูอนงค์ในจรจรัล 5. ประตูเทวัญสถิต 6. ประตูสังฆสิทธิภัตรการ 7. ประตูนงคราญประเวศ 8. ประตูอัครเรศวรดิษฐ์ แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 55 15:21:40 จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:19:26

ความคิดเห็นที่ 48 เดินอ้อมไปยังด้านหลังซึ่งเป็นส่วนของพระตำหนัก ตำหนัก และเรือนของพระบรมวงศ์ฝ่ายใน ซึ่งในปัจจุบันบางตำหนักได้ถูกรื้อลงแล้ว ได้แก่ 1. ตำหนักพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพวงสร้อยสอางค์ ตำหนักที่ประทับของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพวงสร้อยสอางค์ โดยสร้างแบบเรือนแพอยู่บริเวณทิศตะวันออกของหอวิฑูรทัศนา ติดกับสะพานที่จะข้ามไปยังอนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ และ อนุสาวรีย์ราชานุสรณ์ 2. ตำหนักกรมขุนสุพรรณภาควดี ตำหนักที่ประทับของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีวิลัยลักษณ์ กรมขุนสุพรรณภาควดี พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 3. ตำหนักวรนาฏเกษมสานต์ ตำหนักวรนาฏเกษมสานต์ เป็นตำหนักที่ประทับของพระบรมวงศ์ฝ่ายในหลายพระองค์ประทับอยู่ด้วยกัน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ตำหนักแห่งนี้ได้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นโรงละครประจำพระราชวัง โดยเปลี่ยนชื่อเป็น "วรนาฏยศาลา" และเมื่อสิ้นรัชกาลที่ ๖ จึงรื้อโรงละครออกไป ปัจจุบันเป็นสนามกว้างปลูกต้นไม้เป็นรูปสัตว์ต่างๆแทน จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:21:13

ความคิดเห็นที่ 49 ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง น้องเคยเห็นช้างอ๊ะป่าว จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:22:35

ความคิดเห็นที่ 50 ตำหนักพระราชชายา เจ้าดารารัศมี พระตำหนักไม้ยกพื้นชั้นเดียว ตัวอาคารทาสีเขียว ด้านในตำหนักทาสีขาว มีห้องบรรทม 2 ห้องมีห้องสรงอยู่ภายใน ห้องสำราญพระอิริยาบถ 1 ห้อง ห้องพระเครื่องต้น 1 ห้อง โดยทุกห้องสามารถเปิดถึงกันหมด มีทางขึ้นตำหนักด้านหน้า 1 ทางและด้านหลัง 1 ทาง แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 55 15:23:53 จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:23:34

ความคิดเห็นที่ 51 ด้านบนตำหนักมีพระฉายาลักษณ์ของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:24:59

ความคิดเห็นที่ 52 ตำหนักเก้าห้อง เป็นตำหนักที่ประทับของพระบรมวงศ์ฝ่ายใน ที่ตามเสด็จฯ คราวแปรพระราชฐานมาประทับที่พระราชวังบางปะอิน โดยมีสถาปัตยกรรมแบบยุโรป ก่ออิฐถือปูน มี 2 ชั้น มี 3 มุข ได้แก่ มุขข้าง 2 ด้าน และมุขกลาง ผนังระหว่างเสาชั้นล่างเป็นวงโค้ง และชั้นบนเป็นช่องสี่เหลี่ยมมีการประดับด้วยไม้ฉลุลาดขนมปังขิง มีทางขึ้นตำหนัก 5 ทาง ด้านหน้าตำหนัก 3 ทาง และระเบียงหลัง 2 ทาง จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:26:18

ความคิดเห็นที่ 53 ปัจจุบันตำหนักเก้าห้องใช้เป็นที่พักของนายทหารของศูนย์รักษาความปลอดภัยตั้งแต่ยศพันตรีขึ้นไป จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:27:09

ความคิดเห็นที่ 54 พระตำหนักพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา พระตำหนักเป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรป ตัวอาคารทาด้วยสีม่วงตัดขอบสีขาว จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:27:59

ความคิดเห็นที่ 55 พระตำหนักสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี พระตำหนักเป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรป ตัวอาคารประธานมีลักษณะ 8 เหลี่ยม มี 2 ชั้น ชั้นล่างก่ออิฐถือปูน ชั้นบนสร้างจากไม้ ระเบียงด้านหน้าพระตำหนักมีลูกกรงไม้ทาสีขาว จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:28:40

ความคิดเห็นที่ 56 พระตำหนักสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า พระตำหนักเป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรป อาคารก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น มุขระเบียงประดับด้วยลวดลายกลึงไม้ ลวดลายเครือเถา จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:29:43

ความคิดเห็นที่ 57 อนุสาวรีย์ราชานุสรณ์ เป็นอนุสาวรีย์ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงพระอัครชายาเธอ 1 พระองค์ พระราชโอรส 2 พระองค์ และพระราชธิดา 1 พระองค์ ที่สิ้นพระชนม์ในปีเดียวกัน ได้แก่ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2430 พระอัครชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคนารีรัตน์ สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2430 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพาหุรัดมณีมัย กรมพระเทพนารีรัตน์ สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2430 สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าตรีเพ็ชรุตม์ธำรง สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2430 อนุสาวรีย์ราชานุสรณ์สร้างด้วยหินอ่อน แต่ละด้านประดับด้วยพระรูปเหมือนแกะสลักด้วยหินอ่อนของทั้ง 4 พระองค์ แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 55 15:32:55 จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:31:26

ความคิดเห็นที่ 58 อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ เป็นอนุสาวรีย์ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารัตน์ มีลักษณะเป็นฐานรูปทรงสี่เหลี่ยมและยอดหกเหลี่ยมทรงสูง สร้างด้วยหินอ่อนจากประเทศอิตาลี ด้านทั้ง 4 ประกอบด้วย ด้านทิศตะวันตก แกะสลักคำไว้อาลัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นภาษาไทย ด้านทิศตะวันออก แกะสลักคำไว้อาลัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นภาษาอังกฤษ ด้านทิศใต้ ประดิษฐานพระนามาภิไธยย่อของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ (ส ภายใต้พระมงกุฏกษัตรี) ด้านทิศเหนือ ประดิษฐานรูปช่อดอกไม้ล้อมรอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างอนุสรณ์แห่งความรักแห่งนี้ขึ้น พร้อมทั้งได้เสด็จพระราชดำเนินเปิดอนุสาวรีย์เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2426 ซึ่งตรงกับวันที่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์เสด็จทิวงคตครบรอบ 3 ปี จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:35:18

ความคิดเห็นที่ 59 เดินต่อมาอีกนิด เพื่อตามหาสิ่งนี้ มองเห็นตั้งแต่รถเลยไปทางหลังวังแต่ไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า ถึงได้เดินลัดเลาะหาไปทั่ว ตื่นเต้นๆๆๆๆ ได้เห็นตัวจริงแล้ว ย่านดาโอ๊ะหรือใบไม้สีทอง จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:39:55

ความคิดเห็นที่ 60 ถึงตอนนี้สองสาวโทร.มาบอกว่ารออยู่ที่ร้านกาแฟด้านหน้าทางเข้าพระราชวัง สิบเอ็ดโมงกว่าแล้วหรือเนี่ย(เข้ามาตอนแปดโมงครึ่ง) ตอนแรกหิวมากเพราะตั้งแต่ตีห้าเพิ่งดื่มกาแฟไปแก้วเดียว แต่พอเดินไปเดินมา เห็นแต่สิ่งสวยๆ ก็เลยเพลิน ทำให้หายหิวไปเลย ย่านดาโอ๊ะหรือใบไม้สีทอง พืชประจำถิ่นของไทย พบครั้งแรกที่อุทยานแห่งชาติเทือกเขาบูโด-สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เมื่อปี พ.ศ. 2531 เป็นไม้เถาเนื้อแข็งขนาดใหญ่เลื้อยขึ้นไปคลุมตามเรือนยอดของต้นไม้ใหญ่ โคนใบเว้าหยักคล้ายรูปหัวใจ รูปร่างคล้ายกับใบกาหลงหรือชงโคแต่ขนาดใหญ่กว่ามาก ใบอ่อนมีขนสีน้ำตาลแดง หรือขนสีทองแดงเป็นมันคล้ายเส้นไหมปกคลุมหนาแน่น ลักษณะเหมือนกำมะหยี่ ออกดอกเดือนสิงหาคม - เดือนพฤศจิกายน ดอกสีขาวมีกลิ่นหอม จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:43:03

ความคิดเห็นที่ 61 ประตูสาครประพาส จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:44:40

ความคิดเห็นที่ 62 พระที่นั่งเวหาสน์จำรูญ เป็นพระที่นั่งซึ่งมีความโดดเด่นในสถาปัตยกรรมจีน เป็นพระที่นั่งองค์สุดท้ายที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยกลุ่มพ่อค้าชาวจีนสร้างน้อมเกล้าฯ ถวาย ชื่อตามภาษาจีนว่า “เทียนเหมงเต้ย” (เทียน = เวหา / เหมง = จำรูญ / เต้ย = พระที่นั่ง) ด้วยเหตุที่เป็นพระที่นั่งสองชั้นกรุกระจก จึงเป็นพระที่นั่งในฤดูหนาว ป้องกันอากาศหนาวได้ดี ที่นี่คนเยอะมากและด้านในถ่ายรูปไม่ได้เลยขี้เกียจเดินเข้าไป ส่องเอาจากข้างนอกนี่แหละ จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:47:58

ความคิดเห็นที่ 63 พระที่นั่งองค์นี้เป็นอาคารที่มีลิฟต์ใช้แรงคนเป็นแห่งแรกในเมืองไทย ตลอดทั้งองค์พระที่นั่งเป็นงานเข้าไม้ ไม่ใช้ตะปู หน้าต่างสามารถเปิดเข้าด้านในและพับได้ จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:49:16

ความคิดเห็นที่ 64 ชั้นล่างของพระที่นั่งเวหาศน์จำรูญใช้เป็นห้องพระบรรทมพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว และใช้เป็นท้องพระโรง ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ท้องพระโรงล่างและท้องพระโรงบน บริเวณทางขึ้นท้องพระโรงบนมีแผ่นหินอ่อนรูปหยินหยางประดับไว้ จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:50:55

ความคิดเห็นที่ 65 ห้องชั้นบนของพระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ ประกอบด้วย 4 ห้องใหญ่ ได้แก่ 1. ห้องบรรทมพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 2. ห้องบรรทมสมเด็จพระบรมราชินีนาถ 3. ห้องทรงพระอักษร ภายในห้องมีโต๊ะทรงพระอักษรของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวตั้งอยู่ ปัจจุบันใช้เป็นที่เก็บหนังสือภาษาจีนในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 4. ห้องพระป้ายอยู่ติดกับห้องทรงพระอักษร เป็นที่ประดิษฐานพระวิมาน 3 องค์ติดต่อกัน ทำด้วยไม้แกะสลักลวดลายต่างๆ ลงรักปิดทอง     ช่องตะวันตก - ประดิษฐานพระป้ายจารึก(อักษรจีน) พระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระนามาภิไธยกรมสมเด็จพระเทพศิรินทรามาตย์     ช่องกลาง - ประดิษฐานพระพุทธรูป     ช่องตะวันออก - ประดิษฐานพระป้ายจารึก(อักษรจีน) พระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระนามาภิไธยสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:53:34

ความคิดเห็นที่ 66 หอวิฑูรทัศนา เป็นที่เสด็จขึ้นไปทอดพระเนตรภูมิประเทศโดยรอบของพระราชวัง จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:54:43

ความคิดเห็นที่ 67 หอวิฑูรทัศนามีความสูง 30 เมตร ลักษณะเป็นหอคอยสูง 3 ชั้น 12 เหลี่ยม ยอดหอคอยคลุมด้วยหลังคารูปครึ่งวงกลม มีสถาปัตยกรรมผสมผสานของยุโรป ตัวอาคารทาสีแดงสลับเหลือง ภายในมีบันไดเวียนขึ้นสู่ชั้นบน 112 ขั้น จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:58:18

ความคิดเห็นที่ 68 มาแหงนดูใกล้ๆ แต่ไม่ได้ขึ้นไปเพราะสองสาวรออยู่นานแล้ว จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 15:59:21

ความคิดเห็นที่ 69 ไหนๆ ก็ไหนๆ ขอถ่ายรูปอย่างว่องไว กลัวไม่ครบ พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นใน ถือเป็นพระที่นั่งองต์ประธาน หากมองจากมุมสูงจะเห็นว่าถนนทุกสายในพระราชวังจะมุ่งสู่องค์พระที่นั่ง เมื่อแรกสร้างเป็นพระที่นั่งเรือนไม้สองชั้นแบบชาเลต์ของสวิส มีเฉลียงหรือทางเดินที่เรียกว่าเวอแรนด้า(Veranda) โดยรอบ ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ทาสีเขียวอ่อนและสีเขียวแก่สลับกัน จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 16:00:49

ความคิดเห็นที่ 70 แต่เดิมนั้นภายในพระที่นั่งตกแต่งแบบยุโรปด้วยเครื่องเรือนฝรั่งเศสสมัยพระเจ้านโปเลียนที่ 3 เป็นชุดเดียวเข้ากันหมดทั้งองค์พระที่นั่ง จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 16:04:06

ความคิดเห็นที่ 71 พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรเป็นที่ประทับที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดปรานมากที่สุด จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 16:05:49

ความคิดเห็นที่ 72 เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2481 มีการดำเนินการซ่อมแซมพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร ขณะดำเนินการซ่อมทาสีองค์พระที่นั่ง ได้เกิดไฟไหม้องค์พระที่นั่งหมดทั้งองค์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2531 สำนักพระราชวังได้กราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตก่อสร้างพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรขึ้นใหม่ตามแบบแปลนเดิม แต่ใช้คอนกรีตแทนไม้ แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2532 โดยทาสีขาวสลับม่วงทั้งองค์ จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 16:07:17

ความคิดเห็นที่ 73 ในปี พ.ศ. 2537 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้ขอพระราชทานบรมราชานุญาต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในการรื้อและดัดแปลงสร้างพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรใหม่อีกครั้ง พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรองค์ปัจจุบัน มีลักษณะสถาปัตยกรรมต่างจากพระที่นั่งองค์เดิม คือ เป็นสถาปัตยกรรมแบบวิกตอเรีย ตัวอาคารเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น ใช้เป็นที่ประทับในการเสด็จแปรพระราชฐาน และการรับรองพระราชอาคันตุกะ จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 16:08:04

ความคิดเห็นที่ 74 ถ่ายรูปเสร็จแล้วก็รีบเดินออกไปพบสองสาว หิวกันแย่แล้วเลยหาอะไรกินกันแถวนั้น จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 16:17:53

ความคิดเห็นที่ 75 มีแรงขึ้นมาอีกนิดก็นั่งกระเช้าข้ามฟากไปวัดนิเวศธรรมประวัติกันต่อ ข้ามไปแล้วจะมีตู้บริจาคช่วยค่าไฟตามกำลังศรัทธาค่ะ จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 16:22:06

ความคิดเห็นที่ 76 วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นวัดในสังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุต สร้างขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงใช้เป็นสถานที่สำหรับบำเพ็ญพระราชกุศล เมื่อเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานมาประทับที่พระราชวังบางปะอิน จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 16:23:53

ความคิดเห็นที่ 77 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเลียนแบบโบสถ์ฝรั่ง ศิลปะแบบโกธิค จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 16:24:56

ความคิดเห็นที่ 78 ด้านหน้าพระอุโบสถค่ะ จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 16:27:16

ความคิดเห็นที่ 79 ภายในประดิษฐาน "พระพุทธนฤมลธรรโมภาส" เป็นพระประธาน จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 16:29:02

ความคิดเห็นที่ 80 ลวดลายการประดับตกแต่งภายใน จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 16:29:47

ความคิดเห็นที่ 81 กระจกสีสวยสดใส จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 16:32:43

ความคิดเห็นที่ 82 เจดีย์ซุ้มเรือนแก้วภายในวัด ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น เพื่อใช้บรรจุพระอัฐิพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีวิไลยลักษณ์ สุนทรศักดิกัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีวิไลยลักษณ์ สุนทรศักดิกัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี เป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวประสูติแต่เจ้าคุณพระประยูรวงศ์(เจ้าคุณจอมมารดาแพ) พระองค์ประสูติเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวยังทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อย่างไรก็ตาม พระองค์ทรงได้รับพระกรุณายกย่องพระเกียรติยศไว้ยิ่งกว่าพระเจ้าลูกเธอพระองค์อื่นหลายประการและสมเด็จพระบรมชนกนาถถึงกับรับสั่งว่าพระองค์เป็น "ลูกคู่ทุกข์คู่ยาก" พระองค์เป็นพระราชธิดาในรัชกาลที่ 5 พระองค์แรกและเป็นพระเจ้าลูกเธอ ชั้นพระองค์เจ้าในรัชกาลที่ 5 พระองค์เดียวที่ได้รับการสถาปนาให้เป็นเจ้าต่างกรมที่ "กรมขุนสุพรรณภาควดี" ซึ่งภายหลังจากการทรงกรมเพียง 1 ปี พระองค์ก็สิ้นพระชนม์ลง จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 16:36:33

ความคิดเห็นที่ 83 นาฬิกาแดด สร้างขึ้นโดย นาวาโท อัลเฟรด ลอฟตัส นายทหารอุทกศาสตร์ ราชนาวีสยาม ถวายแก่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปี พ.ศ. 2421 แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 55 21:05:08 จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 16:38:45

ความคิดเห็นที่ 84 เพิ่งเคยเห็นดอกไม้ชนิดนี้ "ชมพูพวง" ชื่อน่ารักดี จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 16:40:10

ความคิดเห็นที่ 85 หมายตาว่าจะเดินมาทางนี้ตั้งแต่ตอนนั่งกระเช้าข้ามฟาก เดินมาดูประภาคารค่ะ ได้นั่งปุ๊บก็ไม่อยากไปไหนแล้ว ลมเย็นสบาย ดูเรือวิ่งไปมาเพลินเลย เห็นเหมือนคนงานกำลังปรับปรุงพื้นที่ ไม่แน่ใจว่าจะทำเป็นสวนสาธารณะหรือเปล่า จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 16:47:20

ความคิดเห็นที่ 86 แต่แล้วก็ต้องไปต่อ รูปนี้ถ่ายตอนนั่งกระเช้าขากลับมาฝั่งพระราชวัง จากคุณ : ตัวยาว (lekatuayao) เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 55 16:48:59