ความคิดเห็นที่ 1 เตรียมตัวออกเดินทาง  !!! วันนี้ก็ขอลุยเต็มที่ค่ะ วันนี้คนเยอะมากอย่างที่คิดไว้จริงๆค่ะ ที่จอดรถไม่มีว่างเลย แต่พอหาไปเรื่อยๆก็เจอที่ว่างพอดีโชคดีมาก ข้อดีของการเดินทางด้วยรถยนต์ดีตรงที่ว่า สะดวก เดินทางได้เร็ว แต่ข้อเสียคือ ต้องหาที่จอดรถค่ะซึ่ง ช่วงงานเทศกาลแบบนี้ หายากมา แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 55 23:53:14 จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 55 23:48:46

ความคิดเห็นที่ 2 ชอบบริเวณทางเดินระหว่างไปวัดคิโยมิซุเดระมากค่ะ มีของฝากขายเต็มไปหมดเลย แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 55 23:52:53 จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 55 23:50:45

ความคิดเห็นที่ 3 ถึงวันคิโยมิซุเดระแล้วค่ะ มาถึงสถานที่จริง ใหญ่กว่าในรูปที่เห็นเยอะเลยค่ะ ตื่นตาตื่นใจมาก จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 55 23:52:01

ความคิดเห็นที่ 4 ก่อนเดินเข้าตัววัด ตรงทางเข้า จะมีสถานที่นึงค่ะ เราเห็นเขาเดินลงไปกัน ก็เกิดสงสัยเลยเข้าไปกัน คุณลุงที่ดูแลทางเข้าเล่าให้ฟัง(เท่าที่จับใจความได้นะคะ) ลุงบอกว่า เด็กทารกตอนที่อยู่ในท้องแม่นั้น กว่าจะออกมาจากท้องได้ ต้องอยู่ในความมืด พอถึงวันคลอดทารกต้องคลาดตามทางมืดออกมาเรื่อยๆ จนเจอแสงสว่างบนโลก ซึ่งถ้าเราเดินลงไปข้างในนี้เราก็จะได้สัมผัวความรู้สึกนั้นๆ แต่การจะส่งไปนั้นต้องเสียค่าเข้าด้วยค่ะ ถ้าจำไม่ผิดคนละ 100 เยน ก่อนเข้าไปต้องถอดรองเท้าออกด้วย แล้วก็เดินลงบันไดไปเรื่อยๆ ซึ่งตอนนั้นมือจะต้องจับที่ราวบันไดตลอดเวลาห้ามปล่อยนะคะ (แต่เราไม่ได้จับเลยตั้งแต่แรก ฮ่าๆ) พอเดินเข้าไปเรื่อยๆ มันก็จะมืดมากค่ะ มืดจนมองไม่เห็นอะไรเลย ตอนนั้นแอบใจสั่นค่ะ ค่อนข้างกลัวความมืด พอเดินเข้าไปซักพักจะเจอหินที่มีแสงเรืองๆออกมา ลุงบอกว่าถ้าเจอหินแล้วให้เอามือจับและอธิฐานคนละข้อ จากนั้นก็เดินออกมา รู้สึกระทึกมากค่ะ เพราะว่ามันมืดมากกกก พอออกมา เราก็ต้องตกใจ เพราะเราได้เจอพี่นัทและพี่ปุ๊ก พี่คนไทยที่เจอกันทางพันทิปนี่แหละค่ะ พวกเราสามคนนั่งเครื่องคันเดียวกัน บอกลากันที่นาริตะ แต่ไม่คิดว่าจะมาเจอกันที่เกียวโตนี้ค่ะ ดีใจมากกกกกก พี่ๆสองคนเก่งมากค่ะ เที่ยวญี่ปุ่นได้ทั้งที่พูดภาษาเขาไม่ได้ พี่นัทเขาเตรียมตัวมาดีมากกกกก นับถือจริงๆ เห็นว่าวันนี้เป็นวันพิเศษค่ะ เขาเปิดให้เข้าไปนมัสการพระพุทธรูปด้านในศาลาด้วย พวกเราเลยไปจุดเทียนวางรอบองค์พระและขอพรกัน แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 55 08:35:36 แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 55 00:14:29 จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 00:01:48

ความคิดเห็นที่ 5 ข้าวเช้าวันนี้ จบที่โซเมงค่ะ ภาษาไทยเรียกว่า หมี่เย็นหรือเปล่าก็ไม่รู้ เป็นอาหารญี่ปุ่นชนิดนึงที่เราไม่เคยคิดว่าจะกินได้เลย มันดูจืดๆยังไงก็ไม่รู้ แต่ก็ไม่รู้จะกินอะไรค่ะ มาคุงเลยสั่งโซเมงให้ลองกินดู พนักงานของร้านนำอาหารมาเสริฟให้ ชามนึงมีเส้นขาวๆเหมือนขนมจีน ในชามมีน้ำและน้ำแข็งอยู่ อารมณ์ข้าวแช่ของไทยเลย(รู้จักข้าวแช่มั้ยคะ อาหารชาวมอญค่ะ) ตอนแรกไม่อยากกินเลย มันรู้สึกยังไงก็ไม่รู้ คือเราเป็นคนค่อนข้างติดอาหารไทยค่ะ ไม่ชอบอาหารญี่ปุ่นซักเท่าไหร่ ปรากฏว่ามันกินได้มากกว่าที่คิดค่ะ แถมอร่อยด้วย กินแล้วสดชื่นค่ะ เพราะมันเย็นๆ ฮ่าๆ ดีใจที่ตัวเองมีอาหารญี่ปุ่นที่สามารถกินได้เพิ่มขึ้น ปกติเรากินได้แค่ คาราอาเกะ ,เอบิจิริ(อาหารจีน)บูตะบาระ(หมูย่าง) จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 00:07:02

ความคิดเห็นที่ 6 ตามมาเที่ยว เกียวโต ต่อค่ะ ^^ เมืองนี้ไม่ว่าจะเห็นกี่ครั้ง ดูแล้วก็ชื่นใจทุกที โซเมง น่าทานดีนะคะ     จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 00:09:24

ความคิดเห็นที่ 7 นักท่องเที่ยวกำลังเข้าแถวรอดื่มน้ำจากแม่น้ำสามสายค่ะ แต่ด้วยความที่คนต่อแถวเยอะมาก เราเลยไม่เข้าไป จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 00:12:28

ความคิดเห็นที่ 8 เจดีย์ 3 ชั้น ซันจุโนะโตะ จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 00:15:59

ความคิดเห็นที่ 9 ต่อไป เรากำลังจะไปที่ไหนเอ่ยยยยยยยยยยยย จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 00:17:51

ความคิดเห็นที่ 10 ค่ะ  พอออกจากคิโยมิซุเดระแล้ว พวกเราก็ไปศาลเจ้าเฮอันต่อค่ะ ที่ศาลเจ้าเฮอันคนน้อยมากถ้าเทียบกับ ที่แรกที่ไปค่ะ จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 00:19:10

ความคิดเห็นที่ 11 ศาลเจ้าเฮอัน ที่อยากมาเพราะมีแรงบรรดาลใจ มาจากการได้ดูไลฟ์ของน้องร้องชื่อดังที่ชื่อ มาอิ คุราอิ ค่ะ ตอนนั้นเธอมีไฟล์ที่หน้าศาลเจ้า ซึ่ง เป็นไลฟ์ที่มีแบร็คกราว์สวยมาก จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 00:22:11

ความคิดเห็นที่ 12 พื้นที่ในตัวศาลเจ้ากว้างมาก จนเราติดใจคิดว่าที่นี่คือวังเก่าหรือเปล่า ฮ่าๆ จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 00:24:05

ความคิดเห็นที่ 13 มาแล้วๆๆๆๆ จากคุณ : bk@bkk เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 00:35:56

ความคิดเห็นที่ 14 ตามมาชมด้วยคนนะคะ จากคุณ : zoozaa เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 00:39:57

ความคิดเห็นที่ 15 ตื่นมาดูทันก่อนไปทำงานเลยนะเนี่ย ขอบคุณมากๆนะค่ะ น่ารักจังเจ้าของกระทู้ แถมมีแซวให้เรามาฟังที่บ้านพร้อมพ่อแม่อีกต่างหาก 55555 ถ้าบินกลับเมืองไทยได้ก็จะไปฟังจ๊ะ จากคุณ : อิ่มพี เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 00:48:22

ความคิดเห็นที่ 16 ตามมาดู ด้วยคนจ้า กะว่าจะดูให้ครบทุกตอน เผื่อลอกการบ้านบ้าง อิอิ จากคุณ : dewproud_2915 เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 00:53:30

ความคิดเห็นที่ 17 วันนี้จบที่ศาลเจ้าเฮอันก่อนนะคะ ต้องรีบไปนอนแล้วต้องตื่นไปทำงานตี4ครึ่ง ฮ่าๆๆ จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 01:07:11

ความคิดเห็นที่ 18 คห 13 คุณ  bk@bkk ขอบคุณที่คอยติดตามนะคะ คห 14 คุณ  zoozaa ตามมาเลยค่ะ อย่างลืมทานยาคลายกล้ามเนื้อนะคะ เดินนานๆจะได้ไม่เหนื่อย(อันนี้คือเคล็ดลับที่ทำให้เราไม่ปวดเมื่อยตัวเลยทั้งๆที่ลุยหนัก ฮ่าๆๆ) คห 15 ไปเล่าให้พ่อแม่ฟังแล้วคะ พ่อแม่บอกว่าโชคดีที่เราเจอแต่คนดีๆค่ะ ฮ่า ว่าแต่คุณอิ่มพีไม่ได้อยู่เมืองไทยหรอกหรอคะ คห 16 ลอกสถานที่ไปได้ แต่อย่าลอกความเสี่ยงนะคะ  ฮ่าๆ จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 01:10:51

ความคิดเห็นที่ 19 อยู่นิวซีแลนด์ค่ะ ตอนนี้ที่นี่ก็หกโมงเช้าแล้วค่ะ นอนหลับฝันดีนะค่ะ จากคุณ : อิ่มพี เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 01:32:02

ความคิดเห็นที่ 20 ตามมาต่อค่ะ... ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ จากคุณ : ดอกโสนบานเช้า เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 09:49:10

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณที่รีวิวให้ชมครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 12:00:51

ความคิดเห็นที่ 22 เดินเข้าไปภายในตัวศาลเจ้าตรงด้านซ้ายมือ ณ หลืบที่มองไม่ค่อยเห็น มี สวนอยู่ค่ะ จะให้เรียกว่ายังไงดี สวนพฤษาชาติ ได้หรือเปล่า ด้านในเต็มไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ และลำธารเล็กๆ เดินร้อนๆมา เข้ามาในนี้เย็นสดชื่นสบายมาก แต่ต้องเสียค่าเข้านะคะ แต่จำราคาค่าเข้าไม่ได้ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ (มาคุงจ่ายให้ เลยไม่ได้จำมา ฮ่าๆ) เดินเข้ามาด้านในเรื่อยๆจะเจอโบกี้รถไฟค่ะ มันเขียนว่าเป็นรถไฟที่เก่าที่สุดในญี่ปุ่น แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 55 20:46:37 จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 20:42:00

ความคิดเห็นที่ 23 ร่มรื่นมากค่ะ จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 20:50:57

ความคิดเห็นที่ 24 ของจริงสวยกว่าในรูปนะคะ ใบไม้สีเขียวก็สวยค่ะ ถ้าเป็นตอนใบไม้เปลี่ยนสีจะสวยขนาดไหนนะ จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 20:52:55

ความคิดเห็นที่ 25 ที่นี่เหมือนศาลากลางน้ำค่ะ จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 20:54:18

ความคิดเห็นที่ 26 เดินเข้ามาที่ศาลาแล้วค่ะ จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 20:55:10

ความคิดเห็นที่ 27 มีที่ให้อาหารปลาด้วยค่ะ จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 21:05:29

ความคิดเห็นที่ 28 ด้านล่างมีทั้งปลาคาร์ฟ และเต่าเต็มไปหมดเลย จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 21:06:12

ความคิดเห็นที่ 29 "ซุยเร็น" "ซุย" ที่มีความหมายว่าน้ำ ส่วน "เร็น" มีความหมายว่าดอกบัวค่ะ แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 55 08:41:51 จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 21:07:41

ความคิดเห็นที่ 30 ไกด์ส่วนตัว หรือมาคุงนั่นเอง พาเราขับรถมาที่ย่านกิออน และไปที่ศาลเจ้ายาซากะค่ะ เนื่องจากว่าศาลเจ้านี้อยู่ในย่านกิออน ทำให้คนญี่ปุ่นมักจะเรียกศาลเจ้านี้ว่า "กิออนซัง"ค่ะ จริงๆมาคุงพูดว่า กิออนที่เราอยากไป กับ กิออนที่เขารู้อาจจะคนละแบบก็ได้ คือกิออนที่เราอยากไปคือ กิออนที่เป็นย่านเก่า ถนนสายวัฒนธรรม แต่กิออนที่มาคุงรู้จักคือ ย่านบังเทิงตอนกลางคืนที่ผู้คนไปดื่มสังสรรค์ จริงๆเราว่า ความหมายที่คิดถึงอาจจะต่างกัน แต่สถานที่เดียวกันละมั้ง จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 21:19:56

ความคิดเห็นที่ 31 แล้วก็ขอพร กันอีก จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 21:22:43

ความคิดเห็นที่ 32 หน้าศาลค่ะ กำลังจะเดินทางไปที่ต่อไป จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 21:24:11

ความคิดเห็นที่ 33 อ๊ะ ขอโทษค่ะ ลืมลงรูปจุดเด่นของศาลเจ้านี้ค่ะ โคมไฟที่ห้อยระย้าอยู่เต็มศาลเจ้าที่เห็นในภาพนี้คือสัญลักษณ์ของที่นี่ค่ะ เห็นว่าตอนกลางคืนจะเปิดโคมไฟ ซึ่งจะทำให้ดูสวยขึ้นไปอีก แต่น่าเสียดายที่เราไม่ได้อยู่ที่นี่จนถึงช่วงเวลาที่โคมไฟเปิดค่ะ จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 21:31:17

ความคิดเห็นที่ 34 อันนี้เป็นเรื่องที่มาคุงเล่าให้ฟังค่ะ ว่า เพื่อไม่ให้บดบังทัศนีย์ภาพของเมืองหลวงเก่า พวกตึก ป้ายร้านค้า จะถูกควบคุมเอาไว้ เช่นตึกจะต้องไม่สูงเกินเท่านี้นะ(ไม่รู้ว่าเท่าไหร่ค่ะ) ป้ายจะต้องไม่เด่นเกินไปนะ ค่ะ ยกตัวอย่างได้จากป้ายของ lowson ค่ะ ปกติจะคาดแทบสีฟ้าแจ่มกว่านี้ แต่ที่นี่จะมีพื้นเป็นสีขาว หรือไม่ก็ฟ้าอ่อนๆไปเลย จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 21:37:13

ความคิดเห็นที่ 35 และแล้ว เราก็เดินทางมาถึงปลายทางศาลเจ้าสุดท้ายค่ะ นั่นก็คือ ศาลเจ้าฟุชิมิอินารินั่นเอง จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 21:38:15

ความคิดเห็นที่ 36 ศาลเจ้านี้เป็นศาลเจ้าที่เราอยากมามากที่สุด เคยเห็นจากอนิเมะเรื่องโคนันค่ะ แล้วหลังจากนั้นก็มักจะฝันเห็นตลอด(ตลกอ่ะ) ตั้งใจมาตลอดค่ะ ว่าซักครั้งต้องมาที่นี่ให้ได้ จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 21:40:59

ความคิดเห็นที่ 37 ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ หรือศาลเจ้าจิ้งจอกขาว เป็นศาลเจ้าที่มีเสาโทริอิตั้งเรียงรายทอดยาวเป็นอุโมงค์ ไปจนถึงบนเขาซึ่งมีอยู่นับไม่ถ้วนค่ะ (คาดว่าคงไม่มีใครนับค่ะ ตอนแรกเรานับแล้วสุดท้ายก็ลืม เพราะคนข้างๆชวนคุย) แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 55 21:45:04 จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 21:44:32

ความคิดเห็นที่ 38 ตัวศาลเจ้าค่ะ พอพวกเราขอพรเสร็จ ก็เดินลอดอุโมงค์เสาโทริอิกันค่ะ จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 21:46:23

ความคิดเห็นที่ 39 ตอนแรกเรากะว่าจะเดินแค่พอเป็นพิธีค่ะ กลัวมาคุงจะเหนื่อย เพราะเราเป็นพวกชีพจรลงเท้าค่ะ ชอบเดินมาก แต่ปรากฏว่ามาคุงไม่เหนื่อยค่ะ แถมท้าเราให้เดินขึ้นไปด้วย จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 21:48:44

ความคิดเห็นที่ 40 ระหว่างทางจะมีจุดพักเป็นระยะๆค่ะ จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 21:49:36

ความคิดเห็นที่ 41 กว่าจะมาถึงที่นี่ เราเกือบตายค่ะ มาคุงท้าเราขึ้นมาเรื่อยๆ เราก็ตามไปเรื่อยๆค่ะ ไม่ยอมแพ้ ตอนนั้นเหนื่อยมาก เคยแข่งวิ่งมาราธอน แบกกระสอบข้าวสาร ตัดต้นไม้ เหนื่อยไหน ก็ไม่เท่าเหนื่อยในครั้งนี้เลยค่ะ หายใจไม่ออกเลยเชียว (แล้วแบบนี้จะไปปีนภูเขาไฟฟูจิได้มั้ยเนี้ย) แต่โชคดีที่มาคุงดูแลเราดีมาก ถ้ามาคนเดียวเราคงตายแน่ๆ ฮ่าๆ แม้ว่าจะเหนื่อย แต่ถึงกระนั้น เราก็ไม่ยอมแพ้ค่ะ ฮ่าๆๆๆ และแล้ว เราก็มาถึง ยอดเขา ฮ่าาาาาาาาาาาา จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 21:58:25

ความคิดเห็นที่ 43 ตอนทางเดินลง จะเดินตัวปลิวกว่าขาขึ้นค่ะ แต่เดินไปเรื่อยๆ ก็เหนื่อยอยู่ดี ตอนนั้นเท้าเริ่มเจ็บแล้วด้วย อันเนื่องจากยืมรองเท้าเตะมาคุงมาใส่แล้วไซส์ใหญ่เกิน แต่ก็ไม่ยอมแพ้ค่าาาาาา แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 55 22:02:44 จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 21:59:46

ความคิดเห็นที่ 44 ขณะที่เดินมา ก็พบกับแหล่งน้ำธรรมชาติค่ะ ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าเขาเข้าไปมุงอะไรกัร พอเข้าไปก็เห็นเหมือนน้ำไหลมาจากท่อไม้ไฝ่ค่ะ เห็นคุณลุงที่อยู่ด้านหน้าเขาเอาน้ำมาล้างหน้าล้างหัว พวกเราสองคนเลยทำตามค่ะ จริงๆแล้วเหมือนว่าจะยังมีแหล่งน้ำแบบนี้อีกค่ะ แล้วมาคุงก็อยากไปให้ครบทุกจุด แต่เขาคงเห็นว่าเราเริ่มไปไม่ไหวแล้ว ก็เลยยกเลิกค่ะ จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 22:08:59

ความคิดเห็นที่ 45 ระหว่างเดินลง เราถามมาคุงมา ถ้าไม่มากับเรามาคุงจะมาที่นี่มั้ย จะยอมมาเดินขึ้นเขาทรหดแบบนี้มั้ย เขาบอกว่า ถ้าไม่มีเรื่องอะไรที่อยากขอเป็นพิเศษก็คงไม่มาหรอก พอเขาถามเราตอบ เราก็ตอบไปมา มาสิ ต่อให้มาคนเดียวก็จะเดินขึ้นไปให้ถึงบนสุดด้วย แต่บางทีเราก็แปลกใจว่า ผู้คนมากมายทำไมถึงเดินขึ้นมาที่นี่กัน นอกจากชมวิวแล้ว ยังมีความหมายอะไรอื่นๆแฝงอยู่หรือเปล่า ถ้าจะเพื่อไปไหว้เทพเจ้า แล้วเราจะขึ้นไปทำไมเมื่อเรานับถือพุทธ สงสัยไปก็เท่านั้นเพราะยังไงเราก็ขึ้นมาแล้ว และที่สำคัญ เราไม่เสียใจเลยค่ะ ที่มาที่นี่ ฮ่าาาาา วิวนี้เป็นวิวที่ตอนขึ้นมาก็จะเห็นค่ะ แต่เราถ่ายตอนขาลงเพราะ ตอนขาขึ้นกว่าจะถึงจุดนี้ได้ เราไม่มีแรงแม้จะถือกล้องเลย ฮ่าาาาาาาา จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 22:11:29

ความคิดเห็นที่ 46 และแล้วเราก็ออกจากวัดมาได้ค่ะ นับถือมาคุงมาก เป็นคนที่แข็งแรงสุดๆ(ก็เขาชอบเล่นกีฬานี่เนอะ) เขาวิ่งขึ้นไปจนถึงยอดเขาได้อย่างสบาย ขณะที่เรา ร้องครวญครางว่าจะจาย ก่อนขึ้นรถ มาคุงซื้อน้ำชาให้เราดื่ม จู่ๆมาคุงก็พูดว่า ขาเขาปวดๆเกร็งๆ พอเขาถามว่า เราปวดขามั้ย เมื่อเราตอบว่า ไม่ เขาตกใจ พร้อมกับบอกว่า เจ็บใจจัง จริงๆแล้วคนที่แข็งแรงที่สุดไม่ใช่เขา แต่เป็นเราต่างหาก เย้！!!!!!! เราพอมีลุ้นปีนฟูจิใช่มั้ยเนี้ย ไม่สิ ต้องฝึกร่างกายอีกเยอะ จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 22:20:39

ความคิดเห็นที่ 47 ตอนแรก แพลนที่จะพาไป จะมี เกมส์เซ็นเตอร์ ,ร้านทำผม,และเดินเล่นริมแม่น้ำคาโมะ แต่ด้วยความที่ใช้เวลาไปกับศาลเจ้าฟุชิมิอินาริเยอะ ก็เลยยกเลิก 3 อย่างสุดท้ายไปค่ะ มาคุงพาเราไปกิน โอโคโนมิยากิครั้งแรกในชีวิต ก่อนที่จะพาเราไปส่งที่สถานีเกียวโต เพื่อส่งเราไป เมืองฟุคุจิยาม่า " เพื่อเที่ยวเทศกาลดอกไม้ไฟ " แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 55 08:59:48 จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 22:24:14

ความคิดเห็นที่ 48 โอโคโนมิยากิ ครั้งแรกในชีวิตเลยค่ะ ไม่เคยคิดจะกินแต่มาคุงอยากให้ลองท้าทายตัวเอง ก็เลยลองกินดู แถมเขายังให้เราสั่งเบียร์ได้อย่างไม่ยั้งซะด้วย ใจดีจริง กินได้แต่สั่งไม่เป็น ฮ่าๆๆๆ คราวหน้าไปอีกที ก็คงไม่ได้กินโอโคโนมิยากิ แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 55 09:01:35 จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 22:26:52

ความคิดเห็นที่ 49 คืนนี้มาคุง จะไปทะเลกับเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยเป็นเวลา 3 วัน ส่วนเราจะไปเมืองฟุคุจิยาม่า เมืองที่อยู่นอกเมืองเกียวโตห่างไปอีก 2ชั่วโมง ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะไม่อยู่ที่ห้อง แต่เขาก็ยอมให้เราไปพักที่ห้องเหมือนเดิมได้ค่ะ แอบตกใจนิดหน่อยที่เขาไว้ใจให้กุญแจห้องเราเข้าไปพัก ทั้งๆที่พึ่งเคยเจอกันเป็นครั้งที่2 เอง อาจจะเป็นเพราะว่าเขาเห็นว่าเราไว้ใจเขาหรือเปล่า เขาเลยไว้ใจเรา มาคุง พาเรากลับไปที่ห้องอีกครั้งเพื่อบอกลาน้องหมา เพราะเขาพาน้องหมาไปทะเลด้วย (คือกว่าเราจะกลับมา เขาก็ไม่อยู่ที่ห้องแล้ว) เขาพาเราไปส่งที่สถานเกียวโต เตรียมตัวลุยเดี่ยวอีกครั้ง!!! แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 55 09:03:25 จากคุณ : AhoUshi เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 22:32:31