ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนที่เราจะไปติดตามเรื่องราวจริงๆ ในการเดินทาง ขออนุญาตย้อนเวลากลับไปยังช่วงการวางแผนการเดินทางของผมนะครับ คือว่าในตอนนั้นผมมั่นใจแน่นอนแล้วว่าโบลิเวียคือเป้าหมายของผมแน่นอน และตอนนั้นการวางแผนเที่ยวเมือง Sucre (ชมรีวิวของเมืองนี้ได้ในตอนที่ 7 ที่ผ่านมาครับ) ไม่ได้อยู่ในหัวผมเลย ตอนนั้นผมตั้งใจจะเดินทางไปยัง La Paz จาก Potosi ทันทีโดยทางรถบัส หากใครติดตามทาง TKT ด้วยน่าจะเคยเห็นรีวิวของคุณ Sadiaa ซึ่งก็คือคุณ Princess Sadia ใน BP นี่เอง ซึ่งเดินทางในคนละทิศทางกับผม คุณเธอเองก็นั่งรถบัสกลางคืนเช่นกันครับ แต่ผมเองก็ดันกล้าๆ กลัวๆ ที่จะนั่งรถบัสตอนกลางคืนอยู่เหมือนกันครับในตอนนั้น การเดินทางจาก Potosi ไปยัง La Paz นั้นใช้เวลาทั้งสิ้น 8 ชั่วโมงโดยประมาณ และส่วนมากรถบัสก็จะออกกันแต่ตอนกลางคืนเท่านั้น ผมก็กลัวว่าหากผมหลับไป สัมภาระต่างๆ ของผมจะถูกขโมยหรือเปล่าหนอ ยิ่งในเป้ daypack ของผมมีอุปกรณ์ถ่ายภาพ บวกกับ iPad มูลค่ารวมกันก็หลายหมื่นบาทไทยอยู่ หากมันหายนี่ผมจะทำยังไงกันล่ะครับ คิดไปคิดมาก็กลุ้มใจถึงการวางแผนการเดินทางตรงจุดนี้ แต่ในที่สุดผมก็มาพบกับ Thorn Tree Forum ของเว็บไซต์ Lonely Planet โดยตรงเลยครับ ผมเลยเข้าไปสอบถามเกี่ยวกับแผนการเดินทางของผมดู ปรากฏว่ามีนักเดินทางคนนึงแนะนำให้ผมว่าแทนที่จะนั่งรถบัส ก็ให้เดินทางไปที่ Sucre แล้วขึ้นเครื่องจากที่นั่นสิ นั่นแหละครับเป็นช่วงที่ผมรวม Sucre เข้ามาไว้ในแผนด้วย เลยเป็นเหตุให้เกิดรีวิวของเราในตอนที่แล้วนี่แหละครับ ทีนี้ก็เหลือแค่ขั้นตอนการจองตั๋วเครื่องบิน แล้วเราจะบินกับใครดี? พอหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตก็พบว่าในโบลิเวียมีสายการบินให้บริการอยู่พอสมควร และสายการบินที่ใหญ่ที่สุด (ณ เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา) ก็คือ Aerosur ครับ พอลองเข้าไปดูในเว็บไซต์ของสายการบินก็พบว่ามีไฟลท์บินตรงจาก Sucre ไป La Paz อยู่จริง ตอนนั้นก็ว่าจะจองผ่านเน็ตให้มันเสร็จๆ ไป แต่มันก็ทำไม่ได้ บอกให้ไปติดต่อผ่านเอเจนต์เมื่อถึงโบลิเวียแล้ว แต่ก็นับว่าเป็นโชคดีที่ผมจองผ่านเน็ตไม่ได้ครับ เพราะสายการบินนี้เพิ่งประกาศล้มละลายไปเมื่อตอนสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี่เอง! แล้วทีนี้ผมจะบินกับใครล่ะครับ เจ้าเล็กๆ รายย่อยก็ไม่ค่อยมีข้อมูลทางเน็ตเท่าไหร่ จะให้ไปจองตอนถึงโบลิเวียเลยก็ฟังดูเสี่ยงๆ นิดนึง เลยมาเจอกับเจ้านี้ที่คนใน Thorn Tree ก็พูดถึงกันครับ ก็คือ Boliviana de Aviacion หรือที่เรียกกันย่อๆ ว่า BoA เป็นสายการบินแห่งชาติของโบลิเวียครับ แถมเว็บไซต์มันก็จองตั๋วเครื่องบินได้ด้วย แถมมีไฟลท์จาก Sucre ไป La Paz แม้จะต้องแวะที่ Cochabamba ผมก็ไม่เกี่ยงครับ นั่งหน้าจอคอมเพียงไม่กี่อึดใจผมก็ได้ตั๋วเดินทางไปยัง La Paz ในเช้าของวันที่ 13 กรกฎาคมมาจนได้ ราคาก็ตกประมาณ 70 ดอลลาร์สหรัฐครับ ซึ่งก็ถือว่าเป็นราคามาตรฐานของการนั่งเครื่องบินอยู่แล้ว จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 14:49:25

ความคิดเห็นที่ 2 ตัดฉับมายังการเดินทางของเรากันจริงๆ ดีกว่าครับ ในเช้าวันศุกร์ที่ 13 (โห แล้วผมจะเจออาถรรพ์อะไรหรือเปล่าเนี่ย...) กรกฎาคม ผมก็รีบออกจากโรงแรมของเรากันแต่เช้าไปยังสนามบินครับ ซึ่งสามารถเดินทางไปได้โดย micro (ซึ่งผมก็ขี้เกียจมานั่งหาว่าไปยังไงและขึ้นรถที่จุดไหน) หรือแท็กซี่ครับ วันนี้เรานั่งแท็กซี่ไปยังสนามบิน ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงได้ครับจากตัวเมือง ค่าโดยสารก็ 25 โบลิเวียโน่ครับ ถือว่าไม่แพงจนเกินไป พอรับได้ครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 14:51:15

ความคิดเห็นที่ 3 ที่เคาน์เตอร์เช็คอินมีผู้โดยสารมารอกันเต็มเลย จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 14:54:57

ความคิดเห็นที่ 4 หน้าตาของ boarding pass ที่ละม้ายคล้ายกับใบเสร็จเซเว่นไม่มีผิดเพี้ยน... จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 14:55:36

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าจะใช้บริการสนามบินนี้เสียค่าภาษีราคา 11 โบลิเวียโน่ได้ที่เคาน์เตอร์ภาษีสนามบิน ใกล้ๆ กับเคาน์เตอร์เช็คอินได้เลยครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 14:56:47

ความคิดเห็นที่ 6 เครื่องบินของเราครับ เลขทะเบียน CP-2552 เป็นเครื่องรุ่น Boeing 737-300 รุ่นเดียวกับหางแดงแอร์เอเชียยุคแรกก่อนใช้เครื่องแอร์บัสในปัจจุบันเลยครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 14:57:11

ความคิดเห็นที่ 7 และเพราะโบลิเวียเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในอเมริกาใต้นั่นเอง เครื่องบินลำนี้จึงไม่ใช่เครื่องบินลำใหม่แบบเช้งกระเด๊ะแบบที่ซื้อมาจากโบอิ้งโดยตรงอย่างแน่นอนครับ นี่คือเครื่องมือสอง อายุอานามก็น่าจะรุ่นน้องผมไม่เกินสิบปี สภาพภายในบอกได้เลยครับว่าเก่า บินไปไม่รู้จะตกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แอบเสียวนิดๆ อยู่เหมือนกันนะครับเนี่ย... จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 14:57:43

ความคิดเห็นที่ 8 สนามบินที่นี่ก็เล็กๆ อย่างที่เห็นนี่แหละครับ ผมว่าอาคารผู้โดยสารของสนามบินอุดรบ้านผมยังใหญ่กว่านี้อีกเลยเอ้า จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 14:58:28

ความคิดเห็นที่ 9 นี่คือ segment แรกของเราครับ เที่ยวบินที่ OB 023 SRE – CBB (Sucre – Cochabamba) นั่นเองครับ พอเครื่องขึ้นมาได้สักพัก วิวนอกหน้าต่างก็มีแต่แบบที่เห็นนี่แหละครับ ธรรมชาติหนอธรรมชาติ ไปทำอะไรกับดินแดนแถวนี้เนี่ย มันถึงได้ตะปุ่มตะป่ำสูงๆ ต่ำๆ แบบนี้นะเนี่ย มีแต่ภูเขาแบบนี้ให้เห็นกันตลอดทางเลยละครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 14:59:39

ความคิดเห็นที่ 10 อย่างน้อยก็ยังมีของให้ทานนะครับ (แต่ก็ นะ... ถ้าจะให้มาแค่นี้ อย่าให้เลยจะดีกว่ามั้ง...) จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:00:43

ความคิดเห็นที่ 11 กำลังลงแตะพื้นที่ Cochabamba แล้ว จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:01:11

ความคิดเห็นที่ 12 มาถึงสนามบิน Jorge Wilstermann ของเมือง Cochabamba กันแล้วครับ ที่นี่เองเป็นฐานใหญ่ของสายการบินนี้ครับ เครื่องส่วนใหญ่ของสายการบินนี้จึงมักจะบินมาที่นี่ Cochabamba เองก็เป็นเมืองใหญ่อันดับสามของโบลิเวียครับ รองจาก Santa Cruz de la Sierra ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของโบลิเวีย ตั้งอยู่ในเขตป่าฝนอะเมซอนเลยครับ ส่วนอันดับสองก็คือ La Paz นั่นเอง จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:01:37

ความคิดเห็นที่ 13 จริงๆ วันนี้ไฟลท์ของเราดีเลย์มาเกือบชั่วโมงครับ จากการที่เครื่องมาถึงยัง Sucre ล่าช้า แต่ดูจากตารางนี้แล้วเหมือนกับว่าไฟลท์ที่ไป La Paz OB 063 ยังรอเราอยู่ที่นี่อยู่เลย ว่าแล้วก็รีบใส่เกียร์หมาวิ่งไปยังเกทกันดีกว่าครับ เดี๋ยวไม่ทันกันพอดี ชะแว้บบ... จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:03:26

ความคิดเห็นที่ 14 หลังจากที่วิ่งกันแทบลิ้นห้อยพร้อมกับผ่านด่านตรวจ carry-on อีกรอบ ก็มาถึงหน้าเกทจนได้ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:03:41

ความคิดเห็นที่ 15 และแล้วเขาก็เรียกเราขึ้นเครื่องกันครับ ผมก็ส่องดูเครื่องบินของเรา เอ ทำไมเลขทะเบียนมันคุ้นๆ หว่า ใช่แล้วครับ เที่ยวบิน OB 063 ไปยัง La Paz ในวันนี้ก็ยังใช้เครื่องลำเดิมที่เราบินมาจาก Sucre เหมือนเดิมเปี๊ยบ อ้อ มิน่า ที่ผมคิดว่าไฟลท์ไป La Paz นี่รอผมอยู่ ที่แท้ก็ต้องรอไฟลท์ของผมจาก Sucre ด้วยนี่เอง ยังดีนะที่วันนี้ผมไม่รีบร้อนอะไรมาก เพราะได้ยินกิตติศัพท์ที่ไม่ค่อยดีของการเดินทางทางอากาศในโบลิเวียมาพอสมควร และผมเองยังจำประสบการณ์อันเลวร้ายจากทริปรัสเซียครั้งที่แล้ว ที่ผมนั่งเครื่องบินจาก Vladivostok ไปยังกรุง Moscow และเครื่องบินเสียเวลาไปกว่า 7 ชั่วโมง ซึ่งทำให้ผมเกือบตกรถไฟเที่ยวสุดท้ายไปยังเมือง St. Petersburg ได้เป็นอย่างดี บวกกับประสบการณ์ที่เลวร้ายกว่านี้ที่เพิ่งจะผ่านมาหมาดๆ อย่างการตกเครื่องร่วม 2 วันที่เกาะอีสเตอร์ (ติดตามได้ในรีวิวตอนที่ 2 และ 3 ครับ) มันเลยทำให้ผมแอบหวั่นนิดๆ กับทริปนี้เช่นกันครับ (หากสมาชิกที่อ่าน TKT ด้วยอาจคุ้นตากับรีวิวรัสเซียและทางรถไฟสาย Trans-Siberia ชุดใหญ่ 10 ตอนในชื่อ KhunWasut นะครับ ผมนี่แหละครับเจ้าของรีวิวชุดนี้เอง ) จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:04:05

ความคิดเห็นที่ 16 ตามสไตล์ของเมืองในฝั่งตะวันตกของโบลิเวียครับ ที่เมืองจะสร้างกันตามไหล่เขาแบบนี้ เป็นอะไรที่ดูเป็นเอกลักษณ์มากๆ เลยครับ คนเรานี่ก็เหลือเกิน ขนาดพื้นที่ที่ไม่น่าจะสร้างเมืองได้ง่ายๆ ก็ยังสร้างกันได้ ไม่มีอะไรที่มนุษย์เราทำไม่ได้จริงๆ ครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:04:43

ความคิดเห็นที่ 17 และนี่คือไฮไลท์ที่คนที่มาที่นี่ส่วนมากไปชมครับ นั่นก็คือ Cristo de la Concordia นั่นเอง นี่คืออนุสาวรีย์ของพระเยซูคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกครับ ใหญ่กว่า Cristo Redontor อันมีชื่อเสียงของบราซิลเสียอีก อันนี้ผมใช้กล้อง compact ถ่ายเอาครับ noise เลยกระจายอย่างที่เห็นนี่แหละครับ ซูมแบบสุดฤทธิ์เพื่ออนุสาวรีย์นี้เลยครับรูปนี้ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:05:08

ความคิดเห็นที่ 18 ออกเดินทางกันต่อเลยดีกว่า อีกไม่กี่อึดใจเดี๋ยวก็ถึง La Paz กันแล้วครับ ขณะนี้เราอยู่บนเที่ยวบินที่ OB 063 CBB – LPB (Cochabamba – La Paz) กันแล้วครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:05:36

ความคิดเห็นที่ 19 แอบหันกลับมาส่องเมือง Cochabamba กันซักเล็กน้อยกันดีกว่า จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:06:00

ความคิดเห็นที่ 20 พอเริ่มมาทางตะวันตกมากขึ้นเท่าไหร่ ภูเขาเบื้องล่างก็สูงขึ้นเท่านั้นครับ เส้นทางบินเส้นนี้น่าจะเป็นหนึ่งในเส้นทางที่สวยที่สุดในแง่ของทัศนียภาพในชีวิตของผมเลยละครับ ประทับใจจริงๆ ^_^ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:06:26

ความคิดเห็นที่ 21 เริ่มเห็นบ้านเรือนเบื้องล่างบ้างประปรายแล้วครับ คิดว่าน่าจะใกล้ถึงแล้ว จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:06:40

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นรันเวย์สนามบินในภาพนี้ไหมครับ นี่แหละครับ El Alto International Airport (LPB) ซึ่งเป็นท่าอากาศยานนานาชาติประจำเมือง La Paz ตั้งอยู่ที่เมือง El Alto ซึ่งเป็นชานเมืองของ La Paz นั่นเองครับ สนามบินนี้นับว่าเป็นสนามบินนานาชาติที่อยู่สูงที่สุดในโลกอีกด้วยครับ ที่ความสูงประมาณ 4,000 เมตรจากน้ำทะเล และที่ความสูงขนาดนี้ทำให้รันเวย์ที่นี่ต้องสร้างยาวกว่าสนามบินปกติบนระดับน้ำทะเล เอาละครับ คำถามแจกกิฟของเรามาอีกแล้วครับ หากใครตอบได้เอาไปเลยครับ 3 กิฟ เพราะเหตุใดรันเวย์ของสนามบินที่อยู่สูงๆ จึงต้องยาวกว่าปกติ (ถ้าตอบถูกคนแรกข้อนี้ให้ 1 กิฟ) และลองอธิบายหลักการทางฟิสิกส์ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องบินที่เกี่ยวข้องกันด้วยครับ (ถ้าตอบอันนี้ได้ด้วยจะให้ 3 กิฟ) ร่วมสนุกกันได้เหมือนเคยครับทุกๆ ท่าน แต่ว่า สมช. ที่เป็นนักบินหรือทำงานเกี่ยวกับการบิน น่าจะรู้ดีกว่าผมแน่นอนอยู่แล้ว ส่วนในภาพที่เห็นก็คือเขตแดนของเมืองสองเมืองครับ เมือง La Paz จะอยู่ด้านล่าง ส่วนที่อยู่บนเขาคือ El Alto ครับ ซึ่ง El Alto นั้นจะดูไม่หรูหราไฮโซเหมือน La Paz แต่ก็เป็นกงจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจโบลิเวียที่สำคัญ เนื่องจาก El Alto เป็นศูนย์รวมชาวต่างจังหวัดอพยพเข้ามาหางานทำในเมืองใหญ่อย่าง La Paz นี่แหละครับ ไม่ว่าจะที่ประเทศไหนๆ เรื่องการอพยพย้ายถิ่นฐานเข้ามาทำงานในเมืองใหญ่ก็เป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไปจริงๆ ครับ ไม่เว้นแม้กระทั่งเมืองไทยของเรา แต่อย่างไรก็ตามพวกเราไม่ควรดูถูกพวกเขาเหล่านี้เพียงเพราะเขามีฐานะด้อยกว่าเรานะครับ หากไม่มีพวกเขา กงจักรทางเศรษฐกิจก็ขับเคลื่อนต่อไปไม่ได้ เพราะจะไม่มีใครมาสร้างบ้านให้เราอยู่ ไม่มีใครมาผลิตสิ่งของให้เราใช้ ตรงกันข้ามเราควรสำนึกในบุญคุณของพวกเขาต่อชีวิตของพวกเราเสียด้วยซ้ำไปครับ  จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:07:13

ความคิดเห็นที่ 23 สำหรับที่ La Paz นี้ราคาบ้านจะขึ้นอยู่กับความสูงครับ ยิ่งอยู่ต่ำราคาบ้านยิ่งแพง เพราะอากาศดีกว่า หนาแน่นกว่า ไม่หนาวทรมานมากเท่าที่สูงๆ นั่นเองครับ คนรวยเลยชอบอยู่กันในที่ต่ำๆ ส่วนคนที่ไม่ค่อยมีเงินก็จะอยู่กันที่สูงๆ เพราะบ้านถูกกว่า แต่ก็ต้องทนทุกข์ทรมานกับสภาพอากาศที่หนาวกว่าและเบาบางกว่าอีกด้วยครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:07:48

ความคิดเห็นที่ 24 และแล้วก็ลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติ El Alto โดยสวัสดิภาพครับ เป็น landing ที่น่าประทับใจมาก มองจากรันเวย์ไปเห็นภูเขาพวกนี้เป็นฉากหลังด้วย สวดยอดดดดด!! จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:08:08

ความคิดเห็นที่ 25 มาจอดข้างกับ LAN ลำนี้ครับ คาดว่าไม่มาจาก Santiago ก็มาจาก Lima ครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:08:36

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณนะน้องบัว (BoA) ที่พาพี่มาส่งโดยสวัสดิภาพ จะว่าไปแล้วตอนนี้ผมก็เริ่มจะเวียนๆ หัวแล้วละครับ หากยังจำตอนที่แล้วได้ เมือง Sucre อยู่สูงจากน้ำทะเลเพียงแค่ 2,800 เมตรเท่านั้น แต่ที่สนามบินนี้ล่อไปซะ 4,000 เมตร และแล้วภาพความทรงจำของอาการแพ้ความสูงอันเลวร้ายตอนที่ผมอยู่ที่ Salar de Uyuni มันก็หวนกลับมาอีกครั้ง ไม่นะ ถ้าผมเป็นอะไรไปอีกรอบนี้ผมคงไม่คู่ควรกับการเที่ยวภูเขาสูงๆ แบบนี้แน่ๆ เลย ไม่นะ ขออย่าให้มันเลวร้ายเหมือนตอนนั้นเลย จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:08:54

ความคิดเห็นที่ 27 ออกมานอกอาคารผู้โดยสารก็มาเจอกับแท็กซี่ครับ ซึ่งเป็นระบบดีครับ เป็นแท็กซี่อย่างเป็นทางการที่ให้บริการจากสนามบินเข้าเมืองอยู่แล้ว สนนราคาจากสนามบินเข้าตัวเมืองก็ 60 โบลิเวียโน่ครับ ซึ่งเป็นราคามาตรฐานตามที่ผมหาข้อมูลมาก่อนแล้ว ในรูปนี้คุณโชเฟอร์ก็กำลังหิ้วกระเป๋าผมขึ้นรถพอดีเลยครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:09:13

ความคิดเห็นที่ 28 ทิวทัศน์ระหว่างทางบนมอเตอร์เวย์ที่เชื่อมระหว่าง El Alto กับ La Paz ครับ สวยงามใช้ได้เลยทีเดียว จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:09:30

ความคิดเห็นที่ 29 ในที่สุดคุณแท็กซี่ก็พาผมมาส่งถึงจุดหมายครับ ผมบอกกับคุณโชเฟอร์ตั้งแต่แรกให้มาส่งผมที่ Calle Sagarnaga (คาเย่ ซาการ์นาก้า – แปลว่า ถนนซาการ์นาก้า) ซึ่งนับได้ว่าเป็นศูนย์รวม backpacker ของที่นี่เลยก็ว่าได้ครับ สองข้างทางของที่นี่จะเต็มไปด้วยบริษัททัวร์ ร้านอาหาร และร้านขายอุปกรณ์การท่องเที่ยวและของที่ระลึกให้เห็นอยู่ทั่วไปครับ โรงแรมที่พักบนถนนเส้นนี้ก็มีมากมายให้เลือก ผมวางแผนมาตั้งแต่ก่อนมาถึงว่าจะมาหาโรงแรมแถวนี้ครับ แล้วก็ตกลงไปกับโรงแรมบนถนนเส้นนี้ที่ชื่อ Hostal Maya Inn ราคาห้องเดี่ยวคืนละ 90 โบลิเวียโน่ มีห้องน้ำในตัว พร้อมอาหารเช้าครับ แรกเริ่มเดิมทีเนี่ยผมมาที่ลาปาซว่าจะเที่ยวในเมืองซักวันนึง อีกวันก็ซื้อทัวร์ไปเที่ยวโบราณสถาน Tiwanaku ซึ่งเป็นโบราณสถานของอารยธรรมที่เก่าแก่กว่าอารยธรรมอินคาเสียอีก และเจริญรุ่งเรืองมาก่อนในแถบนี้ก่อนที่ชาวอินคาจะเข้ามาครับ แต่ตอนที่ผมไปเที่ยว Sucre เนี่ยเพื่อนที่พักอยู่โรงแรมเดียวกันเขาบอกว่าไหนๆ คุณมาถึงลาปาซแล้วคุณไม่คิดอยากลองทำทัวร์ถนนที่อันตรายที่สุดในโลกสักหน่อยหรือ ตอนแรกผมก็บอกเขาไปว่ามันจะดีเหรอคุ๊ณ ผมก็กลัวตายเหมือนกันนะ ไปปั่นจักรยานลงเขายาวๆ บนถนนที่สภาพโหดๆ แบบนั้นน่ะนะ แค่ได้ยินว่ามันอันตรายที่สุดในโลกผมก็ขวัญหนีดีฝ่อแล้ว แต่พอวันนี้ผมมาอยู่ที่ลาปาซผมก็กลับมานึกถึงบทสนทนานี้อีกครั้งหนึ่ง สุดท้ายก็เลยตัดสินใจไปซื้อทัวร์นี้มาครับ (รายละเอียดเพิ่มเติมติดตามได้ในตอนต่อไปครับ) จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:09:54

ความคิดเห็นที่ 30 หลังจากที่ผมซื้อทัวร์ถนนแห่งความตาย (เป็นอีกชื่อหนึ่งที่ใช้เรียกทัวร์นี้) เย็นวันนั้นผมก็ไม่ได้ทำอะไรมาก วันนี้ผมอยากพักผ่อนมากกว่าครับเพราะร่างกายเริ่มจะออกอาการแล้ว ไม่อยากเดินมากครับ กลัวจะเป็นอะไรไปซะก่อน นี่แหละครับสภาพภายในห้องพักของผม อาจรกสักหน่อยก็ขออภัยก็แล้วกันครับ สไตล์หนุ่มโสดก็แบบนี้แหละครับ ว่าแล้วก็แอบอยากมีใครสักคนมาเป็นเพื่อนหัวใจเหมือนกันนะครับเนี่ย จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:10:14

ความคิดเห็นที่ 31 ตื่นมาวันรุ่งขึ้นผมก็เตรียมตัวจะออกไปสำรวจเมือง พอล้วงดูในกระเป๋าเพื่อจะเอา SD Card ที่เราเอามาโอนย้ายรูปลง external harddrive เมื่อวานนี้เพื่อเอามาใส่คืนในกล้อง ปรากฏว่าไม่มีครับ รวมทั้ง external harddrive ที่ผมเอามาย้ายรูปก็หายไปด้วย ตอนนั้นผมหน้าซีด ทำอะไรไม่ถูกมากๆ คิดในใจว่าตายแล้วผม รูปที่ผมถ่ายมาก่อนหน้าวันนี้มันก็ต้องหายหมดเกลี้ยงเลยน่ะสิ เพราะผมโอนย้ายรูปทีผมลบทุกอย่างใน SD Card ทิ้งหมดซะด้วย ตอนนั้นผมวิ่งหน้าตั้งไปถามล็อบบี้ว่าเห็นของของผมหรือเปล่า เขาก็บอกว่าไม่เห็นนะ ใจเสียมากๆ เลยครับวันนี้ เลยเดินขึ้นไปกินอาหารเช้าประชดชีวิตซะหน่อย ไปเจอกับคุณแม่บ้านที่เข้ามาเตรียมอาหารเช้าให้พร้อมพอดี ผมเลยถามคุณแม่บ้านไปเป็นภาษาสเปนว่าคุณเห็นของของผมหรือเปล่า ไอ้ผมก็ไม่รู้ซะด้วยว่า external harddrive ผมจะเรียกเป็นภาษาสเปนว่ายังไงดีหว่า ก็เลยพยายามพูดๆ ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ ทันใดนั้นคุณแม่บ้านก็นึกออกพร้อมกับหายไปในห้องแม่บ้านพักหนึ่ง พร้อมกับหยิบของทุกอย่างของผมที่หายไปออกมา ผมล่ะดีใจมากๆ อยากจะกระโดดเข้าไปกอดคุณแม่บ้านคนนี้ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย คือเรื่องมันมีอยู่ว่า คืนเมื่อวานผมพยายามจะใช้โทรศัพท์เพื่อติดต่อธุระบางอย่าง แต่ผมไม่อยากทำที่ล็อบบี้ที่สัญญาณ wi-fi แรงสุด เพราะมีความลับส่วนตัวด้วย เลยมาคุยในที่ลับหูลับตาคน แล้วตอนนั้นผมก็ดันลืมของทุกอย่างไว้ตรงนั้นหมดเลย แต่คุณแม่บ้านมาเก็บเอาไว้ให้ผมครับ เลยกลายเป็นว่าโล่งอกไปครับ (แหม ถ้าหายจริงแล้วผมจะเอารูปที่ไหนมาโพสตั้งเจ็ดตอนก่อนหน้าล่ะครับ ) จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:10:32

ความคิดเห็นที่ 32 ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณแปดโมงครึ่งของวันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคมครับ ถนนแถวโรงแรมยังดูร้างผู้คนอยู่เลย จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:10:54

ความคิดเห็นที่ 33 เราเริ่มต้นออกสำรวจเมืองนี้กันเลยดีกว่าครับ! จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:11:17

ความคิดเห็นที่ 34 ก่อนอื่นขอถ่าย จขกท. ซักรูปก็แล้วกันครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:11:37

ความคิดเห็นที่ 35 พอเดินลงมาจนสุดเนินตามรูปใน คห.33 ก็มาพบกับสิ่งก่อสร้างนี้ครับ ซึ่งก็คือ Iglesia San Francisco หรือโบสถ์นักบุญฟรานซิสโกนั่นเองครับ สามารถใช้เป็นจุดอ้างอิงได้สบายๆ หากเราจะเดินเที่ยวเมืองนี้จากโรงแรมย่านถนน Sagarnaga ครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:12:03

ความคิดเห็นที่ 36 เดินลงเนินมาจากโรงแรมเรื่อยๆ จะมาเจอถนนใหญ่รถเยอะๆ อย่างในรูปนี่แหละครับ ถนนนี่มีชื่อว่า Mariscal Santa Cruz ครับ หากเราเลี้ยวขวาเราก็จะไปย่านศูนย์กลางของลาปาซซึ่งเรียกกันว่า Prado ซึ่งย่านนี้มักใช้เป็นจุดอ้างอิงของหลายๆ สิ่งของเมืองนี้ครับ หากเราหลงทาง กฎง่ายๆ ของที่นี่ก็คือให้เดินลงเนินเข้าไว้ จะสบายใจหายห่วงแน่นอนครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:12:27

ความคิดเห็นที่ 37 บรรดาพ่อค้าแม่ขายก็เริ่มเปิดร้านเตรียมรอรับลูกค้ากันแล้วครับ ในลาปาซนี่เองที่จะพบเห็นผู้หญิงพื้นเมืองแต่งกายด้วยเครื่องแบบพื้นเมืองจริงๆ แบบนี้แหละครับ สังเกตดีๆ ที่หมวกนะครับ ผมสังเกตมาหลายต่อหลายคนแล้ว หมวกมักจะไม่พอดีกับขนาดหัว ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันครับว่าทำไม แต่ใครที่ได้มาโบลิเวียแล้วมาเขียนรีวิวต้องพูดถึงเรื่องนี้กันหมดเลยอย่างแน่นอน จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:12:46

ความคิดเห็นที่ 38 เดินมาขึ้นเขาในตรอกอีกฟากครับ จุดหมายแรกของผมในวันนี้คือจุดชมวิวที่ชื่อว่า Killi – Killi ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของลาปาซครับ ดูจากแผนที่ที่ได้มาจากโรงแรมเหมือนจะไม่ไกลเลย แต่พอเดินขึ้นเนินได้สักพักก็เริ่มเหนื่อยแล้วครับ เลยตัดใจเรียกแท็กซี่ให้ขึ้นไปส่งข้างบนซะเลย ค่าโดยสารก็ 15 โบลิเวียโน่ครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:13:36

ความคิดเห็นที่ 39 ก่อนจะเรียกแท็กซี่ขอถ่ายรูปกับ micro ของเมือง La Paz ก็แล้วกันนะครับ ดูมีเอกลักษณ์ดีครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:14:17

ความคิดเห็นที่ 40 พอขึ้นมาถึงข้างบนนี่ผมลืมเหนื่อยเลยครับ วิวสวยสุดยอดมว๊ากกกกกก!! จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:14:42

ความคิดเห็นที่ 41 บ้านเรือนสร้างตามไหล่เขาแบบนี้หาได้ไม่กี่ที่หรอกครับบนโลกนี้ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:15:28

ความคิดเห็นที่ 42 โดมที่เห็นตรงกลางรูปนี้คือมหาวิหาร (Cathedral) ของลาปาซครับ อย่างที่ผมบอกไปในตอนที่แล้วว่าที่จริงแล้วลาปาซไม่ใช่เมืองหลวงของโบลิเวียหรอกครับ จริงๆ แล้ว Sucre ต่างหากที่เป็นเมืองหลวงที่แท้จริงของโบลิเวีย แต่ผู้คนมักจะคิดว่าลาปาซเป็นเมืองหลวง ซึ่งที่จริงถ้าถือว่าเมืองหลวงคือที่ตั้งของศูนย์ราชการ การที่จะเรียกลาปาซว่าเป็นเมืองหลวงก็พอจะสมเหตุสมผลอยู่บ้าง เพียงแต่ว่าอาจไม่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์เท่านั้นเองครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:15:43

ความคิดเห็นที่ 43 บ้านเรือนสภาพก็โทรมลงเรื่อยๆ ตามความสูงที่เพิ่มขึ้นครับ แต่ผมว่ารูปนี้ก็ดูแปลกตามาก เป็นภูมิทัศน์ที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิตเลย จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:16:30

ความคิดเห็นที่ 44 ผมว่านะครับ ลาปาซเป็นหนึ่งในเมืองที่มีภูมิทัศน์ที่น่าสนใจที่สุดเมืองนึงในโลกเลยก็ว่าได้ครับ คนสร้างเมืองนี่ก็ทำได้เนาะ สร้างกันไปตามไหล่เขาแทบจะทุกลูกเท่าที่มีกันเลยทีเดียว จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:16:55

ความคิดเห็นที่ 45 ภูเขาที่เห็นด้านหลังนี่นับว่าเป็น landmark ของลาปาซเลยก็ว่าได้ครับ มีชื่อว่า Illimani (อิยิมานี) ความสูงก็… เอ… ผมเก็บไว้เป็นคำถามให้กีบดีกว่าครับ ถ้าใครเดาความสูงของ Illimani ได้ใกล้เคียงที่สุดในหลักร้อยเมตรได้ (เช่น 2800, 4200 เมตร) เอาไปเลยครับสามกีบ ปิดรับคำตอบสามทุ่มวันพฤหัสตามเวลาเมืองไทยครับ ส่วนสนามกีฬาที่เห็นนั้นก็คือสนามกีฬา Hernando Siles ครับ นับเป็นสนามที่ได้รับการรับรองจาก FIFA ที่อยู่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:17:29

ความคิดเห็นที่ 46 อันนี้เป็นย่าน Sopocachi เป็นย่านที่คนมีอันจะกินอยู่กันครับ สังเกตได้จากสภาพตึกรามบ้านช่องที่ดูดีกว่าปกติพอสมควร จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:18:01

ความคิดเห็นที่ 47 ชมวิวกันจนหนำใจแล้ว ไปที่อื่นกันต่อดีกว่าครับ ตอนนี้เริ่มเกิดอารมณ์งกค่าแท็กซี่ เดินลงเอาก็แล้วกันครับ ได้ออกกำลังด้วย จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:18:30

ความคิดเห็นที่ 48 รถคันแดงๆ ที่เห็นก็คือรถ City Tour นี่แหละครับ เหมือนคุณอาตี๋อินเตอร์เน็ตจะเคยใช้บริการ แต่สำหรับผมเน้นเที่ยวเอง เดินเองครับ (แต่ในใจก็แอบมองตาปริบๆ ทำไมเราต้องมาเหนื่อยทรมานสองขาของเราด้วยหนอ) สำหรับ City Tour สามารถหาซื้อได้ตามเอเจนต์ทั่วๆ ไปบนถนน Sagarnaga เลยครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:18:56

ความคิดเห็นที่ 49 ลงมาซักพักก็มาเจอกับขบวนอะไรซักอย่าง หรือว่าผมจะเจอประท้วงปิดถนนกันแน่? จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:19:18

ความคิดเห็นที่ 50 เห็นมีนักเรียนมาเดินแบบนี้ ไม่น่าจะใช่การประท้วงหรอกครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:19:49

ความคิดเห็นที่ 51 มองตามถนนลงเนินไปครับ สวยดีเหมือนกัน จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:20:14

ความคิดเห็นที่ 52 เจอขบวนของนักเรียนอีกแล้ว ตกลงวันนี้มันวันอะไรกันแน่ครับเนี่ย!?! จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:20:40

ความคิดเห็นที่ 53 ตามมาเที่ยวต่อครับ ปล กิฟหมด ขอชมฟรีก่อนนะครับ จากคุณ : BANBONDOI เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:20:41

ความคิดเห็นที่ 54 สวัสดีครับคุณบ้านบนดอย รอติดตามชมตอนต่อไปนะครับ ผมจะปล่อยตอนต้นเดือนหน้า คาดว่ากิฟคงจะมาพร้อมกันถ้วนหน้าทุกท่านกันพอดี พอเปิดอ่าน LP ก็ถึงบางอ้อ ขบวนที่เห็นอยู่นี้เป็นขบวนพาเหรดของนักเรียนเพื่อเฉลิมฉลองวันที่การปฏิวัติประกาศอิสรภาพจากสเปนในโบลิเวียเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 16 กรกฎาคม ปีคริสตศักราช 1806 (และเป็นเอกราชอย่างเป็นทางการตอนที่มีการลงนามในหนังสือประกาศอิสรภาพที่ Sucre ที่ผมกล่าวถึงในตอนที่แล้วนี่แหละครับ) แต่วันนี้มันเพิ่งจะ 14 กรกฎาคมเองไม่ใช่เหรอ? คงเหมือนกับเมืองไทยละมั้งครับที่บางทีก็มีการเฉลิมฉลองกันก่อนวันจริง จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:21:53

ความคิดเห็นที่ 55 ผมรู้สึกว่าผมโชคดีจริงๆ ที่ได้มาที่นี่ในโอกาสแห่งการเฉลิมฉลองของชาวเมืองนี้ครับ รู้สึกอินไปด้วยจริงๆ ตอนที่อยู่เกาะอีสเตอร์ก็ทีนึงแล้วครับที่ผมอยู่ที่นั่นในวันที่คนที่นั่นเฉลิมฉลองวันของนักบุญปีเตอร์กัน จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:22:49

ความคิดเห็นที่ 56 มีผู้หลักผู้ใหญ่ของเมืองนี้มาเป็นประธานในพิธีด้วย แต่ไม่ยักกะเห็นเฮียโมราเลสเลยแฮะ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:23:14

ความคิดเห็นที่ 57 มาชมมหาวิหารแห่งลาปาซกันใกล้ๆ ก็แล้วกันครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:23:34

ความคิดเห็นที่ 58 มีวงดุริยางค์ของตำรวจมาร่วมบรรเลงด้วย จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:23:53

ความคิดเห็นที่ 59 นี่น่าจะเป็นขบวนของทหารครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:24:14

ความคิดเห็นที่ 60 พักสายตาจากขบวนพาเหรดกันสักครู่ก็แล้วกันนะครับ เพราะตรงที่ผมยืนอยู่ตรงนี้ก็คือ Plaza Murillo นั่นเองครับ ซึ่งรอบๆ จัตุรัสนี้ก็จะมีมหาวิหารที่เราเห็นกันเมื่อตะกี้ และอาคารนี้ครับ ซึ่งมีชื่อว่า Palacio Quemado ซึ่งก็คือทำเนียบประธานาธิบดีของโบลิเวียนั่นเอง จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:24:32

ความคิดเห็นที่ 61 อากาศดี เมืองสวย ฟ้าใส ประทับใจจริงๆ ครับวันนี้ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:24:55

ความคิดเห็นที่ 62 แอบถ่ายหญิงพื้นเมืองชาวโบลิเวียมาได้ด้วยครับ เหมือนพวกเขาจะรักและภูมิใจกับหมวกผิดไซส์ของพวกเขากันมากเลยทีเดียว จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:25:29

ความคิดเห็นที่ 63 ชอบภาพวิวตอนที่อยู่บนเครื่องจัง ได้เลยครับ เดือนหน้าเอากิฟมาแปะให้ครับผม จากคุณ : BANBONDOI เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:25:43

ความคิดเห็นที่ 64 ไปที่ต่อไปกันเลยดีกว่า จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:26:17

ความคิดเห็นที่ 65 แต่ขนาดเดินออกมาจากบริเวณ Plaza Murillo แล้วเราก็ยังมาเจอกับขบวนกันอีกครับ มีพาเหรดให้ดูกันตาแฉะเลยครับวันนี้ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:28:25

ความคิดเห็นที่ 66 อาชีพยอดนิยมตามเมืองใหญ่ในอเมริกาใต้ครับ หนุ่มขัดรองเท้านั่นเอง จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:28:46

ความคิดเห็นที่ 67 โรงเรียนนี้นักเรียนลงทุนแต่งชุดพื้นเมืองกันมาเลยทีเดียว จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:29:11

ความคิดเห็นที่ 68 ตามไปด้วยครับ จากคุณ : tottui เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:30:49

ความคิดเห็นที่ 69 ลองมาชมกันในรูปแบบวิดีโอกันบ้างครับ จะว่าไปแล้วขอประชาสัมพันธ์นิดหน่อยครับ ผมเองก็มีโครงการที่จะรวบรวมวิดีโอที่ผมถ่ายไว้ตลอดทริปที่อเมริกาใต้เอามาตัดต่อแล้วโพสต์ลงบน youtube ถึงตอนนั้นหากใครอยากเห็นหน้าค่าตา จขกท. คงจะได้เห็นตัวจริงกันอย่างแน่นอนครับ ฉะนั้นเตรียมตัวไว้ให้ดีก็แล้วกันนะครับแฟนคลับทั้งหลาย ผมคาดว่าคงไม่เกินสิ้นปีนี้น่าจะได้ฤกษ์ปล่อยออกมา แรงบันดาลใจในการทำวิดีโอครั้งนี้ต้องบอกเลยครับว่าได้มาจากรายการ Roaming ของคุณเรย์ แมคโดนัลด์นั่นเอง แต่คุณเรย์เค้าไปเที่ยวมีทีมงานช่างกล้องพร้อม แต่ผมนี่สิครับ ไปก็ไปคนเดียว ไม่มีคนไปด้วย ผมเลยต้องเป็นทั้งผู้ดำเนินรายการเอง เป็นทั้งช่างกล้องเอง ถ่ายตัวเอง แถมยังต้องมาตัดต่อเองอีกต่างหาก ฉะนั้นอาจมีบางคลิปที่มีหลุดเฟรมบ้างก็อย่าว่ากันเลยครับ ก็ผมทำเองทุกอย่างนี่หน่า แล้วการถ่ายวิดีโอตัวเองด้วยตัวเองคนเดียวนี่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยครับ ยังไงก็พบกับตัวอย่างที่ไม่ได้ตัดต่อในตอนต่อๆ ไปก็แล้วกันครับ เป็นการแพลมๆ ให้ดูกันไปก่อนครับ (สามารถรับชมได้ในแบบ HD 1080p ครับ ) แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 55 15:32:44 จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:31:41

ความคิดเห็นที่ 70 สวัสดีครับคุณ tottui ตามมาชมกันต่อครับ เดินมาอีกหน่อยก็มาพบกับตรอกเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนสมัยอาณานิคมแห่งนี้ ที่นี่คือ Calle Jaen ครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:35:13

ความคิดเห็นที่ 71 คนที่ชอบตึกรามบ้านช่องเก่าๆ ไม่ควรพลาดถนนแห่งนี้ครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:35:38

ความคิดเห็นที่ 72 กลับมาเจอกับถนนสายหลักที่ผมกล่าวถึงในตอนแรกครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:35:55

ความคิดเห็นที่ 73 เดินมากันต่อ ขึ้นเนินอีกประมาณ 15 นาทีก็มาถึงสถานีรถบัสครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะมาจองตั๋วรถบัสที่นี่หรอกครับ แต่ที่มาที่นี่ก็เพราะอยากจะมาดูสถาปัตยกรรมที่ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังชาวฝรั่งเศส นั่นก็คือ กุสตาฟ ไอเฟล คนเดียวกับที่ออกแบบหอไอเฟลในกรุงปารีสนั่นแหละครับ แต่ทำไมผมว่าดูยังไงมันก็ไม่ค่อยจะคล้ายกับหอไอเฟลซักเท่าไหร่เลย หรือว่าหัวทางสถาปัตยกรรมของผมมันจะไม่มีกันแน่... จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:36:18

ความคิดเห็นที่ 74 เนื่องจากเป็นโอกาสเฉลิมฉลองเลยมีธงชาติโบลิเวียและธงของเมืองลาปาซขายกันให้คนเอาไปประดับตามบ้านเรือนครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:36:52

ความคิดเห็นที่ 75 น้ำส้มคั้นสดๆ ข้างถนนครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:37:26

ความคิดเห็นที่ 76 ไหนๆ ก็มาเดินข้างถนนแล้ว ก็มาหาอะไรข้างถนนกินกันดีกว่าครับ ที่เห็นขายอยู่ตรงนี้ก็คือ empanada นั่นเองครับ (แต่จากการสอบถามป้าคนขายเห็นแกเรียกมันว่า Tucumana) ซึ่งก็เหมือนกับพายนั่นแหละครับ ข้างในจะเป็นไส้อะไรก็ตามแต่เราจะเลือกเลยครับ มีทั้งไส้ไก่ ไส้เนื้อ หรือไส้ไข่ และมีซอสให้ราดกินกันตรงรถเข็นนั่นแหละครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:39:16

ความคิดเห็นที่ 77 ท้องมันก็เริ่มร้องแล้ว ผมก็ขอสอยไส้ไข่มาซักชิ้นก็แล้วกันครับ ร้อนๆ มาเลยทีเดียว สนนราคาก็แค่ 3 โบลิเวียโน่เท่านั้นเอง ถูก อิ่ม และอร่อยใช้ได้เลยครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:39:44

ความคิดเห็นที่ 78 เสร็จแล้วเราก็เดินย้อนกลับมาแถวโรงแรมเพื่อมาชมที่นี่ครับ ตลาดแม่มด (Witches Market) นั่นเอง ที่นี่ก็จะขายวัตถุจำพวกเครื่องรางของขลังตามความเชื่อของคนท้องถิ่นครับ โบลิเวียเองก็เป็นประเทศที่มีชาวพื้นเมืองดั้งเดิมในสัดส่วนที่สูงที่สุดในอเมริกาใต้ เพราะฉะนั้นความเชื่อดั้งเดิมจึงยังมีอิทธิพลอยู่มากในวัฒนธรรมของที่นี่ครับ ที่เห็นๆ ขายอยู่นี่ก็มีพวกลูกกรอกตัวยามา (หยึยยยย) หรือน้ำมันลามะ อะไรพวกนี้ครับ คนก็เชื่อกันว่าจะนำโชคลาภมาให้ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:40:09

ความคิดเห็นที่ 79 แต่ผมคงไม่ซื้อหรอกนะครับ ลูกกรอกตัวยามะ หยึยยย นึกภาพตามก็สยองแล้วครับ... จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:40:38

ความคิดเห็นที่ 80 เดินย้อนกลับมายังถนนใหญ่เส้นเดิมอีกครั้ง คราวนี้ผมเลี้ยวขวาไปยังย่านที่เรียกว่า Prado ครับ ระหว่างทางก็พบกับทางแยกที่ดูเหมือนจะนำไปสู่ภูเขา Illimani ที่ดูเด่นเป็นสง่าเหนือขอบฟ้าของนครแห่งนี้ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:41:22

ความคิดเห็นที่ 81 คุณพี่ตำรวจคนนี้น่าจะกำลังเขียนใบสั่งอยู่ อย่ามาจับผมก็แล้วกันนะครับ ไม่อยากติดคุกขี้ไก่โบลิเวีย... จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:41:38

ความคิดเห็นที่ 82 และนี่แหละครับอนุสาวรีย์ของ Simon Bolivar นักปฏิวัติแห่งอเมริกาใต้ผู้โด่งดัง ตอนนี้เราพ้นจากเขตถนน Mariscal Santa Cruz มายังถนน 16 de Julio กันแล้วครับ ซึ่งทางเดินกลางถนนเส้นนี้นี่เองที่คนมักจะชอบเรียกกันว่า “El Prado” นี่แหละครับคือใจกลางของนครแห่งนี้ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:41:59

ความคิดเห็นที่ 83 ดูไปดูมาย่านนี้ก็ไม่ค่อยต่างอะไรไปกับเมืองใหญ่อื่นๆ ในโลกนี้เท่าไหร่นักหรอกครับ มีถนนกว้างๆ และเกาะกลางที่ประดับประดาอย่างสวยงาม จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:44:46

ความคิดเห็นที่ 84 อนุสาวรีย์ของเฮียโคลัมบัส ผู้ค้นพบโลกใหม่นั่นเองครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:45:04

ความคิดเห็นที่ 85 เดินมาจนสุดถนนสายนี้ที่ Plaza del Estudiante ก็นับเป็นอันเสร็จสิ้นทัวร์นครลาปาซฉบับย่อของผมแล้วละครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:45:35

ความคิดเห็นที่ 86 ในตอนหน้านี้ผมอยากให้ทุกท่านติดตามกันอย่างตาไม่กะพริบครับ เพราะมันคือรีวิวที่ผมค่อนข้างมั่นใจว่าไม่เคยมีมาก่อนตามเว็บท่องเที่ยวของเมืองไทยอย่างแน่นอน เพราะมันคือรีวิวการปั่นจักรยานเสือภูเขาบนถนนที่ได้ชื่อว่าอันตรายที่สุดในโลก ประสบการณ์จะเป็นอย่างไรนั้น ขอให้ติดตามกันได้ในตอนต่อไปครับ รับประกันความโหด มันส์ ฮาตามที่หัวกระทู้ผมจั่วเอาไว้อย่างแน่นอนครับ ขอลาและสวัสดีไว้เพียงเท่านี้ครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:45:56

ความคิดเห็นที่ 87 ตามมาชมต่อค่ะ จากคุณ : armearn เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 15:56:21

ความคิดเห็นที่ 88 เดาว่าที่รันเวย์สนามบินยาวกว่าปกติ เพราะสนามบินอยู่บนเขา ซึ่งไม่ใช่ทางตรงทั้งหมด อาจมีทางราบ ทางขึ้นๆ ลงๆ เข้ามารวมด้วย จึงต้องขยายความยาวของรันเวย์เพิ่มขึ้นครับ แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 55 16:35:53 จากคุณ : tottui เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 16:35:12

ความคิดเห็นที่ 89 ฮ่วย บ่ ทัน ใด๋ ฮอด ตอน 8 แล้ว ซำ ติ ป้าด บ่ ได้ อ่าน มา 2 ต่อน แล้ว โต่ แวะ ไป่ อ่าน ก่อน เด้อ ครับ 555 จากคุณ : บารอนก๊อง เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 17:41:21