ความคิดเห็นที่ 1 ตลาดน้ำ หมายเลขตามแผนที่  :  45 ประเภทสิ่งก่อสร้าง : รื้อถอนมาปลูกสร้าง สำหรับคนที่เคยมาเที่ยวเมืองโบราณ “ตลาดน้ำ” เป็นที่ๆ รู้จักกันดี และมักไม่พลาดเยี่ยมชมแน่ๆ กันอยู่แล้ว เพราะนอกจากบ้านเรือนริมน้ำที่สวยงาม บรรยากาศที่สัมผัสได้ถึงวิถีชีวิตในอดีตแล้ว ยังเป็นแหล่งขายอาหาร ขนม เครื่องดื่มให้เลือกมากมาย โดยเฉพาะถ้าเลือกที่นี่เป็นจุดพักแวะทางอาหารมื้อกลางวัน น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจจริงๆ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:28:26

ความคิดเห็นที่ 2 นอกจากนั้นตลาดน้ำยังมีความสำคัญในแง่ของเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ทำให้เมืองโบราณ แปรสภาพจากเมืองจำลอง ก้าวเข้าสู่การเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งอย่างสมบูรณ์ เพราะเมื่อครั้งมีการเริ่มสร้างตลาดน้ำ คุณเล็กผู้สร้าง ได้ลงมือศึกษา จากทั้งรูปวาด รูปถ่ายเก่าๆ ในสมัยรัชการที่ 4 รวมถึงเดินทางไปชมเมืองริมน้ำที่มีมาแต่โบราณ และยังคงอยู่ในปัจจุบัน จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:28:59

ความคิดเห็นที่ 3 จนเกิดความประทับใจ โดยเฉพาะไปสะดุดตากับบ้านเรือนแถวจังหวัดตาก จึงเปลี่ยนจากเดิมที่ต้องการสร้างบ้านเรือนจำลองสภาพความเป็นอยู่ของผู้คน เป็นการรื้อถอนบ้านเรือนเก่าจริงๆ มาปลูกสร้าง และกลายเป็นเมืองลอยน้ำอย่างที่เราเห็นกันทุกวันนี้แทน จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:29:25

ความคิดเห็นที่ 4 ข้อดีของตลาดน้ำที่สัมผัสได้ทันทีที่ย่างก้าวเข้าไป คือ “บรรยากาศ” มีลมโชยพัดผ่านน้ำมากระทบหน้าให้ได้สัมผัสกับความเย็นกันบ้าง แม้วันที่อากาศร้อนจัดแค่ไหน พอจะลดอุณหภูมิในร่างกาย ให้เหงื่อแห้งลงบ้าง แต่ถ้าไปช่วงแดดร่มลมตกแล้วละก็... ความสุนทรีย์จะยิ่งเพิ่มทวีคูณเลยครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:29:52

ความคิดเห็นที่ 5 ส่วนบรรดาสินค้า และอาหารมีให้เลือกหลากหลาย ในบรรยากาศของร้านเก่าบ้าง เรือพายบ้าง ทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลายไปได้เยอะเลย จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:30:19

ความคิดเห็นที่ 6 จะนั่งรอริมน้ำรอดักเรือขายอาหารต่างๆที่มีพายผ่านหน้าเราไป หรือเพียงแค่นั่งมอง ซึมซับเอาบรรยากาศก็ได้เช่นกันนะครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:30:50

ความคิดเห็นที่ 7 วันที่ผมไป ตะลุยถ่ายรูป ตะลุยเที่ยวกันจนท้องร้อง แวะร้านขายอาหาร เท่าที่เช็คดูราคาถือว่าแพงจากข้างนอกนิดหน่อย แต่ไม่ได้แพงเวอร์จนรับไม่ได้ ออกจะถูกกว่าที่คาดไว้ด้วยซ้ำ ของผมไก่ผัดพริกแกง อร่อยเชียวนะคร้าบ... จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:31:15

ความคิดเห็นที่ 8 หรือจะเป็นส้มตำมาแกล้มซะหน่อย จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:32:06

ความคิดเห็นที่ 9 ส่วนของเพื่อนก็น่าตาน่ากินเหมือนกันครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:32:42

ความคิดเห็นที่ 10 ปิดท้ายด้วยยำตะไคร้ หน้าตาดูจืดๆ และรสชาติไม่จัดจ้านเท่าไหร่ เลยไม่ค่อยถูกใจ คิดเงินมา รวมน้ำชามะนาวอีกสองแก้ว ถ้าจำไม่ผิดประมาณ 300 กว่าบาท สำหรับสองคน 1 มื้อ ราคาโอเค ไม่โหดอย่างที่คิดนะครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:33:07

ความคิดเห็นที่ 11 กินข้าวเสร็จ ลองเดินหามุมสงบ นั่งรับลม จะเหยียดแข้งเหยียดขา พอให้หายเหนื่อย ก่อนจะเดินเที่ยวต่อกันนะครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:33:26

ความคิดเห็นที่ 12 อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าบริเวณตลาดน้ำไม่เป็นเพียงแค่ตลาด แต่นับว่าเป็นเมืองลอยน้ำซะมากกว่า เพราะมีสิ่งให้เดินชมมากมายหลากหลาย ทั้งบ้านเรือนร้านค้า ศาสนสถานต่างๆ อย่างโบสถ์คริสต์ในภาพ ที่เป็นเรือนไม้ ดูสวยแปลกตา จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:33:55

ความคิดเห็นที่ 13 ด้านในโบสถ์ ที่มีทั้งความสงบ ขรึม ขลัง ยังสามารถชมงานก่อสร้าง งานไม้แกะสลักสวยๆ ได้อีกด้วย จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:34:15

ความคิดเห็นที่ 14 มองภาพมุมกว้างๆ เพื่อมองบรรยากาศโดยรวม เหมือนหลุดไปในเมืองลอยน้ำเมื่อครั้งอดีต สัมผัสชีวิตที่เรียบง่าย และแสนสงบ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:34:44

ความคิดเห็นที่ 15 ภาพแกะสลักวิจิตรหาชมได้ทั่วบริเวณตลาดเลยครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:35:06

ความคิดเห็นที่ 16 เจดีย์ยอดทรงดอกบัว หมายเลขตามแผนที่  :  48 ประเภทสิ่งก่อสร้าง : สร้างขึ้นใหม่จากสถานที่จริง เจดีย์ที่มียอดเป็นทรงดอกบัวแบบนี้ถือเป็นลักษณะเด่นของศิลปะสุโขทัย ที่เรียกว่าทรงพุ่มข้าวบิณฑ์นั่นเองครับ ซึ่งนอกจากพบได้ในเขตเมืองสุโขทัยและศรีสัชนาลัยแล้ว ยังพบตามหัวเมืองต่างๆ ที่เคยตกอยู่ภายใต้อาณาจักรสุโขทัยด้วย อย่างเจดีย์องค์นี้เป็นการย่อส่วน 1 ใน 3 จากเจดีย์ที่ตั้งอยู่บนดอยช้าง จ.ตาก มีการสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสาวรีย์ ที่พ่อขุนรามคำแหงสร้างเมื่อครั้งการชนช้างชนะขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด ในสมัยต่อมาจึงเรียกว่า “เจดีย์ยุทธหัตถี” จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:35:33

ความคิดเห็นที่ 17 สวนพระลอ จ.แพร่ หมายเลขตามแผนที่  :  52 ประเภทสิ่งก่อสร้าง : สร้างขึ้นจากองค์ความรู้ใหม่ รูปปั้นสีขาวตั้งอยู่ใต้ต้นไม้บรรยากาศร่มรื่นนี้ สร้างขึ้นตามวรรณกรรม ลิลิตพระลอ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่นำโครงเรื่องมาจากนิทานพื้นบ้านของเมืองแพร่ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:36:01

ความคิดเห็นที่ 18 เรื่องราวของความรัก ความแค้นของสงคราม ที่หลายคนคงผ่านหูกันมา เริ่มเรื่องจากการทำสงครามของสองเมืองคือเมืองแมนสรวง กับเมืองสรวง จนเป็นเหตุให้ทั้งสองเป็นคู่อริกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อถึงรุ่นลูก ในขณะเรื่องดำเนินไปเมื่อพระลอราช ขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งเมืองแมนสรวง และมีพระสิริโฉมงดงามจนเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว จนได้ยินไปถึงพระเพื่อนแก้ว และพระแพงทอง ธิดาให้เมืองสรอง ประกอบกับพระลอโดนเสน่ห์ที่ปู่เจ้าสมิงพรายทำขึ้น และเสกไก่แก้วล่อพระลอมายังเมืองสรอง จนทำให้พระลอ และพระเพื่อน พระแพง ได้พบ และเกิดความรัก ก่อนจะโดนทหารเมืองสรองล้อมและแผลงศรจนเสียชีวิตทั้งสามองค์ จบแบบโศกนาฏกรรมตามคำมั่นที่พระเพื่อนพระแพง ได้เคยสาบานไว้จะเป็นศัตรู และล้างแค้นเมือนสวรวง หากผิดคำจะต้องตายด้วยคมของอาวุธนั่นเอง ฟังเรื่องราวและโทนเรื่องออกจะคุ้นๆ นะครับ แนวโรมิโอแอนจูเลียตนี่ถือเป็นเค้าโครงเรื่องที่สากลจริงๆ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:36:29

ความคิดเห็นที่ 19 บริเวณใกล้กันนั้น มีศาลาสีเขียวตั้งอยู่กลางลานหญ้า ไว้ให้นั่งพัก นั่งชมความงาม ซึมซับเรื่องราว และความชุ่มชื้นของต้นไม้ใบหญ้า และสระน้ำใกล้ๆ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:37:04

ความคิดเห็นที่ 20 หอคำ จ.ลำปาง หมายเลขตามแผนที่  :  53 ประเภทสิ่งก่อสร้าง : สร้างขึ้นใหม่จากสถานที่จริง เป็นที่อยู่ของเจ้าพ่อครองนครลำปางสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ น่าเสียดายที่องค์จริงได้ถูกรื้อลงไปนานแล้ว เมืองโบราณจึงได้ทำการศึกษาจากรูปถ่าย และคำบอกเล่าของผู้อยู่ร่วมสมัย และสร้างตามแบบฉบับของศิลปะทางเหนือจริงๆ เราจึงเห็นอาคารสีแดงสลับทองที่สวยงามสมกับชื่อหอคำ ที่แปลว่าหอทองคำนั่นเองครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:37:30

ความคิดเห็นที่ 21 วัดจองคำ .ลำปาง หมายเลขตามแผนที่  :  55 ประเภทสิ่งก่อสร้าง : ผาติกรรม สถานที่ในเมืองโบราณแห่งนี้มีความน่าสนใจนอกจากความงามของศิลปะแล้ว คือประวัติความเป็นมาครับ เพราะเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ผาติกรรม คือการรื้อของเดิมมาสร้างใหม่ เดิมตั้งอยู่ที่ อ.งาว จ.ลำปาง เป็นวัดของไทยใหญ่ที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นอาคารไม้สักทั้งหลัง ไม่ส่วนที่เป็นอิฐหรือปูนผสมเลย จึงถือว่าเป็นศิลปะไทยใหญ่แท้ๆ และดั้งเดิม ตอนที่คุณเล็กพบครั้งแรกเกิดความประทับใจในความงาม และเสียดายหากต้องปล่อยให้พังลง จึงขอกับทางวัดเพื่อผาติกรรมมาไว้ที่เมืองโบราณ เริ่มแรกผู้ดูแลก็ยินยอมด้วยดี แต่เมื่อส่งช่างไปทำผังเพื่อเคลื่อนย้าย ได้ถูกต้อต้านจากท้องถิ่นพร้อมทั้งเสนอว่าจะปฏิสังขรณ์เอง คุณเล็กแม้จะเสียดายแต่ก็ยินดี เพราะเห็นว่าหากคนท้องถิ่นบูรณะและดูแลมรดกทางวัฒนธรรมย่อมเป็นสิ่งดี แต่หลังจากนั้นผ่านไปนาน ก็ยังไม่มีความพร้อมที่จะบูรณะ ทางวัดเห็นว่าหากปล่อยนานไปจะทำให้พังลงมา จึงแจ้งมายังคุณเล็กอีกครั้ง จนทำให้เราได้ชมงานศิลปะไทยใหญ่ที่เมืองโบราณแห่งนี้ ในปัจจุบันนี้นี่เอง จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:38:01

ความคิดเห็นที่ 22 เมื่อเข้าไปสู่ภายในอาคาร จะได้พบความเย็นตามธรรมชาติขิงอาคารไม้ ที่สำคัญเงียบสงบดีจริงๆ ลวดลายเขียนสี แกะสลัก ทรวดทรงแปลกตา ที่ลักษณะผสมผสานระหว่างไทยกับพม่า ทำให้เพิ่มรสชาติของการเยี่ยมชมเมืองโบราณได้ดีจริงๆ นะครับ อย่างบนเพดาน มีลวดลายเขียนสีให้ได้ชม จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:38:21

ความคิดเห็นที่ 23 ของประดับตกแต่งต่างๆ บอกเล่าประวัติความเป็นมา ที่ผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนาน จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:38:41

ความคิดเห็นที่ 24 พระพุทธรูปไม้แกะสลัก ที่ลักษณะงดงาม จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:39:05

ความคิดเห็นที่ 25 พระพุทธรูปตามลักษณะของไทยใหญ่ สีทองอร่าม และแกะสลักอย่างวิจิตร เหมาะจะเข้าไปสักการะ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรพลาด เมื่อมาเยือนเมืองโบราณนะครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:39:22

ความคิดเห็นที่ 26 วิหารวัดเชียงของ หมายเลขตามแผนที่  :  58 ประเภทสิ่งก่อสร้าง : ผาติกรรม ตามธรรมเนียมการสร้างวัดของวัฒนธรรมภาคเหนือจะให้ความสำคัญกับวิหารมาก เพราะเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปประธาน ซึ่งชาวบ้านจะเข้าไปกราบไหว้บูชา ต่างจากโบสถ์ที่จะเน้นที่การปฏิบัติกิจสงฆ์มากกว่า ซึ่งต่างจากวัฒนธรรมไทยภาคกลางหรือภาคอื่นๆ ที่หึความสำคัญกับโบสถ์มากกว่า วิหารวัดเชียงของ อ.เชียงของ จ.เชียงรายแห่งนี้ คุณเล็กได้พบเข้าตั้งแต่พื้นที่นี้ยังเต็มไปด้วยคอมมิวนิสต์อยู่ และอยู่ในสภาพทรุดโทรม ทางวัดกำลังรื้อถอนเพื่อสร้างหลังใหม่ แต่ด้วยรูปทรงเป็นเอกลักษณ์ และสร้างขึ้นจากภูมิปัญญาชาวบ้านอันชาญฉลาด ทุกส่วนเข้าเครื่องไม้ หลังคามุงด้วยกระเบื้องไม้ ที่สำคัญไม่มีเหล็กหรือตะปูเป็นเครื่องยึดเลยแม้แต่ดอกเดียว จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:40:19

ความคิดเห็นที่ 27 โบสถ์น้ำ หมายเลขตามแผนที่  :  59 ประเภทสิ่งก่อสร้าง : ผาติกรรม และคราวเดียวกันที่ไปพบวิหารเชียงของ นังพบอาคารไม้รูปสี่เหลี่ยมที่ได้ถูกรื้อลงมากองไว้แล้ว สอบถามได้ว่าอาคารเดิมสร้างไว้กลางน้ำ หรือชาวบ้านเรียกว่าโบสถ์น้ำ เพื่อรักษาภาพของต้นฉบับเดิม ทางเมืองโบราณจึงได้ขุดเป็นสระเล็กๆ เพื่อตั้งโบสถ์หลังนี้ ใกล้กับวิหารเชียงของนั่นเองครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:40:44

ความคิดเห็นที่ 28 หมู่บ้านไทยภาคเหนือ หมายเลขตามแผนที่  :  60 ประเภทสิ่งก่อสร้าง : รื้อถอนมาสร้างใหม่ ด้วยความที่คุณเล็กสนใจเรือนโบราณที่มีกาแลในแถบเชียงใหม่ และลำพูนมาก อันเป็นลักษณะพิเศษของบ้านทางเหนือ ซึ่งยังมีอยู่มากมายในสมัยก่อนนั้น จึงเข้าไปซื้อและรื้อถอนมาสร้างไว้เป็นหมู่บ้านไทยภาคเหนือแห่งนี้ โดยทุกครั้งที่จะมีการรื้อถอนคุณเล็กจะเข้าไปคุยกับเจ้าของบ้าน ว่าอยู่กินกันแบบไหน เพื่อให้สามารถถ่ายถอดออกมาให้ใกล้เคียงที่สุด ให้เหมือนกับมีคนอาศัยอยู่จริง เพราะถือว่า “ไม่ควรเอาไปแค่วัตถุ แต่ต้องเอาคนไปด้วย” จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:41:05

ความคิดเห็นที่ 29 เมื่อเข้าไปสู่หมู่บ้านแห่งนี้ เราจะได้ยินเสียงเพลงล้านนาขับกล่อมตลอดเวลา ต้นไม้ถูกปลูกไว้รายรอบบ้าน ให้ได้รับบรรยากาศบ้านเรือนแบบย้อนยุคจริงๆ ครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:41:33

ความคิดเห็นที่ 30 ดอกไม้สีสวย อยู่รอบๆ บ้าน เดินชมได้เพลินดีจริงๆ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:41:52

ความคิดเห็นที่ 31 หรือผลไม้บ้านๆ ที่ไม่ได้เห็นต้นมะยมแบบนี้นานแล้ว นึกถึงสมัยก่อนบ้านที่ต่างจังหวัดมีแบบนี้เลย เริ่มโหยหาอดีตแล้วละผม .... จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:42:16

ความคิดเห็นที่ 32 บนบ้านก็ได้รับการจัดวางของใช้ ห้องหับเหมือนมีการอยู่อาศัยกันจริงๆ นั่งพัก นอนพักแถวๆ นี้แบบสุขใจเลยครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:42:37

ความคิดเห็นที่ 33 วิหารวัดภูมินทร์ จ.น่าน หมายเลขตามแผนที่  :  62 ประเภทสิ่งก่อสร้าง : สร้างขึ้นใหม่จากสถานที่จริง เมืองโบราณสร้างจากวัดภูมิมินทร์หรือเดิมที่เรียกว่าวัดพรหมมินทร์ โดยย่อสัดส่วน 2 ใน 3 โดยองค์จริงสร้างโดยเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ ตั้งแต่ราว พ.ศ. 2319 เป็นวิหารทรงจัตุรมุข มีซุ้มประตู 4 ทิศ ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังแสดงความเป็นอยู่ของชาวเมือง และคติทางศาสนาที่น่าชมมากครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:43:07

ความคิดเห็นที่ 34 ลวดลายแกะสลักที่บานประตู ทั้งสีทอง ทั้งลวดลายสวยงามน่าชมจริงๆ ครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:43:34

ความคิดเห็นที่ 35 ตรงกลางของวิหารประดิษฐานพระประธานเป็นพระปางมารวิชัยจำนวน 4 องค์ พระปฤษฎางค์ชนกันและหันพระพักตร์ไปทั้ง 4 ทิศ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่เราไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนัก จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:43:56

ความคิดเห็นที่ 36 เสาทุกต้นภายในลวดลายสวยงาม จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:44:36

ความคิดเห็นที่ 37 สวยมากๆเลยค่ะ กิฟหมดแล้วติดไว้ก่อนนะคะ จากคุณ : armearn เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:44:47

ความคิดเห็นที่ 38 เข้าไปไหว้พระเสร็จ ชมพระพุทธรูปใกล้ๆ สวยงามแปลกตาดีนะครับ และถือเป็นการสั่งลาเมืองโบราณของโซนภาคเหนือที่วัดภูมินทร์แห่งนี้ หลังจากนี้เราจะเข้าสู่โซนภาคอีสานกันแล้วละครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:44:58

ความคิดเห็นที่ 39 armearn ...ไม่เป็นไรค้าบ แวะมาก็ดีใจแล้ว รีวิวแบบเงียบๆ คนเดียวเลยครับ พระเจดีย์ศรีสองรักษ์ จ.เลย หมายเลขตามแผนที่  :  63 ประเภทสิ่งก่อสร้าง : สร้างขึ้นใหม่จากสถานที่จริง พระเจดีย์ศรีสองรักองค์จริง ตั้งอยู่ริมน้ำหมัน อ.ด่านซ้าย จ. เลย เป็นสัญลักษณ์แทนความสำพันธ์อันดีของบ้านพี่เมืองน้อง ไทย-ลาว ในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิแห่งกรุงศรีอยุธยา และพระไชยเชษฐา แห่งอาณาล้านช้าง รวมทั้งเป็นแนวกันเขตแดนของสองอาณาจักรไปในตัวอีกด้วย จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:46:06

ความคิดเห็นที่ 40 โอ้ววว รีวิวซะไวเชียว ต้องรีบมาทักทายก่อนอ่าน ถ้าตามอ่าน สงสัยรีเฟรชอีกทีคุณเดี่ยวอาจจะรีวิวจบไปแล้ว จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:46:31

ความคิดเห็นที่ 41 ยมกปาฏิหาริย์ หมายเลขตามแผนที่  :  63 ประเภทสิ่งก่อสร้าง : สร้างขึ้นจากองค์ความรู้ใหม่ เป็นสิ่งก่อสร้างที่อ้างอิงมาจากเรื่องราวในพุทธประวัติ เนื่องจากพระพุทธเจ้าได้ประทานเมล็ดมะม่วงให้นายคันธะปลูก ด้วยพุทธานุภาพทำให้มะม่วงต้นนี้งอกงามดี ออกผลดก รสดี เป็นที่พึงใจของคนทั่วไป ต่อมามีพวกมารศาสนาพากันโค่นต้นมะม่วงทิ้ง จึงเกิดเป็นยมกปาฏิหาริย์ จนโลกเกิดมหัศจรรย์หวั่นไหว และพระองค์ก็ทรงแสดงธรรมเทศนาโปรดสัตว์นั่นเอง จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:46:37

ความคิดเห็นที่ 42 Coffee Blended ...ขอบคุณที่แวะมาค้าบบบ.. แอบรีบเสร็จแล้วเก็บของกลับบ้านพอดี อิอิ ระหว่างทางที่ปั่นจักรยานต่อ เก็บภาพเจดีย์สีขาวสวยตั้งอยู่ริมทาง ดูเหมือนกำลังมีการก่อสร้างอยู่ ไม่แน่ใจว่าเป็นการบูรณะ หรือสร้างขึ้นใหม่ แต่กลับมาดูข้อมูลในคู่มือกลับไม่พบรายชื่อ เลยขอฝากเป็นการบ้านให้คนที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวเมืองโบราณ ว่าเจดีย์องค์นี้คือที่ไหนนะคร้าบ... จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:48:12

ความคิดเห็นที่ 43 พระธาตุนารายณ์เจงเวง จ.สกลนคร หมายเลขตามแผนที่  :  69 ประเภทสิ่งก่อสร้าง : สร้างขึ้นใหม่จากสถานที่จริง พระธาตุนารายณ์เจงเงว องค์จริงตั้งอยู่ที่ อ.เมือง จ.สกลนคร เป็นปราสาทหินทราย ฐานก่อขึ้นด้วยศิลาแลง สร้างขึ้นตามศิลปะขอมสมัยปาปวน แบบเดียวกันกับปราสาทอีกหลายหลังในบริเวณภาคอิสาน ตามตำนานเล่าว่า เมื่อพระมหากัสสะปะเถระเจ้านำพระอุรังคธาตุจากประเทศอินเดีย เพื่อนำไปประดิษฐานยังพระธาตุพนม ได้เดินทางผ่านยังเมืองหนองหานหลวงสกลนคร พระนางนารายณ์เจงเวง อัครมเหสีของเจ้าผู้ครองนครตอนนั้นทราบข่าวจึงขอแบ่งพระธาตุส่วนหนึ่งเพื่อบรรจุไว้ที่นี่ แต่พระมหากัสสปะเถระตั้งใจอยากประดิษฐานพระอุรังคธาติไว้ที่เดียวกัน จึงแบ่งส่วนที่เป็นพระอังคาร (ขี้เถ้า) ให้แทน แต่เมื่อเทียบเคียงเวลาแล้ว ช่วงเวลาดังกล่าวยังไม่มีการสร้างปราสาทขอมขึ้นในแถบนี้ จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นการสร้างขึ้นภายหลัง ครอบทับองค์เดิมมากกว่า ปัจจุบันพระธาตุองค์จริงบริเวณยอดได้พังลงมา ทางเมืองโบราณจึงได้สร้างขนาดองค์จริง และมีสภาพสมบูรณ์ขึ้นมาไว้ที่นี่ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:48:47

ความคิดเห็นที่ 44 มาเที่ยวด้วยครับ คุณเดี่ยว จากคุณ : One Light One Shadow เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:49:07

ความคิดเห็นที่ 45 One Light One Shadow ...ได้เลยครับ รอบที่แล้วเที่ยวค้างอยู่ ไปต่อให้หมดทริปกันนะครับ วิหารล้านช้างและหอไตร หมายเลขตามแผนที่  :  70 ถัดจากพระธาตุนารายณ์เจงเวงไม่ไกล จะพบกับสามสิ่งตั้งเรียงกันอยู่คือหอไตร วิหารล้านช้าง และพระธาตุพนม ซึ่งเป็นการแสดงศิลปะของช่างทางอีสานที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:50:22

ความคิดเห็นที่ 46 บริเวณโดยรอบของวิหารล้านช้างบนภาพสลักลวดลายเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ด้วยโทนสีน้ำตาลอ้มส้มดูสวยไปอีกแบบนะครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:51:00

ความคิดเห็นที่ 47 สวยมาก ๆ เลยคะ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ใหญ่มากๆ จากคุณ : ลุ๊งลิ๊ง เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:51:11

ความคิดเห็นที่ 48 มองเข้าไปด้านใน พื้นไม้เงาวับ มีพระประธานตั้งอยู่ตรงกลาง ภายในอากาศเย็นๆ อย่างน่าแปลกใจจริงๆ ครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:51:21

ความคิดเห็นที่ 49 ลุ๊งลิ๊ง ...จริงครับ ผมไปหลายรอบ ก็ยังเที่ยวไม่ครบอยู่ดี 555 รอบผนังถูกบรรจงไว้ด้วยภาพเขียนสีเรื่องราวต่างๆ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:52:20

ความคิดเห็นที่ 50 มีให้ชมมากมายหลายรูป ถ้าไม่รีบร้อนวิหารแห่งนี้มีสิ่งดีๆ ซ่อนอยู่มากมายครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:52:45

ความคิดเห็นที่ 51 พระประธานตั้งอยู่ท่ามกลางความเงียบสงบ บรรยากาศภายในโบสถ์ที่เย็นกว่าภายนอกมากอยู่แล้ว อารมณ์นี้ยิ่งเย็นชื่นใจขึ้นไปอีกนะครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:53:10

ความคิดเห็นที่ 52 ลูกยางแห้งที่คุ้นเคยสมัยเด็กๆ แต่ไม่มีโอกาสได้เห็นนานแล้ว มาเจอเป็นสิ่งตกแต่งภายในที่สวย และแสดงถึงความเป็นท้องถิ่นจริงๆ ครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:53:28

ความคิดเห็นที่ 53 อีกมุมหนึ่งเป็นโมบายสีสันสดใส สวย และเพิ่มบรรยากาศให้กับที่แห่งนี้มากขึ้น จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:53:55

ความคิดเห็นที่ 54 ภาพสลักลงบนประตูของวิหารสีทองสลับแดงหม่น รู้สึกได้ถึงความเก่า ความเป็นมา และความขลัง จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:54:16

ความคิดเห็นที่ 55 พระธาตุพนม จ.นครพนม หมายเลขตามแผนที่  :  71 ประเภทสิ่งก่อสร้าง : สร้างขึ้นใหม่จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของนครพนม ภาคอิสาน รวมทั้งพี่น้องฝั่งลาวอีกด้วย เชื่อว่าเป็นที่ประดิษฐานพระอุรังคธาตุ สร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยพระยาสุมิตรธรรม และมีการบูรณะมากมายหลายครั้ง แต่ยังคงรูปลักษณะเดิมมาตลอด มีลวดลายจำหลักบนแผ่นอิฐ ตามศิลปะทวารวดี ป็นภาพคนขี่ม้า ขี่ช้าง และอื่นๆ มากมาย จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:54:40

ความคิดเห็นที่ 56 แต่หลังจากพระธาตุพังทลายลงมาในครั้งสุด จึงมีการปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ และมีรูปแบบที่ต่างจากเดิมออกไป ในสมัยรัตโกสินทร์นี่เอง องค์พระธาตุพนมที่เมืองโบราณเป็นการจำลองรูปแบบของพระธาตุองค์เดิมให้เราได้ชมกันครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:55:08

ความคิดเห็นที่ 57 ปราสาทพระวิหาร หมายเลขตามแผนที่  :  71 ประเภทสิ่งก่อสร้าง : สร้างขึ้นใหม่จากสถานที่จริง เป็นอีกที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาดนะครับ เพราะความหวังที่เราได้ชมองค์จริงดูท่าจะหริบหรี่ลงทุกที ยิ่งฟังจากวิธีการเนรมิตเขาพระวิหารในเมืองโบราณด้วยแล้ว ทำให้รู้สึกว่าแม้ตัวปราสาทจะไม่ได้น่าอัศจรรย์ใจเท่าองค์จริง แต่ความตั้งใจในการสร้างน่าอัศจรรย์ใจ และน่าชื่นชมไม่น้อยเลยครับ เพราะเริ่มแรกที่นี่เป็นเพียงพื้นราบธรรมดา แต่เขาที่เราเห็นเกิดจากการใช้เสารับ 684 ต้น ใช้หินธรรมชาติขนโดยรถสิบล้อ 2400 เที่ยว ทั้งดิน ทั้งต้นไม้คลุมดินอีกมายมาย จนกลายเป็นเขาสูง 45 เมตร ยาว 250 เมตร กว้าง 66 เมตร เพื่อเป็นที่ตั้งของปราสามพระวิหาร จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:55:33

ความคิดเห็นที่ 58 ปราสาทพระวิหาร เป็นศาสนสถานในคติฮินดู ไศวนิกาย สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ประมารปลายพุทธสตวรรษที่ 16 เมืองโบราณสร้างมาโดยย่อภูเขาในสัดส่วน 1 ต่อ 10 ส่วนตัวปราสาทย่อในส่วน 1 ต่อ 3 ครับ แต่ถ้าจะขึ้นไปชมต้องออกแรงกันนิดหน่อย ข้างบนนอกจากชมปราสาทจำลองแล้ว สามารถเห็นทัศนียภาพกว้างๆ ของทั่วทั้งเมืองดบรารได้อีกด้วยนะครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:56:00

ความคิดเห็นที่ 59 พิพิธภัณฑ์ชาวนา หมายเลขตามแผนที่  :  75 ประเภทสิ่งก่อสร้าง : รื้อถอนมาปลูกสร้างใหม่ พิพิธภัณฑ์ชาวนา ในเมืองโบราณแห่งนี้ เป้นการรวบรวมเครื่องมือเครื่องใช้ การดำรงชีวิต และวิถีชาวนา อันเป็นเหมือนกระดูกสันหลังของเมืองเกษตรบ้านเรา จะสามารถชมได้ทั้งเครื่องมือทำนา เครื่องมือทำน้ำตาล เตาเผาเครื่องเคลือบ เครื่องมือดักสัตว์บก เครื่องมือจับปลา เครื่องทอผ้า เครื่องดนตรี ยานพาหนะต่างๆ และอีกมากมายจริงๆ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:56:25

ความคิดเห็นที่ 60 ตอนที่อ่านจากแผนที่เห็นชื่อพิพิธภัณฑ์ชาวนาอาจจะเฉยนะครับ แต่เมื่อได้มาชมจริงตื่นตาตื่นใจมาก เพราะเป็นการรวบรวมสิ่งของ ความเป็นอยู่ไว้มากมายเหนือความคาดหมายมากๆ จนเรียกว่าสามารถทำเป็นพิพิธภัณฑ์เฉพาะได้อีก 1 แห่งเลยทีเดียว ถ้าใครสนใจเรื่องวิถีชีวิตของชาวนาที่นี่มีให้ชมจุใจ และไม่ผิดหวังแน่ๆ นะครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:57:01

ความคิดเห็นที่ 61 ปราสาทหินพิมาย หมายเลขตามแผนที่  :  86 ประเภทสิ่งก่อสร้าง : สร้างขึ้นใหม่จากสถานที่จริง ปราสาทหินพิมายถือเป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเมืองไทย ตั้งอยู่ที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา สร้างด้วยหินปูนและหินทราย เชื่อว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:57:30

ความคิดเห็นที่ 62 ปราสาทศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์ หมายเลขตามแผนที่  :  90 ประเภทสิ่งก่อสร้าง : สร้างขึ้นใหม่จากสถานที่จริง กลุ่มปราสาทห้าหลังที่ตั้งอยู่บนฐานเดียวกันอย่างได้สัดสัดคือจุดเด่นที่สุดของปราสาทแห่งนี้ ซึ่งเดิมชื่อ ปราสาทหินบ้านระแงง เพราะตั้งอยู่บริเวณบ้านระแงง อ.ศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์ และเป็นปราสาทสำคัญ ถือเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดสุรินทร์เลยทีเดียวนะครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:57:54

ความคิดเห็นที่ 63 ป่าเจดีย์ หมายเลขตามแผนที่  :  92 ประเภทสิ่งก่อสร้าง : สร้างขึ้นใหม่จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ บริเวณเดียวกันกับปราสาทหินศีขรภูมินั้นเป็นที่ตั้งของบริเวณที่เรียกว่าป่าเจดีย์ด้วย และเป็นการออกจากโซนภาคอีสาน และเข้าสู่โซนภาตตะวันออกของเมืองโบราณกันแล้ว โดยป่าเจดีย์เป็นการรวบรวมเจดีย์จากยุคสมัยต่งๆ ศิลปะแบบต่างๆ ให้กับผู้ที่สนใจได้ศึกษากัน จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:58:26

ความคิดเห็นที่ 64 แต่โดยส่วนตัวแล้วผมชอบบรรยากาศรอบๆ นั้นมากกว่า ที่มีเจดีย์จำนวนมากมาย เรียงกัน สุดลูกตา แถมมีแหล่งน้ำกว้างๆ เป็นฉากหน้า ทำให้ดูสวยไม่เหมือนที่ไหนเลย จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 16:58:55

ความคิดเห็นที่ 65 พระพุทธรูปยืนองค์นี้ยืนโดดเด่นอยู่ริมน้ำ นั่งมองไกลๆ ได้บรรยากาศของความเป็นเมืองโบราณจริงๆ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 17:05:48

ความคิดเห็นที่ 66 มีการปล่อยควายเดินไปมา ผมว่ามันยิ่งทำให้ภาพที่เห็นมันดูเหมือนจริงมากขึ้น หาศาลแถวนั้นนั่งมองไปเพลินดีนะครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 17:06:10

ความคิดเห็นที่ 67 และศาลาที่ว่าที่ผมอยากแนะนำคือศาลานี้ละครับ ตั้งอยู่ใกล้ๆ ปราสาทสด๊อกก๊อกธม อีกด้านหนึ่งเป็นต้นไม้หนาๆ แต่ร่มรื่น อีกด้านหนึ่งเป็นหนองน้ำกว้าง ได้บรรยากาศเย็นๆ เห็นทุ่งเจดีย์แบบพาโนรามา สวยจับใจจริงๆ นะครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 17:06:37

ความคิดเห็นที่ 68 เจดีย์แต่ละองค์ก็ล้วนมีความงามที่แตกต่างกัน อย่างฐานเจดีย์องค์นี้เป็นช้างเรียงรายอยู่หลายตัวเลย จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 17:07:11

ความคิดเห็นที่ 69 มุมนี้เมื่อมองภาพ รวมทั้งวัชพืชต่างๆ ประกอบกันแล้ว สวยดีครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 17:07:38

ความคิดเห็นที่ 70 แมวโบราณป่ะเนี่ย 555 สองตัวนี้ไม่เกี่ยว แต่เห็นนั่งนอนๆ แบบสบายใจไม่สนใจใคร ในบรรยากาศเย็นร่มรื่นแบบนี้ น่ารักดีเลยขอเก็บภาพมาซะหน่อย จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 17:08:01

ความคิดเห็นที่ 71 ถ้ามีเวลาก็เดินชมนกชมไม้กันได้เรื่อยๆ นะครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 17:08:28

ความคิดเห็นที่ 72 ดอกไม้มีหลากหลายสีสันให้ได้ชมด้วยนะครับ อย่างทุ่งดาวกระจายนี้สีสวยถูกใจครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 17:08:51

ความคิดเห็นที่ 73 ปราสาทสด๊อกก๊อกธม หมายเลขตามแผนที่  :  93 ประเภทสิ่งก่อสร้าง : สร้างขึ้นใหม่จากสถานที่จริง ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ที่บ้านหนองเสม็ด อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เป็นศิลปะขอมประมาณพุทธศตวรรษที่ 15 เป็นปราสาท 3 หลังที่สร้างขึ้นจากหินทรายครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 17:09:13

ความคิดเห็นที่ 74 โรงละคร หมายเลขตามแผนที่  :  93 ประเภทสิ่งก่อสร้าง : สร้างขึ้นจากองค์ความรู้ใหม่ เนื่องจากในสมัยกรุงศรีอยุธยาเมื่อบ้านเมืองสงบ ความเจริญทางศิลปวัฒนธรรมที่เฟื่องฟู โดยเฉพาะทางด้านการดนตรีและการละคร ในเขตพระราชฐานจึงมักมีศาลาละครไว้กลางอุทยานอันสวยงาม เพื่อใช้เล่นละคร หรืองานมงคลต่างๆ จนเกิดเป็นละครในขึ้น มีการนำทั้งชาดก นิทานท้องถิ่น วรรณกรรมต่างชาติมาเป็นบทละคร เช่นรามเกียรติ์ สังข์ศิลปะชัย อิเหนา มโนราห์ เป็นต้น เมืองโบราณได้จำลองศาลาละครนี้ขึ้นจากภาพจิตกรรมโบราณให้เราได้ชมกัน จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 17:09:34

ความคิดเห็นที่ 75 ถ้าผ่านมาแถวศาลาละครอย่าชมแต่ภายนอกนะครับ เพราะที่สวยงามอยู่บริเวณเพดานที่ลวดลายสวยงามมากเลยครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 17:10:01

ความคิดเห็นที่ 76 ใกล้ๆ ศาลาละครมีน้ำพุพร้อมศาลาให้นั่งเล่นได้อีกด้วย จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 17:10:28

ความคิดเห็นที่ 77 ช่วงที่ผมไป บริเวณพื้นแถวนั้นกลายเป็นสีม่วงไปทั้งบริเวณ เพราะเป็นทุ่งดอกต้อยติ่งขนาดย่อมๆ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 17:10:51

ความคิดเห็นที่ 78 ศาลาโถงนิมิต จ.ตราด หมายเลขตามแผนที่  :  95 ประเภทสิ่งก่อสร้าง : ผาติกรรม ศาลาแห่งนี้มีความเป็นมาที่สำคัญคือเมื่อครั้งหลังเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 พระเจ้าตากสินซึ่งรวบรวมกำลังพล และใช้เมืองจันทบุรีเป็นศูนย์บัญชาการทัพ ได้ยกทัพมาที่เมืองตราดเพื่อเกลี้ยกล่อมชาวเมืองให้ร่วมรบด้วย พระองค์ได้ใช้ศาลาแห่งนี้เป็นที่ประทับแรม ซึ่งศาลาโถงที่ตั้งอยู่ในเมืองโบราณแห่งนี้ ก็เป็นองค์จริงเลย เพราะทางเมืองโบราณได้ขอผาติกรรมมาจากวัดโถงนิมิต จ. ตราดนั่นเอง จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 17:11:23

ความคิดเห็นที่ 79 สวนพระอภัยมณี หมายเลขตามแผนที่  :  96 ประเภทสิ่งก่อสร้าง : สร้างขึ้นจากองค์ความรู้ใหม่ วรรณกรรมพระอภัยมณี สมบัติชิ้นเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยกวีสุนทรภู่ที่เรารู้จักกันดี เป็นบทประพันธ์แบบกลอนแปดที่ไพเราะ และเนื้อหาที่สนุกสนาน สวนแห่งนี้จึงมีรูปตัวละครหลักๆ ของเรื่องไว้อย่างครบถ้วน ทั้งพระอภัยมณี ผีเสื้อสมุทร นางเงือก ให้เราได้นึกถึงบทประพันธ์เมื่อครั้งเราเรียนอยู่ได้เป็นอย่างงดี จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 17:11:49

ความคิดเห็นที่ 80 พระอภัยมณีนั่งเป่าปี่ผ่านกาลเวลา และสภาพอากาศต่างๆ มานาน แม้จะดูทรุดโทรมไปบ้าง แต่ทำให้ได้สัมผัสความเก่าได้ดี จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 17:12:12

ความคิดเห็นที่ 81 ป้อมและกำแพงเมืองฉะเชิงเทรา หมายเลขตามแผนที่  :  97 ประเภทสิ่งก่อสร้าง : สร้างขึ้นจากสถานที่จริง เป็นป้อมที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเจ้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2377 เพื่อป้องกันข้าศึกจากทางตะวันออก อยู่ที่อ.เมือง จ. ฉะเชิงเทรา จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 17:12:41

ความคิดเห็นที่ 82 ตึกแดง จ.จันทบุรี หมายเลขตามแผนที่  :  98 ประเภทสิ่งก่อสร้าง : สร้างขึ้นจากสถานที่จริง บริเวณตรงข้ามกับสวนพระอภัยมณี เป็นที่ตั้งอาคารชั้นเดียวสีสวยในหมู่ไม้ คือตึกแดงนี่เอง ซึ่งสร้างขึ้นในช่วงเหตุการณ์ รศ 112 เมื่อฝรั่งเศสยึดเมืองจันทบุรี ได้ใช้เป็นที่พักทหาร และเป็นกองอำนวยการในขณะนั้น ตั้งอยู่บริเวณหาดปากน้ำแหลมสิงห์ และที่นี่เป็นแห่งสุดท้ายของโซนภาคตะวันออกแล้วละครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 17:13:07

ความคิดเห็นที่ 83 และอีกโซนหนึ่งที่ถ้าไปเมืองโบราณแล้วพลาดไม่ได้ คือ “ส่วนที่รังสรรค์ขึ้นใหม่” เพราะเป็นจินตการในสิ่งนามธรรมของคนเล็กผู้สร้างเมืองโบราณ ได้ฝากให้เราได้ชม เป็นการสร้างขึ้นในช่วงบั้นปลายชีวิตของท่าน บนพื้นที่ประมาณ 200 ไร่ที่เคยเรียกว่า “ปลายนา” เพราะเป็นทุ่งนาโล่งๆ ที่ถูกขุดคลองหนองน้ำขึ้น เพื่อสร้างสรรค์สิ่งก่อสร้างสวยงามตามจินตการของคุณเล็กนั่นเอง ศาลาทศชาติ หมายเลขตามแผนที่  :  100 ประเภทสิ่งก่อสร้าง : สร้างขึ้นจากองค์ความรู้ใหม่ นับตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นต้นมา นิยมเล่าเรื่องราวทศชาติชาดกกันมาก เพราะแต่ละชาติล้วนแต่แสดงคุณธรรมของมนุษย์ในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ในศาลาสีทองกลางน้ำแห่งนี้จึงมีภาพเขียนทศชาติเพื่อเราได้ชมได้ศึกษากันด้วย จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 17:13:33