แล้วท่านก็หันหน้ามาเราพร้อมพูดด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม ศาลพอเห็นภาพแล้วว่าคุณเจออะไรมาบ้าง เวลาคุณขึ้นให้การก็ต้องอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ละเอียดมากๆเลยนะ จำไว้ว่าการสู้คดีในศาลชั้นต้น ข้อเท็จจริงและหลักฐานสำคัญที่สุด มีอะไรอยู่ในมือเอาใช้ให้หมดและต้องใช้อย่างฉลาดด้วย เพราะถ้ามีการฎีกา คำเบิกความทั้งหมดที่ศาลชั้นต้นบันทึกไว้จะไม่มีการแก้ไขอีกแล้ว ศาลฎีกาจะพิจารณาแต่ข้อกฎหมายเท่านั้นนะ
... ทราบแล้วค่ะ ขอบคุณท่านมากนะคะที่กรุณาให้คำแนะนำ
ยังติดต่อกับเพื่อนที่ทำงานรึเปล่า
... (เรางงๆว่าท่านถามเรื่องนี้ทำไม) ติดต่ออยู่บางคนค่ะ
จะให้ศาลออกหมายเรียกใครมาเป็นพยานให้คุณมั้ย ศาลออกให้ได้นะ ได้หมายเรียกแล้วต้องมา ไม่มาก็โดนจับ
... ไม่ดีกว่าค่ะ ดิฉันไม่อยากให้เพื่อนเดือดร้อนเพราะดิฉัน
ไม่ต้องเกรงใจนะ ถ้าคุณคิดว่าเพื่อนคุณสามารถให้การที่เป็นประโยชน์กับคุณได้ก็บอกศาลมา ศาลจะออกหมายให้
... ขอบคุณค่ะท่าน แต่ไม่เอาดีกว่า พวกเค้ายังต้องทำงานที่นั่นอยู่ เรียกพวกเค้ามาคงจะกระอักกระอ่วนใจน่าดู นี่ก็เพื่อน โน่นก็นายจ้าง
ตามใจ ศาลบอกไว้เผื่อเปลี่ยนใจนะ อยากให้เรียกใครก็บอกได้ ไม่ต้องเกรงใจ นี่ศาลเล่าให้ฟังเฉยๆนะไม่ต้องซีเรียส เคยมีแล้วที่พยานให้การเป็นประโยชน์กับโจทก์ กลับไปถูกบริษัทไล่ออกเลย กลายเป็นเรื่องฟ้องร้องกันอีกคดีนึง (ท่านหัวเราะหึๆ)
... ก็เพราะแบบนี้ล่ะค่ะดิฉันถึงไม่อยากให้เพื่อนลำบากใจ
สรุปง่ายๆก็คือไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ ซึ่งเป็นความตั้งใจของเราอยู่แล้วที่ไม่เคยต้องการให้มีการยอมความ เรามั่นใจในความจริงที่ถูกกระทำและหลักฐานทั้งหมดที่เรามี ในเมื่อพวกเค้ามั่นใจว่าสิ่งที่ทำกับเราไว้นั้นถูกต้อง ก็ไม่ต้องยอมความกันให้เสียเวลา งัดหมัดเด็ดมาสู้กันให้รู้แพ้รู้ชนะไปเลย
แก้ไขเมื่อ 02 ก.ย. 55 16:03:34